เที่ยวซัวเถา 2568: คู่มือฉบับสมบูรณ์ ที่กิน ที่เที่ยว วางแผนครบ!

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
ภาพปก

ถ้าพูดถึงเมืองจีนที่มีทั้งกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่ อาหารเด็ดระดับตำนาน และวิวธรรมชาติแบบชิลล์ๆ ที่ไม่เร่งรีบ ซัวเถาเป็นชื่อที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เมืองนี้อยู่ในมณฑลกวางตุ้ง โด่งดังเรื่องวัฒนธรรมเฉาซานที่ยังคงเสน่ห์แบบดั้งเดิมไว้ครบ ทั้งวัดเก่า บ้านเรือนย้อนยุค และตลาดท้องถิ่นที่คึกคักแบบสุดๆ ใครที่อยากเที่ยวจีนฟีลอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านญาติ บอกเลยว่าที่นี่ใช่มาก เพราะผู้คนเป็นมิตร อาหารอร่อยไม่ไหว และค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้แรงเหมือนเมืองใหญ ๆ

ปัจจุบันซัวเถากลายเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไทยนิยมมากขึ้นเพราะเดินทางง่าย เครื่องบินบินตรงหลายเจ้า และแลนด์มาร์กใหม่ๆ ก็เพิ่มขึ้นเยอะ ถ้าอยากเที่ยวซัวเถาแบบครบสูตร Trip.com จะมาตอบทุกเรื่องที่ต้องรู้ ตั้งแต่ฤดูกาล ที่เที่ยว แพลนเดินทาง อาหารเด็ด วิธีเดินทางในเมือง ไปจนถึงงบประมาณแบบอัปเดตล่าสุด!

ฤดูกาลที่ดีที่สุดในการไปเยือนซัวเถา

เที่ยวซัวเถา

เวลาใครพูดถึงซัวเถา หลายคนจะคิดถึงบ้านเกิดบรรพบุรุษหรืออาหารเด็ดฟีลบ้านๆ แต่จริงๆ เมืองนี้เที่ยวสนุกกว่าที่คิดและสิ่งที่กำหนดความประทับใจได้แบบสุดๆ คือเลือกช่วงไปให้ถูกฤดูกาลนี่แหละ เพราะอากาศซัวเถาเปลี่ยนโหมดเร็วมาก เดี๋ยวแดด เดี๋ยวลม เดี๋ยวฝน แบบที่นักท่องเที่ยวมือใหม่อาจงงได้เลย ถ้าอยากเที่ยวแบบไม่เหนื่อย ไม่ต้องสู้กับสภาพอากาศ

ช่วงที่ดีที่สุด : ตุลาคม - มีนาคม

ถ้าให้เลือกช่วงที่คุ้มสุดสำหรับเที่ยวซัวเถา ยกให้ช่วงปลายปีถึงต้นปีเลย อากาศดีมากกก ไม่หนาวทรมานเหมือนเมืองเหนือของจีน แต่ก็ไม่ร้อนจนหน้าเยิ้มเหมือนช่วงกลางปี

  • อุณหภูมิอยู่ประมาณ 16 - 25 องศา เดินเล่นในเมืองได้นานแบบไม่เหนื่อย
  • ฟ้าใส ถ่ายรูปย่านเมืองเก่าหรือวัดต่างๆ จะได้ภาพที่สีสวยมาก
  • เที่ยวเกาะหนานอ้าวกำลังดี ลมพัดเย็นสบาย น้ำทะเลใสกว่าเดือนอื่นๆ
  • อาหารร้อนๆ เช่น หม้อไฟเนื้อวัว, ซุปกระดูกสไตล์เฉาซาน, ห่านพะโล้ กินแล้วฟินกว่าเดิมเพราะอากาศหนาวอ่อนๆ

ช่วงที่ควรเลี่ยง : มิถุนายน - กันยายน

ต้องบอกก่อนว่าซัวเถาอยู่ติดชายฝั่ง ดังนั้นกลางปีจะเป็นช่วงที่อากาศแปรปรวนแบบสุดๆ ทั้งฝน ทั้งลมแรง และบางปีจะมีไต้ฝุ่นผ่าน ทำให้เรือไปเกาะมักหยุดเดินหลายวัน

  • ฝนตกบ่อยแบบสุ่มเวลา คาดเดาไม่ได้
  • สภาพอากาศชื้น เดินทั้งวันคือเหนียวตัวมาก
  • ทะเลคลื่นแรง ทำให้กิจกรรมทางน้ำหรือการเดินทางไปเกาะมีโอกาสถูกยกเลิก
  • ถ่ายรูปไม่ค่อยสวยเพราะฟ้าครึ้ม
  • แต่ถ้าเป็นคนไม่กลัวฝน เน้นเที่ยวในเมือง กินของอร่อยเข้าร้านคาเฟ่ หรืออยากประหยัดงบ ที่พักบางแห่งก็จะราคาดี

ช่วงโอเคใช้ได้ : เมษายน - พฤษภาคม

เดือนนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูเย็นเข้าสู่หน้าร้อน อากาศอุ่นขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับอบอ้าวแบบนั่งเฉยๆ ก็มีเหงื่อออก

  • แดดสวย เหมาะกับการถ่ายรูปวิวทะเล
  • เดินเที่ยวสวนสาธารณะหรือเส้นทางธรรมชาติได้แบบไม่เหนื่อยมาก
  • คนไม่เยอะเท่าช่วงปลายปี
  • ร้านอาหารท้องถิ่นเปิดครบ ไม่ใช่ช่วงปิดปรับปรุง
จองตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพสู่กวางโจว
  • เที่ยวเดียว
  • ไป-กลับ

ราคาที่แสดงคำนวณจากราคาตั๋วในเส้นทางเดียวกันโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์บน Trip.com

ตั๋วเครื่องบินไปกว่างโจว

10 ที่เที่ยวซัวเถาห้ามพลาด อัปเดตล่าสุด

1) ย่านเมืองเก่าซัวเถา & สวนสาธารณะเล็ก (Shantou Old Town & Xiao Gongyuan)

ย่านเมืองเก่าซัวเถา

ย่านเมืองเก่าซัวเถาเป็นโซนที่เดินแล้วรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในจีนยุคคลาสสิกแบบไม่ต้องแกล้งว่าศึกษาประวัติศาสตร์ เพราะอาคารเก่าแนวยุโรปผสมจีนยังคงสภาพดี เดินถ่ายรูปคือได้ฟีลย้อนเวลาแบบเต็มๆ ร้านกาแฟเก๋ๆ ก็เปิดเยอะขึ้นมาก ส่วนสวนสาธารณะเล็ก Xiao Gongyuan อยู่ใกล้กัน เดินต่อได้เลย เป็นมุมพักเท้าที่สงบ เหมาะกับนั่งกินไอศกรีมแล้วดูคนท้องถิ่นเดินผ่านไปมาแบบเพลินๆ

  • คำแนะนำ : ไปช่วงสายหรือบ่ายแก่ๆ แสงสวย เดินง่าย
  • ที่อยู่ : เขต Jinping, เมืองซัวเถา
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • เวลาทำการ : เดินได้ทั้งวัน แต่ร้านค้าเปิด 10.00 - 20.00 น.

2) เกาะหนานอ้าว (Nan'ao Island)

เกาะหนานอ้าว

เกาะหนานอ้าวคือจุดที่ทำให้คนเริ่มอยากเที่ยวซัวเถามากขึ้นในช่วงหลัง เพราะบรรยากาศทะเลดีแบบเกินคาด น้ำใส หาดสะอาด และมีทางเชื่อมจากฝั่งที่เดินทางสะดวกมาก อยากเล่นน้ำ นั่งคาเฟ่ริมหาด หรือปั่นจักรยานชมลมทะเลคือทำได้หมด ช่วงเย็นพระอาทิตย์ตกสวยมากจนคนท้องถิ่นยังชอบไปดูกัน กิจกรรมบนเกาะมีเยอะขึ้น ทั้งคาเฟ่ใหม่และจุดชมวิวบนเขา

  • คำแนะนำ : เช็กสภาพอากาศก่อนข้ามไป เพราะบางวันลมแรง
  • ที่อยู่ : เขตกงชาง เมืองซัวเถา
  • ค่าเข้าชม : ฟรี (ยกเว้นบางจุดเสียเพิ่ม)
  • เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง

3) อุทยานภูเขาเชวี่ยสือ (Queshi Scenic Area)

อุทยานภูเขาเชวี่ยสือ

ใครชอบธรรมชาติแบบเดินง่ายๆ ต้องมาที่นี่ อุทยานภูเขาเหอซือมีเส้นทางเดินชมวิวริมทะเลพร้อมภูเขาหินสวยๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีลมทะเลพัดเย็นตลอด ทำให้เดินได้สบายไม่เหนื่อยมาก ไฮไลท์คือจุดชมวิวที่เห็นเมืองซัวเถาแบบเต็มตา รวมถึงสะพานหินธรรมชาติที่เป็นมุมถ่ายรูปสุดปัง นักท่องเที่ยวไม่เยอะเท่าเกาะหนานอ้าว ทำให้ได้บรรยากาศเงียบสงบของจริง

  • คำแนะนำ : พกน้ำไปด้วย เส้นทางเดินยาวพอสมควร
  • ที่อยู่ : เขต Longhu, ซัวเถา
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • เวลาทำการ : 06.00 - 18.30 น.

4) วัดเหลามา (Lao Ma Gong)

 วัดเหลามา

วัดนี้เป็นหนึ่งในวัดชื่อดังของซัวเถา คนจีนเฉาซานนิยมมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะเรื่องการงานและครอบครัว ตัววัดมีสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสวยมาก รายละเอียดลวดลายแน่นจนยืนดูได้เป็นชั่วโมง ไฮไลท์คือกลิ่นธูปหอมๆ กับบรรยากาศสงบแบบที่ทำให้รู้สึกว่าทริปนี้ดีต่อใจขึ้นอีกระดับ

  • คำแนะนำ : แต่งกายสุภาพ ถ่ายรูปได้แต่ไม่ควรรบกวนผู้สักการะ
  • ที่อยู่ : เขต Jinping
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • เวลาทำการ : 08.00 - 17.00 น.

5) พิพิธภัณฑ์การปฏิวัติเฉาซาน (Chaoshan Revolution Museum)

พิพิธภัณฑ์การปฏิวัติเฉาซาน

ที่นี่เหมาะกับคนที่อยากรู้จักภูมิภาคเฉาซานมากขึ้น เพราะจัดแสดงเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญทั้งด้านการเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในรูปแบบที่ดูง่าย ไม่ต้องเป็นสายพิพิธภัณฑ์จริงจังก็เดินสนุก มีภาพเก่าและของใช้จากยุคก่อนสงครามให้ดูเพียบ แถมมีการปรับปรุงด้านในให้ดูทันสมัยกว่าเดิมด้วย

  • คำแนะนำ : ใช้เวลาประมาณ 1 - 1.5 ชม. กำลังดี
  • ที่อยู่ : เขต Jinping ซัวเถา
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • เวลาทำการ : 09.00 - 17.00 น. (ปิดวันจันทร์)

6) จุดชมวิวเชวี่ยสือ (Xue Shi Viewpoint)

จุดชมวิวเชวี่ยสือ

เป็นจุดชมวิวบนเนินที่ให้ภาพเมืองซัวเถาแบบพาโนรามา โดยเฉพาะช่วงเย็นแสงกำลังสวย ถ่ายรูปออกมาดีมาก เหมาะกับคนที่อยากได้ภาพเมืองติดทะเลในมุมสูงแบบไม่ต้องปีนเขาหนักๆ ทางขึ้นไม่ชันเกินไป เดินไม่ถึงสิบหลาท็อปวิวเลยค่ะ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ ทำให้เหมาะกับสายชิลที่อยากหลบความวุ่นวายในเมือง

  • คำแนะนำ: ไปก่อนพระอาทิตย์ตกสัก 30 นาที
  • ที่อยู่: เขต Longhu
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • เวลาทำการ: 06.00–19.00 น.

7) บ้านเกิดของเฉินซีฮุย (Chen Cihui Former Residence)

บ้านเกิดของเฉินซีฮุย

สถานที่นี้จะทำให้เห็นวัฒนธรรมบ้านเก่าของคนเฉาซานแบบใกล้ชิด เพราะบ้านยังคงสถาปัตยกรรมไม้แบบดั้งเดิมไว้ครบ ตัวบ้านไม่ได้ใหญ่โต แต่มีเสน่ห์มาก เดินดูรายละเอียดประตู หน้าต่าง ลวดลายแกะสลักแล้วจะรู้เลยว่าช่างฝีมือยุคนั้นละเอียดแค่ไหน เหมาะกับคนชอบความดั้งเดิมและอยากศึกษาวิถีชีวิตคนเฉาซานสมัยก่อน

  • คำแนะนำ : เหมาะกับสายถ่ายรูปสไตล์วินเทจ
  • ที่อยู่ : เขต Haojiang
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • เวลาทำการ : 09.00 - 17.00 น.

8) เกาะมาหยู (Mayu Island)

 เกาะมาหยู

เกาะมาหยูเป็นเกาะเล็กๆ ที่เงียบกว่าหนานอ้าว เหมาะมากสำหรับคนที่อยากหลบคนเยอะ นั่งดูทะเลแบบสบายใจ จุดเด่นคือชายหาดสะอาด น้ำใส และมีเส้นทางเดินชมวิวริมหน้าผาที่สวยแบบเซอร์ไพรส์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จัก ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดลับที่เหมาะสำหรับพักผ่อนจริงๆ

  • คำแนะนำ : มีร้านค้าไม่เยอะ ควรพกน้ำและของกินไปเอง
  • ที่อยู่ : เขต Jinping (นั่งเรือข้ามฟากประมาณ 10 นาที)
  • ค่าเข้าชม : ฟรี (เสียค่าเรือ)
  • เวลาทำการ : 08.00 - 18.00 น.

9) คิงอาว เบย์ (Qing’ao Bay)

คิงอาว เบย์

อ่าวคิงอาวเป็นโซนทะเลที่วิวสวยแบบไม่ต้องพยายามเลย น้ำทะเลใส หาดทรายยาว และบรรยากาศสงบเหมาะกับพักสมองสุดๆ ช่วงเช้าคือเวลาที่ดีที่สุดเพราะฟ้าใสและคนยังไม่เยอะ โซนนี้มีคาเฟ่ริมหาดใหม่เปิดหลายร้าน ทำให้ถ่ายรูปออกมาดูดีแบบไม่ต้องปรับแสงเพิ่มเยอะ

  • คำแนะนำ : เหมาะกับเดินเล่น ยืนรับลม ไม่เน้นเล่นน้ำ
  • ที่อยู่ : บนเกาะหนานอ้าว
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง

10) เกาะกิงปอง (Jinping Island)

เกาะกิงปอง

แม้ชื่อจะคล้ายเขตหนึ่งในจีน แต่เกาะกิงปองคืออีกที่ที่เหมาะกับสายธรรมชาติ จุดเด่นคือชายฝั่งที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้เยอะ มีเส้นทางเดินชมวิวบนโขดหินและจุดถ่ายรูปที่เห็นทะเลแบบมุมสูงสวยมาก เหมาะกับคนที่อยากได้ภาพฟีลทะเลธรรมชาติแบบไม่ปรุงแต่ง และอยากเดินเล่นเงียบๆ หลีกหนีคนเยอะจากแหล่งท่องเที่ยวหลัก

  • คำแนะนำ : ใส่รองเท้ากันลื่น เพราะเดินบนโขดหิน
  • ที่อยู่ : เขต Jinping
  • ค่าเข้าชม : ฟรี
  • เวลาทำการ : 08.00 - 18.00 น.

ตัวอย่างแพลนเที่ยวซัวเถา

เวลาวางแผนเที่ยวซัวเถา หลายคนจะนึกว่าต้องมีเวลาเยอะ แต่จริงๆ เมืองนี้ค่อนข้างเดินทางง่าย สถานที่หลักอยู่ไม่ไกลกันมาก แถมมีรถสาธารณะเยอะพอสมควร ทำให้แพลนเที่ยวได้ทั้งแบบ One-day trip สำหรับคนมีเวลาน้อย หรือแบบ 3 วัน 2 คืนสำหรับคนอยากเที่ยวทั้งในเมืองและเกาะหนานอ้าวแบบครบๆ 

แพลนเที่ยวซัวเถา One-Day Trip

แพลนเที่ยวซัวเถา 1 วัน

เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย แต่อยากสัมผัสฟีลเมืองเก่า กินอาหารเฉาซานแท้ๆ และแวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเมืองแบบไม่รีบร้อน แพลนนี้เดินทางง่ายด้วยแท็กซี่หรือ Didi 

ช่วงเช้า

ย่านเมืองเก่าซัวเถา (Shantou Old Town)

เริ่มทริปด้วยการเดินเล่นเมืองเก่า ชมอาคารสไตล์ยุโรปผสมจีนที่ยังคงสภาพดี ถ่ายรูปสวยทุกมุม

  • เดินชิลประมาณ 1 - 1.5 ชม.
  • หาอะไรรองท้อง เช่น ขนมพื้นเมืองหรือชาเฉาซาน
  • ต่อด้วย สวนเล็ก Xiao Gongyuan ซึ่งอยู่ใกล้แค่เดินถึง
  • นั่งพักเท้า สูดอากาศสบายๆ ก่อนลุยต่อ

ช่วงสาย - เที่ยง

วัดเหลามา (Lao Ma Gong)

  • วัดดังที่คนท้องถิ่นศรัทธามาก ไหว้ขอพรเรื่องงาน การเงิน และครอบครัว
  • ใช้เวลาประมาณ 30 - 45 นาที
  • แนะนำใส่ชุดสุภาพ
  • หลังจากไหว้พระ ก็ไปจัดอาหารกลางวันแบบเฉาซานแท้ๆ เช่น ห่านพะโล้ ลูกชิ้นเนื้อทำมือ หรือหม้อไฟเนื้อวัวเบาๆ

ช่วงบ่าย

อุทยานภูเขาเชวี่ยสือ (Queshi Scenic Area)

  • ที่นี่คือจุดเช็กอินที่ทำให้คนตกหลุมรักซัวเถา เพราะวิวภูเขาริมทะเลคือดีมาก
  • เดินเส้นทางชมวิวเบาๆ
  • ได้ภาพสวยๆ แบบไม่ต้องปีนเขาหนัก

ช่วงเย็น

  • ก่อนกลับ แนะนำให้ไปจุดชมวิวเชวี่ยสือ (Xue Shi Viewpoint)
  • ควรไป 30 นาทีก่อนพระอาทิตย์ตก
  • ได้วิวเมืองซัวเถาจากมุมสูงแบบสวยเกินคาด
  • ถ้าอยากจบทริปแบบอิ่มฟิน ให้ลองร้านหม้อไฟเนื้อวัวสไตล์เฉาซานสักร้าน เป็นซิกเนเจอร์ของเมืองนี้เลย

แพลนเที่ยวซัวเถา 3 วัน 2 คืน

แพลนเที่ยวซัวเถา 3 วัน

เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบเรื่อยๆ ได้ทั้งในเมือง เกาะ และคาเฟ่ใหม่ๆ แบบไม่ต้องเร่งเวลาเลย

วันที่ 1 เที่ยวเมืองซัวเถาแบบเนิบๆ แต่ครบ

ช่วงเช้า

  • เดินเล่นย่านเมืองเก่า + คาเฟ่ท้องถิ่น
  • ถ่ายรูปอาคารโบราณและซอยเล็กๆ ที่ยังคงกลิ่นอายคลาสสิก

ช่วงเที่ยง

  • ไปกินห่านพะโล้หรือข้าวซอยเฉาซานแบบต้นตำรับ
  • ต่อด้วยของหวานง่ายๆ เช่น ขนมทำมือของคนท้องถิ่น

ช่วงบ่าย

  • เดินอุทยานภูเขาเชวี่ยสือ (Queshi Scenic Area)
  • ถ่ายรูปทะเลและสะพานหินธรรมชาติ

ช่วงเย็น

  • ขึ้นไปจุดชมวิวเชวี่ยสือ
  • ปิดท้ายด้วยหม้อไฟเนื้อวัวที่ร้านดังใน Longhu District

วันที่ 2 ลุยเกาะหนานอ้าวเต็มวัน

ช่วงเช้า

  • เดินทางข้ามสะพานไปเกาะหนานอ้าว
  • แวะชายหาดแรก ถ่ายรูปน้ำทะเลใสๆ

ช่วงสาย - เที่ยง

  • ปั่นจักรยานชมวิวรอบเกาะ หรือขึ้นไปจุดชมวิวบนเขา
  • หาร้านอาหารทะเลสดๆ กินกลางวัน (ราคาไม่แรงอย่างที่คิด)

ช่วงบ่าย

  • เดินเล่นคิงอาว เบย์ (Qing’ao Bay)
  • หยุดพักที่คาเฟ่ริมหาด บรรยากาศดีมาก

ช่วงเย็น

  • ดูพระอาทิตย์ตกริมชายหาด
  • เดินเล่น Night Market บนเกาะ (เปิดบางวัน)
  • แล้วค่อยกลับซัวเถา หรือใครชอบทะเลแบบเงียบๆ ก็เลือกนอนบนเกาะหนึ่งคืนได้เลย

วันที่ 3 เที่ยวเบาๆ ก่อนกลับ

ช่วงเช้า

  • แวะเกาะมาหยู หรือบ้านเกิดเฉินซีฮุย (เลือกตามสไตล์)
  • ถ่ายรูปเล่นแบบชิลล์ๆ

ช่วงเที่ยง

  • กินอาหารเฉาซานส่งท้าย เช่น ลูกชิ้นเนื้อทำมือหรือก๋วยเตี๋ยวหลอดสไตล์ซัวเถา

ช่วงบ่าย

  • เดินซื้อของฝาก เช่น ชาเฉาซาน ขนมท้องถิ่น
  • เดินทางกลับสนามบินแบบไม่เหนื่อย
🎁จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกพร้อมข้อเสนอพิเศษ 🏨ค้นหาโรงแรมที่ดีที่สุดบนTrip.com! 📱รับ eSIM ที่รวดเร็วเพื่อเชื่อมต่อเมื่ออยู่ต่างประเทศ!

คู่มือตะลุยกิน 6 อาหารซัวเถาที่ต้องลอง!

เที่ยวซัวเถา

ซัวเถา เมืองชายฝั่งในแถบแต้จิ๋วขึ้นชื่อเรื่องอาหารพื้นเมืองที่สดใหม่ รสละมุน และใช้วัตถุดิบท้องถิ่นแบบเน้นความเป็นธรรมชาติ ใครมีโอกาสแวะซัวเถาต้องจัดลิสต์เมนูเหล่านี้ให้ครบ เพราะถือเป็นตัวแทนรสชาติประจำภูมิภาคที่ถูกใจทั้งสายกิน สายคอนเทนต์ และคนที่ชอบสำรวจวัฒนธรรมผ่านอาหาร

1) หม้อไฟเนื้อวัว (Beef Hotpot)

หม้อไฟเนื้อซัวเถามีเอกลักษณ์ตรงการใช้เนื้อวัวสดใหม่ตามส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลิ้น เนื้อสัน หรือเครื่องใน ลวกในน้ำซุปใสสไตล์แต้จิ๋วที่เน้นความหวานจากกระดูกธรรมชาติ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มถั่วลิสงหอมมัน เติมพริกกับผักชีเพิ่มความหอม ถือเป็นเมนูที่แสดงให้เห็นถึงความสดและคุณภาพของวัตถุดิบอย่างแท้จริง

2) ก๋วยเตี๋ยวหลอดสไตล์ซัวเถา (Shantou Cheong Fun)

แตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวหลอดฮ่องกงตรงเนื้อแป้งที่บาง นุ่ม และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มักใส่กุ้งสด หมูแดง หรือหมูสับ แล้วราดด้วยซอสซีอิ๊วหวานเค็มกำลังดี จุดเด่นคือรสชาติที่ละมุน ไม่มันเลี่ยน เหมาะกินทั้งเป็นอาหารเช้าและอาหารว่างระหว่างวัน

3) ห่านพะโล้ (Braised Goose)

เป็นอาหารประจำโต๊ะที่คนซัวเถาคุ้นเคยกันดี ใช้วัตถุดิบเป็นห่านคุณภาพดี ตุ๋นในน้ำพะโล้เครื่องเทศกลิ่นหอม จนเนื้อนุ่มแต่ไม่ยุ่ย หนังบางและมีความมันกำลังพอดี เสิร์ฟคู่กับข้าวหอมๆ หรือเส้นหมี่ก็อร่อยลงตัว เป็นอีกเมนูที่หากไม่ลองถือว่าพลาดซัวเถาแบบแท้จริง

4) ลูกชิ้นเนื้อทำมือ (Handmade Beef Balls)

ลูกชิ้นเนื้อของซัวเถาขึ้นชื่อเรื่องความเด้งและกลิ่นเนื้อที่ชัดเจน เพราะทำสดทุกวันและไม่มีแป้งผสมมากจนเกินไป นำไปต้มกับซุปใส หรือกินกับหมี่ซั่วก็เด็ด ตัวลูกชิ้นมีความกรุบแต่นุ่ม ละเอียด และหอมกว่าแบบทั่วไปอย่างชัดเจน

5) หมี่ซั่วน้ำใสสไตล์แต้จิ๋ว (Teochew Clear Broth Noodles)

หมี่ซั่วเส้นเล็กลวกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมซุปใสที่เคี่ยวจากกระดูกหมูและปลาตากแห้งแบบท้องถิ่น เพิ่มหมูสับ ปลา และผักกุยช่ายบางๆ ความหอมของซุปเป็นจุดเด่นที่ทำให้ชามนี้กินง่าย อุ่นท้อง และเป็นเมนูเช้าที่คนพื้นที่นิยมมาก

6) เต้าหู้ปลา (Fish Tofu)

แม้ชื่อจะเรียกว่าเต้าหู้แต่จริงๆ ทำจากเนื้อปลาบดจนเนียน ก่อนนำไปนึ่งจนได้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน คล้ายเต้าหู้ญี่ปุ่นแต่มีความหอมของปลาแบบแต้จิ๋ว มักเสิร์ฟคู่ซุปใส หรือใส่ในหม้อไฟเนื้อวัวเพื่อเพิ่มมิติรสชาติ

การเดินทางในซัวเถา เที่ยวง่ายๆ ด้วยตัวเอง

เที่ยวซัวเถา

ถ้าเป็นเมืองใหญ่อย่างซัวเถา หลายคนอาจกลัวว่าจะเดินทางยาก แต่จริงๆ แล้วถือว่าเป็นเมืองที่เที่ยวง่ายกว่าที่คิด เพราะระบบขนส่งค่อนข้างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นรถบัสราคาประหยัด แท็กซี่ที่เรียกง่าย หรือแอปเรียกรถที่สะดวกสุดๆ อย่าง Didi เหมาะสำหรับคนเที่ยวเองแบบไม่ต้องง้อทัวร์ แถมค่ารถในภาพรวมก็ไม่ได้แพงมาก ทำให้วางแผนเที่ยวได้สบายๆ ทั้งในเมืองและแถบใกล้เคียง

การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง

สนามบินหลักของเมืองคือ Shantou Chaoshan International Airport (SWA) ตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง แต่มีวิธีเดินทางที่สะดวกหลายแบบให้เลือกตามงบและความรีบของแต่ละคน

วิธีเดินทางยอดนิยม

รถบัสสนามบิน (Airport Shuttle Bus)

เป็นทางเลือกที่ประหยัดที่สุด ค่าตั๋วหลักสิบหยวนเท่านั้น รถจะจอดตามจุดสำคัญในเมือง เช่น สถานีรถไฟ ความถี่ประมาณ 20–30 นาที เหมาะกับคนที่อยากประหยัดและไม่รีบมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 - 60 นาที ขึ้นอยู่กับจราจร และมีพื้นที่เก็บกระเป๋าด้วย

แท็กซี่จากสนามบิน

ถ้าเดินทางตอนดึกหรือมีสัมภาระเยอะ แนะนำเรียกแท็กซี่จากจุดบริการหน้าสนามบิน ราคาคงที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องสื่อสารมากนักเพราะโชเฟอร์ส่วนใหญ่คุ้นกับนักท่องเที่ยว ราคาประมาณ 120 - 160 หยวน ใช้เวลาประมาณ 35 - 45 นาที

เรียกรถผ่านแอป Didi

เป็นวิธีที่สะดวกสุดสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะเลือกประเภทรถได้หลายแบบ ทั้งแบบประหยัดหรือรถแบบ Premium ราคามักถูกกว่าแท็กซี่เล็กน้อย และมีรายละเอียดเส้นทางชัดเจน ไม่ต้องพูดภาษาจีนเยอะ เหมาะมากสำหรับสายเที่ยวเดี่ยว

การเดินทางด้วยรถบัสประจำทาง

ถ้าอยากเที่ยวแบบ Local หน่อย รถบัสในซัวเถาถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก ราคามิตรภาพสุดๆ บางเส้นเริ่มต้นเพียง 1 - 2 หยวนเท่านั้น แต่ต้องรู้จุดหมายปลายทางชัดเจน และอ่านป้ายจีนได้บ้างจะช่วยได้เยอะ

ข้อควรรู้ก่อนใช้รถบัส

  • รถมักจะให้บริการตั้งแต่ช่วงเช้าถึงประมาณสามทุ่ม
  • ป้ายบัสหลายจุดอยู่ใกล้จุดท่องเที่ยว เช่น เมืองเก่า, Queshi Scenic Area
  • บนรถส่วนใหญ่รับจ่าย QR Code ผ่าน WeChat/Alipay มากกว่าเงินสด
  • เหมาะสำหรับคนที่มีเวลา ไม่ได้เร่งรีบ

ข้อดี

  • ราคาประหยัดที่สุด
  • เส้นทางครอบคลุมแทบทุกย่านในเมือง

ข้อเสีย

  • ต้องวางแผนล่วงหน้า เพราะบางเส้นทางอ้อม
  • ช่วงเวลาเร่งด่วนคนค่อนข้างเยอะ

แท็กซี่และแอปเรียกรถ (Didi)

ถ้าต้องการความสะดวกและรวดเร็ว แท็กซี่และบริการในแอปคือของคู่ใจคนเที่ยวซัวเถา ไม่ต้องต่อคิวเยอะและไม่ต้องกังวลหลงทาง เพราะระบบนำทางในแอปจะคำนวณเส้นทางให้เรียบร้อย

ทำไมคนไทยถึงชอบใช้ Didi?

  • ไม่ต้องสื่อสารภาษาจีนเยอะ แค่ปักหมุดก็พอ
  • ราคาชัดเจนก่อนกดยืนยัน ไม่ต้องกลัวโดนคิดเกิน
  • เลือกประเภทของรถได้ เช่น Express, Premier, รถใหญ่สำหรับคนกระเป๋าเยอะ
  • เรียกได้ทุกพื้นที่ แม้ในช่วงกลางคืนก็ยังมีรถให้บริการ

ราคาประมาณการ

  • ภายในเมืองประมาณ 15 - 35 หยวน
  • เดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น จุดชมวิวเชวี่ยสือ หรือ Queshi Scenic Area: ประมาณ 25 - 50 หยวน
  • หากเดินทางข้ามเขตหรือไปแถวชายฝั่ง อาจอยู่ที่ 60 - 90 หยวน

แนะนำที่พักในซัวเถา พักย่านไหนดี?

เที่ยวซัวเถา

เวลาไปเที่ยวซัวเถา การเลือกย่านพักถือว่าสำคัญมาก เพราะแต่ละโซนให้บรรยากาศต่างกันแบบชัดเจน ใครเป็นสายวัฒนธรรม สายช้อปกินเที่ยว หรือสายชิลทะเล ก็มีตัวเลือกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ต่างกัน ลองดูภาพรวม 3 ย่านยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกพักกัน เผื่อช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น

1) ย่านเมืองเก่า (Old Town) สำหรับสายวัฒนธรรมที่อยากซึมซับบรรยากาศแบบเฉาซานแท้ๆ

ถ้าอยากสัมผัสซัวเถาแบบออริจินัลที่สุด ต้องย่านเมืองเก่านี่เลย เดินออกจากที่พักก็จะเจออาคารสถาปัตยกรรมเก่าที่ผสมความจีน-ยุโรป ร้านค้าโบราณ คาเฟ่เล็กๆ และถนนเส้นที่มีเสน่ห์แบบคลาสสิก เหมาะมากกับคนที่ชอบเดินเล่นถ่ายรูป หรืออยากลิ้มลองอาหารพื้นเมืองแบบต้นตำรับ

จุดเด่นย่านนี้

  • ใกล้แลนด์มาร์กสำคัญ เช่น เมืองเก่า สวนสาธารณะเล็ก ถนนคนเดิน
  • เดินเที่ยวได้ง่ายมาก เหมาะกับคนที่ไม่อยากพึ่งรถทั้งวัน
  • ร้านอาหารพื้นเมืองเยอะ ทั้งห่านพะโล้ หม้อไฟเนื้อ และร้านชากาแฟสไตล์เรโทร

2) ย่านใจกลางเมือง สำหรับสายสะดวกที่อยากเข้าถึงทุกอย่างเร็วที่สุด

ถ้าเน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก ย่านใจกลางเมืองของซัวเถาคือคำตอบค่ะ โซนนี้มีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โมเดิร์นคาเฟ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต และการเดินทางที่ง่ายที่สุด เพราะรถแท็กซี่ รถบัส หรือแอปเรียกรถเข้าถึงเร็วมาก

จุดเด่นย่านนี้

  • ใกล้ศูนย์กลางการคมนาคม เดินทางไปทุกจุดได้ง่าย
  • ร้านอาหารและคาเฟ่เยอะมาก เลือกกันไม่หมด
  • มีโรงแรมหลายระดับ ตั้งแต่ประหยัดไปจนถึง 5 ดาว

3) เกาะหนานอ้าว (Nan’ao Island) สำหรับสายชิลที่หลงรักเสียงคลื่น

ถ้าอยากพักผ่อนแบบหลุดจากความวุ่นวายในเมือง แนะนำให้ไปนอนบนเกาะหนานอ้าวเลยค่ะ ที่นี่เป็นโซนยอดฮิตของสายชิลที่ต้องการทะเล น้ำใส บรรยากาศเงียบสงบ และวิวดีๆ แบบตื่นมาก็เจอคลื่นกระทบฝั่ง เป็นพลังบวกสุดๆ

จุดเด่นย่านนี้

  • บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการฟื้นพลัง
  • ใกล้ทะเล เดินลงชายหาดได้จากหลายโรงแรม
  • อากาศสดชื่น ไม่มีความวุ่นวาย

วางแผนงบเที่ยวซัวเถา ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?

เที่ยวซัวเถา

การเดินทางไปซัวเถาไม่จำเป็นต้องใช้งบสูง เพราะค่าครองชีพที่นี่ถือว่ามิตรกับนักท่องเที่ยวมาก หากวางแผนล่วงหน้า สามารถท่องเที่ยว กินดี พักสบาย และเดินทางสะดวกได้ในงบประมาณไม่เกินที่ตั้งใจ โดยเฉลี่ยงบเที่ยวซัวเถา 3 วัน 2 คืน มักเริ่มต้นราว 7,500 - 12,000 บาทต่อคน (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) ซึ่งครอบคลุมทั้งที่พัก อาหาร การเดินทางภายในเมือง และค่าเข้าชมสถานที่สำคัญต่างๆ ส่วนใครที่เน้นประหยัดหรือเน้นจัดเต็ม ก็สามารถปรับงบได้ตามสไตล์การเที่ยวของตัวเอง

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายหลักที่ควรรู้ก่อนออกเดินทาง

  • ที่พัก : 800 - 2,000 บาท/คืน สำหรับโรงแรมระดับดีหรือที่พักใกล้ย่านท่องเที่ยว
  • อาหาร : มื้อนึงประมาณ 80 - 200 บาท ถ้าเน้นร้านดังหรือร้านประวัติยาวนานอาจอยู่ที่ 200 - 350 บาท
  • การเดินทาง : ค่าแท็กซี่เฉลี่ย 60 - 120 บาท/เที่ยว ส่วนรถบัสประจำทางเพียง 10 - 20 บาท
  • ค่าเข้าชมสถานที่ : ส่วนใหญ่ไม่แพง อยู่ที่ 50 - 150 บาท/แห่ง

โดยรวมแล้ว ซัวเถาเป็นเมืองที่เหมาะกับทั้งนักเดินทางสายงบจำกัดและสายชิลที่อยากสัมผัสเมืองเก่า คาเฟ่น่ารัก และอาหารอร่อยแบบต้นตำรับ แนะนำเก็บเงินเผื่อช้อปสินค้าโลคอลเพิ่มเล็กน้อย จะได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศเมืองจีนที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบไม่ต้องใช้เงินเยอะ

ตารางสรุปงบประมาณเที่ยวซัวเถา 3 วัน 2 คืน ต่อคน

รายการ

ประมาณการ (บาท)

หมายเหตุ

ตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ กรุงเทพฯ - ซัวเถา)

3,500 - 5,000

ราคาตามช่วงโปรโมชั่นและสายการบิน

ที่พัก 2 คืน

1,600 - 4,000

โรงแรม 3 - 4 ดาว ใกล้เมืองเก่า หรือใจกลางเมือง

ค่าอาหาร 3 วัน

800 - 1,500

มื้อละ 80 - 200 บาท ถ้าเน้นร้าน Local และร้านเด็ด

ค่าเดินทางในเมือง

200 - 500

รถบัส 10 - 20 บาท/เที่ยว, แท็กซี่หรือ Didi เฉลี่ย 60 - 120 บาท/เที่ยว

ค่าเข้าชมสถานที่

300 - 500

รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์, วัด, จุดชมวิวและเกาะต่างๆ

รวมประมาณ

6,400 - 11,500

งบโดยรวมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ไม่รวมช้อปปิ้งและของฝาก

บทความที่คุณอาจสนใจ
ห้องรับรองสนามบินกว่างโจว 2568 พักก่อนบินแบบมีคลาส แนะนำว่าต้องลองสักครั้ง!
อัปเดตล่าสุด! แนะนำห้องรับรองสนามบินกว่างโจว Baiyun ที่ดีที่สุด ทั้ง China Southern Sky Pearl Club, Premium Lounge และ Easy-boarding Lounge พร้อมวิธีจองผ่าน Trip.com และเทคนิคพักผ่อนก่อนบินแบบพรีเมียมในราคาคุ้มค่า
3 พฤศจิกายน 2025
อัปเดต 2568 ! 15 ที่เที่ยวกวางโจว ที่ต้องไปเช็คอิน พร้อมวิธีจองสุดคุ้มกับ Trip.com
รวมเด็ด 15 ที่เที่ยวกวางโจว 2568 ที่ต้องไป! ทั้งที่เที่ยวใหม่และคลาสสิก พร้อมรีวิวและดีลสุดคุ้ม จองตั๋วและที่พักครบจบในที่เดียวกับ Trip.com
10 พฤศจิกายน 2025
อัปเดต 2568 | 4 วิธีเดินทางจากสนามบินกวางโจว เข้าเมือง (ราคา เวลา วิธีที่คุ้มที่สุด)
คู่มือเดินทางฉบับสมบูรณ์จากสนามบินกวางโจวเข้าเมือง เปรียบเทียบรถไฟใต้ดิน รถบัส แท็กซี่ และแอปเรียกรถ พร้อมราคาและเวลาเดินทางล่าสุดสำหรับปี 2568
3 พฤศจิกายน 2025

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับซัวเถา

  • ไปเที่ยวซัวเถาต้องขอวีซ่าไหม?

    ไม่ต้องขอวีซ่าหากเดินทางเข้าประเทศจีน (รวมถึงซัวเถา) เพื่อการท่องเที่ยวและพำนักไม่เกิน 30 วัน
  • เที่ยวซัวเถาช่วงไหนดีที่สุด?

    ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) และ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม)
  • ที่ซัวเถาพูดภาษาอังกฤษได้ไหม?

    การพูดภาษาอังกฤษอาจเป็นไปได้ในบางพื้นที่ เช่น โรงแรมหรือแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ไม่สามารถใช้ได้แพร่หลายทั่วไป
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที
>>
เที่ยวซัวเถา