
ใครที่กำลังวางแผนไปญี่ปุ่นด้วยตัวเองปี 2568 โดยมี “โตเกียว” เป็นจุดหมายแรก บทความนี้คือคู่มือที่คุณต้องอ่านก่อนเก็บกระเป๋า เพราะเรารวมทุกอย่างไว้ครบสำหรับคนที่อยากเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง ตั้งแต่ แผนเที่ยว 5 วัน 4 คืน แบบเดินทางจริงได้เลย, งบประมาณต่อคน, ที่พักทำเลดี, วิธีเดินทางในเมือง ไปจนถึง 10 ที่เที่ยวสุดฮิต ที่ไปแล้วต้องแวะเช็กอิน
ไม่ว่าคุณจะไปญี่ปุ่นครั้งแรก หรือกลับไปเที่ยวโตเกียวอีกครั้ง บทความนี้จะช่วยให้วางแผนง่ายขึ้น สนุกกว่าเดิม และพร้อมบินลุยญี่ปุ่นปี 2568 แบบไม่ต้องง้อทัวร์แน่นอน
การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวโตเกียว ญี่ปุ่น

📅 เที่ยวโตเกียวเดือนไหนดีที่สุด
โตเกียวเที่ยวได้ตลอดปี เพราะแต่ละฤดูกาลมีเสน่ห์ต่างกัน
ฤดู | ช่วงเดือน | จุดเด่น | บรรยากาศโดยรวม |
|---|---|---|---|
🌸ใบไม้ผลิ | มี.ค.–พ.ค. | ซากุระบานทั่วเมือง เหมาะกับถ่ายรูป | อากาศเย็นสบาย ไม่หนาวจัด |
☀️ ฤดูร้อน | มิ.ย.–ส.ค. | เทศกาลฤดูร้อน พลุดอกไม้ไฟทั่วประเทศ | ร้อนชื้น ควรพกหมวกและครีมกันแดด |
🍁 ใบไม้ร่วง | ก.ย.–พ.ย. | ใบไม้เปลี่ยนสีสวยทั่วสวนและวัด | อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการเดินเล่น |
❄️ ฤดูหนาว | ธ.ค.–ก.พ. | บรรยากาศคริสต์มาสและปีใหม่ | หนาวจัด ควรเตรียมเสื้อกันหนาวหนา ๆ |
💡 เคล็ดลับ: ถ้าเน้นถ่ายรูปซากุระ ไปช่วงปลายมีนาคมถึงต้นเมษายนดีที่สุด
👔 เที่ยวโตเกียวแต่งตัวยังไงดี
สภาพอากาศโตเกียวเปลี่ยนชัด 4 ฤดู การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะจะช่วยให้เที่ยวสบายตลอดวัน
ฤดู | อุณหภูมิโดยเฉลี่ย | เสื้อผ้าแนะนำ |
|---|---|---|
🌸 ใบไม้ผลิ (มี.ค.–พ.ค.) | 10–20°C | เสื้อแขนยาวหรือเสื้อสเวตเตอร์บาง ๆ + แจ็กเก็ตบาง รองเท้าใส่สบาย พกร่มพับ |
☀️ ฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.) | 20–35°C | เสื้อผ้าบางระบายอากาศดี กางเกงขาสั้น หมวก แว่นกันแดด และครีมกันแดด |
🍁 ใบไม้ร่วง (ก.ย.–พ.ย.) | 15–25°C | เสื้อแขนยาว แจ็กเก็ตบาง กางเกงขายาว ใส่เลเยอร์ได้ตามอุณหภูมิ |
❄️ ฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.) | 0–10°C | เสื้อกันหนาวหนา โค้ตดาวน์ หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ และรองเท้าบูท |
💡 เคล็ดลับ: แนะนำพกเสื้อคลุมบางติดตัวไว้เสมอ เพราะอากาศตอนเช้าและกลางคืนต่างกันมาก โดยเฉพาะช่วงใบไม้ร่วงและใบไม้ผลิ
ถ้าอยากดูตารางเทศกาลหรือกิจกรรมตามฤดูกาลในโตเกียวเพิ่มเติม สามารถเช็กข้อมูลล่าสุดได้ที่ เว็บไซต์ทางการขององค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JNTO)
วีซ่าญี่ปุ่นสำหรับคนไทย
นักท่องเที่ยวไทย ไม่ต้องขอวีซ่า หากพำนักในญี่ปุ่น ไม่เกิน 15 วัน แต่ถ้าวางแผนอยู่เกิน 15 วัน หรือมีวัตถุประสงค์อื่น เช่น เรียนระยะสั้นหรือทำงานชั่วคราว ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้า
📍อ่านรายละเอียดขั้นตอนทั้งหมดได้ในบทความ คู่มือขอวีซ่าญี่ปุ่น 2568 สำหรับคนไทย - รวมประเภทวีซ่า เอกสารที่ต้องใช้ และเคล็ดลับยื่นผ่านง่ายในรอบเดียว
สรุป
- ไปช่วง มี.ค.–พ.ค. ซากุระสวย / ต.ค.–พ.ย. ใบไม้แดงกำลังดี
- แต่งตัวเป็นเลเยอร์ ถอดง่ายเวลาเข้าอาคาร
- คนไทยเที่ยวไม่เกิน 15 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า
- จองไฟลต์และที่พักล่วงหน้า 2–3 เดือน จะได้ราคาดีกว่า
ไปเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเองจะใช้งบเท่าไหร่
ทริปเที่ยวโตเกียว 5 วัน 4 คืนไม่ต้องใช้งบเยอะอย่างที่คิด เพราะถ้าวางแผนดีตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ไปจนถึงบัตรรถไฟ ค่าใช้จ่ายต่อคนจะอยู่ที่ประมาณ 25,000–45,000 บาท เท่านั้น ไม่ต้องใช้งบเยอะก็เก็บแลนด์มาร์กหลัก ๆ ของโตเกียวได้ครบแน่นอน
สรุปงบประมาณเบื้องต้น (ต่อคน)
รายการ | ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ | หมายเหตุ / เคล็ดลับ |
|---|---|---|
ตั๋วเครื่องบิน (ไป–กลับ) | 8,000 – 30,000 บาท | โลว์ซีซั่น (ม.ค.–ก.พ., พ.ค., ก.ย.–พ.ย.) ราคาจะอยู่ช่วง 8,000–15,000 บาท ส่วนช่วงพีค (ธ.ค., เม.ย., ก.ค.–ส.ค.) จะขยับขึ้นเป็น 15,000–30,000 บาท ถ้าจองล่วงหน้า 2–3 เดือน และเลือกวันเดินทางยืดหยุ่นจะได้ราคาดีกว่า |
ที่พัก (ต่อคืน/คน) | 3,000 – 5,500 บาท | โรงแรมระดับ 3–4 ดาว หรือบูทีคโฮเทลทำเลดีในย่านยอดนิยมอย่างชินจูกุ อุเอโนะ และอาซากุสะ มักได้ราคาคุ้มที่สุดถ้าจองล่วงหน้าในช่วงโลว์ซีซั่น |
ค่าเดินทางในเมือง | 1,000 – 3,000 บาท | นั่งรถไฟใต้ดินและ JR เป็นหลัก แนะนำซื้อ Tokyo Subway Ticket แบบ 24–72 ชม. (เริ่มต้น 800 เยน) จะคุ้มมากถ้าเที่ยวหลายโซนในวันเดียว ก่อนเดินทาง แนะนำให้วางแผนเส้นทางด้วย แผนที่รถไฟใต้ดินโตเกียวจากเว็บไซต์ทางการ Tokyo Metro จะช่วยให้วางแผนเที่ยวได้ง่ายและประหยัดเวลา |
อาหารและของกิน | 4,000 – 7,000 บาท | มื้อกลางวันเฉลี่ย 300–700 เยน มื้อเย็น 1,000–2,000 เยน/คน ถ้าเน้นร้านท้องถิ่นหรือคอนบินิก็ประหยัดได้เยอะ |
ค่าเข้าสถานที่ / กิจกรรม | 1,000 – 3,000 บาท | เช่น ตั๋วเข้าชม Tokyo Tower, teamLab, พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ หรือสวนสนุก |
อินเทอร์เน็ต (eSIM / SIM / Pocket Wi-Fi) | 300 – 800 บาท | เลือกตามความสะดวกของแต่ละคน eSIM เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเปลี่ยนซิม |
อื่น ๆ / ของฝาก | 1,000 – 3,000 บาท | แล้วแต่สไตล์การช้อป (แนะนำเผื่อไว้ดีกว่า) |
💡 รวมทั้งหมดประมาณ: 25,000 – 45,000 บาท / คน (5 วัน 4 คืน)
ราคานี้ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร เดินทาง และค่าเข้าชมสถานที่หลัก ๆ
ตัวอย่างงบตามจำนวนวัน (บาท / คน)
ระยะเวลา | ตั๋วเครื่องบิน | ที่พัก | เดินทางในเมือง | รวมโดยประมาณ |
|---|---|---|---|---|
3 วัน 2 คืน | 17,600 | 3,240 | 315 | ≈ 21,000 บาท |
4 วัน 3 คืน | 17,600 | 4,860 | 540 | ≈ 27,000 บาท |
5 วัน 4 คืน | 17,600 | 6,525 | 765 | ≈ 30,000 บาท |
หมายเหตุ: ตัวเลขเหล่านี้เป็นค่าเฉลี่ยจากทริปจริงของนักท่องเที่ยวไทย ใช้เป็นแนวทางวางแผนงบประมาณคร่าว ๆ ได้ดีเลยค่ะ
สรุป
- ถ้าอยากคุมงบให้คุ้มที่สุด → จองตั๋ว + ที่พักล่วงหน้า 2–3 เดือน
- เที่ยวหลายย่านในวันเดียว → ใช้บัตร Tokyo Subway Ticket
- เน้นประหยัดแต่ไม่ลำบาก → เลือกที่พักย่านอุเอโนะหรืออาซากุสะ
- เผื่อเงินสดไว้เล็กน้อยสำหรับร้านที่ไม่รับบัตร (บางร้านในอาซากุสะหรือย่านท้องถิ่น)
แนะนำแผนเที่ยวโตเกียว
ไม่ว่าจะมีเวลาแค่ 3 วัน หรืออยากเที่ยวให้เต็มอิ่ม 5 วัน 4 คืน เราได้รวมตัวอย่างแผนเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเองไว้ให้ครบทุกสไตล์ ช่วยให้วางแผนง่าย เที่ยวจริงได้แบบไม่หลงทาง
เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน
เหมาะสำหรับ: คนที่มีเวลาน้อย อยากเก็บแลนด์มาร์กหลัก ๆ ของโตเกียว
วันที่ | เส้นทางแนะนำ |
|---|---|
Day 1 | ออกเดินทางจากประเทศไทย → ถึงสนามบินนาริตะ → ชินจูกุเกียวเอ็น → เดินเล่นย่าน คาบุกิโจ |
Day 2 | โตเกียวสกายทรี → วัดเซ็นโซจิ (อาซากุสะ) → อากิฮาบาระ อิเล็กทริกทาวน์ → ปิดท้ายที่ Shibuya Sky |
Day 3 | ศาลเจ้าเมจิ → สวนโยโยกิ → ฮาราจูกุ → กลับสนามบินนาริตะ → กลับไทย |
เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง 4 วัน 3 คืน
เหมาะสำหรับ: เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เวลาเพิ่มอีกหน่อย ทั้งเที่ยวสวนสนุกและช้อปปิ้งให้จุใจ
วันที่ | เส้นทางแนะนำ |
|---|---|
Day 1 | เดินทางจากไทย → ถึงโตเกียว → ชินจูกุเกียวเอ็น → เดินเล่น คาบุกิโจ |
Day 2 | เต็มที่กับ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ทั้งวัน หรือ ดิสนีย์ซี |
Day 3 | โตเกียวสกายทรี → วัดเซ็นโซจิ → อากิฮาบาระ → Shibuya Sky |
Day 4 | ศาลเจ้าเมจิ → สวนโยโยกิ → ฮาราจูกุ → สนามบินนาริตะ → กลับไทย |
เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง 5 วัน 4 คืน
เหมาะสำหรับ: คนที่อยากจัดทริปเที่ยวญี่ปุ่นแบบเต็มอิ่ม เก็บครบทั้งในเมืองและย่านชานเมือง
วันที่ | เส้นทางแนะนำ |
|---|---|
Day 1 | เดินทางจากไทย → ถึง สนามบินนาริตะหรือฮาเนดะ → เข้าพัก → เดินเที่ยว สถานีโตเกียว – ถนนอิจิบัง → ชมวิว โตเกียวทาวเวอร์ → เดินเล่น รปปงงิ |
Day 2 | ศาลเจ้าเมจิจิงกู → โอโมเตะซันโด → ถนนทาเคชิตะ ฮาราจูกุ → สวนโยโยกิ → ชินจูกุ/คาบุกิโจ |
Day 3 | เช้า: ลองซูชิสด ๆ ที่ ตลาดโทโยสุ → บ่าย: เที่ยว โอไดบะ และ สวนริมทะเล → เย็น: ชมงานศิลป์ที่ teamLab Borderless |
Day 4 | สวนอุเอโนะ → เดินตลาด อาเมะโยโกะโจ → ไหว้พระที่ วัดเซ็นโซจิ (คามินาริมง) → สวนสุมิดะ → โตเกียวสกายทรี |
Day 5 | ช้อปของฝากที่ Tokyo Station / Ginza → เดินทางสู่สนามบินนาริตะหรือฮาเนดะ → กลับไทย |
ถ้ามีเวลาเพิ่ม (Day Trip จากโตเกียว)
สำหรับคนที่เคยมาโตเกียวแล้วหรืออยากออกไปชานเมืองลองเพิ่ม “ทริปหนึ่งวันจากโตเกียว (Day Trip)” เช่น
- ฟูจิ–คาวากุจิโกะ ชมวิวภูเขาไฟและทะเลสาบ
- คามาคุระ เมืองเก่าริมทะเล บรรยากาศสงบ
- คารุอิซาวะ เมืองตากอากาศสุดโรแมนติก
💡 เคล็ดลับ: ทุกเส้นทางสามารถปรับตามเวลาบินและฤดูกาลได้ง่ายมาก แนะนำให้ใช้ Google Maps เพื่อเช็กเวลาเดินทางระหว่างสถานที่ก่อนวางแพลนจริง
ตั๋วเครื่องบินราคาถูกไปโตเกียว
ตอนนี้การบินไปโตเกียวไม่แพงอย่างที่คิดเลย เพราะหลายสายการบินมีโปรโมชั่นออกมาแทบทุกเดือน ด้านล่างนี้คือตัวอย่างราคาตั๋วเครื่องบินไป–กลับจากกรุงเทพฯ สู่โตเกียว (ทั้งสนามบินนาริตะและฮาเนดะ) ที่อัปเดตตามแนวโน้มล่าสุด ราคาจริงอาจแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาเดินทางและโปรโมชั่นในแต่ละช่วงค่ะ
สายการบิน | ประเภทที่นั่ง | ควรจองล่วงหน้า | ช่วงราคาโดยประมาณ (บาท) | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|
Thai Airways | ชั้นประหยัด | 2–3 เดือน | 8,000–12,000 | เที่ยวบินตรง สะดวก บริการดี |
Japan Airlines (JAL) | ชั้นประหยัด | 2–3 เดือน | 10,000–15,000 | เที่ยวบินตรง อาหารอร่อย บริการพรีเมียม |
ANA (All Nippon Airways) | ชั้นประหยัด | 2–3 เดือน | 10,000–15,000 | เที่ยวบินตรง สายการบินญี่ปุ่นยอดนิยม |
Scoot | ชั้นประหยัด | 2–3 เดือน | 7,000–10,000 | ราคาประหยัด มีต่อเครื่อง |
Jetstar | ชั้นประหยัด | 2–3 เดือน | 6,000–9,000 | ราคาถูกสุด เหมาะกับสายลุย |
Singapore Airlines | ชั้นประหยัด | 2–3 เดือน | 12,000–18,000 | ต่อเครื่องที่สิงคโปร์ บริการดีเยี่ยม |
Vietnam Airlines | ชั้นประหยัด | 2–3 เดือน | 9,000–12,000 | ต่อเครื่องที่ฮานอยหรือโฮจิมินห์ |
AirAsia | ชั้นประหยัด | 2–3 เดือน | 8,000–11,000 | มีไฟลต์ตรงและต่อเครื่อง ราคาคุ้มค่า |
💡 เคล็ดลับ
- จองล่วงหน้า 2–3 เดือน จะได้ราคาดีกว่าช่วงใกล้วันเดินทาง
- เดินทางช่วงโลว์ซีซั่น (พ.ค.–มิ.ย. หรือ ก.ย.–พ.ย.) ราคามักถูกลงกว่าครึ่ง
- ใช้ฟีเจอร์ “แจ้งเตือนราคาตั๋ว” บน Trip.com แล้วให้ระบบช่วยตามดีลลดพิเศษให้อัตโนมัติ
- เที่ยวบินไป–กลับช่วงกลางสัปดาห์ (อังคาร–พฤหัสฯ) มักราคาดีกว่าสุดสัปดาห์
10 ที่เที่ยวโตเกียวห้ามพลาด
ใครมาโตเกียวครั้งแรก บอกเลยว่าห้ามพลาดแลนด์มาร์กเหล่านี้ Trip.com รวมที่เที่ยวโตเกียวยอดฮิตทั้งแนวคลาสสิกและสมัยใหม่ไว้ครบ
เที่ยวรอบเดียวได้ทั้งวิว เมือง วัด ศาลเจ้า คาเฟ่ และสวนสวย
1. โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)

ไอคอนสุดคลาสสิกของเมืองโตเกียว จุดชมวิวความสูงกว่า 333 เมตรที่มองเห็นเมืองได้รอบทิศ โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่แสงไฟสีส้มสวยงามที่สุด
📍 ที่อยู่: 4 Chome-2-8 Shibakoen, Minato, Tokyo
🕐 เวลาเปิด: 09:00–22:30 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 22:00 น.)
❌ วันปิดทำการ: ไม่มี
2. วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji Temple)

วัดเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว และเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพร จุดเด่นคือประตูสายฟ้า “คามินาริมง” และถนนนากามิเสะที่เต็มไปด้วยของกินและของฝากญี่ปุ่นแท้ ๆ
📍 ที่อยู่: 2-3-1 Asakusa, Taito City, Tokyo
🕐 เวลาเปิด: 06:00–17:00 น.
❌ วันปิดทำการ: ไม่มี
3. โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)

สวนสนุกระดับโลกที่เต็มไปด้วยโซนแฟนตาซีและคาแรกเตอร์ดิสนีย์สุดน่ารัก เหมาะกับทั้งครอบครัวและคู่รัก อย่าลืมจองตั๋วล่วงหน้าและเช็กเวลาพาเหรดกับพลุยามค่ำคืนก่อนเดินทาง
📍 ที่อยู่: 1-1 Maihama, Urayasu, Chiba
🕐 เวลาเปิด: 09:00–21:00 น.
❌ วันปิดทำการ: ไม่มี
4. ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing)

สัญลักษณ์แห่งความมีชีวิตชีวาของโตเกียว สี่แยกขนาดใหญ่ที่ผู้คนเดินข้ามถนนพร้อมกันกว่าพันคนต่อครั้ง แนะนำให้ขึ้นไปชมจากคาเฟ่ Starbucks Shibuya Tsutaya จะได้มุมสวยที่สุด
📍 ที่อยู่: 2-2-1 Dogenzaka, Shibuya, Tokyo
🕐 เวลาเปิด: ตลอดวัน
❌ วันปิดทำการ: ไม่มี
5. โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

หอคอยส่งสัญญาณที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและหนึ่งในหอคอยสูงสุดของโลก ภายในมีทั้งจุดชมวิว ร้านอาหาร และศูนย์การค้า Tokyo Solamachi ให้ช้อปต่อได้ครบจบในที่เดียว
📍 ที่อยู่: 1-1-2 Oshiage, Sumida City, Tokyo
🕐 เวลาเปิด: 09:00–22:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 21:00 น.)
❌ วันปิดทำการ: ไม่มี
6. ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)

ศาลเจ้ากลางเมืองที่ร่มรื่นและสงบ เป็นที่ประดิษฐานของจักรพรรดิเมจิและพระมเหสี จุดเด่นคือเสาไม้โทริขนาดใหญ่และป่าเมจิที่ปกคลุมทั่วบริเวณ เหมาะกับการเดินชมธรรมชาติใกล้ชิบูย่า
📍 ที่อยู่: 1-1 Yoyogi Kamizono-cho, Shibuya, Tokyo
🕐 เวลาเปิด: 05:00–18:00 น.
❌ วันปิดทำการ: ไม่มี
7. พิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Museum)

ดินแดนแห่งแอนิเมชันจากสตูดิโอจิบลิ ผลงานของ “ฮายาโอะ มิยาซากิ” ที่แฟน ๆ ต้องมาเยือน ภายในจัดแสดงผลงานจากเรื่องดังอย่าง Totoro และ Spirited Away (ห้ามถ่ายรูปภายใน)
📍 ที่อยู่: 1-1-83 Shimorenjaku, Mitaka, Tokyo
🕐 เวลาเปิด: 10:00–18:00 น.
❌ วันปิดทำการ: วันอังคาร
8. อุทยานแห่งชาติชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden)

สวนขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้เปลี่ยนสีตามฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงซากุระบานและใบไม้เปลี่ยนสี เป็นจุดพักผ่อนยอดนิยมของทั้งคนโตเกียวและนักท่องเที่ยว
📍 ที่อยู่: 11 Naitōmachi, Shinjuku City, Tokyo
🕐 เวลาเปิด: 09:00–19:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 18:30 น.)
❌ วันปิดทำการ: วันจันทร์
9. SHIBUYA SKY

จุดชมวิวบนดาดฟ้าอาคาร Shibuya Scramble Square ที่สามารถมองเห็นโตเกียวแบบ 360 องศา โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกที่สวยจนติดอันดับโลก
📍 ที่อยู่: 2-24-12 Shibuya, Shibuya-ku, Tokyo
🕐 เวลาเปิด: 10:00–22:30 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 21:20 น.)
❌ วันปิดทำการ: ไม่มี
10. สวนริมทะเลโอไดบะ (Odaiba Seaside Park)

สวนเทียมริมอ่าวโตเกียวที่มีวิวสวยสุดโรแมนติก มองเห็นสะพานเรนโบว์และเทพีเสรีภาพจำลอง ยามเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยอดนิยมของคู่รักและช่างภาพ
📍 ที่อยู่: Minato City, Tokyo 135-0091
🕐 เวลาเปิด: ตลอดวัน
❌ วันปิดทำการ: ไม่มี
ที่พักแนะนำสำหรับทริปโตเกียว
มาโตเกียวทั้งที การเลือกทำเลที่พักให้เหมาะช่วยประหยัดเวลาเดินทางได้เยอะสำหรับมือใหม่ แนะนำพักในย่าน ชินจูกุ, อุเอโนะ หรือ อาซากุสะ ที่เดินทางง่าย ใกล้แหล่งช้อปและรถไฟ
ย่าน | เหมาะกับใคร | โรงแรมแนะนำ |
|---|---|---|
ชินจูกุ (Shinjuku) | สายช้อป สายไนท์ไลฟ์ | |
อุเอโนะ (Ueno) | คนที่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ใกล้ตลาดอาเมะโยโกะ | |
อาซากุสะ (Asakusa) | คนที่ชอบบรรยากาศญี่ปุ่นดั้งเดิม |
💡 เคล็ดลับ: จองล่วงหน้า 1–2 เดือน โดยเฉพาะช่วงซากุระและปีใหม่ ราคาจะดีกว่ามาก
ของกินที่ห้ามพลาดเมื่อเที่ยวโตเกียว

มาญี่ปุ่นทั้งทีต้องไม่พลาดอาหารต้นตำรับ โตเกียวมีให้เลือกครบทั้งร้านเก่าแก่และคาเฟ่เทรนดี้ แนะนำ 3 ร้านเด็ดที่คนไทยไปแล้วติดใจ:
- Asakusa Imahan – สุกี้ยากี้เนื้อวากิวระดับตำนานในย่านอาซากุสะ
- Sushi Zanmai Tsukiji – ซูชิคุณภาพดีในราคาเป็นมิตร ใกล้ตลาดปลาโทโยสุ
- Harbs Shinjuku – คาเฟ่เค้กผลไม้สดยอดฮิตของสาวญี่ปุ่น
💡 เคล็ดลับ: ถ้าอยากประหยัด ให้ลองเซ็ตมื้อกลางวัน (Lunch Set) ราคาคุ้มกว่ามื้อเย็นเกือบครึ่ง
การใช้อินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น: เปรียบเทียบ eSIM, SIM และ Pocket Wi-Fi
เวลาเที่ยวญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ “อินเทอร์เน็ต” ไม่ว่าจะใช้เปิดแผนที่ นำทางในรถไฟ อัปโหลดรูปลงโซเชียล หรือแชตกับเพื่อน ถ้าเลือกวิธีเชื่อมเน็ตให้เหมาะกับสไตล์เดินทางของตัวเอง ทริปก็จะราบรื่นสุด ๆ Trip.com รวบรวม 3 วิธีใช้อินเทอร์เน็ตยอดฮิตในญี่ปุ่น มาให้เลือก ได้แก่
eSIM, SIM การ์ด, และ Pocket Wi-Fi แต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ลองดูตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้ได้เลย
ตารางเปรียบเทียบอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น
รายการ | eSIM | SIM การ์ด | Pocket Wi-Fi |
|---|---|---|---|
วิธีใช้งาน | สแกน QR แล้วใช้งานได้ทันที | เสียบซิมจริงที่เครื่อง | เปิดเครื่องแล้วเชื่อมต่อ Wi-Fi |
จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ | 1 เครื่อง | 1 เครื่อง | ได้หลายเครื่อง (เหมาะกับกลุ่มเพื่อน/ครอบครัว) |
ใช้เบอร์เดิมรับสาย/OTP ได้ | ✔️ ได้ | ❌ ไม่ได้ | ✔️ ได้ (บางรุ่น) |
ต้องเปลี่ยนซิมไหม | ❌ ไม่ต้อง | ✔️ ต้องเปลี่ยน | ❌ ไม่ต้อง |
ความเร็วอินเทอร์เน็ต | 4G/5G ขึ้นกับผู้ให้บริการ | 4G/5G | 4G เต็มสปีด เสถียร |
พกพา/สะดวก | สะดวกสุด ไม่ต้องพกอุปกรณ์เพิ่ม | ใช้งานง่าย เสียบแล้วเล่นได้เลย | ต้องชาร์จแบตและพกเครื่องแยก |
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ | ประมาณ 300–700 บาท/ทริป | ประมาณ 400–800 บาท/ทริป | ประมาณ 1,000–1,500 บาท/ทริป (มีมัดจำคืนเครื่อง) |
เหมาะกับใคร | คนที่เดินทางคนเดียวหรือมือใหม่ที่อยากเที่ยวสบาย ๆ ไม่ยุ่งยาก | ผู้ใช้ทั่วไปที่อยากเปลี่ยนซิมจริง | กลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่มีอุปกรณ์หลายเครื่อง |
ข้อดีเด่น | ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนซิม ใช้งานได้ทันทีที่เครื่องลงจอด | ราคาประหยัด หาซื้อง่ายตามสนามบิน | แชร์ได้หลายอุปกรณ์ ใช้เน็ตแรงเสถียร |
ข้อควรระวัง | ใช้ได้เฉพาะมือถือที่รองรับ eSIM | เสี่ยงทำซิมเดิมหาย | ต้องรับ–คืนเครื่องและชาร์จแบตระหว่างวัน |
สรุป
- ถ้าเดินทางคนเดียว eSIM สะดวกสุด สแกนใช้ได้ทันที
- ถ้าอยากเปลี่ยนซิมจริงและไม่ซับซ้อน SIM การ์ด ก็ตอบโจทย์
- ถ้าเดินทางหลายคนหรือใช้อุปกรณ์หลายเครื่อง ใช้ Pocket Wi-Fi ได้เลย
ข้อควรรู้ก่อนเที่ยวโตเกียว
การขอคืนภาษี (Tax-Free)
นักท่องเที่ยวที่พำนักในญี่ปุ่นไม่เกิน 6 เดือนสามารถขอคืนภาษีได้ที่ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ “Tax-Free Shop” เพียงแสดงพาสปอร์ตตอนชำระเงิน สินค้าส่วนใหญ่จะได้รับการยกเว้นภาษี 8–10% อ่านเพิ่มเติมได้ที่ คู่มือ Tax Refund ญี่ปุ่น 2568
ปลั๊กไฟและแรงดันไฟฟ้า
ญี่ปุ่นใช้ไฟฟ้าแรงดัน 100 โวลต์ โดยในโตเกียวจะใช้ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ซึ่งต่างจากของไทยที่ใช้ 220 โวลต์ ส่วนใหญ่โทรศัพท์หรือโน้ตบุ๊กสมัยใหม่ใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้หม้อแปลง แต่ถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง เช่น เครื่องหนีบผม ควรใช้ หม้อแปลงไฟ ด้วย อ่านเพิ่มเติมได้ที่ คู่มือปลั๊กไฟญี่ปุ่น
อินเทอร์เน็ตระหว่างเดินทาง
อินเทอร์เน็ตคือสิ่งจำเป็นในญี่ปุ่น นักเดินทางนิยมใช้ eSIM, ซิมการ์ดญี่ปุ่น หรือ Pocket Wi-Fi โดย eSIM จะสะดวกที่สุด แค่สแกน QR ก็ใช้งานได้ทันที
โตเกียวเป็นเมืองที่เที่ยวสนุกได้ทุกฤดู ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวครั้งแรกหรือกลับมาอีกกี่รอบก็มีมุมใหม่ให้ค้นหาเสมอ แค่เตรียมแพลนคร่าว ๆ ให้ดี ตั้งแต่งบประมาณ ที่พัก ไปจนถึงการเดินทางในเมือง รับรองว่าทริปโตเกียว 5 วัน 4 คืนของคุณจะเต็มไปด้วยความประทับใจแน่นอน
คำถามที่พบบ่อย
เที่ยวโตเกียว 5 วัน 4 คืน ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่?
โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25,000–45,000 บาทต่อคน รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร และค่าเดินทางในเมือง แต่ถ้าจองตั๋วล่วงหน้าในช่วงโลว์ซีซั่นจะประหยัดได้อีกหลายพันบาทเลยค่ะเที่ยวโตเกียวช่วงไหนอากาศดีที่สุด?
ถ้าอยากชมซากุระ แนะนำช่วงปลายมีนาคม–ต้นเมษายน แต่ถ้าชอบอากาศเย็นและชมใบไม้แดงให้ไปช่วง ตุลาคม–พฤศจิกายน ส่วนฤดูหนาว (ธันวาคม–กุมภาพันธ์) จะได้บรรยากาศคริสต์มาสสุดโรแมนติกค่ะเที่ยวโตเกียวต้องขอวีซ่าหรือไม่?
คนไทยสามารถเที่ยวญี่ปุ่นได้ ไม่เกิน 15 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ถ้าวางแผนพำนักนานกว่านั้น ต้องยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวก่อนเดินทางค่ะการเดินทางในโตเกียวใช้บัตรอะไรสะดวกที่สุด?
แนะนำให้ใช้บัตร Suica หรือ PASMO เพราะสามารถแตะขึ้นรถไฟใต้ดิน รถบัส และซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้ในบัตรเดียว ถ้าวางแผนเที่ยวหลายจุดในวันเดียว ควรซื้อ Tokyo Subway Pass แบบ 24, 48 หรือ 72 ชั่วโมง จะคุ้มกว่าเยอะค่ะควรเลือกพักย่านไหนในโตเกียวดี?
ถ้าอยากสะดวกเรื่องการเดินทางและของกิน แนะนำพักที่ ชินจูกุ หรืออุเอโนะ แต่ถ้าชอบบรรยากาศญี่ปุ่นเก่า ๆ ให้เลือกอาซากุสะ ส่วนสายช้อปต้องไม่พลาด ชิบูย่า หรือ กินซ่า ค่ะ



