
เวลาไปเที่ยวฮ่องกง สิ่งเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ “ปลั๊กไฟ”! เพราะฮ่องกงใช้ ปลั๊กแบบ Type G (BS 1363) ซึ่งต่างจากปลั๊กกลมที่เราใช้กันในไทย ถ้าไม่ได้พกหัวแปลงไป อาจต้องมานั่งปวดหัวกลางทริปตอนชาร์จมือถือไม่ได้แน่ ๆ ไฟที่ฮ่องกงอยู่ที่ 220–240 โวลต์ / 50 เฮิรตซ์ อุปกรณ์ส่วนใหญ่ของคนไทยอย่างมือถือ แล็ปท็อป หรือกล้อง มักรองรับแรงดันนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องหม้อแปลงเลย แค่เตรียมหัวแปลงปลั๊กให้ถูกชนิด ก็ชาร์จได้สบายตลอดทริป
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักปลั๊กไฟฮ่องกงแบบละเอียด ทั้งชนิดปลั๊ก วิธีเลือกหัวแปลง จุดซื้อที่สะดวก และเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่จะช่วยให้เที่ยวฮ่องกงได้อย่างราบรื่นในปี 2568 นี้ค่ะ
ฮ่องกงใช้ปลั๊กไฟแบบไหน ต่างจากไทยยังไง?

ที่มา: world-power-plugs.com
ก่อนจะหยิบอุปกรณ์ไปเสียบปลั๊กในฮ่องกง มาดูกันก่อนว่าระบบไฟของเขาเป็นแบบไหน เพราะถึงแรงดันไฟฟ้าจะใกล้เคียงกับไทย แต่ “หัวปลั๊ก” ไม่เหมือนกันเลย! ที่ฮ่องกงใช้คือ ปลั๊กแบบ Type G (BS 1363) ซึ่งมีขาเหลี่ยมสามขา เรียงเป็นรูปสามเหลี่ยม ส่วนไทยเราใช้ปลั๊กกลมและแบนอย่าง Type A / B / C ดังนั้นเสียบตรง ๆ ไม่ได้แน่นอน ต้องมีหัวแปลงช่วยค่ะ
👉 สามารถดูข้อมูลชนิดปลั๊กและมาตรฐานแรงดันไฟฟ้าในประเทศต่าง ๆ เพิ่มเติมได้จาก IEC World Plugs (เว็บไซต์มาตรฐานสากล)
ตารางเปรียบเทียบปลั๊กไฟฮ่องกงและไทย
ตารางด้านล่างนี้คือการเปรียบเทียบระหว่างปลั๊กไฟของฮ่องกงและไทยแบบชัด ๆ เห็นปุ๊บเข้าใจเลยว่าควรเตรียมอะไรไปบ้าง
รายการ | ฮ่องกง | ไทย |
|---|---|---|
ชนิดปลั๊ก | Type G (BS 1363) – ขาเหลี่ยมสามขา | Type A / B / C – ขาแบนหรือขากลม |
แรงดันไฟฟ้า (Voltage) | 220–240V | 220–230V |
ความถี่กระแสไฟ (Frequency) | 50Hz | 50Hz |
ต้องใช้อะแดปเตอร์ไหม? | ต้องใช้แน่นอน (สำหรับอุปกรณ์ไทย) | — |
ต้องใช้หม้อแปลงไหม? | ไม่จำเป็น หากอุปกรณ์รองรับ 100–240V | — |
💡เคล็ดลับ
- ดูที่อะแดปเตอร์ก่อนเสียบ ถ้าเขียนว่า Input: 100–240V ใช้ได้เลย ไม่ต้องพกหม้อแปลงให้หนักกระเป๋า
- เลือกหัวแปลงปลั๊ก Type G คุณภาพดี โดยเฉพาะรุ่นที่มีฟิวส์ในตัว จะปลอดภัยกว่า
- ถ้ามีแผนเดินทางหลายประเทศในปีนี้ แนะนำ หัวแปลงปลั๊กแบบ Universal ใช้ได้ทั่วโลก คุ้มสุด!
ปลั๊กไฟฮ่องกงต้องใช้หัวแปลงปลั๊กไหม?

คำตอบคือต้องใช้แน่นอนค่ะ เพราะฮ่องกงใช้ ปลั๊ก Type G (BS 1363) ที่มีขาเหลี่ยมสามขาเรียงเป็นรูปสามเหลี่ยม ต่างจากปลั๊กแบบแบนที่เราใช้ในไทย ถ้าไม่พกหัวแปลงปลั๊ก (Travel Adapter) ไปด้วย รับรองว่าชาร์จอะไรไม่ได้เลยแน่ ๆ เวลาซื้อหัวแปลงปลั๊ก ควรเลือกให้เหมาะกับรูปแบบการเดินทางของคุณ ซึ่งโดยทั่วไปมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ
ประเภท | ราคา (โดยประมาณ) | เหมาะกับใคร | รายละเอียด |
|---|---|---|---|
หัวแปลงแบบเฉพาะประเทศ (Type G) | ประมาณ ฿30–80 | เหมาะสำหรับคนที่ไปฮ่องกงอย่างเดียว | น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย แต่ใช้ได้เฉพาะปลั๊ก Type G เท่านั้น |
หัวแปลงปลั๊กแบบ Universal (หลายประเทศในตัวเดียว) | ประมาณ ฿100–250 | เหมาะสำหรับคนที่เดินทางต่างประเทศบ่อย | มีหัวแปลงหลายแบบในตัวเดียว รองรับได้ทั้ง Type A, C, G และอื่น ๆ บางรุ่นมีพอร์ต USB/USB-C ในตัว ชาร์จพร้อมกันได้หลายเครื่อง |
ข้อควรระวังเรื่องปลั๊กไฟในฮ่องกง

ถึงจะใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าไทยในฮ่องกงได้ก็จริง (เพราะแรงดันไฟใกล้เคียงกัน) แต่ถ้าใช้งานผิดวิธี ก็อาจเกิดอันตรายได้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฮ่องกงใช้ไฟ 220–240 โวลต์ ซึ่งแรงกว่าที่หลายคนคุ้นเคยเล็กน้อย
เพื่อความปลอดภัยระหว่างทริป ควร หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้เด็ดขาด:
- ❌ เสียบปลั๊กไม่สุดหรือหลวม – อาจเกิดประกายไฟหรือช็อตได้
- ❌ ดึงสายแทนการจับหัวปลั๊ก – เสี่ยงสายขาดและไฟรั่ว
- ❌ ใช้สายไฟที่มีรอยแตกหรือชำรุด – เสี่ยงไฟดูดได้ทุกเมื่อ
- ❌ เสียบปลั๊กใกล้น้ำหรือในที่ชื้น – เพิ่มความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร
- ❌ เสียบปลั๊กทิ้งไว้โดยไม่ใช้งาน – เปลืองไฟและอาจเกิดความร้อนสะสม
💡 เคล็ดลับ:
- ตรวจสอบหัวแปลงปลั๊กก่อนใช้ทุกครั้งว่าแน่นและไม่มีรอยไหม้
- หากเห็นประกายไฟหรือได้กลิ่นไหม้ ให้หยุดใช้งานทันทีและเปลี่ยนหัวแปลงใหม่
เช็กเลย! เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรใช้ในฮ่องกงได้บ้าง

ก่อนเก็บของลงกระเป๋า มาดูกันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณ “ใช้ในฮ่องกงได้ไหม” เพราะที่นั่นใช้ไฟ 220–240 โวลต์ / 50 เฮิรตซ์ ต่างจากบางประเทศ แต่ยังอยู่ในช่วงที่อุปกรณ์ไทยส่วนใหญ่รองรับได้สบาย ๆ
ตารางด้านล่างนี้สรุปให้เข้าใจง่ายขึ้นว่าอุปกรณ์ยอดนิยมของคนไทยสามารถใช้ในฮ่องกงได้หรือไม่
อุปกรณ์ | ใช้ในฮ่องกงได้ไหม | หมายเหตุ / เคล็ดลับ |
|---|---|---|
คอมพิวเตอร์ / แล็ปท็อป | ✅ ใช้ได้ | อะแดปเตอร์ส่วนใหญ่รองรับไฟ 100–240V แค่พกหัวแปลงปลั๊ก Type G ก็พอ |
สมาร์ตโฟน / แท็บเล็ต | ✅ ใช้ได้ | ถ้าบนที่ชาร์จเขียนว่า Input: 100–240V ก็ชาร์จได้เลย |
เครื่องเล่นเกมพกพา (Nintendo Switch, PS Portal ฯลฯ) | ✅ ส่วนใหญ่ใช้ได้ | อุปกรณ์เกมส่วนใหญ่รองรับ 100–240V แต่ควรเช็กก่อนเพื่อความชัวร์ |
ไดร์เป่าผม / ที่หนีบผม | ⚠️ แล้วแต่รุ่น | ถ้าไม่ใช่ Dual Voltage (100–240V) ควรใช้หม้อแปลง หรือยืมของโรงแรม |
กาต้มน้ำ / หม้อหุงไฟฟ้า | ❌ ไม่แนะนำ | ใช้กำลังไฟสูง เสี่ยงไฟเกิน ควรใช้ของที่พักปลอดภัยกว่า |
💡 เคล็ดลับ:
- มองหาข้อความ “100–240V 50/60Hz” ที่อะแดปเตอร์ — ถ้ามี ใช้ที่ฮ่องกงได้แน่นอน
- อุปกรณ์ที่ใช้กำลังไฟสูง (เช่น ไดร์เป่าผมหรือที่หนีบผม) ควรตรวจสอบวัตต์ก่อนใช้งาน
- โรงแรมในฮ่องกงส่วนมากมีปลั๊กแปลงหรือไดร์ให้บริการ ไม่ต้องพกไปให้หนักกระเป๋าค่ะ
พิกัดชาร์จแบตง่าย ๆ ในฮ่องกง

หมดห่วงเรื่องแบตหมดกลางทาง เพราะฮ่องกงเป็นเมืองที่ “ชาร์จแบตได้แทบทุกที่” ไม่ว่าจะเดินเล่น ช้อป หรือรอขึ้นเครื่อง ก็มีจุดให้เติมพลังทั้งคุณและมือถือแน่นอน
1. คาเฟ่และร้านกาแฟ
ฮ่องกงมีวัฒนธรรมคาเฟ่ที่คึกคักสุด ๆ ร้านส่วนใหญ่มีทั้ง Wi-Fi ฟรีและปลั๊กไฟให้บริการ บางร้านยังมีโต๊ะติดพอร์ต USB ด้วย เหมาะกับคนที่อยากพักชิลล์ระหว่างเดินเที่ยว เช่นย่าน Central, Tsim Sha Tsui หรือ Mong Kok ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่ดีไซน์เก๋ให้เลือกเพียบ
💡 เคล็ดลับ: พกหัวแปลงปลั๊ก Type G ติดตัวไว้ เพราะปลั๊กในร้านมักเป็นแบบเดียวกับที่พักและสนามบิน
2. ห้างสรรพสินค้าใหญ่
ห้างดังในฮ่องกงอย่าง Harbour City, IFC Mall, Times Square มี โซนชาร์จฟรีและที่นั่งพัก พร้อมพอร์ตไฟหลายแบบให้เลือก แถมบางแห่งยังมี โต๊ะชาร์จไร้สาย อีกด้วย สะดวกทั้งตอนพักจากการช้อปหรือรอเพื่อน
3. สนามบินนานาชาติฮ่องกง
สนามบิน Hong Kong International Airport ถือเป็นสวรรค์ของนักเดินทางที่ต้องการชาร์จอุปกรณ์ก่อนหรือหลังเที่ยว จุดชาร์จมีอยู่แทบทุกเกต ทั้งแบบปลั๊กมาตรฐานสากลและพอร์ต USB รวมถึง ห้องรับรอง (Lounge) ที่มีพื้นที่ชาร์จส่วนตัวพร้อมโต๊ะทำงาน
รวมข้อมูลปลั๊กไฟและแรงดันไฟของประเทศอื่น ๆ

สำหรับใครที่มีแพลนเดินทางต่อจากฮ่องกงไปประเทศอื่น ๆ เราได้รวบรวมข้อมูล รูปแบบปลั๊กไฟและแรงดันไฟฟ้ามาตรฐานของแต่ละประเทศ ไว้ให้แล้ว เพื่อให้คุณเตรียมหัวแปลงปลั๊กได้ถูกต้องตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง
เอเชีย
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
ไทย | 50 | 220 | A,B,B3,BF,C |
เกาหลีใต้ | 60 | 110/220 | A, C, SE |
จีน | 50 | 110/220 | A, B, B3, BF, C, O, SE |
ไต้หวัน | 50 | 110 | A,O, C |
ฮ่องกง | 50 | 220 | BF |
อินเดีย | 50 | 115/230/240 | B, B3, BF, C, SE |
เวียดนาม | 50 | 220 | A,C,SE,BF |
อินโดนีเซีย | 50 | 127/220/230 | A, B, B3, BF, C |
สิงคโปร์ | 50 | 220/240 | BF |
ฟิลิปปินส์ | 60 | 230/240 | A, B, B3, C, O |
มาเลเซีย | 50 | 240 | B, B3, BF, C |
โอเชียเนีย
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
ออสเตรเลีย | 50 | 240/250 | O |
นิวซีแลนด์ | 50 | 230/240 | O |
ฟิจิ | 50 | 120/240 | A, B, C, O |
อเมริกาเหนือ / อเมริกาใต้
ประเทศในภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าแรงดันต่ำกว่าเอเชียและยุโรป (ประมาณ 110–120 โวลต์) รวมถึงใช้ปลั๊กคนละแบบกับไทย ดังนั้นหากคุณมีแผนเดินทางไปโซนนี้ อย่าลืมเตรียมหม้อแปลงไฟฟ้าและหัวแปลงปลั๊กให้พร้อมก่อนออกเดินทางนะคะ
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
อเมริกา | 60 | 120 | A |
แคนาดา | 60 | 120/240 | A, BF |
อาร์เจนตินา | 50 | 220 | BF, C, O, SE |
โคลัมเบีย | 60 | 120/150 | A |
ชิลี | 50 | 220 | B3, BF, C, SE |
บราซิล | 60 | 127/220 | A, C |
เวเนซุเอลา | 60 | 120 | A |
เปรู | 60 | 220 | A, C, SE |
เม็กซิโก | 60 | 120/127/230 | A, C, SE |
ยุโรป
ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าแรงดัน 230 โวลต์ ซึ่งสูงกว่าไทยเล็กน้อย และใช้ปลั๊กคนละรูปแบบกัน ดังนั้นหากมีแผนเดินทางไปยุโรป อย่าลืมเตรียมหัวแปลงปลั๊กและหม้อแปลงไฟฟ้าที่รองรับแรงดันสูงไว้ด้วย เพื่อให้ใช้อุปกรณ์ได้อย่างปลอดภัยตลอดทริปค่ะ
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
สหราชอาณาจักร | 50 | 230/240 | B, B3, BF, C |
ไอซ์แลนด์ | 50 | 230 | B, C, SE |
อิตาลี | 50 | 125/220 | A, C, SE |
ออสเตรีย | 50 | 230 | B3, BF, C, O, SE |
เนเธอร์แลนด์ | 50 | 230 | B, C, SE |
กรีซ | 50 | 230 | B, B3, C, SE |
สวิตเซอร์แลนด์ | 50 | 230 | A, B, C, SE |
สวีเดน | 50 | 230 | B, C, SE |
สเปน | 50 | 127/220 | A, C, SE |
เดนมาร์ก | 50 | 230 | C |
เยอรมนี | 50 | 127/230 | A, C, SE |
นอร์เวย์ | 50 | 230 | C, SE |
ฮังการี | 50 | 220 | C |
ฟินแลนด์ | 50 | 120/230 | A, B, C, SE |
ฝรั่งเศส | 50 | 127/230 | A, C, O, SE |
บัลแกเรีย | 50 | 110/220 | A, C, SE |
เบลเยียม | 50 | 127/230 | A, B, C, SE |
โปรตุเกส | 50 | 230 | B, B3, BF, C, SE |
รัสเซีย | 50 | 127/220 | A, B, C, SE |
แอฟริกา
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
แอลจีเรีย | 50 | 127/220 | A, BF, C |
อียิปต์ | 50 | 220 | B3, BF, C |
เอธิโอเปีย | 50 | 220 | C |
เคนยา | 50 | 240 | B, B3, BF, C |
ซาอีร์ | 50 | 220 | C |
แทนซาเนีย | 50 | 230 | B3, BF |
ไนจีเรีย | 50 | 230 | B, BF, C |
แอฟริกาใต้ | 50 | 220/230/250 | B, B3, BF, C |
อ้างอิง: https://www.apple.com/
ก่อนแพ็กกระเป๋าอย่าลืมเช็ก “ปลั๊กไฟ” กันด้วยนะ! เพราะที่ฮ่องกงใช้ปลั๊กแบบ Type G (BS 1363) สามขาเหลี่ยม มาตรฐานเดียวกับอังกฤษ ส่วนไฟฟ้าอยู่ที่ 220–240 โวลต์ / 50 เฮิรตซ์ ซึ่งใกล้เคียงกับของไทยมาก อุปกรณ์ส่วนใหญ่ใช้ได้เลยไม่ต้องพกหม้อแปลงให้หนักกระเป๋า
แค่มีหัวแปลงปลั๊ก Type G ติดตัวสักอัน ก็ชาร์จมือถือ กล้อง หรือแล็ปท็อปได้ทุกที่ เที่ยวได้ไม่สะดุดแน่นอน เตรียมให้พร้อม แล้วไปสนุกกับแสงสีของฮ่องกงกันได้เลย!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปลั๊กไฟฮ่องกง
ฮ่องกงใช้ปลั๊กไฟแบบไหน?
ฮ่องกงใช้ปลั๊กไฟ Type G (BS 1363) แบบสามขาเหลี่ยม มาตรฐานเดียวกับสหราชอาณาจักร ซึ่งต่างจากปลั๊กแบนหรือกลมที่เราใช้กันในไทย ดังนั้นควรพกหัวแปลงปลั๊กไปด้วยทุกครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทย ใช้ที่ฮ่องกงได้ไหม?
ส่วนใหญ่ใช้ได้ค่ะ เพราะแรงดันไฟฟ้าฮ่องกงอยู่ที่ 220–240V / 50Hz ใกล้เคียงกับไทย อุปกรณ์อย่างโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป หรือกล้องที่รองรับ 100–240V สามารถชาร์จได้โดยตรง แต่ควรมีหัวแปลงปลั๊ก Type Gต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้าในฮ่องกงไหม?
โดยทั่วไปไม่จำเป็นค่ะ ยกเว้นอุปกรณ์บางชนิด เช่น ไดร์เป่าผมหรือที่หนีบผมรุ่นเก่าที่ไม่รองรับ 220V หากอุปกรณ์ของคุณระบุ “100–240V” แสดงว่าสามารถใช้ได้เลยโดยไม่ต้องมีหม้อแปลงหัวแปลงปลั๊กแบบไหนเหมาะกับฮ่องกงที่สุด?
หัวแปลงปลั๊ก Type G เฉพาะประเทศ ก็เพียงพอสำหรับทริปสั้น ๆ แต่ถ้าคุณเดินทางต่างประเทศบ่อย แนะนำให้ใช้หัวแปลงแบบ Universal ที่รวมหลายหัวในอันเดียว รองรับทั้ง Type A, C, G และอื่น ๆซื้อหัวแปลงปลั๊กสำหรับฮ่องกงได้ที่ไหน?
สามารถหาซื้อได้ง่ายทั้งในไทยและฮ่องกงค่ะ เช่น ร้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สนามบิน ห้างสรรพสินค้า หรือช่องทางออนไลน์ หากลืมพกไป โรงแรมในฮ่องกงหลายแห่งก็มีให้ยืมหรือจำหน่ายในราคาย่อมเยา





