
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย ด้วยระยะเวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงและระบบการเดินทางที่สะดวกสบาย อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งเชิงธรรมชาติและความบันเทิง ก่อนวางแผนเดินทาง หลายคนอาจสงสัยว่าต้องขอวีซ่าสิงคโปร์ไหม คำตอบคือคนไทยสามารถใช้สิทธิ์สิงคโปร์ฟรีวีซ่า พำนักได้สูงสุด 30 วัน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการท่องเที่ยวและติดต่อธุรกิจสั้นๆ อย่างไรก็ตามหากต้องการทำงาน ศึกษาต่อ หรืออยู่ระยะยาว จำเป็นต้องทำความเข้าใจประเภทของ สิงคโปร์วีซ่า และขั้นตอนการยื่นขออย่างถูกต้อง เพื่อให้การเดินทางราบรื่น Trip.com จะพาเพื่อนๆ รู้จักทุกแง่มุมเกี่ยวกับวีซ่าสิงคโปร์ พร้อมข้อมูลอัปเดตปี 2025 เพื่อให้เพื่อนๆ เตรียมตัวได้ครบถ้วนก่อนออกเดินทาง
🔍 นักท่องเที่ยวชาวไทยต้องขอวีซ่าสิงคโปร์ไหม?
ข่าวดีสำหรับนักเดินทางชาวไทยก็คือไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าสิงคโปร์ หากวัตถุประสงค์ของการเดินทางคือการท่องเที่ยว เยี่ยมเยียนครอบครัว หรือทำกิจกรรมส่วนตัวในระยะสั้น ภายใต้ข้อตกลงการยกเว้นวีซ่า (Visa Exemption) นักท่องเที่ยวไทยสามารถพำนักในสิงคโปร์ได้ สูงสุด 30 วัน ต่อการเดินทางหนึ่งครั้ง
✅สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมคือ
- หนังสือเดินทางที่มีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ตั๋วเดินทางออกจากสิงคโปร์ (เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับหรือเดินทางต่อ)
- หลักฐานการจองที่พัก
- เอกสารยืนยันฐานะทางการเงิน เช่น สเตทเมนต์ธนาคาร หรือบัตรเครดิต
แม้จะไม่ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้า แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองยังมีสิทธิ์ซักถามเพื่อยืนยันวัตถุประสงค์การเดินทาง ดังนั้นควรตอบอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา นอกจากนี้ก่อนเดินทางทุกครั้ง นักท่องเที่ยวไทยยังต้องกรอก SG Arrival Card ออนไลน์ภายใน 3 วันก่อนถึงสิงคโปร์ เพื่อให้การผ่านด่านตรวจเป็นไปอย่างราบรื่น
🧾 ประเภทวีซ่าสิงคโปร์
แม้ว่านักท่องเที่ยวชาวไทยจะได้รับการยกเว้นวีซ่าเมื่อเดินทางไปสิงคโปร์ไม่เกิน 30 วัน แต่สำหรับการพำนักระยะยาวหรือเดินทางด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น ทำงาน ศึกษาต่อ หรือเยี่ยมญาติระยะยาว ก็ยังมีประเภทวีซ่าที่ต้องยื่นขออย่างเป็นทางการ โดยในปี 2025 รัฐบาลสิงคโปร์ได้กำหนดประเภทวีซ่าและใบอนุญาตพำนักไว้หลากหลายดังนี้
ประเภทวีซ่า / ใบอนุญาต | วัตถุประสงค์การเดินทาง | หมายเหตุสำคัญ |
Visa Exemption (ยกเว้นวีซ่า) | ท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเยียนไม่เกิน 30 วัน | สำหรับผู้ถือพาสปอร์ตไทย ไม่ต้องยื่นขอล่วงหน้า |
Work Visa (Employment Pass / S Pass) | ทำงานในสิงคโปร์ทั้งตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญและแรงงานฝีมือ | ต้องมีนายจ้างในสิงคโปร์เป็นผู้ยื่นคำขอ |
Student Pass | เรียนในสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรองในสิงคโปร์ | ต้องได้รับจดหมายตอบรับจากสถาบันก่อน |
Dependent Pass | พำนักร่วมกับคู่สมรสหรือครอบครัวที่ทำงาน/อยู่ในสิงคโปร์ | อ้างอิงสิทธิ์จากผู้ถือวีซ่าหลัก |
Long-Term Visit Pass | เยี่ยมเยียนครอบครัวหรือพำนักระยะยาวเกิน 30 วัน | ใช้กับกรณีไม่ได้อยู่ภายใต้ Dependent Pass |
Business Visa / Social Visa | เข้าร่วมประชุม สัมมนา หรือกิจกรรมทางธุรกิจ | อาจต้องใช้จดหมายเชิญจากองค์กรในสิงคโปร์ |
💻 วิธีขอวีซ่าสิงคโปร์
สำหรับคนไทยที่เดินทางเพื่อทำงาน ศึกษาต่อ หรือพำนักระยะยาวในสิงคโปร์ การยื่นขอวีซ่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำก่อนออกเดินทาง ปี 2025 รัฐบาลสิงคโปร์ยังคงใช้ระบบการขอวีซ่าแบบออนไลน์และผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาต เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้
📝 กำหนดประเภทวีซ่าให้ชัดเจน
- เริ่มจากระบุวัตถุประสงค์การเดินทาง เช่น วีซ่า ทำงาน สิงคโปร์ (Employment Pass, S Pass) วีซ่านักเรียนสิงคโปร์ หรือวีซ่าแต่งงานสิงคโปร์ เพื่อจะได้เตรียมเอกสารได้ตรงตามเงื่อนไข
📝 เตรียมเอกสารประกอบ
- หนังสือเดินทางอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- รูปถ่ายพื้นหลังสีขาวตามขนาดที่กำหนด
- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับหรือหลักฐานการเดินทางต่อ
- หลักฐานการเงิน เช่น สเตทเมนต์ธนาคาร
- เอกสารอื่น ๆ ตามประเภทวีซ่า เช่น จดหมายรับเข้าทำงานหรือหนังสือตอบรับจากสถาบันการศึกษา
📝 ยื่นคำขอผ่านช่องทางที่กำหนด
- คนไทยต้องยื่นผ่าน ตัวแทนรับคำขอวีซ่า (Authorised Visa Agent) หรือสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ไม่สามารถยื่นโดยตรงกับ Immigration & Checkpoints Authority (ICA) ได้
📝 ชำระค่าธรรมเนียม
- ค่าธรรมเนียมทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 780 บาท) โดยอาจมีค่าบริการเพิ่มเติมของตัวแทน
📝 รอผลการพิจารณา
- ระยะเวลาพิจารณาโดยเฉลี่ย 3–5 วันทำการ แต่บางประเภทอาจนานกว่านั้น ควรยื่นล่วงหน้าอย่างน้อย 2–4 สัปดาห์
📝 รับ e-Visa หรือ Approval Letter
- หากได้รับอนุมัติ ควรพิมพ์สำเนาติดตัวไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สิงคโปร์
💯 เคล็ดลับเล็กๆ คือก่อนยื่นขอควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์สถานทูตหรือหน่วยงานของสิงคโปร์เสมอ เพราะกฎเกณฑ์อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามนโยบายเข้าเมือง
🧳 เคล็ดลับท่องเที่ยวสิงคโปร์
🔍 กรอก SG Arrival Card ล่วงหน้า
- ภายใน 3 วันก่อนเดินทาง ต้องกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ SG Arrival Card เพื่อแจ้งข้อมูลการเดินทางและสุขภาพ ขั้นตอนนี้ฟรีและช่วยให้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้รวดเร็ว
🔍 วางแผนเส้นทางและการเดินทางในเมือง
- ระบบ MRT และรถบัสของสิงคโปร์ครอบคลุมทั่วเกาะ ซื้อตั๋ว EZ-Link หรือบัตร NETS FlashPay เพื่อเดินทางแบบแตะเข้า-ออกได้สะดวกและคุ้มค่า
🔍 เลือกที่พักใกล้สถานี MRT
- จะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ย่านยอดนิยมคือ Bugis, Chinatown และ Little India เพราะใกล้แหล่งท่องเที่ยวและร้านอาหาร
🔍 สำรวจอาหารท้องถิ่นในฮอว์เกอร์เซ็นเตอร์
- ฮอว์เกอร์เซ็นเตอร์เป็นศูนย์อาหารราคาย่อมเยาที่มีรสชาติท้องถิ่นแท้ๆ เช่น ข้าวมันไก่สิงคโปร์, Laksa และ Satay ทั้งยังได้สัมผัสวิถีชีวิตคนท้องถิ่น
🔍 เตรียมร่างกายรับอากาศร้อนชื้น
- สิงคโปร์มีอากาศคล้ายไทย ควรพกน้ำดื่ม หมวก และร่มติดตัว โดยเฉพาะถ้าจะเดินเที่ยวกลางแจ้ง
🔍 เช็กโปรโมชั่นสายการบินและบัตรสถานที่ท่องเที่ยว
- หลายครั้งสายการบินจะมีแพ็กเกจพิเศษ รวมตั๋วเครื่องบิน + ที่พัก หรือส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ดัง เช่น Gardens by the Bay หรือ Universal Studios
🔍 ใช้ประโยชน์จากการยกเว้นวีซ่า
- วางแผนให้การเที่ยวไม่เกิน 30 วัน เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายจากการขอวีซ่า แต่ถ้าต้องการอยู่ต่อเพื่อทำงานหรือเรียน ควรศึกษาการยื่น วีซ่าสิงคโปร์ ทำงาน หรือ วีซ่านักเรียนสิงคโปร์ ไว้ล่วงหน้า
🛬 สายการบินที่ให้บริการจากไทยไปสิงคโปร์
เส้นทางบินจากไทยไปสิงคโปร์ยังคงคึกคัก เพราะใช้เวลาเดินทางสั้นเพียง 2 - 2.5 ชั่วโมง ทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจนิยมเดินทางบ่อย การแข่งขันระหว่างสายการบินทำให้มีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งแบบฟูลเซอร์วิสและโลว์คอสต์ โดยเที่ยวบินส่วนใหญ่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง
สายการบิน | ประเภทบริการ | จุดเด่น | เวลาเฉลี่ยบิน |
Singapore Airlines | ฟูลเซอร์วิส | บริการมาตรฐานระดับโลก อาหารบนเครื่องคุณภาพสูง เลือกที่นั่งล่วงหน้าได้ฟรี | 2 ชม. 25 นาที |
Thai Airways | ฟูลเซอร์วิส | พื้นที่นั่งกว้าง อาหารไทย-สากล และน้ำหนักสัมภาระฟรี | 2 ชม. 25 นาที |
Scoot | โลว์คอสต์ | ราคาย่อมเยา บินตรงทุกวัน มีตัวเลือกเพิ่มน้ำหนักสัมภาระ | 2 ชม. 20 นาที |
AirAsia | โลว์คอสต์ | โปรโมชั่นบ่อย เส้นทางจากดอนเมืองหลายรอบต่อวัน | 2 ชม. 25 นาที |
Jetstar Asia | โลว์คอสต์ | ราคาประหยัด มีเที่ยวบินกลางคืนให้เลือก | 2 ชม. 25 นาที |
Thai VietJet Air | โลว์คอสต์ | โปรโมชั่นตั๋วถูก บินจากสุวรรณภูมิและดอนเมือง | 2 ชม. 25 นาที |
🚇 การเดินทางในสิงคโปร์
สิงคโปร์ขึ้นชื่อเรื่องระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก ปลอดภัยและตรงเวลา ทำให้การเที่ยวหรือทำงานในประเทศนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งรถส่วนตัว สามารถเก็บสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบในเวลาจำกัด การรู้วิธีเดินทางที่เหมาะสมจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มาก
วิธีเดินทาง | รายละเอียด | เหมาะสำหรับ | ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ |
MRT (Mass Rapid Transit) | รถไฟฟ้าใต้ดินและยกระดับ ครอบคลุมเกือบทุกย่านสำคัญ | เดินทางระหว่างเขตท่องเที่ยวและย่านธุรกิจ | เริ่มต้น 1.10 SGD ต่อเที่ยว |
Public Bus | รถโดยสารประจำทางเชื่อมทุกพื้นที่ รวมถึงย่านที่ MRT ไม่ครอบคลุม | เดินทางระยะสั้นหรือไปยังย่านชานเมือง | เริ่มต้น 1.10 SGD |
Taxi | สะดวก รวดเร็ว มีมิเตอร์มาตรฐาน | เดินทางดึกหรือเมื่อมีสัมภาระมาก | เริ่มต้น 4.10 SGD |
Grab / Gojek | แอปเรียกรถแท็กซี่และรถส่วนตัว | ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและไม่ต้องรอคิว | ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางและเวลา |
Bicycle Sharing | บริการจักรยานเช่าผ่านแอป เช่น Anywheel | ปั่นเที่ยวตามสวนสาธารณะและพื้นที่ริมแม่น้ำ | 1 SGD ต่อ 30 นาที |
Walking | ทางเท้าปลอดภัย มีป้ายบอกทางชัดเจน | เที่ยวในย่านใกล้ ๆ เช่น Chinatown หรือ Bugis | ฟรี |
🚌 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
Gardens by the Bay
Gardens by the Bay ถือเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือนเมื่อมาสิงคโปร์ ที่นี่คือสวนพฤกษศาสตร์สมัยใหม่ขนาดมหึมาใจกลางเมือง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 100 เฮกตาร์ และแบ่งเป็นโซนสำคัญ เช่น Flower Dome ที่จัดแสดงพืชจากภูมิอากาศเมดิเตอร์เรเนียน และ Cloud Forest ที่มีน้ำตกในร่มสูงกว่า 35 เมตร จุดเด่นที่สุดคือ Supertree Grove ต้นไม้เหล็กยักษ์ที่สูงถึง 50 เมตร ซึ่งจะมีการแสดงไฟ Garden Rhapsody ทุกค่ำคืน ฟรีสำหรับผู้มาเยือน
การเดินทางมาที่นี่สะดวกมาก เพียงนั่ง MRT มาลงสถานี Bayfront แล้วเดินเชื่อมเข้าสวนโดยตรง ค่าเข้าชม Cloud Forest และ Flower Dome อยู่ที่ราว 28 SGD ต่อผู้ใหญ่ (ปี 2025 อาจปรับขึ้นเล็กน้อย) ส่วนการเดินชมบริเวณภายนอกนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย
Universal Studios Singapore
ตั้งอยู่บนเกาะเซ็นโตซา Universal Studios Singapore เป็นสวนสนุกระดับโลกที่เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและสายแอดเวนเจอร์ ภายในแบ่งเป็นโซนธีมต่าง ๆ เช่น Hollywood, Sci-Fi City, Ancient Egypt และ Jurassic Park ไฮไลต์คือเครื่องเล่น Battlestar Galactica รถไฟเหาะคู่ที่ตื่นเต้นสุดขีด และ Transformers The Ride ที่ผสมผสานเทคโนโลยี 3D สุดล้ำ
บัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ในปี 2025 อยู่ที่ประมาณ 81 SGD และควรจองออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงคิว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
Marina Bay Sands
Marina Bay Sands ไม่ใช่เพียงแค่โรงแรมหรู แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ที่ทุกคนรู้จัก โดดเด่นด้วยดีไซน์สามตึกสูงเชื่อมกันด้วย SkyPark ชั้นดาดฟ้า ที่นี่มีสระว่ายน้ำอินฟินิตี้สูงที่สุดในโลก มองเห็นวิวเมืองได้ 360 องศา (สงวนสิทธิ์สำหรับแขกที่พักในโรงแรม)
แม้ไม่ได้พัก คุณก็สามารถขึ้นชมวิวที่ Sands SkyPark Observation Deck โดยมีค่าบัตรประมาณ 32 SGD ต่อผู้ใหญ่ ด้านล่างยังมีห้าง The Shoppes at Marina Bay Sands รวมถึงคาสิโนและโรงละครที่จัดโชว์ระดับนานาชาติ
🏠 ที่พักแนะนำเมื่อไปเยือนสิงคโปร์
ไอบิส บัดเจ็ท สิงคโปร์ เอเมอรัลด์ (Ibis Budget Singapore Emerald)
โรงแรมราคาประหยัดในเครือ Accor แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านเกลัง ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องอาหารท้องถิ่นและร้านคาเฟ่เล็ก ๆ จุดเด่นคือราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพ ห้องพักสะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เครื่องปรับอากาศ ทีวี และ Wi-Fi ฟรี แม้จะไม่หรูหรา แต่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้สิทธิ์ สิงคโปร์ ฟรีวีซ่า แล้วอยากประหยัดงบเพื่อไปใช้กับการเที่ยวและชิมอาหาร
การเดินทางสะดวก ใกล้สถานี MRT Kallang และ Aljunied ใช้เวลาเพียง 10–15 นาทีถึงย่านใจกลางเมือง หากคุณต้องการความสะดวกสบายในราคาย่อมเยา โรงแรมนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มที่สุดในปี 2025
เมอร์เคียว สิงคโปร์ ไทร์วิตต์ (Mercure Singapore Tyrwhitt)
ตั้งอยู่ในย่าน Lavender ที่เงียบสงบกว่าแต่ยังคงสะดวกต่อการเดินทาง ตัวโรงแรมตกแต่งสไตล์โมเดิร์น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เช่น สระว่ายน้ำบนดาดฟ้า ฟิตเนส และห้องอาหารที่เสิร์ฟทั้งอาหารเช้าและเมนูท้องถิ่น
ห้องพักกว้างกว่ามาตรฐานโรงแรมในสิงคโปร์เล็กน้อย เหมาะกับผู้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างสบายหลังเดินเที่ยวมาทั้งวัน ใกล้สถานี MRT Bendemeer และ Lavender เดินทางเข้าสู่ Orchard หรือ Marina Bay Sands ได้ในไม่กี่นาที เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางมาเพื่อพักผ่อนหรือทำงานระยะสั้นภายใต้ สิงคโปร์ ฟรีวีซ่า
สวิสโซเทล เดอะ สแตมฟอร์ด – สิงคโปร์ (Swissôtel The Stamford)
หนึ่งในโรงแรมสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สูงถึง 73 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ City Hall การเดินทางสะดวกเพราะมีสถานี MRT เชื่อมอยู่ใต้โรงแรม วิวจากห้องพักสามารถมองเห็น Marina Bay, Singapore Flyer และย่านธุรกิจได้ชัดเจน
สิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็ม ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องอาหารมากกว่า 10 แห่ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การพักผ่อนระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะมาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ หากใช้สิทธิ์ สิงคโปร์ ฟรีวีซ่า การพักที่นี่เพียงไม่กี่คืนก็ช่วยเติมเต็มทริปให้สมบูรณ์แบบทั้งความสะดวกและความหรูหรา
การวางแผนเที่ยวหรือทำงานในสิงคโปร์ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากเริ่มจากการทำความเข้าใจเงื่อนไขฟรีวีซ่าสิงคโปร์สำหรับนักท่องเที่ยวไทย และขั้นตอนการขอวีซ่าสิงคโปร์สำหรับทำงาน หรือวีซ่าประเภทอื่นหากมีความจำเป็น การรู้ข้อมูลประเภทวีซ่า สายการบิน การเดินทางในเมือง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักที่เหมาะกับงบประมาณ จะช่วยให้ทริปของเพื่อนๆ สมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งความพร้อมด้านข้อมูลจะทำให้คุณมั่นใจในทุกก้าวของการเดินทาง ที่สำคัญคืออย่าลืมวางแผนล่วงหน้าและเตรียมเอกสารให้ครบ เพื่อให้การผจญภัยในเมืองแห่งสิงโตทะเลครั้งนี้เต็มไปด้วยความราบรื่นและความทรงจำที่ดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวีซ่าสิงคโปร์
ไปสิงคโปร์ต้องต้องใช้วีซ่าไหม
สำหรับคนไทย วีซ่าท่องเที่ยวสิงคโปร์ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเพราะกองตรวจคนเข้าเมืองอนุญาตให้คนไทยอยู่ในสิงคโปร์ได้ไม่เกิน 30 วันขั้นตอนการเข้าสิงคโปร์ล่าสุดมีอะไรบ้าง
การเดินทางเข้าสิงคโปร์ของคนไทย โดยไม่ต้องกักตัว ผู้ฉีดวัคซีนครบโดส (อย่างน้อย 2 เข็ม ไม่จำเป็นว่าฉีดล่าสุดเมื่อใด) เดินทางจากไทยเข้าสิงคโปร์ไม่ต้องตรวจโควิด ... เด็กอายุ 12 ปี หรือต่ำกว่า ไม่จำเป็นต้องผ่านการฉีดวัคซีนโควิด ก่อนเดินทางเข้าสิงคโปร์ ... ตรวจสอบใบรับรองวัคซีนเข้าสิงคโปร์ที่ https://eservices.ica.gov.sg/STO1/VCP.ตม.สิงคโปร์ผ่านยากไหม
ไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ระบบอัตโนมัติที่สนามบิน




