พาไปมู! ศาลหลักเมืองกรุงเทพ ขอพรเสริมสิริมงคล ประวัติศาสตร์ใจกลางกรุง

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
ภาพปก

ใครที่อยากปังตลอดปี และกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ทั้งงดงามทางสถาปัตยกรรม เต็มเปี่ยมด้วยความศรัทธา และแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ของชาติไทย "ศาลหลักเมืองกรุงเทพ" คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ศาลหลักเมืองไม่เพียงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมาสักการะ ขอพร เสริมดวงชะตา และเพิ่มความมั่นใจให้กับชีวิต โดยเฉพาะในช่วงต้นปี วันเกิด หรือเมื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต Trip.com จะพาเพื่อนๆ เจาะลึกข้อมูลการเที่ยวศาลหลักเมืองกรุงเทพอย่างละเอียด ทั้งประวัติความเป็นมา วิธีเดินทาง กิจกรรมที่ควรทำ ไปจนถึงที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่สามารถไปเที่ยวได้ ทริปหยุดยาวนี้ห้ามพลาด!

ศาลหลักเมืองกรุงเทพตั้งอยู่ที่ไหน

ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

ตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสนามหลวง ฝั่งซ้ายตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางจิตใจของชาวกรุง ซึ่งไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังเป็นจุดศูนย์รวมความเชื่อความศรัทธาของคนไทยตลอดกว่า 240 ปี โดยศาลนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะขอมแบบปรางค์หลังคาซ้อนสองชั้นกับหลักเมืองสองต้นภายในศาล และได้มีการเริ่มปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี 2523 - 2529 เมื่อครบรอบ 200 ปี รัตนโกสินทร์ โดยมีพระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีเฉลิมสมโภช 

วิธีการเดินทางไปศาลหลักเมืองกรุงเทพ

ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

หากเริ่มต้นจากรถไฟฟ้า MRT ให้ลงสถานีสนามไชย (สายสีน้ำเงิน) ใช้ทางออกหมายเลข 1 แล้วเดินตรงมาตามถนนสนามไชยประมาณ 10 นาที จะพบศาลหลักเมืองตั้งตระหง่านทางด้านซ้ายมือ โดยเส้นทางนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะสถานีสนามไชยตั้งอยู่ใต้พิพิธภัณฑ์พระนคร จึงสามารถเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งภายในบริเวณเดียวกันได้

ในกรณีที่เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง สายที่ผ่านศาลหลักเมือง ได้แก่ สาย 3, 9, 12, 32, 33, 42, 47, 53, 82 ซึ่งจะมีป้ายจอดบริเวณสนามหลวงหรือถนนหลักเมือง สามารถเดินเท้าต่อเพียงไม่กี่นาที ส่วนผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ควรจอดรถบริเวณลานจอดริมถนนสนามหลวง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลพื้นที่ แต่ควรหลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาวหรือเทศกาล เพราะจะมีผู้คนหนาแน่นมาก อาจหาที่จอดรถได้ยาก

นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางด้วยเรือสามารถขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าช้าง หรือท่าราชินี แล้วเดินเข้าทางถนนหน้าพระลาน ระยะทางไม่ไกลจากศาลหลักเมือง โดยเฉพาะท่าช้างนั้นอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังมากที่สุด และใช้เวลาเดินเพียงประมาณ 7 - 10 นาที และหากใช้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถ ก็สามารถใส่พิกัด "ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ" ได้โดยตรง ระบบจะนำทางไปยังจุดที่ใกล้ที่สุด ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนในช่วงเช้า (07.00 - 09.00 น.) และเย็น (16.30 - 18.30 น.) เพราะพื้นที่โดยรอบอาจมีการจราจรติดขัด

ประวัติและตำนานของศาลหลักเมืองกรุงเทพ

ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

เมื่อครั้งรัชกาลที่ 1 ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีใหม่หลังจากการย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรี ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีการประกอบพิธียกเสาหลักเมืองตามคติพราหมณ์ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานให้กับนครรัฐใหม่ เสาหลักเมืองนี้ทำจากไม้ชัยพฤกษ์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นไม้มงคลที่ช่วยหนุนให้บ้านเมืองมั่นคงถาวรและเจริญรุ่งเรือง โดยมีการฝังไว้ในหลุมพิธีพร้อมวัตถุมงคลต่างๆ ภายใต้พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์

ตำนานที่เล่าต่อกันมายังระบุว่า ในอดีตการฝังเสาหลักเมืองมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องการ “บวงสรวงเทพารักษ์” และการฝังสิ่งมีชีวิตเพื่อเป็นเครื่องบูชา แต่สำหรับศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ นั้น มีเพียงพิธีกรรมแบบพราหมณ์เท่านั้น ไม่มีการฝังชีวิตใดๆ

ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการบูรณะศาลหลักเมืองให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และสร้างอาคารหลังใหม่ที่แข็งแรงกว่า พร้อมทั้งมีการประดิษฐานเทพารักษ์ประจำทิศทั้ง 5 ซึ่งได้แก่ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจ้าเจตคุปต์ และเจ้าพ่อเจตคุปต์ เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลและศรัทธาแก่ผู้มาเยือน

รัชกาลที่ 9 เองก็ทรงมีพระราชดำริให้มีการปรับปรุงศาลหลักเมืองในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบ 200 ปีแห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอาคารใหม่ที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมไทยแบบร่วมสมัย โดยยังคงรักษาองค์ประกอบดั้งเดิมไว้

ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของศาลหลักเมืองกรุงเทพ

ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

สถาปัตยกรรมของศาลหลักเมืองเป็นแบบไทยโบราณที่ผสมผสานความวิจิตรกับความสงบเย็น อาคารหลักของศาลสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กแต่ตกแต่งด้วยไม้แกะสลักและปูนปั้น ลวดลายที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นลายไทยโบราณ เช่น ลายกนก ลายเทพพนม ลายเถาไม้ และลายดอกไม้ ที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองและความศักดิ์สิทธิ์ โดยโครงหลังคาของอาคารหลักเป็นทรงยอดปรางค์แบบปราสาทขอมโบราณ

เสาหลักเมืองที่เป็นศูนย์กลางของศาลนั้นมีทั้งหมด 2 ต้น โดยต้นแรกคือเสาหลักเมืองดั้งเดิมที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ทำจากไม้ชัยพฤกษ์ สูงประมาณ 2.75 เมตร ฝังอยู่ในหลุมพิธีพร้อมเครื่องมงคล ส่วนต้นที่สองถูกเพิ่มเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 4 เนื่องจากพบว่าเสาเดิมเกิดการชำรุด จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเสาใหม่ควบคู่กัน เพื่อความสมบูรณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านเมือง เสาทั้งสองต้นตั้งอยู่ภายในห้องกระจกที่ประดับด้วยลวดลายมุขและกระจกสีงดงาม

ภายนอกศาลหลักเมืองมีลานปูนที่กว้างขวาง ใช้สำหรับพิธีการและการสักการะจากประชาชน มีร่มเงาและที่นั่งพักผ่อนสำหรับผู้มาเยือน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้มงคลประจำจังหวัดต่าง ๆ ปลูกอยู่รอบ ๆ บริเวณ เพื่อสื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวของชาติ

กิจกรรมที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

กิจกรรมหลักที่ทุกคนมักจะทำเมื่อมาถึงศาลหลักเมืองคือการ "กราบไหว้เสาหลักเมือง" เพื่อขอพรในด้านต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงในชีวิต การงาน ความรัก สุขภาพ และความปลอดภัยในการเดินทาง โดยจะนิยมไหว้ครบทั้ง 5 องค์เทพประจำทิศที่ประดิษฐานอยู่ในศาล ได้แก่ พระเสื้อเมือง (ประจำทิศเหนือ), พระทรงเมือง (ประจำทิศตะวันออก), พระกาฬไชยศรี (ประจำทิศใต้), เจ้าเจตคุปต์ (ประจำทิศตะวันตก) และเจ้าพ่อเจตคุปต์ (ผู้พิพากษา) ซึ่งแต่ละองค์มีความหมายเฉพาะและมีบทบาทต่างกันในการปกปักรักษาเมือง

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “จุดธูปเทียนและถวายผ้าแดง” ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการแก้บนหรือขอพรอย่างศักดิ์สิทธิ์ ผ้าแดงจะถูกนำไปผูกไว้รอบๆ ลานศาลหรือราวเหล็กตามจุดที่จัดไว้ การถวายผ้าแดงมักมาพร้อมกับการจุดเทียนและตั้งจิตอธิษฐาน พร้อมบอกชื่อและคำขอที่ต้องการ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผู้ศรัทธานิยมทำอย่างมาก โดยเฉพาะในวันพระหรือวันเกิด

ในช่วงวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา หรือวันปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ที่ศาลหลักเมืองจะจัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีพราหมณ์ และกิจกรรมแห่ผ้าพระ ซึ่งเป็นโอกาสให้ประชาชนได้เข้าร่วมพิธีกรรมเพื่อเสริมสิริมงคล

บางวันจะมีพิธีบวงสรวงตามฤกษ์ ซึ่งจัดโดยเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในช่วงต้นปี หรือช่วงที่มีเหตุการณ์สำคัญระดับประเทศ เช่น วันพระราชพิธี หรือวันสถาปนากรุงเทพฯ (21 เมษายน) ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเข้าร่วมพิธี หรือชมการบวงสรวงได้อย่างใกล้ชิด

ข้อควรรู้ก่อนไปศาลหลักเมืองกรุงเทพ

ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

สิ่งแรกที่ควรรู้คือ เวลาเปิด - ปิดของศาลหลักเมือง โดยศาลจะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมและกราบไหว้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 18.00 น. ไม่มีวันหยุดราชการหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ อย่างไรก็ตาม หากมีการจัดพิธีบวงสรวงหรือพิธีกรรมพิเศษ อาจมีการปิดพื้นที่บางส่วนชั่วคราว ดังนั้นควรตรวจสอบล่วงหน้าหากต้องการเข้าร่วมพิธีเฉพาะทาง

ในเรื่องของเครื่องแต่งกาย ควรแต่งตัวสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากศาลหลักเมืองเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงการสวมกระโปรงสั้น เสื้อสายเดี่ยว หรือเสื้อรัดรูป ส่วนผู้ชายควรหลีกเลี่ยงการใส่กางเกงขาสั้นหรือเสื้อกล้าม 

เมื่อเข้าสู่บริเวณศาล ควรปฏิบัติตามมารยาททางศาสนา เช่น ถอดรองเท้าก่อนเข้าสู่พื้นที่ภายในศาลหลัก ไม่พูดเสียงดัง ไม่ถ่ายภาพใกล้เสาหลักหรือเทวรูปโดยไม่มีการอนุญาต และไม่สัมผัสวัตถุมงคลหรืออุปกรณ์ในพิธีโดยพลการ หากมีการจุดธูปเทียน ควรใช้จุดที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะ และควรดับไฟธูปให้เรียบร้อยหากมีลมแรงหรือผู้คนหนาแน่น

ข้อควรรู้อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือ ศาลหลักเมืองตั้งอยู่บริเวณที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเทศกาล ควรระมัดระวังทรัพย์สินมีค่า ไม่ควรพกพาเงินสดจำนวนมาก และควรใช้บริการร้านค้าที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบจากการจำหน่ายของที่ระลึกหรือเครื่องบูชาราคาสูง

นอกจากนี้ ควรเตรียมเงินสดเล็กน้อยไว้สำหรับซื้อธูปเทียน พวงมาลัย หรือผ้าแดงเพื่อถวายตามความเชื่อ ปัจจุบันมีร้านค้าและจุดให้บริการอยู่รอบบริเวณศาล โดยสามารถเลือกซื้อได้ตามสะดวก ทั้งนี้ไม่บังคับให้ซื้อจากร้านใดร้านหนึ่ง

🎁จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกพร้อมข้อเสนอพิเศษ 🏨ค้นหาโรงแรมที่ดีที่สุดบนTrip.com! 📱รับ eSIM ที่รวดเร็วเพื่อเชื่อมต่อเมื่ออยู่ต่างประเทศ!

แนะนำที่พักใกล้ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

พระนคร พอชเทล (Phanakorn Poshtel)

โฮสเทลที่มีสไตล์เรียบง่าย แต่แฝงด้วยเสน่ห์ของศิลปะไทยร่วมสมัย ตั้งอยู่ในเขตพระนคร ใกล้ศาลหลักเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง ตัวที่พักมีการตกแต่งเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และผ้าทอ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน

พระนคร พอชเทล (Phanakorn Poshtel)

ห้องพักที่นี่มีความหลากหลาย ตั้งแต่ห้องรวมสำหรับนักเดินทางแบ็คแพ็กเกอร์ ไปจนถึงห้องส่วนตัวที่เหมาะสำหรับคู่รักหรือครอบครัว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องน้ำส่วนตัว แอร์ และอินเทอร์เน็ตไร้สาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพบปะพูดคุยหรือพักผ่อน

พระนคร พอชเทล (Phanakorn Poshtel)

ด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองและราคาไม่สูงมาก จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการที่พักคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง และต้องการสัมผัสบรรยากาศชุมชนเมืองเก่าอย่างแท้จริง โดยสามารถเดินจากที่พักไปยังศาลหลักเมืองได้ในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น

รีวิวจากผู้เข้าพักจริง

A‍n‍y‍a‍ ‍P‍h‍.:โรงแรมใหม่ สะอาด ดีงาม ตอนจองเหลือห้องใหญ่ห้องเดียว ได้ห้องมุมด้านหน้าด้วย มองเห็นสะพานพระราม8จากหน้าต่าง ห้องกว้างมากเพราะใช้นอนได้3คน แต่เรามาคนเดียว พนักงานก็น่ารักมาก บอกให้พิเศษไม่ต้องวางมัดจำ ฟรีอาหารเช้าด้วย (เพราะไม่ได้จ่ายอาหารเช้าเพิ่มตอนจอง) มีอเมริกันเบรกฟาสกับข้าวต้ม เราเลือกข้าวต้ม อร่อยใช้ได้ มีคาเฟ่ตรงล็อบบี้ มัทฉะลาเต้อร่อยมาก รร.อยู่ในเขตเมืองเก่า เหมาะกับการตระเวนท่องเที่ยว มาไหว้พระวัดย่านนี้ เดินตระเวนหาของกินอร่อยในย่านนี้ 10/10

โรงแรมซีน บางกอกน้อย (Seen Bangkoknoi Hotel)

ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย บรรยากาศเงียบสงบ โรงแรมนี้มีการออกแบบที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมโบราณกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว โดยเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติและสีโทนอุ่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

โรงแรมซีน บางกอกน้อย (Seen Bangkoknoi Hotel)

ห้องพักของที่นี่มีความกว้างขวาง พร้อมวิวคลองที่สวยงาม มีทั้งห้องพักแบบเตียงเดี่ยวและห้องแบบครอบครัว รวมถึงบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายและสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆ บริเวณโรงแรมยังมีสวนหย่อมและพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนริมคลอง

โรงแรมซีน บางกอกน้อย (Seen Bangkoknoi Hotel)

การเดินทางจากโรงแรมซีนมายังศาลหลักเมืองนั้นสามารถทำได้โดยการใช้บริการเรือคลองหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สะดวกสบายและรวดเร็ว ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากพักในบรรยากาศสงบแต่ยังเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้ง่ายอีกด้วย

รีวิวจากผู้เข้าพักจริง

A‍l‍i‍c‍e‍.‍A:ที่พักสะดวกสบาย อุปกรณ์ครบครัน ราคาที่จองกับทริปถูกกว่าหลายที่ ถ้ามีโอกาสคงได้จองอีก เตียงนุ่ม และ ทางโรงแรมจัดห้องให้ตามรีเควส ข้างล่างมีร้านอาหาร สระว่ายน้ำ❤️

House of Machine Boutique Hotel

โรงแรมสไตล์ลอฟต์อินดัสเทรียลที่ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ใกล้ถนนราชดำเนินกลาง ตัวโรงแรมตกแต่งด้วยโครงสร้างเหล็กและไม้ สร้างบรรยากาศที่ทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานความดิบเท่และอบอุ่นได้อย่างลงตัว

House of Machine Boutique Hotel

ที่พักแห่งนี้เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ชอบความไม่เหมือนใคร และต้องการพักในทำเลที่อยู่ใกล้กับถนนข้าวสารและศาลหลักเมือง สามารถเดินไปยังศาลหลักเมืองได้ในเวลาเพียง 5 นาที ห้องพักมีขนาดกะทัดรัด แต่มีการจัดวางพื้นที่อย่างคุ้มค่า พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน เช่น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น และ Wi-Fi

House of Machine Boutique Hotel
รีวิวจากผู้เข้าพักจริง

Y‍a‍o‍j‍i‍n‍g‍(‍P‍i‍n‍k‍y‍):ห้องพักใหญ่มาก ออกแบบสไตล์อินดัสเทรียล คุณลุงที่แผนกต้อนรับใจดีมาก ช่วยยกสัมภาระ มีพื้นที่สูบบุหรี่ที่ทางเข้าโรงแรม เดินจากพระบรมมหาราชวังเพียง 10 นาที และอยู่ใกล้กับตลาดกลางคืนถนนข้าวสาร ขอแนะนำอย่างยิ่ง

โรงแรมคอร์ริดอร์ 2407 (The Corridor Hotel 2407)

ตั้งอยู่บนถนนมหาราช ใกล้กับศาลหลักเมืองและถนนพระอาทิตย์ ที่พักนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่พักบรรยากาศเรียบง่ายและสงบ แต่ยังคงความสะดวกในการเดินทาง ภายในโรงแรมมีห้องพักหลากหลายขนาด ตั้งแต่ห้องเดี่ยวไปจนถึงห้องสำหรับครอบครัว

The Corridor Hotel 2407

การตกแต่งเน้นสไตล์มินิมอล เรียบหรูด้วยสีโทนอ่อนและเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน เช่น แอร์ ทีวี อินเทอร์เน็ตไร้สาย และห้องน้ำส่วนตัว โรงแรมยังมีบริการอาหารเช้าแบบไทย - สากล และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งพักผ่อนหรือทำงาน ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพเพื่อเที่ยวชมสถานที่สำคัญและต้องการที่พักที่เงียบสงบแต่ใกล้เมือง

The Corridor Hotel 2407
รีวิวจากผู้เข้าพักจริง

L‍u‍k‍e:It was a very lovely place to spend the night and was within walking distance of many great destinations.

โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ (Millennium Hilton Bangkok)

โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีชื่อเสียงด้านการบริการและความสะดวกสบายระดับพรีเมียม ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์สุดหรูพร้อมวิวแม่น้ำสวยงาม

Millennium Hilton Bangkok

โรงแรมมีห้องพักหลากหลายประเภท ตั้งแต่ห้องดีลักซ์ไปจนถึงห้องสวีทที่กว้างขวาง พร้อมวิวแม่น้ำแบบพาโนรามา สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ และบริการสปา

Millennium Hilton Bangkok

สำหรับการเดินทางมายังศาลหลักเมืองจากโรงแรม สามารถใช้บริการเรือข้ามฟากที่ท่าเรือโรงแรมเพื่อเชื่อมต่อกับท่าเรือใกล้ศาลหลักเมือง หรือใช้บริการรถแท็กซี่ได้ในเวลาประมาณ 10 - 15 นาที โรงแรมตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาและความสะดวกสบายของโรงแรมหรูใจกลางกรุง

รีวิวจากผู้เข้าพักจริง

A‍r‍e‍e‍r‍a‍t‍ ‍L:Millennium Hilton Bangkok เป็นสถานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการฉลองวันครบรอบที่น่าจดจำ ด้วยทำเลที่ตั้งติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โรงแรมให้บรรยากาศโรแมนติกที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและความอบอุ่น ห้องพักออกแบบอย่างมีรสนิยม พร้อมวิวแม่น้ำที่สวยงามราวกับภาพวาด นอกจากนี้ ร้านอาหารภายในโรงแรมยังเสนอเมนูอาหารรสเลิศที่สามารถตอบโจทย์ทุกคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารใต้แสงเทียนหรือนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินริมแม่น้ำ การบริการของพนักงานเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ช่วยเติมเต็มความประทับใจในทุกช่วงเวลา หากคุณกำลังมองหาสถานที่เพื่อเฉลิมฉลองวันพิเศษ Millennium Hilton Bangkok คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดสำหรับการสร้างความทรงจำที่งดงามในวันครบรอบของคุณ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ใกล้ศาลหลักเมืองกรุงเทพ

พระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

ห่างจากศาลหลักเมืองเพียงถนนกั้นกลาง พระบรมมหาราชวังคือสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเทพฯ ที่มีทั้งความสง่างามและประวัติศาสตร์ยาวนาน ภายในประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมไทยแบบราชสำนัก รวมถึงวัดพระแก้ว ซึ่งประดิษฐานพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้ทุกวัน (เวลา 08.30 - 15.30 น.) โดยต้องแต่งกายสุภาพ

พิพิธภัณฑ์พระนคร (พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน)

พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน

ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับสถานี MRT สนามไชย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปะไทย พระพุทธรูป และวัตถุโบราณล้ำค่าจากทั่วประเทศ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ปิดทุกวันจันทร์และอังคาร เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยโดยเฉพาะ

วัดโพธิ์ (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม)

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

เดินจากศาลหลักเมืองเพียงไม่กี่นาที วัดโพธิ์เป็นวัดเก่าแก่ที่มีพระนอนองค์ใหญ่ และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แพทย์แผนไทยและนวดแผนโบราณ จุดเด่นคือจิตรกรรมฝาผนัง พระเจดีย์สีทอง และศิลาจารึกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกโดยยูเนสโก นักท่องเที่ยวนิยมมานวดแผนไทยที่นี่หลังจากไหว้ศาลหลักเมือง

พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์

พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์

อยู่ถัดจากศาลหลักเมืองเพียงไม่กี่ร้อยเมตร พิพิธภัณฑ์นี้เป็นที่จัดแสดงเหรียญโบราณ ธนบัตร และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของไทยตั้งแต่ยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น มีห้องจัดแสดงที่ทันสมัย พร้อมระบบมัลติมีเดียและไกด์นำชมฟรี เปิดให้เข้าชมวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น. เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวและผู้สนใจเศรษฐกิจการเงินในอดีต

ถนนข้าวสาร

ถนนข้าวสาร

ห่างจากศาลหลักเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร ถนนข้าวสารคือย่านท่องเที่ยวชื่อดังที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และแหล่งช้อปปิ้งในบรรยากาศนานาชาติ เหมาะสำหรับเดินเล่นยามเย็น ลิ้มลองอาหารสตรีตฟู้ด หรือหาของฝากกลับบ้าน โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่ถนนจะคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สัมผัสหัวใจกรุงเทพฯ: แวะไหว้ศาลหลักเมืองเพื่อเติมพลังชีวิต

ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นเพียงจุดศูนย์รวมศรัทธาของชาวไทยเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือนหัวใจของกรุงเทพมหานคร ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความเชื่อดั้งเดิมของคนไทยได้อย่างลึกซึ้ง การได้เดินทางมาไหว้ศาลหลักเมืองสักครั้ง ไม่เพียงช่วยเสริมกำลังใจและสิริมงคลให้ชีวิต แต่ยังเป็นการสัมผัสกับวิถีไทยในแง่มุมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า อีกทั้งศาลหลักเมืองแห่งนี้ก็พร้อมต้อนรับทุกคนและผู้ที่ศรัทธาไม่เคยเสื่อมคลาย หากมีโอกาส อย่าลืมแวะมาไหว้ขอพรและเติมพลังชีวิต ที่ศาลหลักเมืองใจกลางกรุงเทพฯ กันน้า

คำถามพบบ่อย

  • ฉันควรไปไหว้ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ วันและเวลาไหน

    เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น. เข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เครื่องเซ่นไหว้ศาลหลักเมืองมีอะไรบ้าง

    สิ่งของที่ต้องเตรียม การไหว้ศาลหลักเมืองนั้นมีสิ่งของต่างๆ ที่ต้องเตรียมดังต่อไปนี้ ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ทองคำเปลว ดอกบัว 2 ดอก ผ้าแพร 3 สี / 5สี / 7 สี ตามแต่ความเหมาะสม พวงมาลัย 2 พวง
  • ไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพจอดรถที่ไหน

    จอดรถได้ที่ท้องสนามหลวง
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที
Renita

Renita

นักเขียนบล็อกท่องเที่ยว

นักเขียนอิสระสายไลฟ์สไตล์ ชื่นชอบแฟชั่น และหลงรักในการดูแลตัวเอง บอกต่อไอเทมบิวตี้และแชร์ทริคเก๋ๆ ให้ทุกคนได้นำไปประยุกต์ใช้ ที่สำคัญชื่นชอบเคพ็อพ สามารถนำมาประยุกต์การท่องเที่ยวได้

276 บทความ
นักท่องเที่ยวอิสระ ชื่นชอบแฟชั่น
>>
ศาลหลักเมืองกรุงเทพ