การไปเที่ยวฮ่องกงยังคงเป็นหนึ่งในทริปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวไทย ไม่ว่าจะเป็นสายกิน สายช้อป หรือสายมูที่อยากไปไหว้พระขอพรให้โชคดีตลอดปี หลายคนมักมีคำถามว่า “เข้าฮ่องกงต้องกรอกอะไรไหม?” คำตอบคือ ไม่ต้องกรอกใบ ตม. ฮ่องกง (Hong Kong Arrival Card) แล้วค่ะ เพราะทางการฮ่องกงได้ยกเลิกแบบฟอร์มนี้อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 และเปลี่ยนมาใช้ระบบสแกนพาสปอร์ตอัตโนมัติแทน ทำให้ขั้นตอนเข้าประเทศรวดเร็วและสะดวกขึ้นมาก
แต่ถึงจะไม่ต้องกรอกเอกสารแล้ว ก็ยังมีสิ่งสำคัญที่ควรเตรียมไว้ก่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เช่น พาสปอร์ต ตั๋วขากลับ และหลักฐานการจองที่พัก บทความนี้จาก Trip.com จะพาไปอัปเดตข้อมูลล่าสุดปี 2568 พร้อมเคล็ดลับเตรียมตัวให้ผ่าน ตม. แบบง่าย ๆ ไม่สะดุด ตั้งแต่ก้าวแรกที่สนามบินฮ่องกงเลยค่ะ
ใบตม. ฮ่องกง (Hong Kong Arrival Card) คืออะไร
ใบตม. ฮ่องกง หรือ Hong Kong Arrival Card คือเอกสารที่นักท่องเที่ยวต้องกรอกก่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อยืนยันตัวตน จุดประสงค์การเดินทาง และที่พักในฮ่องกง
ก่อนปี พ.ศ. 2567 ใบนี้มีทั้งแบบกระดาษ (ขนาดประมาณ A5) ที่แจกบนเครื่องบิน หรือหยิบได้ก่อนเข้าแถวตม. และแบบออนไลน์ที่ให้กรอกผ่านระบบ e-Arrival Card โดยข้อมูลที่ต้องระบุได้แก่
- ชื่อ–นามสกุล
- หมายเลขพาสปอร์ต และสัญชาติ
- ที่พักในฮ่องกง
- หมายเลขเที่ยวบิน
- วัตถุประสงค์การเดินทาง
แต่ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป รัฐบาลฮ่องกงได้ยกเลิกการใช้ Arrival Card ทั้งหมด นักท่องเที่ยวไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มใด ๆ แล้ว เพราะใช้ระบบสแกนพาสปอร์ตอัตโนมัติ (E-Channel) และฐานข้อมูลดิจิทัลแทน ทำให้ขั้นตอนผ่านตม.รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
เหตุผลที่ยกเลิก
- ปรับสู่ระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ
- ลดความแออัดหน้าด่านตรวจ
- ป้องกันความผิดพลาดจากการกรอกเอกสาร
สิ่งที่ควรเตรียมแม้ไม่ต้องใช้ใบตม.
แม้จะไม่ต้องกรอก Arrival Card แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังอาจขอตรวจเอกสารพื้นฐาน ดังนั้นควรเตรียมไว้เสมอ ได้แก่
- พาสปอร์ตที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- หลักฐานการจองที่พัก
- ตั๋วขากลับ
- เอกสารยืนยันวัตถุประสงค์การเดินทาง (เช่น แผนเที่ยว หรือจดหมายเชิญ)
ยังต้องกรอกใบตม. ฮ่องกงอยู่ไหม? (อัปเดตปี 2568)
ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2567 เป็นต้นมา ทางการฮ่องกงได้ ยกเลิกการใช้ใบ ตม. (Hong Kong Arrival Card) อย่างเป็นทางการแล้ว นักท่องเที่ยวทุกสัญชาติ รวมถึงคนไทย ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มใด ๆ ก่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอีกต่อไป
ระบบตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงได้เปลี่ยนมาใช้ เทคโนโลยีสแกนพาสปอร์ตและฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Channel system) แทน ทำให้ขั้นตอนเข้าประเทศเร็วขึ้นและลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูล
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวยังคงต้อง เตรียมเอกสารสำคัญบางอย่าง สำหรับแสดงต่อเจ้าหน้าที่หากถูกสอบถาม เช่น
- หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- หลักฐานการจองที่พักในฮ่องกง
- ตั๋วขากลับหรือแผนการเดินทาง
- เอกสารยืนยันวัตถุประสงค์การเดินทาง (เช่น จดหมายเชิญหรือแผนเที่ยว)
สรุป: ปัจจุบัน (ปี 2568) ไม่มีการกรอก Arrival Card อีกแล้ว แต่ยังควรเตรียมข้อมูลเหล่านี้ไว้ให้พร้อม เพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น
วิธีกรอกใบตม. ขาเข้าประเทศฮ่องกง (ข้อมูลก่อนยกเลิกระบบ Arrival Card)
ขอบคุณภาพจาก hongkongfanclub
แม้ในปี 2568 นี้ นักท่องเที่ยวจะไม่ต้องกรอก ใบตม. ฮ่องกง แล้วตามนโยบายล่าสุดของรัฐบาลฮ่องกง แต่เพื่อความเข้าใจในขั้นตอนเดิม และเป็นแนวทางสำหรับประเทศอื่นที่ยังใช้ระบบ Arrival Card อยู่ Trip.com ได้รวบรวม ตัวอย่างการกรอกใบ ตม. ฮ่องกงในอดีต ไว้ให้ดูเป็นข้อมูลอ้างอิงด้านล่างนี้ค่ะ
ตารางตัวอย่างการกรอกใบ ตม. ฮ่องกง (Hong Kong Arrival Card)
ส่วนในแบบฟอร์ม | ต้องกรอกข้อมูลอะไร | ตัวอย่าง / หมายเหตุ |
|---|---|---|
Family Name / Given Name | ชื่อ–นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ | เช่น Napat Wong (ตรงกับพาสปอร์ตเท่านั้น) |
Passport No. | หมายเลขหนังสือเดินทาง | ตัวอย่าง: AA1234567 |
Nationality | สัญชาติ | THAI |
Date of Birth / Sex | วันเดือนปีเกิด / เพศ | เช่น 12/05/1997 / F |
Flight or Ship No. | หมายเลขเที่ยวบินหรือเรือ | เช่น CX700 |
Purpose of Visit | วัตถุประสงค์ของการเดินทาง | เลือก “Tourism” (ท่องเที่ยว) หรือ “Business” ตามจริง |
Address in Hong Kong | ที่พักในฮ่องกง | เช่น The Park Lane Hong Kong, Causeway Bay |
Length of Stay | ระยะเวลาพำนัก | เช่น 5 days / 4 nights |
Signature | ลายเซ็นผู้เดินทาง | เซ็นให้ตรงกับพาสปอร์ต หากไม่เซ็นถือว่าเอกสารไม่สมบูรณ์ |
ขั้นตอนการยื่นใบตม. ในอดีต (ก่อนปี 2567)
- รับแบบฟอร์มบนเครื่องบิน หรือหยิบได้ที่โต๊ะเขียนเอกสารก่อนถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง
- กรอกข้อมูลครบถ้วนด้วยปากกาหมึกดำหรือน้ำเงิน ตรวจทานให้ตรงกับพาสปอร์ตทุกช่อง
- ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ตม. พร้อมพาสปอร์ต
- เจ้าหน้าที่จะ เก็บส่วนหนึ่งไว้ และคืนอีกส่วนเป็น Landing Slip (ใช้ตอนออกนอกประเทศ)
การใช้ช่อง E-Channel ที่ฮ่องกงสำหรับนักท่องเที่ยวไทย
นักท่องเที่ยวไทยสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้ E-Channel หรือ ช่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติของฮ่องกง ได้ฟรี ระบบนี้ช่วยให้ผ่านด่าน ตม. ได้รวดเร็ว ไม่ต้องต่อคิวเจ้าหน้าที่ เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวฮ่องกงบ่อย ๆ
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียน
- มีอายุ 11 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ถือหนังสือเดินทางไทยที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
- เคยเดินทางเข้าฮ่องกง อย่างน้อย 1 ครั้งภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา
- ไม่มีประวัติที่ไม่พึงประสงค์ในฮ่องกง
ขั้นตอนการลงทะเบียน (ทำได้เมื่อถึงฮ่องกงเท่านั้น)
- เดินทางเข้าฮ่องกงผ่านช่อง ตม. ปกติ (รอบแรก)
- หลังผ่านด่านแล้ว ให้ไปที่ เคาน์เตอร์ลงทะเบียน E-Channel
- สถานที่ลงทะเบียน: สนามบินนานาชาติฮ่องกง ท่าเรือโดยสารมาเก๊า หรือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกง (Immigration Tower)
- ยื่นพาสปอร์ต กรอกแบบฟอร์ม ถ่ายรูป และสแกนลายนิ้วมือ
- หากผ่านการอนุมัติ เจ้าหน้าที่จะติด สติกเกอร์ลงทะเบียน E-Channel ไว้ที่ปกหลังพาสปอร์ต
เมื่อคุณลงทะเบียนแล้ว ครั้งต่อไปที่เดินทางเข้าหรือออกจากฮ่องกง จะสามารถใช้ช่อง E-Channel ได้ทันที รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดเวลามาก โดยสิทธินี้จะคงอยู่จนกว่าหนังสือเดินทางเล่มนั้นจะหมดอายุ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียน E-Channel ได้ที่หน้า แนะนำบริการ E-Channel ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกง
เช็คลิสต์: เตรียมตัวไปฮ่องกงต้องใช้อะไรบ้าง
ก่อนออกเดินทางไปฮ่องกง การเตรียมเอกสารและของใช้ให้พร้อมคือสิ่งสำคัญ เพราะแม้จะไม่ต้องขอวีซ่า แต่ด่านตรวจคนเข้าเมืองยังคงเข้มงวดเรื่องข้อมูลที่พัก ตั๋วขากลับ และพาสปอร์ต หากเตรียมครบตั้งแต่ต้น ทริปของคุณจะราบรื่นและไม่สะดุดแน่นอนค่ะ
ตารางด้านล่างนี้คือ เช็คลิสต์สำคัญที่ควรมีติดตัวก่อนบินไปฮ่องกงปี 2568 ทั้งด้านเอกสาร อุปกรณ์ และของจำเป็นระหว่างทริป
รายการ | รายละเอียดที่ควรเตรียม | คำแนะนำเพิ่มเติม |
|---|---|---|
หนังสือเดินทาง (Passport) | ต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน | หากเหลือน้อยกว่า 6 เดือน ควรต่ออายุก่อนเดินทาง |
ตั๋วเครื่องบินและหลักฐานที่พัก | ปริ๊นท์หรือเก็บในมือถือ | โหลดเก็บแบบออฟไลน์ เผื่อเน็ตไม่เสถียร |
eSIM หรือซิมเน็ตฮ่องกง | ซื้อผ่านแอปก่อนเดินทางหรือที่สนามบิน | ใช้ได้กับ Google Maps และแอปจองต่าง ๆ แนะนำแพ็กเกจ 5GB ขึ้นไป |
แอปเรียกรถ / ขนส่งสาธารณะ | MTR Mobile, HKTaxi | ใช้ง่ายกว่า Grab และมักมีโปรส่วนลด |
บัตร Octopus Card | บัตรเติมเงินใช้กับ MRT รถบัส เรือเฟอร์รี่ และร้านสะดวกซื้อ | ซื้อได้ที่สนามบินหรือสถานีใหญ่ เช่น Hong Kong / Central |
เงินสดฮ่องกง (HKD) | แลกจากไทยหรือกดจากตู้ ATM ที่ฮ่องกง | พกติดตัวอย่างน้อย 500–1,000 HKD สำหรับใช้วันแรก |
อะแดปเตอร์ไฟ (ปลั๊กแบบ G) | ปลั๊กสามขาเหลี่ยม ไฟฟ้า 220V | เหมือนไทยแต่หัวปลั๊กต่าง ควรเตรียมไว้ล่วงหน้า |
เสื้อผ้าและรองเท้า | ตรวจพยากรณ์อากาศล่วงหน้า 3–5 วัน | ธ.ค.–ก.พ. อากาศหนาว ควรมีเสื้อโค้ตหรือผ้าพันคอ |
แผนเที่ยวและสำรองวัน | วางแผนเส้นทางล่วงหน้า | เผื่อวันฝนตก หรือสถานที่ปิดปรับปรุง |
ประกันการเดินทาง | ซื้อผ่านแอปหรือเว็บบริษัทประกัน | เลือกแพ็กเกจที่ครอบคลุมกระเป๋าหาย เที่ยวบินดีเลย์ และเจ็บป่วยระหว่างเดินทาง |
💡 เคล็ดลับ: ก่อนบินควรจัดเอกสารทั้งหมดไว้ในโฟลเดอร์เดียวในมือถือ เช่น “Hong Kong Trip 2568” เพื่อเปิดแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูได้สะดวกโดยไม่ต้องค้นหา
คำถามที่พบบ่อยจากเจ้าหน้าที่ตม. ฮ่องกง
แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ต้องกรอกใบ ตม. แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกง (Immigration Officers) ยังคงสุ่มถามข้อมูลเบื้องต้นเพื่อยืนยันตัวตนและวัตถุประสงค์การเดินทาง โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศครั้งแรกหรือเดินทางคนเดียว
ด้านล่างนี้คือ คำถามที่เจ้าหน้าที่ตม. ฮ่องกงมักถามในปี 2568 พร้อมแนวทางตอบแบบสุภาพและมั่นใจ
คำถามที่มักถูกถาม | ตัวอย่างคำตอบ |
|---|---|
เดินทางมาฮ่องกงทำอะไร? (What is the purpose of your visit?) | มาท่องเที่ยว / มาเยี่ยมเพื่อน / มาประชุม (ตอบตามจริง) |
จะพักที่ไหน? (Where will you stay?) | บอกชื่อโรงแรมหรือที่พัก เช่น The Park Lane Hong Kong Hotel, Causeway Bay |
อยู่กี่วัน? (How long will you stay?) | 4 วัน 3 คืน / 5 วัน 4 คืน พร้อมบอกวันเดินทางกลับคร่าว ๆ |
มีตั๋วขากลับไหม? (Do you have a return ticket?) | มีค่ะ พร้อมแสดงตั๋วขากลับในมือถือ |
มากับใคร? (Who are you traveling with?) | มากับเพื่อน / มากับครอบครัว |
เคยมาเยือนฮ่องกงไหม? (Have you visited Hong Kong before?) | เคย / ไม่เคย (ตอบตรงตามจริง) |
มีเงินสดหรือบัตรเครดิตพอใช้ระหว่างอยู่ไหม? (Do you have sufficient funds?) | มีค่ะ พร้อมแสดงเงินสดหรือบัตรเครดิต (หากถูกขอดู) |
💡 เคล็ดลับ:
- ตอบสั้น กระชับ และตรงไปตรงมา
- ไม่ควรแสดงท่าทีประหม่า
- เตรียมเอกสารสำคัญไว้ในมือถือ เช่น Booking โรงแรม และตั๋วขากลับ เพื่อแสดงได้ทันทีหากเจ้าหน้าที่ขอดู
เริ่มต้นการเดินทางสู่ฮ่องกง
การเดินทางไปฮ่องกงในปี 2568 กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เพราะนอกจากจะไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับคนไทยแล้ว ยังไม่มีขั้นตอนยุ่งยากเหมือนช่วงหลังโควิดอีกต่อไป แต่ถึงจะไม่มีความวุ่นวายเรื่องเอกสารเหมือนแต่ก่อน
จากสนามบินสู่ตัวเมือง ก้าวแรกที่สำคัญ
เมื่อเครื่องบินแตะรันเวย์ที่สนามบิน Chek Lap Kok (สนามบินนานาชาติฮ่องกง) นักท่องเที่ยวจะเข้าสู่ขั้นตอน ด่าน ต ม ฮ่องกง ซึ่งโดยทั่วไปใช้เวลาไม่นาน หากเตรียมข้อมูลครบ เช่น หมายเลขเที่ยวบิน, ที่อยู่โรงแรม, วัตถุประสงค์การเดินทาง และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
อย่าลืมแสดงหลักฐานการจองโรงแรมผ่านมือถือ หรือพิมพ์ออกมาให้พร้อม เพราะเจ้าหน้าที่ตม.สามารถขอดูได้เสมอ โดยเฉพาะในกรณีที่ระบบ e-Arrival Card มีปัญหา หรือชื่อที่กรอกในระบบไม่ตรงกับพาสปอร์ต
ทริคเล็กๆ ก่อนถึงด่านตรวจ
- อย่ายื่นเอกสารมากเกินความจำเป็น
- เตรียมคำตอบสั้นๆ หากเจ้าหน้าที่ถามเรื่องแผนการเดินทาง
- อย่ายืนจับกลุ่มพูดเสียงดังหรือถ่ายรูปบริเวณด่านตม.
- ถ้าถูกถามซ้ำหลายรอบ อย่าตกใจ ให้ตอบตามความจริงเท่านั้น
แม้ว่าการเดินทางไปฮ่องกง จะไม่ยุ่งยากเท่าหลายประเทศในเอเชีย แต่การเตรียมตัวให้ครบตั้งแต่ต้นยังคงเป็นสิ่งสำคัญ หากเพื่อนๆ มีข้อมูลครบไม่มีอะไรต้องกังวล การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกงจะรวดเร็วและราบรื่น พร้อมเริ่มต้นทริปด้วยความสบายใจ หากไม่อยากให้ทริปพังตั้งแต่สนามบิน อย่าลืมอ่านบทความจาก Trip.com ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง แล้วเพื่อนๆ จะไม่เจอคำว่าสะดุดอีกต่อไป
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับใบตม.ฮ่องกง
เข้าฮ่องกงต้องกรอกอะไรไหม?
ไม่ต้องแล้วค่ะ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ทางการฮ่องกงได้ยกเลิก ใบ ตม. ฮ่องกง (Hong Kong Arrival Card) ทั้งแบบกระดาษและออนไลน์ ปัจจุบันใช้ระบบสแกนพาสปอร์ตอัตโนมัติ (E-Channel) แทนเจ้าหน้าที่ตม. ฮ่องกงถามอะไรบ้าง?
โดยทั่วไปเจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเดินทาง เช่น ถามว่ามาฮ่องกงเพื่ออะไร พักที่ไหน อยู่กี่วัน หรือมีตั๋วขากลับหรือไม่ เพียงตอบตามความจริง พูดสั้น ชัด และมั่นใจ พร้อมแสดงหลักฐานการจองโรงแรมหรือตั๋วเครื่องบิน คุณก็สามารถผ่านด่านตรวจได้อย่างราบรื่นค่ะไปฮ่องกงต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?
ควรเตรียมพาสปอร์ตที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน, ตั๋วเครื่องบินขากลับ, หลักฐานการจองที่พัก และหลักฐานการเงินไว้ให้พร้อม เผื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเพิ่มเติมระบบ E-Channel คืออะไร?
E-Channel คือระบบตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติของฮ่องกงที่ใช้การสแกนพาสปอร์ตและใบหน้าแทนการกรอกใบ ตม. ช่วยให้ขั้นตอนผ่านด่านเร็วขึ้น ใช้เวลาเพียง 1–3 นาทีเท่านั้น ปัจจุบันคนไทยสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้ช่อง E-Channel ได้ฟรี หากมีอายุ 11 ปีขึ้นไป เคยเดินทางเข้าฮ่องกงอย่างน้อย 1 ครั้งในรอบ 12 เดือน และไม่มีประวัติที่ไม่พึงประสงค์ ระบบนี้ทำให้การเดินทางเข้า–ออกฮ่องกงสะดวกและรวดเร็วมากค่ะต้องกรอกเอกสารใดไหมก่อนเดินทางไปฮ่องกง?
ไม่ต้องกรอกเอกสารใด นอกจากกรณีที่สายการบินบางแห่งขอข้อมูลผู้โดยสารล่วงหน้า (APIS) ซึ่งเป็นขั้นตอนของสายการบิน ไม่เกี่ยวกับด่านตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกงค่ะ