
การเตรียมปลั๊กไฟให้พร้อมก่อนเดินทางไปออสเตรียคือหนึ่งในสิ่งเล็ก ๆ ที่ช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นสุด ๆ เพราะประเทศนี้ใช้ปลั๊ก Type F และไฟบ้าน 230V/50Hz ซึ่งต่างจากของไทยที่ใช้หัวปลั๊กแบบแบน (Type A/B) นักเดินทางส่วนใหญ่จึงต้องพก ปลั๊กแปลง ติดกระเป๋าไว้สักอัน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักปลั๊กไฟออสเตรียแบบเข้าใจง่าย — ตั้งแต่ชนิดปลั๊ก วิธีเลือกอะแดปเตอร์ ไปจนถึงแหล่งซื้อที่คุ้มที่สุด
หมายเหตุ: คู่มือนี้พูดถึง ออสเตรีย (Austria) ในยุโรปนะคะ ไม่ใช่ ออสเตรเลีย (Australia)!
ปลั๊กไฟออสเตรีย vs ไทย
ก่อนจะเก็บกระเป๋าไปเที่ยวออสเตรีย ลองเช็กข้อมูลพื้นฐานเรื่อง “ปลั๊กไฟ” กันก่อนดีกว่า เพราะแรงดันไฟและรูปแบบหัวปลั๊กที่ต่างกันเล็กน้อย อาจทำให้อุปกรณ์ของคุณใช้งานไม่ได้ถ้าไม่ได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า ตารางด้านล่างนี้คือสรุปสั้น ๆ ที่ช่วยให้คุณเข้าใจทุกอย่างในไม่กี่วินาที 👇
หัวข้อเปรียบเทียบ | ออสเตรีย | ไทย |
|---|---|---|
แรงดันไฟฟ้า | 230V | 220V |
ความถี่ไฟฟ้า | 50Hz | 50Hz |
ประเภทปลั๊ก | Type F (รองรับ Type C ได้) | Type A, B, C, O |
ต้องใช้อะแดปเตอร์ไหม | จำเป็นในบางกรณี | – |
💡 เคล็ดลับ:
ถ้าหัวปลั๊กของคุณเป็น แบบกลมสองขา (Type C) มักเสียบกับเต้ารับ Type F ของออสเตรียได้โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์เลย แต่ถ้าเป็นหัวแบน (Type A/B) แบบที่ใช้ในไทย ควรพก ปลั๊กแปลงหัวแบนเป็นหัวกลม ติดกระเป๋าไว้เสมอ จะได้ชาร์จมือถือหรือกล้องได้ทุกที่อย่างสบายใจ!
ออสเตรียใช้ปลั๊กไฟแบบ Type F
ปลั๊กไฟในออสเตรียเป็น ชนิด F หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ปลั๊กแบบ Schuko (Schutzkontakt) ลักษณะเป็น ขากลมสองขา ขนาด 4.8 มิลลิเมตร เว้นระยะห่างประมาณ 19 มิลลิเมตร คล้ายกับปลั๊ก ชนิด E แต่ต่างกันตรงที่ มีคลิปสายดินอยู่ด้านข้าง แทนที่จะเป็นขั้วสายดินแบบรูตรงกลาง ปลั๊กชนิดนี้รองรับกระแสไฟสูงสุด 16 แอมป์ และใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศของยุโรป เช่น เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และออสเตรียนั่นเองค่ะ
👉 ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานปลั๊กไฟประเทศต่าง ๆ ได้ที่ IEC World Plugs – มาตรฐานปลั๊กไฟทั่วโลก

ที่มา: จากworld-power-plugs.com
ต้องใช้ปลั๊กแปลงหรือหม้อแปลงไฟเมื่อไปออสเตรียไหม?
คำตอบคือ — ส่วนใหญ่ต้องใช้ “ปลั๊กแปลง” แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ “หม้อแปลงไฟ” เพราะปลั๊กไฟในออสเตรียเป็นแบบ Type F ซึ่งต่างจากของไทยที่ใช้หัวแบน (Type A/B) แต่แรงดันไฟไม่ต่างกันมากนัก (ออสเตรีย 230V / ไทย 220V)
ปลั๊กแปลง (Adapter)
- ถ้าคุณใช้หัวปลั๊กแบบแบน (เช่น ที่ชาร์จมือถือจากไทย) ต้องมีปลั๊กแปลงเพื่อให้เข้ากับเต้ารับของออสเตรีย
- ถ้าหัวปลั๊กเป็นแบบกลมสองขา (Type C) เช่น ที่ชาร์จกล้องหรือโน้ตบุ๊กบางรุ่น มักเสียบเข้ากับเต้ารับ Type F ได้โดยตรง
- สำหรับคนที่เดินทางบ่อย แนะนำใช้ ปลั๊กแปลงแบบ Universal ตัวเดียวใช้ได้ทั่วโลก คุ้มกว่าในระยะยาว
หม้อแปลงไฟ (Transformer)
โดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้หม้อแปลงไฟ เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน (มือถือ แล็ปท็อป กล้อง) รองรับแรงดันไฟตั้งแต่ 100–240V อยู่แล้ว
💡 เคล็ดลับ: ดูที่ฉลากหรืออะแดปเตอร์ หากมีข้อความ “Input: 100–240V” แปลว่าใช้ได้ทั่วโลก ไม่ต้องพกหม้อแปลงให้หนักกระเป๋า
ข้อยกเว้นที่อาจต้องใช้หม้อแปลง
- เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง เช่น ไดร์เป่าผม เตารีดผม รุ่นเก่าที่รองรับเพียง 110V
- อุปกรณ์ญี่ปุ่นหรืออเมริกาบางรุ่นที่ระบุ “Input 100V เท่านั้น”
💡 เคล็ดลับ: แนะนำเลือกใช้รุ่น “Dual Voltage” หรือใช้ของโรงแรมในออสเตรียแทน ปลอดภัยและสะดวกกว่า
ปลั๊กแปลงซื้อได้ที่ไหนในออสเตรีย
ถ้าลืมพกปลั๊กแปลงไปด้วย ไม่ต้องตกใจค่ะ! เพราะในออสเตรียสามารถหาซื้อได้ไม่ยากเลย ทั้งในเมืองใหญ่และสนามบิน เพียงแต่อย่าซื้อที่สนามบินถ้าไม่จำเป็น เพราะราคามักจะแพงกว่าหลายเท่า
สถานที่แนะนำให้ซื้อปลั๊กแปลงในออสเตรีย
- ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า (Electronics Store) – เช่น MediaMarkt, Saturn หรือร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในห้างใหญ่ ๆ มักมีอะแดปเตอร์หลายแบบให้เลือก ทั้งหัวเดียวและแบบ Universal
- ซูเปอร์มาร์เก็ต / ห้างสรรพสินค้า – เช่น Interspar, Billa Plus หรือ Merkur ก็มีขายในโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็ก ๆ ราคาสบายกระเป๋า
- ร้านสะดวกซื้อในเมืองหรือสถานีรถไฟ – ถ้าลืมจริง ๆ ระหว่างเดินทางในเมืองใหญ่ อย่างเวียนนา (Vienna) หรือซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ก็มักจะมีขายอยู่ใกล้ ๆ
- สั่งซื้อออนไลน์ล่วงหน้า – ใครอยากเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง แนะนำสั่งจากร้านค้าออนไลน์ เช่น Amazon หรือ Lazada Global จะได้ราคาดีกว่าและไม่ต้องวิ่งหาซื้อเมื่อถึงออสเตรีย
💡 เคล็ดลับ:
เลือกซื้อปลั๊กแปลงแบบ Universal Adapter ไปเลยดีที่สุด ใช้ได้หลายประเทศ มีช่อง USB ในตัว และบางรุ่นมีฟิวส์นิรภัยด้วย เหมาะกับคนที่เดินทางบ่อยหรือมีทริปต่อเนื่องในยุโรป
เคล็ดลับการชาร์จอุปกรณ์โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กไฟในออสเตรีย

ถ้ารูปแบบปลั๊กไฟของออสเตรียไม่เข้ากับหัวชาร์จของคุณ ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยให้คุณ “ชาร์จแบตได้ทุกที่” โดยไม่ต้องง้อเต้ารับไฟแบบ Type F
- ใช้สาย USB หรือหัวชาร์จพอร์ต USB-C – โรงแรม สนามบิน และรถไฟความเร็วสูงในออสเตรียมักมีพอร์ต USB ให้บริการ คุณสามารถชาร์จมือถือหรือแท็บเล็ตได้เลยโดยไม่ต้องใช้ปลั๊กแปลง
- พกพาวเวอร์แบงก์ติดตัวไว้เสมอ – เหมาะสำหรับเวลานั่งรถไฟข้ามเมืองหรือเดินเล่นในเมืองเก่า เพราะบางพื้นที่อาจหาจุดเสียบปลั๊กยาก
- ชาร์จจากพอร์ต USB บนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ เช่น แล็ปท็อป หรือปลั๊กพ่วงที่มีช่อง USB ในตัว ก็เป็นอีกวิธีที่สะดวกและปลอดภัย
💡 เคล็ดลับ:
เลือกพาวเวอร์แบงก์ที่จุไฟ 10,000–20,000 mAh ก็เพียงพอสำหรับหนึ่งวันเต็ม และอย่าลืมตรวจสอบว่าความจุไม่เกิน 27,000 mAh (100 Wh) เพื่อให้สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้โดยไม่ติดข้อกำหนดของสายการบินนะคะ
จุดชาร์จไฟในออสเตรียที่นักเดินทางควรรู้

ถ้าเผลอลืมพกปลั๊กแปลงหรือหัวชาร์จมาด้วย ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะในออสเตรียมีหลายจุดที่คุณสามารถ “เสียบปลั๊กเติมพลัง” ให้ทั้งมือถือและตัวคุณเองได้อย่างสะดวกสบาย
1. สนามบินหลักในออสเตรีย
ไม่ว่าจะเป็น สนามบินเวียนนา (Vienna International Airport) หรือสนามบินซาลซ์บูร์ก ต่างก็มีจุดชาร์จไฟและพอร์ต USB ให้บริการในโซนพักรอขึ้นเครื่องและเลานจ์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แนะนำให้พกสายชาร์จติดตัวไว้เสมอ เพราะปลั๊กในสนามบินส่วนมากเป็นหัวแบบยุโรป (Type F)
2. คาเฟ่และร้านอาหาร
คาเฟ่ในเมืองท่องเที่ยวอย่างเวียนนา ฮัลล์สตัทท์ หรืออินส์บรูค มักมีปลั๊กไฟหรือพอร์ต USB ไว้ให้ลูกค้าใช้งานได้ บางร้านอาจมีป้าย “charging friendly” หรือสัญลักษณ์ปลั๊กเล็ก ๆ ติดอยู่ที่โต๊ะ — เรียกได้ว่าชาร์จไป จิบกาแฟไป ก็ชิลสุด ๆ
3. โรงแรมและที่พัก
โรงแรมส่วนใหญ่ในออสเตรียจะมีปลั๊กไฟให้ในห้องพักอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณมีหลายอุปกรณ์ ควรพกปลั๊กพ่วงหรือหัวแปลงแบบ Universal ติดไว้ด้วย โรงแรมบางแห่งยังมีพอร์ตชาร์จ USB ที่หัวเตียงหรือล็อบบี้ เพิ่มความสะดวกสำหรับนักเดินทางที่ไม่อยากพกอะแดปเตอร์หลายแบบ
💡 เคล็ดลับ:
อย่าลืมพก พาวเวอร์แบงก์ ติดตัวไว้ โดยเฉพาะระหว่างเดินทางข้ามเมืองหรือเที่ยวในชนบท เพราะจุดชาร์จอาจหายากกว่าในเมืองใหญ่ และอย่าลืมตรวจสอบว่าพาวเวอร์แบงก์ของคุณอยู่ในขนาดที่อนุญาตให้ขึ้นเครื่องได้ด้วยนะ!
รายชื่อปลั๊กไฟและแรงดันไฟฟ้าของประเทศต่าง ๆ
สำหรับใครที่มีแผนเดินทางต่อจากออสเตรียไปประเทศอื่นในยุโรปหรือโซนอื่น ๆ เราได้รวบรวมข้อมูล รูปแบบปลั๊กไฟและแรงดันไฟฟ้าของแต่ละประเทศ ไว้ให้ครบในที่เดียว ใช้เช็กก่อนได้เลยว่าควรเตรียมปลั๊กแปลงแบบไหนไปด้วย
เอเชีย
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
ไทย | 50 | 220 | A,B,B3,BF,C |
เกาหลีใต้ | 60 | 110/220 | A, C, SE |
จีน | 50 | 110/220 | A, B, B3, BF, C, O, SE |
ไต้หวัน | 50 | 110 | A,O, C |
ฮ่องกง | 50 | 220 | BF |
อินเดีย | 50 | 115/230/240 | B, B3, BF, C, SE |
เวียดนาม | 50 | 220 | A,C,SE,BF |
อินโดนีเซีย | 50 | 127/220/230 | A, B, B3, BF, C |
สิงคโปร์ | 50 | 220/240 | BF |
ฟิลิปปินส์ | 60 | 230/240 | A, B, B3, C, O |
มาเลเซีย | 50 | 240 | B, B3, BF, C |
โอเชียเนีย
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
ออสเตรเลีย | 50 | 240/250 | O |
นิวซีแลนด์ | 50 | 230/240 | O |
ฟิจิ | 50 | 120/240 | A, B, C, O |
อเมริกาเหนือ/อเมริกาใต้
แรงดันไฟฟ้าในทวีปอเมริกาจะ แตกต่างจากยุโรปและเอเชียค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่จะใช้ไฟ 120V ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานของยุโรป (230V) และไทย (220V) ดังนั้นหากคุณนำอุปกรณ์ไฟฟ้าจากไทยไปใช้งาน ควรเตรียมทั้ง ปลั๊กแปลง และ หม้อแปลงไฟ ติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์ค่ะ
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
อเมริกา | 60 | 120 | A |
แคนาดา | 60 | 120/240 | A, BF |
อาร์เจนตินา | 50 | 220 | BF, C, O, SE |
โคลัมเบีย | 60 | 120/150 | A |
ชิลี | 50 | 220 | B3, BF, C, SE |
บราซิล | 60 | 127/220 | A, C |
เวเนซุเอลา | 60 | 120 | A |
เปรู | 60 | 220 | A, C, SE |
เม็กซิโก | 60 | 120/127/230 | A, C, SE |
ยุโรป
ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปใช้แรงดันไฟ 230V ซึ่งสูงกว่าไทยเล็กน้อย อีกทั้งรูปแบบของ เต้ารับและหัวปลั๊ก ก็แตกต่างจากที่ใช้ในบ้านเรา ดังนั้นนักเดินทางควรเตรียมทั้ง ปลั๊กแปลง และ (หากอุปกรณ์ไม่รองรับแรงดันสูง) ให้พก หม้อแปลงไฟ ติดตัวไว้ด้วย เพื่อให้ใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยตลอดทริปค่ะ
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
สหราชอาณาจักร | 50 | 230/240 | B, B3, BF, C |
ไอซ์แลนด์ | 50 | 230 | B, C, SE |
อิตาลี | 50 | 125/220 | A, C, SE |
ออสเตรีย | 50 | 230 | B3, BF, C, O, SE |
เนเธอร์แลนด์ | 50 | 230 | B, C, SE |
กรีซ | 50 | 230 | B, B3, C, SE |
สวิตเซอร์แลนด์ | 50 | 230 | A, B, C, SE |
สวีเดน | 50 | 230 | B, C, SE |
สเปน | 50 | 127/220 | A, C, SE |
เดนมาร์ก | 50 | 230 | C |
เยอรมนี | 50 | 127/230 | A, C, SE |
นอร์เวย์ | 50 | 230 | C, SE |
ฮังการี | 50 | 220 | C |
ฟินแลนด์ | 50 | 120/230 | A, B, C, SE |
ฝรั่งเศส | 50 | 127/230 | A, C, O, SE |
บัลแกเรีย | 50 | 110/220 | A, C, SE |
เบลเยียม | 50 | 127/230 | A, B, C, SE |
โปรตุเกส | 50 | 230 | B, B3, BF, C, SE |
รัสเซีย | 50 | 127/220 | A, B, C, SE |
แอฟริกา
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
แอลจีเรีย | 50 | 127/220 | A, BF, C |
อียิปต์ | 50 | 220 | B3, BF, C |
เอธิโอเปีย | 50 | 220 | C |
เคนยา | 50 | 240 | B, B3, BF, C |
ซาอีร์ | 50 | 220 | C |
แทนซาเนีย | 50 | 230 | B3, BF |
ไนจีเรีย | 50 | 230 | B, BF, C |
แอฟริกาใต้ | 50 | 220/230/250 | B, B3, BF, C |
อ้างอิง: https://www.apple.com/
การเตรียมปลั๊กแปลงให้พร้อมก่อนเดินทางออสเตรียคือเรื่องเล็ก ๆ ที่ช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นไม่มีสะดุด แค่รู้ว่าที่นั่นใช้ปลั๊ก Type F และไฟ 230V ก็หมดกังวลเรื่องการชาร์จอุปกรณ์ได้เลย เตรียมให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสนุกกับออสเตรียอย่างสบายใจไปกับ Trip.com เลย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปลั๊กไฟออสเตรีย
เครื่องใช้ไฟฟ้า 220V ใช้กับ 230V ได้ไหม?
ได้ค่ะ ความต่างของแรงดันไฟเพียง 10V ไม่กระทบกับการใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าจากไทยส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ในออสเตรียโดยไม่ต้องใช้หม้อแปลง เพียงตรวจสอบฉลากว่า “Input: 100–240V” เพื่อความมั่นใจปลั๊กไฟในออสเตรียเป็นแบบไหน?
ออสเตรียใช้ปลั๊ก Type F (Schuko) แบบหัวกลมสองขา ซึ่งเข้ากันได้กับหัวปลั๊กแบบ Type C ด้วย หากอุปกรณ์ของคุณเป็นหัวแบนแบบไทย (Type A/B) ควรพกปลั๊กแปลงไปด้วยต้องใช้หม้อแปลงไฟไหมเวลาไปออสเตรีย?
โดยทั่วไปไม่จำเป็น เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่ เช่น โทรศัพท์ แล็ปท็อป และกล้อง รองรับแรงดัน 100–240V อยู่แล้ว ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูงรุ่นเก่า เช่น ไดร์เป่าผมหรือเตารีดผม ควรตรวจสอบก่อนใช้งานซื้อปลั๊กแปลงที่ไหนในออสเตรียได้บ้าง?
สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เช่นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า (MediaMarkt, Saturn), ซูเปอร์มาร์เก็ต (Interspar, Billa Plus), หรือสั่งออนไลน์ผ่าน Amazon ราคาจะถูกกว่าซื้อที่สนามบินโรงแรมในออสเตรียมีพอร์ต USB ให้ชาร์จไหม?
โรงแรมส่วนใหญ่มีปลั๊กไฟและพอร์ต USB ให้บริการในห้องพัก บางแห่งมีพอร์ต USB-C หรือเต้ารับ Universal ที่หัวเตียง แต่เพื่อความชัวร์ควรพกหัวชาร์จ USB หรือปลั๊กแปลงติดตัวไปด้วยค่ะ





