
รถไฟความเร็วสูงจีน คือหนึ่งในวิธีเดินทางที่ทั้งเร็ว สะดวก และคุ้มค่าที่สุดสำหรับการเที่ยวจีนในปี 2568 ไม่ว่าจะอยากไปปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ซีอาน หรือกวางโจว—แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง! บทความนี้คือคู่มือเดียวที่รวมทุกอย่างที่นักเดินทางต้องรู้ ตั้งแต่ ประเภทขบวนและความเร็ว แผนที่เส้นทางยอดนิยม ไปจนถึง วิธีจองตั๋วและเคล็ดลับนั่งให้สบาย พร้อมอัปเดตล่าสุดให้คุณเตรียมทริปได้อย่างมั่นใจ 🚄
เส้นทางรถไฟความเร็วสูงจีนยอดนิยม & แผนที่ (อัปเดต 2568)
การเดินทางข้ามเมืองใหญ่ในจีนใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เส้นทางเหล่านี้คือเส้นทางยอดนิยมที่นักเดินทางไทยเลือกใช้มากที่สุด พร้อมเวลาเดินทางโดยประมาณ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนทริปได้ลื่นไหลตั้งแต่วางกระเป๋าจนถึงเช็กอินโรงแรม
🗺️ แผนที่รถไฟความเร็วสูงจีน

แผนที่รถไฟความเร็วสูงของจีน ภาพจาก travelchinaguide
🚄 ตารางเส้นทางยอดนิยม (เวลาโดยประมาณ)
เส้นทาง | สถานีที่พบบ่อย | เวลาเร็วสุด* | ช่วงเวลาทั่วไป |
|---|---|---|---|
ปักกิ่ง ↔ เซี่ยงไฮ้ | Beijing South ↔ Shanghai Hongqiao | ~4–4.5 ชม. | 4–6 ชม. |
ปักกิ่ง ↔ กวางโจว | Beijing West ↔ Guangzhou South | ~8–9 ชม. | 8–10 ชม. |
ปักกิ่ง ↔ ซีอาน | Beijing West/South ↔ Xi’an North | ~4–5 ชม. | 4–6 ชม. |
ซีอาน ↔ เฉิงตู | Xi’an North ↔ Chengdu East/Chengdu Tianfu | ~3–4.5 ชม. | 3–5 ชม. |
เซี่ยงไฮ้ ↔ หางโจว | Shanghai Hongqiao ↔ Hangzhou East | ~30–50 นาที | 0.5–1 ชม. |
เซี่ยงไฮ้ ↔ หวงซาน | Shanghai Hongqiao ↔ Huangshan North | ~2.5–3 ชม. | 2.5–3.5 ชม. |
กวางโจว ↔ เซินเจิ้น ↔ ฮ่องกง | Guangzhou South ↔ Shenzhen North/West Kowloon | ~50–60 นาที (GZ–SZ) / ~14–20 นาที (SZ–HK) | 1–1.5 ชม. รวมต่อขบวน |
กวางโจว ↔ กุ้ยหลิน | Guangzhou South ↔ Guilin North/West | ~2.5–3 ชม. | 2.5–3.5 ชม. |
* “เวลาเร็วสุด” คือเวลาที่ทำได้ในบางรอบ/ขบวน โปรดตรวจสอบเที่ยวจริงก่อนออกเดินทางหรือสามารถดูเที่ยวรถไฟได้ที่ Trip.com
ประเภทของรถไฟจีน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่นั่งชั้นหนึ่งของรถไฟความเร็วสูงของจีน
รถไฟในประเทศจีน แบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยแต่ละขบวนจะมีความเร็วและสิ่งอำนวยความสะดวกที่แตกต่างกันไป เหมาะกับการเดินทางในระยะทางและจุดหมายที่ไม่เหมือนกัน ในบรรดาทั้งหมด “รถไฟความเร็วสูง” ถือเป็นขวัญใจของนักเดินทางยุคใหม่ เพราะทั้งเร็ว สะอาด และตรงเวลา แบ่งย่อยออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ G, D และ C ซึ่งตารางด้านล่างนี้สรุปให้ดูง่าย ๆ ในครั้งเดียว 👇
ตารางเปรียบเทียบประเภทของรถไฟจีน
ประเภท / รหัสขบวน | ความเร็วสูงสุด (โดยประมาณ) | จุดเด่น / สิ่งอำนวยความสะดวก | เส้นทางยอดนิยม |
|---|---|---|---|
G – รถไฟความเร็วสูงพิเศษ (High-Speed Express) | 300–350 กม./ชม. | เร็วที่สุดในประเทศจีน, ใช้รางเฉพาะ HSR, ห้องโดยสารสะอาด ทันสมัย มี Wi-Fi, ปลั๊กไฟทุกที่นั่ง, จอดเฉพาะเมืองใหญ่ | ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ / ปักกิ่ง–ซีอาน / เซี่ยงไฮ้–กวางโจว |
D – รถไฟความเร็วสูงมาตรฐาน (Electric Multiple Unit) | 200–250 กม./ชม. | วิ่งบนทั้งรางธรรมดาและราง HSR, ราคาย่อมเยา, บางเส้นมีตู้นอน, เหมาะกับเส้นทางกลาง–ยาว | ซีอาน–เฉิงตู / เซี่ยงไฮ้–หางโจว / ปักกิ่ง–กุ้ยหยาง |
C – รถไฟความเร็วสูงระหว่างเมือง (Intercity) | 160–200 กม./ชม. | ใช้เดินทางระยะสั้นระหว่างเมืองใกล้กัน, ความถี่สูง, เหมาะกับเดย์ทริปหรือทำงานข้ามจังหวัด | ปักกิ่ง–เทียนจิน / กวางโจว–เซินเจิ้น / หนานจิง–ซูโจว |
💡 เคล็ดลับเลือกขบวนให้เหมาะกับทริป
- ถ้าอยาก “ถึงไว” และนั่งสบายที่สุด ให้เลือก ขบวน G โดยเฉพาะเส้นทางยาวอย่าง ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้
- ถ้าอยากประหยัดแต่ยังอยากได้ความเร็ว เลือก ขบวน D วิ่งได้เร็วในราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับคนที่อยากเดินทางไวแต่ไม่อยากจ่ายแพงเกินไป
- สำหรับคนที่เที่ยวเมืองใกล้ ๆ หรือทำเดย์ทริป เช่น เซี่ยงไฮ้–หางโจว ให้เลือก ขบวน C เพราะรอบถี่และคุ้มราคา
- รถไฟทุกขบวนมีทั้งชั้นที่นั่ง Second / First / Business ให้เลือก ขบวน G จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบที่สุด เช่น พอร์ตชาร์จทุกเบาะ ห้องน้ำอัตโนมัติ และตู้เสบียง
ความเร็วของรถไฟความเร็วสูงจีน

รถไฟความเร็วสูงของจีนขึ้นชื่อเรื่องความเร็วระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีขบวน “ฟู่ซิง (Fuxing)” ที่สามารถทำความเร็วปฏิบัติการสูงสุดได้ถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีการทดสอบขบวนรุ่นใหม่ “CR450” ซึ่งมีศักยภาพแตะ 450 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ แต่ละประเภทของรถไฟ (G / D / C) ยังมีความเร็วเฉลี่ยที่ต่างกัน ดังตารางด้านล่าง 👇
ประเภทขบวน | รหัส | ความเร็วปฏิบัติการ (กม./ชม.) | ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ (กม./ชม.) | เส้นทางยอดนิยม |
|---|---|---|---|---|
Fuxing Hao (ฟู่ซิง) | G-series (บางขบวน) | 300–350 | 400+ (ทดสอบ) | ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ / ปักกิ่ง–ซีอาน |
Hexie Hao (เหอซี) | D-series | 200–250 | 300 | เซี่ยงไฮ้–หางโจว / ซีอาน–เฉิงตู |
Intercity (ระหว่างเมือง) | C-series | 160–200 | 220 | ปักกิ่ง–เทียนจิน / กวางโจว–เซินเจิ้น |
รถไฟธรรมดา (Conventional) | K / T / Z-series | 100–160 | 180 | เส้นทางรอง/เมืองเล็ก |
💬 ข้อมูลจาก: China State Railway Group (อัปเดต 2568)
🚄 หมายเหตุ: ความเร็วจริงอาจแตกต่างตามเส้นทางและเงื่อนไขการให้บริการแต่ละสาย
เคล็ดลับในการนั่งรถไฟจีน
1. จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า
- รถไฟความเร็วสูงของจีนเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะช่วงวันหยุดและเทศกาล
- สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ สูงสุด 15 วัน
- หลังจอง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสถานีต้นทางถูกต้อง (เช่น Shanghai ≠ Shanghai South)
- หากต้องการความสะดวกที่สุด แนะนำให้จองผ่าน Trip.com ซึ่งรองรับพาสปอร์ตต่างชาติและมีระบบจ่ายเงินหลายช่องทาง
💡เคล็ดลับ: ขบวนยอดนิยมอย่าง “ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้” และ “ซีอาน–เฉิงตู” ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์

ตั๋วรถไฟจีน
2. มาถึงสถานีก่อนเวลา
- รถไฟจีนขึ้นชื่อเรื่อง ตรงต่อเวลา มาก
- ควรมาถึงสถานีอย่างน้อย 30–45 นาทีล่วงหน้า เพื่อผ่านจุดตรวจความปลอดภัยและสแกนตั๋ว
- สถานีใหญ่ ๆ อย่าง Beijing South หรือ Shanghai Hongqiao มีหลายโซน ควรเผื่อเวลาเดินภายในสถานีด้วย

ภายในสถานีรถไฟจีน
3. เตรียมบัตรประจำตัวให้พร้อม
- นักท่องเที่ยวต่างชาติจำเป็นต้องใช้ หนังสือเดินทาง (Passport) ทุกครั้งที่ซื้อตั๋วและขึ้นรถไฟ
- ชาวจีนใช้บัตรประชาชน (ID Card)
- ต้องแสดงเอกสารตัวจริงทั้งตอนเข้า–ออกสถานี

หนังสือเดินทางไทย
4. สิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟความเร็วสูง
สิ่งที่ผู้โดยสารจะพบในรถไฟความเร็วสูงของจีน ได้แก่ 👇
สิ่งอำนวยความสะดวก | รายละเอียด |
|---|---|
🚻 ห้องน้ำ | มีในทุกขบวน พร้อมจอแสดงสถานะ “ว่าง/ไม่ว่าง” |
💧 น้ำร้อน | มีตู้กดน้ำร้อนระหว่างตู้โดยสาร เหมาะสำหรับชงชา/มาม่า |
🍱 รถเสบียง | สำหรับขบวน 8 ตู้ มักอยู่ตู้ที่ 5 / ขบวน 16 ตู้ อยู่ตู้ที่ 11 |
🔌 ปลั๊กไฟ | ทุกที่นั่งมีช่องเสียบปลั๊กหรือพอร์ต USB (รุ่นใหม่) |
💺 เบาะปรับเอนได้ | มีคันโยกปรับพนักพิงได้ นั่งสบายในทุกชั้นโดยสาร |
📶 Wi-Fi | มีให้บริการในขบวน G บางสาย (ตรวจสอบก่อนเดินทาง) |
💡เคล็ดลับ: พกแก้วเก็บความร้อนไปด้วย จะได้ชงชา/กาแฟระหว่างทางได้สบาย ๆ
5. ใช้ตู้นอนสำหรับเส้นทางไกล
- เหมาะสำหรับเส้นทางที่ใช้เวลาเดินทางมากกว่า 6–8 ชั่วโมง เช่น ปักกิ่ง–กวางโจว หรือ เซี่ยงไฮ้–คุนหมิง
- มีให้เลือกทั้งแบบ ตู้นอนแข็ง (Hard Sleeper) และ ตู้นอนนุ่ม (Soft Sleeper)
- แนะนำให้นำของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดตัว ปลอกหมอน หรือหมอนเดินทางเล็ก ๆ ไปเอง
- รถไฟขบวน D บางขบวนจะมี ตู้นอนแบบชั้นเดียวหรือสองชั้น ให้เลือก
💡เคล็ดลับ: ถ้าเดินทางตอนกลางคืน การจองตู้นอนช่วยประหยัดค่าที่พักไปในตัวได้ด้วย!

รถไฟความเร็วสูงแบบนอนนุ่มสองชั้น ภาพจาก baijiahao.baidu
6. ตรวจสอบข้อจำกัดสัมภาระก่อนขึ้นรถ
แม้รถไฟความเร็วสูงของจีนจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระค่อนข้างกว้าง แต่บางขบวน—โดยเฉพาะสายระยะสั้นหรือขบวน C—จะมีพื้นที่เก็บของเหนือศีรษะจำกัด จึงควรตรวจสอบขนาดและน้ำหนักกระเป๋าก่อนเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเวลาเช็กอินหรือขึ้นขบวน
ประเภทผู้โดยสาร | น้ำหนักรวมสูงสุด | หมายเหตุ |
|---|---|---|
ผู้ใหญ่ทั่วไป | 20 กก. | ไม่เกิน 130 ซม. (รวมกว้าง+ยาว+สูง) |
เด็ก | 10 กก. | |
นักการทูต / เจ้าหน้าที่พิเศษ | 35 กก. | ต้องมีเอกสารรับรอง |
สัมภาระเกินน้ำหนัก | - | อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม |
💡เคล็ดลับ: หลีกเลี่ยงกระเป๋าใบใหญ่กว่า 28 นิ้ว เพราะอาจไม่พอดีชั้นวางด้านบน และอย่าลืมติดแท็กชื่อหรือเบอร์โทรเผื่อกรณีวางของไว้หลายชิ้น สามารถดูรายละเอียดข้อจำกัดสัมภาระล่าสุดได้ที่ เว็บไซต์ทางการของ China Railway (12306.cn)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงจีน
รถไฟความเร็วสูงจีนเร็วแค่ไหน?
รถไฟความเร็วสูงของจีนมีความเร็วปฏิบัติการสูงสุดถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยขบวน “ฟู่ซิง (Fuxing Hao)” ถือเป็นรถไฟที่เร็วที่สุดในโลกในเชิงพาณิชย์ เส้นทางยอดนิยมอย่างปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้สามารถเดินทางได้ภายในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ทำให้การเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ทั้งสองกลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกกว่าการบินภายในประเทศเสียอีกเส้นทางรถไฟความเร็วสูงยอดนิยมในจีนมีอะไรบ้าง?
เส้นทางที่นักท่องเที่ยวเดินทางบ่อยที่สุด ได้แก่ ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักของประเทศ, ซีอาน–เฉิงตู ที่เชื่อมภาคตะวันตกเฉียงเหนือกับภาคตะวันตกเฉียงใต้, เซี่ยงไฮ้–หางโจว ที่ใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง, กวางโจว–เซินเจิ้น–ฮ่องกง ที่เชื่อมเข้าสู่เขตเศรษฐกิจสำคัญ และปักกิ่ง–ซีอาน ที่พาผู้โดยสารสู่เมืองประวัติศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว เส้นทางเหล่านี้มีรอบให้บริการตลอดวันและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเที่ยวหลายเมืองในทริปเดียวสามารถจองตั๋วรถไฟจีนล่วงหน้าได้กี่วัน?
ปัจจุบันผู้โดยสารสามารถจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงของจีนล่วงหน้าได้สูงสุด 15 วัน (รวมวันเดินทาง) ผ่านเว็บไซต์ทางการของ China Railway (12306.cn) หรือจองผ่าน Trip.com ซึ่งรองรับภาษาอังกฤษและการชำระเงินระหว่างประเทศได้สะดวก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ใช้พาสปอร์ตสามารถซื้อตั๋วได้ล่วงหน้าและรับ E-Ticket สำหรับสแกนขึ้นขบวนโดยตรงที่สถานีรถไฟแต่ละประเภทในจีนต่างกันอย่างไร?
รถไฟความเร็วสูงของจีนแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก คือ ขบวน G ที่วิ่งเร็วที่สุด (300–350 กม./ชม.) เหมาะกับเส้นทางระยะไกลระหว่างเมืองใหญ่ ขบวน D ที่มีความเร็วปานกลาง (200–250 กม./ชม.) มักใช้เดินทางระยะกลาง และขบวน C สำหรับเส้นทางระหว่างเมืองใกล้เคียง (160–200 กม./ชม.) เช่น ปักกิ่ง–เทียนจิน หรือ กวางโจว–เซินเจิ้น ความแตกต่างหลักคือความเร็ว จำนวนสถานีที่จอด และสิ่งอำนวยความสะดวกบนขบวนรถไฟความเร็วสูงจีนมีข้อจำกัดสัมภาระไหม?
รถไฟความเร็วสูงของจีนอนุญาตให้ผู้โดยสารนำสัมภาระขึ้นขบวนได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัมต่อคน โดยขนาดรวมของกระเป๋า (กว้าง + ยาว + สูง) ต้องไม่เกิน 130 เซนติเมตร หากสัมภาระมีน้ำหนักหรือขนาดเกินกำหนด อาจต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม บางขบวน โดยเฉพาะรถไฟระยะสั้นแบบ C-series จะมีพื้นที่เก็บของเหนือศีรษะค่อนข้างจำกัด จึงควรเลือกใช้กระเป๋าเดินทางขนาดไม่เกิน 28 นิ้วเพื่อความสะดวก


