VPN ไปจีน 2568 : คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักท่องเที่ยวไทย

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
vpn ไปจีน
การเดินทางไปประเทศจีนในปี 2568 ไม่ได้มีแค่การวางแผนเรื่องที่พักหรือสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่การใช้อินเทอร์เน็ต เป็นหนึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะจีนมีระบบควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวด จึงจำเป็นต้องใช้ vpn ไปจีน Trip.com จะพาไปรู้จักกับ VPN สำหรับการเดินทางไปจีน เพื่อให้ทริปจีนครั้งนี้ไร้กังวลเรื่องอินเทอร์เน็ต

ทำไมไปจีนถึงต้องใช้ VPN?

เมื่อต้องเดินทางไปประเทศจีน นักท่องเที่ยวส่วนมากประสบปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ต เพราะรัฐบาลจีนมีระบบควบคุมและตรวจสอบข้อมูลออนไลน์ เรียกว่า The Great Firewall of China ที่ใช้ควบคุมการเข้าถึงเว็บไซต์และแพลตฟอร์มต่างๆ จากต่างประเทศ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่รัฐบาลมอ่าอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่สอดคล้องบนโยบายของรัฐ หากเดินทางไปที่จีน จะไม่สามารถใช้งานโซเชียลมีเดียและบริการออนไลน์ยอดนิยมจากทั่วโลกได้ปกติ VPN ไปจีน จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยหลีกเลี่ยงในเรื่องนี้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และแอปที่ถูกบล็อกในจีนได้

แอปและเว็บไซต์อะไรบ้างที่ใช้ไม่ได้ในจีน?

แอปและเว็บไซต์อะไรบ้างที่ใช้ไม่ได้ในจีน

ระบบ The Great Firewall มีการบล็อกหลายบริการที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน ได้แก่

  • Google Services → รวมถึง Google Search, Gmail, Google Maps, Google Drive, Google Docs
  • Facebook → ทั้ง Facebook App และ Messenger
  • Instagram → ใช้ไม่ได้ในจีน
  • LINE → แม้จะเป็นแอปยอดนิยมของคนไทย แต่ใช้งานไม่ได้
  • WhatsApp → แอปแชทที่ใช้กันทั่วโลกก็ถูกบล็อก
  • Twitter (X) → โซเชียลมีเดียยอดฮิตในการติดตามข่าวสาร
  • YouTube → ไม่สามารถเข้าถึงได้
  • Netflix และบริการสตรีมมิ่งบางส่วน → ถูกจำกัดการใช้งาน
  • สื่อมวลชนต่างประเทศบางแห่ง → เช่น The New York Times, BBC, Reuters

หากไม่มีการเตรียม vpn จีน มาก่อน จะไม่สามารถใช้แอปเหล่านี้ได้เลย เหมือนถูกตัดขาดจากโลกออนไลน์การใช้ vpn จึงเป็นตัวช่วยสำหรับนักเดินทาง ธุรกิจ หรือผู้ที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับคนต่างประเทศ

ตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-ปักกิ่ง

  • ไป-กลับ
  • เที่ยวเดียว

ราคาที่แสดงคำนวณจากราคาตั๋วในเส้นทางเดียวกันโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์บน Trip.com

ตั๋วเครื่องบินไปปักกิ่ง

แนะนำ VPN ที่ใช้ในจีนได้ดีที่สุด ปี 2568

แนะนำ VPN ที่ใช้ในจีนได้ดีที่สุด

1. NordSecure - ดีที่สุดในภาพรวม

NordVPN คือ "best all‑round VPN for China" ด้วยความเร็วสูง ฟีเจอร์ความปลอดภัยครบครัน และฟังก์ชัน obfuscation ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการบล็อกจาก Great Firewall ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกชื่อที่สื่อถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

2. ExpressEase - ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่

ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ “user‑friendly,” มีความเสถียรสูง ทั้งยังเปลี่ยน IP อย่างรวดเร็ว รองรับ obfuscation ครอบคลุม

3. AstriGuard - ราคาคุ้มค่าที่สุด

แม้ว่าจะเป็น VPN ที่ค่าใช้จ่ายสูง แต่ Astrill VPN ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน VPN ที่ “bypass Great Firewall as consistently as possible” และเชื่อถือได้ในจีน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเสถียรสูง แม้ต้องแลกด้วยราคา

คุณสมบัติ

NordSecure (NordVPN)

ExpressEase (ExpressVPN)

AstriGuard (Astrill VPN)

ความเสถียรในจีน

เชื่อถือได้สูง ฟีเจอร์ Obfuscation ช่วยเลี่ยง Great Firewall ได้ดี

เสถียร ใช้งานได้ต่อเนื่อง แต่บางครั้งมีการบล็อกเป็นช่วงๆ

มีชื่อเสียงเรื่องความเสถียรในจีน ใช้งานได้แทบตลอด

ความเร็ว

ความเร็วสูง เหมาะกับการสตรีม/วิดีโอคอล

เร็วและค่อนข้างเสถียร

เร็วมาก แม้เซิร์ฟเวอร์อยู่นอกจีน

ใช้งานง่าย

แอปใช้ง่าย แต่มีฟังก์ชันหลากหลาย อาจซับซ้อนสำหรับมือใหม่

อินเทอร์เฟซใช้ง่ายที่สุด เหมาะกับผู้เริ่มต้น

อินเทอร์เฟซค่อนข้างซับซ้อน ต้องตั้งค่าบางอย่างเอง

ราคาเริ่มต้น (ต่อเดือน)

เริ่มต้นประมาณ $3.99 (สมัครแบบ 2 ปี)

เริ่มต้นประมาณ $6.67 (สมัครแบบ 1 ปี)

เริ่มต้นประมาณ $12–20 (แพงกว่า แต่แลกกับความเสถียรสูง)

การรับประกันคืนเงิน

30 วัน

30 วัน

ไม่มีนโยบายคืนเงินที่ชัดเจน

VPN ฟรี vs. VPN เสียเงิน: เลือกแบบไหนดีสำหรับทริปจีน?

เมื่อเดินทางไปประเทศจีน การใช้ VPN กลายเป็นสิ่งจำเป็น หากต้องการเข้าถึงแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ถูกบล็อก แต่คำถามที่นักท่องเที่ยวสงสัยคือ vpn ไปจีน อันไหนดี ใช้ VPN ฟรี หรือยอมจ่ายเงินเพื่อใช้ VPN พรีเมียมดีกว่ากัน Trip.com จะมาแนะนำดังนี้

ประเภท VPN

ข้อดี

ข้อเสีย

VPN ฟรี

- ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทดสอบระบบ หรือใช้งานไม่บ่อย

- ติดตั้งง่าย แอปฟรีหลายเจ้าโหลดได้จาก App Store / Google Play

- บางรายมีแพ็กเกจทดลองฟรี ให้ลองใช้งานก่อนซื้อจริง

- ไม่เสถียรในจีน VPN ฟรีส่วนใหญ่ถูก Great Firewall บล็อกอย่างรวดเร็ว
- มีข้อจำกัดด้านความเร็วและแบนด์วิดท์ มักดูวิดีโอไม่ได้ ลิงก์ขาดบ่อย
- เสี่ยงด้านความปลอดภัย หลายเจ้าเก็บข้อมูลผู้ใช้ ขายต่อเพื่อโฆษณา หรือมีมัลแวร์แฝง
- ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในทริปจีน เช่น วิดีโอคอล, เช็กอีเมลธุรกิจ, หรือเข้าโซเชียลต่อเนื่อง

VPN เสียเงิน

- เสถียรและเร็วกว่า มีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะที่ออกแบบมาเลี่ยง Great Firewall โดยตรง
- ปลอดภัยกว่า ใช้การเข้ารหัสระดับสูง และมีนโยบายไม่เก็บ Log
- มีทีมซัพพอร์ต แก้ปัญหาได้หากเชื่อมต่อไม่ได้ในจีน
- รองรับหลายอุปกรณ์ (มือถือ, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์)
- ส่วนใหญ่ มีนโยบายคืนเงิน 30 วัน ให้ผู้ใช้มั่นใจ

- มีค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปี ราคาประมาณ $3–12 ต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจและผู้ให้บริการ)
- บางครั้ง ต้องตั้งค่าพิเศษ เช่น ใช้โหมด Obfuscation ก่อนเข้าไปจีน

วิธีติดตั้งและใช้งาน VPN สำหรับทริปจีน

วิธีติดตั้งและใช้งาน VPN สำหรับทริปจีน

หลายคนยังไม่รู้ว่า VPN ควรติดตั้งและตั้งค่าก่อนเดินทางอย่างไร เนื่องจากเมื่อเข้าไปในประเทศแล้ว การดาวน์โหลด VPN หรือสมัครบริการใหม่ๆ จะทำได้ยาก ดังนั้นควรเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า และนี่คือขั้นตอนการติดตั้งและใช้งาน VPN สำหรับทริปจีน

ขั้นตอนที่ 1: เลือกและสมัครบริการ VPN

  • เลือกผู้ให้บริการ VPN ที่ขึ้นชื่อว่าใช้งานในจีนได้ 
  • สมัครแพ็กเกจที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น รายเดือน หรือรายปี
  • ตรวจสอบโปรโมชันหรือมีการรับประกันคืนเงิน 30 วัน

ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันลงบนมือถือ

  • ดาวน์โหลดแอปจาก เว็บไซต์หลักของผู้ให้บริการ VPN แนะนำมากกว่าการโหลดจาก App Store/Google Play เพราะบางทีแอปถูกถอดออกจากสโตร์จีน
  • ติดตั้งบน มือถือ แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก ที่จะพกไปจีน
  • หากใช้ iOS ควรตรวจสอบว่า Apple ID ของคุณผูกกับประเทศอื่นที่ไม่ใช่จีน เพื่อให้ยังสามารถอัปเดตแอปได้

ขั้นตอนที่ 3: ล็อกอินและทดลองเชื่อมต่อในประเทศไทย

  • เปิดแอป VPN → ล็อกอินด้วยบัญชีที่สมัครไว้
  • เลือกเซิร์ฟเวอร์ (เช่น ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, อเมริกา)
    ทดลองเชื่อมต่อและเข้าเว็บไซต์/แอปที่ปกติถูกบล็อกในจีน เช่น Google หรือ YouTube
  • หากเชื่อมต่อได้ตามปกติ แสดงว่าการตั้งค่าพร้อมใช้งาน

ขั้นตอนที่ 4: เปิดใช้งานและเชื่อมต่อทันทีเมื่อเดินทางถึงจีน

  • เมื่อไปถึงจีน เปิดแอป VPN ทันที ก่อนเข้าใช้งานเว็บไซต์/โซเชียล
  • เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุด (เช่น ฮ่องกง, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์) เพื่อให้ได้ความเร็วสูงและการเชื่อมต่อเสถียร
  • หากเซิร์ฟเวอร์หนึ่งเชื่อมต่อไม่ได้ ให้ลองเปลี่ยนไปยังประเทศอื่นจนกว่าจะเสถียร
  • แนะนำให้ เปิดโหมด Obfuscation / Stealth Mode (หากมีใน VPN ที่เลือกใช้) เพราะช่วยหลบเลี่ยงการตรวจจับของ Great Firewall ได้ดีกว่า
วางแผนทริปจีนของคุณหรือยัง? ค้นหาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมราคาพิเศษที่ th.trip.com เลย!

ข้อควรรู้และข้อควรระวังในการใช้ VPN ที่จีน

ข้อควรรู้และข้อควรระวังในการใช้ VPN ที่จีน

แม้ VPN จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ ตอนที่อยู่ประเทศจีนได้ แต่ก็มีประเด็นด้านกฏหมายและข้อควรระวัง ที่นักท่องเที่ยวควรทราบไว้ เพื่อใช้งานอย่างมั่นใจและปลอดภัย

  1. กฎหมายของ VPN ในจีน
    รัฐบาลจีนอนุญาตให้ใช้เฉพาะ VPN ที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ เท่านั้น ผู้ให้บริการ VPN เถื่อนหรือไม่ได้จดทะเบียน ถือว่าผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวต่างชาติมักไม่ได้ถูกเพ่งเล็ง หากใช้เพื่อสื่อสารส่วนตัวหรือการทำงานทั่วไป 
  2. ต้องติดตั้งก่อนเดินทาง
    การดาวน์โหลดหรือสมัคร VPN เมื่ออยู่ในจีนแทบจะทำไม่ได้ เพราะที่จีนโดนบล็อกแอป แนะนำให้ติดตั้งล่วงหน้าก่อนเดินทาง
  3. ความเสถียรอาจไม่ 100%
    แม้จะเป็น VPN แบบพรีเมียม บางครั้งก็อาจเชื่อมต่อไม่ได้ชั่วคราว เพราะ Great Firewall มีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ควรมี VPN ไว้อย่างน้อย 2 เจ้า เผื่อเกิดปัญหา
  4. เรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ต
    การใช้ VPN อาจทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตลดลงเล็กน้อย แนะนำเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้จีน จะช่วยให้เร็วขึ้น
  5. ความปลอดภัยของข้อมูล
    หลีกเลี่ยง VPN ฟรี เพราะเสี่ยงต่อการถูกเก็บข้อมูลหรือเจอมัลแวร์ และเลือก VPN ที่มีชื่อเสียง

การใช้ VPN ในจีนผิดกฎหมายหรือไม่สำหรับนักท่องเที่ยว?

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังไม่พบว่ามีการลงโทษนักท่องเที่ยวที่ใช้ VPN เพื่อการสื่อสารส่วนตัวหรือการทำงาน ถือว่าอยู่ในพื้นที่สีเทา ควรใช้อย่างระมัดระวัง แนะนำว่าใช้ VPN ที่มีชื่อเสี่ยงและปลอดภัย หลีกเลี่ยงการใช้ VPN เพื่อกิจกรรมที่อ่อนไหวทางการเมืองหรือผิดกฏหมาย ติดตั้งและสมัครล่วงหน้าก่อนเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่สนามบินหรือเมื่อถึงจีนแล้ว

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตในจีน

ควรเตรียม eSIM หรือซิมโรมมิ่งที่รองรับอินเทอร์เน็ตจีนไว้ก่อนเดินทาง เพื่อใช้งานได้ทันทีที่ถึงสนามบิน และเปิด VPN ต่อได้เลย และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่จำเป็นล่วงหน้าติดมือถือไว้ด้วย และอย่าลืมเก็บไฟล์ที่สำคัญอย่าง ตั๋วเครื่องบิน แผนการเดินทาง เอกสารการจองโรงแรมบันทึกไว้เป็นไฟล์ออฟไลน์ในมือถือด้วย เพราะหากเชื่อมต่อ VPN ไม่ได้ ก็จะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ออนไลน์เหล่านั้นได้เลย

การใช้ VPN ในจีนสำหรับนักท่องเที่ยวยังถือว่าปลอดภัย หากใช้เพื่อการท่องเที่ยวและการสื่อสารส่วนตัว แต่ควรติดตั้งล่วงหน้าและใช้อย่างระมัดระวัง พร้อมเตรียมซิม, eSIM และแอปจำเป็นอื่นๆ เพื่อให้การเดินทางราบรื่นที่สุด

อย่าพลาดเที่ยวจีนในหน้าร้อน พร้อมชี้เป้าสถานที่ต้องไปเช็คอิน
อย่าพลาดเที่ยวจีนในหน้าร้อน พร้อมชี้เป้าสถานที่ต้องไปเช็คอิน
หนีห่าว~ จีนเป็นดินแดนที่ประเพณีโบราณบรรจบกับความมหัศจรรย์สมัยใหม่ มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานหลายศตวรรษ การเที่ยวจีนในหน้าร้อนเป็นการเที่ยวแบบมีชีวิตชีวา หากคุณกำลังมองหาการผจญภัยสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ ความตื่นเต้นและประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน การเที่ยวจีนในหน้าร้อนคือจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดสำหรับคุณ! ตอนนี้คุณอาจสงสัยว่าจะเริ่มต้นการเดินทางที่น่าจดจำนี้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายได้อย่างไร ไม่ต้องกลัว trip.com เป็นเว็บไซต์ที่ทำให้การจองที่พักและเที่ยวบินไปเที่ยวจีนง่ายดายราวกับสายลม เตรียมพร้อมที่จะดื่มด่ำกับความงดงามของหน้าร้อนในการเที่ยวจีน สร้างความทรงจำที่จะตราตรึงในใจคุณตลอดไป ปลดล็อกประตูสู่การผจญภัยในหน้าร้อนที่ไม่เหมือนใคร หน้าร้อนสุดพิเศษของคุณในจีนกำลังรออยู่ เพียงไม่กี่คลิก!
8 สิงหาคม 2023

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ VPN ไปจีน

  • ต้องเปิด VPN ตลอดเวลาที่อยู่จีนไหม?

    ไม่จำเป็นต้องเปิดตลอดเวลา หากใช้งานแอป/เว็บที่ “ไม่ถูกบล็อก” เช่น แอปท้องถิ่นจีน (WeChat, Baidu, Alipay) ก็สามารถใช้งานโดยไม่ต้องเปิด VPN ได้ แต่ถ้าจะเข้า Google, YouTube, Facebook, LINE หรือ Gmail ควรเปิด VPN ทุกครั้งเพื่อให้เชื่อมต่อได้
  • ใช้ VPN ฟรีในจีนได้ไหม? ปลอดภัยหรือเปล่า?

    ส่วนใหญ่ ไม่เสถียรและไม่ปลอดภัย VPN ฟรีมักถูก Great Firewall บล็อกอย่างรวดเร็ว แบนด์วิดท์จำกัด ความเร็วต่ำ และบางรายเก็บข้อมูลผู้ใช้เพื่อหารายได้ ดังนั้น ไม่แนะนำ หากคุณต้องใช้ติดต่อธุรกิจหรือใช้งานอินเทอร์เน็ตจริงจัง
  • ถ้าลืมติดตั้ง VPN ก่อนไปจีน จะทำอย่างไร?

    การดาวน์โหลด VPN ใหม่เมื่ออยู่ในจีน แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะ App Store/Google Play ในจีนบล็อกแอปเหล่านี้ แนะนำให้ ติดตั้งและสมัครล่วงหน้าก่อนบิน หากลืมจริง ๆ อาจพอหาทางโหลดจาก เว็บไซต์ Mirror หรือไฟล์ติดตั้ง APK แต่มีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยสูง และอาจใช้งานไม่ได้อยู่ดี
  • VPN ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลงมากไหม?

    ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ VPN และเซิร์ฟเวอร์ที่เลือก โดยทั่วไปความเร็วอาจลดลง 10–30% แต่ VPN ระดับพรีเมียม (เช่น NordVPN, ExpressVPN, Astrill) ยังเร็วพอสำหรับการดู YouTube, วิดีโอคอล หรือทำงานออนไลน์ได้อย่างราบรื่น
  • นอกจาก VPN แล้ว ต้องเตรียมอินเทอร์เน็ตสำหรับทริปจีนอย่างไรบ้าง?

    • ซิมโรมมิ่ง/eSIM นานาชาติ → ควรซื้อจากผู้ให้บริการที่รองรับการใช้งานในจีน
    • Pocket Wi-Fi → เหมาะสำหรับเดินทางเป็นกลุ่ม แต่ต้องเช็กว่าใช้งาน VPN ได้
    • แผนที่และแอปสำคัญแบบออฟไลน์ → โหลดเก็บไว้ เช่น Maps.me, Google Translate (ดาวน์โหลดภาษาไว้ล่วงหน้า)
    • ติดตั้ง VPN อย่างน้อย 2 เจ้า กันพลาดเผื่อเชื่อมต่อไม่เสถียร
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที