Check List ไปญี่ปุ่น 2568 | ต้องเตรียมอะไรบ้าง? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่

หนังสือเดินทาง (Passport)

ต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันเดินทาง

หากหมดอายุเร็วกว่า 6 เดือน อาจถูกปฏิเสธขึ้นเครื่อง

ตั๋วเครื่องบินไป–กลับ

เจ้าหน้าที่อาจขอตรวจเพื่อยืนยันกำหนดกลับประเทศ

ใช้ได้ทั้งตั๋วจริงหรือไฟล์อิเล็กทรอนิกส์

หลักฐานที่พัก

โรงแรมหรือที่พักที่จองไว้ ต้องระบุชื่อ–ที่อยู่ชัดเจน

พิมพ์หรือแสดงในมือถือได้

ประกันการเดินทาง

ควรมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาอย่างน้อย 1 ล้านเยน (≈ 230,000 บาท)

ญี่ปุ่นไม่ได้บังคับ แต่แนะนำอย่างยิ่ง

วีซ่าเข้าญี่ปุ่น

คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับพำนักไม่เกิน 15 วัน

หากมีเปลี่ยนแปลง ให้เช็กประกาศล่าสุดจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

Visit Japan Web Account

ระบบออนไลน์ของรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับนักเดินทางต่างชาติ

เข้าเว็บไซต์ https://vjw.digital.go.jp

ข้อมูลที่ต้องกรอก

พาสปอร์ต, เที่ยวบิน, ที่พัก, และแบบฟอร์มศุลกากร

สามารถกรอกได้ล่วงหน้าก่อนเดินทาง 1–2 สัปดาห์

ผลลัพธ์ที่ได้

QR Code สำหรับสแกนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

เก็บ QR Code ไว้ในมือถือหรือปริ๊นท์ออกมาก็ได้

ข้อดี

ลดเวลารอคิว, ไม่ต้องกรอกเอกสารซ้ำในสนามบิน

แนะนำให้ทุกคนลงทะเบียน โดยเฉพาะช่วงท่องเที่ยวพีค

เช็กวันหมดอายุ

พาสปอร์ตต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันเดินทาง ถ้าเหลือน้อยกว่านั้นให้ต่อทันที

ต่อพาสปอร์ตออนไลน์

จองคิวผ่านเว็บไซต์ กรมการกงสุล ได้เลย มีบริการจัดส่งถึงบ้าน ภายใน 5–7 วันทำการ

ค่าธรรมเนียม

1,000 บาท (ธรรมดา) หรือ 1,500 บาท (ด่วน 1 วัน)

เหตุผลที่ควรทำล่วงหน้า

การต่อพาสปอร์ตช่วงปลายปีคนเยอะมาก หากพลาดคิวอาจต้องเลื่อนทริป

ฤดูใบไม้ผลิ (Sakura Season)

มี.ค.–เม.ย.

ซากุระบานทั่วประเทศ อากาศ 10–18 °C เหมาะกับคนชอบอากาศเย็น

35,000–45,000 บาท

ฤดูร้อน

มิ.ย.–ส.ค.

งานเทศกาลหน้าร้อน เสื้อผ้าเบา เดินง่าย แต่ราคาที่พักอาจสูงขึ้น

40,000–50,000 บาท

ฤดูใบไม้ร่วง

ก.ย.–พ.ย.

ใบไม้เปลี่ยนสี วิวสวยทั่วประเทศ อากาศ 12–22 °C

38,000–48,000 บาท

ฤดูหนาว

ธ.ค.–ก.พ.

หิมะตก เหมาะกับคนชอบสกี หรืออยากดูไฟคริสต์มาส

45,000–55,000 บาท

Thai Airways

กรุงเทพฯ – โตเกียว / โอซาก้า

22,000 – 28,000 บาท

ฟูลเซอร์วิส โหลดกระเป๋า 30 กก.

AirAsia X

ดอนเมือง – โตเกียว / ซัปโปโร

12,000 – 18,000 บาท

โลว์คอสต์ จ่ายเพิ่มถ้าโหลดกระเป๋า

ZIPAIR Tokyo

สุวรรณภูมิ – นาริตะ

14,000 – 19,000 บาท

สายการบินลูก ANA บริการดี ราคากลาง

Scoot

ดอนเมือง – โตเกียว / โอซาก้า

13,000 – 17,000 บาท

มีไฟลต์กลางคืน เหมาะกับคนอยากถึงเช้า

โตเกียว

โรงแรมย่าน Shinjuku / Ueno / Asakusa

2,500–4,000 บาท

เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟ และแหล่งช้อปปิ้ง

โอซาก้า

ย่าน Namba / Shinsaibashi

1,800–3,000 บาท

ของกินอร่อย ใกล้ Dotonbori

เกียวโต

เรียวกังหรือโฮสเทลใกล้ Gion

2,000–3,500 บาท

บรรยากาศญี่ปุ่นแท้ เหมาะกับสายถ่ายรูป

ซัปโปโร

โรงแรมใกล้สถานีหลัก

2,200–3,800 บาท

เหมาะกับคนอยากดูหิมะหรือเทศกาลฤดูหนาว

อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย

1 เยน ≈ 0.26 บาท (กรุณาตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทาง)

เช็กเรทจาก SuperRich, K79 หรือธนาคารก่อนทุกครั้ง

ควรแลกเงินที่ไหน

กรุงเทพฯ ได้เรทดีกว่าญี่ปุ่น โดยเฉพาะแหล่งแลกเงินหลัก ๆ เช่น SuperRich (ราชดำริ), Value Plus, Mung Mee

หลีกเลี่ยงแลกเงินในสนามบิน — เรทแพงกว่าเฉลี่ย 5–10%

จำนวนที่ควรแลก

สำหรับทริป 7 วัน แนะนำแลกไว้ประมาณ 70,000–100,000 เยน (≈ 18,000–26,000 บาท)

แลกไว้ก่อน 60–70% ของงบที่ตั้งไว้ ที่เหลือใช้บัตรเครดิตหรือบัตรท่องเที่ยวแทน

บัตรที่ควรมีติดตัว

บัตรเครดิต (Visa / Mastercard), Travel Card เช่น Wise หรือ YouTrip

ใช้รูดจ่ายได้สะดวกในร้านค้าญี่ปุ่นส่วนใหญ่ และเรทดีกว่ารูดตรง

JR Pass (Japan Rail Pass)

ใช้เดินทางได้ทั่วประเทศในเครือ JR (ชินคันเซ็น รถไฟท้องถิ่น)

7 วัน ≈ 14,500 บาท / 14 วัน ≈ 23,500 บาท / 21 วัน ≈ 30,000 บาท

คนที่เดินทางข้ามเมือง เช่น โตเกียว–โอซาก้า–เกียวโต

Kansai Area Pass

ใช้ได้ในโอซาก้า เกียวโต โกเบ และนารา

1 วัน ≈ 700 บาท / 3 วัน ≈ 1,600 บาท

เหมาะกับคนที่เที่ยวในภูมิภาคคันไซเท่านั้น

Tokyo Subway Pass

ใช้ได้ทั้ง Metro และ Toei Subway ในโตเกียว

24 ชม. ≈ 300 บาท / 72 ชม. ≈ 600 บาท

คนที่พักในโตเกียวหลายวัน

IC Card (Suica / Pasmo / ICOCA)

เติมเงินใช้ได้กับรถไฟ บัส และร้านสะดวกซื้อ

เริ่มต้น 500 เยน (≈ 130 บาท) + เติมเงิน

เหมาะกับทุกคน ใช้ง่ายเหมือน Rabbit Card บ้านเรา

Pocket WiFi

แชร์ได้หลายเครื่อง สัญญาณแรง เสถียรทั่วประเทศ

120–180 บาท/วัน

กลุ่ม 2–4 คน หรือครอบครัว

SIM Card (Physical)

ใส่แล้วใช้ได้เลย ไม่ต้องเชื่อมต่อ WiFi

400–800 บาท/แพ็ก 7–15 วัน

คนที่ใช้มือถือเครื่องเดียว เดินทางคนเดียว

eSIM (ดิจิทัล)

ไม่ต้องเปลี่ยนซิมจริง ดาวน์โหลดโปรไฟล์ใช้ทันที

300–600 บาท/แพ็ก 7 วัน

สะดวกสุด เหมาะกับสายเดินทางบ่อย

Free WiFi Public

มีเฉพาะในสถานีใหญ่และร้านกาแฟ

ฟรี แต่ไม่ครอบคลุม

ใช้เสริมเท่านั้น ไม่แนะนำให้พึ่งอย่างเดียว

ความคุ้มครองหลักที่ควรมี

ค่ารักษาพยาบาล (อย่างน้อย 1,000,000 บาท), อุบัติเหตุ, เที่ยวบินล่าช้า, กระเป๋าหาย

เริ่มต้น 350–700 บาทต่อทริป

บริษัทประกันยอดนิยมในไทย

AXA, MSIG, Allianz, Thaivivat, Chubb

ซื้อออนไลน์ได้ทันที ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที

ช่วงเวลาที่ควรซื้อ

ก่อนออกเดินทาง 3–7 วัน เพื่อให้ความคุ้มครองเริ่มทันที

ซื้อก่อนบินดีกว่าซื้อวันเดินทาง เพราะบางบริษัทไม่รับเคลมทันที

เหตุผลที่ห้ามมองข้าม

ระบบการแพทย์ในญี่ปุ่นมีมาตรฐานสูงแต่ค่ารักษาแพงมาก (เริ่มต้นหลักหมื่นบาท)

ประกันช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน

Spring (มี.ค.–พ.ค.)

10–20°C

เสื้อเชิ้ตบาง แจ็กเก็ตผ้าเบา กางเกงขายาว

ซากุระบาน อากาศเย็นสบาย

เน้นโทนสีพาสเทล ถ่ายรูปเข้ากับวิวซากุระ

Summer (มิ.ย.–ส.ค.)

25–35°C

เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ

อากาศร้อนอบอ้าว คล้ายกรุงเทพฯ

พกร่มพับและหมวก เพราะแดดแรงจริง

Autumn (ก.ย.–พ.ย.)

12–22°C

เสื้อสเวตเตอร์ แจ็กเก็ตบาง รองเท้าเดินสบาย

ใบไม้เปลี่ยนสีทั้งเมือง

เลือกโทนน้ำตาล–เขียวมะกอก ถ่ายรูปสวยทุกมุม

Winter (ธ.ค.–ก.พ.)

-2–10°C

เสื้อโค้ตหนา ฮีตเทค ถุงมือ ผ้าพันคอ

บางพื้นที่มีหิมะตก

ถ้าไปฮอกไกโดให้เตรียมรองเท้ากันลื่นด้วย

ยาประจำตัว

ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด ยาเคลือบกระเพาะ

ชื่อยาไทยกับญี่ปุ่นต่างกัน อาจหาซื้อยาก

สกินแคร์ & ของใช้ส่วนตัว

ครีมกันแดด ลิปบาล์ม ครีมบำรุงผิว

อากาศญี่ปุ่นแห้งมาก โดยเฉพาะฤดูหนาว

สุขอนามัย

ผ้าอนามัย ยาสีฟัน ขวดพกเจลล้างมือ

ราคาสูงกว่าที่ไทย และขนาดบรรจุใหญ่เกินพก

ของใช้ห้องน้ำ

แชมพู–ครีมนวด–สบู่แบบซอง

บางที่พักไม่มีให้ หรือเป็นแบบรีฟิลรวม

หัวแปลงปลั๊กไฟแบบ A (ขาแบนสองขา)

ญี่ปุ่นใช้แรงดันไฟ 100V

ป้องกันเครื่องชาร์จไม่เข้า หรือเสียบไม่ได้

Power Bank

ไม่เกิน 20,000 mAh / ห้ามโหลดใต้เครื่อง

ใช้ได้ตลอดทริป โดยเฉพาะวันที่ออกเดินทั้งวัน

สายชาร์จสำรอง

สำหรับมือถือ กล้อง และแท็บเล็ต

หาซื้อที่ญี่ปุ่นได้แต่ราคาแพงกว่า

พาสปอร์ต (Passport)

ตรวจอายุให้เหลืออย่างน้อย 6 เดือน และเก็บไว้ในกระเป๋าถือ

ถ้าหมดอายุก่อนกลับ จะไม่ผ่านด่าน ตม.

ตั๋วเครื่องบิน (Flight Ticket)

ตรวจวัน–เวลา เที่ยวบิน และชื่อให้ตรงกับพาสปอร์ต

ชื่อสะกดผิดแม้แต่นิดเดียว อาจถูกปฏิเสธขึ้นเครื่อง

ประกันการเดินทาง

พิมพ์ใบรับรองและเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน

ใช้ยื่นกรณีของหายหรือเจ็บป่วย

QR Code จาก Visit Japan Web

เตรียมไว้ในมือถือหรือปริ๊นท์เก็บ

ยื่นสแกนตอนผ่าน ตม. และศุลกากร

เอกสารจองโรงแรม / JR Pass

รวบรวมไว้ในไฟล์เดียวในมือถือ

เจ้าหน้าที่อาจขอดูเป็นหลักฐานการพำนัก

Google Maps

ใช้นำทางและบอกเส้นทางรถไฟ–บัสแบบเรียลไทม์

ญี่ปุ่นมีเส้นทางซับซ้อน แผนที่แม่นยำช่วยได้มาก

Google Translate

แปลป้าย เมนู และบทสนทนาแบบภาพถ่าย

ร้านท้องถิ่นส่วนใหญ่ไม่มีภาษาอังกฤษ

Navitime Japan Travel

แอปสำหรับคำนวณเวลารถไฟท้องถิ่น–ชินคันเซ็น

ช่วยแพลนเวลาเดินทางระหว่างเมืองได้แม่น

Trip.com App

ใช้ยืนยันตั๋ว จองที่พัก และเช็กโปรโมชั่น

รวมทุกการจองไว้ในที่เดียว ไม่ต้องเปิดหลายเว็บ

LINE Japan

ใช้ติดต่อร้านค้า/ที่พักในญี่ปุ่น

หลายที่ใช้ LINE มากกว่าอีเมล

น้ำหนักที่สายการบินกำหนด

โดยทั่วไป 20–23 กก. สำหรับไฟลต์ชั้นประหยัด

เกินแม้ 1 กก. ก็โดนคิดค่าปรับ 500–800 บาท/กก.

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง

จำกัด 7–10 กก. แล้วแต่สายการบิน

บางสนามบินญี่ปุ่นชั่งจริงก่อนเข้าเกต

เครื่องชั่งพกพา

ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา

พกไว้เช็กตอนขากลับ ป้องกันน้ำหนักเกินเพราะของฝาก

จัดของให้สมดุล

เสื้อผ้าไว้ล่าง ของแตกหักไว้บน

ช่วยลดแรงกระแทกและประหยัดพื้นที่

ช่วงเวลาเปิดเช็กอินออนไลน์

ส่วนใหญ่เปิด 24–48 ชม. ก่อนเวลาออกเดินทาง

เลือกที่นั่งได้ก่อน ลดเวลารอที่สนามบิน

วิธีเช็กอิน

เช็กอินออนไลน์ได้โดยตรงผ่าน Trip.com ทั้งบนเว็บไซต์และแอป สะดวกกว่าเข้าผ่านเว็บสายการบิน เพราะระบบเชื่อมต่ออัตโนมัติกับทุกเที่ยวบิน

ประหยัดเวลา ไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำหลายที่

Boarding Pass ดิจิทัล

เก็บในมือถือหรือ Apple Wallet

ใช้สแกนเข้าเกตได้ทันที ไม่ต้องพิมพ์กระดาษ

กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง

ชั่งน้ำหนักให้ตรงตามกำหนด (ส่วนใหญ่ 20–23 กก.) และติดแท็กชื่อ–เบอร์ติดต่อ

ป้องกันกระเป๋าหาย โดยเฉพาะไฟลต์ที่ต้องเปลี่ยนเครื่อง

เวลาไปสนามบิน

แนะนำถึงก่อนเครื่องออก 3 ชม. สำหรับไฟลต์ต่างประเทศ

เผื่อขั้นตอนตรวจเอกสารและความหนาแน่นของผู้โดยสาร

Narita (โตเกียว)

Narita Express (N’EX) → สถานี Tokyo / Shinjuku

60–80 นาที

1,400 เยน ≈ 360 บาท

รวดเร็ว ตรงเวลา มีที่นั่งจองเฉพาะ

Haneda (โตเกียว)

Tokyo Monorail → Hamamatsucho → ต่อ JR Yamanote Line

30–40 นาที

700 เยน ≈ 180 บาท

สะดวกสุดสำหรับไฟลต์เช้า

Kansai (โอซาก้า)

Nankai Airport Express / Rapi:t → Namba

40–45 นาที

1,200 เยน ≈ 310 บาท

มีทั้งแบบธรรมดาและด่วนพิเศษ (Rapi:t α)

Chubu Centrair (นาโกยา)

Meitetsu μ-SKY Limited Express → Nagoya Station

30 นาที

1,230 เยน ≈ 320 บาท

รถไฟด่วนพิเศษสะดวกมาก เหมาะกับคนต่อชินคันเซ็น

New Chitose (ซัปโปโร)

JR Rapid Airport → สถานี Sapporo

35 นาที

1,150 เยน ≈ 300 บาท

วิวสวยมาก โดยเฉพาะช่วงหิมะตก

บนรถไฟหรือรถบัส

พูดคุยเบา ๆ หรือปิดเสียงมือถือ

คนญี่ปุ่นถือว่าการส่งเสียงดังรบกวนคนอื่น

ร้านอาหาร

ไม่ให้ทิป และไม่จิ้มตะเกียบลงตรงกลางข้าว

เป็นสัญลักษณ์ของพิธีศพ ถือว่าไม่เหมาะ

ทิ้งขยะ

แยกประเภทและทิ้งในจุดที่กำหนด

เมืองสะอาดเพราะทุกคนเคารพระบบนี้

เข้าบ้านหรือเรียวกัง

ถอดรองเท้าก่อนขึ้นเสมอ

แสดงถึงความเคารพเจ้าของบ้าน

ถ่ายรูปในที่สาธารณะ

ขออนุญาตก่อนถ่ายคนอื่นหรือร้านค้า

ป้องกันปัญหาด้านสิทธิส่วนบุคคล

พูดคำว่า “ขอบคุณ” (Arigatou gozaimasu)

ใช้บ่อย ๆ เมื่อรับบริการ

เป็นวัฒนธรรมของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน