เช็กสภาพอากาศฮ่องกง เที่ยวสนุกทุกฤดูกาล

เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก เพราะฮ่องกง (Hong Kong) คือเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งในแง่วัฒนธรรม อาหาร ช้อปปิ้ง และทิวทัศน์ที่สวยงาม แถมยังโดดเด่นในเรื่องของสายมู ที่ใครได้ไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และไปรับพลังจากฮวงจุ้ยที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในโลก กลับมาคือปังกันทุกคน แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้การท่องเที่ยวในฮ่องกงเป็นไปอย่างราบรื่นคือ การเข้าใจสภาพอากาศของฮ่องกงในแต่ละช่วงเวลา เพื่อช่วยให้เพื่อนๆ ได้วางแผนทริปได้อย่างมืออาชีพ Trip.com จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับลักษณะอากาศในแต่ละฤดู อุณหภูมิเฉลี่ย ปริมาณน้ำฝน พร้อมเปรียบเทียบกับกรุงเทพฯ และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักน่าสนใจ เพื่อให้ทริปนี้ไม่พลาดความสนุกอย่างแน่นอน

ข้อมูลสภาพอากาศของฮ่องกง

ก่อนอื่นต้องรู้ว่าสภาพภูมิประเทศของประเทศฮ่องกงซะก่อน โดยประเทศฮ่องกงตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน ใกล้กับทะเลจีนใต้ ส่งผลให้อากาศที่นี่มีลักษณะกึ่งร้อนชื้นแบบมรสุม (Subtropical Monsoon Climate) ซึ่งมีฤดูร้อนที่อากาศร้อนและชื้นมาก ส่วนฤดูหนาวที่เย็นสบายกว่าประเทศไทย แถมยังฤดูฝนที่ชัดเจนในช่วงกรกฎาคม - กันยายน และอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี อยู่ที่ 16°C - 32°C มีฝนตกมากในช่วงพฤษภาคมถึงกันยายน และช่วงธันวาคม - กุมภาพันธ์ มีอากาศที่เย็นสบาย เหมาะกับการท่องเที่ยวที่สุด

ลักษณะอากาศของฮ่องกง

1. ในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม

ในช่วงนี้ฮ่องกงจะมีสภาพอากาศและอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 17°C - 22°C อากาศก็จะเริ่มอุ่นขึ้นหลังจากฤดูหนาว และมีความชื้นเริ่มเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่สูงจนรู้สึกไม่สบายตัว โดยในแต่ละเดือนจะมีสภาพอากาศดังนี้ ในเดือนมีนาคม อากาศจะเย็นสบาย คล้ายกับภาคเหนือของไทยตอนช่วงปลายฝนต้นหนาว และในเดือนเมษายน อากาศจะเริ่มรู้สึกร้อนชื้นบ้างบางวัน และในเดือนพฤษภาคม ก็จะเริ่มมีฝนเริ่มตกบ่อย อุณหภูมิสูงขึ้นจนถึง 27°C เลยทีเดียว

2. ในช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม

สภาพอากาศในฮ่องกงช่วงนี้จะมีอากาศร้อนจัดและอากาศชื้นมาก และมีอุณหภูมิสูงถึง 32°C และในช่วงนี้อาจมีฝนตกหนักจากอิทธิพลของมรสุมและพายุ และอาจจะมีฝนตกแทบทุกสัปดาห์ บวกกับอากาศร้อน นั่นจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวและเหนียวเหนอะหนะ โดยเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด

3. ในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน

ในช่วงนี้อากาศจะเย็นลงจากฤดูร้อน และเป็นหนึ่งในช่วงที่อากาศดีที่สุดของปี ซึ่งมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 24°C - 28°C โดยในเดือนกันยายน ยังจะมีฝนตกประปราย ถัดมาเดือนตุลาคม ในช่วงนี้ฝนเริ่มไม่ตกแล้ว และอากาศก็เริ่มแห้งและเย็นลง ส่วนเดือนพฤศจิกายน อากาศดีขึ้นคล้ายฤดูหนาวเบาๆ คล้ายกับภาคเหนือของไทยเลย ซึ่งช่วงเวลานี้เหมาะกับการเที่ยว เช่น วิคตอเรียพีค หรือเดินเล่นตามริมทะเล

4. ในช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์

อากาศของฮ่องกงในช่วงนี้จะอยู่ที่ประมาณ 12°C - 18°C โดยจะมีอากาศที่เย็นสบายแต่ไม่ถึงกับหนาวจัด ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดและเหมาะแก่การมาท่องเที่ยว โดยในเดือนธันวาคม จะมีอากาศแห้ง เย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเที่ยว และในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ จะมีอากาศเย็นที่สุดของปี โดยเฉพาะช่วงตรุษจีน นักท่องเที่ยวจะมาที่นี่กันเยอะมาก

อุณหภูมิเฉลี่ยของฮ่องกง

เปรียบเทียบอุณหภูมิในแต่ละเดือนของฮ่องกงกับกรุงเทพฯ

ปริมาณน้ำฝนของฮ่องกง

ในส่วนของประมาณน้ำฝนก็เป็นสิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง โดยนักท่องเที่ยวอาจจะเลี่ยงการท่องเที่ยวในช่วงที่ฝนตก แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ถือว่าได้เตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยฮ่องกงมีฝนตกมากในช่วงกลางปี โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ซึ่งปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 2,400 มม. เลยทีเดียว

เปรียบเทียบปริมาณน้ำฝนในแต่ละเดือนในฮ่องกงกับกรุงเทพฯ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทางไปฮ่องกง

- สำหรับภาษาที่ใช้ในฮ่องกง ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง และสำหรับนักท่องเที่ยว ประเทศนี้ก็สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน หมดกังวลเรื่องการพูดได้แน่นอน

- สำหรับสกุลเงินจะเป็นดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) โดย 1 HKD ประมาณ 4.5 บาท สามารถใช้เงินสดและบัตรเครดิตในการใช้จ่ายได้เลย

- พวกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีความแตกต่างกับประเทศไทย โดยที่ฮ่องกงจะใช้ปลั๊กไฟแบบ UK ที่มี 3 ขา เตรียมหัวปลั๊กสำหรับแปลงไฟมาให้พร้อม

- ในการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ที่ฮ่องกงจะใช้บัตร Octopus ซึ่งสะดวกและรองรับกับทุกระบบขนส่งสาธารณะในประเทศฮ่องกง

- ความปลอดภัยของประเทศฮ่องกง ในหลายพื้นที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ

แนะนำที่พักในฮ่องกง

- The Hari Hong Kong (ย่าน Wan Chai)

โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว สไตล์บูติกโมเดิร์น ที่โดดเด่นในด้านการออกแบบและบริการระดับพรีเมียม ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ Wan Chai ใกล้กับ Causeway Bay และห่างจากสถานี MTR Wan Chai ประมาณ 5 นาที อีกทั้งยังใกล้แหล่งช้อปปิ้ง Times Square และ Hysan Place อีกด้วย

- Hotel ICON (ย่าน Tsim Sha Tsui)

เป็นโรงแรมหรูที่บริหารโดยสถาบันการศึกษา ในสาขาวิชาการโรงแรมของฮ่องกง ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดัง ตั้งอยู่ย่าน Tsim Sha Tsui East ซึ่งโรงแรมนี้เป็นแบบ Eco-Friendly อีกทั้งยังสามารถเดินไปสถานี MTR Hung Hom ประมาณ 8 นาที มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังเห็นวิวท่าเรือสุดอลังการจากห้องพัก แถมยังมีศิลปะร่วมสมัยจัดแสดงทั่วโรงแรม

- YHA Mei Ho House Youth Hostel (ย่าน Sham Shui Po)

เป็นโฮสเทลราคาประหยัดในอาคารเก่าที่เคยเป็นแฟลตสาธารณะในยุคอาณานิคม บูรณะใหม่และเปิดให้บริการภายใต้เครือ Youth Hostel Association อีกทั้งยังสามารถเดินไปสถานี MTR Sham Shui Po ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น แถมทำเลสะดวก ใกล้ตลาดท้องถิ่นและร้านอาหารมิชลินราคาถูก ซึ่งราคาประหยัดมากเมื่อเทียบกับทำเลและคุณภาพ ที่สำคัญได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชีวิตชาวฮ่องกงผ่านห้องจัดแสดงอีกด้วย

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในฮ่องกง

- Victoria Peak (เดอะพีค)

เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของฮ่องกง พร้อมสามารถมองวิวได้แบบ 360 องศาของตึกระฟ้าและอ่าววิกตอเรีย ซึ่งมีความสูงประมาณ 552 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถเดินทางด้วยรถราง Peak Tram (ขึ้นจาก Garden Road Terminus) หรือรถเมล์สาย 15 จาก Central สำหรับกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวควรมาทำที่นี่ คือ ชมวิวตอนพระอาทิตย์ตก มาแวะทานอาหารที่ร้าน “Wildfire” หรือ “Bubba Gump Shrimp Co.” หรือจะเดินเล่นบน Peak Circle Walk ที่เป็นเส้นทางรอบเขาได้อีกด้วย

- Ngong Ping 360 & Tian Tan Buddha (พระใหญ่โปหลิน)

จุดสักการะศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขา พร้อมวิวธรรมชาติที่เงียบสงบบนเกาะลันเตา สามารถนั่ง MTR ไปลงสถานี Tung Chung แล้วขึ้นกระเช้า Ngong Ping 360 ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ Tian Tan Buddha เป็นพระใหญ่สำริด สูง 34 เมตร และมาไหว้สักการะวัดโปหลิน ที่เป็นจุดศูนย์กลางพุทธศาสนาในฮ่องกง ทั้งนี้ทั้งนั้นแนะนำให้มาช่วงฤดูหนาว วิวจะชัดมาก และอากาศช่วงธันวาคมก็เย็นกำลังดี

- Temple Street Night Market (ถนนแม่มด)

ตลาดกลางคืนยอดนิยมที่เต็มไปด้วยไวบ์แบบฮ่องกงแท้ ๆ ทั้งของกิน เสื้อผ้า และบรรยากาศสตรีทไลฟ์ เวลาเปิดปิด 16:00 – 00:00 ทุกวัน เดินทางง่ายโดยมาลง MTR ที่สถานี Jordan หรือ Yau Ma Tei และเดินต่อประมาณ 5 นาที เพื่อนๆ สามารถมาแวะชิมสตรีทฟู้ดอย่าง บะหมี่เกี๊ยวหรือปลาหมึกย่าง อร่อยมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีซินแสดูดวงหรือดูกราฟชีวิตได้ด้วยนะ ข้อแนะนำสำหรับใครที่จะมาที่นี่ให้เตรียมเงินสดมาด้วย เพราะหลายร้านไม่รับบัตรเครดิต

เที่ยวบินราคาประหยัดจากไทยไปฮ่องกง

การเดินทางจากไทยไปฮ่องกงนั้นสะดวกมาก มีเที่ยวบินตรงทุกวันจากทั้งสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 45 นาที ซึ่งสายการบินก็มีให้เลือกหลากหลาย ตัวอย่างเช่น AirAsia มีไฟลท์เช้าบ่อย สะดวกสบาย เหมาะสำหรับใครที่อยากเที่ยวทันที หรือ HK Express ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เป็นสายการบินของฮ่องกง ราคาดี มีช่วงโปรโมชั่นบ่อย อีกตัวเลือกคือ Thai VietJet เป็นสายการบินที่สะดวกสบายสายการบินหนึ่งเลยทีเดียว เพราะมีบินตรงจากสุวรรณภูมิ ราคาประหยัด และสำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจองตั๋วเครื่องบิน สามารถจอง Trip.com ได้เลย เพราะที่นี่รวบรวมเอาสายการบินที่หลากหลายทั้งในด้านของเที่ยวบิน ราคา คลาสในการบิน เพื่อนๆ สามารถเลือกได้ตามใจ เหมาะกับที่วางแผนไว้ อีกทั้งยิ่งจองล่วงหน้าอาจจะได้ราคาดี มีโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมาย