
การไปเที่ยวจีนในปี 2568 กลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย เพราะตอนนี้คนไทยสามารถ เดินทางเข้าจีนได้แบบฟรีวีซ่า อยู่ได้นานสูงสุดถึง 30 วัน โดยไม่ต้องยื่นเอกสารหรือเสียค่าธรรมเนียมใด ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว หรือจะไปเยี่ยมญาติ ทำธุรกิจระยะสั้นก็สะดวกสุด ๆ แต่ถ้ามีแผนจะอยู่ในจีนเกิน 30 วัน เช่น ไปเรียน ทำงาน หรือเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ก็ยังจำเป็นต้องขอวีซ่าตามประเภทที่เหมาะสมอยู่ดี การเลือกประเภทวีซ่าให้ถูกตั้งแต่แรกช่วยให้การเดินทางราบรื่น ไม่โดนปฏิเสธเข้าประเทศ และไม่พลาดโอกาสสำคัญ
Trip.com รวบรวมข้อมูล “ฟรีวีซ่าจีน” และประเภทวีซ่าที่คนไทยควรรู้มาให้ครบ พร้อมเคล็ดลับการเตรียมเอกสารและขั้นตอนขอวีซ่าอย่างละเอียด อ่านจบพร้อมเดินทางได้เลย!
นโยบายฟรีวีซ่าจีนสำหรับนักท่องเที่ยวไทย (อัปเดต 2568)

หลายคนอาจสงสัยว่า “ไปเที่ยวจีนต้องขอวีซ่าหรือเปล่า?” คำตอบคือ ไม่ต้องขอวีซ่า แล้วค่ะ เพราะตอนนี้คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้แบบ ฟรีวีซ่า (Visa-Free) ตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและจีน
นักท่องเที่ยวไทยสามารถพำนักในจีนได้ สูงสุด 30 วันต่อครั้ง สำหรับการเดินทางเพื่อ ท่องเที่ยวหรือเยี่ยมญาติ โดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้า แต่หากมีแผนอยู่เกิน 30 วัน เช่น ไปเรียนต่อ ทำงาน หรือทำวิจัย ยังคงต้องยื่นขอวีซ่าตามประเภทที่เหมาะสม
ข้อดีของการเดินทางแบบฟรีวีซ่าจีน
- ประหยัดเวลา ไม่ต้องเตรียมเอกสารหรือเสียค่าธรรมเนียมวีซ่า
- เหมาะกับทริปสั้น ๆ เช่น เที่ยวปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว หรือเสิ่นเจิ้น
- วางแผนเดินทางกะทันหันได้สะดวก ไม่ต้องรออนุมัติวีซ่า
นโยบายนี้เป็น ข้อตกลงระยะยาว ที่มีผลต่อเนื่องจากปี 2567 เป็นต้นมา ช่วยให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปจีนได้ง่ายกว่าที่เคย
ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว
ภูมิภาค (Region) | ประเทศ / เขตปกครอง (Countries & Regions) | ระยะเวลาพำนักที่อนุญาต (Visa-Free Stay Duration) |
เอเชีย (Asia) | สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, เกาหลีใต้, บรูไน, ญี่ปุ่น, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), กาตาร์, มัลดีฟส์, คาซัคสถาน, อาร์เมเนีย, จอร์เจีย | ไม่เกิน 15 - 30 วัน |
ยุโรป (Europe) | ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, สเปน, เนเธอร์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, นอร์เวย์, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, สวีเดน, เบลเยียม, ลักเซมเบิร์ก, ออสเตรีย, กรีซ, ฮังการี, เช็ก (Czechia), สโลวาเกีย, โปแลนด์, โปรตุเกส, มอลตา, เอสโตเนีย, ลัตเวีย, โครเอเชีย, โรมาเนีย, บัลแกเรีย, นอร์ทมาซิโดเนีย, มอนเตเนโกร, เซอร์เบีย, แอลเบเนีย, เบลารุส, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, ซานมารีโน, โมนาโก, ลิกเตนสไตน์, ไอซ์แลนด์ | ไม่เกิน 15 - 30 วัน |
โอเชียเนีย (Oceania) | ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ฟิจิ, ตองกา, หมู่เกาะโซโลมอน | ไม่เกิน 30 วัน |
อเมริกา (Americas) | บาฮามาส, บาร์เบโดส, โดมินิกา, เอกวาดอร์, เกรเนดา, ซูรินาเม, แอนติกาและบาร์บูดา | ไม่เกิน 30 วัน |
แอฟริกา (Africa) | เซเชลส์, มอริเชียส | ไม่เกิน 30 วัน |
หากต้องพำนักในจีนเกิน 30 วัน นักท่องเที่ยวไทยต้องทำอย่างไร?

แม้ไทยกับจีนจะมีข้อตกลงให้คนไทยสามารถเข้าจีนได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า (Visa-Free) ในระยะสั้น แต่ถ้าคุณวางแผนจะอยู่เกิน 30 วัน เช่น เรียนต่อ ทำงาน หรือต้องทำธุรกิจยาวๆ จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ยกเว้นวีซ่าได้ จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าจีน (China Visa) ตามวัตถุประสงค์ของการเดินทาง
ประเภทของวีซ่าที่คนไทยมักใช้บ่อย
ประเภทวีซ่า | จุดประสงค์หลัก | ระยะเวลาพำนักสูงสุด | ค่าธรรมเนียมโดยประมาณ |
ฟรีวีซ่า (Visa-Free) | ท่องเที่ยว / เยี่ยมญาติ | 30 วัน | ฟรี |
L (Tourist Visa) | ท่องเที่ยว เยี่ยมเพื่อน/ญาติ | 30 วัน (ต่อได้บางกรณี) | ประมาณ 1,500–2,000 บาท |
M (Business Visa) | ทำธุรกิจ เข้าร่วมงานแสดงสินค้า | 30–60 วัน | ประมาณ 2,000–3,000 บาท |
X (Student Visa) | ศึกษาต่อในสถาบันจีน | X1: เกิน 180 วัน / X2: ไม่เกิน 180 วัน | ประมาณ 2,000–3,500 บาท |
Z (Work Visa) | ทำงานระยะยาวในจีน | ตามสัญญาจ้าง | ประมาณ 3,000–4,000 บาท |
Q / S (Family Visit Visa) | เยี่ยมญาติหรือครอบครัวในจีน | 30–180 วัน (ขึ้นกับประเภท) | ประมาณ 2,000 บาท |
G (Transit Visa) | เดินทางผ่านจีนเพื่อไปประเทศที่สาม | 7 วัน | ประมาณ 1,000 บาท |
หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนและบริการ (ปกติ / ด่วน / เร่งด่วน) ที่เลือกในแต่ละช่วงเวลา
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอวีซ่าจีน

การขอวีซ่าจีนไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด หากเตรียมเอกสารครบตั้งแต่แรก จะช่วยให้กระบวนการราบรื่นขึ้นมาก สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่วางแผนจะไปเรียน ทำงาน หรืออยู่ในจีนเกิน 30 วัน จำเป็นต้องเตรียมเอกสารตามประเภทวีซ่าที่เลือกไว้โดยเอกสารหลักๆ มีดังนี้
เอกสารพื้นฐานที่ทุกประเภทวีซ่าต้องใช้
- หนังสือเดินทาง (Passport)
- ต้องมีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
- มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าเพื่อประทับตรา
- แบบฟอร์มสมัครวีซ่า (Visa Application Form - COVA)
- กรอกออนไลน์และพิมพ์ออกมาเซ็นชื่อด้วยลายมือตัวเอง
- รูปถ่ายพื้นหลังสีขาว
- ขนาดตามที่สถานทูตกำหนด (ส่วนใหญ่ 33 x 48 มม.)
- ห้ามใส่หมวก แว่นตาดำ หรือแต่งภาพ
- ใบยืนยันการนัดหมาย
- เมื่อนัดหมายออนไลน์แล้ว ต้องพิมพ์ใบยืนยันเพื่อยื่นที่ศูนย์รับคำร้อง
เอกสารเพิ่มเติมตามประเภทวีซ่า
ประเภทวีซ่า | เอกสารที่ต้องใช้เพิ่มเติม |
L (Tourist Visa) | หลักฐานการจองโรงแรม, ตั๋วเครื่องบินไป–กลับ, แผนการเดินทาง |
M (Business Visa) | จดหมายเชิญจากบริษัทในจีน (Invitation Letter), ใบรับรองการจดทะเบียนบริษัทผู้เชิญ |
Z (Work Visa) | ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit), สัญญาจ้างงาน |
X (Student Visa) | หนังสือตอบรับจากมหาวิทยาลัยในจีน, แบบฟอร์ม JW201/JW202 |
Q / S (Family Visit Visa) | เอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนสมรส, บัตรประชาชน/พาสปอร์ตของผู้ที่อยู่จีน |
R (Talent Visa) | หนังสือรับรองความสามารถพิเศษหรือเอกสารรับรองจากหน่วยงานจีน |
G (Transit Visa) | ตั๋วเดินทางต่อไปประเทศที่สาม |
D (Permanent Residence) | เอกสารอนุมัติการพำนักถาวรจากทางการจีน |
ขั้นตอนดำเนินการขอวีซ่าจีน

การขอวีซ่าจีนสำหรับนักท่องเที่ยวไทยไม่ซับซ้อน หากเข้าใจลำดับขั้นตอนชัดเจน และเตรียมเอกสารให้ครบทุกอย่างตั้งแต่แรก กระบวนการจะรวดเร็วขึ้นมาก โดยทั่วไปขั้นตอนหลัก ๆ มีดังนี้
ขั้นตอนการยื่นวีซ่าจีน
1. กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ (COVA Application Form)
- เข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัว วัตถุประสงค์การเดินทาง และรายละเอียดที่อยู่/ติดต่อในจีน ผ่านระบบออนไลน์
- เมื่อกรอกเสร็จแล้ว ให้พิมพ์ใบสมัครออกมาและเซ็นชื่อด้วยลายมือตัวเอง
2. นัดหมายวันยื่นเอกสาร (Appointment)
- หลังจากกรอกฟอร์มออนไลน์ ต้องทำการนัดหมายล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของ ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าจีน (CVASC)
- พิมพ์ใบยืนยันการนัดหมายไปแสดงในวันที่ยื่น
3. ยื่นเอกสารที่ศูนย์รับคำร้อง (CVASC Thailand)
- นำหนังสือเดินทาง, แบบฟอร์ม, รูปถ่าย และเอกสารเพิ่มเติมตามประเภทวีซ่า ไปยื่นที่ศูนย์
- เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้อง และอาจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
4. ชำระค่าธรรมเนียม
- ราคาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าและบริการที่เลือก (ปกติ, ด่วน, เร่งด่วน)
- ควรเตรียมเงินสดหรือบัตรเครดิตตามที่ศูนย์กำหนด

5. รอรับเล่มพาสปอร์ตพร้อมวีซ่า
- เวลาดำเนินการโดยทั่วไป 4 - 5 วันทำการ
- หากใช้บริการด่วน (Express) จะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 วันทำการ
- หากเลือกเร่งด่วน (Urgent) สามารถรับได้ภายใน 1 วันทำการ
เคล็ดลับน่ารู้ก่อนเดินทางเข้าไปจีน

แม้การเดินทางไปจีนจะสะดวกขึ้นมาก ทั้งจากการยกเว้นวีซ่าสำหรับทริปสั้นๆ และการขอวีซ่าที่ทำได้ไม่ยาก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวไทยมือใหม่หลายคนอาจยังไม่คุ้นกับสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม และระบบดิจิทัลของจีน หากรู้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ล่วงหน้า จะช่วยให้การเดินทางราบรื่นและสนุกมากขึ้น
1. เตรียมการชำระเงินให้พร้อม
- ในจีนระบบการจ่ายเงินแบบดิจิทัล (Mobile Payment) อย่าง Alipay และ WeChat Pay ได้รับความนิยมสูงสุด
- นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสมัครใช้งานได้แล้ว แต่ควรพกเงินสดสำรองบ้าง เพราะร้านค้าท้องถิ่นบางแห่งหรือพื้นที่ชนบทอาจยังไม่รองรับ
2. VPN คือเพื่อนคู่ใจ
- แอปพลิเคชันอย่าง Google, Facebook, Instagram, WhatsApp และ YouTube ใช้ไม่ได้ในจีน
- ควรเตรียม VPN ที่เชื่อถือได้ ล่วงหน้า เพื่อให้ติดต่อกับครอบครัวหรือทำงานออนไลน์ได้ตามปกติ
3. อินเทอร์เน็ตต้องพร้อมตั้งแต่วันแรก
- ควรซื้อ eSIM หรือ SIM Card จีนล่วงหน้า เพื่อใช้งานทันทีที่ถึงสนามบิน
- การใช้ eSIM จะสะดวกกว่า เพราะไม่ต้องเปลี่ยนซิมจริง
4. ระบบขนส่งสาธารณะของจีนมีประสิทธิภาพมาก
- การเดินทางระหว่างเมือง แนะนำให้ใช้รถไฟความเร็วสูง (High-Speed Rail) เพราะรวดเร็ว ปลอดภัย และทันเวลา
- ควรจองตั๋วล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงเทศกาล เช่น วันชาติ, ตรุษจีน
- ในเมืองใหญ่ การเรียกรถแท็กซี่หรือรถส่วนตัวควรใช้แอป DiDi ซึ่งคล้ายกับ Grab ในไทย
5. ภาษาเป็นอีกหนึ่งอุปสรรค
- คนจีนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนอกเมืองใหญ่ มักไม่ถนัดภาษาอังกฤษ
- ควรโหลดแอปแปลภาษา เช่น Google Translate (ดาวน์โหลดภาษาจีนไว้ใช้งานออฟไลน์)
- การเรียนรู้คำง่ายๆ อย่างสวัสดีและขอบคุณ จะช่วยให้การสื่อสารเป็นมิตรขึ้น
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วออกเดินทางไปจีน
การเดินทางไปประเทศจีนในยุคปัจจุบันไม่ซับซ้อนเหมือนในอดีตอีกต่อไป โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ได้รับสิทธิ์ ยกเว้นวีซ่าเข้าจีนสูงสุด 30 วัน ทำให้การวางแผนทริปสั้นๆ อย่างไรก็ตาม หากมีความตั้งใจที่จะอยู่เกินระยะเวลาที่กำหนด หรือมีวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น ศึกษาต่อ ทำงาน หรือทำธุรกิจ ควรตรวจสอบประเภทวีซ่าที่เหมาะสมและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
สิ่งสำคัญคือควรติดตามนโยบายล่าสุดจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทยหรือศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าจีน (CVASC) เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดและปัญหาระหว่างการเดินทาง เมื่อเลือกประเภทวีซ่าได้ถูกต้องและวางแผนอย่างรอบคอบ การเดินทางไปจีนก็จะเต็มไปด้วยความราบรื่นและประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวีซ่าจีน
คนไทยไปจีนต้องขอวีซ่าหรือไม่?
ไม่ต้องขอค่ะ คนไทยสามารถเดินทางเข้าจีนได้แบบฟรีวีซ่า (Visa-Free) สำหรับการท่องเที่ยว หรือเยี่ยมญาติ พำนักได้สูงสุด 30 วันต่อครั้ง โดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าฟรีวีซ่าจีนอยู่ได้กี่วัน?
คนไทยสามารถพำนักในจีนได้สูงสุด 30 วันต่อครั้ง หากต้องอยู่เกินจากนี้ต้องยื่นขอวีซ่าตามประเภทการเดินทาง เช่น วีซ่าทำงาน วีซ่านักเรียน หรือวีซ่าธุรกิจนโยบายฟรีวีซ่าจีนหมดเขตเมื่อไหร่?
ยังไม่มีการกำหนดวันสิ้นสุดค่ะ นโยบายฟรีวีซ่าระหว่างไทย–จีนเป็นข้อตกลงระยะยาว (Long-Term Agreement) ที่มีผลอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่มาตรการชั่วคราวใช้ฟรีวีซ่าเข้าจีนได้กี่ครั้งต่อปี?
สามารถเดินทางเข้า–ออกจีนได้หลายครั้งต่อปี แต่รวมระยะพำนักต้องไม่เกิน 90 วันภายใน 180 วัน โดยแต่ละครั้งอยู่ได้สูงสุด 30 วัน หากต้องการอยู่ต่อหรือเดินทางบ่อย ควรขอวีซ่าประเภทปกติแทนถ้าอยากอยู่ในจีนเกิน 30 วัน ต้องทำอย่างไร?
ต้องยื่นขอวีซ่าจีนตามวัตถุประสงค์ เช่น ท่องเที่ยว ธุรกิจ เรียน หรือทำงาน พร้อมเตรียมเอกสารให้ครบเพื่อให้ขั้นตอนผ่านได้รวดเร็วค่ะ



