
ในยุคที่ทุกอย่างทำได้แค่เพียงปลายนิ้ว การเดินทางก็ไม่ต่างกัน แอปเรียกรถอย่าง DiDi ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกในการเรียกรถสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก ปลอดภัย และราคาที่คุ้มค่า เดินทางไปไหนก็ถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดาย Trip.com จะพาไปรู้จักว่า ใช้ DiDi ยังไง ตั้งแต่เริ่มต้นดาวน์โหลด ไปจนถึงการใช้บริการเสร็จสิ้น พร้อมเคล็ดลับให้เดินทางสะดวกและคุ้มค่ายิ่งขึ้นด้วย
DiDi คืออะไร? ทำไมถึงเป็นแอปเรียกรถที่น่าใช้

ที่มาของภาพ : BrandsAge
DiDi หรือ Didi Chuxing แอปพลิเคชันเรียกรถจากประเทศจีน ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 และเติบโตจนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน แอปพลิเคชันนี้ เปิดให้บริการในหลายประเทศ เช่น จีน เม็กซิโก บราซิล ชิลี ญี่ปุ่น และขยายสู่ตลาดอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยอีกด้วย แอปพลิเคชันนี้ ใช้งานได้สะดวก ผู้โดยสารสารมารถกดเรียกรถได้ง่ายและปลอดภัย โดยมีรูปแบบการให้บริการหลากหลาย ดังนี้
ประเภทบริการ | เหมาะสำหรับ | ลักษณะรถ | ระดับราคา |
DiDi Express | การเดินทางทั่วไป คนเดียวหรือ 2–3 คน | รถยนต์ซีดาน 4 ประตู มาตรฐาน | ประหยัด–กลาง |
DiDi Premier | การเดินทางเชิงธุรกิจ/เป็นทางการ ต้องการความสะดวกสบาย | รถยนต์หรู หรือรถระดับพรีเมียม | ค่อนข้างสูง |
DiDi XL | กลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือเดินทางหลายคนพร้อมกัน | รถยนต์ขนาดใหญ่/MPV รองรับ 5–6 คน | กลาง–สูง |
DiDi Delivery | ส่งของ/พัสดุ ขนาดเล็ก–กลาง | มอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์เล็ก | ขึ้นอยู่กับระยะทาง |
ทำไม Didi ถึงเป็นแอปที่น่าใช้งาน
- ราคาที่คุ้มค่าและโปร่งใส
DiDi คคำนวณค่าโดยสารจากระยะทางและเวลา ทำให้ผู้โดยสารสามารถเห็นราคาชัดเจนก่อนยืนยันการเดินทาง - ระบบความปลอดภัยที่เชื่อถือได้
มีระบบติดตามการเดินทางแบบเรียลไทม์ สามารถแชร์เส้นทางให้เพื่อนและครอบครัวดูได้ แถมยังมีปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉินในแอป - ใช้งานง่ายผ่านมือถือ
อินเทอร์เฟซของแอป DiDi ออกมาให้เข้าใจง่าย รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษและไทย สามารถเลือกประเภทรถได้ตามต้องการ - มีฐานคนขับจำนวนมาก
ในประเทศที่ DiDi เปิดให้บริการ จะมีคนขับจำนานมาก ทำให้เรียกรถได้เร็ว ลดเวลาในการคอย - ระบบรีวิวและให้คะแนน
ผู้โดยสามารถให้คะแนนและรีวิวคนขับได้ และคนขับที่มีคะแนนสูงจะมีโอกาสได้รับงานมากขึ้น - ฟีเจอร์เสริมที่ตอบโจทย์
เลือกเส้นทางได้ก่อนเริ่มเดินทาง มีบริการเรียกรถล่วงหน้าในบางพื้นที่ รองรับการชำระเงินทั้งเงินสด บัตรเครดิต และบัตรเดบิต
DiDi เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนอกจาก Grab และ Bolt ทำให้ผู้โดยสารมีทางเลือกหลากหลาย และมีโปรโมชันราคาประหยัดกว่าเจ้าใหญ่ และเหมาะกับผู้ที่ต้องการหาทางเลือกใหม่ในการเดินทาง เพียงแค่โหลดแอป สมัคร และเลือกปลายทาง ก็สามารถเรียกรถได้ทันที
ขั้นตอนดาวน์โหลดและสมัคร DiDi แบบละเอียด

ก่อนจะเรียกรถผ่านแอปนี้ ต้องดาวน์โหลดและสมัครใช้งานแอปพลิเคชันให้เรียบร้อย วิธีการดาวน์โหลดก็ไม่ยาก ใช้เวลาไม่กี่นาที ก็พร้อมใช้งานได้ทันที ทั้งบน iOS และ Android
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DiDi (สำหรับ iOS และ Android)
- เข้าไปที่ App Store หรือ Google Play Store
- ค้นหาว่า DiDi หรือ DiDi-Rider
- กดปุ่มดาวน์โหลดหรือติดตั้ง รอจนการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์
2. ลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์และยืนยันตัวตน
- เปิดแอป DiDi ขึ้นมา เลือก “สมัคร/ลงทะเบียน”
- กรอก หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานจริง (แนะนำให้ใช้เบอร์หลักที่คุณใช้เป็นประจำ)
- ระบบจะส่ง รหัส OTP (One-Time Password) ไปยังเบอร์โทรศัพท์ของคุณ
- นำรหัส OTP ที่ได้รับมากรอกในแอปเพื่อยืนยันตัวตน
3. ตั้งค่าโปรไฟล์และข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้น
- ใส่ ชื่อ–นามสกุลจริง (เพื่อความถูกต้องในการเรียกรถและระบบความปลอดภัย)
- อัปโหลด รูปโปรไฟล์ เพื่อให้คนขับจดจำได้ง่ายขึ้น
- กรอกข้อมูลการชำระเงิน เช่น บัตรเครดิต/เดบิต หรือเลือก ชำระเงินสด (ในไทยรองรับทั้งสองแบบ)
- ตรวจสอบและกดยืนยัน เท่านี้ก็พร้อมใช้งาน DiDi ได้แล้ว
วิธีเรียกรถ DiDi ง่ายๆ แบบ Step-by-Step
หลังจากดาวน์โหลดและสมัครใช้งานเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการเรียกใช้รถ สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: ปักหมุดจุดรับ-ส่ง (ต้นทางและปลายทาง)


- เปิดแอป DiDi ขึ้นมา
- ในหน้าแรก ให้กดเลือก “จุดรับ (Pick-up Point)” แล้วปักหมุดหรือตั้งค่าตามตำแหน่งปัจจุบันของคุณ
- จากนั้นใส่ “จุดหมายปลายทาง (Destination)” ที่คุณต้องการไป เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า หรือพิมพ์ที่อยู่เอง
ขั้นตอนที่ 2: เลือกประเภทรถที่ต้องการ
เลือกประเภทการเดินทาง เช่น DiDi Express, DiDi Premier เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบราคาโดยประมาณและกดยืนยันการเรียกรถ
- แอปจะแสดง ราคาโดยประมาณ ขึ้นมาให้คุณเห็นก่อนกดยืนยัน
- ตรวจสอบราคาและเวลาที่ใช้เดินทาง (ประมาณการจากการจราจรจริง)
- หากโอเคแล้ว กด ยืนยันการเรียกรถ
ขั้นตอนที่ 4: รอคนขับและตรวจสอบข้อมูล
- หลังจากยืนยันการเรียกรถ ระบบจะแมทช์คุณกับคนขับที่อยู่ใกล้ที่สุด
- ตรวจสอบรายละเอียดรถ เช่น ยี่ห้อ รุ่น สี และหมายเลขทะเบียน
- ตรวจสอบชื่อและรูปโปรไฟล์ของคนขับ เพื่อให้มั่นใจว่าขึ้นรถถูกคัน
ขั้นตอนที่ 5: ติดตามรถแบบ Real-time และเตรียมตัวขึ้นรถ
- คุณสามารถดู ตำแหน่งรถแบบ Real-time ในแอปได้ ว่าคนขับกำลังขับมาจากไหน
- เมื่อรถใกล้ถึง ให้เตรียมตัวรอในจุดที่กำหนด เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา
- เมื่อขึ้นรถแล้ว สามารถแชร์เส้นทางให้เพื่อนหรือครอบครัวดูได้ เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม
การชำระเงินใน DiDi: สะดวก ปลอดภัย ไร้เงินสด

จุดเด่นของการใช้งานแอปนี้ คือระบบการชำระเงินที่ทันสมัยและโปร่งใส ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าชำระเงินผ่านช่องทางไหน ซึ่งช่วยให้ทุกการเดินทางสะดวกและปลอดภัย ไม่ต้องพกเงินสดให้ยุ่งยาก
วิธีเพิ่มบัตรเครดิต/เดบิตในแอป
- เปิดแอป DiDi แล้วไปที่เมนู “โปรไฟล์/บัญชี”
- เลือก “การชำระเงิน (Payment)”
- กด “เพิ่มบัตรใหม่ (Add Card)”
- กรอกข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต ได้แก่ หมายเลขบัตร, วันหมดอายุ และรหัส CVV
- กดยืนยัน ระบบจะบันทึกข้อมูลบัตรเพื่อใช้งานในการชำระค่าโดยสารครั้งถัดไป
ช่องทางการชำระเงินอื่นๆ
นอกจากการชำระผ่านแอปพลิเคชันแล้ว สามารถชำระเงินผ่านช่องทางอื่นๆ ได้เช่นกัน อย่างเงินสด ในประเทศไทยบางพื้นที่ สามารถชำระด้วยเงินสดได้ โดยเลือกตัวเลือก Cash ก่อนยืนยันการเรียกรถ และผู้ใช้สามารถใส่โค้ดส่วนลดหรือใช้เครดิตจากกิจกรรมโปรโมชันเพื่อลดค่าโดยสารได้
วิธีดูประวัติการเดินทางและใบเสร็จ
- เปิดแอป DiDi แล้วไปที่เมนู “การเดินทางของฉัน (My Trips)”
- เลือกทริปที่ต้องการดูรายละเอียด
- จะมีข้อมูลครบถ้วน ได้แก่ วัน–เวลาเดินทาง, ประเภทรถ, ค่าโดยสาร, ช่องทางการชำระเงิน
- สามารถกด “ดูใบเสร็จ (Receipt)” เพื่อนำไปใช้อ้างอิงหรือเบิกค่าเดินทางได้
ฟีเจอร์น่าสนใจและเคล็ดลับการใช้งาน DiDi

นอกจากการเรียกรถทั่วไปแล้ว DiDi ยังมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้กับผู้ใช้ หากใช้อย่างถูกวิธี และนี่คือฟีเจอร์ที่น่าสนใจและเคล็ดลับใช้งาน DiDi ได้ดี
การให้คะแนนคนขับและรายงานปัญหา
หลังจบการเดินทาง ทุกครั้งจะมีหน้าให้คะแนน คนขับได้ตั้งแต่ 1-5 ดาว หากประทับใจการบริการสามารถกด 5 ดาวและเพิ่มคำชม เพื่อให้กำลังใจคนขับ แต่ถ้าเจอปัญหา เช่น ขับรถไม่ปลอดภัย, ใช้คำไม่เหมาะสม สามารถกดรายงานปัญหาได้ทันที ระบบจะบันทึกข้อมูลไว้ และทีมงานจะคอยตรวจสอบเพื่อรักษามาตรฐานการบริการ
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ควรรู้
- แชร์เส้นทางการเดินทาง
สามารถส่งลิงก์ติดตามเส้นทางแบบ Real-time ให้เพื่อนหรือครอบครัว เพื่อความอุ่นใจ - ปุ่มฉุกเฉิน
กรณีเกิดเกตุไม่คาดคิด สามารถกดปุ่มแจ้งเหตุ ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังสายด่วนความปลอดภัยทันที - การบันทึกเสียง
ในบางประเทศ DiDi มีฟีเจอร์บันทึกเสียงระหว่างการเดินทาง เพื่อเพิ่มความมั่นใจทั้งผู้โดยสารและคนขับ - ตรวจสอบโปรไฟล์คนขับ
ทุกคนขับต้องผ่านการตรวจสอบเอกสารและประวัติ ทำให้ผู้โดยสารมั่นใจได้มากขึ้น
การจองรถล่วงหน้า
หากคุณต้องเดินทางในช่วงเวลาสำคัญ เช่น ไปสนามบิน, มีนัดประชุม เป็นต้น สามารถใช้ฟีเจอร์จองล่วงหน้าได้ เลือกวัน เวลา และจุดรับ-ส่งล่วงหน้าในแอป ระบบจะจัดการหาคนขับให้ตรงตามเวลาที่กำหนด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจว่าจะมีรถรับแน่นอน โดยไม่ต้องรอเรียกรถแบบทันที
สรุปการเดินทางในไทยสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย DiDi และ trip.com
การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรือการเดินทางในชีวิตประจำวัน จะง่ายและสะดวกกว่าที่เคย หากใช้ DiDi ในการตั้งแอปเรียกรถยอดนิยม ปลอดภัย มีความโปร่งใส่เรื่องราคา และฟีเจอร์ครบครัน ช่วยให้ทุกการเดินทางราบรื่นและมั่นใจยิ่งขึ้น และเพื่อให้ทริปของคุณ สามารถวางแผนได้ครบจบในที่เดียว มาวางแผนท่องเที่ยวไปกับ Trip.com ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม หรือ eSIM พร้อมรองรับทุกความต้องการ แถมยังมีโค้ดส่วนลดสำหรับการเรียกใช้รถ ได้ทั้งประสบการณ์การเดินทางที่ทั้งสะดวก คุ้มค่า และไร้กังวล
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ DiDi
ใช้ DiDi ในประเทศไทยได้ที่จังหวัดไหนบ้าง?
ปัจจุบัน DiDi เปิดให้บริการในหลายจังหวัดและเมืองใหญ่ของไทย เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และบางเมืองท่องเที่ยว โดยพื้นที่ให้บริการอาจขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้จากแอปโดยตรงเมื่อเลือกจุดรับ–ส่งDiDi ปลอดภัยไหมสำหรับผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว?
ปลอดภัย เพราะ DiDi มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น การแชร์เส้นทางแบบเรียลไทม์ ปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉิน และการตรวจสอบข้อมูลคนขับก่อนขึ้นรถ รวมถึงระบบรีวิวและให้คะแนน ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางลำพังสามารถเรียกรถ DiDi ให้คนอื่นได้หรือไม่?
ได้ สามารถใช้บัญชีของตัวเองเรียกรถให้เพื่อนหรือครอบครัวได้ เพียงแค่ปักหมุดจุดรับ–ส่งให้ถูกต้อง และแจ้งรายละเอียดรถกับผู้โดยสารที่จะขึ้นแทนคุณหากลืมของไว้บนรถ DiDi ต้องทำอย่างไร?
สามารถติดต่อผ่านแอปได้ทันที โดยไปที่เมนู “การเดินทางของฉัน (My Trips)” เลือกทริปที่ลืมของ แล้วกด “รายงานสิ่งของสูญหาย” ระบบจะช่วยเชื่อมต่อคุณกับคนขับเพื่อประสานงานรับของกลับคืนมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้ใหม่หรือไม่ และรับได้อย่างไร?
มี DiDi มักจะจัดโปรโมชั่นส่วนลดสำหรับผู้ใช้ใหม่ เช่น ส่วนลดค่าโดยสารครั้งแรก เพียงดาวน์โหลดแอป ลงทะเบียน และใส่โค้ดโปรโมชั่นที่ระบบแจ้ง ก็สามารถรับสิทธิ์ได้ทันที


