
เคยไหม? ต้องรอต่อเครื่องนาน ๆ หลายชั่วโมง แล้วไม่รู้จะทำอะไรดี เวลานั้นดูเหมือนจะปล่อยให้เสียเปล่า แต่จริง ๆ แล้วมันคือโอกาสทองที่เพื่อน ๆ สามารถใช้เพื่อพักผ่อน ผ่อนคลาย หรือแม้แต่สำรวจเมืองใหม่ได้เลย! บทความนี้ Trip.com จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ “การรอต่อเครื่อง (Layover)” ถ้าพร้อมแล้ว มาลุยกันเลย
วางแผนก่อนเดินทาง: เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องรอต่อเครื่องนาน?
การรอต่อเครื่องนาน ๆ จะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป หากเพื่อน ๆ เตรียมตัวดีตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง ก็สามารถเปลี่ยนเวลาการรอต่อเครื่องให้กลายเป็นช่วงเวลาสบาย ๆ หรือแม้แต่เป็นช่วงเวลาแห่งการผจญภัยเล็ก ๆ ได้เลย มาดูกันว่าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนขึ้นเครื่อง!
เช็คเรื่องวีซ่าทรานสิท (Transit Visa)
แม้ว่าเพื่อน ๆ จะไม่ได้ออกนอกสนามบิน แต่หลายประเทศโดยเฉพาะประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย หรือบางประเทศในยุโรปต้องใช้วีซ่าทรานสิท แนะนำให้เพื่อน ๆ เช็กกฎของประเทศที่เพื่อน ๆ ต้องแวะก่อนการเดินทางด้วย โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์สถานทูตของประเทศนั้น ๆ ได้โดยตรง
สัมภาระติดตัว (Carry-on) ต้องมีอะไรบ้าง
ระหว่างการรอต่อเครื่อง แนะนำให้เพื่อน ๆ พกอุปกรณ์เสริมติดตัว ที่จะช่วยแก้เบื่อได้ เช่น แบตสำรอง หูฟัง ขนมกินเล่น นอกจากนี้ แนะนำให้พกของใช้ส่วนตัว อาทิ ครีมบำรุง ทิชชูเปียก ลิบบาล์ม ฯลฯ ไว้ติดตัวด้วยก็ดีค่ะ
รู้จักสนามบินของเพื่อน ๆ ล่วงหน้า
การรู้ว่าจะรอต่อเครื่องที่สนามบินไหน เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่คิด เพราะแต่ละสนามบินมีสิ่งอำนวยความสะดวกแตกต่างกัน บางแห่งมีเลานจ์หรู บางแห่งมีโรงแรม บางแห่งมีสวนและโซนพักผ่อนฟรี โดยวิธีเตรียมตัวง่าย ๆ คือ เข้าเว็บไซต์ของสนามบิน เพื่อดูแผนผังเทอร์มินัล และบริการต่าง ๆ หรือดูรีวิวจากคลิปต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวก่อนถึงสนามบินก็ได้เช่นกัน
แนะนำตั๋วเครื่องบิน
รอต่อเครื่องตามระยะเวลา: ทำอะไรดีให้เหมาะกับเวลาที่มี?

น้อยกว่า 3 ชั่วโมง: รีบแต่ก็พักได้
หากเพื่อน ๆ มีเวลาน้อยกว่า 3 ชั่วโมง แนะนำให้อยู่ภายในสนามบินเท่านั้น และใช้ช่วงเวลานี้กับการหามุมสงบในเลานจ์ หรือหาคาเฟ่ดี ๆ สักที่เพื่อพักผ่อนสั้น ๆ เติมพลังและเตรียมตัวสำหรับไฟลต์ต่อไป หรือหากเพื่อน ๆ ที่อยากยืดเส้นยืดสาย ลองออกไปเดินเล่นสำรวจร้านค้าDuty Free หรือหาของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือไปได้ด้วยค่ะ
3-6 ชั่วโมง: เวลาเหลือเฟือสำหรับพักผ่อนและสำรวจ
ถ้ามีเวลามากขึ้น เพื่อน ๆ สามารถเดินชมสนามบินหรือใช้บริการเลานจ์ได้แบบไม่ต้องรีบ นอกจากนี้ บางสนามบินมีโซนศิลปะหรือมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้สร้างคอนเทนต์สวย ๆ ลงโซเชียลด้วย หรือจะนั่งกินอาหารอร่อย ๆ จากร้านท้องถิ่นในสนามบิน เช่น ราเมงที่สนามบินนาริตะ หรือสแน็กสิงคโปร์ที่สนามบินชางงี ก็เป็นอีกวิธีคลายเบื่อได้ดีเลยค่ะ
6 ชั่วโมงขึ้นไป: ออกไปเที่ยวในเมืองได้เลย!
ถ้ารอต่อเครื่องนานเกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป ถือเป็นโอกาสทองในการออกไปสัมผัสบรรยากาศเมืองนั้นสักหน่อย หลายสนามบินมีรถไฟหรือรถบัสเข้าเมืองสะดวกมาก เช่น สนามบินชางงีของสิงคโปร์ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที หรือสนามบินอินชอนที่โซล ก็ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่อย่าลืมตรวจสอบเรื่องวีซ่าทรานซิตและเผื่อเวลาเดินทางกลับสนามบินอย่างน้อย 2 ชั่วโมงด้วยนะคะ
5 ไอเดียยอดฮิตแก้เบื่อระหว่างรอต่อเครื่อง
1. พักผ่อนใน Airport Lounge
เลานจ์สนามบินสมัยนี้หรูหราและให้ความสะดวกสบายมาก มีอาหาร เครื่องดื่ม ห้องอาบน้ำ และ Wi-Fi แรง ๆ เพื่อน ๆ สามารถจองผ่าน Trip.com ได้ล่วงหน้าด้วยนะ เพื่อให้ช่วงรอเครื่องกลายเป็นเวลาพักผ่อนสุดฟินไปเลย
2. หาที่นอนในสนามบิน
ถ้ารอต่อเครื่องข้ามคืน สนามบินใหญ่หลายแห่งมี Sleeping Pod หรือ Transit Hotel ให้พักสบาย ๆ ราคาย่อมเยาและปลอดภัยกว่าออกไปหาที่พักข้างนอก แถมจองผ่าน Trip.com ได้ง่ายสุด ๆ ด้วย
เปรียบเทียบตัวเลือกที่พักผ่อนในสนามบิน | |||
ตัวเลือก | เหมาะสำหรับ | ราคาโดยประมาณ | จองผ่าน Trip.com |
Airport Lounge | พักผ่อนระหว่างรอไฟลต์ | 1,000-2,000 บาท | ✓ |
Sleeping Pod / Capsule Hotel | รอข้ามคืนระยะสั้น | 1,500-3,000 บาท | ✓ |
Transit Hotel (In-Terminal) | ต้องการความเป็นส่วนตัว | 3,000 บาทขึ้นไป | ✓ |
Airport Hotel (Nearby) | รอต่อเครื่องเกิน 8 ชม. ขึ้นไป | 4,000 บาทขึ้นไป | ✓ |
3. สำรวจร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้ง
สนามบินใหญ่ ๆ หลายแห่งมีทั้งร้านแบรนด์เนม คาเฟ่สวย และโซน Duty Free สุดอลังกาล ที่เพื่อน ๆ สามารถเลือกของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปได้เลย
4. ใช้ Wi-Fi ฟรีทำงานหรือดูหนัง
สนามบินแทบทุกที่จะมีบริการ Wi-Fi ฟรี ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเช็กอีเมล ทำงานต่อ หรือนั่งดูซีรีส์ยาว ๆ ก็ทำได้แบบไม่ต้องกลัวเบื่อ แถมสะดวกมาก
5. ออกไปทัวร์สั้น ๆ รอบเมือง
ในส่วนนี้ขอแนะนำสำหรับเพื่อน ๆ ที่รอต่อเครื่องนานหลายชั่วโมงค่ะ บางสนามบินมีทัวร์ฟรีด้วย เช่น อินชอน–โซล หรือฮามัด–โดฮา ที่จะมีรถรับส่งและไกด์บริการครบ เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่รอต่อเครื่องนานและอยากเติมสีสันให้กับการเดินทางโดยไม่ต้องจัดทริปเอง
เจาะลึกสนามบิน Hub ยอดนิยมของคนไทย
เจาะลึกสนามบิน Hub ยอดนิยมของคนไทยขณะรอต่อเครื่อง | |
สนามบิน | จุดเด่น |
สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) | มีเลานจ์หลากหลาย ร้านอาหารเยอะ และมี Transit Hotel ให้พักในเทอร์มินัล |
สนามบินดอนเมือง (DMK) | เหมาะสำหรับไฟลต์โลว์คอสต์ มีโซนนวด ร้านกาแฟ และร้านอาหารท้องถิ่นเพียบ |
สนามบินชางงี สิงคโปร์ (SIN) | ที่สุดของสนามบินในฝัน ที่จะทำให้เพื่อน ๆ ได้ผ่อนคลายฟิน ๆ เพราะที่นี่มีน้ำตกในร่ม สวนกล้วยไม้ และโรงหนังฟรีอีกด้วย |
สนามบินฮ่องกง (HKG) | เดินทางเข้าเมืองง่าย มีเลานจ์ให้บริการดี และจุดชมวิวเครื่องบินสุดอลัง |
ทริคเสริมให้การรอต่อเครื่อง “คุ้มค่ากว่าเดิม”

เพื่อน ๆ หลายคนอาจคิดว่าการรอต่อเครื่องคือช่วงเวลาที่ต้อง “ทนรอ” และแสนจะน่าเบื่อ ทรมาน แต่จริง ๆ แล้ว เราสามารถทำให้มันสนุกและมีประโยชน์ได้อีกเยอะ ลองใช้ทริคเหล่านี้ดูนะคะ
1. ประหยัดงบอย่างชาญฉลาด เพื่อน ๆ สามารถพกขวดน้ำแบบเติมได้ไปเติมน้ำฟรีในสนามบิน หรือเลือกเข้าร้านอาหารที่มีโปรเด็ด ๆ หรือใช้สิทธิ์บัตรเครดิตเข้าเลานจ์ฟรีก็ได้
2. หากิจกรรมทำหว่างรอ เช่น ฟังพอดแคสต์ ฝึกภาษา หรืออ่านหนังสือเล่มที่ค้างไว้คลายความเบื่อ
3. รักษามารยาทสนามบิน เช่น ไม่วางของขวางทางเดิน ไม่คุยเสียงดังในพื้นที่ส่วนกลาง
5. เช็กลิสต์ก่อนบอร์ดดิ้ง เข้าห้องน้ำ เก็บของให้ครบ ตรวจเกตไฟลต์อีกครั้ง เพื่อป้องกันการตกเครื่อง
6. เลือกที่นั่งไฟลต์ต่อไปให้ดี เช่น ริมหน้าต่างสำหรับพัก หรือโซนด้านหน้าเพื่อออกจากเครื่องเร็วขึ้น
7. สำรองแผน B ก่อนไปถึงสนามบินปลายทาง เช่น โหลดแผนที่ออฟไลน์ เตรียมเงินสดที่แลกไว้ให้พร้อม
บทสรุปส่งท้าย
เห็นไหมคะว่าเพียงเท่านี้เพื่อน ๆ ก็จะใช้เวลารอต่อเครื่องอย่างไม่ได้สูญเปล่าไปเลย แค่เตรียมตัวให้ดี รู้ว่าจะทำอะไร และใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบินให้เต็มที่ แล้วอย่าลืมตรวจสอบเที่ยวบินและจองบริการต่าง ๆ ผ่าน Trip.com เพื่อให้ทริปของเพื่อน ๆ ราบรื่นตั้งแต่ก้าวแรก
เนื้อหาที่น่าสนใจเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการรอต่อเครื่อง
รอต่อเครื่อง สามารถออกจากสนามบินได้ไหม?
ระหว่างรอต่อเครื่อง สามารถออกนอกสนามบินได้ ถ้าเวลารอนานพอและไม่มีข้อจำกัดเรื่องวีซ่าต้องมีวีซ่าทรานสิทไหม ถ้าไม่ได้ออกจากสนามบิน?
บางประเทศไม่จำเป็นวีซ่าทรานสิท แต่บางแห่งอาจต้องมี ขึ้นอยู่กับกฎของประเทศนั้น ๆกระเป๋าเดินทาง (Checked Baggage) จะถูกส่งไปที่ปลายทางเลยใช่ไหม?
ส่วนใหญ่แล้วกระเป๋าเดินทางจะถูกส่งไปต่อที่ปลายทาง อย่างไรก็ดี ไม่เสมอไป ควรยืนยันกับสายการบินขณะเช็กอินอีกครั้งหาที่ชาร์จแบตฟรีในสนามบินได้ที่ไหน?
แทบทุกสนามบินมีจุด Charging Station ตามจุดพักรอก่อนขึ้นเครื่องถ้าเครื่องดีเลย์จนต่อเครื่องไม่ทัน ต้องทำอย่างไร?
ติดต่อเคาน์เตอร์สายการบินทันที เจ้าหน้าที่จะช่วยจัดไฟลต์ใหม่ให้ค่ะ ทั้งนี้ อาจมีค่าบริการเรียกเก็บเพิ่มเติมค่ะ




