
ญี่ปุ่นถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตและสามารถไปซ้ำของใครหลายคน โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่หิมะโปรยปรายทั่วภูเขาและหมู่บ้านจนกลายเป็นภาพสุดโรแมนติก สำหรับคนไทยนั้น สกีในญี่ปุ่นคือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้สัมผัสหิมะจริงๆ แล้ว ยังมีรีสอร์ทสกีระดับโลกที่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งลิฟต์สกีทันสมัย โรงเรียนสอนสกีสำหรับมือใหม่ รวมถึงบ่อออนเซ็นอุ่นๆ ให้แช่หลังเล่นเสร็จ เป็นการพักผ่อนที่ครบทั้งความสนุกและการผ่อนคลายในทริปเดียว บวกกับอาหารญี่ปุ่นอร่อยระดับตำนานที่รอให้ชิม Trip.com รับรองว่าการไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นสักครั้งในชีวิต จะกลายเป็นทริปฤดูหนาวที่ทุกคนอยากไปซ้ำอีกหลายๆ รอบแน่นอน!
เหตุผลที่ทำไมคนไทยต้องไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นคือหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่สามารถเล่นสกีได้และได้รับการยอมรับจากนักสกีทั่วโลกว่าดีที่สุดในภูมิภาค ซึ่งหลายคนที่เคยลองเล่นสกีที่ยุโรป พอได้มาลองเล่นสกีที่ญี่ปุ่นแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหิมะที่นี่นุ่ม ลื่น และสวยกว่าที่คิดไว้เยอะ ซึ่งไม่ใช่คำพูดเกินจริงเลย เพราะญี่ปุ่นมีภูมิอากาศที่พิเศษและภูเขาที่เหมาะกับการเล่นสกีแบบสุดๆ
หิมะแบบพาวเดอร์สโนว์ (Powder Snow) ที่ดีที่สุดในโลก
สิ่งที่ทำให้สกีในญี่ปุ่นโดดเด่นกว่าประเทศอื่น คือหิมะชนิดพาวเดอร์สโนว์หรือที่นักเล่นสกีเรียกกันว่า Japow (Japan Powder) ซึ่งเป็นหิมะที่ละเอียด เบา และแห้งมาก ต่างจากหิมะในยุโรปที่มักจะหนักหรือเปียกเล็กน้อย หิมะลักษณะนี้เกิดจากอุณหภูมิต่ำและลมที่พัดมาจากไซบีเรีย ทำให้หิมะตกลงมาในสภาพที่ยังคงความฟูและนุ่มเหมือนสำลี พอเล่นสกีลงจากเขา จะรู้สึกเหมือนกำลังลอยตัวอยู่บนปุยนุ่น เป็นความรู้สึกที่ยากจะหาได้จากที่อื่นในโลก โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างฮอกไกโด (Hokkaido) หรือฮาคุบะ (Hakuba) ที่ขึ้นชื่อเรื่องพาวเดอร์สโนว์ที่สุดของญี่ปุ่น
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและปลอดภัย
อีกเหตุผลที่ทำให้คนไทยหลงรักการเล่นสกีในญี่ปุ่น คือความสะดวกสบายในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งที่เข้าถึงง่าย ลิฟต์สกีที่ได้มาตรฐาน หรือการแบ่งโซนลานสกีตามระดับความยากตั้งแต่มือใหม่จนถึงระดับโปร รีสอร์ทส่วนใหญ่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย และมีบริการให้เช่าอุปกรณ์คุณภาพดี ไม่จำเป็นต้องหอบของจากเมืองไทยไปเอง ที่สำคัญคือความเป็นระเบียบและความใส่ใจในรายละเอียดแบบญี่ปุ่น เช่น การจัดระเบียบคิวลิฟต์ การตรวจสอบสภาพอากาศทุกวัน หรือแม้แต่บริการรถรับส่งจากสถานีรถไฟถึงหน้ารีสอร์ท ช่วยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะมือใหม่ที่อาจไม่เคยสัมผัสหิมะมาก่อน
อาหารและวัฒนธรรมออนเซ็นหลังเล่นสกี
หลังจากเล่นสกีมาตลอดทั้งวัน ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่าการได้แช่ออนเซ็นน้ำแร่ร้อนท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายอยู่รอบตัว กลิ่นไม้หอมอ่อนๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์จากบ่อออนเซ็นบวกกับความอุ่นจากน้ำธรรมชาติช่วยคลายความเมื่อยล้าจากกล้ามเนื้อได้ดีมาก วัฒนธรรมนี้เป็นเสน่ห์เฉพาะของญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด หลายรีสอร์ตอย่าง Zao Onsen หรือ Nozawa Onsen มีบ่อออนเซ็นธรรมชาติที่เปิดให้บริการหลังเล่นสกี ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ อาหารญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ลานสกีก็อร่อยไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นราเมนร้อนๆ, ซุปมิโสะ, หรือซูชิสดใหม่ เรียกได้ว่าเติมพลังให้ร่างกายได้สมบูรณ์แบบ
- เที่ยวเดียว
- ไป-กลับ
- direct cheapest
BKK20:009 ชม. 30 น.บินตรงCTS07:30กรุงเทพ - ซัปโปโร|จ. 8 ธ.ค.|ไทยเวียตเจ็ทPHP 11,180PHP 12,767ลด 12%ลด 12%PHP 12,767PHP 11,180
BKK20:009 ชม. 30 น.บินตรงCTS07:30กรุงเทพ - ซัปโปโร|พฤ. 11 ธ.ค.|ไทยเวียตเจ็ทPHP 11,363PHP 12,767ลด 11%ลด 11%PHP 12,767PHP 11,363
BKK20:0521 ชม. 5 น.2 stopsCTS19:10กรุงเทพ - ซัปโปโร|จ. 26 ม.ค.|เวียตเจ็ทแอร์PHP 10,471PHP 12,767ลด 18%ลด 18%PHP 12,767PHP 10,471
BKK1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงSPK2:00 PMกรุงเทพ - ซัปโปโร|Sat, Dec 13|ไทยเวียตเจ็ทค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติมค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติม
ราคาที่แสดงคำนวณจากราคาตั๋วในเส้นทางเดียวกันโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์บน Trip.com
ไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นช่วงไหนดีที่สุด?

ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์สกีในญี่ปุ่นให้เต็มอิ่ม ควรวางแผนเลือกช่วงเวลาให้เหมาะ เพราะแต่ละเดือนของฤดูหนาวจะให้บรรยากาศและความสนุกที่ต่างกันออกไป โดยทั่วไปฤดูกาลเล่นสกีของญี่ปุ่นจะเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนธันวาคมยาวไปจนถึงต้นเดือนเมษายน แต่ช่วงพีคของหิมะขาวฟูจะอยู่ระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงทองของการเล่นสกี
ช่วงต้นฤดู (ธันวาคม)
เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หิมะเริ่มตกใหม่ๆ อาจยังไม่หนามาก แต่ราคาที่พักและตั๋วเครื่องบินจะถูกกว่าช่วงอื่น เหมาะกับมือใหม่ที่อยากลองเล่นแบบไม่เร่งรีบ
ช่วงพีค (มกราคม - กุมภาพันธ์)
หิมะตกหนาและฟูที่สุดในรอบปี โดยเฉพาะในฮอกไกโด (Hokkaido) และนากาโนะ (Nagano) อุณหภูมิค่อนข้างต่ำ เหมาะกับนักสกีที่ต้องการสัมผัสพาวเดอร์สโนว์ (Powder Snow) คุณภาพระดับโลก
ช่วงท้ายฤดู (มีนาคม - เมษายน)
อากาศเริ่มอุ่นขึ้น เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหนาวจัด รีสอร์ตบางแห่งจะมีโปรโมชั่นลดราคา และยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระบานในบางพื้นที่ได้พร้อมกัน
ตารางช่วงเวลาเล่นสกีในญี่ปุ่น
ช่วงเวลา | ลักษณะหิมะ | อุณหภูมิโดยเฉลี่ย | เหมาะกับใคร |
ธันวาคม | หิมะเริ่มตก ฟูปานกลาง | -2°C ถึง -8°C | มือใหม่/คนงบน้อย |
มกราคม - กุมภาพันธ์ | พาวเดอร์สโนว์หนานุ่ม | -5°C ถึง -12°C | นักสกีมืออาชีพ/คนอยากเห็นหิมะหนา |
มีนาคม - เมษายน | หิมะเริ่มละลายบางส่วน | 0°C ถึง -5°C | คนที่อยากเล่นชิลล์ ๆ/ครอบครัว |
5 อันดับสกีรีสอร์ทยอดฮิตที่ตอบโจทย์ เลือกให้ใช่กับสไตล์ของคุณ
ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักสกีเพราะมีรีสอร์ตกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกัน ทั้งหิมะฟูนุ่ม วิวเทือกเขาสุดอลังการ ไปจนถึงรีสอร์ทที่เดินทางสะดวกจากโตเกียว สำหรับใครที่อยากวางแผนทริปสกีในปีนี้ มาดู 5 สกีรีสอร์ทยอดฮิตในญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยกัน
1. Niseko (Hokkaido)

ถ้าพูดถึงการเล่นสกีในญี่ปุ่น ชื่อแรกที่คนทั่วโลกนึกถึงต้องเป็น Niseko เมืองสกีในฮอกไกโดที่ขึ้นชื่อเรื่องหิมะขาวละเอียดราวกับปุยนุ่น หรือที่เรียกว่าพาวเดอร์สโนว์ (Powder Snow) หิมะชนิดนี้มีเนื้อฟูนุ่มและแห้ง ทำให้เล่นสกีได้ลื่นไหลและปลอดภัย เหมาะกับทั้งมือใหม่และนักสกีระดับโปร รีสอร์ตในนิเซโกะยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งลานสกีหลายระดับ โรงเรียนสอนสกี ร้านอาหาร คาเฟ่ และออนเซ็นธรรมชาติที่สามารถแช่น้ำร้อนชมวิวภูเขาโยเทอิ (Mt. Yotei) ได้แบบเต็มตา กลางคืนยังมีลานสกีแบบ Night Ski ให้สนุกต่อได้ไม่ต้องรอพระอาทิตย์ขึ้น ที่นี่จึงเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะมาคู่ มาเป็นกลุ่ม หรือมากับครอบครัว
2. Hakuba (Nagano)

ฮาคุบะตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโนะ เป็นหนึ่งในเมืองสกีชื่อดังของญี่ปุ่นที่เคยใช้จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 จุดเด่นของที่นี่คือวิวเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น (Japanese Alps) ที่ขาวโพลนและสวยงามจนได้รับฉายาว่าสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย ลานสกีฮาคุบะมีให้เลือกกว่า 10 แห่ง เช่น Happo-One และ Iwatake Resort ซึ่งมีเส้นทางสกีหลายระดับตั้งแต่มือใหม่จนถึงมือโปร เหมาะกับครอบครัวที่อยากใช้เวลาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านฮาคุบะที่เต็มไปด้วยรีสอร์ตสวย คาเฟ่ และร้านอาหารท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีญี่ปุ่นแท้ๆ พร้อมออนเซ็นแช่สบายหลังเล่นสกี ถือเป็นอีกจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักหิมะ
3. Gala Yuzawa (Niigata)

ใครมีเวลาน้อยแต่ก็อยากเล่นสกี Gala Yuzawa คือคำตอบที่ดีที่สุด เพราะสามารถเดินทางจากโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) ได้ในเวลาเพียง 75 นาที และสถานีปลายทางของรถไฟก็คือทางเข้าสกีรีสอร์ตเลย เรียกว่าลงรถปุ๊บ เล่นปั๊บเลย จุดเด่นของที่นี่คือความสะดวกครบวงจร มีทั้งบริการเช่าอุปกรณ์ ร้านอาหาร ล็อกเกอร์ และลานสกีหลายระดับให้เลือก รวมถึงมีโซนสำหรับเด็กและผู้เริ่มต้นโดยเฉพาะ จึงเหมาะสำหรับครอบครัวหรือคนที่อยากลองเล่นครั้งแรกโดยไม่ต้องวางแผนซับซ้อน นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งให้แช่ผ่อนคลายหลังเล่นสกีเสร็จ เรียกว่าเป็นสกีเดย์ทริปสุดคุ้มที่ใครมาโตเกียวช่วงหน้าหนาวต้องลอง
4. Zao Onsen (Yamagata)

Zao Onsen คือสกีรีสอร์ตเก่าแก่ในจังหวัดยามากาตะที่มีชื่อเสียงมากในหมู่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น จุดเด่นคือปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดมหัศจรรย์ที่เรียกว่าจูเฮียว (Juhyo) หรือที่รู้จักกันในชื่อปีศาจหิมะ (Snow Monsters) ซึ่งเกิดจากต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งจนกลายเป็นรูปร่างประหลาดราวกับสัตว์ในตำนาน นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าชมวิวเหนือหุบเขาได้อย่างใกล้ชิด ลานสกีของ Zao ยังมีเส้นทางเล่นยาวกว่า 10 กิโลเมตร เหมาะทั้งมือใหม่และสายชิลล์ ที่พิเศษคือมีหมู่บ้านออนเซ็นอายุกว่าพันปีอยู่ใกล้ๆ ให้แช่น้ำร้อนคลายหนาว ถือเป็นจุดหมายที่ผสมผสานความสนุกและความสงบไว้ได้อย่างลงตัว
5. Fujiten (Yamanashi)

สำหรับใครที่อยากได้ภาพสุดอลังการระหว่างเล่นสกี Fujiten Snow Resort ในจังหวัดยามานาชิคือที่ที่คุณต้องไป เพราะที่นี่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนสุดๆ จากทุกมุมของลานสกี บรรยากาศโรแมนติกและไม่หนาวจัดเกินไป เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและมือใหม่ จุดเด่นคืออยู่ใกล้โตเกียว เดินทางเพียงราว 2 ชั่วโมงด้วยรถบัสหรือรถไฟ และยังมี Snow Park สำหรับเด็ก รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อย่างเล่นสโนว์บอร์ดและสโนว์สไลด์ สำหรับคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศหิมะโดยไม่ต้องขึ้นเหนือไกล นี่คือจุดหมายที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความสวยงามในคราวเดียว
ตารางเปรียบเทียบ 5 สกีรีสอร์ทยอดฮิตสำหรับคนไทย
สกีรีสอร์ท | จุดเด่น | เหมาะสำหรับ | การเดินทางจากโตเกียว | งบประมาณโดยประมาณ (ต่อคน/วัน) |
Niseko (Hokkaido) | หิมะ Powder Snow คุณภาพระดับโลก | นักสกีมือโปร / สายออนเซ็น | เครื่องบินไปซัปโปโร + รถบัสต่อ 2 ชม. | 6,000 - 10,000 บาท |
Hakuba (Nagano) | วิวเทือกเขาแอลป์สุดอลังการ | ครอบครัว / มือใหม่–มือโปร | รถไฟชินคันเซ็น + รถบัสต่อ | 5,000 - 8,000 บาท |
Gala Yuzawa (Niigata) | เดินทางง่ายมากจากโตเกียว | นักท่องเที่ยวมีเวลาจำกัด / เดย์ทริป | รถไฟชินคันเซ็น 75 นาที | 4,000 - 6,000 บาท |
Zao Onsen (Yamagata) | ปีศาจหิมะ (Snow Monsters) และออนเซ็นธรรมชาติ | นักถ่ายภาพ / คู่รัก / คนชอบบรรยากาศสงบ | รถไฟ + รถบัสต่อประมาณ 3 ชม. | 5,000 - 7,000 บาท |
Fujiten (Yamanashi) | เล่นสกีพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิ | มือใหม่ / นักท่องเที่ยว 1 วัน | รถไฟหรือรถบัส 2 ชม. | 3,000 - 5,000 บาท |
มือใหม่ต้องรู้! การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปสกีที่ญี่ปุ่น

ถ้าอยากให้ทริปสกีในญี่ปุ่นทั้งสนุกและปลอดภัย การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยสัมผัสหิมะจริงๆ มาก่อน ทั้งการเตรียมร่างกาย เสื้อผ้า ไปจนถึงการจองทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง นี่คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณพร้อมลุยลานหิมะได้อย่างมั่นใจ
การเตรียมร่างกาย
การเล่นสกีใช้กล้ามเนื้อหลายส่วน โดยเฉพาะช่วงขาและแกนกลางลำตัว (Core) ควรออกกำลังกายล่วงหน้าอย่างน้อย 2 - 3 สัปดาห์ก่อนเดินทาง เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ หรือฝึกโยคะ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย นอกจากนี้ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมากๆ เพราะอากาศหนาวอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำโดยไม่รู้ตัว
การเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์
สำหรับมือใหม่แนะนำให้เช่าอุปกรณ์ที่รีสอร์ต เพราะราคาคุ้มกว่าและไม่ต้องขนของเยอะ โดยเฉพาะรองเท้าสกีและสโนว์บอร์ดที่ต้องเลือกขนาดพอดีตัว ส่วนเสื้อกันหนาวควรเป็นแบบกันน้ำและระบายอากาศได้ดี ใส่แบบ Layer เป็นชั้นๆ จะช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ง่าย เช่น
- ชั้นในสุด : เสื้อรัดรูปกันหนาว (Heattech)
- ชั้นกลาง : เสื้อฟลีซหรือสเวตเตอร์
- ชั้นนอ: เสื้อกันลมและกันน้ำ
อย่าลืมอุปกรณ์สำคัญอย่าง ถุงมือ หมวกไหมพรม แว่นกันแดดหรือแว่นสกี เพราะแสงสะท้อนจากหิมะแรงกว่าที่คิด
เช็กลิสต์สิ่งของที่ต้องเตรียมไปทริปสกี
ประเภท | รายการ | หมายเหตุ |
เสื้อผ้า | เสื้อกันหนาว, กางเกงสกี, ถุงมือ, หมวกไหมพรม | ควรนำไปเอง |
อุปกรณ์ | รองเท้า, สกี, สโนว์บอร์ด, ไม้ค้ำ | เช่าได้ที่รีสอร์ต |
เอกสาร | พาสปอร์ต, ประกันเดินทาง, ใบจองที่พัก | ต้องนำไปเอง |
อื่น ๆ | ครีมกันแดด, ลิปบาล์ม, แว่นกันแดด | ป้องกันแดดและลมหนาว |
การจองต่างๆ (ตั๋วเครื่องบิน, ที่พัก, และ Ski Pass)
จองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 - 2 เดือน โดยเฉพาะช่วงพีค (ม.ค. - ก.พ.) ที่รีสอร์ตเต็มเร็วมาก ควรเช็กว่าโรงแรมมีบริการเช่าอุปกรณ์และสอนสกีหรือไม่ เพื่อความสะดวกสุดๆ ส่วน Ski Pass (บัตรเข้าเล่นลานสกี) สามารถซื้อหน้างานหรือจองออนไลน์ผ่านเว็บอย่าง Trip.com ได้เลย
ประกันการเดินทาง
กิจกรรมสกีถือเป็นกีฬาที่มีความเสี่ยง ควรซื้อประกันการเดินทางที่ครอบคลุมกิจกรรมฤดูหนาว เผื่อเกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ เพราะค่ารักษาพยาบาลในญี่ปุ่นค่อนข้างสูง บางบริษัทมีแพ็กเกจเฉพาะสำหรับ Winter Sports ซึ่งคุ้มครองทั้งอุปกรณ์สกีที่เสียหายและค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ช่วยให้เล่นสกีได้อย่างอุ่นใจตลอดทริป
งบประมาณสำหรับทริปสกีในญี่ปุ่น

การวางแผนงบประมาณคือหัวใจสำคัญของทริปสกีในญี่ปุ่น โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางช่วงฤดูหนาวอาจสูงกว่าปกติเล็กน้อย แต่ถ้ารู้วิธีจัดการดีๆ ก็สามารถเที่ยวได้อย่างคุ้มค่าและไม่บานปลาย ด้านล่างนี้คือรายละเอียดงบประมาณโดยเฉลี่ยในปี 2025 สำหรับทริปสกีญี่ปุ่น 5 - 7 วัน ที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และคนที่อยากอัปเลเวลประสบการณ์หิมะ
ค่าตั๋วเครื่องบินและที่พัก
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับญี่ปุ่นจากกรุงเทพฯ (ฤดูหนาว) จะอยู่ที่ราว 18,000 - 28,000 บาท ต่อคน หากจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือนจะได้ราคาดีที่สุด
- ที่พักใกล้ลานสกีมีให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่เกสต์เฮาส์ราคาประหยัดคืนละ 1,500 - 2,500 บาท ไปจนถึงรีสอร์ตหรูพร้อมออนเซ็นในตัวที่อาจแตะ 5,000 - 10,000 บาทต่อคืน
- ถ้าอยากประหยัด แนะนำพักในเมืองใหญ่ใกล้รีสอร์ต เช่น ซัปโปโร (สำหรับ Niseko) หรือ นากาโนะ (สำหรับ Hakuba) แล้วนั่งรถไฟต่อไปเล่นสกี
ค่า Ski Pass และค่าเช่าอุปกรณ์
- Ski Pass คือบัตรผ่านประตูขึ้นลานสกี มีทั้งแบบรายวันและรายสัปดาห์ แบบรายวันประมาณ 1,500 - 2,500 บาท/วัน และแบบหลายวัน (3 - 5 วัน) ราคาจะเฉลี่ยถูกลง
- ค่าเช่าอุปกรณ์สกีเต็มชุด (รวมสกี, รองเท้า, ไม้ค้ำ, เสื้อกันหนาว, กางเกง, ถุงมือ และหมวกกันน็อก) อยู่ที่ราว 1,200 - 2,000 บาท/วัน
- หากนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาเองจะประหยัดได้มาก แต่ต้องเช็กน้ำหนักสัมภาระตอนขึ้นเครื่อง
ค่าเรียนสกี (แนะนำอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่)
- คลาสกลุ่ม ราคาเฉลี่ย 2,000 - 3,000 บาท/ครึ่งวัน
- คลาสส่วนตัวประมาณ 4,000 - 6,000 บาท/ครึ่งวัน
- ครูฝึกส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี และบางแห่งมีครูคนไทยหรือครูที่พูดภาษาไทยในช่วงพีคซีซั่น
ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ
- อาหารภายในรีสอร์ตมักเริ่มที่ 300 - 700 บาท/มื้อ หรืออาจสูงกว่านั้นถ้าเป็นร้านอาหารวิวดี
- หากพักในเมืองสามารถหาร้านราเมงหรืออิซากายะราคาไม่แพงได้ในช่วง 200 - 400 บาท/มื้อ
- ค่าเดินทางภายในประเทศ เช่น รถไฟหรือรถบัส ไปกลับรีสอร์ตประมาณ 1,000 - 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง
- ควรเผื่อเงินสำหรับของฝาก เสื้อผ้า หรือกิจกรรมอื่นๆ อย่างออนเซ็นและสโนว์โมบิลอีกประมาณ 3,000 - 5,000 บาท
คำแนะนำในการเล่นสกีทีละขั้นตอนสำหรับมือใหม่

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นสกี การเตรียมตัวและเข้าใจขั้นตอนพื้นฐานจะช่วยให้สนุกกับกิจกรรมนี้ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเช่าอุปกรณ์ การเรียนรู้พื้นฐาน ไปจนถึงการรู้จักกติกามารยาทบนลานสกี
การรับอุปกรณ์เช่าและ Ski Pass
เมื่อมาถึงรีสอร์ตสกี สิ่งแรกที่ควรทำคือไปยังจุดให้บริการเช่าอุปกรณ์ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีครบทุกอย่างตั้งแต่ชุดสกี เสื้อกันหนาว รองเท้า ถุงมือ หมวกกันน็อก ไปจนถึงไม้สกีและสโนว์บอร์ด สำหรับผู้เริ่มต้นควรขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเลือกขนาดที่เหมาะสม เพราะอุปกรณ์ที่พอดีกับร่างกายจะช่วยให้ทรงตัวง่ายและปลอดภัยกว่า จากนั้นไปซื้อตั๋ว Ski Pass (บัตรผ่านขึ้นลิฟต์สกี) ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งแบบรายวันหรือรายชั่วโมง
ทำความรู้จักกับลานสกี
ลานสกีในญี่ปุ่นจะมีการแบ่งระดับความยากคล้ายกันทั่วประเทศ โดยใช้สีหรือสัญลักษณ์เป็นตัวบอก เช่น
- สีเขียว (Beginner) : สำหรับมือใหม่ พื้นเรียบ ความชันน้อย
- สีน้ำเงิน (Intermediate) : สำหรับผู้ที่เริ่มเล่นคล่องขึ้นแล้ว
- สีแดงหรือดำ (Advanced) : สำหรับผู้ชำนาญและชอบความท้าทาย
การเลือกใช้ลานที่เหมาะกับระดับของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บและทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น
พื้นฐานการเล่นสกีเบื้องต้น
เริ่มต้นด้วยการฝึกทรงตัวบนพื้นราบโดยให้ขาแยกเล็กน้อย น้ำหนักตัวอยู่ตรงกลาง จากนั้นลองฝึก Pizza หรือ Snowplow ซึ่งเป็นท่าพื้นฐานสำหรับหยุดหรือลดความเร็ว โดยการหุบปลายสกีเข้าหากัน และเมื่อเริ่มคล่องสามารถฝึกการเลี้ยวโดยถ่ายน้ำหนักไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างนุ่มนวล สำหรับมือใหม่แนะนำให้เรียนกับครูสกี เพราะจะช่วยแก้ไขท่าทางให้ถูกต้องและปลอดภัยมากขึ้น
มารยาทและความปลอดภัยบนลานสกี
- อย่าหยุดกลางทางหรือตรงบริเวณลาดชัน
- สวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง
- ระวังผู้เล่นคนอื่น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ด้านล่างของทางลาด
- อย่าทิ้งขยะหรือทำลายสิ่งแวดล้อม
พาส่องกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจนอกจากเล่นสกี
การไปทริปสกีที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่การเล่นสกีเท่านั้น เพราะหลายรีสอร์ตและเมืองหิมะยังมีกิจกรรมสุดพิเศษให้เลือกทำอีกมากมาย เหมาะสำหรับทั้งคนที่อยากพักจากการเล่นสกี หรือเพื่อนร่วมทริปที่ไม่เล่นสกีก็สามารถสนุกได้ไม่แพ้กัน
การแช่ออนเซ็นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

หลังจากลุยสกีมาทั้งวัน ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้แช่ตัวในออนเซ็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่กระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเมืองหิมะชื่อดังอย่างฮาโกเน่ (Hakone), นิเซโกะ (Niseko), และโนซาวะออนเซ็น (Nozawa Onsen) การแช่ออนเซ็นไม่เพียงช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น แต่ยังช่วย คลายความเมื่อยล้าและฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่นักสกีชาวญี่ปุ่นและต่างชาติต่างหลงรัก
เที่ยวชมเมืองและหาของอร่อยในท้องถิ่น

เมืองรอบรีสอร์ตสกีในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ ร้านราเมงเก่าแก่ คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น หรือร้านขนมท้องถิ่นที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมอบอุ่นในยามหนาว นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมวิถีชีวิตผู้คน ช้อปปิ้งของฝาก หรือชิมอาหารพื้นเมือง เช่น ราเมงซัปโปโร, หม้อไฟนาเบะ (Nabe) หรือ ซุปแกงกะหรี่ฮอกไกโด (Soup Curry) ซึ่งเหมาะกับอากาศหนาวเย็นสุดๆ
กิจกรรมฤดูหนาวอื่นๆ เช่น Snowshoeing หรือ Snowmobile

สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากลานสกี ลองมาสัมผัสกิจกรรมสนุกๆ อย่าง Snowshoeing (เดินป่าบนหิมะด้วยรองเท้าแบบพิเศษ) ที่ช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างสงบ หรือจะเลือก Snowmobile (ขับรถสโนว์โมบิล) สำหรับสายผจญภัยที่อยากเร่งอะดรีนาลีนให้พุ่งขึ้นอีกระดับ กิจกรรมเหล่านี้มีให้บริการแทบทุกรีสอร์ตใหญ่ในฮอกไกโดและนากาโนะ พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างมืออาชีพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสกีในญี่ปุ่น
ไปสกีที่ญี่ปุ่นต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่?
งบประมาณไปสกีที่ญี่ปุ่นเริ่มต้นประมาณ 3,500 - 15,000 บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมและระยะเวลา โดยค่าใช้จ่ายหลักๆ ได้แก่ ค่าเช่าอุปกรณ์และชุดสกี (ประมาณ 6,500 - 16,500 เยน หรือ 1,500 - 3,700 บาท), ค่าบัตรลิฟต์/กระเช้า (ประมาณ 3,500 - 5,000 เยน หรือ 800 - 1,100 บาท), และ ค่าเดินทาง (เช่น JR TOKYO WIDE PASS ประมาณ 3,400 บาท).ควรไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นช่วงเดือนไหนดีที่สุด?
เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์นอกจากสกีแล้ว มีกิจกรรมอะไรให้ทำอีกบ้าง?
เล่นสโนว์บอร์ด, นั่งรถเลื่อนสุนัขหรือรถม้าลากเลื่อน, ตกปลาน้ำแข็ง, เล่นห่วงยางสไลด์เดอร์หิมะ, ล่องแพยางบนหิมะ, สโนว์กอล์ฟ หรือทัวร์เดินลุยหิมะ


