การเตรียมเอกสารเข้าญี่ปุ่นให้ถูกต้องคือหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่นักเดินทางไม่ควรมองข้าม บทความนี้รวบรวมข้อมูล ใบ ตม. ญี่ปุ่น (Japan Arrival Card) และ Visit Japan Web ฉบับอัปเดตปี 2568 ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งวิธีกรอกแบบออนไลน์และแบบกระดาษ พร้อมเคล็ดลับป้องกันข้อผิดพลาดที่มักทำให้ “ติดด่าน” หรือเสียเวลาในสนามบิน Trip.com ตั้งใจสรุปทุกขั้นตอนให้อ่านเข้าใจง่าย เพื่อให้คุณเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้อย่างมั่นใจ ไม่พลาด ไม่งง และไม่ตกเครื่องแน่นอน!
ใบ ตม. ญี่ปุ่นคืออะไร
ที่มา: สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น
ใบตม.ญี่ปุ่น คือเอกสารที่จะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นชาวต่างชาติ ต้องกรอกและยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่สนามบินเมื่อเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยทั่วไปใบนี้ จะถูกแจกบนเครื่องบินก่อนถึงญี่ปุ่น หรือสามารถขอรับได้ที่บริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน ซึ่งข้อมูลที่ต้องกรอกในใบนี้ คือ
- ชื่อ-นามสกุล (ตามหนังสือเดินทาง)
- วันเกิด
- สัญชาติ
- หมายเลขเที่ยวบิน
- จุดประสงค์ของการเดินทาง (เช่น ท่องเที่ยว, ธุรกิจ)
ระยะเวลาที่จะพำนักในญี่ปุ่น - ที่อยู่ในญี่ปุ่น (โรงแรม หรือที่พัก)
- เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือเคยถูกปฏิเสธเข้าประเทศญี่ปุ่นหรือไม่
- ลายเซ็น
แต่ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวมักกรอกข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ล่วงหน้ามาแล้ว เพราะจะทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องมากรอกข้อมูลอีกครั้ง ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เข้าเมืองได้ทันทีไม่ต้องรอนาน
ใครต้องกรอกใบ ตม. ญี่ปุ่น?
ผู้ที่ต้องกรอกจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคน ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น โดยไม่ได้ใช้ระบบ Visite Japan Web เพื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง มีดังนี้
- นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน
- นักธุรกิจที่เดินทางมาทริปธุรกิจ
- ผู้ที่มาเยี่ยมครอบครัวหรือเพื่อนฝูง
- นักเรียน นักศึกษา
หากเดินทางผ่านประเทศญี่ปุ่น แต่ไมไ่ด้ออกจากสนามบิน โดยปกติแล้วไม่จำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มนี้ แต่หากต้องผ่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อพักผ่อนในญี่ปุ่น จำเป็นต้องกรอกเท่านั้น
Visit Japan Web คืออะไร
Visit Japan Web คือระบบออนไลน์ของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนญี่ปุ่นที่เดินทางกลับประเทศของตัวเอง กรอกข้อมูลล่วงหน้าสำหรับการเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้แบบครบจบในที่เดียว เพื่อให้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเป็นไปอย่างรวดเร็ว และลดขั้นตอนการใช้เอกสารกระดาษ ซึ่งเมื่อลงทะเบียนในระบบ Visit Japan Web สามารถกรอกแบบฟอร์มล่วงหน้าได้ ดังนี้
- ใบตม. ญี่ปุ่น
แทนที่จะกรอกแบบกระดาษบนเครื่องบินหรือที่สนามบิน สามารถกรอกล่วงหน้ามาได้เลย - แบบฟอร์มศุลกากร
ใช้สำหรับแจ้งสิ่งของนำเข้าประเทศและของที่ต้องเสียภาษี - ข้อมูลการเดินทางและสุขภาพ
เคยใช้ช่วงโควิดเพื่อแสดงข้อมูลวัคซีน ตอนนี้ไม่บังคับแล้ว แต่บางกรณีอาจจำเป็น - รับ QR Code เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สนามบิน
QR Code จะแสดงข้อมูลที่คุณกรอกล่วงหน้า ใช้แทนการยื่นกระดาษทั้งหมด
ข้อดีของการใช้ Visit Japan Web ทำให้เมื่อมาถึงที่สนามบินญี่ปุ่นแล้ว ไม่ต้องกรอกใบตม. และใบศุลกากรบนเครื่องอีกต่อไป ประหยัดเวลา ลดการใช้กระดาษ และป้องกันการผิดพลาดจากการกรอกมือด้วย
ลิงก์เว็บไซต์ทางการของ Visit Japan Web -> https://www.vjw.digital.go.jp แนะนำให้ลงทะเบียนก่อนเดินทางประมาณ 1-3 วัน เพื่อให้ระบบประมวลผลข้อมูลทันเวลา
เปรียบเทียบ: กรอกใบ ตม. ญี่ปุ่นแบบกระดาษ vs Visit Japan Web 2568
หลังจากโควิด-19 สิ้นสุด ญี่ปุ่นเปิดให้ผู้เดินทางเลือกได้ 2 วิธีในการยื่นข้อมูลตรวจคนเข้าเมือง คือ กรอกใบ ตม. แบบกระดาษ (Paper Form) หรือ กรอกออนไลน์ผ่าน Visit Japan Web มาดูความแตกต่างเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกันค่ะ
หัวข้อเปรียบเทียบ | แบบกระดาษ (Paper Form) | Visit Japan Web (ออนไลน์) |
|---|---|---|
วิธีการกรอก | กรอกบนเครื่องบินหรือที่สนามบินด้วยปากกา | กรอกออนไลน์ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ |
เอกสารที่ใช้ | ต้องใช้ใบ ตม. และใบศุลกากรแยกกัน | ใช้ QR Code เดียว รวมข้อมูล ตม. + ศุลกากร |
ความสะดวก | ต้องพกปากกาและใช้เวลารอที่สนามบิน | สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องต่อคิวนาน |
ความแม่นยำ | อาจเกิดข้อผิดพลาดจากการเขียนมือ | ระบบช่วยตรวจสอบข้อมูลก่อนส่ง |
การประมวลผล | ตรวจเอกสารด้วยเจ้าหน้าที่ | ข้อมูลส่งเข้าระบบอัตโนมัติล่วงหน้า |
ใช้ได้เมื่อ | ไม่มีอินเทอร์เน็ต / ไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า | มีอินเทอร์เน็ตและบัญชี Visit Japan Web |
เหมาะกับใคร | ผู้สูงอายุ / คนที่ไม่สะดวกใช้ออนไลน์ | นักเดินทางทั่วไป / ผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว |
💡 สรุป: ถ้าคุณมีอินเทอร์เน็ตและใช้สมาร์ตโฟนได้สะดวก แนะนำให้ใช้ Visit Japan Web จะผ่านด่านได้เร็วกว่า แต่ถ้าไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า ก็ยังสามารถกรอกใบ ตม. แบบกระดาษที่สนามบินได้เช่นกัน
ควรกรอกใบ ตม. ขาเข้าประเทศญี่ปุ่นที่ไหนและเมื่อไหร่
- กรอกได้ตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินระหว่างเดินทาง
สายการบินส่วนใหญ่ที่บินเข้าญี่ปุ่น แอร์โฮสเตสจะมีการแจกใบตม. ให้ผู้โดยสารต่างชาติระหว่างบิน เมื่อได้รับใบดังกล่าวแล้ว ควรรีบกรอกให้เรียบร้อย เพื่อประหยัดเวลาเมื่อลงจากเครื่อง แนะนำให้พกปากกาติดตัวขึ้นไปด้วย เพราะบนเครื่องจะไม่มีบริการให้ - หากไม่ได้กรอกบนเครื่อง สามารถกรอกที่สนามบินญี่ปุ่นได้
หากไม่ได้รับใบตม.บนเครื่อง หรือยังไม่ได้กรอก สามารถขอฟอร์มได้อีกครั้งที่สนามบินญี่ปุ่น เพราะมีจุดบริการก่อนถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง มีโต๊ะพร้อมแบบฟอร์ม ปากกา และพื้นที่ให้นั่งกรอกก่อนได้ - ควรกรอกล่วงหน้าอย่างน้อย 24-72 ชั่วโมง
ถ้าใช้ Visit Japan Web ควรลงทะเบียนและกรอกข้อมูลล่วงหน้ามาแล้วอย่างน้อย 1-3 วันก่อนเดินทาง เพื่อให้ระบบมีเวลาประมวลผล และคุณจะได้รับ QR Code ที่สามารถแสดงได้ทันทีเมื่อถึงญี่ปุ่น
หากลงทะเบียน Visit Japan Web มาก่อนเดินทาง ไม่จำเป็นต้องกรอกใบตม. ด้วยกระดาษอีก นำ QR Code มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตอนผ่านด่านตรวจก็พอ และไม่ว่าจะกรอกบนเครื่องหรือที่สนามบิน ควรกรอกใบตม.ให้เรียบร้อยก่อนถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จะขอเอกสารพร้อมพาสปอร์ต เพื่อตรวจสอบข้อมูล
วิธีกรอกใบ ตม. ขาเข้าประเทศญี่ปุ่น (ผ่าน Visit Japan Web)
การลงทะเบียนผ่านระบบ Visit Japan Web เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรญี่ปุ่นในปี 2568 เพียงทำตาม 7 ขั้นตอนด้านล่างนี้ ก็สามารถเข้าเมืองได้อย่างราบรื่นในไม่กี่นาที
ขั้นตอนที่ 1: สร้างบัญชี (Create a New Account / Login)
ที่มา: Visit Japan Web
ไปที่เว็บไซต์ https://www.vjw.digital.go.jp จากนั้นกด Create New Account เพื่อสมัครสมาชิกใหม่
- กรอกอีเมลและรหัสผ่านที่ต้องการใช้
- ยืนยันบัญชีผ่านลิงก์ในอีเมล
- หากมีบัญชีอยู่แล้ว สามารถกด Login ได้ทันที
💡เคล็ดลับ: ต้องใช้อีเมลจริง เพราะระบบจะส่งลิงก์ยืนยันก่อนเริ่มใช้งาน
ขั้นตอนที่ 2: ลงทะเบียนผู้ใช้ (Register User)
ที่มา: Visit Japan Web
ในขั้นตอนนี้ ระบบจะให้ลงทะเบียน “หมวดหมู่ผู้เดินทาง” และ “ข้อมูลส่วนตัว”
(1) เลือกหมวดหมู่การเดินทางในหน้า Your details
ตอบคำถาม 3 ข้อสั้น ๆ เพื่อระบุสถานะของคุณ
- มีหนังสือเดินทางที่ออกโดยรัฐบาลญี่ปุ่นหรือไม่
- เป็นผู้พำนักในญี่ปุ่นที่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าประเทศหรือไม่
- ต้องการใช้ QR Code แทนการแสดงพาสปอร์ตตอนซื้อของปลอดภาษีหรือไม่
(2) ลงทะเบียนข้อมูลหนังสือเดินทาง
สามารถเลือกได้ 2 วิธี
- สแกนด้วยกล้อง (Scan with camera)
- กรอกข้อมูลด้วยตนเอง (Enter manually)
ช่องในแบบฟอร์ม | วิธีกรอก |
|---|---|
Last Name / First Name | กรอกตามพาสปอร์ต |
Passport Number | หมายเลขหนังสือเดินทาง |
Nationality | THAI |
Date of Birth | รูปแบบ DD/MM/YYYY |
Expiration Date | วันที่หมดอายุของหนังสือเดินทาง |
ขั้นตอนที่ 3: ลงทะเบียนแผนการเดินทาง (Register Entry/Return Schedule)
ที่มา: Visit Japan Web
กรอกข้อมูลเที่ยวบินและรายละเอียดการเดินทางเข้า/ออกจากญี่ปุ่น
ช่องในแบบฟอร์ม | วิธีกรอก |
|---|---|
Type of Visit | Temporary Visitor (หากมาเที่ยว) |
Arrival Date | วันที่เดินทางถึง |
Airline / Flight No. | เช่น JL708 หรือ XJ601 |
Place of Stay in Japan | ที่พักในญี่ปุ่น (ชื่อโรงแรม + เมือง) |
Length of Stay | จำนวนวันที่พักในญี่ปุ่น |
💡 เคล็ดลับ: หากเคยลงทะเบียนมาก่อน สามารถกดปุ่ม “Copy entry/return details” เพื่อคัดลอกข้อมูลการเดินทางเดิมมาใช้ได้เลย ไม่ต้องกรอกใหม่ทุกครั้ง
ขั้นตอนที่ 4: กรอกขั้นตอนการเข้าประเทศ (Fill Your Entry Procedure)
ที่มา: Visit Japan Web
คลิกที่ทริปที่เพิ่งลงทะเบียน แล้วกรอกข้อมูลสำหรับ
- การตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Clearance)
- การสำแดงศุลกากร (Customs Declaration)
Immigration Clearance
สำหรับชาวต่างชาติ ให้ตอบคำถามเกี่ยวกับ
- วัตถุประสงค์ในการเดินทาง (ท่องเที่ยว / ธุรกิจ ฯลฯ)
- ระยะเวลาพำนัก
- สถานที่พัก
- ประวัติการเข้าญี่ปุ่น
Customs Declaration
สำหรับการแจ้งสิ่งของนำเข้า
- ตอบว่ามีของต้องสำแดงหรือไม่
- หากมี ให้ระบุรายการสิ่งของและมูลค่า
ขั้นตอนที่ 5: กรอกข้อมูลสุขภาพ (Quarantine / Health Status)
ระบบจะมีแบบสอบถามสุขภาพเบื้องต้น เช่น อาการไข้ หรือการสัมผัสผู้ติดเชื้อ (แม้ปัจจุบันไม่ได้บังคับเหมือนช่วงโควิด แต่บางกรณีอาจจำเป็น)
ขั้นตอนที่ 6: ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล (Confirmation)
ก่อนกดยืนยัน ระบบจะสรุปข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง ทั้งส่วนของ Immigration และ Customs ตรวจดูว่าชื่อ–นามสกุล หมายเลขเที่ยวบิน และข้อมูลโรงแรมถูกต้องครบถ้วน
💡 เคล็ดลับ: หากต้องการแก้ไข สามารถกดย้อนกลับเพื่อแก้ได้ก่อนกดยืนยันสุดท้าย
ขั้นตอนที่ 7: แสดง QR Code สำหรับผ่านด่าน (Unified QR Code)
ที่มา: Visit Japan Web
เมื่อยืนยันข้อมูลครบทุกส่วน ระบบจะสร้าง รหัส QR Code เดียว (Unified QR Code) ซึ่งภายในประกอบด้วยข้อมูลทั้ง
- Immigration Clearance (ใบ ตม.) และ
- Customs Declaration (ศุลกากร)
💡 เคล็ดลับ: แนะนำให้ บันทึกภาพหน้าจอ QR Code ไว้ล่วงหน้า เผื่ออินเทอร์เน็ตไม่เสถียร
เตรียมตัวก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นอย่างไร
ก่อนออกเดินทางสู่ญี่ปุ่น ปี 2568 นี้ ลองเช็กให้ครบทุกข้อในลิสต์นี้ ทั้งเอกสารสำคัญ อินเทอร์เน็ต การเดินทางในประเทศ เงิน และของใช้จำเป็น เช็กลิสต์นี้จะช่วยให้คุณเดินทางได้ราบรื่น และไม่พลาดสิ่งสำคัญเลยค่ะ
1. เอกสารสำคัญ
รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
หนังสือเดินทาง (Passport) | ต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนวันเดินทาง |
วีซ่า (Visa) | คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า หากพำนักไม่เกิน 15 วัน เพื่อการท่องเที่ยว (ยกเว้นกรณีไปทำงาน/เรียนต่อ) |
ตั๋วเครื่องบิน & การจองที่พัก | ควรจองล่วงหน้าและพิมพ์เอกสารเก็บไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่ ตม. ขอให้แสดง |
QR Code จาก Visit Japan Web | ใช้แทนใบ ตม. และใบศุลกากร แนะนำให้ลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 1–3 วัน |
เอกสารแสดงฐานะทางการเงิน | เช่น Statement หรือเงินสดติดตัว เผื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ |
💡 เคล็ดลับ: สแกนเก็บสำเนาเอกสารไว้ในมือถือหรืออีเมล เพื่อสำรองกรณีฉุกเฉิน
2. อินเทอร์เน็ต & การสื่อสาร
รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
eSIM / SIM ญี่ปุ่น | ซื้อ eSIM ญี่ปุ่น ล่วงหน้าผ่าน Trip.com เพื่อใช้งานทันทีที่ถึงสนามบิน |
Pocket Wi-Fi | เหมาะกับคนที่เดินทางเป็นกลุ่ม ใช้แชร์อินเทอร์เน็ตได้หลายเครื่อง |
แอปที่ควรมีติดเครื่อง | Google Maps, Google Translate, Japan Transit Planner, Visit Japan Web |
💡 เคล็ดลับ: อย่าลืมเช็กว่ามือถือของคุณรองรับ eSIM หรือไม่ก่อนซื้อ
3. การเดินทางภายในญี่ปุ่น
รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
JR Pass | เหมาะกับผู้ที่เดินทางหลายเมือง เช่น โตเกียว–โอซาก้า ซื้อผ่าน Trip.com ได้ราคาพิเศษ |
IC Card (Suica / Pasmo) | ใช้แตะขึ้นรถไฟ รถบัส และซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้ทั่วประเทศ |
วางแผนเส้นทางล่วงหน้า | ใช้แอป Japan Transit Planner หรือ Google Maps เพื่อคำนวณเวลาเดินทางระหว่างเมือง |
4. เงิน & การชำระเงิน
รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
เงินสด (Cash) | พกเงินสดติดตัวบางส่วน ร้านอาหารท้องถิ่นและวัดหลายแห่งยังไม่รับบัตร |
บัตรเครดิต / เดบิต | ใช้ได้ทั่วไปในเมืองใหญ่ แต่ควรพกบัตรที่มีโลโก้ Visa/MasterCard |
บัตร IC (Suica / Pasmo) | เติมเงินได้ ใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อและเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ |
อัตราแลกเปลี่ยน | แลกเงินที่ไทยจะได้เรทดีกว่าในญี่ปุ่น แนะนำให้แลกเงินไว้ล่วงหน้า |
5. ของใช้ส่วนตัว & สิ่งจำเป็นในกระเป๋า
รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
อะแดปเตอร์ปลั๊กไฟ | ญี่ปุ่นใช้ปลั๊กแบบขาแบน Type A / แรงดันไฟ 100V |
เสื้อผ้า | ดูพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง (ฤดูหนาวอุณหภูมิต่ำกว่า 5°C) |
ยาประจำตัว | เตรียมเอกสารยืนยันทางการแพทย์หากพกยาเข้าประเทศ |
ของใช้พื้นฐาน | เช่น ร่มพับ, ถุงเท้า, power bank, ผ้าพันคอ (ตามฤดูกาล) |
ของฝาก | เผื่อพื้นที่ในกระเป๋าสำหรับช้อปปิ้งกลับไทย |
6. มารยาท & วัฒนธรรมพื้นฐานญี่ปุ่น
พฤติกรรมที่ควรทำ | สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง |
|---|---|
พูดเบา ๆ ในที่สาธารณะ | หลีกเลี่ยงการคุยเสียงดังบนรถไฟ |
ต่อแถวอย่างเป็นระเบียบ | อย่าแซงคิวโดยเฉพาะในสถานี |
ทิ้งขยะให้ถูกจุด | ไม่ควรทิ้งขยะข้างทาง |
ถอดรองเท้าเมื่อเข้าบ้านหรือเรียวกัง | ไม่ควรใส่รองเท้าเดินเหยียบเสื่อทาทามิในห้องพักญี่ปุ่น |
💡 เคล็ดลับ: คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับ “การเกรงใจ” มาก รอยยิ้มเล็ก ๆ จะช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นขึ้นเยอะค่ะ
คำถามที่เจ้าหน้าที่ ตม. ญี่ปุ่นมักถาม (Japan Immigration Questions 2568)
เพื่อให้ผ่านด่าน ตม. ญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่น ลองเตรียมคำตอบสำหรับคำถามยอดฮิตเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ ด้านล่างคือคำถามที่เจ้าหน้าที่มักถาม พร้อมแนวทางการตอบแบบสุภาพ เข้าใจง่าย
คำถามจากเจ้าหน้าที่ ตม. | ตัวอย่างคำตอบ (ภาษาอังกฤษ / ไทย) |
|---|---|
1. What is the purpose of your visit to Japan? (เดินทางมาญี่ปุ่นเพื่ออะไร) | “For sightseeing.” / “มาเที่ยวค่ะ” |
2. How long will you stay in Japan? (จะอยู่กี่วัน) | “Seven days.” / “ประมาณ 7 วันค่ะ” |
3. Where will you stay in Japan? (พักที่ไหน) | “At Shinjuku Hotel in Tokyo.” / “พักที่โรงแรมชินจูกุ โตเกียวค่ะ” |
4. Are you traveling alone or with someone? (เดินทางคนเดียวหรือมากับใคร) | “I’m traveling with my family.” / “มากับครอบครัวค่ะ” |
5. Do you have a return ticket? (มีตั๋วขากลับไหม) | “Yes, I have a return flight on November 30.” / “มีค่ะ กลับวันที่ 30 พฤศจิกายน” |
6. How much money do you have for your stay? (พกเงินมาเท่าไหร่) | “Around 100,000 yen.” / “ประมาณหนึ่งแสนเยนค่ะ” |
7. Have you ever been denied entry to Japan before? (เคยถูกปฏิเสธการเข้าญี่ปุ่นไหม) | “No.” / “ไม่เคยค่ะ” |
💡 เคล็ดลับ:
- ตอบให้ตรงคำถาม ไม่ต้องอธิบายยาว
- ใช้น้ำเสียงสุภาพ มองตา และยิ้มเล็กน้อย
- ถ้าเจ้าหน้าที่ถามเพิ่ม ให้เปิดเอกสารจองโรงแรม หรือตั๋วเครื่องบินให้ดูได้เลย
เริ่มต้นการเดินทางสู่ญี่ปุ่นของคุณ
ที่มา: Wikipedia
การเดินทางไปญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การจองตั๋วหรือจัดกระเป่าเท่านั้น แต่เราจำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ มาดูว่าเริ่มต้นการเดินทางไปญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง
- กำหนดวันเดินทางและระยะเวลาทริป
วางแผนก่อนได้เลยว่า อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงไหน เช่น ไปชมซากุระ (มี.ค.-เม.ย.), ไปสัมผัสหิมะ (ธ.ค.-ก.พ.) เป็นต้น ระยะเวลาที่แนะนำสำหรับมือใหม่ ควรไปประมาณ 5-10 วัน จะเดินทางได้คุ้มแน่นอน - จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า
เปรียบเทียบราคาตั๋วผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Trip.com พิจารณาสายการบินที่ตรงกับความต้องการ และแนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือน เพื่อได้ราคาดีและจัดการเรื่องอื่นต่อได้สะดวก - จองที่พัก
เลือกที่พักตามงบ เช่น โรงแรม, เกสต์เฮาส์ เป็นต้น เลือกที่พักดีๆ ใกล้สถานีรถไฟเพื่อสะดวกต่อการเดินทางในแต่ละวัน ผ่าน Trip.com ได้เลย - วางแผนเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยว
เลือกจุดท่องเที่ยวหลักที่อยากไป เช่น โตเกียวทาวเวอร์ ชิบูย่า ดิสนีย์แลนด์ เป็นต้น ใช้ Trip.com ในการวางแผนท่องเที่ยวของคุณได้อย่างสะดวก และอย่าลืมเผื่อเวลาการเดินทางระหว่างเมืองด้วย - พิจารณาการซื้อ JR Pass หรือบัตรเดินทาง
หากเดินทางเข้าเมือง แนะนำให้ซื้อ JR Pass ล่วงหน้าผ่าน Trip.com เพราะสามารถใช้ในการเดินทางทุกเส้นทางรถไฟ - เตรียมเอกสารสำคัญให้ครบ
แนะนำเตรียมเอกสารให้ครบทั้งหมด เช่น หนังสือเดินทาง, สมัคร Visit Japan Web, จองตั๋วที่พัก, ประกันเดินทาง เป็นต้น - เตรียมอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ต
ซื้อ eSIM หรือ Pocket Wi-Fi ล่วงหน้า สำหรับใช้อินเทอร์เน็ต และดาวน์โหลดแอปสำคัญที่ใช้สำหรับการเดินทางในทริปนี้ เช่น Google Maps, Google Translate เป็นต้น - แลกเงินเยน
แลกเงินบางส่วนไว้ล่วงหน้า หรือกดจากตู้ ATM ญี่ปุ่น และร้านค้าเล็กๆ หรือรถไฟบางสายยังรับเงินสดเท่านั้น - เตรียมกระเป๋าเดินทางให้เหมาะสม
ตรวจสอบอุณหภูมิ เตรียมปลั๊กแปลงไฟ พกเอกสารสำคัญไว้ในกระเป๋าถือ และเผื่อพื้นที่ไว้ใส่ของฝากกลับไทยด้วย - ศึกษาวัฒนธรรมพื้นฐาน
ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับมารยาท เช่น การต่อแถว, การพูดเขาๆ ในที่สาธารณะ เป็นต้น หลีกเลี่ยงการให้ทิป เพราะวัฒนธรรมญี่ปุ่นไม่รับทิป
การเตรียมตัวก่อนบินไปญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ถ้าคุณเข้าใจขั้นตอนและเอกสารที่จำเป็น โดยเฉพาะ ใบ ตม. ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการผ่านด่านเข้าเมือง ด้วยการลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน Visit Japan Web คุณสามารถประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงในการกรอกข้อมูลผิดพลาด และเพิ่มโอกาสในการผ่าน ตม. อย่างราบรื่น และอย่าลืมเช็กเอกสารทั้งหมดก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเดินทาง, ตั๋วเครื่องบิน, หลักฐานการจองที่พัก, ประกันเดินทาง และ QR Code จาก Visit Japan Web เพื่อให้การเดินทางของคุณสู่แดนอาทิตย์อุทัยเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกในสนามบิน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ใบตม. ญี่ปุ่น
นักท่องเที่ยวชาวไทยต้องกรอกใบ ตม. ญี่ปุ่นหรือไม่?
ต้องกรอกแม้ชาวไทยจะได้รับการยกเว้นวีซ่าระยะสั้น 15 วัน แต่ยังจำเป็นต้องกรอกใบ ตม. ทุกคน ไม่ว่าจะกรอกด้วยมือ (แบบกระดาษ) หรือแบบดิจิทัลผ่าน Visit Japan Web ก็ตามVisit Japan Web คืออะไร? ใช้แทนใบ ตม. ได้ไหม?
Visit Japan Web คือระบบออนไลน์ที่รวมการกรอกใบ ตม. ขาเข้า, ศุลกากร และข้อมูลด้านสุขภาพไว้ในที่เดียว หากลงทะเบียนครบถ้วน ระบบจะออก QR Code ให้ใช้สแกนตอนผ่านด่าน ซึ่ง สามารถใช้แทนใบ ตม. แบบกระดาษได้เลยจำเป็นต้องพิมพ์ QR Code จาก Visit Japan Web หรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ก็ได้ สามารถแสดง QR Code ผ่านมือถือหรือแท็บเล็ตตอนผ่าน ตม. ได้เลย แต่แนะนำให้แคปหน้าจอหรือบันทึกไว้ในเครื่องล่วงหน้า เผื่อไม่มีอินเทอร์เน็ตถ้าไม่ได้ลงทะเบียน Visit Japan Web จะเข้าได้ไหม?
เข้าได้ แต่จะต้องกรอกใบ ตม. และแบบศุลกากรแบบกระดาษเมื่อถึงสนามบินที่ญี่ปุ่น ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าผู้ที่ลงทะเบียนผ่าน Visit Japan Web แล้วมีโอกาสโดน ตม. ญี่ปุ่นปฏิเสธเข้าเมืองไหม?
มีโอกาสถ้าเอกสารไม่ครบ มีพฤติกรรมต้องสงสัย หรือเคยมีประวัติเข้าญี่ปุ่นผิดกฎหมายมาก่อน ควรเตรียมเอกสารให้พร้อม และตอบคำถาม ตม. อย่างมั่นใจและสุภาพต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างก่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น?
ก่อนถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ควรเตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม ได้แก่ หนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน, QR Code จากระบบ Visit Japan Web (หรือใบ ตม. กระดาษในกรณียังไม่ได้ลงทะเบียนออนไลน์), ตั๋วเครื่องบินทั้งขาเข้าและขาออก, หลักฐานการจองที่พัก รวมถึงเอกสารแสดงฐานะทางการเงิน เช่น สเตทเมนต์หรือเงินสดที่เพียงพอสำหรับระยะเวลาที่พำนักในญี่ปุ่น