
เฉิงตู เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของแพนด้า อาหารรสจัดจ้าน และวัฒนธรรมจีนโบราณที่ยังมีชีวิตอยู่ในทุกมุมถนน เมืองนี้คือจุดหมายในฝันของนักเดินทางที่อยากสัมผัสความน่ารักของแพนด้ายักษ์ เดินเล่นในตรอกโบราณ และชิมหม้อไฟเสฉวนสุดซี๊ดให้ถึงถิ่น ปี 2568 นี้ Trip.com ได้รวบรวม 22 ที่เที่ยวเฉิงตูที่ห้ามพลาด ตั้งแต่แลนด์มาร์กดังในเมืองไปจนถึงธรรมชาติสวยนอกตัวเมือง พร้อมแผนที่ปักหมุด ตาราง Top 5 และเคล็ดลับท่องเที่ยวที่อัปเดตล่าสุด ใครกำลังมองหาไกด์ไลน์ เที่ยวเฉิงตูปี 2568 บทความนี้รวมไว้ให้ครบแล้ว!
5 ที่เที่ยวเฉิงตูที่ห้ามพลาด
ก่อนจะไปสำรวจทั้ง 22 ที่เที่ยวเฉิงตู ลองเริ่มจาก 5 จุดไฮไลต์ที่หลายคนไปแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ต้องกลับมาอีก!” ไม่ว่าจะเป็นบ้านของแพนด้าสุดน่ารัก ย่านโบราณที่เต็มไปด้วยของกิน หรือภูเขาเขียวขจีที่ให้บรรยากาศสงบสบาย—ทั้งหมดนี้คือเสน่ห์ของเฉิงตูที่ทำให้ใคร ๆ ก็หลงรัก
สถานที่ | พิกัด | เหมาะกับ | ลิงก์ |
|---|---|---|---|
ฐานวิจัยการเพาะเลี้ยงหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) | ในเมือง (เขต Chenghua) | คนรักสัตว์ / ครอบครัว | |
ถนนโบราณจิ่นหลี่ (Jinli Ancient Street) | ในเมือง (เขต Wuhou) | สายกิน / สายถ่ายรูป | |
ซอยกว้าง–แคบ (Kuanzhai Alley) | ในเมือง (เขต Qingyang) | สายคาเฟ่ / ช้อป / ไลฟ์สไตล์ | |
เขาชิงเฉิง (Qingcheng Mountain) | นอกเมือง (Dujiangyan) | สายธรรมชาติ / ชอบเดินป่า | |
สวนสาธารณะประชาชนเฉิงตู (People’s Park) | ในเมือง (เขต Qingyang) | สายชิล / อยากเห็นวิถีชีวิตคนท้องถิ่น |
💡 เคล็ดลับ:
- ถ้าอยากดูแพนด้าแบบไม่ต้องเบียดคนเยอะ แนะนำไปช่วงเช้า 08:00–10:00 น.
- ส่วนใครชอบบรรยากาศจีนโบราณ ถ่ายรูปสวย ๆ ต้องไม่พลาดจิ่นหลี่ตอนหัวค่ำ โคมแดงสว่างทั้งถนน!
- หากมีเวลาน้อย ลองจัดทริป “1 วันในเมืองเฉิงตู” เที่ยว 3 จุด: ฐานแพนด้า → ถนนจิ่นหลี่ → ซอยกว้าง–แคบ รับรองครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และของกินในวันเดียว
ภาพรวมของเมืองเฉิงตู
เฉิงตู เมืองใหญ่ของมณฑลเสฉวนที่ทั้งเดินทางง่าย อาหารอร่อย และมีที่เที่ยวหลากหลาย ขึ้นชื่อทั้งเรื่องแพนด้า อาหารรสจัด และวัฒนธรรมจีนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในทุกซอกมุม 🐼✨ ที่นี่คือ “บ้านเกิดของแพนด้ายักษ์” ที่ใครมาเยือนก็ต้องแวะชมให้ได้สักครั้งที่ ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้าเฉิงตู คุณจะได้เห็นความน่ารักของแพนด้าทุกวัยอย่างใกล้ชิด ทั้งตอนกินไผ่ เดินเล่น หรือกลิ้งนอนอย่างสบายใจ เห็นแล้วละลายใจสุด ๆ!
แต่เฉิงตูไม่ได้มีดีแค่แพนด้าเท่านั้น เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมจีนที่น่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าอู๋โหว ที่เล่าเรื่องราวของยุคสามก๊ก หรือ กระท่อมของตู้ฝู่ บ้านของกวีเอกผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จีน เดินชมไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนได้ย้อนเวลาไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองโบราณในอดีต
ส่วนสายกินต้องถูกใจแน่นอน เพราะเฉิงตูคือ “สวรรค์ของอาหารเผ็ด” ของแท้! 🌶️ เมนูเด็ดที่ต้องลองคือ หม้อไฟเสฉวน รสจัดจ้านถึงใจ บะหมี่ตันตัน หอมกลิ่นถั่วคั่ว และ เกี๊ยวจงสุ่ย ที่ทั้งนุ่มทั้งเข้มข้น—อร่อยจนเผลอซดน้ำซอสหมดถ้วยเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เฉิงตูยังเป็นเมืองศูนย์กลางการเดินทางที่สะดวกสุด ๆ สำหรับใครที่อยากต่อทริปไปชมธรรมชาติระดับโลกของมณฑลเสฉวน เช่น จิ่วไจ้โกว หรือ ภูเขาเอ๋อเหมย เมืองนี้จึงไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่คือ “ประตูสู่เสฉวน” ที่รวมครบทั้งวัฒนธรรม อาหาร และเส้นทางผจญภัยในที่เดียว
วางแผนเที่ยวเฉิงตู
☀️ฤดูท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของเฉิงตูคือเมื่อไหร่? แล้วควรแต่งตัวยังไงดี?
เฉิงตูเป็นเมืองที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะแต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ไม่ซ้ำกันเลย บางช่วงเหมาะกับการเดินเล่นชมเมือง บางช่วงก็เหมาะกับขึ้นเขาชมวิวหรือจิบชาร้อนในสวนชา มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละฤดูของเฉิงตูมีอะไรน่าสนใจ และควรแต่งตัวยังไงให้เข้ากับบรรยากาศ!
ฤดูกาล | ช่วงเวลา | ลักษณะอากาศ | กิจกรรมแนะนำ | การแต่งกายที่เหมาะ |
|---|---|---|---|---|
ฤดูใบไม้ผลิ
| มีนาคม – พฤษภาคม | อากาศเย็นสบาย ดอกไม้เริ่มบาน | เดินเที่ยวในเมือง ชมสวน และถ่ายรูปคาเฟ่ | เสื้อแขนยาวบาง ๆ หรือแจ็กเก็ตเบา ๆ พกร่มไว้ด้วย |
ฤดูร้อน
| มิถุนายน – สิงหาคม | อากาศร้อนและค่อนข้างชื้น | เดินเที่ยวตอนเช้า–เย็น นั่งจิบชาที่สวนประชาชน หรือเที่ยวพิพิธภัณฑ์ | เสื้อผ้าบาง ระบายอากาศดี หมวกกันแดดและพัดพกพา |
ฤดูใบไม้ร่วง
| กันยายน – พฤศจิกายน | อากาศสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส ใบไม้เปลี่ยนสี | เที่ยววัด ชมสวน หรือเดินเล่นย่านโบราณอย่างจิ่นหลี่ | เสื้อแขนยาวหรือสเวตเตอร์บาง ๆ เหมาะกับเดินเล่นทั้งวัน |
ฤดูหนาว | ธันวาคม – กุมภาพันธ์ | หนาวเย็นและมีหมอกบางช่วง | ชมวิวเมือง ทานหม้อไฟร้อน ๆ หรือเที่ยวภูเขาซีหลิงเล่นหิมะ | เสื้อกันหนาวหนา ผ้าพันคอ ถุงมือ และรองเท้ากันลื่น |
💡 เคล็ดลับ: เฉิงตูขึ้นชื่อเรื่องฝนโปรยเบา ๆ ที่มาได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าฤดูไหน อย่าลืมพกร่มหรือเสื้อกันฝนแบบพับติดกระเป๋าไว้เสมอ จะได้เที่ยวได้สบายไม่สะดุดค่ะ
🚆การเดินทางในเฉิงตู
มาถึงเฉิงตูแล้ว…เรื่องการเดินทางบอกเลยว่าสบายสุด ๆ เพราะเมืองนี้มีระบบขนส่งที่ครบทั้งรถไฟใต้ดิน รถบัส แท็กซี่ และจักรยานให้เช่า เหมาะกับทุกสไตล์การเที่ยวเลยค่ะ
✈️ การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมือง
ปัจจุบันเฉิงตูมีสนามบินหลัก 2 แห่ง ซึ่งทั้งคู่เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวกมาก ไม่ว่าจะเลือกแบบประหยัดหรือเน้นความรวดเร็ว
สนามบิน | ระยะทางจากตัวเมือง | วิธีเดินทาง | รายละเอียดเส้นทาง | ราคาประมาณ |
|---|---|---|---|---|
สนามบินนานาชาติเฉิงตูซวงหลิว (Chengdu Shuangliu International Airport) | ประมาณ 16 กิโลเมตร | รถบัสสนามบิน / รถไฟฟ้าสาย 10 / แท็กซี่ | รถบัสออกจากอาคาร T1 ไปยังจุดสำคัญในเมือง, รถไฟฟ้าสาย 10 ต่อสาย 3 เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมือง, หรือเลือกแท็กซี่ตรงถึงที่พัก | รถบัส 10–15 หยวน / รถไฟฟ้า 6 หยวน / แท็กซี่ 60–100 หยวน |
สนามบินนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู (Chengdu Tianfu International Airport) | ประมาณ 50 กิโลเมตร | รถบัสสนามบิน / รถไฟฟ้าสาย 18 / แท็กซี่ | รถบัสจากอาคาร T1 เข้าสู่ย่านสำคัญในเมือง, รถไฟฟ้าสาย 18 ต่อสาย 1 ได้สะดวก, หรือเลือกแท็กซี่เดินทางตรงถึงโรงแรม | รถบัส 35–50 หยวน / รถไฟฟ้า 8–10 หยวน / แท็กซี่ 150–200 หยวน |
✨ หมายเหตุ: ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสภาพการจราจร ข้อมูลนี้เป็นเพียงการอ้างอิงโดยเฉลี่ยเท่านั้นค่ะ
🚇 การเดินทางภายในเมืองเฉิงตู
หลังจากเข้ามาในตัวเมืองแล้ว คุณจะพบว่าการเดินทางเที่ยวแต่ละจุดในเฉิงตูนั้นง่ายมาก เพราะระบบขนส่งสาธารณะของที่นี่สะดวก ครอบคลุม และมีราคาย่อมเยา
- รถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro): เฉิงตูมีหลายเส้นทางครอบคลุมย่านท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ถนนชุนซี วัดอู๋ฮู และสวนประชาชน ใช้ง่าย สะอาด และปลอดภัยสุด ๆ ดูเส้นทาง อัปเดตเวลาให้บริการ และข่าวประกาศล่าสุดได้ที่ Chengdu Metro (เว็บไซต์ทางการ)
- รถบัสประจำทาง: ราคาประหยัดและเหมาะกับการเที่ยวระยะใกล้ มีป้ายบอกภาษาอังกฤษในเส้นทางหลัก
- แท็กซี่: เหมาะกับคนที่อยากเดินทางแบบส่วนตัว ค่าโดยสารเริ่มต้นราว 8 หยวน ใช้แอป Didi เรียกได้สะดวกเหมือน Grab
- จักรยานและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า: สำหรับสายชิล ชอบปั่นชมเมือง เฉิงตูมีบริการเช่าจักรยานผ่านแอปต่าง ๆ เช่น Meituan และ Hellobike ปั่นเพลินได้ทั้งวัน
❣️สถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในเฉิงตูมีอะไรบ้าง?
เฉิงตูเป็นเมืองที่เที่ยวได้ไม่มีเบื่อ เพราะมีครบทุกสไตล์ ไม่ว่าจะชอบธรรมชาติ วัฒนธรรม หรือช้อปปิ้ง ที่นี่ตอบโจทย์ทุกสายจริง ๆ
- สายธรรมชาติ: เฉิงตูและพื้นที่รอบเมืองเต็มไปด้วยภูเขาเขียวขจีและสวนสวย เหมาะกับการพักผ่อน สูดอากาศดี ๆ ให้เต็มปอด
- สายวัฒนธรรม: เมืองนี้คือขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ของมณฑลเสฉวน เต็มไปด้วยวัดเก่า พิพิธภัณฑ์ และโบราณสถานที่เล่าเรื่องจีนในแต่ละยุคได้อย่างมีเสน่ห์
- สายช้อปและคาเฟ่: ย่านดังอย่างถนนชุนซีและซอยกว้าง–แคบคือสวรรค์ของคนรักการเดินเล่น มีทั้งร้านแบรนด์ดัง คาเฟ่น่ารัก และของฝากพื้นเมืองให้เลือกเพียบ
ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวสายไหน เฉิงตูก็มีมุมให้คุณตกหลุมรักแน่นอน
ที่เที่ยวเฉิงตูในเมืองยอดนิยม
ฐานวิจัยการเพาะเลี้ยงหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตู (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding)


แผนที่ของ ฐานวิจัยการเพาะเลี้ยงหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตู
ถ้าคุณรักแพนด้า ต้องไม่พลาดที่จะมาเยือนศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์แพนด้าเฉิงตูเลยค่ะ! ฐานวิจัยการเพาะเลี้ยงหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตู เป็นสถานที่อนุรักษ์และเพาะพันธุ์แพนด้าชื่อดังระดับโลก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเฉิงตู นักท่องเที่ยวสามารถชมความน่ารักของแพนด้าได้อย่างใกล้ชิด ทั้งตอนกินไผ่ นอนกลิ้ง หรือปีนต้นไม้เล่นกันอย่างเพลิดเพลิน
บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น เดินสบายมาก เหมาะกับการมาเที่ยวแบบครอบครัวหรือคู่รัก แนะนำให้มาช่วงเช้า (ประมาณ 08:00–10:00 น.) เพราะเป็นเวลาที่แพนด้าจะตื่นและออกมากินอาหารพอดี ส่วนช่วงบ่ายมักจะเห็นพวกมันนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจ
ภายในยังมีพิพิธภัณฑ์แพนด้า ที่จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการอนุรักษ์และการเพาะพันธุ์แพนด้าอย่างละเอียด เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นที่เที่ยวที่ทั้งสนุก ได้ความรู้ และอบอวลไปด้วยความน่ารักจากเหล่าแพนด้า สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ทางการฐานวิจัยการเพาะเลี้ยงหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตู
📍ที่อยู่: No. 1375, North Panda Avenue, Chenghua District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 08:00-17:30 น. (สามารถซื้อตั๋วได้จนถึงเวลา 16:30 น. เข้าชมได้จนถึงเวลา 16:30 น. )
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-83510033
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 3-5 ชั่วโมง
ถนนคนเดินโบราณจิ่นหลี่ (Jinli Ancient Street)

ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศ “จีนโบราณ” แบบจัดเต็ม ต้องมาเดินเล่นที่ ถนนคนเดินจิ่นหลี่ (Jinli Ancient Street) แห่งนี้เลยค่ะ! ที่นี่คือหนึ่งในย่านเก่าแก่ที่สุดของเฉิงตู ซึ่งยังคงเสน่ห์สถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ชิงไว้ได้อย่างงดงาม เดินผ่านอาคารไม้เก่าที่เรียงรายสองฝั่งถนน ก็เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในยุคโบราณจริง ๆ
ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ และของกินท้องถิ่นมากมาย ตั้งแต่ขนมโบราณ ลูกอมงา ไปจนถึงหม้อไฟจิ๋วแบบสตรีทฟู้ด กลิ่นหอมโชยชวนให้เดินกินเพลินแทบทุกสิบก้าว
ช่วงกลางวันก็สวยด้วยบรรยากาศแบบเมืองเก่า แต่ถ้ามาตอนค่ำจะโรแมนติกสุด ๆ เพราะทั้งถนนประดับด้วยโคมแดงสว่างไสวไปทั่ว เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือเดินเล่นชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นของเมืองเฉิงตู
📍ที่อยู่: No. 231 Wuhouyu Street, Wuhou District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: เปิดตลอดทั้งปี ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-85538914 | 028-66311313
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-3 ชั่วโมง
กระท่อมของตู้ฝู่ (Du Fu Thatched Cottage)

สำหรับคนที่หลงใหลในบทกวีและประวัติศาสตร์จีน ที่นี่คือสถานที่ที่ต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิตค่ะ กระท่อมของตู้ฝู่ (Du Fu Thatched Cottage) เป็นบ้านพักของ “ตู้ฝู่” กวีเอกแห่งราชวงศ์ถัง ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน ภายในพื้นที่กว้างขวางนี้เต็มไปด้วยสวนเขียวร่มรื่น บ่อบัว และทางเดินหินที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับเดินเล่นช้า ๆ และซึมซับบรรยากาศแบบโบราณอย่างแท้จริง
นอกจากกระท่อมจำลองที่แสดงวิถีชีวิตเรียบง่ายของตู้ฝู่แล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม จัดแสดงต้นฉบับบทกวี ภาพเขียน และเรื่องราวของชีวิตกวีผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ เหมาะสำหรับสายศิลป์หรือคนที่ชอบความสงบ ถ้าอยากพักใจจากความคึกคักในเมืองเฉิงตู ที่นี่คือจุดที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งค่ะ
📍ที่อยู่: No.37, Qinghua Road, Qingyang District, Chengdu 610072, China
⏰เวลาทำการ: 09:00-18:00 น.(สามารถซื้อตั๋วได้จนถึงเวลา 17:00 น. เข้าชมได้จนถึงเวลา 17:00 น.)
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-68921800
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-4 ชั่วโมง
ศาลเจ้าสามก๊ก หรือ วัดอู่โหว (Wuhou Temple)

สำหรับใครที่ชอบประวัติศาสตร์จีน โดยเฉพาะตำนาน “สามก๊ก” บอกเลยว่าต้องมาเยือน วัดอู่โหว (Wuhou Temple) ให้ได้สักครั้ง! ที่นี่คือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเฉิงตู สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง “จูกัดเหลียง” หรือ “ขงเบ้ง” นักยุทธศาสตร์แห่งอาณาจักรซู่ฮั่น และเหล่าวีรบุรุษผู้ภักดีต่อเล่าปี่
ภายในวัดเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณที่สง่างาม และมีห้องจัดแสดงสิ่งของสำคัญในยุคนั้น ทั้งรูปปั้น ข้อความจารึก และนิทรรศการเล่าประวัติสามก๊กอย่างละเอียด เดินชมไปพร้อมกลิ่นธูปจาง ๆ ก็เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในฉากของตำนานจีนโบราณจริง ๆ
รอบ ๆ ศาลเจ้ามีสวนร่มรื่นและสระน้ำเล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสงบ เหมาะสำหรับการเดินเล่นช้า ๆ หรือหยุดพักจิบชาในบรรยากาศย้อนยุค ใครที่รักเรื่องราวของขงเบ้งหรืออยากสัมผัสกลิ่นอายสามก๊กแบบใกล้ชิด ที่นี่คือจุดหมายที่ห้ามพลาดค่ะ
📍ที่อยู่: No. 231 Wuhouyu Street, Wuhou District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 09:00-18:00 น.(เข้าชมได้จนถึงเวลา 17:00 น.)
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-85535951
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-3 ชั่วโมง
ซอยกว้าง–แคบ (Kuanzhai Alley)

ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองเฉิงตูแบบช้า ๆ แต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ต้องไม่พลาดมาเดินเล่นที่ ซอยกว้าง–แคบ (Kuanzhai Alley) ค่ะ! ที่นี่เป็นย่านเก่าแก่ที่บูรณะจากสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ชิง ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยได้อย่างลงตัว
ระหว่างทางคุณจะได้พบกับร้านค้าท้องถิ่น คาเฟ่เก๋ ๆ และร้านอาหารเสฉวนกลิ่นหอมเตะจมูก เดินเพลิน ๆ ก็มีมุมถ่ายรูปน่ารักอยู่แทบทุกมุม โดยเฉพาะผนังอิฐสีเทาและหน้าต่างไม้เก่า ที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นเฉิงตูไว้อย่างงดงาม
ช่วงกลางวันจะคึกคักด้วยนักท่องเที่ยว ส่วนตอนเย็นบรรยากาศจะโรแมนติกเป็นพิเศษ เมื่อแสงไฟส่องลอดออกจากหน้าต่างร้านชาและโคมแดงเรียงรายตลอดซอย เหมาะสำหรับเดินเล่น หาของอร่อยกิน หรือแวะจิบชาร้อนชมผู้คนชิล ๆ — เหมือนได้สัมผัสหัวใจของวิถีชีวิตเฉิงตูจริง ๆ
📍ที่อยู่: Kuanzhai Alley, Jinhe Road, Qingyang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: เปิดตลอดทั้งปี ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-86259233 | 028-66355355
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-3 ชั่วโมง
พิพิธภัณฑ์เฉิงตู (Chengdu Museum)

ถ้าอยากรู้จักเฉิงตูให้มากขึ้น ก็ต้องมาที่ พิพิธภัณฑ์เฉิงตู (Chengdu Museum) แห่งนี้เลยค่ะ! ที่นี่คือแหล่งรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองตั้งแต่อดีตกว่า 3,000 ปีจนถึงปัจจุบัน ผ่านการจัดแสดงที่ทันสมัยและเข้าใจง่าย เหมาะกับทั้งสายประวัติศาสตร์ ศิลปะ และคนที่อยากรู้จักเฉิงตูให้มากขึ้น
ภายในมีนิทรรศการหลากหลาย ทั้งโบราณวัตถุจากอาณาจักรชู เครื่องปั้นดินเผา ทองสัมฤทธิ์ ไปจนถึงเครื่องแต่งกายโบราณอันประณีต นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงมัลติมีเดียสุดอลังการ ที่ทำให้เรื่องราวในอดีตมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง เด็ก ๆ จะต้องชอบ ส่วนผู้ใหญ่ก็ดูเพลินแน่นอนค่ะ
ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้จัตุรัสเทียนฝู (Tianfu Square) และ Jincheng Art Palace เดินทางง่ายและเหมาะสำหรับจัดไว้ในโปรแกรมเที่ยวในเมือง เฉิงตูหนึ่งวัน
📍ที่อยู่: No. 1 Xiaohe Street, Qingyang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 09:00-17:00 น. (เข้าชมได้จนถึงเวลา 16:30 น. )
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-68277011
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-4 ชั่วโมง
โรงละครชูฟงยาหยุนฉวน (Shufeng Yayun Sichuan Opera House)

ถ้าอยากสัมผัสเสน่ห์ศิลปะพื้นบ้านของเฉิงตูแบบต้นฉบับ ต้องมาชมการแสดงที่ โรงละครชูฟงยาหยุนฉวน (Shufeng Yayun) เลยค่ะ! ที่นี่คือโรงละครเก่าแก่ที่รวบรวมศิลปะการแสดงดั้งเดิมของมณฑลเสฉวนไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่งิ้วเสฉวนชื่อดัง ดนตรีพื้นบ้าน ไปจนถึงการแสดง “เปลี่ยนหน้า” หรือ Bian Lian ที่ขึ้นชื่อเรื่องความรวดเร็วและน่าตื่นตาตื่นใจสุด ๆ
ถึงจะไม่เข้าใจภาษาจีนก็ไม่ต้องห่วง เพราะทุกการแสดงเต็มไปด้วยพลัง สีสัน และอารมณ์ที่สื่อสารผ่านการแสดงได้อย่างลงตัว ผู้ชมส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดูเพลินจนลืมเวลา!”
การแสดงใช้เวลาประมาณ 90 นาที เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งการร่ายรำ ดนตรี หุ่นกระบอก และโชว์ตลกแทรกเสียงหัวเราะตลอดงาน ถ้าอยากได้บรรยากาศสุดพิเศษ แนะนำจองที่นั่ง VIP จะได้เห็นการเปลี่ยนหน้าระยะใกล้และเพลิดเพลินกับชาเสฉวนระหว่างชมอีกด้วย
📍ที่อยู่: No.132 Qintai Road, Qingyang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 14:00-21:30 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-86081908
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-3 ชั่วโมง
วิหารเหวินซู (Wenshu Yuan Monastery)

หนึ่งในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสงบกลางเมืองเฉิงตูต้องยกให้ วิหารเหวินซู (Wenshu Yuan Monastery) เลยค่ะ วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาที่สำคัญของมณฑลเสฉวน และเป็นหนึ่งในวัดที่ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดในเฉิงตู บรรยากาศภายในเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยอาคารไม้โบราณ กลิ่นธูปหอมอ่อน ๆ และเสียงระฆังเบา ๆ ที่ช่วยให้จิตใจสงบอย่างน่าประหลาด
นอกจากความงดงามทางสถาปัตยกรรมแบบจีนดั้งเดิมแล้ว ภายในยังมีสวนหย่อมร่มรื่นให้เดินเล่น และร้านอาหารมังสวิรัติชื่อดังที่เสิร์ฟอาหารเจรสเลิศจนคนท้องถิ่นยังต้องต่อคิว! ที่นี่จึงไม่เพียงเป็นสถานที่สักการะ แต่ยังเป็นจุดพักผ่อนที่ให้คุณสัมผัสเสน่ห์ของเฉิงตูในมุมที่เงียบและเรียบง่ายที่สุด
📍ที่อยู่: No. 66 Wenshuyuan Street, Qingyang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 08:00-17:00 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-86930623 | 028-86662375
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 1-2 ชั่วโมง
ถนนคนเดินชุนซี (Chunxi Road)

ถ้ามาเฉิงตูแล้วไม่ได้แวะ ถนนคนเดินชุนซี (Chunxi Road) บอกได้เลยว่าเหมือนยังมาไม่ถึง! ที่นี่คือสวรรค์ของสายช้อปตัวจริง เพราะเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ แบรนด์ดังระดับโลก และร้านแฟชั่นท้องถิ่นที่เรียงรายตลอดสองฝั่งถนน เดินเพลินได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อเลยค่ะ
ย่านนี้ไม่มีรถยนต์สัญจร ทำให้เดินช้อปได้สบาย ๆ และปลอดภัยสุด ๆ ระหว่างทางยังมีร้านกาแฟเก๋ ๆ ให้แวะพัก และร้านอาหารเสฉวนรสเด็ดที่กลิ่นลอยมาแต่ไกล
ช่วงเย็นหลังเลิกงานคือเวลาที่ถนนสายนี้คึกคักที่สุด เต็มไปด้วยแสงไฟ ป้ายโฆษณา และเสียงดนตรีที่ทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวา
📍ที่อยู่: Chunxi Road,Jinjiang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: -
📞เบอร์โทรติดต่อ: -
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 1-2 ชั่วโมง
วัดต้าฉือ (Daci Temple)

ถ้าอยากสัมผัสเฉิงตูในมุมสงบแต่ยังแฝงไปด้วยสีสันของชีวิตเมือง ต้องแวะมาที่ วัดต้าฉือ (Daci Temple) ค่ะ วัดเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตจิ้นเจียง ใจกลางเมืองเฉิงตู มีประวัติยาวนานกว่า 1,600 ปี ตั้งแต่สมัยราชวงศ์เว่ยและจิ้น เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และทรงคุณค่าที่สุดของมณฑลเสฉวนเลยทีเดียว
ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ทางศาสนา แต่ยังเป็นจุดรวมตัวของผู้คนในท้องถิ่น ทั้งนักท่องเที่ยว ชาวเมือง และผู้แสวงหาความสงบ วัดต้าฉือยังได้รับฉายาว่า “ป่าหมายเลข 1 ของจีน” (The No.1 Forest Temple in China) เพราะความงดงามของต้นไม้ใหญ่และบรรยากาศร่มรื่นที่รายล้อม
นอกจากโบสถ์เก่าและสถาปัตยกรรมแบบบ้านเสฉวนตะวันตกที่ยังคงสภาพดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี รอบวัดยังมีตลาด ร้านน้ำชา และคาเฟ่เล็ก ๆ ให้แวะพัก ชวนให้เดินเล่นชมวิถีชีวิตแบบเฉิงตูที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
📍ที่อยู่: No. 23, Dacisi Road, Jinjiang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 08:00-21:00 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-86658341
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 1-2 ชั่วโมง
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติเฉิงตู (Chengdu Natural History Museum)

สำหรับคนรักธรรมชาติและเรื่องราวของโลกยุคโบราณ บอกเลยว่าห้ามพลาด พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติเฉิงตู (Chengdu Natural History Museum) แห่งนี้เด็ดขาด! ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับโลกของเราอย่างครบถ้วน ตั้งแต่การกำเนิดสิ่งมีชีวิตยุคดึกดำบรรพ์ไปจนถึงวิวัฒนาการของสัตว์และมนุษย์
ภายในเต็มไปด้วยฟอสซิลไดโนเสาร์ขนาดยักษ์ ซากสิ่งมีชีวิตโบราณ แร่ธาตุหายาก รวมถึงนิทรรศการมัลติมีเดียที่เล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างน่าตื่นตา เด็ก ๆ จะชอบมาก ส่วนผู้ใหญ่ก็ดูเพลินเพราะได้ทั้งความรู้และความอลังการในเวลาเดียวกัน
บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์กว้างขวาง เดินชมได้เรื่อย ๆ แบบไม่เบื่อ เหมาะสำหรับครอบครัว คู่รัก หรือใครที่อยากพักจากความคึกคักของตัวเมืองมาหาความรู้และแรงบันดาลใจใหม่ ๆ
📍ที่อยู่: No. 88, Shilidian Road, Chenghua Avenue, Chenghua District, Chengdu, Sichuan
⏰เวลาทำการ: 09:00-17:00 น. (เข้าชมได้จนถึงเวลา 16:30 น., บัตรขายถึง 16:00 น.)
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-60828500
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 1-2 ชั่วโมง
พิพิธภัณฑ์แห่งมณฑลเสฉวน (Sichuan Museum)

อีกหนึ่งสถานที่ที่คนรักศิลปะและประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเฉิงตูก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งมณฑลเสฉวน (Sichuan Museum) แห่งนี้ค่ะ พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมของมณฑลเสฉวน ตั้งแต่โบราณวัตถุยุคราชวงศ์ฮั่นไปจนถึงศิลปะพื้นบ้านร่วมสมัย จัดแสดงไว้อย่างสวยงามและเข้าใจง่าย
ภายในมีนิทรรศการมากกว่า 20 ห้อง ครอบคลุมทุกมิติของเสฉวน ทั้งเครื่องปั้นดินเผา ภาพวาดพู่กันจีนโบราณ ทองสัมฤทธิ์จากยุคก่อนประวัติศาสตร์ และงานศิลปะพื้นบ้านที่หาชมได้ยาก เดินชมไปก็จะได้เห็นวิวัฒนาการของวัฒนธรรมเสฉวนตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน เหมือนได้เดินทางย้อนเวลาไปในประวัติศาสตร์เลยค่ะ
บรรยากาศภายในสงบและเย็นสบาย เหมาะสำหรับการเดินชมอย่างเพลิดเพลิน เป็นจุดหมายที่ทั้งให้ความรู้และแรงบันดาลใจ เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยจริง ๆ
📍ที่อยู่: No. 251 Huanhua South Road, Qingyang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 09:00-17:00 น.(เข้าชมได้จนถึงเวลา 16:00)
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-65521888 | 028-65521569 | 028-65521555
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-3 ชั่วโมง
วังแพะเขียว หรือ วัดชิงหยางกง (Qingyang Palace)

อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยพลังสงบกลางเมืองเฉิงตูก็คือ วังแพะเขียว หรือ วัดชิงหยางกง (Qingyang Palace) วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของลัทธิเต๋าที่สำคัญที่สุดในประเทศจีน และเป็นสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างศาสนา ประวัติศาสตร์ และศิลปะได้อย่างลงตัว
ภายในวัดมีอาคารไม้เก่าแก่หลายหลังที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม รายล้อมไปด้วยสวนสวยและต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา บรรยากาศเงียบสงบจนรู้สึกเหมือนหลุดออกจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ จุดเด่นของที่นี่คือ “รูปปั้นแพะเขียว” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาและความกลมกลืนตามหลักเต๋า นักท่องเที่ยวหลายคนมักมาไหว้ขอพรเรื่องสุขภาพและสมดุลในชีวิต
นอกจากนี้ยังมีลานน้ำชาเล็ก ๆ ให้คุณนั่งพักจิบชาเบา ๆ พร้อมฟังเสียงนกร้อง เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เวลาช้า ๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศแห่งธรรมะและสถาปัตยกรรมจีนโบราณอย่างแท้จริง
📍ที่อยู่: No. 9, West Section 2, First Ring Road, Qingyang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 08:00-17:00 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-87766584
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 1-2 ชั่วโมง
สะพานอันชุน (Anshun Bridge)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กโรแมนติกของเฉิงตูที่พลาดไม่ได้คือ สะพานอันชุน (Anshun Bridge) หรือที่คนจีนเรียกว่า อันชุนหลางเฉียว ค่ะ สะพานแห่งนี้ทอดข้ามแม่น้ำจินเจียงใจกลางเมืองเฉิงตู โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนดั้งเดิม หลังคาทรงโค้งประดับด้วยโคมแดง เรียงรายส่องแสงระยิบระยับในยามค่ำคืนจนกลายเป็นภาพจำของเมืองเฉิงตูเลยก็ว่าได้
ตอนกลางวัน ที่นี่เป็นจุดเดินเล่นชมวิวแม่น้ำชิล ๆ แต่พอตกค่ำ บรรยากาศจะค่อนข้างโรแมนติก แสงไฟจากสะพานสะท้อนผิวน้ำสวยงามราวภาพวาด เหมาะสำหรับคู่รัก หรือคนที่ได้รูปปัง ๆ ลงโซเชียล
บริเวณรอบสะพานยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์โมเดิร์นที่มองเห็นวิวแม่น้ำได้ชัด โดยเฉพาะร้านบนสะพานที่เปิดเป็นร้านอาหารจีนสุดหรู เหมาะสำหรับดินเนอร์ใต้แสงไฟกับวิวสุดคลาสสิกของเฉิงตู
📍ที่อยู่: Binjiang E Rd, Jinjiang Qu, Chengdu Shi, Sichuan Sheng, China, 610061
⏰เวลาทำการ: เปิดตลอดทั้งปี ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
📞เบอร์โทรติดต่อ: -
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 1-2 ชั่วโมง
สวนสาธารณะประชาชนเฉิงตู (Chengdu People’s Park)

ถ้าอยากสัมผัส “ชีวิตประจำวันของคนเฉิงตู” แบบแท้จริง ต้องแวะที่ สวนสาธารณะประชาชนเฉิงตู (People’s Park) เลยค่ะ ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและความเป็นกันเองของชาวเฉิงตู บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะกับการเดินเล่นช้า ๆ สูดอากาศดี ๆ หรือจะนั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่ก็รู้สึกผ่อนคลายสุด ๆ
ไฮไลต์ของที่นี่คือร้านน้ำชาจีนแบบดั้งเดิมที่ตั้งอยู่กลางสวน คุณสามารถนั่งจิบชาไป ดูผู้คนเดินผ่านไปมา เพลินกับเสียงหัวเราะและบทสนทนาเบา ๆ — เรียกได้ว่าเป็น “ศิลปะแห่งการพักผ่อน” ที่คนเฉิงตูภาคภูมิใจ
ถ้าโชคดี คุณอาจได้เห็นคุณลุงคุณป้าเต้นรำ เล่นไพ่นกกระจอก หรือร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน เป็นภาพที่อบอุ่นและสะท้อนวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เร่งรีบของเมืองนี้ได้อย่างดี แค่ได้มาเดินเล่นที่นี่ ก็เหมือนได้สัมผัสจังหวะชีวิตของคนเฉิงตูจริง ๆ เลยค่ะ
📍ที่อยู่: No. 12, Shaocheng Road, Qingyang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 06:30-22:00 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-86132021
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-3 ชั่วโมง
พิพิธภัณฑ์แหล่งโบราณคดีจินซา (Jinsha Site Museum)

ถ้าอยากย้อนเวลาไปสัมผัสอารยธรรมโบราณของเสฉวน ต้องไม่พลาด พิพิธภัณฑ์แหล่งโบราณคดีจินซา (Jinsha Site Museum) ค่ะ ที่นี่คือสถานที่ขุดค้นทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเฉิงตู ซึ่งถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อปี 2001 และกลายเป็นขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่เผยให้เห็นร่องรอยของอารยธรรมโบราณเมื่อกว่า 3,000 ปีก่อน!
ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงโบราณวัตถุจำนวนมาก ทั้งเครื่องประดับ เครื่องปั้น และศิลปะจากทองคำและหยก โดยเฉพาะ “หน้ากากทองคำ” อันโด่งดัง ที่ถือเป็นไฮไลต์และสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ บอกเลยว่าได้เห็นของจริงแล้วต้องร้องว้าวแน่นอน!
พื้นที่จัดแสดงกว้างขวางและทันสมัย เดินชมได้อย่างสบาย ๆ พร้อมป้ายบรรยายภาษาอังกฤษเข้าใจง่าย เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและคนที่สนใจประวัติศาสตร์จริงจัง รอบ ๆ ยังมีสวนสวยให้เดินเล่นพักผ่อน บรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น
📍ที่อยู่: Chengdu Jinsha Site Museum, No. 2 Jinsha Site Road, Qingyang District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 09:00-18:00 น. (เข้าชมได้จนถึงเวลา 17:00 น.)
ตรวจสอบเวลาเปิด–ปิดล่าสุด/วันหยุด ได้ที่เว็บไซต์ทางการ Jinsha Site Museum ก่อนเดินทาง
📞เบอร์โทรติดต่อ: 02887303511 | 02887303522
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-3 ชั่วโมง
ที่เที่ยวธรรมชาติและรอบเมืองเฉิงตู
ภูเขาชิงเฉิง (Qingcheng Mountain)

ถ้าอยากหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองและสัมผัสธรรมชาติที่สงบแต่เปี่ยมมนต์ขลัง ต้องมาเยือน ภูเขาชิงเฉิง (Qingcheng Mountain) หนึ่งในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋าและเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อของมณฑลเสฉวนค่ะ
ภูเขาแห่งนี้รายล้อมด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบายตลอดปี เดินขึ้นไปตามทางจะพบ วัดเต๋าเก่าแก่ ซ่อนตัวอยู่กลางป่า สถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณผสานเข้ากับธรรมชาติได้อย่างงดงามราวภาพวาด บางมุมของเส้นทางยังมีหมอกบาง ๆ ลอยคลอให้ฟีลเหมือนอยู่ในซีรีส์กำลังภายในเลยค่ะ
วิวจากยอดเขานั้นคุ้มค่ากับทุกก้าวที่เดินขึ้นไปจริง ๆ เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองดูเจียงเอี้ยนและผืนป่าเขียวขจีได้สุดสายตา เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทั้งสายธรรมชาติและสายวัฒนธรรมไม่ควรพลาดเลยค่ะ
📍ที่อยู่: Qingcheng Mountain Scenic Spot, southwest of Dujiangyan City, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 08:30-17:00 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-87111907 | 028-87288159
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 0.5-1 วัน
ระบบชลประทานดูเจียงเอี้ยน (Dujiangyan Irrigation System)

ถ้าพูดถึงสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมของจีนโบราณที่ยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน ต้องยกให้ ระบบชลประทานดูเจียงเอี้ยน (Dujiangyan Irrigation System) แห่งนี้เลยค่ะ! แหล่งมรดกโลกอายุกว่า 2,000 ปีแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหมินเจียง สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน และยังคงทำหน้าที่ควบคุมน้ำและป้องกันน้ำท่วมให้พื้นที่เสฉวนมาจนถึงทุกวันนี้ ถือเป็นตัวอย่างอันชาญฉลาดของภูมิปัญญาจีนที่ผสมผสานธรรมชาติกับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว
ระหว่างเดินชมรอบ ๆ จะได้เห็นเขื่อน คลอง และประตูระบายน้ำโบราณที่ยังคงแข็งแรง พร้อมวิวภูเขาและแม่น้ำที่รายล้อมอย่างสวยงามสุดตา ยิ่งเดินขึ้นจุดชมวิวบนเนินเขา จะเห็นภาพมุมกว้างของทั้งระบบได้
นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวนอันโด่งดังให้ลองเดินข้าม ท้าทายความกล้าเบา ๆ พร้อมชมวิวธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำแบบใกล้ชิดสุด ๆ ใครที่รักประวัติศาสตร์หรืออยากสัมผัสธรรมชาติควบคู่กัน ที่นี่คือจุดหมายที่ห้ามพลาดเลยค่ะ
📍ที่อยู่: Park Road, Dujiangyan City, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 08:00-17:30 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-96526
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-4 ชั่วโมง
สวนแพนด้า Dujiangyan (China Giant Panda Garden)

สำหรับคนรักแพนด้าแบบสุดหัวใจ บอกเลยว่าต้องมาเยือน สวนแพนด้า Dujiangyan (China Giant Panda Garden) ให้ได้สักครั้งในชีวิตค่ะ! ที่นี่คือหนึ่งในศูนย์อนุรักษ์และวิจัยแพนด้าที่ใหญ่ที่สุดในจีน ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวชอุ่มของเมืองดูเจียงเอี้ยน ห่างจากตัวเมืองเฉิงตูไม่ไกล เดินทางสะดวกมาก
เมื่อเข้ามาภายในสวน คุณจะได้เห็นเหล่าแพนด้ายักษ์กำลังกินไผ่อย่างเอร็ดอร่อย กลิ้งเล่น หรือหลับพุงพลุ้ยอยู่ในลานไม้ไผ่ — ความน่ารักเกินต้านจนต้องหยิบกล้องขึ้นมารัวชัตเตอร์แทบไม่ทันเลยค่ะ ที่นี่ไม่ได้มีแค่ชมความน่ารักเท่านั้น แต่ยังมีนิทรรศการให้ความรู้เรื่องการอนุรักษ์แพนด้า และกิจกรรมให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตและการดูแลสัตว์อนุรักษ์เหล่านี้อย่างใกล้ชิดด้วย
บรรยากาศรอบ ๆ ร่มรื่น สดชื่น และเต็มไปด้วยเสียงนกและสายลมอ่อน ๆ เหมาะสำหรับเดินเล่นพักผ่อน ใช้เวลาช้า ๆ กับธรรมชาติและเหล่าแพนด้าอย่างเต็มที่ค่ะ
📍ที่อยู่: Guanyinyuan, Dujiangyan City, Chengdu (between Qingchengshan Town and Daguan Town, Huaizhong Road)
⏰เวลาทำการ: 08:30-17:00 น.(เข้าชมได้จนถึงเวลา 16:30 น.)
📞เบอร์โทรติดต่อ: 19136072640
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-3 ชั่วโมง
ภูเขาหิมะซีหลิง (Xiling Snow Mountain)

ภูเขาหิมะซีหลิงคือดินแดนแห่งหิมะสุดอลังการของเฉิงตู ที่ไม่ว่าใครได้มาก็ต้องหลงรัก! ตั้งอยู่ในเขตต้าฮี มณฑลเสฉวน ห่างจากตัวเมืองเฉิงตูเพียงประมาณ 95 กิโลเมตร ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ภูเขาหิมะสุดตระการตา โดยมียอดเขา Snow Pond สูงถึง 5,364 เมตร ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนเกือบตลอดทั้งปี
ฤดูหนาวที่นี่คือช่วงเวลาที่สวยที่สุด อุณหภูมิจะลดลงจนถึงประมาณ –10 องศาเซลเซียส และหิมะจะเริ่มตกตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมไปจนถึงมีนาคม เหมาะสำหรับกิจกรรมสุดสนุกอย่าง สกี สโนว์บอร์ด หรือจะเดินเล่นชมวิวหิมะก็เพลินสุด ๆ เลยค่ะ
📍ที่อยู่: Xiling Snow Mountain Scenic Area, Xiling Town, Dayi County, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 10:00-18:00 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-88309080
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 1 วัน
เมืองโบราณลั่วไต้ (Luodai Ancient Town)

เมืองโบราณลั่วไต้ คือย่านเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และชีวิตชีวา หนึ่งในสถานที่ที่ทำให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมของชาวฮากกาอย่างแท้จริง เมืองนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเฉิงตู เดินทางเพียงชั่วโมงเศษ ๆ ก็จะได้พบกับถนนหินโบราณ อาคารไม้เก่า และกลิ่นอายของอดีตที่ยังคงอบอวลอยู่ในทุกมุมทาง
เดินเล่นไปตามตรอกซอกซอยจะเห็นบ้านเรือนแบบฮากกาที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมเรียบง่ายแต่งดงาม พร้อมร้านน้ำชาและร้านขายของพื้นเมืองเรียงรายสองข้างทาง เสียงพูดคุยของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยพลังและความอบอุ่นแบบเฉิงตูแท้ ๆ
นอกจากนี้ยังมีของกินอร่อยเพียบ ทั้งขนมพื้นเมือง เสี่ยวหลงเปา และอาหารเสฉวนรสจัดจ้านให้เลือกลองไม่รู้จบ ถ้าใครกำลังมองหาที่เที่ยวชิลล์ ๆ ที่ได้ทั้งเดินเล่น ถ่ายรูป และเรียนรู้วัฒนธรรมจีนเก่าแก่ไปพร้อมกัน — เมืองโบราณลั่วไต้คือตอบโจทย์ค่ะ
📍ที่อยู่: Luodai Town, Longquanyi District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: เปิดตลอดทั้งปี ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-84893693 | 028-84892584 | 028-84893729
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 2-4 ชั่วโมง
วัดเป่ากวง (Baoguang Temple)

วัดเป่ากวงเป็นวัดเก่าแก่ที่แผ่กลิ่นอายความสงบและศรัทธามาตลอดหลายร้อยปี ที่นี่ตั้งอยู่ในเขตซินตูของเฉิงตู เป็นวัดสำคัญที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมจีนสุดงดงามและบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่อยากพักใจและสัมผัสความเรียบง่ายของวิถีชาวพุทธ
เดินผ่านประตูวัดเข้าไปจะได้เห็นเจดีย์เก่าแก่ ศาลาไม้แกะสลักอย่างประณีต และต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นที่ให้ร่มเงาทั่วบริเวณ บรรยากาศภายในสงบจนแทบได้ยินเสียงลมพัดผ่านใบไม้ ใครที่ชอบถ่ายรูปแนววัดเก่าหรือมุมธรรมชาติ ที่นี่มีมุมสวย ๆ ให้เก็บภาพได้แทบทุกก้าวเลยค่ะ
ถ้าอยากหาสถานที่หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองเฉิงตูสักพัก วัดเป่ากวงคือคำตอบ — ที่ที่คุณจะได้ทั้งพักกาย พักใจ และซึมซับความงดงามของวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง
📍ที่อยู่: Baoguang Temple, No. 80, Middle Section of Baoguang Avenue, Xindu District, Chengdu
⏰เวลาทำการ: 08:00-17:30 น.
📞เบอร์โทรติดต่อ: 028-83972247
🚶เวลาแนะนำในการเที่ยวชม: 1-2 ชั่วโมง
🎫 ราคาตั๋ว: ตั๋วธรรมดา 5 RMB
เฉิงตูไม่ใช่แค่บ้านของแพนด้ายักษ์สุดน่ารัก แต่คือเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตและเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งรสชาติอาหารสุดจี๊ดแบบเสฉวน วัฒนธรรมเก่าแก่ที่ยังมีลมหายใจ และผู้คนที่ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายแต่มีสีสัน จากถนนโบราณจิ่นหลี่ที่คึกคัก ไปจนถึงภูเขาหิมะซีหลิงที่ขาวโพลนราวกับโลกอีกใบ ทุกมุมของเฉิงตูล้วนมีเรื่องราวให้ค้นหา ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกิน สายชิล หรือสายธรรมชาติ เมืองนี้ก็พร้อมมอบความประทับใจในแบบของคุณเสมอ
ปี 2568 นี้ ลองให้ “เฉิงตู” เป็นจุดหมายต่อไปในแผนการเดินทางของคุณดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมใคร ๆ ถึงบอกว่า... เมืองนี้คือ “หัวใจแห่งเสฉวน” อย่างแท้จริง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับที่เที่ยวเฉิงตู
ไปเฉิงตูเดือนไหนดีที่สุด?
ช่วงที่เหมาะที่สุดคือ เดือนมีนาคม–พฤษภาคม และ กันยายน–พฤศจิกายน เพราะอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนจัดหรือหนาวเกินไป เหมาะกับการเดินเที่ยวและชมธรรมชาติที่สุดค่ะควรใช้เวลากี่วันถึงจะเที่ยวเฉิงตูได้ครบ?
ถ้ามีเวลา 3–5 วันถือว่ากำลังดีเลยค่ะ ใช้เวลาในตัวเมือง 2–3 วัน และเผื่ออีก 1–2 วันสำหรับเที่ยวรอบนอก เช่น ภูเขาชิงเฉิงหรือระบบชลประทานดูเจียงหยานเดินทางในเฉิงตูสะดวกไหม?
สะดวกมากค่ะ เฉิงตูมีรถไฟใต้ดินครอบคลุมทั่วเมือง มีทั้งรถบัส แท็กซี่ และบริการเช่าจักรยานสำหรับปั่นชมเมือง เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์เลยต้องขอวีซ่าก่อนไปเฉิงตูไหม?
ตอนนี้คนไทย ไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวในจีน รวมถึงเฉิงตูด้วยนะคะ สามารถพำนักได้สูงสุด ไม่เกิน 30 วัน ภายใต้มาตรการ ยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับคนไทย ที่ยังคงมีผลในปี 2568 นี้ค่ะ เพียงแค่เตรียมพาสปอร์ตที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน และตั๋วขากลับหรือหลักฐานการเดินทางต่อก็พร้อมบินได้เลยเฉิงตูมีอะไรน่าซื้อกลับบ้านบ้าง?
ของฝากยอดนิยมคือ ชาเสฉวน ขนมท้องถิ่น พริกเสฉวน และของที่ระลึกแพนด้า ซึ่งหาซื้อได้ตามถนนคนเดินชุนซีหรือถนนโบราณจิ่นหลี่ค่ะ



