อัปเดต 15 จุดชมฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น 2568 พร้อมพยากรณ์

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
ใบไม้ร่วงญี่ปุ่น

อัปเดต 15 จุดชมฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น 2568 พร้อมพยากรณ์

สำหรับเพื่อน ๆ ผู้หลงใหลในความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของแดนอาทิตย์อุทัย ฤดูใบไม้ร่วงนับเป็นช่วงเวลาแห่งมนตร์เสน่ห์ที่ยากจะหาที่ไหนเปรียบเทียบได้ เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีจากสีเขียวไล่ระดับกันเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง พร้อมกับอากาศที่แสนจะเย็นสบาย เรียกได้ว่าดีต่อใจจนต้องเก็บกระเป๋าออกเดินทางทันที บทความนี้ Trip.com ขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปอัปเดต 15 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นที่สวยที่สุดในปี 2568 พร้อมทั้งข้อมูลพยากรณ์การเปลี่ยนสีของใบไม้จาก Japan Meteorological Corporation (JMC) ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ วางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำ พร้อมไขคำตอบทุกข้อสงสัยว่า ‘ควรไปเมื่อไหร่ เริ่มต้นที่ไหนดีถึงจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีสวย ๆ’ ถ้าพร้อมแล้ว ตามเรามาดูกันเลยค่ะ

ทำไมฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวญี่ปุ่น?

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวญี่ปุ่น เนื่องด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายกำลังดี ไม่ร้อนอบอ้าวหรือหนาวเกินไป เป็นช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามจากสีสันของต้นเมเปิ้ลและต้นแปะก๊วย อีกทั้งยังเป็นฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวที่จะทำให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านเทศกาลต่าง ๆ และลิ้มรสอาหารพื้นเมืองจากวัตถุดิบตามฤดูกาลอย่างแท้จริง

ตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น

กรุงเทพฯไปโตเกียว
กรุงเทพฯไปโอซาก้า
ดูเที่ยวบินทั้งหมด
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
ศ. 23 ม.ค.
ส. 24 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 23%
เริ่มต้น 1,748.53BRL 1,344.78
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
ศ. 23 ม.ค.
ส. 24 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 23%
เริ่มต้น 1,748.53BRL 1,344.78
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
ศ. 23 ม.ค.
ส. 24 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 23%
เริ่มต้น 1,748.53BRL 1,344.78
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
พฤ. 29 ม.ค.
ศ. 30 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 23%
เริ่มต้น 1,748.53BRL 1,345.58
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
พฤ. 22 ม.ค.
ศ. 23 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 23%
เริ่มต้น 1,748.53BRL 1,346.37
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
พฤ. 22 ม.ค.
ศ. 23 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 23%
เริ่มต้น 1,748.53BRL 1,346.37
กรุงเทพฯ
DMK
โตเกียว
NRT
จ. 19 ม.ค.
จ. 19 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 23%
เริ่มต้น 1,748.53BRL 1,346.37
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
อา. 25 ม.ค.
จ. 26 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 23%
เริ่มต้น 1,748.53BRL 1,346.37

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น 2568 เวอร์ชันอัปเดตล่าสุด

เกริ่นถึงเสน่ห์อันน่าหลงใหลในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นมาซะขนาดนี้แล้ว ขั้นต่อไปเรามาดูข้อมูลพยากรณ์ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีจากตารางด้านล่าง เพื่อเป็นตัวช่วยให้เพื่อน ๆ วางแผนการเดินทางกันอย่างราบรื่นดีกว่า

ตารางพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น 2568

สถานที่

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง

ซัปโปโร

9 พฤศจิกายน

7 พฤศจิกายน

อาโอโมริ

15 พฤศจิกายน

7 พฤศจิกายน

เซ็นได

27 พฤศจิกายน

30 พฤศจิกายน

โตเกียว

1 ธันวาคม

27 พฤศจิกายน

คานางาวะ

1 ธันวาคม

12 พฤศจิกายน

นากาโน่

24 พฤศจิกายน

17 พฤศจิกายน

นาโกย่า

3 ธันวาคม

19 พฤศจิกายน

เกียวโต

12 ธันวาคม

28 พฤศจิกายน

โอซากะ

5 ธันวาคม

24 พฤศจิกายน

วากายามะ

13 ธันวาคม

27 พฤศจิกายน

ฮิโรชิมะ

29 พฤศจิกายน

21 พฤศจิกายน

โคชิ

10 ธันวาคม

17 พฤศจิกายน

ฟุกุโอกะ

9 ธันวาคม

28 พฤศจิกายน

คาโงชิมะ

13 ธันวาคม

29 พฤศจิกายน

ข้อมูลจาก: Japan Meteorological Corporation (JMC) พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี 2568 ครั้งที่2 ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2568 https://n-kishou.com/corp/news-contents/autumn/?lang=en
ขอแนะนำว่าข้อมูลนี้ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจวางแผนการเดินทางเบื้องต้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน จะมีผลต่อการเปลี่ยนสีของใบไม้ แนะนำให้เพื่อน ๆ คอยอัปเดตข้อมูลเป็นระยะนะคะ

🎁 ค้นหาเที่ยวบินราคาถูกไปญี่ปุ่น | โรงแรมที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น | รับ eSim ญี่ปุ่น !

ภาคเหนือ: สัมผัสสีสันฤดูใบไม้ร่วงก่อนใครที่ฮอกไกโดและโทโฮกุ

1. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง

อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง ฮอกไกโด

อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง หรือที่รู้จักในชื่อ “หลังคาแห่งฮอกไกโด” เป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่น ทัศนียภาพโดยรอบเป็นภูเขา เทือกเขา ป่าไม้ที่สวยสดงดงาม ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง และส้ม สลับกับสีเขียว นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของภูเขาอาซาฮิดาเกะและหุบเขาโซอุนเคียว ซึ่งมีน้ำตกและเส้นทางเดินป่าที่สวยงามอีกด้วยค่ะ

ที่อยู่: Sounkyo, Kamikawa, Kamikawa District, Hokkaido 078-1701

2. อุทยานแห่งชาติโอนุมะ

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ มีความโดดเด่นด้วยวิวจากภูเขาไฟโคะมะงะทาเกะ ทะเลสาบ และเกาะเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกัน ที่แห่งนี้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปี เช่น เดินเล่น พายเรือ หรือเล่นสกีในฤดูหนาว ที่สำคัญคือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

ที่อยู่: Nanae, Kameda District, Hokkaido 041-1354

3. ทะเลสาบโทวาดะ

ทะเลสาบโทวาดะอาโอโม

ทะเลสาบโทวาดะ เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟคู่ที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอนชู มีชื่อเสียงในเรื่องความลึกและความสวยงามของน้ำสีฟ้าสดใส ซึ่งเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ และยังเป็นต้นกำเนิดของลำธารโออิราเสะซึ่งเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม กิจกรรมที่นิยมได้แก่ การล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ การเดินป่า การพายเรือแคนู เป็นต้น

ที่อยู่: 486 Yasumiya Towada-kohan Okuse, Towada-shi, Aomori Prefecture 018-5501

4. ภูเขาฮักโกดะ

ภูเขาฮักโกดะอาโอโมริ

ภูเขาฮักโกดะ เป็นเทือกเขาไฟในจังหวัดอาโอโมริ ที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่แห่งนี้เพื่อน ๆ สามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อชมวิว หรือเดินป่าสัมผัสธรรมชาติที่บ่อน้ำพุร้อนซากายุ สะพานโจกาคุระได้ค่ะ

ที่อยู่: Fukazawa Komagome,อะโอะโมะริ จังหวัดอาโอโมริ030-0955

ภาคคันโต: จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีใกล้โตเกียว เดินทางสะดวก

5. ศาลเจ้านิกโกโทโช

ศาลเจ้านิกโกโทโช โทจิงิ

สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แด่โชกุนโทกูงาวะ อิเอยาซุซึ่งเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และทอง สร้างทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีกิจกรรมเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงชูคิไทไซในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นการยกย่องโชกุนโทกูงาวะ อิเอยาซุ ผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนเอโดะ

ที่อยู่: 2301 Sannai, Nikko, Tochigi 321-1431

6. ทะเลสาบอะชิ

ทะเลสาบอะชิ

เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดคานางาวะ และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ในวันที่อากาศดี บริเวณทะเลสาบและพื้นที่รอบ ๆ มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการเดินป่าและสัมผัสธรรมชาติอย่างมากค่ะ

ที่อยู่: Motohakone, ฮะโกะเนะ Ashigarashimo District, จังหวัดคานางาวะ 250-0522

7. ทะเลสาบคะวะงุชิ

ทะเลสาบคะวะงุชิ

ทะเลสาบคะวะงุชิเป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาปีนภูเขาไฟฟูจิ ในช่วงฤดูปีนเขา และเป็น 1 ในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 แห่งที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีทัศนียภาพอันสวยงาม นักท่องเที่ยวนิมยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่อีกด้วย

ที่อยู่: ฟุจิกะวะงุชิโกะ Minamitsuru District, จังหวัดยามานาชิ

8. คุซัตสึ ออนเซ็น

คุซัตสึ ออนเซ็น

คุซัตสึ ออนเซ็น เมืองแห่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มากที่สุดในญี่ปุ่น ทุก ๆ ปีที่นี่ยังมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอย่างน้ำตกฟุคิวาเระ และวัดโฮโทคุจิ ขอบอกว่าหากเพื่อน ๆ แวะมาที่นี่ก็จะได้แช่น้ำพุร้อนท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงสดของต้นเมเปิ้ล รับรองว่าได้ภาพสวย ๆ กลับไปอย่างแน่นอน

ที่อยู่: Kusatsu, Agatsuma District, จังหวัดกุมมะ 377-1711

ภาคคันไซ: เสน่ห์เมืองเก่าท่ามกลางใบไม้แดงที่เกียวโตและนารา

9. สะพานโทเก็ตสึ

สะพานโทเก็ตสึ

สะพานเก่าแก่ในอาราชิยามะ เกียวโต มีทิวทัศน์สวยงามตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีเสน่ห์เป็นพิเศษ เมื่อภูเขาอาราชิยามะปกคลุมด้วยใบเมเปิ้ลสีแดง ส้ม เหลือง สะท้อนบนแม่น้ำคัตสึระ โดยช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สะพานแห่งนี้

ที่อยู่: 1-5 Sagatenryuji Susukinobabacho, Ukyo Ward, Kyoto, 616-8384

10. วัดคิโยะมิซุ

วัดคิโยะมิซุ

วัดเก่าแก่สร้างตั้งแต่ปี 798 เป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยว่าวัดน้ำใส ที่นี่เพื่อน ๆ สามารถเพลิดเพลินกับความงามของใบไม้สีสันสดใสตัดกับสถาปัตยกรรมไม้โบราณของวัด รวมถึงชมการประดับไฟในตอนกลางคืนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งให้บรรยากาศที่สวยงามและโรแมนติก

ที่อยู่: 1 Chome-294 Kiyomizu, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0862

11. สวนสาธารณะนารา

สวนสาธารณะนารา

สวนสาธารณะนารา จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามในจังหวัดนารา ใบเมเปิ้ลและต้นไม้ใบเขียวอื่น ๆ จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง และน้ำตาล สร้างทัศนียภาพอันงดงามตัดกับน้องกวางที่อาศัยอยู่ภายในสวน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นถ่ายรูป และยังสามารถเยี่ยมชมสถานที่สำคัญรอบ ๆ สวน เช่น วัดโทไดจิ และศาลเจ้าคาซูกะได้อีกด้วย

ที่อยู่: 469 Zoshicho, Nara, 630-8211

12. ศาลเจ้าทันซัน

ศาลเจ้าทันซัน

สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม มีต้นเมเปิลกว่า 3,000 ต้น ให้สีสันสดใส ตัดกับสีแดงของอาคารศาลเจ้า โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีจะเป็นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ต้นเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ยังมีงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมีการจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแสดงเคมะริโบราณ

ที่อยู่: 319 Tonomine, Sakurai, Nara 633-0032

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมในเมืองใหญ่

13. สวนสาธารณะอุเอโนะ

สวนสาธารณะอุเอโนะ

สวนสาธารณะอุเอโนะในโตเกียวเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมในฤดูใบไม้ร่วง ที่แห่งนี้เพื่อน ๆ จะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ใบไม้สี และนอกจากนี้ สวนสาธารณะอุเอโนะยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ และวัดวาอาราม ทำให้มีกิจกรรมหลากหลายนอกจากการชื่นชมใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ

ที่อยู่: Uenokoen, Taito City, Tokyo 110-0007

14. วัดไดโกจิ

วัดไดโกจิ

วัดไดโกจิเป็นวัดมรดกโลกที่โดดเด่นในการชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยเฉพาะที่ อาคารเบนเทนโดะ ที่อยู่ริมสระน้ำ ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม สีสันของใบไม้จะตัดกับสระน้ำสีแดงของสะพานและอาคารอย่างงดงาม. วัดมีค่าเข้า 1,500 เยน และสามารถเดินทางไปได้ง่ายโดยนั่งรถไฟสาย Tozai ลงที่สถานี Daigo Station แล้วเดินต่อประมาณ 10-15 นาที

ที่อยู่: 22 Daigohigashiojicho, Fushimi Ward, Kyoto, 601-1325

15. ปราสาทโอซากะ

ปราสาทโอซากะ

ปราสาทโอซากะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมีความมสวยสดงดงามด้วยต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองและเมเปิ้ลสีแดงสดตัดกับสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของปราสาท ถือเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ยอดนิยมในโอซากะ เพื่อน ๆ สามารถเดินชมความงามได้ฟรีในสวนสาธารณะรอบปราสาท หรือขึ้นชมวิวจากหอคอยปราสาทเพื่อชมทิวทัศน์ 360 องศาค่ะ

ที่อยู่: 1-1 Osakajo, Chuo Ward, Osaka, 540-0002

เคล็ดลับการเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่นช่วงใบไม้ร่วง

การแต่งกายและสิ่งที่ควรแพ็ค

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น อากาศจะเย็นสบายและอาจมีลมแรงในช่วงเวลากลางคืน จากประสบการณ์ของเรา แนะนำให้เพื่อน ๆ เตรียมเสื้อแขนยาว ฮีทเทค แจ็กเก็ตกันหนาว หรือเสื้อโค้ทบาง ๆ เพื่อให้ความอบอุ่น นอกจากนี้ ควรเตรียมรองเท้าที่ใส่สบายเท้า หากต้องเดินท่องเที่ยวเป็นเวลานาน และไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยคือ ครีมบำรุงผิวค่ะ เพราะที่นั่นอากาศจะค่อนข้างแห้งเลยทีเดียว

การเดินทางและการจองล่วงหน้า

ขอแอบกระซิบว่า ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวไปชื่นชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีไม่น้อย ดังนั้น เพื่อรูปสวย เป๊ะ ปัง สำหรับสายคอนเทนต์ แนะนำให้เพื่อน ๆ ไปถึงจุดท่องเที่ยวแต่เช้าเพื่อเลี่ยงคนเยอะ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือ เพื่อน ๆ ควรวางแผนการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้า หากต้องการเดินทางระหว่างเมือง ก็ควรจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าด้วยเช่นกัน และเพื่อความอุ่นใจ ป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การซื้อประกันการเดินทางก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกันค่ะ

 บทสรุปส่งท้าย วางแผนทริปชมใบไม้ร่วงในฝันของเพื่อน ๆ กับ Trip.com

การได้สัมผัสฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่นคือประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การเก็บรักษาไว้ในความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินท่ามกลางอุโมงค์ใบเมเปิลสีแดงฉานในนิกโก การชมแสงสุดท้ายของวันส่องกระทบใบไม้ทองที่อาราชิยามะ หรือการนั่งกระเช้าชมทัศนียภาพเหนือทะเลสาบในฮอกไกโด ทุกช่วงเวลาล้วนเป็นภาพที่ยากจะลืมเลือน หากเพื่อน ๆ พร้อมจะไปสัมผัสใบไม้เปลีย่นสีที่ญี่ปุ่นแล้ว เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัส Trip.com ก็พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจที่จะช่วยเพื่อน ๆ วางแผนทุกขั้นตอน ตั้งแต่จองตั๋วเครื่องบินราคาสบายกระเป๋า เลือกที่พักในทำเลที่เด็ดใกล้สถานที่ท่องเที่ยว หรือช่วยสรรหากิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อย่ารอช้า กดเลย

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

  • ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นเดือนไหนดีที่สุด?

    ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีคือกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน และอากาศจะเริ่มเย็นสบาย จึงควรเตรียมเสื้อโค้ทหรือเสื้อกันหนาวไปด้วยนะคะ
  • ควรจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมล่วงหน้านานแค่ไหน?

    โดยปกติแล้ว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมนั้น แนะนำให้จองล่วงหน้า 1-3 เดือน เพื่อได้ราคาที่ดีที่สุด สำหรับเที่ยวบินในประเทศ ควรจองล่วงหน้า 30-45 วัน สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ แนะนำให้จองล่วงหน้า 60-90 วัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลควรจองล่วงหน้า 90-120 วัน โดยเพื่อน ๆ สามารถหาดีลเด็ดของตั๋วเครื่องบินและโรงแรมผ่าน Trip.com ได้ค่ะ
  • นอกจากใบเมเปิ้ล มีต้นไม้อะไรน่าสนใจอีกบ้าง?

    นอกจากต้นเมเปิ้ลแล้ว ยังมีต้นไม้อื่น ๆ ที่น่าสนใจในช่วงใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ได้แก่ ต้นแปะก๊วย (Ginkgo) ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามสดใสไม่แพ้ต้นเมเปิ้ล ต้นเกาลัด (Chestnut) ต้นสน (Larch) ซึ่งเป็นสนชนิดเดียวของญี่ปุ่นที่เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสดใสก่อนร่วงหล่น ต้นบีช (Beech) ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง และต้นซากุระ (Sakura) ที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง เป็นต้น
  • ต้องใช้ JR Pass หรือไม่สำหรับการเที่ยวชมใบไม้ร่วง?

    การใช้ JR Pass สำหรับเที่ยวชมใบไม้ร่วง ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางและสถานที่ที่เพื่อน ๆ ต้องการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี หากเพื่อน ๆ วางแผนจะเที่ยวหลายเมืองในภูมิภาคที่ JR Pass ครอบคลุม เช่น โทโฮคุ หรือคันโต ก็จะคุ้มค่า แต่หากจะไปภูมิภาคอื่นที่ไม่ครอบคลุม การใช้ JR Pass อาจไม่จำเป็นค่ะ
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที
Sarunros

Sarunros

นักเขียนบล็อกท่องเที่ยว

นักเขียนบล็อกท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์อิสระ หลงใหลในการเดินทาง รักในการกิน ชอบสัมผัสชีวิตและวัฒนธรรมโลคอล บันทึกเรื่องราวจากทุกการเดินทาง เพื่อแบ่งปันแรงบันดาลใจ และชวนทุกคนออกเดินทางไปด้วยกัน

51 บทความ
นักท่องเที่ยวอิสระ หลงใหลในการเดินทาง รักในการกิน ชอบสัมผัสชีวิตและวัฒนธรรมโลคอล
>>
ใบไม้ร่วง ญี่ปุ่น