
ญี่ปุ่น หนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย และนอกจากการไปเที่ยวสถานที่ยอดฮิตแล้ว การช้อปปิ้ง duty free ญี่ปุ่น และสินค้า Tax Free ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดเหมือนกัน และในปี 2568 มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำหรับการขอคืนภาษีใหม่ Trip.com ได้อัปเดตข้อมูลสำหคัยมาให้คุณที่นี่ที่เดียว เพื่อให้การเดินทางไปญี่ปุ่นรอบนี้ สนุก คุ้มค่า และไร้กังวล
Duty Free vs. Tax Free ในญี่ปุ่น: เข้าใจง่ายใน 1 นาที

เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางไปญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวมักสับสนระหว่างคำว่า Duty Free กับ Tax Free ว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งๆ ที่ ทั้ง 2 อย่างก็คือการช้อปแบบปลอดภาษีเหมือนกัน ซึ่งสิ่งที่แตกต่างกัน เราได้รวบรวมมาดังนี้
Duty Free: ช้อปปลอดภาษีที่สนามบิน
เป็นสินค้าที่จะมีเฉพาะในสนามบินหลังผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และจะยกเว้นทั้ง ภาษีนำเข้า + VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) เหมาะกับการซื้อสินค้าอย่าง เหล้า บุหรี่ น้ำหอม และสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ซื้อแล้วนำออกประเทศทันที ไม่สามารถใช้ก่อนบินได้
Tax Free: ช้อปในเมืองแล้วขอคืนภาษี
เป็นสินค้าที่มีขายในเมือง ทั้งในห้างสรรพสินค้า ร้านขายยา Don Quijiote และร้านค้าที่มีป้าย Tax-Free จะยกเว้นเฉพาะ VAT 10% เมื่อมียอดซื้อขั้นต่ำ 5,000 เยน/ร้าน/วัน และต้องใช้พาสปอร์ตตัวจริงในการขอสิทธิ์และของบางประเภท จะถูกซีลห้ามแกะจนกว่าจะออกจากญี่ปุ่น
เช็คลิสต์ก่อนช้อป: ใครขอคืนภาษีได้บ้าง? และเงื่อนไขล่าสุดปี 2568

ถ้านักท่องเที่ยวต้องการขอคืนภาษี จะต้องเข้าเงื่อนไขเหล่านี้
- เดินทางมาญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยวต่างชาต ที่พำนักไม่เกิน 6 เดือน
- ชาวญี่ปุ่นที่กลับประเทศแบบชั่วคราว ที่พำนักต่างประเทศมากกว่า 2 ปี และมีเอกสารยืนยัน พร้อมอยู่ในประเทศไม่เกิน 6 เดือน
เอกสารที่ต้องเตรียม
- พาสปอร์ตตัวจริง
สิทธิ์ Tax-Free ให้เฉพาะผู้ที่พำนักชั่วคราวหรือนักท่องเที่ยวเท่านั้น และร้านจะตรวจพาสปอร์ตของคุณ จะต้องมีตราประทับจากด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่เช่นนั้น ร้านจะไม่ยกเว้นภาษีให้ได้ และร้านค้าจะสแกนข้อมูลจากพาสปอร์ตลงระบบ Tax-Free ของญี่ปุ่น - วีซ่าหรือสถานะการพำนัก
นักท่องเที่ยวที่เข้าญี่ปุ่นด้วยสถานะ Short-Term Stay มีสิทธิ์ขอ Tax-Free แต่ถ้าเป็นชาวญี่ปุ่นที่พำนักต่างประเทศมากกว่า 2 ปี และกลับมาไม่เกิน 6 เดือนก็มีสิทธิ์เช่นกัน แต่ต้องมีเอกสารยืนยัน เช่น ใบรับรองการพำนักจากสถานทูตหรือทะเบียนบ้านที่ต่างประเทศ เป็นต้น - ใบเสร็จรับเงินจากร้านค้า
ต้องเป็นร้านที่มีป้าย Japan Tax-Free Shop เท่านั้น ยอดซื้อขั้นต่ำ 5,000 เยนขึ้นไป ต่อร้านต่อวัน แบบไม่รวมภาษี บางห้างหรือบางร้านอาจให้ชำระเต็มจำนวนก่อน แล้วไปขอคืนที่ Tax-Free Counter ภายในวันเดียวกัน - ใบกำกับ Tax-Free / สลิปแนบพาสปอร์ต
ร้านค้าจะออกใบกำกับภาษี และบางกรณีอาจแนบเข้าพาสปอร์ต เพื่อให้ศุลภาภรตรวจตอนออกประเทศ สำหรับสินค้า Consumables ร้านจะใส่ในถุงซีลพิเศษ และห้ามเปิดจนกว่าจะออกนอกประเทศ - เอกสารการเดินทาง
ตั๋วเครื่องบินขาออกจากญี่ปุ่น หรือ QR Code จาก Visit Japan Web ซึ่งบางร้านรองรับใช้แทนการแสดงตราประทับได้
ยอดซื้อขั้นต่ำและประเภทสินค้าที่ต้องรู้
ประเภทสินค้า | ยอดซื้อขั้นต่ำ (ต่อร้าน/ต่อวัน) | หมายเหตุสำคัญ |
สินค้าทั่วไป (เสื้อผ้า, กระเป๋า, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ของที่ระลึก) | ≥ 5,000 เยน (ไม่รวมภาษี) | - ใช้งานได้ทันทีในญี่ปุ่น แต่ต้อง นำออกนอกประเทศ - ไม่จำเป็นต้องบรรจุซีลพิเศษ |
สินค้าอุปโภคบริโภค (ขนม, เครื่องสำอาง, ยา, เครื่องดื่ม, อาหาร) | ≥ 5,000 เยน และ ≤ 500,000 เยน (ไม่รวมภาษี) | - ร้านจะต้องบรรจุใน ถุง/แพ็กเกจซีลพิเศษ - ห้ามเปิดใช้หรือบริโภคในญี่ปุ่น - ต้องพกติดตัวไปแสดงต่อศุลกากรตอนออกประเทศ |
คำแนะนำเพิ่มเติม
- นับยอดซื้อ ต่อร้าน/ต่อวัน/ต่อคน เท่านั้น (รวมหลายบิลในร้านเดียวกันได้)
- ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2025 ห้ามสิ่งสินค้ากลับบ้านทางพัสดุเพื่อนำมาเคลม Tax-Free ต้องพกติดตัวออกนอกประเทศเท่านั้น
- ระบบปัจจุบันจะใช้ถึง 31 ต.ค. 2026 จากนั้นจะเปลี่ยนเป็น ระบบคืนภาษีที่สนามบิน (Refund Method)
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-โตเกียว
- ไป-กลับ
- เที่ยวเดียว
- direct cheapest
DMK11:506 ชม. 10 น.บินตรงNRT20:00กรุงเทพ - โตเกียว|ศ. 16 ม.ค.|ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
NRT09:157 ชม. 30 น.บินตรงDMK14:45โตเกียว - กรุงเทพ|พ. 21 ม.ค.|ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์SAR 911SAR 1,183ลด 23%ลด 23%SAR 1,183SAR 911
BKK11:4511 ชม. 15 น.แวะพัก 1 จุดHND01:00กรุงเทพ - โตเกียว|พฤ. 22 ม.ค.|เวียตเจ็ทแอร์
NRT19:0018 ชม. 10 น.แวะพัก 1 จุดBKK11:10โตเกียว - กรุงเทพ|อา. 25 ม.ค.|เซินเจิ้นแอร์ไลน์SAR 911SAR 1,183ลด 23%ลด 23%SAR 1,183SAR 911
BKK11:4511 ชม. 15 น.แวะพัก 1 จุดHND01:00กรุงเทพ - โตเกียว|ศ. 16 ม.ค.|เวียตเจ็ทแอร์
NRT19:0018 ชม. 10 น.แวะพัก 1 จุดBKK11:10โตเกียว - กรุงเทพ|พ. 21 ม.ค.|เซินเจิ้นแอร์ไลน์SAR 911SAR 1,183ลด 23%ลด 23%SAR 1,183SAR 911
BKK1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงTYO2:00 PMกรุงเทพ - โตเกียว|Sat, Jan 3|ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
TYO1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงBKK2:00 PMโตเกียว - กรุงเทพ|Sat, Jan 3|ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติมค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติม
ราคาเที่ยวบิน${{departCityName}}-${{arrivalCityName}}ที่แสดงนี้อ้างอิงจากราคาเฉลี่ยของสายการบินต่างๆ ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ตามฐานข้อมูลล่าสุดของ Trip.com
เปิดพิกัด! แหล่งช้อป Duty Free & Tax Free ยอดฮิตในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป และนักท่องเที่ยวที่มาช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่น สามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีได้ ทั้งแบบ Duty Free ในสนามบิน และ Tax Free ตามร้านค้าในเมือง โดยแต่ละแห่งก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ดังนี้
สนามบินหลักของญี่ปุ่นมีอะไรเด็ด?
ที่ญี่ปุ่น จะมี 3 สนามบินหลักๆ ที่มีสินค้าปลอดภาษีขายอยู่มากมาย ดังนี้
- Narita International Airport
สนามบินแห่งนี้เป็นศูนย์รวมร้าน Japan Duty Free ที่มีสินค้าหลากหลาย จุดเด่นคือ สามารถสั่งออนไลน์ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์แล้วไปรับของที่สนามบินก่อนได้ สะดวกมากสำหรับคนที่มีสินค้าในใจและไม่อยากเสียเวลาเดินช้อปปิ้ง ซึ่งสินค้าก็จะมีตั้งแต่เครื่องสำอาง แบรนด์ น้ำหอม และอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่เดินทางผ่านสนามบินรับรองได้ช้อปครบแน่นอน - Haneda Airport
ที่สนามบินแห่งนี้ มีร้าน TIAT Duty Free และเคาน์เตอร์แบรนด์หรูๆ มากมาย เหมาะกับนักเดินทางสายแฟชั่น หรือนักเดินทางที่บินไฟลท์กลางคืน จุดแข็งคือใกล้เมืองโตเกียว เดินทางสะดวก - Kansai International Airport
มีร้าน KIX Duty Free และร้านค้าของที่ระลึกญี่ปุ่นที่ครบเครื่อง ทั้งเครื่องสำอาง ขนมท้องถิ่น และเหล้าที่ขึ้นชื่อ และยังมีโซน KIX duty Free Online สำหรับการสั่งสินค้าล่วงหน้าด้วยเช่นกัน
ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในเมือง
- เป็นแหล่ง Tax Free ยอดนิยมอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยว ที่ขายสินค้าแทบทุกอย่างทั้งของกิน ของใช้ ของฝาก และอาจได้เจอของแรร์ที่ไม่สามารถหาได้จากห้างอื่นๆ จุดเด่นคือ ร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมง และมีเคาน์เตอร์ Tax Free ในสาขาหลัก เช่น ชินจูกุ, โอซาก้า เป็นต้น
- Bic Camera
แหล่งรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องดิจิทัล โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงเครื่องครัวญี่ปุ่นแท้ มีโปรโมชันพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น แสดงพาสปอร์ตและคูปองลดราคา รับส่วนลดเพิ่ม 5-7% - Matsumoto Kiyoshi
ร้านขายาและเครื่องสำอางชื่อดัง สวรรค์ของคนรักสกินแคร์และเครื่องสำอาง มีสินค้ายอดฮิตมากมาย และมีแทบทุกย่าน พร้อมเคาน์เตอร์ Tax Free ให้บริการสะดวก
ร้านค้าแบรนด์เนมในย่านดัง
- Ginza
ย่านช้อปใจกลางโตเกียว รวบรวมแบรนด์เนมระดับโลก เช่น Gucci, Prada, Dior เป็นต้น และยังมี Ginza Six ห้างสรรพสินค้าพรีเมียมที่บริการ Tax Free และสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว - Shinjuku
แหล่งรวมทุกสไตล์ของนักช้อป ตั้งแต่ห้างใหญ่ Isetan, Takashimaya, Lumine ไปจนถึงร้านแฟชั่นที่ญี่ปุ่นท้องถิ่น และ Duty Free Shop ที่มีสินค้าแบรนด์เนมพร้อมเคาน์เตอร์ Tax Free ครบถ้วน
Must Buy List! รวมสินค้าห้ามพลาดเมื่อไปช้อป Duty Free ญี่ปุ่น

หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น สินค้าที่เรียกว่าพลาดไม่ได้ ทั้งของใช้ส่วนตัว ของฝาก และของสะสม เมื่อไปช้อปที่ Duty Free จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน
เครื่องสำอางและสกินแคร์
- SK-II Facial Treatment Essence (Pitera Water)
สกินแคร์ระดับตำนาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิวให้กระจ่างใส และใน Duty Free มักขายแพ็กเกจใหญ่ในราคาที่คุ้มค่ากว่าซื้อทั่วไป - Shiseido Ultimune Power Infusing Concentrate
เซรั่มยอดฮิตที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว แถมที่ Duty Free ยังมีโปรโมชันแพ็กคู่และแถมมินิไซส์ทดลองให้ไปลองใช้ด้วย - THREE Balancing Cleansing Oil
คลีนซิ่งออยล์ที่สาวญี่ปุ่นยกให้เลยว่าเป็นตัวท็อป ทั้งอ่อนโยนและมีกลิ่นอโรมาธรมชาติ เหมาะสำหรับซื้อกลับเป็นของฝาก
ขนมและของฝากในตำนาน
- Tokyo Banana
ของฝากเบอร์หนึ่งจากโตเกียว เค้กกล้วยสอดไส้คัสตาร์ดครีม มักออกลวดลายพิเศษตามเทศกาล - Shiroi Koibito
คุกกี้ไวท์ช็อกโกแลตแซนด์วิชที่ฮิตตลอดกาล หาซื้อได้ที่สนามบินและร้าน Duty Free ทั่วประเทศ - Royce’ Chocolate
ช็อกโกแลตสดสไตล์ญี่ปุ่น มีรสยอดนิยมอย่าง Royce Nama Au Lait, Nama Champagne บรรจุในกล่องหรูหรา น่าซื้อฝากคนใกล้ตัว
เหล้าและสาเกญี่ปุ่น
- Suntory Whisky
เหล้าที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติสมดุลและเป็นที่ต้องการของนักสะสม ที่ Duty Free จะมีรุ่น Limited Edition ที่หาซื้อได้เฉพาะสนามบินเท่านั้น - Dassai Sake
สาเกพรีเมียมจากยามากุจิ มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะมีรสชาติหวานละมุน เหมาะซื้อเป็นของฝากสำหรับคอเครื่องดื่ม - Umeshu
อีกหนึ่งสินค้ายอดนิยม ซื้อ Duty Free ราคาจะดีกว่าร้านทั่วไปมาก และบางยี่ห้อมีบรรจุภัณฑ์สวยงาม เหมาะกับการมอบเป็นของขวัญ
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และกล้อง
- กล้องดิจิทัล & เลนส์
ญี่ปุ่นเป็นแหล่งกำเนิดกล้องระดับโลก Duty Free มักมีรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมเลนส์คิทหรือแพ็กเกจราคาพิเศษจำหน่ายอยู่ - หูฟัง & Garget
หูฟังตัดเสียงรบกวนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กเป็นที่นิมในหมู่นักเดินทาง - เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก
เช่น หม้อหุงข้าวแรงดันไฟฟ้า เครื่องเป่าผมไออนลบ ของ Panasonic ที่มีของแท้คุณภาพสูง ราคาที่นักท่องเที่ยวซื้อแล้วราคาประหยัดกว่าซื้อในเมือง
How-To: ขั้นตอนการขอคืนภาษี (Tax Refund) แบบละเอียด

นักท่องเที่ยวสามารถขอคืนภาษีได้ หากเงื่อนไขเข้าที่กำหนด และต้องทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เพื่อให้การคืนภาษีเป็นไปอย่างราบรื่น และนี่คือขั้นตอนการขอคืนภาษี
ขั้นตอนที่ 1: แจ้งพนักงานและยื่นพาสปอร์ตที่ร้านค้า
เมื่อจะไปช้อปปิ้ง ให้เลือกร้านที่มีป้าย Japan Tax-Free Shop เมื่อตัดสินใจซื้อสินค้า ให้บอกพนักงานว่าต้องการใช้ขอ Tax-Free ยื่นพาสปอร์ตัวจริงและให้พนักงานตรวจสอบ ร้านจะทำการสแกนและบันทึกข้อมูลและออกใบเสร็จแบบ Tax-Free ให้ และบางร้านในห้างใหญ่ๆ จะมีเคาน์เตอร์ Tax-Free แยกออกมาเพื่อให้บริการเลย
ขั้นตอนที่ 2: การแพ็คสินค้าในถุงปลอดภาษี
สินค้าที่เป็นของใช้แล้วหมดไปหรือเครื่องสำอาง จะต้องบรรจุอยู่ในถุงซีลพิเศษ และถุงจะต้องมีสติ๊กเกอร์ปิดผนึกและข้อความห้ามแกะจนกว่าจะออกจากประเทศ และหากแกะถุงออกก่อน จะผิดเงื่อนไขการขอคืนภาษี และอาจถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้า กล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถใช้งานได้ทันที แต่ต้องนำออกจากญี่ปุ่นด้วย
ขั้นตอนที่ 3: การสแกนข้อมูลที่สนามบิน (สำคัญมาก!)
ก่อนออกจากญี่ปุ่น จะต้องสแกนพาสปอร์ต ที่เครื่องของศุลกากรหรือที่เคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ ระบบจะตรวจสอบว่าสินค้าที่ซื้อด้วยสิทธิ์ Tax-Free ถูกนำออกประเทศจริงหรือไม่ และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2025 เป็นต้นไป จะห้ามส่งสินค้าทางพัสถุ เพื่อเคลมภาษี ต้องพกติดตัวไปสแกนที่สสนามบินเท่านั้น
วางแผนเที่ยวและช้อปให้สนุกและคุ้มค่าที่สุดกับ Trip.com

การไปญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การไปท่องเที่ยวสถานที่เที่ยวยอดฮิตเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ไม่ว่าจะเป็น Duty Free ในสนามบินหรือ Tax Free ตามร้านค้าในเมือง แค่เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ และเข้าใจกฏใหม่ปี 2025-2026 ก็สามารถไปช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ
และเพื่อให้การเดินทางราบรื่นและสนุกยิ่งขึ้น แนะนำให้วางแผนล่วงหน้า Trip.com ที่เดียวครบจบทั้ง
🎟️ ตั๋วเข้าแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมต่าง ๆ
และเมื่อวางแผนอย่างดี จะทำให้ทริปญี่ปุ่นของคุณในครั้งนี้เต็มอิ่มและช้อปปิ้งได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคาอย่างแน่นอน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการช้อป Duty Free ในญี่ปุ่น
ซื้อของ Tax-Free จากในเมืองแล้ว สามารถเปิดใช้ในญี่ปุ่นได้เลยหรือไม่?
ถ้าเป็น สินค้าทั่วไป (General Goods) เช่น เสื้อผ้า กล้อง เครื่องใช้ไฟฟ้า ใช้ได้เลยในญี่ปุ่น แต่ถ้าเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumables) เช่น เครื่องสำอาง อาหาร ขนม ยา ร้านค้าจะซีลถุงพิเศษและต้อง ห้ามแกะ/ใช้จนกว่าจะออกนอกประเทศ หากถูกตรวจพบว่าเปิดใช้แล้ว อาจต้องจ่าย VAT 10% ย้อนหลังถ้าลืมสแกนพาสปอร์ตเพื่อยืนยันการนำของออกจากประเทศที่สนามบิน จะเกิดอะไรขึ้น?
ระบบ Tax-Free จะไม่สมบูรณ์ ศุลกากรอาจถือว่าคุณ ไม่ได้นำสินค้าออกนอกประเทศ ผลคือคุณอาจต้อง ชำระ VAT 10% ย้อนหลัง และในกรณีที่มีการละเมิดซ้ำ ๆ อาจมีผลต่อการใช้สิทธิ์ Tax-Free ครั้งต่อไปของเหลว เช่น เหล้า หรือเครื่องสำอางที่ซื้อจาก Duty Free สามารถนำขึ้นเครื่องได้ปริมาณเท่าไหร่?
ของเหลวที่ซื้อจาก Duty Free หลังผ่าน ตม. จะถูกบรรจุในถุงซีลปลอดภัย (STEBs: Security Tamper-Evident Bags) สามารถนำขึ้นเครื่องได้แม้เกิน 100 ml แต่ต้องปฏิบัติตามกฎของสายการบินและประเทศปลายทาง เช่น ปริมาณสุราที่นำเข้าประเทศไทยได้คือ สุราสูงสุด 1 ลิตร และบุหรี่ 200 มวนต่อคนการขอคืนภาษีที่ร้านค้ากับการไปทำที่เคาน์เตอร์คืนภาษีในห้างแตกต่างกันอย่างไร?
- ที่ร้านค้า (Shop Counter): พนักงานจะทำเรื่อง Tax-Free ให้ทันทีที่คุณซื้อสินค้า → ได้ราคาหัก VAT เลย
- ที่เคาน์เตอร์คืนภาษีในห้าง: คุณต้องจ่ายราคาพร้อม VAT ที่ร้านก่อน แล้วนำใบเสร็จไปยื่นที่ Tax Refund Counter ของห้างเพื่อรับเงินคืน (มักเป็นเงินสดเยน)
ราคา Duty Free ที่สนามบินถูกกว่า Tax Free ในเมืองจริงหรือไม่?
- Duty Free สนามบิน: ราคามักถูกกว่าสำหรับ สินค้าแบรนด์เนม น้ำหอม สุรา บุหรี่ เพราะยกเว้นทั้ง VAT + ภาษีนำเข้า
- Tax Free ในเมือง: มักคุ้มกว่าสำหรับ เครื่องสำอาง ขนม ของฝาก และอุปกรณ์ไฟฟ้า เนื่องจากมีโปรโมชั่น/ส่วนลดเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว


