จากฮ่องกงไปเซินเจิ้นเดินทางยังไง รีวิว 5 วิธีการเดินทางครบ 2568

การเดินทางจากฮ่องกงไปเซินเจิ้น เป็นอีกหนึ่งเส้นทางยอดฮิตที่คนไทยนิยมมากในปีนี้ เพราะเดินทางใกล้แค่ข้ามแดนไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงเมืองใหญ่ฝั่งจีนที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งเทคโนโลยี แหล่งช็อปปิ้ง และอาหารอร่อยให้เปิดโลกมากมาย เซินเจิ้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมของจีนและยังเป็นสวรรค์ของนักช็อปที่ชอบของดีราคาน่ารัก ตั้งแต่สินค้าแฟชั่นไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ใครที่อยู่ฮ่องกงแล้วมีเวลาเหลือสักหนึ่งวัน การข้ามฝั่งไปเที่ยวเซินเจิ้นถือว่าคุ้มสุดๆ เพราะได้สัมผัสกลิ่นอายของจีนแผ่นดินใหญ่โดยไม่ต้องบินไกล Trip.com ขอมาแชร์การเดินทางในปี 2568 นี้ที่สะดวกกว่าที่เคย ทั้งรถไฟ MTR รถไฟความเร็วสูง และรถบัสข้ามพรมแดนที่มีให้เลือกตามงบและเวลา ครบจบในบทความนี้!

ทำไมต้องเดินทางจากฮ่องกงไปเซินเจิ้น?

แม้ฮ่องกงจะเป็นเมืองที่มีครบทุกอย่าง ทั้งช็อปปิ้ง อาหาร และแลนด์มาร์กระดับโลก แต่เหตุผลที่หลายคนเลือกข้ามฝั่งไปเที่ยว เซินเจิ้นก็เพราะเมืองนี้มีเสน่ห์ที่ต่างออกไป เป็นเมืองที่ผสมระหว่างจีนดั้งเดิมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยได้อย่างลงตัว และอยู่ใกล้แค่ข้ามฝั่งเท่านั้น

สวรรค์แห่งการช็อปปิ้งของจริง

ที่นี่คือแหล่งรวมของทุกอย่าง ตั้งแต่สินค้าแฟชั่นราคาถูกไปจนถึงของแบรนด์แท้ ตลาดยอดฮิตคือ Luohu Commercial City ใกล้ด่าน Lo Wu ที่เต็มไปด้วยกระเป๋า รองเท้า นาฬิกา และของฝากหลากหลาย ส่วนสายเทคโนโลยีต้องไม่พลาด Huaqiangbei Electronics Market ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เมืองเทคโนโลยีอันดับต้นของจีน

เซินเจิ้นเป็นบ้านเกิดของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Huawei, DJI และ Tencent ใครที่ชอบนวัตกรรมใหม่ๆ จะได้เห็นอุปกรณ์ล้ำๆ ก่อนวางขายที่อื่น

อาหารอร่อยและราคาน่ารักกว่าในฮ่องกง

อาหารจีนแท้รสเข้มข้นมีให้เลือกทุกย่าน ตั้งแต่ร้านติ่มซำชื่อดังจนถึงหม้อไฟแบบเสฉวนในราคาย่อมเยา

ที่เที่ยวครบทุกสไตล์

ชอบเที่ยวแนวครอบครัวแนะนำ Window of the World, ชอบเดินเล่นถ่ายรูปต้องไป OCT Harbour, หรือถ้าอยากช็อปต่อเนื่องก็มี COCO Park ห้างใหญ่ใจกลางเมือง

เดินทางสะดวก ใกล้แค่ข้ามแดน

จากฮ่องกงสามารถไปเซินเจิ้นได้ทั้งทางรถไฟ MTR, รถไฟความเร็วสูง หรือรถบัส ใช้เวลาแค่ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

ค่าใช้จ่ายคุ้มค่า

ที่พักและอาหารในเซินเจิ้นราคาย่อมเยากว่าฮ่องกงพอสมควร เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากประหยัดแต่ยังได้ความสะดวกครบ

เช็กลิสต์! เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทางข้ามแดน

สิ่งที่ควรทำอันดับแรกก่อนจะข้ามจากฮ่องกงไปเซินเจิ้นก็คือเตรียมตัวให้พร้อม เพราะถึงแม้จะเป็นแค่เส้นทางสั้นๆ แต่ก็มีรายละเอียดเยอะกว่าการเดินทางในประเทศทั่วไป ทั้งเรื่องเอกสาร วีซ่า เงินตรา และระบบชำระเงินในจีนที่เปลี่ยนไปมากในยุคดิจิทัล

1. พาสปอร์ตและวีซ่า

• นักท่องเที่ยวไทย ต้องมีพาสปอร์ตที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน ก่อนวันเดินทาง
• ปัจจุบันคนไทยสามารถยื่นขอ Shenzhen Visa on Arrival ได้ที่ด่าน Lo Wu, Huanggang และ Shekou Port สำหรับเข้าพักในเซินเจิ้นไม่เกิน 5 วัน
• หากวางแผนอยู่หลายเมืองในจีน แนะนำให้ทำ วีซ่าท่องเที่ยวจีน (L-Visa) จากประเทศไทยล่วงหน้า เพราะจะสะดวกกว่า

2. การแลกเงิน

• ฮ่องกงดอลลาร์ (HKD) และ หยวนจีน (CNY) เป็นสกุลเงินหลักของแต่ละฝั่ง
• ในฝั่งเซินเจิ้นส่วนใหญ่รับเฉพาะ CNY เท่านั้น
• จุดแลกเงินที่คุ้มที่สุดคือร้านแลกเงินในย่าน Mong Kok หรือ Tsim Sha Tsui, ธนาคารใกล้ด่าน Lo Wu, ตู้แลกเงินอัตโนมัติ (บางจุดรับบัตร Visa/MasterCard)
• ควรหลีกเลี่ยงการแลกเงินที่ด่าน เพราะอัตราแลกเปลี่ยนมักสูงกว่าปกติ

3. อินเทอร์เน็ตและซิมการ์ด

อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งจำเป็นสุดๆ เพราะในจีนหลายเว็บไซต์ถูกบล็อก เช่น Google, Facebook, YouTube ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้งานได้หลายแบบ

• Pocket WiFi เหมาะกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว แชร์ได้หลายเครื่อง
• ซิมจีน (China Unicom / China Mobile) ราคาย่อมเยา ใช้ได้ทั่วประเทศ แต่ควรซื้อจากตัวแทนถูกกฎหมาย
• โรมมิ่ง (Roaming) สะดวกสำหรับคนที่ใช้เบอร์หลักจากไทย ไม่ต้องเปลี่ยนซิม แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า
• VPN (Virtual Private Network) ถ้าจำเป็นต้องใช้บริการของ Google หรือโซเชียลตะวันตก แนะนำติดตั้ง VPN ที่ปลอดภัยไว้ล่วงหน้า

4. แอปพลิเคชันที่ควรมีติดเครื่อง

ระบบการชำระเงินในจีนส่วนใหญ่เป็นแบบไร้เงินสด 100% ดังนั้นควรเตรียมแอปฯ ต่อไปนี้ให้พร้อม

• WeChat ใช้ได้ทั้งแชต จ่ายเงิน และเรียกรถแท็กซี่
• Alipay เป็นแอปฯ ที่คนจีนส่วนใหญ่ใช้จ่ายแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ร้านอาหารไปจนถึงรถไฟ
• DiDi เป็นแอปฯ เรียกรถยอดนิยมในจีน คล้าย Grab ใช้งานง่ายและปลอดภัย
• Trip.com ใช้จองตั๋วรถไฟและกิจกรรมต่างๆ ในจีนได้สะดวก

เปรียบเทียบวิธีการเดินทางจากฮ่องกงไปเซินเจิ้น

การเดินทางสะดวกกว่าที่เคยเพราะมีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งรถไฟ MTR, รถไฟความเร็วสูง, รถบัสข้ามพรมแดน, เรือเฟอร์รี่ และบริการรถเช่าเหมาคัน เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกแบบ ทั้งสายเร่งรีบ สายชิลล์ หรือสายประหยัดงบ แถมระบบตรวจคนเข้าเมืองที่แต่ละด่านก็ทำงานรวดเร็วขึ้น ทำให้การข้ามแดนใช้เวลาไม่นาน

วิธีที่ 1 : เดินทางจากฮ่องกงไปเสิ่นเจิ้นด้วยรถไฟ MTR

เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดคือการนั่ง รถไฟ MTR สาย East Rail Line ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างใจกลางเมืองฮ่องกงกับชายแดนจีนแผ่นดินใหญ่ ใช้เวลาเดินทางเพียงราว 45 - 60 นาทีเท่านั้น

1. เส้นทางและสถานีที่ต้องใช้

Tsim Sha Tsui / Mong Kok / Kowloon Tong  และต่อรถไฟสาย East Rail Line มุ่งหน้าไปยังด่านชายแดน

• ปลายทางที่สามารถเลือกได้มี 2 จุดคือ
• Lo Wu Station (เชื่อมต่อกับด่าน Luohu) เป็นเส้นทางยอดนิยมที่เข้าสู่ใจกลางเมืองเสิ่นเจิ้นโดยตรง ใกล้ย่าน Luohu Commercial City
• Lok Ma Chau Station (เชื่อมต่อกับด่าน Futian Port) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปยังย่านธุรกิจสมัยใหม่ เช่น Futian CBD หรือ Coco Park

2. ค่าโดยสารและระยะเวลาการเดินทาง

• เส้นทาง Tsim Sha Tsui ไปยัง Lo Wu ประมาณ HKD 45 - 50 (ประมาณ 210 - 230 บาท) ใช้เวลาประมาณ 55 นาที
• เส้นทาง Tsim Sha Tsui ไปยัง Lok Ma Chau ประมาณ HKD 47 - 52 (ประมาณ 220 - 240 บาท) ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง

สามารถชำระค่าโดยสารด้วยบัตร Octopus Card หรือซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวได้ที่เครื่องจำหน่ายอัตโนมัติในสถานี

3. ขั้นตอนการข้ามแดน

• เดินทางถึงสถานีปลายทาง (Lo Wu หรือ Lok Ma Chau) แล้วเดินตามป้าย Mainland China
• ผ่านด่านตรวจคนออกนอกประเทศฝั่งฮ่องกง (HK Immigration) โดยสแกนบัตรโดยสารและแสดงหนังสือเดินทาง
• เดินข้ามสะพานข้ามพรมแดน (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) ไปยังฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่
• ตรวจเอกสารเข้าประเทศจีน (China Immigration) แสดงพาสปอร์ต วีซ่าจีน หรือเอกสาร e-Visa (ถ้ามี)
• หลังผ่านด่านเรียบร้อย จะเข้าสู่สถานีรถไฟใต้ดิน Shenzhen Metro (Luohu หรือ Futian Port Station) ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบขนส่งในเมืองเสิ่นเจิ้นทันที

4. ข้อดี

• สะดวกที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่พักในย่านเกาลูนหรือฮ่องกงตอนเหนือ
• เชื่อมต่อระบบขนส่งทั้งสองฝั่ง seamlessly (MTR - Shenzhen Metro)
• ขบวนรถไฟออกถี่ ทุก 5 - 10 นาที
• เหมาะสำหรับนักเดินทางทั้งท่องเที่ยวและติดต่อธุรกิจ

5. ข้อเสีย

• มีผู้โดยสารจำนวนมากในช่วงเช้าและเย็น โดยเฉพาะที่ด่าน Lo Wu
• ต้องเตรียมเอกสารเข้าเมืองจีนให้พร้อม (เช่น วีซ่าจีน หรือ e-Visa)
• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสัมภาระมาก เพราะต้องเดินไกลและผ่านหลายจุดตรวจ

วิธีที่ 2 : รถไฟความเร็วสูง

หากต้องการเดินทางอย่างรวดเร็วและสะดวกที่สุดจากใจกลางเมือง รถไฟความเร็วสูงคือวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุด ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง ประมาณ 15 - 20 นาที เท่านั้น!

รถไฟขบวนนี้เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่าง สถานี West Kowloon (ฮ่องกง) กับเมืองสำคัญในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะ Futian Station และ Shenzhen North Station ซึ่งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของเสิ่นเจิ้น

1. สถานีต้นทางและปลายทาง

สถานีต้นทาง

West Kowloon Station ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเกาลูน ติดกับห้าง Elements และสถานี MTR Kowloon

สถานีปลายทางหลัก

• Futian Station ใช้เวลาเดินทางเพียง 14 นาที จากฮ่องกง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเข้าย่านธุรกิจ Futian CBD หรือ Coco Park
• Shenzhen North Station ใช้เวลาประมาณ 23 นาที เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดินหลายสาย เหมาะสำหรับต่อรถไปย่าน Longhua, Nanshan หรือ Bao’an

2. วิธีซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูง

• จองออนไลน์ล่วงหน้า ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MTR, Trip.com หรือแอป 12306 (ของจีน)
• ซื้อที่สถานี West Kowloon โดยตรง มีตู้จำหน่ายอัตโนมัติและเคาน์เตอร์ขายตั๋วพร้อมเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษ
• เอกสารที่ต้องใช้ได้แก่ หนังสือเดินทาง (Passport) สำหรับยืนยันตัวตนตอนรับตั๋วและผ่านตม.

ราคาตั๋วโดยประมาณ

• West Kowloon ไป Futian ประมาณ HKD 90 - 110 (ประมาณ 430 - 520 บาท)
• West Kowloon ไป Shenzhen North ประมาณ HKD 100 - 130 (ประมาณ 470 - 610 บาท)

ราคาขึ้นอยู่กับรอบเวลาและประเภทที่นั่ง (Standard / First Class)

ตารางเวลา

• ขบวนรถไฟออกทุก 15 - 30 นาที ตั้งแต่ประมาณ 07:00 - 22:30 น.
• ควรมาถึงสถานีก่อนเวลาออกเดินทางอย่างน้อย 45 นาที เพื่อผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง

3. ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองที่สถานี West Kowloon

สถานี West Kowloon ถือเป็นสถานีข้ามแดนแบบ One-stop Immigration คือผู้โดยสารสามารถทำการตรวจคนออกจากฮ่องกงและเข้าจีนได้ภายในอาคารเดียวกัน ไม่ต้องลงรถกลางทาง

ขั้นตอนแบบเข้าใจง่าย

• เข้าสถานี West Kowloon และสแกนตั๋วเพื่อเข้าสู่พื้นที่ตรวจคนเข้าเมือง
• ผ่านด่านตรวจออกนอกประเทศของฮ่องกง
• เดินต่อไปยังด่านตรวจเข้าประเทศจีนภายในสถานีเดียวกัน
• หลังจากผ่านตรวจเอกสารเรียบร้อย จึงขึ้นขบวนรถไฟได้ทันที
• เมื่อถึงเสิ่นเจิ้น (Futian หรือ Shenzhen North) สามารถต่อรถไฟใต้ดินภายในสถานีได้เลย

ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที และระบบมีป้ายภาษาอังกฤษชัดเจน จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

4. ข้อดี

• ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 - 20 นาที
• สะดวกมากจากใจกลางเมืองฮ่องกง (เดินทางง่ายจาก Tsim Sha Tsui หรือ Central)
• ระบบตรวจคนเข้าเมืองแบบ One-stop ลดความยุ่งยาก
• ขบวนรถไฟใหม่ ทันสมัย และมี Wi-Fi พร้อมที่นั่งกว้างขวาง
• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางต่อไปเมืองอื่นในจีน เช่น กว่างโจว หรือเซี่ยงไฮ้

5. ข้อเสีย

• ราคาสูงกว่ารถไฟ MTR ปกติ
• ต้องจองตั๋วล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงวันหยุดและเทศกาล
• ขั้นตอนความปลอดภัยเข้มงวด ต้องมาถึงสถานีก่อนเวลาเดินทางพอสมควร
• ไม่มีเที่ยวรถตอนดึก

วิธีที่ 3 : รถบัสข้ามพรมแดน

รถบัสข้ามพรมแดนถือเป็นทางเลือกยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางตรงสู่ใจกลางเมืองเสิ่นเจิ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนขนส่งหลายต่อ เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและนักธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกจุดขึ้นรถ

1. จุดขึ้นรถหลักในฮ่องกง

รถบัสข้ามพรมแดนมีให้บริการจากหลายย่านสำคัญของฮ่องกง และสามารถเลือกปลายทางในเสิ่นเจิ้นได้ตามต้องการ เช่น Futian, Luohu, Nanshan หรือ Shenzhen Bay โดยจุดขึ้นรถยอดนิยมได้แก่

• Mong Kok (มงก๊ก) จุดขึ้นรถที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่พักฝั่งเกาลูน มีหลายบริษัทให้บริการ เช่น Trans-Island Limousine และ Eternal East Bus
• Prince Edward / Jordan อยู่ใกล้สถานี MTR สามารถขึ้นรถตรงไปด่าน Futian Port หรือ Shenzhen Bay Port ได้
• Hong Kong International Airport (สนามบิน) มีรถบัสตรงจากสนามบินไปยังหลายเขตของเสิ่นเจิ้น เหมาะกับผู้โดยสารต่อเครื่องหรือนักธุรกิจที่ต้องเดินทางทันทีหลังลงเครื่อง
• Central / Wan Chai สำหรับผู้ที่พักฝั่งฮ่องกงไอส์แลนด์ สามารถใช้บริการได้จาก Hong Kong-Macau Ferry Terminal หรือ Wan Chai North Bus Terminal

ปลายทางยอดนิยมในฝั่งเสิ่นเจิ้น ได้แก่

• Futian Port
• Shenzhen Bay Port
• Luohu Port
• Nanshan District

2. ค่าโดยสารและบริษัทที่ให้บริการ

ราคาค่าโดยสารขึ้นอยู่กับเส้นทางและบริษัทที่เลือก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ

• จาก Mong Kok / Prince Edward > Futian / Shenzhen Bay ราคาประมาณ 90 - 120 HKD (ประมาณ 420 - 560 บาท)
• จากสนามบินฮ่องกง > Futian / Nanshan ราคาประมาณ 120 - 150 HKD (ประมาณ 560 - 700 บาท)

บริษัทให้บริการหลัก

• Eternal East Cross-Border Coach ให้บริการหลากหลายเส้นทาง มีรอบรถถี่ทุก 30 - 40 นาที
• Trans-Island Limousine Service เน้นบริการระดับพรีเมียม มี Wi-Fi และที่ชาร์จมือถือในรถ
• Chinalink Bus Company มีจุดขึ้นรถหลายแห่งทั่วฮ่องกง และสามารถจองออนไลน์ได้

รอบรถที่ให้บริการ

• รถออกทุก 20 - 40 นาที ตั้งแต่เวลา 06:00 - 22:00 น. ขึ้นอยู่กับเส้นทาง

3. ข้อดี

• ราคาประหยัดกว่ารถไฟความเร็วสูง เหมาะกับนักท่องเที่ยวงบน้อย
• มีจุดขึ้นรถหลายแห่งทั่วฮ่องกง ทั้งในเมืองและสนามบิน
• เดินทางตรงถึงจุดหมายในเสิ่นเจิ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนขนส่งหลายต่อ
• รถบัสสมัยใหม่ ส่วนใหญ่ติดตั้ง แอร์ Wi-Fi และช่องชาร์จ USB
• เหมาะสำหรับนักเดินทางที่มีสัมภาระเยอะ เพราะไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นลงสถานี

4. ข้อเสีย

• ใช้เวลาเดินทางนานกว่ารถไฟ (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและคิวที่ด่าน)
• ต้องลงจากรถเพื่อตรวจพาสปอร์ตทั้งขาออกและขาเข้า
• ไม่เหมาะกับการเดินทางช่วงพีค เช่น วันหยุดยาว เพราะด่านจะหนาแน่นมาก
• เวลารถหมดค่อนข้างเร็ว (ไม่มีรอบดึกเกิน 22.00 น.)

วิธีที่ 4 : เรือเฟอร์รี่

สำหรับนักเดินทางที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศลองใช้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามพรมแดนดู! ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีเดินทางที่ทั้งสะดวก ชมวิวสวย และเหมาะกับคนที่ไม่รีบร้อน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางต่อเครื่องที่สนามบินฮ่องกงหรืออยากพักผ่อนระหว่างการเดินทาง

1. ท่าเรือต้นทางและปลายทางยอดนิยม

ปัจจุบันมีหลายเส้นทางให้เลือกตามจุดขึ้นเรือหลักในฮ่องกง ซึ่งแต่ละท่าเชื่อมต่อโดยตรงกับเมืองท่าหลักในเสิ่นเจิ้น ได้แก่

Hong Kong International Airport - SkyPier (ท่าเรือในสนามบิน)

• เส้นทางยอดนิยมสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางต่อเครื่องโดยไม่ต้องผ่านตม.ฮ่องกง
• ปลายทางอยู่ที่ Shenzhen Fuyong Port (ใกล้สนามบินเสิ่นเจิ้น)
• เหมาะสำหรับนักธุรกิจหรือนักเดินทางต่างชาติที่ต้องการความสะดวกในการเปลี่ยนเมืองโดยไม่เข้าเมืองฮ่องกง

Hong Kong Macau Ferry Terminal (Sheung Wan)

• เดินทางง่ายจากฝั่งเกาะฮ่องกง (ใกล้สถานี MTR Sheung Wan)
• ปลายทางอยู่ที่ Shenzhen Shekou Port ซึ่งอยู่ใกล้ย่าน Nanshan และสถานที่ท่องเที่ยวดัง เช่น Sea World, Shenzhen Bay Park
• เป็นเส้นทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่พักในย่าน Central หรือ Wan Chai

China Ferry Terminal (Tsim Sha Tsui)

• อยู่ใจกลางย่านช้อปปิ้งฝั่งเกาลูน เหมาะกับผู้ที่พักใน Mong Kok หรือ Jordan
• ปลายทางอยู่ที่ Shenzhen Shekou Port เช่นเดียวกัน

2. ราคาและระยะเวลาเดินทาง

Tsim Sha Tsui / Sheung Wan > Shekou Port

• ใช้เวลาเดินทางประมาณ 60 - 75 นาที
• ราคาประมาณ HKD 180 - 220 (850 - 1,050 บาท) ต่อเที่ยว

SkyPier (สนามบินฮ่องกง) > Fuyong Port (สนามบินเสิ่นเจิ้น)

• ใช้เวลาประมาณ 40 - 50 นาที
• ราคาประมาณ HKD 250 - 280 (1,200 - 1,350 บาท) ต่อเที่ยว

3. เหมาะสำหรับใคร?

• ผู้ที่ต้องการเดินทางชิลล์ ชมวิวทะเล แทนการนั่งรถไฟหรือรถบัส
• นักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระมาก เพราะมีพื้นที่เก็บกระเป๋ากว้างและไม่ต้องลากของขึ้นลงบันไดเหมือนสถานีรถไฟ
• ผู้โดยสารที่เดินทางต่อเครื่องผ่านสนามบินฮ่องกงหรือเสิ่นเจิ้น สามารถใช้เส้นทาง SkyPier และ Fuyong Port ได้โดยไม่ต้องผ่านตม.
• คู่รักหรือนักท่องเที่ยวสายถ่ายรูป ที่อยากสัมผัสความโรแมนติกของการเดินทางทางน้ำระหว่างสองเมืองใหญ่

วิธีที่ 5 : รถเช่าเหมา

สำหรับใครที่ต้องการเดินทางแบบเป็นส่วนตัว สะดวก ไม่ต้องขนของขึ้นลงหลายรอบ การใช้บริการรถเช่าเหมาพร้อมคนขับ ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักธุรกิจ ครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและประหยัดเวลาในการข้ามพรมแดน

1. จุดเด่นของรถเช่าเหมา

รถเช่าเหมาจะรับ - ส่งคุณถึงที่ ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม สนามบิน หรือจุดนัดหมายในฮ่องกง แล้วขับตรงเข้าสู่เสิ่นเจิ้นโดยไม่ต้องลงจากรถเพื่อข้ามด่าน ซึ่งต่างจากการเดินทางรูปแบบอื่นที่ต้องลงไปตรวจหนังสือเดินทางด้วยตัวเอง

รถประเภทนี้จะได้รับอนุญาตพิเศษ (Cross-border License) ที่สามารถวิ่งผ่านด่านระหว่างประเทศได้โดยตรง เช่น

• ด่าน Lok Ma Chau - Huanggang Port
• ด่าน Shenzhen Bay Port
• ด่าน Futian Port

ราคาค่าใช้จ่าย

ราคาขึ้นอยู่กับประเภทของรถและเส้นทาง โดยเฉลี่ยอยู่ที่

• Sedan (1 - 3 คน) ประมาณ HKD 800 - 1,200 / เที่ยว (ประมาณ 3,700 - 5,600 บาท)
• MPV หรือ Minivan (4 - 6 คน) ประมาณ HKD 1,200 - 1,800 / เที่ยว (ประมาณ 5,600 - 8,400 บาท)
• Luxury Car (เช่น Tesla, Alphard, Benz) ประมาณ HKD 2,000+ / เที่ยว

ราคานี้รวมบริการคนขับมืออาชีพที่พูดภาษาอังกฤษหรือจีนกลางได้ และมีบริการน้ำดื่ม, Wi-Fi รวมถึงที่ชาร์จมือถือภายในรถและเวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 45 - 60 นาที จากใจกลางฮ่องกงถึงใจกลางเสิ่นเจิ้น (ไม่รวมเวลารถติดช่วงพีค)

วิธีการจอง

• เข้า Trip.com ซึ่งมีตัวเลือกหลากหลาย ตั้งแต่รถมาตรฐานถึงระดับ VIP
• บริษัทท้องถิ่น เช่น Eternal East หรือ GoGoVan  ให้บริการเช่ารถพร้อมคนขับตลอด 24 ชั่วโมง

ขั้นตอนการจอง

• เลือกประเภทของรถและจุดรับ - ส่ง
• กรอกข้อมูลพาสปอร์ตของผู้โดยสาร (เพื่อเตรียมผ่านด่าน)
• ชำระเงินและรับใบยืนยันการจองทางอีเมลหรือแอป
• รอคนขับมารับตามเวลานัดหมาย

การเดินทางภายในเมืองเซินเจิ้น

การเดินทางภายในเมืองนั้นสะดวกและเป็นระบบมาก เมืองนี้มีโครงข่ายขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น รถไฟใต้ดิน, รถแท็กซี่, หรือ แอปพลิเคชันเรียกรถ DiDi ที่ใช้งานง่ายและครอบคลุมทั่วเมือง

1. รู้จัก Shenzhen Metro ระบบขนส่งหลักของเมือง

Shenzhen Metro ถือเป็นวิธีเดินทางยอดนิยมที่สุด เพราะมีเส้นทางครอบคลุมทุกย่านสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Futian, Luohu, Nanshan, Bao’an ไปจนถึงย่านเศรษฐกิจใหม่อย่าง Qianhai และยังเชื่อมต่อโดยตรงกับ ด่านข้ามพรมแดน Lo Wu และ Futian ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปฮ่องกงได้สะดวก

วิธีซื้อตั๋วคือสามารถซื้อตั๋วได้จากเครื่องขายอัตโนมัติที่มีเมนูภาษาอังกฤษ หรือใช้ Shenzhen Metro App / WeChat Pay / Alipay ในการแตะเข้า - ออกสถานีได้ทันที

• ค่าโดยสารเริ่มต้นประมาณ 2 หยวน (ราว 10 บาท) และสูงสุดไม่เกิน 10 หยวน (ประมาณ 50 บาท) ขึ้นอยู่กับระยะทาง
• เวลาทำการโดยทั่วไปให้บริการตั้งแต่ 06.30 - 23.30 น. ของทุกวัน
• ข้อดีคือ รวดเร็ว ปลอดภัย มีป้ายและเสียงประกาศทั้งภาษาจีนและอังกฤษ
• ข้อควรระวังคือ ช่วงเวลาเร่งด่วน (7.30 – 9.30 น. และ 17.30 – 19.30 น.) คนค่อนข้างหนาแน่น ควรหลีกเลี่ยงหากมีกระเป๋าเดินทาง

2. การเรียกรถแท็กซี่ในเซินเจิ้น

แท็กซี่ในเซินเจิ้นมีทั้งแบบรถยนต์ไฟฟ้า (EV Taxi) และแท็กซี่ทั่วไป โดยคิดค่าโดยสารเริ่มต้นที่ประมาณ 13 หยวน (ราว 70 บาท) สำหรับ 3 กิโลเมตรแรก และเพิ่มขึ้นตามระยะทาง

วิธีเรียกแท็กซี่

สามารถโบกได้ตามถนนหลักหรือเรียกผ่านแอปพลิเคชัน DiDi ซึ่งเป็นแอปยอดนิยมในจีน

ข้อดีของ DiDi

• รองรับภาษาอังกฤษในบางเวอร์ชัน
• สามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิต, Alipay หรือ WeChat Pay
• เลือกประเภทของรถได้ เช่น Economy, Comfort, หรือ Premium

ข้อแนะนำ

ควรเปิดแผนที่ในมือถือเพื่อตรวจสอบเส้นทาง เพราะแท็กซี่บางคันอาจไม่พูดภาษาอังกฤษ

แนะนำที่เที่ยว ที่กิน ที่พักสำหรับเที่ยวเซินเจิ้น 1 วัน

แม้เวลาจะจำกัดเพียง 1 วัน แต่คุณก็สามารถสัมผัสเสน่ห์ของ เซินเจิ้น (Shenzhen) เมืองเทคโนโลยีและช็อปปิ้งแห่งนี้ได้ครบทั้ง แหล่งท่องเที่ยว ของกินอร่อย และที่พักสะดวกสบาย

1. สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด

Window of the World

• พาร์คธีมโลกจำลองขนาดใหญ่ ที่รวบรวมแลนด์มาร์กดังจากทั่วโลก เช่น หอไอเฟล, ปิรามิด, ทัชมาฮาล
• เหมาะสำหรับถ่ายรูปและเดินชมสถานที่ต่างๆ ภายในวันเดียว
• ค่าเข้าชมประมาณ 1,000 - 1,250 บาท

Luohu Commercial City

• แหล่งช็อปปิ้งสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่แฟชั่น กระเป๋าแบรนด์เนม ของฝาก ของที่ระลึก
• สามารถต่อรองราคาสินค้าได้ตามความสามารถ
• ตั้งอยู่ติดด่าน Lo Wu ทำให้สะดวกต่อการข้ามกลับฮ่องกง

OCT Loft Creative Culture Park

• ย่านศิลปะและคาเฟ่สุดชิค เหมาะสำหรับคนรักงานศิลปะและถ่ายรูป
• มีร้านกาแฟ คาเฟ่ และนิทรรศการงานศิลป์สลับสับเปลี่ยน

Shenzhen Bay Park

• พื้นที่สวนสาธารณะริมทะเล เหมาะกับการเดินเล่นหรือปั่นจักรยาน
• วิวสะพานฮ่องกง–เสิ่นเจิ้นสวยงามในช่วงพระอาทิตย์ตก

2. ของกินน่าลองในเซินเจิ้น

อาหารท้องถิ่น Cantonese / Shenzhen Street Food

• ขนมปังสไตล์ฮ่องกงและติ่มซำ
• หมูแดงปิ้ง รสชาติกลมกล่อม

ตลาดอาหาร Huaqiangbei / Dongmen

• เหมาะสำหรับลอง อาหารจานด่วนแบบจีน และขนมพื้นเมือง
• มีร้านน้ำผลไม้ปั่นและชานมไข่มุกให้ลิ้มลอง

ร้านอาหารระดับพรีเมียม

• Raffles Shenzhen มีบริการอาหารเช้าและบุฟเฟ่ต์นานาชาติ
• สามารถลองอาหารทะเลหรืออาหารจีนกวางตุ้งแท้ๆ ในโรงแรมหรือร้านใกล้เคียง

แนะนำโซนที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว

Raffles Shenzhen

• โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ Shenzhen Bay
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกและบริการครบวงจร

Shenzhen Velaye Hotel

โรงแรมกลางเมืองราคาเข้าถึงง่าย ตกแต่งสวย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางง่ายไปยัง Luohu Commercial City

The St. Regis Shenzhen Bao'an

• โรงแรมหรู เหมาะกับนักธุรกิจนักท่องเที่ยวที่อยากพักในบรรยากาศสงบแต่หรูหรา
• บริการพรีเมียมครบวงจร พร้อมสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และร้านอาหารระดับสูง