16 ที่เที่ยวปักกิ่ง 2568: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับคนไทย อัปเดตล่าสุด!

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
16 ที่เที่ยวปักกิ่ง 2568

ปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนที่มีเสน่ห์ ทั้งในด้านของประวัติศาสตร์และความทันสมัย แถมเป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างอยากมาเยือน ทุกแหล่งท่องเที่ยวของปักกิ่งล้วนสะท้อนวัฒนธรรมจีนที่ทรงคุณค่า นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยคาเฟ่สมัยใหม่ ห้างหรู และย่านศิลปะสุดฮิป สำหรับคนไทยที่กำลังวางแผนหาที่เที่ยวปักกิ่ง 2568 Trip.com ได้รวบรวมคู่มือสำหรับเที่ยวปักกิ่งแบบอัปเดตล่าสุด ทุกที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด พร้อมเคล็ดลับการเดินทางให้ได้เที่ยวครบ สนุก และคุ้มค่าในทริปเดียว

วางแผนเที่ยวปักกิ่ง  2568 ต้องรู้อะไรบ้าง?

ปักกิ่งในปี 2568 เป็นเมืองที่ยังคงเสน่ห์ของจีนไว้ในที่เดียว ทั้งความยิ่งใหญ่ในอดีต ความล้ำสมัยในปัจจุบัน และที่ทำให้ปักกิ่งปีนี้น่าสนใจมาก เพราะการท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากเปิดประเทศเต็มรูปแบบ หลายๆ แลนด์มาร์กได้มีการบูรณะใหม่ เช่น พระราชวังต้องห้าม, ย่าน 789 Art เป็นต้น

นอกจากนี้ ระบบขนส่งสาธารณะของปักกิ่งก็พัฒนาต่อเนื่อง มีเส้นทางรถไฟใต้ดินใหม่และระบบจ่ายเงินผ่านมือถือ ที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สะดวกขึ้น และสภาพอากาศที่สวยงามในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง บวกกับสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่เดินทางง่าย ในปี 2568 ทำให้ปักกิ่งกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไทยให้ความสนใจมากๆ และนี่คือ 16 ที่เที่ยวปักกิ่ง ที่คัดมาแล้วว่าไม่ควรพลาด!

1. พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) - ที่สุดแห่งความยิ่งใหญ่

พระราชวังต้องห้าม

พระราชวังต้องห้าม หรือที่คนจีนเรียกว่า กู้กง เป็นหัวใจของเมืองปักกิ่งและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของจีน เพราะที่นี่เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ์ราชวงศ์หมิงและชิง รวมแล้วกว่า 24 พระองค์ แต่ละห้องของพระราชวัง้ตองห้ามล้วนเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราณอันประฯีต สีแดงทองสื่อถึงอำนาจและศักดิ์ศรีของจักรพรรดิ 

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • ประตูอู่เหมิน
    ประตูหลักมหึมา ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องผ่านก่อนเข้าสู่พระราชวัง เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
  • หอรับสั่งสูงสุด
    อาคารสำคัญที่สุกในพระราชวัง ใช้ประกอบพิธีราชาภิเษกและงานสำคัญของจักรพรรดิ ภายในประกอบด้วยเสาไม้แกะสลักมังกรและหลังคามุงกระเบื้องเหลืองซึ่งเป็นสีประจำจักรพรรดิ
  • สวนหลวงด้านเหนือ
    สวนขนาดใหญ่ที่แต่งอย่างลงตัว เป็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางท่องเที่ยวภายในพระราชวังที่ให้บรรยากาศสงบตัดกับความยิ่งใหญ่ของส่วนอื่นๆ

พระราชวังต้องห้าม ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่พาย้อนเวลาไปสัมผัสกับชีวิตของจักรพรรดิและพระราชสำนักในอดีต และเป็นจุดถ่ายรูปสุดงดงามในปักกิ่งอีกด้วย

การเดินทาง

  • รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Tiananmen East หรือ Tiananmen West เดินต่อประมาณ 5 นาที
  • รถบัสหลายสายผ่านบริเวณ Tiananamen Square

เวลาเปิด-ปิด

  • ฤดูร้อน (เม.ย.–ต.ค.): 08:30–17:00 น. (ปิดจำหน่ายบัตร 16:00 น.)
    ฤดูหนาว (พ.ย.–มี.ค.): 08:30–16:30 น. (ปิดจำหน่ายบัตร 15:30 น.)
  • ปิดทำการทุกวันจันทร์ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)

ค่าเข้าชม : ฤดูร้อน 60 หยวน และ ฤดูหนาว 40 หยวน

2. กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่ (Great Wall at Mutianyu) - วิวสวย เดินทางสะดวก

กำแพงเมืองจีน ด่านมู่เถียนยวี่

กำแพงเมืองจีน คือสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของประเทศจีน และหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัสจรรย์ของโลกยุคใหม่ ซึ่งทอดยาวกว่า 21,000 กิโลเมตร แต่สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ด่าน มู่เถียนยวี่ เป็นด่านที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีทิวทัศน์สวยงาม เดินทางง่ายจากใจกลางปักกิ่ง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ขึ้นชื่อเรื่องความยาวของแนวกำแพงที่คดเคี้ยวไปตามแนวเขาเขียวชอุ่ม มีหอคอยสังเกตการณ์กว่า 20 แห่งเรียงรายตามแนวเขา 20 แห่งเรียงรายตามแนวเขา มองเห็นวิวแบบพาโนรามา 

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด 

  • กระเช้าไฟฟ้าและเก้าอี้ลอยฟ้า
    สำหรับผู้ที่ไม่อยากเดินขึ้นเขา สามารถนั่งกระเช้าชมวิวระหว่างทางได้แบบสบายๆ
  • สไลด์ Toboggan Slide
    จุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว สามารถสไล์ลงจากกำแพงมายังจุดล่างได้ด้วยรางโค้งสุดมันส์ เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
  • จุดชมวิวหอคอยที่ 14-23
    เป็นช่วงที่สวยที่สุดของมู่เถียนยวี่ เพราะแนวกำแพงล้อมรอบด้วยป่าสนและภูเขา

นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงในการเดินสำรวจ ถ่ายภาพและชมวิว โดยเฉพาะช่วงเช้าและบ่ายแก่ๆ ที่แสงแดดอ่อนๆ จะทำให้ภาพออกมาสวยที่สุด ด่านมู่เถียนยวี่ได้รับการบูรณธให้อยู่ในสภาพดี รองรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์โดยไม่ต้องเดินป่าหนัก

การเดินทาง : จากใจกลางปักกิ่งสามารถนั่งรถบัส สาย 916 Express จากสถานี Dongzhimen ไปลงที่ Huairou North Avenue แล้วต่อรถมินิบัสหรือแท็กซี่อีกประมาณ 20 นาที

เวลาเปิด-ปิด 

  • เมษายน–ตุลาคม: 08:00–17:00 น.
  • พฤศจิกายน–มีนาคม: 08:30–16:30 น.

ค่าเข้าชม

  • บัตรเข้าชมกำแพงเมืองจีน: 40 หยวน
  • รถ Shuttle Bus รับ–ส่งจากลานจอดถึงทางขึ้น: 15 หยวน (ไป–กลับ)
  • กระเช้าไฟฟ้า (Cable Car): 100 หยวน/เที่ยวเดียว หรือ 120 หยวน/ไป–กลับ
  • Toboggan Slide (สไลด์ลง): 80 หยวน

3. พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) - งดงามราวภาพวาด

พระราชวังฤดูร้อน

พระราชวังฤดูร้อน หรือ อี้เหอหยวน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและสงบที่สุดในกรุงปักกิ่ง ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนของจักรพรรดิและพระมเหสีในฤดูร้อน โดยมีทะเลสาบคุนหมิงและภูเขาอายุหมื่นปี เป็นศูนย์กลาง สะท้อนความงดงามของธรรมชาติและภูมิปัญญาในการจัดสวนแบบจีน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • ทะเลสาบคุนหมิง
    ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3 ใน 4 ของพระราชวังฤดูร้อน สามารถนั่งเรือชมวิวไปจนถึงกลางแม่น้ำได้ และในช่วงเย็นจุดนี้จะสวยมาก เห็นพระอาทิตย์ตกสวยราวกับภาพวาด
  • สะพานสิบเจ็ดช่อง
    หนึ่งในจุดถ่ายรูปที่โด่งดังที่สุด สะพานหินโค้งที่ทอดยาวเหนือทะเลสาบโดยมีรูปปั้นสิงโตหินกว่า 500 ตัวประดับเรียงราย
  • หออารามแห่งความกลมกลืน
    อาคารที่ตั้งอยู่บนภูเขาหมื่นอายุ เห็นวิวพระราชวังและตัวเมืองปักกิ่งได้ชัดเจน 

ใครก็ตามที่ได้มาพระราชวงัฤดูร้อน จะได้เห็นการผสมผสานระหว่างศิลปะ สถาปัตยกรรมและธรรมชาติได้อย่างงดงามที่สุดในจีน ที่นี่มอบบรรยากาศสงบเงียบท่ามกลางวิวภูเขาและทะเลสาบ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่อยากพักผ่อนจากความคึกคักของตัวเมืองปักกิ่ง และยังเป็นสถานที่ที่สะท้องรสนิยมอันประณีตของจักพรรดินีซูวีไทเฮาด้วย

การเดินทาง

  • รถไฟใต้ดินสาย 4 ลงสถานี Beigongmen Station ทางออก D เดินต่อประมาณ 5 นาทีถึงประตูเหนือของพระราชวัง
  • รถบัส: สาย 330, 331, 332, 346 ลงที่ป้าย Yiheyuan

เวลาเปิด-ปิด

  • ฤดูร้อน (เม.ย.–ต.ค.): 06:30–18:00 น. (ปิดจำหน่ายบัตร 17:00 น.)
  • ฤดูหนาว (พ.ย.–มี.ค.): 07:00–17:00 น. (ปิดจำหน่ายบัตร 16:00 น.)

ค่าเข้าชม : ฤดูร้อน 30 หยวน และ ฤดูหนาว 20 หยวน

4. หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) - สถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง

หอสักการะฟ้าเทียนถาน

หอสักการะฟ้าเทียนถาน เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจีน และเป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่งดงาม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1998 ที่นี่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์หมิง เพื่อใช้เป็นสถานที่ปรักอบพิธีบวงสรวงสวรรค์ของจักรพรรดิ พื้นที่เทียนถานกว้างใหญ่กว่าพระราชวงัต้องห้ามถึง 4 เท่า ทุกองค์ประกอบตั้งแต่ผังทางเดินไปจนถึงสีของอาคาร ล้วนออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยและความเชื่อทางจักรวาล

ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด

  • หออธิษฐานเพื่อผลผลิตที่ดี
    อาคารทรงกลมสามชั้น มุงกระเบื้องสีฟ้าอันเป็นสัญลักษณ์ของฟ้า ไม่มีตะปูแม้แต่ตัวเดียวก็สามารถตั่งอยู่ได้อย่างมั่นคง ถือเป็นผลงานทางวิศวกรรมอันน่าทึ่งของจีนโบราณ
  • แท่นบวงสรวงสวรรค์
    จุดที่จักรพรรดิทำพิธีเซ่นไหว้ฟ้า เชื่อว่าหากพูดเสียงเบาที่จุดกลางแท่น เสียงจะสะท้อนกลับมาชัดเจน เพราะออกแบบให้เกิดเสียงสะท้อนแห่งสวรรค์
  • กำแพงสะท้อนเสียง
    ผนังโค้งรูปวงกลมที่สามารถส่งเสียงพูดจากอีกฝั่งให้ได้ยินชัดเจน ในระยะทางกว่า 60 เมตร 

เทียนถาน ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังสะท้อนแนวคิดเรื่องความกลมกลืนระหว่างฟ้ากับมนุษญ์ ได้อย่างงดงสม การได้มาที่นี่ คือการเดินเข้าสู่ศูนย์กลางแห่งจักรวางในมุมของจีนโบราณ ใครที่สนใจประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม มาเที่ยวที่นี่จะได้สัมผัสแบบเต็มๆ

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Tiantan Dongmen (Exit A) จากนั้นเดินประมาณ 5 นาทีถึงประตูตะวันออกของเทียนถาน

เวลาเปิด-ปิด

  • สวนรอบเทียนถาน: เปิดทุกวัน 06:00–22:00 น.
  • เขตอาคารหลัก (Hall of Prayer for Good Harvests): เปิด 08:00–17:00 น.

ค่าเข้าชม

  • บัตรเข้าชมเฉพาะสวน: 15 หยวน
  • บัตรรวมเขตอาคารหลัก: 34 หยวน (ช่วงเมษายน–ตุลาคม) / 28 หยวน (พฤศจิกายน–มีนาคม)

5. จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) - จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จัตุรัสเทียนอันเหมิน

จัตุรัสเทียนอันเหมิน คือสัญลักษณ์แห่งชาติของจีนและเป็นอีกแลนด์มาร์กที่สำคัญของปักกิ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองตรงข้ามพระราชวังต้องห้าม เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถรองรับผู้คนได้มากถึงล้านคน เพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และกลายนเป็นศูนย์กลางของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์สำคัญนับไม่ถ้วนของประเทศ

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • ประตูเทียนอันเหมิน
    สัญลักษณ์ที่ปรากฏบนธงและเหรียญของจีน ด้านบนมีภาพของประธานเหมา เจ๋อตงขนาดใหญ่ เป็นจุดถ่ายรูปที่ทุกคนต้องแวะมา
  • อนุสรณ์สถานวีรชนประชาชน
    เสาหินแกรนิตสูง 37 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรชนที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาติ
  • มหาศาลาประชาชน
    อาคารรัฐสภาขนาดมหึมาที่ใช้จัดการประชุมระดับประเทศ
  • พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติจีน
    ภายในรวบรวมโบราณวัตถุและนิทรรศการเกี่ยวกับอารยธรรมจีนตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน
  • พิธีเชิญและเชิญธงชาติ
    ไฮไลท์ยามเช้าและเย็นที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากรอชม ทหารจะมาเดินขบวนอย่างพร้อมเพรียงและยิ่งใหญ่

ที่นี่คือจุดที่ประวัติศาสตร์และอุดมการณ์ของประเทศถูกหล่อหลอมไว้ในพื้นที่เดียวกัน คุณจะได้เห็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมคอมมิวนิสต์อันสง่างามกับบรรยากาศของความภาคภูมิใจในชาติที่ชัดเจนทุกมุม

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Tiananmen East หรือ Tiananmen West ออกทางออก A เดินเพียงไม่กี่นาทีถึงจัตุรัส

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 05:00–22:00 น.

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

6. ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) - ที่เที่ยวใหม่ห้ามพลาด

ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท

ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ท (Universal Beijing Resort) คือสวนสนุกระดับโลกแห่งใหม่ล่าสุดของประเทศจีน และเป็นแห่งที่ 5 ของเครือยูนิเวอร์แซลทั่วโลก ที่นี่เปิดอย่างนิ่งใหญ่และกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของปักกิ่งที่นักท่องเที่ยวล้วนอยากมา 

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • The Wizarding World of Harry Potter
    เดินเข้าสู่โลกแห่งเวทมนตร์ที่สร้างจากฉากจริงของภาพยนตร์ Harry Potter ที่จำลองออกมาได้สมจริง เป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่แฟนๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่ควรพลาด
  • Transformers Metrobase
    โซนที่เปิดเฉพาะยูนิเวอร์แซล ปักกิ่งเท่านั้น ไม่มีที่สาขาอื่น ที่นี่ถูกออกแบบมาให้เหมือนฐานลับของ Autobots พร้อมเครื่องเล่น Decepticoaster ที่เร้าใจในระดับหัวใจแทบหยุด
  • Jurassic World Adventure
    เครื่องเล่นจำลองโลกไดโนเสาร์สุดอลังการ ที่จะพาไปผจญภัยผ่านป่าดึกดำบรรพ์เจอ T-Rex ตัวใหญ่เต็มตา เอฟเฟต์เสียงสมจริง
  • Minion Land และ Kung Fu Land of Awesomeness
    โซนสำหรับเด็กๆ และครอบครัว โซนมินเนียนเต็มไปด้วยสีสันสดใสและความน่ารัก ส่วนโซนกังฟู ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมจีนโบราณ ผสมผสานแอนิเมชันอย่างลงตัว
  • CityWalk Beijing
    แหล่งรวมอาหารและช้อปปิ้งธีมฮอลลีวูด ไม่ต้องซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกก็เดินเล่นได้สบายๆ เหมือนยก LA มาไว้กลางปักกิ่ง

ที่สวนสนุกแห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่สวนสนุกเท่านั้น แต่เป็นประสบการณ์ระดับโลกในเวอร์ชันจีน ที่ผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัยกับรายละเอียดแบบเอเชียไว้อย่างลงตัว เหมาะกับคู่รัก ครอบครัว และกลุ่มเพื่อนที่อยากใช้เวลาสนุกด้วยกันทั้งวัน

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินขึ้นสาย Batong Line หรือ Line 7 ลงสถานี Universal Resort Station (ทางออก B) เดินเพียง 5 นาทีถึงประตูหลัก

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 09:00–21:00 น.

ค่าเข้าชม : บัตรเริ่มต้นประมาณ 418–748 หยวน ต่อคน ขึ้นอยู่กับวันและฤดูกาล

7. ย่านศิลปะ 798 (798 Art District) - แหล่งรวมตัวของสายอาร์ต

ย่านศิลปะ 798

หากพระราชวังต้องห้ามคือสัญลักษณ์ของอดีตอันยิ่งใหญ่ของปักกิ่ง ย่านศิลปะ 798 เปรียบเสมือนหัวใจแห่งความคิดสร้างสรรค์ของเมืองในยุคใหม่ เดิมที่นี่เคยเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุค 1950 ที่สร้างขึ้นสถาปัตยกรรมสไตล์บาวเฮาส์ของเยอรมนีตะวันออก และในปัจจุบัน ได้กลายมาเป็นย่านศิลปะร่วมสมัยที่โด่งดังระดับโลก

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • 798 Art Center & Ullens Center for Contemporary Art (UCCA)
    แกลเลอรีหลักที่จัดแสดงผลงานศิลปะระดับนานาชาติ ทั้งภาพวาด ประติมากรรมและงานมัลติมีเดียจากศิลปินจีนและต่างประเทศ
  • ร้านค้าและคาเฟ่สุดครีเอต
    เต็มไปด้วยคาเฟ่ดีไซน์เท่ๆ และร้านขายของที่ระลึกแนวอาร์ต
  • กำแพงกราฟฟิตี้และประติมากรรมกลางแจ้ง
    เดินเล่นได้ทั้งวันและเจอมุมถ่ายรูปใหม่ๆ ตลอดเส้นทาง

ย่านศิลปะ 798 ไม่ได้เป็นเพียงจุดถ่ายรูปสวยๆ เท่านั้น แต่เป็นพื้นที่ที่เหมาะกับผู้ที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมร่วมสมัยของจีนในอีกมุมหนึ่งที่ต่างจากวัดหรือวัง ได้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ของรุ่นใหม่ในปักกิ่งอีกด้วย

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 14 ลงสถานี Wangjing South ทางออก A แล้วต่อแท็กซี่หรือเดินประมาณ 20 นาที

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10:00–18:00 น.

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี แต่ถ้าแกลลอรีบางแห่งอาจมีค่าเข้าชมนิทรรศการ เริ่มต้นประมาณ 30-80 หยวนต่อคน

8. ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง และถนนเฉียนเหมิน (Wangfujing & Qianmen Street) - ช้อป ชิม ชิล

ถนนคนเดินหวังฝูจิ่ง

ถนนคนเดินหวังฝูจิ่งและถนนเฉียนเหมิน หากพระราชวังต้องห้ามคือหัวใจแห่งประวัติศาสตร์ของปักกิ่ง ถนนหวังฝูจิ่งและถนนเฉียนเหมิน ก็คือจิตวิญญาฯแห่งชีวิตคนเมือง ที่ยังคงคึกคักไม่เคยหลับใหล ทั้งสองแห่งนี้เป็นแหล่งรวมช้อปปิ้งอาหารและวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมร้านชา ร้านขายของที่ระลึกหรือชมโชว์พื้นบ้านจีนได้ตลอดทาง โดยเฉพาะช่วงค่ำที่ถนนประดับไฟสวยงาม ให้บรรยากาศเหมือนย้อนกลับไปยุคเก่าของปักกิ่ง

ทั้งสองถนนนี้ รวมทุกความเป็นปักกิ่งสมัยใหม่และดั้งเดิมไว้ในที่เดียว ได้ทั้งช้อปปิ้ง ชิมอาหาร และชมวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นสายกิน สายถ่ายรูป หรือสายเดินเล่นสบายๆ รอบๆ ยังสวยงามจนได้ภาพบรรยากาศสุดคลาสสิกของเมืองหลวงจีนด้วย

การเดินทาง 

  • Wangfujing Street: รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Wangfujing Station ทางออก B เดินต่อประมาณ 3 นาที
  • Qianmen Street: รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Qianmen Station ทางออก A เดินตรงไปไม่ถึง 5 นาที

เวลาเปิด-ปิด

  • ร้านค้าทั่วไปเปิดประมาณ 10:00–22:00 น.
  • โซนอาหารและร้านท้องถิ่นคึกคักที่สุดช่วง 17:00–22:00 น.

ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม

9. ย่านซานหลี่ถุน (Sanlitun) - แหล่งรวมคาเฟ่และไนท์ไลฟ์สุดชิค

ย่านซานหลี่ถุน

ย่านซานหลี่ถุน คือศูนย์กลางของความมีชีวิตชีวาและความทันสมัยในปักกิ่งอย่างแท้จริง หากพระราชวังต้องห้ามคือสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ในอดีต ซานหลี่ถุนคือภาพสะท้อนของปักกิ่งยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยพลัง เป็นย่านที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยคาเฟ่ดีไซน์เก๋ๆ บาร์บนดาดฟ้าที่มองเห็นวิวแบบพาโนรามา รวมถึงร้านอาหารนานาชาติระดับพรีเมียม 

ซานหลี่ถุนคือภาพแทนของชีวิตคนเมืองปักกิ่งยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์และความสนุก ย่านนี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากช้อปปิ้ง ถ่ายรูป คาเฟ่เก๋ๆ หรือจะนั่งดื่มยามค่ำคืนกับเพื่อนก็ครบในที่เดียว

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 10 ลงสถานี Tuanjiehu Station ทางออก A เดินต่อประมาณ 10 นาที

เวลาเปิด-ปิด : ย่านเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ร้านค้าและคาเฟ่ส่วนใหญ่เปิด 10:00–22:00 น.

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

10. สนามกีฬารังนกและสระว่ายน้ำลูกบาศก์น้ำ (Bird's Nest & Water Cube) - มรดกโอลิมปิก

สนามกีฬารังนกและสระว่ายน้ำลูกบาศก์น้ำ

สนามกีฬารังนกและสระว่ายน้ำสูกบาศก์น้ำ ตั้งอยู่ในเบตโอลิมปิกพาร์กของกรุงปักกิ่ง เป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัยใหม่ของจีนที่สะท้อนถึงพลัง ความคิดสร้างสรรค์และความยิ่งใหญ่ระดับโลก ทั้ง 2 สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดงานโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008 และยังถูกใช้งานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งงานกีฬา คอนเสิร์ต และการจัดแสดงพิเศษ

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • ชมแสงสีตอนกลางคืน
    โอลิมปิกพาร์กจะเปิดไฟตกแต่งสวยงาม โดยรังนกเรืองแสงสีแดง ส่วนลูกบาศก์น้ำเปร่งแสงสีน้ำเงินฟ้า สะท้อนกันในบึงน้ำกลางสวน เป็นภาพที่เห็นกับตาแล้วสวยงามมาก
  • เดินเล่นรอบ Olympic Green
    บริเวณโดยรอบเป็นสวนขนาดใหญ่ เหมาะแก่การเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือพักผ่อนในยามเย็น และมีร้านขายของที่ระลึก
  • ชมพิพิธภัณฑ์ภายในสนาม
    ภายในมีนิทรรศการเกี่ยวกับโอลิมปิก ปักกิ่ง และเทคโนโลยีด้านสถาปัตยกรรมของสนามกีฬา

ที่นี่คือสัญลักษณ์ของจีนยุคใหม่ ที่แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถผสมผสานศิลปะ สถาปัตยกรรม และนวัตกรรมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ไม่ได้เป็นแค่สิ่งปลูกสร้าง แต่คือ อนุสรณ์ของความมุ่นมั่นระดับชาติ ที่จีนได้ประกาศศักยภาพต่อสายตาชาวโลกในโอลิมปิก

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 8 ลงสถานี Olympic Sports Center Station ทางออก B เดินประมาณ 5 นาที

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 09:00–21:00 น.

ค่าเข้าชม :

  • Bird’s Nest: ประมาณ 50 หยวน (เข้าชมภายในสนาม)
  • Water Cube: เข้าชมด้านนอกฟรี / โซนสวนน้ำ “Happy Magic Water Cube” ประมาณ 120–160 หยวน

11. ย่านหูถง หนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang Hutong) - สัมผัสชีวิตดั้งเดิม

ย่านหูถง หนานโหลวกู่เซียง

หนานโหลวกู่เซียง คือย่านตรอกซอยเก่าแก่ในปักกิ่งที่สะท้อนเสน่ห์ของชีวิตคนเมืองยุคโบราณได้อย่างสมบูรณ์ เป้นหนึ่งหูถงที่เก่าแก่ที่สุดของปักกิ่ง มีอายุยาวนานกว่า 700 ปี และยังคงสภาพบ้านเรือนแบบซื่อเหอหยวน หรือบ้านสี่เหลี่ยมล้อมลานไว้ตรงกลาง เป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมจีนเหนือ รอบๆ ทางเดินเต็มไปด้วยร้านกาแฟเก๋ ร้านขายของที่ระลึก แกลเลอรีศิลปะขนาดเล็ก และสตรีทฟู้ดท้องถิ่นที่หากินได้เฉพาะในปักกิ่งเท่านั้น

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • เดินชมบ้านหูถงเก่า
    สัมผัสกับบรรยากาศของตรอกบ้านชาวปักกิ่งยุคก่อนที่ยังคงสภาพดั้งเดิม พร้อมชมประตูไม้เก่าและลวดลายมังกร ที่สื่อถึงฐานะของเจ้าของบ้าน
  • ร้านค้าและคาเฟ่ดีไซน์เก๋
    ร้านในละแวกนี้มีดีไซน์ที่เก๋ ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นจีน 

หัวใจของปักกิ่งที่ยังหายใจอยู่ ต่างจากพระราชวังหรือวัดที่เน้นความอลังการ ที่นี่คือการได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นในบ้านเรือนเก่า ผ่านรอยยิ้มคนขายขนม นักท่องเที่ยวไทยมักชอบมาเที่ยวที่นี่เพราะเดินเที่ยวเพลิน มีมุมถ่ายรูปเยอะ และใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง หอระฆังและหอกลอง 

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 6 หรือสาย 8 ลงสถานี Nanluoguxiang Station ทางออก E เดินต่อประมาณ 2 นาที

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมและเดินเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

12. วัดลามะ (Lama Temple) - วัดทิเบตที่สำคัญที่สุดในปักกิ่ง

วัดลามะ

วัดลามะ หรือ หย่งเหอกง เป็นวัดพุทธนิกายทิเบตที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในกรุงปักกิ่ง และถือเป็นศูนย์กลางศาสนาพุทธทิเบตในจีนตอนเหนือ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1694 เดิมเป็นพระตำหนักของเจ้าชายยงเจิ้ง ก่อนจะได้รับการเปลี่ยนเป็นวัดลามะในภายหลัง วัดนี้ ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมจีนและทิเบตอย่างกลมกลืน

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • พระโพธิสัตว์ไม้มหึมา
    พระพุทธรูปไม้มะห่าขนาดสูงกว่า 18 เมตร แกะสลักจากไม้จันทร์หอมเพียงต้นเดียว จดทะเบียนในกินเนสส์บุ๊กว่าเป็น พระพุทธรูปแกะสลักจาไม้ต้นเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นจุดศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมากราบไหว้ขอพรไม่ขาดสาย
  • กลิ่นธูปทิเบต
    เอกลักษณ์ของวัดลามะ ที่หอมละมุนและสงบต่างจากวัดจีนทั่วไป

ที่วัดแห่งนี้ ไม่ได้เป็นแค่วัดสวยเท่านั้น แต่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาพุทธแบบทิเบตกับราชสำนักจีนในอดีต เป็นวัดที่ยังคงมีพระลามะจำพรรษาและประกอบพิธีกรรมจริงๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังให้ความรู้สึกสงบและร่มเย็น เหมาะสำหรับพักใจจากความวุ่นวายในเมืองด้วย

การเดินทาง

  • รถไฟใต้ดินสาย 2 หรือสาย 5 ลงที่สถานี Yonghegong Lama Temple Station (Exit C) เดินต่อเพียง 2 นาทีถึงประตูวัด 
  • รถบัส: สาย 13, 18, 44, 62, 75, 406, 116 ลงป้าย Yonghegong

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 09:00–16:30 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 25 หยวน

13. ตลาดรัสเซีย (Yashow Market) - แหล่งช้อปปิ้งของฝากราคาถูกใจ

ตลาดรัสเซีย

ที่มาของภาพ : forbes

ตลาดรัสเซีย หรือ Yashow Market เป็นสวรรค์ของนักช้อป เพราะที่นี่คือแหล่งรวมสินค้าส่งออกและของฝากยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย ปัจจุบันได้ปรับโฮมใหม่ให้ดูทันสมัย สะอาด และเดินช้อปปิ้งได้สบายขึ้น แต่ก็ยังเป็นแหล่งที่สามารถมาต่อรองได้ราคาได้เช่นเดิม ภายในอาคารทีร้านค้ามากกว่า 1,000 ร้าน ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า ของฝาก และอื่นๆ อีกมากมาย สินค้าหลายอย่างมาจากโรงงานโดยตรง ทำให้ได้ราคาย่อมเยา และถ้าเก่งเรื่องต่อราคา ก็จะได้ราคาที่คุ้มกว่าในตลาดทั่วไปเกินครึ่งด้วย

ที่นี่เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวที่อยากหาของฝาก ของตกแต่งบ้าน หรือแฟชั่นแนวท้องถิ่น อีกทั้งทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านซานหลี่ถุน ทำให้สามารถเดินต่อไปยังห้างสรรพสินค้า ร้านแบรนด์เนมต่างๆ หรือบาร์สุดชิคได้ภายในไม่กี่นาที เป็นแหล่งช้อปปิ้งกับบรรยากาศเมืองหลวงได้อย่างลงตัว

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 10 ลงสถานี Tuanjiehu ทางออก A เดินต่อประมาณ 10 นาที

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 10:00 – 21:30 น.

ค่าเข้าชม : เข้าฟรี

14. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน (National Museum of China) - เรียนรู้ประวัติศาสตร์จีน

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ในแง่พื้นที่จัดแสดงและความหลากหลายของวัตถุโบราณ ภายในรวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่ยุคหินใหม่ ยุคราชวงศ์ต่างๆ ไปจนถึงยุคร่วมสมัย แสดงให้เห็นพัฒนาการทางวัฒนธรรม ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของประเทศจีนอย่างต่อเนื่องตลอดหลายพันปี

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • โถง The Road to Rejuvenation
    นิทรรศการถาวรที่เล่าเรื่องการต่อสู้และพัฒนาของประเทศจีน ตั้งแต่สงครามฝิ่นจนถึงยุคใหม่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านภาพถ่ายวิดีโอและวัตถุจริงที่ทรงพลัง
  • โซนโบราณวัตถุ
    จัดแสดงสิ่งของโบราณระดับโลก เช่น ภาชนะสำริดสมัยโจวม เครื่องหยกยุคราชวงศ์ซาง เป็นต้น
  • โซนศิลปะร่วมสมัย
    นิทรรศการหมุนเวียนของศิลปินจีนและต่างชาติที่นำเสนอประเด็นทางสังคม วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ในยุคใหม่
  • ร้านของที่ระลึกและคาเฟ่
    จำหน่ายหนังสือ, งานศิลปะจำลอง และเครื่องดื่มในบรรยากาศผ่อนคลาย

ถ้าพระราชวังต้องห้ามคือหัวใจแห่งอำนาจในอดีต พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนก็คือ ห้องเรียนแห่งอารยธรรม ที่รวบรวมเรื่องราวความรุ่งเรืองและความท้าทายของประเทศจีนไว้ในที่เดียว

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Tiananmen East Station (ออกทางออก A) เดินต่อประมาณ 3 นาที

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 09:00–17:00 น. ปิดทุกวันจันทร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการ)

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

15. สวนเป๋ยไห่ (Beihai Park) - โอเอซิสใจกลางเมือง

สวนเป๋ยไห่

สวนเป๋ยไห่ คือหนึ่งในสวนหลวงที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดของจีน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง ไม่ไกลจากพระราชวังต้องห้าม สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์เหลียว และเคยเป็นพื้นที่พักผ่อนของจักรพรรดิหลายราชวงศ์ ทั้งหมิงและชิง บรรยากาศที่นี่จึงร่มรื่น สงบ และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • เจดีย์สีขาว
    สัญลักษณ์ของสวนเป๋ยไห่ สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิซุ่นจื้อแห่งราชวงศ์ชิง เพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จเยือนของพระภิกษุลามะจากธิเบต 
  • ทะเลสาบเป๋ยไห่
    ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สามารถพายเรือชมวิวรอบเกาะได้ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่มีดอกบัวบานสะพรั่งเต็มผืนน้ำ
  • สะพานเก้าโค้ง
    กำแพงมังกรเก่าแก่ที่มีลวดลายมังกร 9 ตัว ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสดใส เป็นหนึ่งในกำแพงมังกรสามแห่งที่สำคัญที่สุดของจีน
  • จุดชมวิวบนยอดเขา
    จากบริเวณเจดีย์สีขาวสามารถมองเห็นวิวพระราชวังต้องห้ามและตัวเมืองปักกิ่งได้อย่างงดงาม

ที่นี่เปรียบเสมือนปอดสีเขียวของปักกิ่ง ที่ผสมผสานความสงบแบบธรรมชาติและความงามของสถาปัตยกรรมจีนโบราณได้อย่างกลมกลืน เหมาะกับการเดินเล่น พักผ่อน ถ่ายภาพ หรือปิกนิกในบรรยากาศร่มรื่นกลางเมือง การมาที่นี่ ถือว่าได้ต่อยอดประสบการณ์ความงามใยแบบราชสำนักโบราณ และให้คุณได้พักใจท่ามกลางความเงียบสงบของทะเลสาบ

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 6 ลงสถานี Beihai North Station ทางออก B เดินต่อประมาณ 5 นาที

เวลาเปิด-ปิด

  • เดือนเมษายน–ตุลาคม: 06:30–21:00 น. (จำหน่ายบัตรถึง 20:00 น.)
  • เดือนพฤศจิกายน–มีนาคม: 06:30–20:00 น. (จำหน่ายบัตรถึง 19:00 น.)

ค่าเข้าชม

  • ตั๋วเข้าสวน: 10 หยวน
  • ตั๋วรวม (เข้าสวน + เจดีย์สีขาว + นิทรรศการ): 20 หยวน

16. คลองใหญ่ปักกิ่ง-หางโจว (The Grand Canal) - มรดกโลกแห่งใหม่ที่น่าสนใจ

คลองใหญ่ปักกิ่ง-หางโจว

คลองใหญ่ปักกิ่ง-หางโจว เป็นระบบคลองจุดที่ยาวที่สุดในโลก เชื่อมระหว่างกรุงปักกิ่งเหนือไปจนถึงเมืองหางโจวทางใต้ รวมระยะทางกว่า 1,700 กิโลเมตร มีประวัติยาวนานกว่า 2,500 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 2014

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

  • เส้นทางริมน้ำโบราณ
    เดินชมวิวสองฝั่งคลองที่รายล้อมด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์หมิง-ชิง มีคาเฟ่และร้านน้ำชาสุดชิล เหมาะกับการพักผ่อนในบรรยากาศย้อนยุค
  • พิพิภัณฑ์คลองใหญ่ปักกิ่ง
    เปิดใหม่ล่าสุด จัดแสดงเทคโนโลยีและประวัติการขุดคลองผ่านสื่อมัลติมีเดียแบบอินเตอร์แอคทีฟ บอกเล่าเรื่องราวการขนส่งสินค้าและชีวิตผู้คนในอดีตได้อย่างมีชีวิตชีวา
  • ล่องเรือชมคลอง
    กิจกรรมยอดนิยม โดยเฉพาะช่วงเย็นจะเห็นแสดงไฟสะท้อนผิวน้ำให้บรรยากาศโรแมนติกและสงบ 

คลองใหญ่คือสัญลักษณ์ของความสามารถทางวิศวกรรมและการจัดการน้ำของจีนโบราณ และยังเป็นเส้นเลือดทางเศรษฐกิจสำคัญที่เชื่อมเมืองเหนือ-ใต้เข้าด้วยกัน การมาเยือนที่นี่ไม่เพียงได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังได้เห็นชีวิตจริงของคนปักกิ่งยุคใหม่ ผ่านกิจกรรมท้องถิ่น คาเฟ่เล็กๆ ริมคลอง และตลาดศิลปะสุดเก๋

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 6 ลงสถานี Beiyunhe West หรือ Tongzhou Beiyunhe East เดินต่อประมาณ 10–15 นาที

เวลาเปิด-ปิด

  • พื้นที่ริมน้ำเปิดให้เข้าชมตลอดวัน
  • พิพิธภัณฑ์คลองใหญ่ปักกิ่ง: 09:00–17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

ตารางสรุปไฮไลท์ที่เที่ยวปักกิ่งและข้อมูลสำคัญ 2568

สถานที่

ประเภท 

เหมาะสำหรับ 

ค่าเข้าชมโดยประมาณ 

เวลาแนะนำ 

1. พระราชวังต้องห้าม 

ประวัติศาสตร์ / วัฒนธรรม

นักท่องเที่ยวทั่วไป / สายถ่ายรูป

40–60 หยวน

2–3 ชั่วโมง

2. กำแพงเมืองจีน 

มรดกโลก / ธรรมชาติ

ครอบครัว / นักผจญภัย

40–65 หยวน (ไม่รวมกระเช้า)

ครึ่งวัน–เต็มวัน

3. จัตุรัสเทียนอันเหมิน 

ประวัติศาสตร์ / สัญลักษณ์ชาติ

ผู้สนใจการเมือง / สายประวัติศาสตร์

ฟรี

1 ชั่วโมง

4. พระราชวังฤดูร้อน 

สวน / ประวัติศาสตร์

ครอบครัว / คู่รัก

30–60 หยวน

2–3 ชั่วโมง

5. วัดสวรรค์

ศาสนา / วัฒนธรรม

สายถ่ายรูป / ชอบความสงบ

15–34 หยวน

1–2 ชั่วโมง

6. ถนนหวังฝูจิ่ง 

ช้อปปิ้ง / ของกิน

สายกิน / นักท่องเที่ยวเมือง

ฟรี

1–2 ชั่วโมง

7. ย่านโบราณเฉียนเหมิน 

วัฒนธรรม / ช้อปปิ้ง

ครอบครัว / คนชอบเดินเล่น

ฟรี

1–2 ชั่วโมง

8. หอชมวิวจิ่งซาน 

ธรรมชาติ / วิวเมือง

สายถ่ายรูป / คู่รัก

2–10 หยวน

1 ชั่วโมง

9. ย่านศิลปะ 798 Art District

ศิลปะร่วมสมัย / คาเฟ่

คนรุ่นใหม่ / สายคาเฟ่ / อินฟลูเอนเซอร์

ฟรี

2–3 ชั่วโมง

10. สวนสัตว์ปักกิ่ง 

ธรรมชาติ / ครอบครัว

เด็ก / ครอบครัว

15–20 หยวน

2 ชั่วโมง

11. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน 

ประวัติศาสตร์ / การศึกษา

ผู้สนใจวัฒนธรรม / นักเรียน

ฟรี (ลงทะเบียนล่วงหน้า)

2–3 ชั่วโมง

12. หอคอยโทรทัศน์ปักกิ่ง 

จุดชมวิว / เทคโนโลยี

คู่รัก / สายชมวิว

70–90 หยวน

1–1.5 ชั่วโมง

13. สวนโอลิมปิกปักกิ่ง 

สถาปัตยกรรม / กีฬา

ครอบครัว / นักกีฬา / สายถ่ายรูป

40–80 หยวน

1–2 ชั่วโมง

14. ถนนโบราณหนานหลัวกู่เซี่ยง 

วัฒนธรรม / คาเฟ่ / ช้อปปิ้ง

คนชอบเดินเล่น / สายถ่ายรูป

ฟรี

1–2 ชั่วโมง

15. หอคอยระฆังและกลอง 

ประวัติศาสตร์ / วิวเมือง

นักท่องเที่ยวทั่วไป / คู่รัก

30 หยวน (รวมสองหอ)

1 ชั่วโมง

16. คลองใหญ่ปักกิ่ง–หางโจว 

มรดกโลก / วัฒนธรรม

คนชอบประวัติศาสตร์ / คู่รัก / สายถ่ายรูป

ฟรี–120 หยวน (ตามกิจกรรม)

1–2 ชั่วโมง

ตารางสรุป: วางแผนเที่ยวปักกิ่งง่ายๆ ใน 1 วัน

หากมีเวลาเพียงหนึ่งวันในปักกิ่ง ยังสามารถสัมผัสเสน่ห์ของเมืองหลวงจีนได้ครบทั้งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ นี่คือแผนเที่ยวปักกิ่งง่ายๆ ใน 1 วัน ที่สามารถเที่ยวตามได้แบบชิลๆ

ช่วงเวลา

สถานที่

ไฮไลท์ / กิจกรรม

การเดินทางแนะนำ

หมายเหตุ

เช้า (08:00–11:00)

พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)

เดินชมพระราชวังอันยิ่งใหญ่ ชมท้องพระโรงและหอรับสั่งจักรพรรดิ

รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Tiananmen East

แนะนำจองบัตรล่วงหน้าทางออนไลน์

สาย (11:00–12:00)

จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square)

เดินถ่ายรูปแลนด์มาร์กสำคัญใจกลางเมือง

เดินเท้าจากพระราชวังต้องห้ามเพียง 5 นาที

ถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์วีรชนประชาชน

เที่ยง (12:00–13:00)

ย่านเฉียนเหมิน (Qianmen Street)

แวะทานอาหารกลางวันร้านเก่าแก่ เช่น Quanjude เป็ดปักกิ่งต้นตำรับ

เดินเท้า 10 นาทีจากจัตุรัส

มีร้านของฝากและขนมพื้นเมือง

บ่าย (13:30–16:00)

วัดสวรรค์ (Temple of Heaven)

เดินชมสถาปัตยกรรมศาสนจักรจีนโบราณ ท้องฟ้าและลานหินกว้างสวยงาม

รถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Tiantan East Gate

สวนรอบๆ ร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อน

เย็น (16:30–18:30)

หอชมวิวจิ่งซาน (Jingshan Park)

ปีนขึ้นจุดชมวิว เห็นภาพมุมสูงของพระราชวังต้องห้าม

เดินเท้า 10 นาทีจากฝั่งเหนือพระราชวัง

ช่วงพระอาทิตย์ตกคือเวลาที่วิวสวยที่สุด

ค่ำ (19:00–21:00)

ถนนหวังฝูจิ่ง (Wangfujing Street)

ช้อปปิ้ง ของฝาก และลองอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดัง

รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Wangfujing

เหมาะปิดท้ายวันด้วยบรรยากาศคึกคักในย่านกลางเมือง

การวางแผนเที่ยวปักกิ่ง 2568: ทุกเรื่องที่ต้องรู้

วางแผนเที่ยวปักกิ่ง

การเที่ยวปักกิ่งให้สนุกและราบรื่นไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ารู้เคล็ดลับการเดินทาง ที่พัก และอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง เมืองนี้มีระบบขนส่งที่ยอดเยี่ยม ที่พักหลากหลาย และบริการดิจิทัลที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดีขึ้นกว่าเดิมในปี 2568

การเดินทางในปักกิ่ง: รถไฟใต้ดินคือเพื่อนที่ดีที่สุด

รถไฟใต้ดินของปักกิ่งเป็นวิธีเดินทางที่สะดวกที่สุด ครอบคลุมแทบทุกย่านสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น พระราชวังต้องห้าม วัดสวรรค์ หรือถนนหวังฝูจิ่ง ปัจจุบันมีมากกว่า 25 สาย และยังขยายต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ข้อดีของการนั่งรถไฟใต้ดินปักกิ่ง

  • รวดเร็ว ตรงเวลา ราคาประหยัด
  • มีป้ายภาษาอังกฤษทุกสถานี ใช้งานง่าย ทำให้เดินทางได้สะดวก
  • ระบบจ่ายเงินรองรับบัตรโดยสาร IC card หรือ QR Code ผ่าน Alipay/WeChat Pay
  • ระบบความปลอดภัยสูง ต้องผ่านการตรวจสัมภาระก่อนเข้าสู่ชานชาลา

พักที่ไหนดี? แนะนำย่านที่พักยอดนิยม

ปักกิ่งมีที่พักให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว จนถึงโฮสเทลราคาประหยัด การเลือกย่านพักที่เหมาะสมกับแผนเที่ยวช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทางได้มาก

  • ย่านหวังฝูงจิ่ง : ใกล้กับพระราชวังต้องห้าม เดินเที่ยวและช้อปปิ้งได้สะดวก
  • ย่านชงเวิน : เดินทางง่าย ใกล้วัดสวรรค์และมีร้านอาหารท้องถิ่นหลากหลาย
  • ย่านโฮโฮ่ว/โฮตัน : เหมาะกับคนชอบบรรยากาศโบราณ มีคาเฟ่และบาร์เล็กๆ ริมน้ำ
  • ย่านซานหลี่ถุน : ย่านสุดฮิปเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และห้างสมัยใหม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

ซิมการ์ดและอินเทอร์เน็ต: เล่นเน็ตไม่สะดุด

การใช้อินเทอร์เน็ตในจีน อาจดูซับซ้อนสำหรับนักเดินทางมือใหม่ เพราะหลายเว็บไซต์ถูกบล็อกเมื่อใช้ในจีน แต่ก็มีตัวเลือกใหม่ๆ ที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

  • ซิมการ์ดท่องเที่ยวจีน : มีขายที่สนามบินและร้านสะดวกซื้อ ราคาประมาณ 80-150 หยวน ใช้ได้ 5-10 GB
  • eSIM สำหรับนักท่องเที่ยว : สะดวกเพราะติดตั้งผ่านมือถือได้เลย เหมาะกับคนไม่อยากเปลี่ยนซิม
  • Pocket Wi-Fi : เช่าได้ผ่าน Trip.com หรือสนามบิน ใช้งานได้หลายเครื่อง เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว

จองทุกอย่างครบจบในที่เดียวกับ Trip.com

การเที่ยวปักกิ่ง จะง่ายกว่าที่เคย ถ้ามีผู้ช่วยวางแผนเที่ยวอย่าง Trip.com เว็บไซต์และแอปท่องเที่ยวที่รวมทุกอย่างไว้ครบในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รถไฟความเร็วสูง บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ไปจนถึงซิมและประกันการเดินทาง ทั้งหมดสามารถทำได้ง่ายๆ รองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ และมีฝ่ายบริการลูกค้า 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้นยังมีโปรโมชันพิเศษและส่วนลดประจำฤดูกาล รวมถึงระบบสะสมแต้มที่นำไปใช้ลดในการจองครั้งถัดไปได้ การจองผ่านแพลตฟอร์มนี้ จะช่วยให้ทุกการจองสะดวก ปลอดภัย และคุ้มค่าที่สุดในทริปเดียว พร้อมเที่ยวปักกิ่งได้อย่างสบายใจไปพร้อมๆ กัน

วางแผนเที่ยวปักกิ่งง่ายกว่าที่คิด! ✈️ จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และบัตรเข้าชมล่วงหน้าในราคาพิเศษได้เลยที่ Trip.com คลิกเพื่อดูดีลที่ดีที่สุด!
บทความแนะนำ
เที่ยวพระราชวังต้องห้าม 2568 : คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับคนไทย
วางแผนเที่ยวพระราชวังต้องห้าม (กู้กง) ปี 2568? อ่านเลย! ข้อมูลล่าสุดเรื่องราคาตั๋ว เวลาเปิด-ปิด วิธีเดินทาง แผนที่ และเส้นทางเดินชมที่แนะนำ จองทัวร์ง่ายๆ ผ่าน Trip.com
28 กันยายน 2025
คู่มือฝากกระเป๋าสนามบินปักกิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวไทย ฉบับอัปเดต 2568
วางแผนเที่ยวปักกิ่ง? ค้นหาจุดบริการฝากกระเป๋าที่สนามบิน PEK และ PKX ทั้งราคา เวลาเปิด-ปิด และเคล็ดลับการเดินทาง เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
15 กันยายน 2025
เที่ยวกำแพงเมืองจีน 2568 : คู่มือครบทุกเส้นทาง จุดไฮไลต์ และทริคที่ต้องรู้สำหรับคนไทย
วางแผนเที่ยว กำแพงเมืองจีน ด้วยตัวเอง! รีวิวครบทุกด่านยอดฮิต วิธีเดินทางจากปักกิ่ง และทริคประหยัดงบ จองตั๋วและทัวร์สุดคุ้มที่ Trip.com
28 กันยายน 2025

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับที่เที่ยวปักกิ่ง (FAQ)

  • เที่ยวปักกิ่งเดือนไหนดีที่สุด?

    ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม–พฤษภาคม) และ ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–ตุลาคม) เพราะอากาศเย็นสบาย ฟ้าใส และไม่ร้อนจัด เหมาะกับการเดินเที่ยวชมพระราชวังและกำแพงเมืองจีน ส่วนฤดูหนาว (ธันวาคม–กุมภาพันธ์) จะหนาวมาก แต่เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยและมีบรรยากาศหิมะสวยงาม
  • คนไทยไปเที่ยวปักกิ่งต้องทำวีซ่าไหม อัปเดตล่าสุด?

    ปัจจุบันคนไทยสามารถไปเที่ยวจีนได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า
  • การเดินทางในปักกิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว ใช้อะไรสะดวกที่สุด?

    วิธีที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุดคือ รถไฟใต้ดินปักกิ่ง ซึ่งครอบคลุมเกือบทุกแหล่งท่องเที่ยวหลัก ค่าโดยสารเริ่มต้นเพียง 3 หยวน
  • ไปปักกิ่งใช้แอปอะไรจ่ายเงิน? แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไร?

    ระบบจ่ายเงินหลักของจีนคือ Alipay และ WeChat Pay ซึ่งตอนนี้รองรับ บัตรเครดิตต่างประเทศ (Visa / Mastercard) แล้ว
  • เที่ยวปักกิ่ง 5 วัน 4 คืน ต้องเตรียมงบประมาณเท่าไหร่?

    รวมแล้วประมาณ 15,000–25,000 บาท ก็สามารถเที่ยวปักกิ่งแบบสบายๆ ได้ครบทั้งวัด วัง และช้อปปิ้ง
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที
>>
ที่เที่ยวปักกิ่ง 2568