วีซ่าญี่ปุ่น 2568 ฉบับเข้าใจง่ายสำหรับนักท่องเที่ยว ครบจบทุกขั้นตอนสำหรับคนไทย

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
วีซ่าญี่ปุ่น

การเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นความฝันของใครหลายคน ไม่ว่าจะเพื่อท่องเที่ยว ชมวัฒนธรรม ลิ้มรสอาหาร หรือทำธุรกิจ แต่ก่อนจะออกเดินทางนักท่องเที่ยวไทยต้องเข้าใจระบบวีซ่าญี่ปุ่นและเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้ทริปราบรื่นและไม่มีอุปสรรค Trip.com จะอธิบายทุกสิ่งที่เพื่อนๆ ควรรู้ทั้งหมด เพื่อให้เพื่อนๆ วางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจและเต็มอิ่มกับประสบการณ์ที่ญี่ปุ่น

🔍 วีซ่าญี่ปุ่นคืออะไร?

ญี่ปุ่น

วีซ่าญี่ปุ่นเป็นเอกสารสำคัญที่ออกโดยรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่ออนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ ศึกษาต่อ ทำงาน หรือเข้าร่วมกิจกรรมบางประเภท อย่างไรก็ตามสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ วีซ่าไม่ได้หมายความว่าจะได้รับสิทธิ์เข้าประเทศญี่ปุ่นโดย แต่เป็นเพียงการอนุญาตล่วงหน้าเท่านั้น เมื่อเดินทางถึงสนามบินหรือด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นยังคงมีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้าย ว่าจะอนุญาตให้เข้าประเทศหรือไม่ รวมถึงจะกำหนดระยะเวลาที่คุณสามารถพำนักอยู่ได้กี่วัน

ประเด็นสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับวีซ่าญี่ปุ่น

📃 วีซ่า ≠ การันตีเข้าประเทศ

  • ถึงแม้จะมีวีซ่าแล้ว แต่การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองยังขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ วีซ่าเป็นเพียงใบเบิกทางเบื้องต้น

📃 สถานะพำนัก (Status of Residence)

  • เมื่อผ่านด่านตรวจเข้าเมือง จะได้รับสถานะพำนัก เช่น Temporary Visitor สำหรับการท่องเที่ยวหรือธุรกิจระยะสั้น หากเป็นวีซ่าประเภททำงานหรือเรียน สถานะก็จะเปลี่ยนไปตามนั้น

📃 อายุวีซ่าและระยะเวลาพำนัก

  • อายุวีซ่า ช่วงเวลาที่วีซ่ายังมีผลบังคับใช้ และสามารถใช้เดินทางเข้าญี่ปุ่นได้
  • ระยะเวลาพำนัก จำนวนวันที่ญี่ปุ่นอนุญาตให้อยู่ต่อครั้ง ซึ่งอาจไม่เท่ากับอายุวีซ่า

📃 ข้อจำกัดตามประเภทวีซ่า

  • วีซ่าท่องเที่ยวไม่สามารถใช้ทำงานได้ และหากต้องการทำงานจริงจะต้องยื่นวีซ่าประเภททำงานพร้อมเอกสารรับรองคุณสมบัติจากญี่ปุ่น

📃 กรณียกเว้นวีซ่า

  • ญี่ปุ่นทำข้อตกลงกับหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ให้สามารถเดินทางระยะสั้นเพื่อท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของด่านตรวจคนเข้าเมืองอย่างเคร่งครัด

📃 บริการ Visit Japan Web

  • แม้จะไม่ใช่วีซ่า แต่ระบบดิจิทัลนี้ช่วยให้ผู้เดินทางกรอกข้อมูล ตม. และศุลกากรล่วงหน้า พร้อมสร้าง QR Code สำหรับใช้ที่ช่องตรวจคนเข้าเมือง ทำให้ขั้นตอนเร็วขึ้นและสะดวกมากกว่าเดิม

👥 คนไทยต้องขอวีซ่าญี่ปุ่นไหม?

ญี่ปุ่น

หนึ่งในคำถามยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวไทยก็คือไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าหรือเปล่า? ซึ่งคำตอบในปี 2025 ก็คือไม่จำเป็น หากเดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมระยะสั้น และอยู่ในญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน เพราะญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงยกเว้นการขอวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทยมาตั้งแต่ปี 2013 และยังคงมีผลบังคับใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่คนไทยควรรู้เกี่ยวกับการเข้าญี่ปุ่นโดยไม่ต้องขอวีซ่า

📝 ระยะเวลาพำนัก

  • คนไทยสามารถอยู่ญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 15 วันต่อครั้ง หากต้องการอยู่เกินกว่านี้ เช่น เรียนระยะสั้น 1 เดือน หรือทำงานชั่วคราว จะต้องยื่นขอวีซ่าประเภทที่ตรงกับวัตถุประสงค์ล่วงหน้า

📝 เอกสารที่ควรมีติดตัว

  • ตั๋วเครื่องบินขากลับหรือเดินทางต่อไปประเทศอื่น
  • ใบจองที่พักหรือหลักฐานที่พักอาศัย
  • แผนการเดินทางคร่าว ๆ
  • เงินสดหรือวงเงินบัตรเครดิตที่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายระหว่างทริป

📝 การเข้าประเทศหลายครั้ง

  • หากออกจากญี่ปุ่นแล้วกลับเข้ามาใหม่ สิทธิการพำนัก 15 วันจะเริ่มนับใหม่ แต่หากมีการเดินทางเข้า-ออกถี่ ๆ โดยไม่มีเหตุผลที่สมควร เจ้าหน้าที่อาจตั้งข้อสงสัยและมีสิทธิ์ซักถามเพิ่มเติม

📝 เด็กและเยาวชน

  • เด็กที่ถือพาสปอร์ตไทยสามารถใช้สิทธิยกเว้นวีซ่าได้เช่นกัน หากเดินทางกับผู้ปกครอง ควรเตรียมเอกสารยืนยันความสัมพันธ์ หรือหนังสือยินยอมในกรณีที่เดินทางกับญาติหรือบุคคลอื่น

📝 Visit Japan Web (VJW)

  • ถึงแม้จะไม่ใช่ระบบยื่นวีซ่า แต่ VJW เป็นบริการที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวกรอกข้อมูลศุลกากรและ ตม. ล่วงหน้า จากนั้นจะได้ QR Code ไปแสดงที่ด่านตรวจ ซึ่งช่วยให้ขั้นตอนการเข้าประเทศเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

📝 การเปลี่ยนแปลงนโยบาย

  • ญี่ปุ่นอาจปรับปรุงกฎเกณฑ์การเข้าประเทศได้เสมอ ดังนั้นก่อนเดินทางทุกครั้ง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย หรือเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่นครบจบที่เดียว: ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และสินค้าท่องเที่ยว
เที่ยวบิน
ที่พัก
สินค้า
ดูเที่ยวบินทั้งหมด
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
พ. 14 ม.ค.
พ. 14 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 36%
เริ่มต้น 12,302TWD 7,923
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
อ. 13 ม.ค.
พ. 14 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 35%
เริ่มต้น 12,302TWD 7,963
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
HND
ศ. 16 ม.ค.
ส. 17 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 33%
เริ่มต้น 12,302TWD 8,215
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
NRT
ศ. 30 ม.ค.
ส. 31 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 33%
เริ่มต้น 12,302TWD 8,241
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
NRT
ศ. 30 ม.ค.
ส. 31 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 33%
เริ่มต้น 12,302TWD 8,250
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
NRT
ศ. 30 ม.ค.
ส. 31 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 33%
เริ่มต้น 12,302TWD 8,254
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
NRT
พฤ. 29 ม.ค.
ศ. 30 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 33%
เริ่มต้น 12,302TWD 8,254
กรุงเทพฯ
BKK
โตเกียว
NRT
พฤ. 29 ม.ค.
ศ. 30 ม.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 33%
เริ่มต้น 12,302TWD 8,254

📋 ประเภทวีซ่าญี่ปุ่นที่คนไทยควรรู้

ญี่ปุ่น

แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะได้สิทธิ์ ยกเว้นวีซ่าสำหรับการเดินทางระยะสั้นไม่เกิน 15 วัน แต่ถ้ามีแผนจะพำนักในญี่ปุ่นนานกว่านั้น หรือมีวัตถุประสงค์การเดินทางที่แตกต่างออกไป เช่น ศึกษาต่อ ทำงาน หรือใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวที่ญี่ปุ่น การขอวีซ่าประเภทต่างๆ ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรรู้และทำความเข้าใจอย่างละเอียด ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดประเภทวีซ่าหลากหลาย เพื่อรองรับนักเดินทางตามเป้าหมายที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

ประเภทวีซ่าหลักสำหรับคนไทย

📥 วีซ่าท่องเที่ยว (Temporary Visitor Visa)

  • สำหรับผู้ที่ต้องการอยู่ในญี่ปุ่นระยะสั้นเกิน 15 วันขึ้นไป เช่น ไปเยี่ยมญาติหรือท่องเที่ยวแบบยาวๆ กรณีนี้ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้า โดยส่วนใหญ่จะอนุญาตให้พำนักได้ 30 - 90 วัน

📥 วีซ่าธุรกิจระยะสั้น (Short-term Business Visa)

  • สำหรับผู้ที่เดินทางไปเจรจาธุรกิจ เข้าร่วมประชุม หรือกิจกรรมทางการค้า ระยะเวลาพำนักโดยทั่วไปไม่เกิน 90 วัน และไม่สามารถทำงานที่ได้รับค่าจ้างจากบริษัทญี่ปุ่นได้

📥 วีซ่าศึกษาต่อ (Student Visa)

  • ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนในสถาบันการศึกษาที่ญี่ปุ่น ทั้งมหาวิทยาลัย โรงเรียนภาษาญี่ปุ่น หรือสถาบันวิชาชีพ ผู้สมัครต้องมีใบตอบรับจากสถาบันการศึกษาในญี่ปุ่น และแสดงหลักฐานการเงินเพียงพอต่อการใช้ชีวิต

📥 วีซ่าทำงาน (Working Visa)

  • ออกให้สำหรับผู้ที่ได้งานจากบริษัทในญี่ปุ่นหรือมีคุณสมบัติเฉพาะด้าน เช่น วิศวกร ล่าม ครูสอนภาษา ฯลฯ โดยทั่วไปจะต้องมี Certificate of Eligibility (CoE) จากบริษัทหรือองค์กรในญี่ปุ่นเป็นหลักฐานประกอบการยื่น

📥 วีซ่าครอบครัว (Dependent Visa / Spouse Visa)

  • สำหรับผู้ที่ต้องการอยู่กับคู่สมรสหรือครอบครัวที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น เช่น สามี/ภรรยาชาวญี่ปุ่น หรือผู้ที่ถือวีซ่าทำงาน/เรียนอยู่แล้วในญี่ปุ่น ระยะเวลาพำนักขึ้นอยู่กับวีซ่าหลักของผู้ที่เป็นคู่สมรสหรือผู้ปกครอง

📥 วีซ่าระยะยาวอื่นๆ (Long-term Stay Visa)

  • เช่น วีซ่าผู้พำนักถาวร วีซ่าทักษะเฉพาะ (Specified Skilled Worker Visa) ซึ่งญี่ปุ่นใช้เพื่อดึงแรงงานต่างชาติในอุตสาหกรรมที่ขาดแคลน เช่น การดูแลผู้สูงอายุ ก่อสร้าง เกษตรกรรม และงานบริการอาหาร

📥 วีซ่าพิเศษ (Special Visas)

  • สำหรับการเข้าประเทศด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น เข้าร่วมงานวิจัย โครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม หรืองานอาสาสมัครที่รัฐบาลญี่ปุ่นรับรอง

🗒️ สรุปประเภทวีซ่าญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ เรามาลองดูภาพรวมของประเภทวีซ่าญี่ปุ่นในรูปแบบตารางกัน ตารางนี้จะช่วยให้เห็นความแตกต่างของวัตถุประสงค์ ระยะเวลาพำนัก และเอกสารเบื้องต้นที่ใช้ยื่นได้ชัดเจนมากขึ้น

ประเภทวีซ่า

วัตถุประสงค์

ระยะเวลาพำนักโดยทั่วไป

เอกสารหลักที่ใช้ยื่น

Temporary Visitor (ท่องเที่ยว/เยี่ยมญาติ)

ท่องเที่ยว เยี่ยมครอบครัวหรือเพื่อน

15 - 90 วัน (ขึ้นกับการอนุญาต)

ตั๋วเครื่องบิน ใบจองที่พัก แผนการเดินทาง หลักฐานการเงิน

Short-term Business (ธุรกิจระยะสั้น)

ประชุม สัมมนา เจรจาธุรกิจ

ไม่เกิน 90 วัน

หนังสือเชิญจากบริษัทในญี่ปุ่น เอกสารบริษัท ตั๋วเดินทาง

Student Visa (วีซ่านักเรียน)

เรียนในมหาวิทยาลัย โรงเรียนภาษาญี่ปุ่น หรือสถาบันวิชาชีพ

ตามหลักสูตร (6 เดือน - 4 ปี)

ใบตอบรับจากสถาบันการศึกษา หลักฐานการเงิน เอกสารรับรองจากญี่ปุ่น

Working Visa (วีซ่าทำงาน)

ทำงานในบริษัทหรือองค์กรญี่ปุ่น เช่น วิศวกร ครู ล่าม

1 - 5 ปี (ขึ้นกับสัญญาจ้าง)

สัญญาจ้างงาน Certificate of Eligibility (CoE)

Dependent / Spouse Visa (ครอบครัว/คู่สมรส)

อยู่กับคู่สมรสหรือครอบครัวที่อาศัยในญี่ปุ่น

1 - 3 ปี

สูติบัตร/ทะเบียนสมรส หลักฐานการเงินของผู้พำนักในญี่ปุ่น

Long-term Stay (พำนักระยะยาว)

เช่น แรงงานทักษะเฉพาะ ผู้พำนักถาวร

1 ปีขึ้นไป

เอกสารเฉพาะตามประเภท เช่น CoE หรือเอกสารสิทธิถาวร

Special Visa (วีซ่าพิเศษ)

งานวิจัย อาสาสมัคร แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

ระยะเวลาตามโครงการ

หนังสือเชิญหรือรับรองจากองค์กร/หน่วยงานญี่ปุ่น

📨 เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นวีซ่า

ญี่ปุ่น

การขอวีซ่าญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นประเภทใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง เพราะแม้เอกสารจะขาดเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้การพิจารณาล่าช้า หรือถูกปฏิเสธการยื่นได้ การเตรียมพร้อมล่วงหน้าจะช่วยให้ขั้นตอนทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น

ประเภทวีซ่า

เอกสารที่ใช้ยื่น (หลัก ๆ)

หมายเหตุเพิ่มเติม

ท่องเที่ยว (Temporary Visitor)

- หนังสือเดินทาง (เหลืออายุอย่างน้อย 6 เดือน)

- แบบฟอร์มใบสมัครขอวีซ่า

- รูปถ่าย 2 นิ้ว 1 ใบ (พื้นหลังขาว ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)

- สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน- ตั๋วเครื่องบินไป - กลับ

- ใบจองที่พักหรือหลักฐานการพักอาศัย

- แผนการเดินทาง (เป็นรายวัน)

- หลักฐานทางการเงิน (สเตทเมนท์ย้อนหลัง 3 - 6 เดือน)

เอกสารการเงินควรเป็นชื่อผู้สมัครเอง หากใช้บัญชีผู้อื่น ควรแนบหนังสือยินยอม

ธุรกิจระยะสั้น

- หนังสือเดินทางและใบสมัคร

- รูปถ่าย

- จดหมายเชิญจากบริษัทในญี่ปุ่น

- หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทไทย

- เอกสารการเงินและตั๋วเครื่องบิน

เน้นหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทไทย - ญี่ปุ่น

นักเรียน (Student Visa)

- หนังสือเดินทางและใบสมัคร

- รูปถ่าย

- ใบตอบรับจากสถาบันการศึกษาในญี่ปุ่น

- หลักฐานการชำระค่าเล่าเรียน (ถ้ามี)

- หลักฐานการเงิน (บัญชีธนาคาร/หนังสือรับรองการสนับสนุน)

- สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน

ต้องมี Certificate of Eligibility (CoE) จากสถาบันในญี่ปุ่น

ทำงาน (Working Visa)

- หนังสือเดินทางและใบสมัคร

- รูปถ่าย

- สัญญาจ้างงานจากบริษัทญี่ปุ่น

- Certificate of Eligibility (CoE)

- สำเนาเอกสารบริษัทผู้ว่าจ้าง

CoE ถือเป็นเอกสารหลักที่ขาดไม่ได้

ครอบครัว/คู่สมรส (Dependent/Spouse Visa)

- หนังสือเดินทางและใบสมัคร

- รูปถ่าย

- ทะเบียนสมรส/สูติบัตร/ทะเบียนบ้าน

- หลักฐานการเงินของคู่สมรสที่อยู่ญี่ปุ่น- CoE (ถ้ามี)

ต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์ชัดเจน เช่น รูปถ่ายร่วมกัน

พำนักระยะยาว/วีซ่าพิเศษ

- หนังสือเดินทางและใบสมัคร- รูปถ่าย- CoE- เอกสารตามเงื่อนไขพิเศษ (จดหมายเชิญ/สัญญาโครงการ)

ขึ้นอยู่กับประเภทพำนัก เช่น วิจัย อาสาสมัคร หรือแรงงานทักษะ

⏱️ อายุและระยะเวลาการพำนักของวีซ่าญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

เรื่องที่หลายคนมักสงสัยเมื่อได้วีซ่าญี่ปุ่นก็คือ วีซ่าที่ได้มานั้นมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่? และเมื่อเดินทางเข้าไปแล้วสามารถพำนักอยู่ได้กี่วัน? การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง อายุวีซ่าและระยะเวลาพำนักถือว่าสำคัญมาก เพราะเป็นสิ่งที่กำหนดสิทธิในการอยู่ญี่ปุ่นอย่างถูกกฎหมาย

ความแตกต่างระหว่าง "อายุวีซ่า" และ "ระยะเวลาพำนัก"

🌈 อายุวีซ่า (Visa Validity)

  • คือระยะเวลาที่วีซ่ายังคงใช้ได้ นับตั้งแต่วันที่ออกจนถึงวันที่หมดอายุ หากเลยกำหนดนี้ไป วีซ่าจะหมดสิทธิ์ทันที ไม่สามารถใช้เดินทางเข้าญี่ปุ่นได้

🌈 ระยะเวลาพำนัก (Period of Stay)

  • คือจำนวนวันที่ผู้ถือวีซ่าได้รับอนุญาตให้อยู่ในญี่ปุ่น นับตั้งแต่วันที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง หากอยู่เกินกำหนด จะถือเป็นการ Overstay ซึ่งมีผลทางกฎหมาย อาจถูกปรับเนรเทศและถูกห้ามเข้าญี่ปุ่นในอนาคต

ระยะเวลาการพำนักของวีซ่าประเภทต่างๆ

🌈 วีซ่าท่องเที่ยว (Temporary Visitor Visa)

  • อนุญาตให้พำนักได้สูงสุด 15, 30 หรือ 90 วัน (แล้วแต่การอนุญาตของเจ้าหน้าที่ ตม.)
  • สำหรับคนไทยที่ใช้สิทธิยกเว้นวีซ่า สามารถอยู่ได้ ไม่เกิน 15 วัน ต่อครั้ง

🌈 วีซ่าธุรกิจระยะสั้น

  • พำนักได้สูงสุด 90 วัน
  • ใช้สำหรับเข้าประชุม สัมมนา หรือติดต่อธุรกิจ

🌈 วีซ่านักเรียน (Student Visa)

  • ระยะเวลาพำนักขึ้นอยู่กับหลักสูตร เช่น 6 เดือน, 1 ปี, 2 ปี หรือมากกว่า
  • สามารถขอต่ออายุได้จนกว่าจะจบหลักสูตร

🌈 วีซ่าทำงาน (Working Visa)

  • พำนักได้ 1 ปี, 3 ปี หรือสูงสุด 5 ปี ขึ้นกับสัญญาจ้างและการอนุมัติ
  • ต้องต่ออายุตามเงื่อนไขเมื่อครบกำหนด

🌈 วีซ่าครอบครัว / คู่สมรส (Dependent/Spouse Visa)

  • ระยะเวลาพำนัก 1 ปี, 3 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสถานะของคู่สมรส/ผู้พำนักในญี่ปุ่น

🌈 วีซ่าพำนักระยะยาวหรือพิเศษ

  • เช่น วีซ่าผู้มีทักษะเฉพาะ (Specified Skilled Worker) หรือถาวร (Permanent Resident)
  • ระยะเวลาอนุญาตอาจเป็น 1 ปี, 3 ปี, 5 ปี หรือถาวร

🏢 ยื่นวีซ่าญี่ปุ่นที่ไหน?

ญี่ปุ่น

การยื่นวีซ่าญี่ปุ่นสำหรับคนไทยมีขั้นตอนที่ชัดเจนและเป็นระบบ ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องยื่นตรงกับสถานทูตหรือสถานกงสุล ปัจจุบันญี่ปุ่นได้มอบหมายให้ ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น (Japan Visa Application Center - JVAC) เป็นผู้ดูแลการรับเอกสารเบื้องต้นแทน ทำให้นักท่องเที่ยวสะดวกมากขึ้น เพราะมีหลายสาขา และมีเจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสารก่อนส่งต่อให้สถานทูตพิจารณา

ช่องทางหลักในการยื่นวีซ่าญี่ปุ่น

⭕ ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น (JVAC)

  • มีสาขาหลักในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่
  • ทำหน้าที่รับเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง เก็บค่าธรรมเนียม และส่งเอกสารไปยังสถานทูตญี่ปุ่น
  • ผู้สมัครสามารถติดตามสถานะการพิจารณาผ่านระบบออนไลน์ของ JVAC

⭕ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (กรุงเทพฯ)

  • โดยทั่วไปไม่รับยื่นตรง ยกเว้นบางกรณี เช่น วีซ่าพิเศษ วีซ่าเพื่อการทูต หรือกรณีที่ทางสถานทูตกำหนด
  • ที่อยู่: 177 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

⭕ สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ เชียงใหม่

  • รองรับผู้ที่อาศัยในเขตภาคเหนือ
  • แต่ปัจจุบันส่วนมากก็ส่งต่อการรับยื่นผ่านศูนย์ JVAC เช่นเดียวกัน

📬 วิธีการสมัครวีซ่าญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

การสมัครวีซ่าญี่ปุ่นสำหรับคนไทยในปี 2025 แม้จะมีหลายประเภท แต่กระบวนการโดยรวมค่อนข้างคล้ายกัน และเน้นเรื่องความครบถ้วนของเอกสาร การกรอกข้อมูลถูกต้อง และการยื่นผ่าน ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น (JVAC)

ขั้นตอนการสมัครวีซ่าญี่ปุ่น

❗ ตรวจสอบประเภทวีซ่า

  • เลือกประเภทวีซ่าที่ตรงกับวัตถุประสงค์การเดินทาง เช่น ท่องเที่ยว, ธุรกิจ, เรียน, ทำงาน, ครอบครัว
  • ตรวจสอบระยะเวลาพำนักที่ต้องการ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับประเภทนั้น

❗ เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน

  • หนังสือเดินทางที่เหลืออายุอย่างน้อย 6 เดือน
  • แบบฟอร์มใบสมัครวีซ่า (ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ JVAC หรือรับที่ศูนย์)
  • รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลังขาว ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน
  • เอกสารประกอบอื่น ๆ ตามประเภทวีซ่า เช่น ตั๋วเครื่องบิน, ใบจองที่พัก, หนังสือเชิญ, CoE, ใบตอบรับจากสถาบันการศึกษา, หลักฐานการเงิน

❗ ตรวจสอบและกรอกแบบฟอร์ม

  • กรอกข้อมูลภาษาอังกฤษให้ตรงกับหนังสือเดินทาง
  • ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน เช่น ที่อยู่ในญี่ปุ่น, แผนการเดินทาง, ข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน
  • เซ็นชื่อให้เรียบร้อยในทุกจุดที่กำหนด

❗ จองคิวและยื่นเอกสาร

  • จองคิวออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ JVAC เพื่อเข้ารับบริการ
  • ยื่นเอกสารทั้งหมดที่ศูนย์ JVAC ตามวันและเวลาที่นัดหมาย
  • เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น หากครบถ้วนจะส่งต่อไปยังสถานทูตญี่ปุ่น

❗ ชำระค่าธรรมเนียม

  • ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าตามประเภทที่ยื่น
  • การชำระสามารถทำได้ที่ศูนย์ JVAC โดยบางสาขามีบริการชำระผ่านธนาคารหรือบัตรเครดิต

❗ ติดตามสถานะการพิจารณา

  • สามารถติดตามผลผ่านเว็บไซต์ JVAC
  • ระยะเวลาพิจารณาทั่วไปประมาณ 5 - 7 วันทำการ
  • ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านี้ หากต้องการเอกสารเพิ่มเติมหรือมีข้อสงสัยจากเจ้าหน้าที่

❗ รับพาสปอร์ตและผลวีซ่า

  • เมื่อวีซ่าผ่านการอนุมัติ พาสปอร์ตจะถูกส่งคืนตามวิธีที่เลือก (รับด้วยตัวเองหรือจัดส่งทางไปรษณีย์)
  • ตรวจสอบข้อมูลในวีซ่าว่าถูกต้องตรงกับชื่อ, ประเภทวีซ่า, ระยะเวลาพำนัก

💵 ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่าญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

หนึ่งในข้อมูลสำคัญที่นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางต้องทราบก่อนยื่นวีซ่าญี่ปุ่นคือ ค่าธรรมเนียม เพราะจะต้องชำระเมื่อยื่นเอกสาร และแต่ละประเภทวีซ่าจะมีอัตราที่แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์การเดินทาง

☑️หลักการคิดค่าธรรมเนียม

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าญี่ปุ่น ไม่รวมบริการเพิ่มเติมของศูนย์ JVAC เช่น ค่าบริการรับส่งพาสปอร์ตทางไปรษณีย์ หรือบริการจองคิว
  • การชำระค่าธรรมเนียมจะทำได้ที่ ศูนย์ JVAC เท่านั้น โดยสามารถจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตตามที่ศูนย์กำหนด
  • อัตราค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าและจำนวนครั้งในการเข้าออก (Single Entry / Multiple Entry)

ประเภทวีซ่า

Single Entry

Multiple Entry

หมายเหตุ

ท่องเที่ยว / เยี่ยมครอบครัว

1,000 - 1,500 บาท

2,500 - 3,000 บาท

วีซ่าหลายครั้งมักอนุญาต 1–5 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณา

ธุรกิจระยะสั้น

1,000 - 1,500 บาท

2,500 - 3,000 บาท

การยื่น Multiple Entry มักต้องมีประวัติเดินทางญี่ปุ่นหลายครั้ง

นักเรียน

ไม่เสียค่าใช้จ่าย (บางกรณีอาจมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสถานทูต)

-

ค่าธรรมเนียมหลักมักรวมในค่าเรียนหรือเอกสาร CoE

ทำงาน / Dependent / Long-term / Special

1,500 - 2,000 บาท

3,000 - 4,000 บาท

อัตราอาจปรับตามประเภทงานหรืออายุวีซ่า และบางกรณีต้องชำระเพิ่มเติมตาม CoE

🗓️ การขอวีซ่าญี่ปุ่นใช้เวลานานเท่าไหร่?

ญี่ปุ่น

หลายคนสงสัยว่าการขอวีซ่าญี่ปุ่นจะใช้เวลานานแค่ไหนตั้งแต่ยื่นเอกสารจนถึงรับพาสปอร์ตกลับ ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่า ความสมบูรณ์ของเอกสาร และช่วงเวลาที่ยื่น

ระยะเวลาการพิจารณาวีซ่าญี่ปุ่น

📍 วีซ่าท่องเที่ยว (Temporary Visitor Visa)

  • ระยะเวลาพิจารณาโดยทั่วไป 5 - 7 วันทำการ
  • ในบางกรณีอาจนานขึ้น 1 - 2 สัปดาห์ หากเอกสารไม่ครบถ้วน หรือเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเพิ่มเติม

📍 วีซ่าธุรกิจระยะสั้น

  • พิจารณาประมาณ 5 - 10 วันทำการ
  • เอกสารจากบริษัทญี่ปุ่นหรือไทยที่ไม่ชัดเจนอาจทำให้ล่าช้า

📍 วีซ่านักเรียน (Student Visa)

  • ต้องมี Certificate of Eligibility (CoE) จากสถาบันการศึกษา
  • ระยะเวลาโดยทั่วไป 1 - 2 สัปดาห์หลังจากยื่นเอกสารครบถ้วน

📍 วีซ่าทำงาน / Dependent / Long-term / Special

  • ระยะเวลา 2 - 4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับประเภทงานและเอกสาร CoE
  • วีซ่าบางประเภทอาจใช้เวลานานกว่านี้ หากต้องตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมกับองค์กรญี่ปุ่น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลา

📍 ความครบถ้วนของเอกสาร

  • เอกสารไม่ครบ เช่น หลักฐานทางการเงินไม่เพียงพอ หรือรูปถ่ายไม่ตรงตามข้อกำหนด จะทำให้ขั้นตอนช้าลง

📍 ช่วงเวลายื่นวีซ่า

  • ช่วงฤดูท่องเที่ยวสูงสุด เช่น ฤดูซากุระ หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี การพิจารณาอาจล่าช้ากว่าปกติ

📍 การตรวจสอบเพิ่มเติม

  • หากเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การเช็คประวัติเดินทางหรือความถูกต้องของ CoE ระยะเวลาจะเพิ่มขึ้น

🌏 ประเทศและภูมิภาคที่ไม่ต้องขอวีซ่าญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

สำหรับนักท่องเที่ยวหลายชาติ ญี่ปุ่นมีนโยบายยกเว้นวีซ่า (Visa Exemption) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระยะสั้น โดยทั่วไปอนุญาตให้พำนัก ไม่เกิน 15 - 90 วัน ขึ้นอยู่กับสัญชาติและประเภทการเดินทาง สำหรับคนไทย ปัจจุบันต้องขอวีซ่าเพื่อเข้าญี่ปุ่น แต่ในหลายประเทศอื่นๆ สามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า

ภูมิภาค

ประเทศ / เขตการปกครอง

ระยะเวลาพำนักสูงสุด

หมายเหตุ

เอเชีย

ฮ่องกง

90 วัน

ต้องถือหนังสือเดินทางฮ่องกง (HKSAR Passport)

ไต้หวัน

90 วัน

ต้องมีหนังสือเดินทางไต้หวัน (Taiwan Passport)

สิงคโปร์

90 วัน

ใช้เพื่อการท่องเที่ยวหรือธุรกิจระยะสั้น

เกาหลีใต้

90 วัน

รวมถึงหมู่เกาะเชจู

มาเก๊า

90 วัน

ต้องถือหนังสือเดินทางมาเก๊า

ยุโรป

ออสเตรีย, เบลเยียม, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ไอซ์แลนด์, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ, ไอร์แลนด์

90 วัน

ใช้สำหรับท่องเที่ยวและธุรกิจระยะสั้น

อเมริกาเหนือ

สหรัฐอเมริกา, แคนาดา

90 วัน

ใช้ตามนโยบาย Visa Waiver Program

โอเชียเนีย

ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์

90 วัน

ต้องถือหนังสือเดินทางประเทศนั้น ๆ

อเมริกาใต้

บราซิล, ชิลี, อาร์เจนตินา

90 วัน

ใช้สำหรับท่องเที่ยวระยะสั้น

ตะวันออกกลาง / แอฟริกา

อิสราเอล

90 วัน

เฉพาะการท่องเที่ยว / ธุรกิจระยะสั้น

🛬 Visit Japan Web คืออะไร?

Visit Japan

Visit Japan Web เป็นระบบออนไลน์ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดทำขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกรอกข้อมูลการเดินทางและข้อมูลส่วนตัวก่อนเข้าประเทศ ลดความซ้ำซ้อนของเอกสาร และช่วยให้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองรวดเร็วขึ้น

✈️ จุดประสงค์หลักของ Visit Japan Web

  • ลดระยะเวลาในการกรอกเอกสารเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง
  • ลดความซับซ้อนของเอกสารกระดาษ เช่น แบบฟอร์มใบตม. และแบบฟอร์มสุขภาพ
  • รองรับการเข้าประเทศทั้ง ผู้ที่ต้องขอวีซ่า และ ผู้ที่ไม่ต้องขอวีซ่า
  • เพิ่มความปลอดภัยและความแม่นยำของข้อมูลสำหรับเจ้าหน้าที่

✈️ ข้อดีของการใช้ Visit Japan Web

  • กรอกเพียงครั้งเดียว สำหรับการเข้าออกหลายครั้งในอนาคต (ถ้าเป็นวีซ่าแบบ Multiple Entry)
  • ข้อมูลถูกเก็บและตรวจสอบออนไลน์ ลดความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่
  • ช่วยให้ขั้นตอนที่สนามบินรวดเร็ว ลดเวลารอคิวตรวจคนเข้าเมือง
  • ผู้เดินทางสามารถพิมพ์ QR Code จากระบบ เพื่อนำไปสแกนที่จุดตรวจคนเข้าเมือง

✈️ ใครควรใช้ Visit Japan Web

  • นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น ไม่ว่าจะ ขอวีซ่าหรือไม่ต้องขอวีซ่า
  • นักธุรกิจหรือผู้เดินทางระยะสั้น ที่ต้องการเข้าประเทศหลายครั้ง (Multiple Entry)
  • ครอบครัวและนักเรียนต่างชาติที่ต้องการกรอกข้อมูลล่วงหน้าเพื่อความรวดเร็ว

💻 ขั้นตอนการกรอก Visit Japan Web

Visit Japan

การกรอกข้อมูลใน Visit Japan Web ช่วยให้การเข้าประเทศญี่ปุ่นรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถกรอกข้อมูลออนไลน์ล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง

ขั้นตอนการกรอก Visit Japan Web

เข้าสู่เว็บไซต์ Visit Japan Web

  • ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือมือถือ
  • ลิงก์ทางการ  https://www.vjw.digital.go.jp
  • เลือกภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สะดวก

ลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้ (User Registration)

  • กรอกอีเมลและรหัสผ่าน
  • ระบบจะส่งอีเมลยืนยันเพื่อเปิดใช้งานบัญชี
  • หลังจากยืนยัน สามารถเข้าสู่ระบบและกรอกข้อมูลผู้เดินทางได้

กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้เดินทาง

  • ชื่อ - นามสกุลตรงกับพาสปอร์ต
  • วันเดือนปีเกิด
  • สัญชาติและหมายเลขพาสปอร์ต
  • หมายเลขโทรศัพท์และอีเมลสำหรับติดต่อ

กรอกข้อมูลการเดินทาง

  • วันที่มาถึงและออกจากญี่ปุ่น
  • สถานที่พักในญี่ปุ่น เช่น โรงแรม, ที่พักเพื่อนหรือครอบครัว
  • สายการบินและหมายเลขเที่ยวบิน

กรอกข้อมูลสุขภาพและการแพทย์ (ถ้ามีข้อกำหนด)

  • ประวัติการฉีดวัคซีนหรือผลตรวจโควิด-19
  • แบบสอบถามอาการ เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ หากมีข้อกำหนดล่าสุด

กรอกข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน

  • ชื่อผู้ติดต่อ
  • เบอร์โทรศัพท์และที่อยู่
  • ผู้ติดต่อสามารถเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือที่พักในญี่ปุ่น

ตรวจสอบข้อมูลและยืนยัน

  • ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกข้อ
  • ระบบจะให้แก้ไขหากพบข้อผิดพลาด
  • ยืนยันข้อมูลและบันทึก

รับ QR Code

  • ระบบจะสร้าง QR Code ส่วนตัว สำหรับผู้เดินทาง
  • QR Code นี้ใช้สแกนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น
  • สามารถพิมพ์หรือบันทึกลงมือถือเพื่อนำไปใช้

📂 ข้อควรรู้ก่อนเดินทาง

ญี่ปุ่น

การวางแผนและเตรียมตัวก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นช่วยให้การท่องเที่ยวราบรื่น ปลอดภัย และสนุกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปี 2025 ที่มีมาตรการใหม่ๆ ทั้งเรื่องวีซ่าและ Visit Japan Web

ข้อควรรู้สำคัญ

📌 ตรวจสอบวีซ่าและเอกสาร

  • คนไทยต้องขอวีซ่าล่วงหน้า ยกเว้นมีข้อยกเว้นเฉพาะ
  • ตรวจสอบพาสปอร์ตให้เหลืออายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • พกเอกสารการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และหลักฐานการเงิน

📌 กรอก Visit Japan Web ล่วงหน้า

  • กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการเดินทาง สุขภาพ และผู้ติดต่อฉุกเฉิน
  • รับ QR Code เพื่อสแกนที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
  • แนะนำกรอกล่วงหน้าอย่างน้อย 3 - 5 วันก่อนวันเดินทาง

📌 การเตรียมเงินและบัตร

  • ญี่ปุ่นยังใช้เงินสดมาก โดยเฉพาะในร้านเล็ก ตลาด และสถานที่ท่องเที่ยว
  • พกบัตรเครดิต/เดบิตเผื่อใช้ในร้านค้าหรือโรงแรมใหญ่
  • ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมการถอนเงินต่างประเทศ

📌 วางแผนการเดินทางภายในประเทศ

  • สำรวจระบบขนส่ง เช่น JR Pass, รถไฟฟ้าใต้ดิน, รถบัส
  • วางแผนเส้นทางล่วงหน้าเพื่อประหยัดเวลาและค่าเดินทาง
  • ดาวน์โหลดแอปแผนที่และข้อมูลขนส่งที่ใช้ได้ในญี่ปุ่น

📌 เรื่องสุขภาพและประกันเดินทาง

  • แนะนำซื้อประกันเดินทางครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุและเจ็บป่วย
  • หากมีโรคประจำตัว ควรพกยาประจำตัวพร้อมใบแพทย์
  • ตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับวัคซีนหรือผลตรวจโควิด-19 ก่อนเดินทาง

📌 วัฒนธรรมและมารยาท

  • ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับมารยาท เช่น การต่อคิว การไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ
  • เคารพกฎและป้ายสัญลักษณ์ เช่น ห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ
  • เรียนรู้คำทักทายพื้นฐาน

📌 สภาพอากาศและฤดูกาล

  • เช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้าและเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม
  • ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นช่วงนักท่องเที่ยวเยอะ ควรจองที่พักล่วงหน้า

🧳เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นช่วยให้ทริปสนุกและราบรื่น ลดความกังวล และใช้เวลาในทริปได้อย่างคุ้มค่า

สิ่งที่ควรเตรียมก่อนเดินทาง

🚗 ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง

  • พาสปอร์ตต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • เตรียมวีซ่าให้เรียบร้อย และตรวจสอบประเภทวีซ่าว่าตรงกับวัตถุประสงค์การเดินทาง
  • พกสำเนาพาสปอร์ตและเอกสารสำคัญเผื่อกรณีฉุกเฉิน

🚗 กรอก Visit Japan Web ล่วงหน้า

  • กรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการเดินทาง และข้อมูลสุขภาพ
  • รับ QR Code เพื่อนำไปสแกนที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
  • แนะนำกรอกข้อมูลล่วงหน้าอย่างน้อย 3–5 วันก่อนวันเดินทาง

🚗 วางแผนเส้นทางและที่พัก

  • จองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวสูงสุด เช่น ใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสี
  • วางแผนเส้นทางเดินทางภายในเมือง เช่น รถไฟฟ้า, รถบัส, JR Pass
  • ดาวน์โหลดแอปแผนที่และข้อมูลขนส่งสำหรับใช้ในญี่ปุ่น

🚗 เตรียมเงินและบัตร

  • พกเงินสดเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในร้านเล็ก ตลาด และค่าเดินทางบางประเภท
  • ใช้บัตรเครดิต/เดบิตสำหรับการจ่ายในร้านค้าหรือโรงแรมใหญ่
  • ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมการถอนเงินต่างประเทศ

🚗 เตรียมสุขภาพและประกันการเดินทาง

  • ซื้อประกันเดินทางครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุและเจ็บป่วย
  • พกยาประจำตัวพร้อมใบแพทย์ หากมีโรคประจำตัว
  • ตรวจสอบข้อกำหนดวัคซีนหรือผลตรวจโควิด-19 ตามข้อบังคับล่าสุด

🚗 เรียนรู้วัฒนธรรมและมารยาทพื้นฐาน

  • เคารพกฎและป้ายสัญลักษณ์ เช่น ห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ
  • ปฏิบัติตามมารยาทต่อคนอื่น เช่น การต่อคิว การไม่ส่งเสียงดัง
  • เรียนรู้คำทักทายพื้นฐานและคำว่าขอบคุณเพื่อใช้สื่อสาร

🚗 เตรียมอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัว

  • เสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสมกับฤดูกาลและกิจกรรม
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟและอะแดปเตอร์ที่เข้ากับปลั๊กไฟของญี่ปุ่น
  • กล้องถ่ายรูป สมาร์ทโฟน และ Power Bank

การเดินทางไปญี่ปุ่นในปี 2025 ต้องให้ความสำคัญกับวีซ่า เอกสาร และการกรอก Visit Japan Web เพื่อให้การเข้าประเทศรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้การเตรียมตัวเรื่อง การเงิน สุขภาพ วัฒนธรรม และการวางแผนเส้นทาง จะช่วยให้ทริปปลอดภัยและสนุกยิ่งขึ้น ไม่ว่าเพื่อนๆ จะไปท่องเที่ยว ธุรกิจ หรือศึกษาต่อ การวางแผนล่วงหน้า การกรอกข้อมูลให้ถูกต้อง และการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ จะช่วยให้การเดินทางราบรื่นและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทั้งธรรมชาติ เมืองสวย อาหารอร่อย และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล เพียงแค่เพื่อนๆ เตรียมตัวให้พร้อม ทริปก็จะสนุกและราบรื่นอย่างแน่นอน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวีซ่าญี่ปุ่น

  • ยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่นใช้เวลากี่วัน

    ใช้เวลาอย่างน้อย 5 วันทำการ หลังจากวันที่ยื่นคำร้องที่ศูนย์ยื่นคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น
  • ไปญี่ปุ่นต้องทํา Visit Japan ไหม

    ไม่แนะนำ เพราะหากไม่กรอก Visit Japan Web ล่วงหน้า คุณจะต้องกรอกเอกสารหลายฉบับด้วยตนเองที่สนามบิน
  • ให้ คน อื่น ยื่นวีซ่า แทนได้ ไหม

    อาจจะสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นยื่นแทนได้ โดยต้องมีเอกสารประกอบที่ถูกต้องตามข้อกำหนดของแต่ละสถานทูตหรือศูนย์รับคำร้อง
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที
>
วีซ่าญี่ปุ่น