วิธีใช้บริการแท็กซี่ญี่ปุ่น มือใหม่ก็ไม่หลงทาง

การเดินทางในญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องความสะดวกและตรงเวลา โดยเฉพาะระบบขนส่งสาธารณะอย่างแท็กซี่ เป็นทางเลือกที่สะดวกมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยว บทความนี้ Trip.com จะพาไปเรียนรู้วิธีใช้บริการแท็กซี่ญี่ปุ่นอย่างถูกต้อง และเคล็ดลับการใช้บริการอย่างราบรื่น

ประเภทของรถแท็กซี่ญี่ปุ่น

แท็กซี่ที่ญี่ปุ่น มีชื่อเสียงเรื่องความสะอาด บริการที่สุภาพ และมีความปลอดภัย แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ แท็กซี่ญี่ปุ่นนั้นมีหลายประเภท และแตกต่างกันหลายอย่าง ทั้งขนาด ราคาค่าโดยสาร และจุดประสงค์การใช้งาน ซึ่งประเภทของรถแท็กซี่ญี่ปุ่น มีดังนี้

1. แท็กซี่ขนาดมาตรฐาน (Standard Taxi)
   แท็กซี่ขนาดมาตรฐาน จะมีลักษณะรถยนต์ซีดานทั่วไป เป็น Toyota Confort, Toyota JPN Taxi สามารถนั่งได้ 4 ที่นั่ง และค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 500-700 เยน แล้วแต่เมือง ข้อดีของแท็กซี่ประเภทนี้คือหากได้ง่ายที่สุด มีจำนวนมากตามท้องถนนและสถานีรถไฟ
2. แท็กซี่ขนาดใหญ่ (Large Taxi)
   แท็กซี่ขนาดใหญ่ จะเป็นรถไซต์ใหญ่ เช่น Toyota Crown, Toyota Alphard หรือ Hiace สามารถนั่งได้ 5-9 ที่นั่งแล้วแต่รุ่น ค่าโดยสารจะสูงกว่าแบบมาตรฐานเล็กน้อย เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มเพื่อน ครอบครัว และมีสัมภาระเยอะ นั่งสบาย มีพื้นที่วางกระเป๋าเดินทาง
3. แท็กซี่แบบพรีเมียม (Hire Taxi)
   แท็กซี่แบบพรีเมียม รถหรู เช่น Lexus, Alphard, BMW, Mercedes-Benz คนขับจะใส่สูท พูดจาสุภาพเป็นพิเศษ พร้อมบริการเปิดประตู สามารถนั่งได้ 2-4 คน ค่าโดยสารจะแพงกว่าปกติ โดยบางคันจะคิดราคาเหมาจ่าย บางคันคิดเป็นรายชั่วโมง
4. JPN Taxi
   แท็กซี่ที่มีลักษณ์รถเหมือน London Taxi รองรับผู้สูงอายุและผู้ใช้รถเข็น สามารถจุคนได้มากสุด 4 คน สะดวกต่อการขึ้น-ลงสำหรับผู้สูงอายุ
5. แท็กซี่สนามบิน (Airport Fixed-Rate Taxi)
   แท็กซี่ทั่วไปแต่มีการจัดเรทราคาเหมาจ่าย สำหรับการเดินทางจากใจกลางเมืองไปสนามบิน เหมาจ่ายตามโซน และต้องจองล่วงหน้า ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท

ค่าโดยสารแท็กซี่ในญี่ปุ่น

ราคาเริ่มต้นของการเดินทางด้วยแท็กซี่ ราคาแต่ละเมืองนั้นแตกต่างกันไป มิเตอร์ แท็กซี่ก็จะขึ้นตามระยะทาง และนี่คือตารางค่าโดยสารแท็กซี่ญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ช่วงเวลา 22.00 - 05.00 น. เป็นเวลากลางคืนสำหรับรถแท็กซี่ญี่ปุ่น และอาจจะมีค่าโดยสารเพิ่มอีก 20% แนะนำให้เช็กกับคนขับแท็กซี่ก่อนใช้บริการ

เคล็ดลับการนั่งแท็กซี่ญี่ปุ่น

สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกอาจจะสงสัย เพราะแท็กซี่ที่อยู่ปุ่นนั้นจะมีได้แบ่งแยกสีมากนัก มาลองดูกันดีกว่าเคล็ดลับในการนั่งแท็กซี่ญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง

1. สังเกตไฟหน้ารถเพื่อดูว่าแท็กซี่ว่าหรือไม่
   แท็กซี่ในญี่ปุ่นจะมีไฟแสดงสถานะบริเวณหน้ากระจกรถด้านหน้า ไฟแดง คือว่าง, ไฟเขียว/ไม่มีไฟ คือมีผู้โดยสาร/ไม่ว่าง
2. ไม่ต้องเปิดประตูเอง บางคันมีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
   แท็กซี่ญี่ปุ่นส่่วนใหญ่ มีระบบประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติ ควบคุมโดยคนขับ อย่าดึงหรือเปิดประตูเองเพราะอาจทำให้ประตูเสียหาย
3. เตรียมชื่อจุดหมายปลายทางเป็นภาษาญี่ปุ่น
   คนขับแท็กซี่ส่วนมากไม่ถนัดภาษาอังกฤษ ควรเตรียมชื่อสถานที่ ที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ของปลายทางเป็นภาษาญี่ปุ่น อาจจะแคปภาพ หรือเปิดแอป Google ให้คนขับดูได้เลย
4. ใช้แอปเรียกแท็กซี่
   การใช้แอปเรียกแท็กซี่นั้นสะดวกมากๆ เพราะสามารถดูราคาล่วงหน้า ปักจุดรับและจุดหมายปลายทางได้แม่นยำ
5. ชำระเงินได้แบบหลากหลาย
   แท็กซี่่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่รับเงินสด, บัตรเครดิต, IC Card และ QR Code เช่น LINE Pay เป็นต้น และควรถามคนขับก่อนใช้บริการว่าถ้าชำระแบบไม่ใช้เงินสด สามารถทำได้ไหม
6. ขอใบเสร็จทุกครั้งหลังใช้บริการ
   ใบเสร็จจะมีรายละเอียดต่างๆ ทั้ง หมายเลขทะเบียนรถ, วันที่, เวลา, ชื่อบริษัทแท็กซี่ หากลืมของในรถ ก็สามารถติดต่อคืนของได้ง่ายขึ้น
7. ไม่ควรสูบบุหรี่และทำเสียงดังบนรถ
   แท็กซี่ญี่ปุ่น ห้ามสูบบุหรี่บนรถและห้ามทำเสียงดังเด็ดขาด เป็นมารยาทพื้นฐานที่ควรปฏิบัติ

วิธีขึ้นแท็กซี่ญี่ปุ่น

การใช้บริการแท็กซี่ญี่ปุ่น เหมือนจะง่าย แต่ก็ต่างจากการเรียกใช้ในไทยพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องมารยาทที่ควรรู้ก่อนใช้บริการ มาเตรียมตัวก่อนใช้บริการกัน ว่าต้องทำอะไร และมีวิธีขึ้นอย่างไรบ้าง

1. หาจุดเรียกแท็กซี่
   แท็กซี่ญี่ปุ่น สามารถขึ้นได้โดยเรียกจากริมถนนหรือจุดจอดแท็กซี่ รวมถึงการเรียกผ่านแอปพลิเคชัน
2. ขึ้นรถอย่างถูกวิธี
   ยืนฝั่งซ้ายของรถ ประตูจะเปิดอัตโนมัติ อย่าดึงประตูเองเพราะรถบบเปิด-ปิดใช้กลไกควบคุมจากคนขับ
3. แจ้งจุดหมายปลายทาง
   พูดสถานที่ชัดๆ หรือแสดงแผนที่จาก Google Maps ให้แท็กซี่ได้รู้ เพื่อสะดวกต่อการสื่อสารและแจ้งจุดหมายปลายทาง

การเรียกแท็กซี่ญี่ปุ่นจากแอปพลิเคชันนั้นสะดวกต่อการเรียกใช้บริการแท็กซี่ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพียงแค่ระบุจุดรับส่งในแอป เลือกประเภทรถ และวิธีการชำระเงินที่ต้องการ และรอให้รถมาถึงก็สามารถขึ้นรถได้เลย

คำแนะนำแอปพลิเคชันแท็กซี่ญี่ปุ่น

แอปพลิเคชันแท็กซี่ญี่ปุ่น #1 | Taxi「GO」

ที่มาของภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple

แอปพลิเคชัน Taxi「GO」เป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 15 ล้านครั้งในเดือนสิงหาคม 2023 โดยมีจุดเด่น ดังนี้

• ใช้ได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ฮอกไกโดจนถึงโอกินาว่า
• การใช้งานแผนที่ง่ายสุดๆ เพียงเลือกจุดขึ้นและลงรถ และจองได้เพียงคลิกเดียว
• รองรับสมาร์ทโฟนและบัตรเครดิตต่างประเทศ ชาวต่างชาติใช้ได้ไม่มีปัญหา
• AI Reservation สามารถจัดส่งรถได้ภายใน 15 นาที หรือสามารถระบุเวลาออกเดินทางได้ 1-2 ชั่วโมง
• ชำระเงินล่วงหน้าออนไลน์ รับใบเสร็จบนแอป และลงรถได้ทันที โดยไม่ต้องชำระเงินอีกครั้ง

แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังรีบเริ่งไปขึ้นเครื่องบิน หรือพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ แอปนี้สะดวกมากๆ

แอปพลิเคชันแท็กซี่ญี่ปุ่น #2 | NearMe Airport

ที่มาของภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple

แอปพลิเคชันนี้ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีเที่ยวบินเช้า หรือไม่อยากเดินทางด้วยรถโดยสารทั่วไป เป็นบริการรับส่งสนามบินแบบแชร์ระหว่างแท็กซี่่และรถบัส จุดเด่นของแอปนี้คือ

• สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้บนแอปหรือเว็บไซต์ และคนขับก็จะไปรับที่สถานที่ที่กำหนด
• สามารถแชร์การเดินทางกับผู้โดยสารคนอื่นได้ ราคาประหยัดกว่า
• ยกเลิกฟรีก่อน 48 ชั่วโมง ไม่ม่ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เมื่อต้องใช้ทางด่วน

หากต้องการประหยัดเงิน ไม่ได้เร่งรีบไปขึ้นรถบัสนัก แนะนำใช้บริการแอปนี้ได้เลย

แอปพลิเคชันแท็กซี่ญี่ปุ่น #3 | Uber

ที่มาของภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple

แม้ว่า Uber จะไม่สามารถใช้ในการเรียกรถยนต์ส่วนตัวในญี่ปุ่นเหมือนประเทศอื่นๆ แต่ก็สามารถใช้เรียกแท็กซี่ได้แบบสบายๆ ใช้งานง่าย มีจุดเด่น คือ

• ครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว, โอซาก้า, เกียวโตและฟูกุโอกะ
• การใช้งานเหมือน Uber ในประเทศอื่นๆ
• สามารถดูตำแหน่งของรถได้แบบเรียลไทม์
• ชำระเงินออนไลน์ได้

แอปพลิเคชันแท็กซี่ญี่ปุ่น #4 | Airport Taxi

ที่มาของภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Airport Taxi

บริการับส่งที่รองรับการใช้งานหลายภาษา และยังใช้รถยนต์ระดับไฮเลนด์ เพื่อพาคุณไปยังเป้าหมาย จุดเด่นคือ

• รอบรับสนามบินฮาเนดะ, นาริตะ, คันไซ, นิวชิโตเสะ, อิตามิ, นาฮะ และสนามบินอื่นๆ
• สามารถสำรองที่นั่งได้ทางไลน์หรือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการล่วงหน้า 5 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
• รถยนต์มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจหรือออกไปเที่ยวกับครอบครัว

แอปพลิเคชันแท็กซี่ญี่ปุ่น #5 | DiDi

ที่มาของภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple

แอปเรียกแท็กซี่ที่มีต้นกำเนิดมาจากจีน และใช้บริการกันมากในประเทศญี่ปุ่น สามารถไปยังเมืองต่างๆ เช่น คันไซ, คิวชู และฮอกไกโด จุดเด่นมีดังนี้

• การลงทะเบียนง่ายมาก กรอกชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล
• เลือกจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางบนแผนที่ เพื่อเรียกรถ
• ร่วมมือกับบริษัทแท็กซี่ท้องถิ่นหลายแห่งด้วยคุณภาพที่มั่นคง

แอปพลิเคชันแท็กซี่ญี่ปุ่น #6 | Grab

ที่มาของภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple

Grab เป็นแอปพลิเคชันที่สามารถใช้ได้ในหลายประเทศ ซึ่งญี่ปุ่นก็เช่นกัน จุดเด่นคือ

• หน้า UI และการใช้งานเหมือนการในทุกๆ ประเทศ
• รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตออนไลน์
• เพียงสแกนแล้วจะรู้เลยว่ารถอยู่่ที่ไหน ไม่ต้องกลัวว่ารถหาย

ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย แนะนำให้ใช้ Grab เพราะสะดวกและไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่น เพื่อใช้บริการเรียกแท็กซี่

แอปพลิเคชันแท็กซี่ญี่ปุ่น #7 | Fulcul

ที่มาของภาพ: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple

แอปนี้ใช้บริการได้ง่ายมากๆ โดยไม่ต้องลงทะเบียนบัญชี หลังจากเปิดแอป เพียงเขย่าโทรศัพท์ แท็กซี่ที่อยู่ใกล้เคียงก็จะมารับคุณทันที จุดเด่นมีดังนี้

• ไม่ต้องมีบัญชี ไม่มีค่าธรรมเนียมในการรับสินค้า
• รองรับโตเกียว 23 เขต
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการหารถชั่วคราว

แม้ว่าการใช้บริการแท็กซี่ในญี่ปุ่นอาจดูน่ากังวลสำหรับมือใหม่ เพราะมีรายละเอียดและมารยาทเฉพาะตัวที่ต่างจากบ้านเรา แต่หากเข้าใจขั้นตอนเบื้องต้น ก็จะช่วยให้การเดินทางสะดวก ปลอดภัย และน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ คนขับแท็กซี่ในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ให้บริการด้วยความสุภาพและมืออาชีพ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะหลงหรือสื่อสารไม่เข้าใจ ขอเพียงแค่เตรียมตัวไว้เล็กน้อย การขึ้นแท็กซี่ในญี่ปุ่นก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ดี ๆ ในการเดินทางที่คุณจะจดจำไม่รู้ลืม

จองที่พักในญี่ปุ่น