การเดินทางในเซี่ยงไฮ้ 2568 คู่มือการขนส่งครบทุกวิธีสำหรับนักท่องเที่ยว

ถ้าใครกำลังแพลนไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ในปี 2568 แล้วเริ่มกังวลเรื่องจะเดินทางยังไงดีนะ? บอกเลยว่าเมืองนี้เดินทางง่ายกว่าที่คิดเยอะมาก เพราะระบบขนส่งเขาครอบคลุมแทบทุกโซน ที่สำคัญคือเมืองนี้ออกแบบการเดินทางมาค่อนข้างเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว ไม่ต้องกลัวหลงหรือสับสน แม้จะมาครั้งแรกก็ไปได้ทุกที่สบายๆ แค่รู้ตัวเลือกไว้ก่อน ทริปเซี่ยงไฮ้ก็จะลื่นไหลแบบไม่มีสะดุดเลย!

บริการรับส่งสนามบินเซี่ยงไฮ้

การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ ไม่ว่าจะลงที่สนามบินผู่ตง (PVG) หรือหงเฉียว (SHA) ก็มีตัวเลือกให้หลายแบบ แต่ถ้าชอบความสะดวกแบบไม่ต้องลากกระเป๋าไปต่อรถหลายรอบ บริการรับ-ส่งสนามบินถือว่าเหมาะมาก โดยเฉพาะคนที่มาถึงช่วงดึก หรือมีสัมภาระชิ้นใหญ่หลายใบ บริการพวกนี้จะมารอรับถึงประตูตามเวลาที่นัดไว้ แล้วพาไปส่งถึงหน้าโรงแรมแบบไม่ต้องเดินไกลเลย

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบจองล่วงหน้าผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพราะได้ราคาชัดเจนและมีคนขับรอแน่นอน ไม่ต้องลุ้นค่าแท็กซี่หรือคิวรถข้างนอก ซึ่งบางช่วงอาจยาวจนเสียเวลา จุดเด่นคือเดินทางได้ทั้งแบบรถเก๋ง รถตู้ หรือรถแบบครอบครัว กลุ่มใหญ่แชร์กันยิ่งคุ้ม

รถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้

รถไฟแม็กเลฟของเซี่ยงไฮ้เป็นหนึ่งในการเดินทางที่เร็วที่สุดในโลก เพราะใช้เทคโนโลยี แม่เหล็กยกตัว ทำให้รถลอยเหนือรางและวิ่งได้อย่างนุ่มจนแทบไม่รู้สึกสะเทือน จุดเด่นคือความเร็วสูงสุดที่แตะประมาณ 430 กม./ชม. ทำให้เส้นทางจาก สนามบินผู่ตง (PVG) ไปสถานีหลงหยางโรด (Longyang Road) ใช้เวลาแค่ 7 - 8 นาที เท่านั้น

จุดที่ให้บริการ

ปัจจุบันแม็กเลฟให้บริการเพียงเส้นทางเดียว คือ PVG → Longyang Road Station จากสถานีหลงหยางโรดสามารถต่อรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 หรือเรียกแท็กซี่เข้าย่านต่างๆ ของเมืองได้สะดวก

เวลาและความถี่ในการเดินรถ

ซื้อตั๋วอย่างไร

สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วหรือตู้ขายอัตโนมัติในสถานี โดยใช้พาสปอร์ตได้เลย มีให้เลือกทั้งชั้นปกติและชั้นพรีเมียม หากซื้อแบบไป-กลับจะประหยัดกว่านิดหน่อย

ข้อควรระวัง

• แม็กเลฟไม่วิ่งเข้าใจกลางเมือง ต้องต่อรถไฟใต้ดินหรือแท็กซี่อีกที
• ช่วงพีค เช่น ศุกร์เย็น หรือวันหยุด นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ
• หากอยากสัมผัสความเร็วสูงสุด แนะนำขึ้นช่วงสาย - บ่าย เพราะบางรอบตอนเย็นจะลดความเร็ว

รถไฟฟ้าใต้ดินเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Metro)

ขอบคุณรูปภาพจาก Wikipedia

รถไฟฟ้าใต้ดินเซี่ยงไฮ้ถือเป็นวิธีเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะครอบคลุมแทบทุกย่าน รถไฟเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่และมีหลายสายให้เลือก เส้นทางอ่านง่าย แม้จะมาเที่ยวครั้งแรกก็ยังใช้ได้แบบไม่ต้องกลัวงง ยิ่งถ้ามีแพลนเที่ยวหลายจุดในวันเดียว เมโทรคือคำตอบเลย

เวลาและความถี่ในการเดินรถ

ตั๋วและการชำระเงิน

สามารถซื้อตั๋วจากตู้ขายอัตโนมัติหรือเคาน์เตอร์ ใช้เงินสดหรือบัตรได้ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้ บัตร Shanghai Public Transportation Card หรือจ่ายผ่านแอปอย่าง Alipay/WeChat Pay ได้เหมือนคนท้องถิ่น ใช้ง่ายและประหยัดเวลา

จุดแวะพักหลักสำหรับนักท่องเที่ยว

• People’s Square : ศูนย์กลางการเดินทาง เปลี่ยนสายง่าย
• East Nanjing Road : ช้อปปิงและเดินต่อไปเดอะบันด์
• Lujiazui : ย่านตึกสูง ไอคอนของเมือง
• Xintiandi : ร้านอาหารและบรรยากาศชิล

เคล็ดลับ

• เลี่ยงขึ้นรถช่วงเร่งด่วนเพราะคนแน่นมาก
• โหลดแผนที่เมโทรในมือถือไว้ จะช่วยเรื่องเปลี่ยนสาย
• ถ้ามีแพลนขึ้นรถหลายเที่ยว แนะนำใช้บัตรค้างเงิน คุ้มกว่าและเร็วกว่า

รถโดยสารประจำทางในเซี่ยงไฮ้

ขอบคุณรูปภาพจาก Wikipedia

รถบัสประจำทางเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ประหยัดค่าเดินทางและได้สัมผัสบรรยากาศเมืองแบบโลคัลมากขึ้น ซึ่งรถบัสกระจายตัวครอบคลุมหลายย่าน ตั้งแต่ย่านที่อยู่อาศัยจนถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงจุดหมายได้หลากหลายแบบไม่ต้องต่อรถหลายรอบ

เวลาและความถี่ในการเดินรถ

การใช้บริการและการชำระเงิน

การขึ้นรถบัสในเซี่ยงไฮ้ทำได้ง่ายมาก ป้ายรถเมล์ส่วนใหญ่มีป้ายแสดงหมายเลขรถ เส้นทาง และจุดจอดต่อไปแบบชัดเจน วิธีชำระเงินสามารถใช้ Shanghai Public Transport Card (บัตรขนส่งสาธารณะ) แตะตอนขึ้นรถ หรือจะสแกน QR ผ่าน Alipay/WeChat Pay ก็ได้เช่นกัน ค่าโดยสารส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 2 หยวน ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางระยะใกล้

เคล็ดลับการนั่งรถบัสในเซี่ยงไฮ้

ควรใช้แอปช่วยนำทาง เช่น Baidu Maps หรือ Gaode Map (Amap) เพื่อเช็กเส้นทางแบบเรียลไทม์ เพราะชื่อป้ายและป้ายบอกเส้นทางอาจเป็นภาษาจีนทั้งหมด การเตรียมอินเทอร์เน็ตให้พร้อมช่วยให้การขึ้น-ลงรถเมล์แม่นยำขึ้น นอกจากนี้ หากต้องเดินทางช่วงค่ำควรตรวจสอบเวลารถเที่ยวสุดท้ายไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดรถในรอบสุดท้ายของแต่ละสาย

แท็กซี่และเรียกรถโดยสารในเซี่ยงไฮ้

การเดินทางด้วยแท็กซี่หรือรถเรียกผ่านแอปเป็นตัวเลือกที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว ไม่อยากต่อรถหลายครั้ง หรือมีสัมภาระเยอะ เซี่ยงไฮ้มีแท็กซี่จำนวนมากและระบบรถเรียกผ่านแอปค่อนข้างพัฒนา ทำให้เรียกรถได้ง่ายแม้ในย่านท่องเที่ยวหรือช่วงเวลาดึก

แอปพลิเคชันเรียกรถยอดนิยม

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้ DiDi Chuxing ซึ่งเป็นแอปที่มีเมนูภาษาอังกฤษ ใช้งานง่าย และสามารถเลือกประเภทของรถได้ตามงบประมาณ เช่น Express, Premier หรือรถแบบหรู นอกจากนี้ แอปอย่าง Meituan Taxi และ Gaode Map Ride-hailing ก็เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่คนท้องถิ่น แต่เมนูมักเป็นภาษาจีน หากมีพื้นฐานภาษาเล็กน้อยก็ช่วยประหยัดค่าบริการได้ในบางกรณี

ราคาค่าโดยสาร

ราคามาตรฐานของแท็กซี่เซี่ยงไฮ้เริ่มต้นที่ประมาณ 14 - 16 หยวน สำหรับ 3 กิโลเมตรแรก จากนั้นคิดเพิ่มราว 2.5 - 3.6 หยวนต่อกิโลเมตร ตามช่วงเวลา หากเป็นช่วงดึกหรือช่วงคับคั่งอาจมีค่าบริการเพิ่มเล็กน้อย การเรียกรถผ่านแอปอาจมีค่าบริการเสริมตามความต้องการและความหนาแน่นการเดินรถ

วิธีการชำระเงิน

การชำระเงินทำได้ทั้ง

• ชำระเงินสด (หยวนจีน)
• บัตรขนส่งสาธารณะบางประเภท
• จ่ายผ่านมือถือ เช่น Alipay, WeChat Pay ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด

เคล็ดลับการใช้แท็กซี่ในเซี่ยงไฮ้

• ควรเตรียมชื่อสถานที่เป็นภาษาจีน หรือแสดง แผนที่บนมือถือ ให้คนขับดู
• หากเป็นช่วงเร่งด่วนควรเผื่อเวลาเพราะการจราจรในเซี่ยงไฮ้อาจติดขัด โดยเฉพาะย่านศูนย์ธุรกิจ เช่น Lujiazui และ People’s Square
• หากเป็นเวลากลางคืน แนะนำให้เรียกรถผ่านแอป เพราะปลอดภัยกว่าและมีการระบุตัวตนคนขับอย่างชัดเจน ช่วยให้การเดินทางในเมืองใหญ่เป็นไปอย่างสบายใจและมั่นใจมากขึ้น

เรือเฟอร์รี่และเรือสำราญ

การนั่งเรือในเซี่ยงไฮ้ถือเป็นอีกวิธีการเดินทางที่ทั้งสะดวกและได้บรรยากาศไปพร้อมกัน โดยเฉพาะเส้นทางที่พาข้ามแม่น้ำหวงผู่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวิวสวยๆ ระหว่างฝั่งผู่ตงและผู่ซี ทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนิยมใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง นอกจากเรือข้ามฟากทั่วไปแล้ว ยังมีเรือล่องชมวิวที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากดื่มด่ำบรรยากาศเซี่ยงไฮ้ยามค่ำคืนแบบเต็มอิ่ม

เส้นทางการเดินทาง

เรือข้ามฟากหลักจะเชื่อมพื้นที่สำคัญ เช่น

• The Bund ↔ Lujiazui (เส้นทางยอดนิยม เห็นวิวสกายไลน์ทั้งสองฝั่งชัดเจน)
• แม่น้ำหวงผู่ตอนเหนือ เชื่อมชุมชนหลายแห่ง เช่น Yangpu - Pudong
• เส้นทางท่องเที่ยวพิเศษ สำหรับคนที่ต้องการล่องชมแม่น้ำเป็นทัวร์เฉพาะ โดยเรือล่องชมวิวจะวิ่งเป็นรอบๆ และใช้เวลาประมาณ 45 นาที - 1 ชั่วโมง

เวลาและความถี่ในการเดินเรือ

ตั๋วและการชำระเงิน

ราคาตั๋วเรือข้ามฟากค่อนข้างประหยัด อยู่ราว 2 - 5 หยวน ขึ้นอยู่กับเส้นทาง สามารถจ่ายด้วยเงินสด บัตรขนส่งสาธารณะ หรือแอปจ่ายเงินอย่าง Alipay / WeChat Pay ส่วนเรือล่องชมแม่น้ำจะอยู่ที่ประมาณ 120 - 200 หยวน ตามชนิดเรือและระดับบริการ หากซื้อล่วงหน้าในแอปมักจะได้ราคาที่คุ้มกว่าหน้าท่าเรือ

เคล็ดลับ

• หากอยากได้วิวสวยๆ แนะนำให้นั่งด้านบนเรือ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก
• ช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดคนจะค่อนข้างเยอะ ควรเผื่อเวลาในการรอเรือ
• หากอยากถ่ายภาพเก็บบรรยากาศแบบเต็มๆ ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางช่วงเร่งด่วนเพราะเรืออาจแน่น

รถบัสเที่ยวชมสถานที่ & อุโมงค์เที่ยวชมเดอะบันด์

รถบัสเที่ยวชมสถานที่ในเซี่ยงไฮ้ หรือที่หลายคนรู้จักในรูปแบบ Hop-on Hop-off เป็นวิธีท่องเที่ยวที่สบายและเหมาะสำหรับคนที่อยากเก็บแลนด์มาร์กดังๆ ให้ครบภายในวันเดียว รถบัสจะวิ่งผ่านเส้นทางท่องเที่ยวหลัก เช่น เดอะบันด์, ถนนหนานจิง, ย่านผู่ตง และพิพิธภัณฑ์สำคัญหลายแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้น-ลงได้ตามใจชอบในทุกป้าย ทำให้จัดทริปได้ยืดหยุ่นกว่าการเดินทางแบบอื่น

ส่วนอุโมงค์เที่ยวชมเดอะบันด์ (Bund Sightseeing Tunnel) เป็นประสบการณ์สั้นๆ แต่แปลกใหม่ เพราะผู้โดยสารจะนั่งรถรางเล็กวิ่งลอดใต้อุโมงค์ที่เต็มไปด้วยแสง สี เสียง และเอฟเฟกต์ต่างๆ ให้ความรู้สึกเหมือนขี่เครื่องเล่นเบาๆ มากกว่าเป็นระบบขนส่งทั่วไป เหมาะกับคนที่อยากลองอะไรแปลกใหม่หรือพาเด็กๆ มาสนุก

ตั๋วและการชำระเงิน

ราคาตั๋วรถบัสเที่ยวชมขึ้นอยู่กับเส้นทางและบริษัทที่ให้บริการ โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 120-200 หยวน ต่อวัน และมักรวมแผนที่เส้นทางกับหูฟังบรรยายหลายภาษา จ่ายเงินได้ทั้งเงินสด บัตร และแอปจ่ายเงิน

สำหรับอุโมงค์เที่ยวชมเดอะบันด์ ราคาตั๋วจะอยู่ที่ประมาณ 45-55 หยวนต่อเที่ยว และสามารถซื้อได้ทั้งที่จุดจำหน่ายตั๋วหน้าทางเข้า หรือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Trip.com หรือ WeChat Pay

การจ่ายผ่านมือถือถือว่าสะดวกที่สุด เพราะแอปในจีนรองรับการชำระเงินรวดเร็วและมักมีส่วนลดเป็นครั้งคราว หากต้องการความคุ้มค่า แบบ Day Pass ของรถบัสก็ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากเที่ยวย่านกลางเมืองให้ครบในหนึ่งวัน

เช่าจักรยาน

ขอบคุณรูปภาพจาก Bank Wacharaporn

การปั่นจักรยานในเซี่ยงไฮ้เป็นอีกวิธีเดินทางที่ได้ทั้งความคล่องตัวและความเพลิดเพลิน เมืองนี้มีเลนจักรยานและพื้นที่ทางเรียบให้ปั่นสบายหลายเส้นทาง โดยเฉพาะย่านริมแม่น้ำหวงผู่และสวนสาธารณะใหญ่ๆ จึงเหมาะมากสำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบชิลล์ๆ หรือเดินทางในระยะใกล้ๆ ระหว่างสถานที่ท่องเที่ยว

เช่าได้ที่ไหน

จักรยานเช่าแบบ Bike Sharing สามารถหาได้ทั่วเมือง โดยเฉพาะจุดใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานที่ท่องเที่ยว และถนนสายใหญ่ ผู้ให้บริการยอดนิยมมีทั้ง

• Hellobike
• Meituan Bike
• Alipay Bike (formerly Mobike)

วิธีการใช้งาน

• ดาวน์โหลดแอปที่ต้องการ เช่น Alipay (มีเมนู Bike), Meituan หรือ Hellobike
• ผูกบัตรหรือวิธีชำระเงิน เช่น Alipay / WeChat Pay
• สแกน QR Code บนจักรยานเพื่อปลดล็อก
• ปั่นเสร็จแล้วจอดในพื้นที่ที่กำหนด (อย่าจอดขวางทางเท้า) และกดปิดการใช้งานในแอป
• ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเพียง 1 - 3 หยวนต่อครั้ง ขึ้นกับระยะเวลา

เคล็ดลับ

• ควรเลือกจักรยานที่สภาพดี เบรกแน่น ยางไม่แฟบ
• หลีกเลี่ยงการปั่นในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะรถเยอะและเส้นทางหนาแน่น
• ถ้าปั่นริมแม่น้ำ แนะนำช่วงเช้าหรือเย็นเพราะอากาศดีและวิวสวย
• หากเป็นมือใหม่ ควรปั่นชิดขวาตามกฎของถนน และระวังสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่วิ่งเร็ว

รถเช่า

การเช่ารถในเซี่ยงไฮ้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อยากเดินทางออกนอกเมือง หรือมีแพลนไปหลายเมืองต่อ เช่น หางโจว ซูโจว หรืออู๋ซี แบบไม่ต้องต่อรถหลายรอบ ถึงแม้ในเมืองจะมีระบบขนส่งสาธารณะดีมาก แต่การเช่ารถก็ช่วยให้การเดินทางยืดหยุ่นขึ้น โดยเฉพาะคนที่มาเป็นครอบครัวหรือมากันหลายคน

เช่ารถได้ที่ไหน?

บริษัทเช่ารถที่พบได้บ่อย ได้แก่

• Hertz, Avis, Europcar มีเคาน์เตอร์ที่สนามบินผู่ตงและหงเฉียว
• Shouqi Car Rental, eHi Car Services บริษัทท้องถิ่นที่ราคาเข้าถึงงบง่ายกว่า

ข้อกำหนดสำหรับนักท่องเที่ยว

สิ่งสำคัญคือ ใบขับขี่ต่างประเทศหรือใบขับขี่สากลใช้ไม่ได้ในจีน หากต้องการขับรถเอง ต้องทำใบขับขี่จีนแบบชั่วคราว ซึ่งใช้เวลาและขั้นตอนมาก ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกเช่ารถพร้อมคนขับแทนเพื่อลดความยุ่งยาก ซึ่งสำหรับรถเช่าพร้อมคนขับ เพียงใช้หนังสือเดินทางและข้อมูลการจองก็เพียงพอ

ค่าใช้จ่าย

• หากเช่ารถขับเอง (สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่จีน) ราคาเริ่มต้นประมาณ 250 - 400 หยวนต่อวัน
• รถเช่าพร้อมคนขับเริ่มราว 600 - 1,200 หยวนต่อวัน ขึ้นอยู่กับขนาดรถและระยะทาง
• ค่าน้ำมัน ทางด่วน และค่าที่จอด ควรบวกเพิ่มไว้ในงบประมาณด้วย

ข้อควรระวัง

• การจราจรเซี่ยงไฮ้ค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะช่วงเช้า–เย็นของวันทำงาน
• มีระบบจำกัดป้ายทะเบียนต่างเมืองบางช่วงเวลา หากจะขับออกนอกเมืองต้องเช็กเส้นทางล่วงหน้า
• ที่จอดรถในย่านดังอย่าง The Bund หรือ Lujiazui หายากและราคาแพง
• หากไม่คุ้นเคยกับกฎการขับขี่ของจีน เช่น การให้ทาง หรือเลนพิเศษ แนะนำเลือกรถเช่าพร้อมคนขับจะสบายและปลอดภัยกว่า

สำรวจด้วยการเดินเท้าในเซี่ยงไฮ้

การเดินเท้าเที่ยวเซี่ยงไฮ้เป็นวิธีที่ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศเมืองแบบใกล้ชิดที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความคึกคักของย่านการค้า ตรอกเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่ หรือวิวแม่น้ำหวงผู่ที่เป็นเอกลักษณ์ การเดินเที่ยวช่วยให้เห็นเสน่ห์เล็กๆ น้อยๆ ที่การนั่งรถอาจมองข้ามไป เหมาะกับคนที่อยากเก็บประสบการณ์แบบช้าๆ ชิลล์ๆ

Citywalk ในเซี่ยงไฮ้

ช่วงหลังมานี้ Citywalk Shanghai กำลังฮิตมาก ทั้งในหมู่วัยรุ่นคนจีนและนักท่องเที่ยว เพราะเมืองนี้มีเส้นทางให้เดินเล่นเพลินได้หลายแบบ

• The Bund - Nanjing Road : เดินกินลมชมวิว ตึกยุโรปสลับกับตึกโมเดิร์น
• Xintiandi - Huaihai Road : ย่านเท่ๆ แบบลอฟต์ ผสมร้านอาหารและคาเฟ่เยอะ
• Former French Concession : ถนนร่มรื่น ต้นไม้สูงทอดเงาตลอดทาง บรรยากาศย้อนยุคมาก

สภาพอากาศในเซี่ยงไฮ้

อากาศในแต่ละฤดูมีผลกับการเดินเท้าค่อนข้างมาก

• ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. - พ.ค.) อากาศดีสุด เหมาะแก่การเดิน
• ฤดูร้อน (มิ.ย. - ส.ค.) ร้อนชื้น อาจต้องพักบ่อยๆ
• ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย. - พ.ย.) เย็นสบาย เดินสนุก
• ฤดูหนาว (ธ.ค. - ก.พ.) หนาวแบบลมแรง ควรใส่เสื้อหลายชั้น

เดินเล่นชมวิว

จุดเดินชมวิวสวยๆ ที่ห้ามพลาด ได้แก่

• The Bund : เดินตอนเย็นจะเห็นไฟตึกฝั่งผู่ตงเต็มรูปแบบ
• ริมแม่น้ำ Binjiang Avenue ฝั่งผู่ตง : ทางเดินเรียบยาว เห็นวิวหวงผู่แบบกว้าง
• สวน Century Park : เดินเล่นชิลล์ๆ มีมุมธรรมชาติและพื้นที่ร่มรื่น

เคล็ดลับ

• พกพาวเวอร์แบงก์ เพราะถ่ายรูปเพลินจนแบตหมดง่ายมาก
• ใส่รองเท้าที่เดินสบาย เน้นพื้นนุ่ม เพราะแต่ละเส้นทางค่อนข้างยาว
• หลีกเลี่ยงเดินตอนเที่ยงในช่วงหน้าร้อน อากาศร้อนจัด
• ใช้แอปแผนที่อย่าง Baidu Maps หรือ Google Maps
• หากอยากเดินแบบปลอดภัยและไม่หลง ยึดตามถนนสายหลักไว้ก่อน แล้วค่อยค่อยเลี้ยวเข้าซอยย่อย

รถไฟความเร็วสูงของจีน

รถไฟความเร็วสูงของจีนหรือที่หลายคนคุ้นในชื่อ High-Speed Rail (HSR) ถือเป็นหนึ่งในวิธีเดินทางที่สะดวกและเร็วที่สุดจากเซี่ยงไฮ้ไปเมืองต่างๆ รอบๆ ระบบรถไฟของจีนขึ้นชื่อเรื่องความตรงเวลา ความสะอาด และที่นั่งกว้างกว่าสายการบินโลว์คอสต์หลายเจ้า ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมของทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

รถไฟวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 250 - 350 กม./ชม. ทำให้เดินทางระหว่างเมืองรวดเร็วมาก เช่น เซี่ยงไฮ้–หางโจวใช้เวลาแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เส้นทางรถไฟความเร็วสูงยังเชื่อมต่อสถานีสำคัญ เช่น Shanghai Hongqiao Railway Station และ Shanghai Railway Station ทำให้เปลี่ยนจากสนามบินหรือรถไฟใต้ดินต่อได้ง่าย ไม่ต้องเดินไกล

เลือกการเดินทางที่ใช่สำหรับคุณในประเทศจีน

การเดินทางภายในประเทศจีนมีทางเลือกหลากหลายมาก ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางไกล เครื่องบิน รถบัสประจำจังหวัด ไปจนถึงบริการเรียกรถสมัยใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีเดินทางตามสไตล์ ความสะดวก และระยะทางที่ต้องการได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งที่นยี่มีระบบขนส่งที่ล้ำสมัย ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างเมืองและในเมืองเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้มาเยือนทุกประเภท

ตารางแนะนำการเดินทางตามสไตล์นักท่องเที่ยว