
ในยุคปัจจุบันที่การเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญของการเดินทาง Wi-Fi บนเครื่องบินได้กลายเป็นมากกว่าแค่ความสะดวก แต่คือปัจจัยที่เปลี่ยนประสบการณ์การบินไปโดยสิ้นเชิง และกลายเป็นหนึ่งในบริการที่นักเดินทางชาวไทยกำลังให้ความสนใจ เพราะสำหรับหลายคนแล้ว คือเครื่องมือสำคัญในการทำงาน การเข้าประชุมออนไลน์ หรือแม้แต่การสตรีมความบันเทิงระหว่างเที่ยวบินยาว ๆ เพื่อฆ่าเวลา ถ้าพร้อมแล้วก็มาทำความเข้าใจผ่าน Trip.com ในบทความนี้ได้เลย รับรองว่าการเดินทางของเพื่อน ๆ ทุกคนจะง่ายนิดเดียวและไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ทำไม Wi-Fi บนเครื่องบินถึงสำคัญในยุคนี้
ทุกวันนี้เวลาเราเดินทางด้วยเครื่องบิน หลายคนคงไม่ได้มองว่าเป็นแค่การนั่งโดยสารจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งอีกต่อไป แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่อยากเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ การมี Wi-Fi บนเครื่องบินจึงไม่ใช่แค่บริการเสริม แต่กลายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้เราส่งงานทันเวลา พูดคุยกับครอบครัว หรือแม้แต่ดูหนังฟังเพลงแก้เบื่อได้แบบไม่สะดุด
เคล็ดลับการใช้ Wi-Fi บนเครื่องบินให้คุ้มค่าที่สุด

1. ตรวจสอบแพ็กเกจก่อนซื้อ แนะนำให้เลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมตรงตามความต้องการค่ะ
2. ดาวน์โหลดสิ่งสำคัญและไฟล์ขนาดใหญ่ไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยเมื่อเพื่อน ๆ เจอช่วงที่สัญญาณไม่เสถียรและประหยัดอินเทอร์เน็ตได้ดีมาก
3. ใช้โหมดประหยัดข้อมูล ปิดการอัปเดตอัตโนมัติและการซิงก์แอปที่ไม่จำเป็นออก เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้การใช้งานราบรื่นและไม่เปลืองแพ็กเกจอีกด้วย
4. ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย การใช้ Wi-Fi สาธารณะควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมการเงินหรือกรอกข้อมูลสำคัญ สามารถใช้ VPN เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้
5. สุดท้าย ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เตรียมแบตเตอรี่ให้พร้อม ชาร์จแบตให้เต็มหรือพกพาวเวอร์แบงก์ขึ้นเครื่องไปเผื่อ
แนะนำเที่ยวบิน
ตารางเปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจ Wi-Fi บนเครื่องบินของสายการบินต่าง ๆ
การเลือกใช้ Wi-Fi บนเครื่องบิน ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ความเร็วหรือความเสถียรเท่านั้น แต่เรื่องราคาและรูปแบบแพ็กเกจก็สำคัญไม่แพ้กัน นักเดินทางควรรู้รายละเอียดเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ เพราะแต่ละสายการบินมีนโยบายแตกต่างกัน การทำความเข้าใจกับตัวเลือกเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้ทุกคนวางแผนการใช้งานได้คุ้มค่า ถ้าพร้อมแล้ว…ก็มาดูกันเลยว่ามีตัวเลือกแบบไหนที่น่าสนใจบ้าง
สายการบินในประเทศ
สายการบิน | ราคาและแพ็กเกจ | หมายเหตุ |
การบินไทย | ไม่มีค่าใช้จ่าย | สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งรอยัล เฟิสต์, ผู้โดยสารชั้นธุรกิจรอยัล ซิลค์ และสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัสทุกประเภท |
ไทยแอร์เอเชีย | 375 บาท ไม่จำกัดการใช้งาน | - |
บางกอกแอร์เวย์ส | - | ยังไม่มีบริการ Wi-Fi บนเครื่องบิน |
นกแอร์ | ไม่มีค่าใช้จ่าย | สำหรับผู้โดยสารทุกประเภท ที่โดยสารเครื่องบินที่มีสัญลักษณ์ "นกสนุก" เท่านั้น |
สำหรับสายการบินในประเทศ นกแอร์เป็นตัวเลือกที่เข้าถึงผู้โดยสารได้ครอบคลุมที่สุด เพราะเปิดให้ใช้งาน Wi-Fi ฟรีทุกที่นั่ง หากโดยสารเที่ยวบินที่มีเครื่องหมาย “นกสนุก” ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากออนไลน์ตลอดการเดินทาง และไทยแอร์เอเชียก็ตอบโจทย์สายโซเชียลหรือคนที่อยากใช้อินเทอร์เน็ตแบบไม่อั้น ด้วยแพ็กเกจราคาเหมาจ่ายที่ใช้ได้ตลอดทั้งไฟลต์ และสุดท้ายผู้โดยสารสายพรีเมียมน่าจะถูกใจการบินไทย ซึ่งมอบสิทธิพิเศษ Wi-Fi ฟรีตามประเภทสมาชิกและที่นั่ง เรียกได้ว่าทุกกลุ่มมีตัวเลือกที่เหมาะสมกับสไตล์การเดินทางของตัวเองจริง ๆ
สายการบินต่างประเทศยอดนิยม
สายการบิน | ราคาและแพ็กเกจ | หมายเหตุ |
เอมิเรตส์ | 1. ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับสมาชิก Emirates Skywards ที่เดินทางชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ และสำหรับสมาชิก Emirates Skywards Platinum ที่เดินทางทุกชั้นโดยสาร | - |
สิงคโปร์แอร์ไลน์ | ไม่มีค่าใช้จ่าย | สำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ชั้นสวีท และชั้นเฟิร์สคลาส รวมถึงสมาชิก KrisFlyer และ PPS Club |
กาตาร์แอร์เวย์ | ไม่มีค่าใช้จ่าย | สำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่งที่โดยสารเครื่องบิน Boeing 777 และ A350 |
คาเธ่ย์แปซิฟิค | 1. ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ รวมถึงสมาชิกคาเธ่ย์ไดมอนด์ที่เดินทางทุกชั้นโดยสาร | - |
สกู๊ต | 1. ผู้โดยสารสกู๊ตพลัส จะได้รับอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี 30MB | จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติม สูงสุดถึง 50% หากซื้อแพ็คเกจก่อนขึ้นเครื่อง |
มาถึง สายการบินต่างประเทศ กันบ้าง ต้องบอกว่ากาตาร์แอร์เวย์ถือว่าคุ้มที่สุด เพราะเปิดให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งใช้งาน Wi-Fi ได้ฟรีแบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ส่วน เอมิเรตส์ และ คาเธ่ย์แปซิฟิค ก็เหมาะกับสายพรีเมียมหรือผู้ที่ชอบสะสมไมล์ เนื่องจากสิทธิพิเศษจะเน้นไปที่ชั้นโดยสารและระดับสมาชิก ขณะที่ สกู๊ต ดูจะตอบโจทย์สายประหยัดได้ดี เพราะมีแพ็กเกจเริ่มต้นเบา ๆ แค่ราว 50 บาทต่อ 20MB แถมยังเลือกได้ตามการใช้งานจริง และปิดท้ายที่ สิงคโปร์แอร์ไลน์ ซึ่งมอบ Wi-Fi ฟรีให้เฉพาะผู้โดยสารกลุ่มกำลังซื้อสูง เช่น ชั้นสวีทหรือเฟิร์สคลาส ทำให้แต่ละสายการบินมีความคุ้มค่าแตกต่างกันไปตามสไตล์การเดินทาง
วิธีเชื่อมต่อ Wi-Fi บนเครื่องบินง่าย ๆ ใน 5 ขั้นตอน

1. เข้าเปิดตั้งค่าใช้งาน Airplane Mode และเปิด Wi-Fi
2. ค้นหาและเลือกเครือข่ายของสายการบิน
3. เปิดเบราว์เซอร์พื้นฐานเพื่อเข้าไปยังหน้าล็อกอิน
4. เลือกแพ็กเกจตามการใช้งานที่เหมาะสม จากนั้นชำระเงิน สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้สั่งซื้อ Wi-Fi บนเครื่องบินล่วงหน้า
5. เริ่มต้นใช้งานบนเครื่องบินกันได้เลย !
ทั้งนี้ อาจมีรูปแบบการใช้งานต่างกันออกไปตามข้อกำหนดของสายการบิน
บทสรุปส่งท้าย
ทุกวันนี้การมี Wi-Fi บนเครื่องบิน ไม่ได้เป็นเพียงบริการเสริม แต่กลายเป็นสิ่งที่ช่วยเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางอย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะต้องทำงาน ส่งอีเมล ประชุมออนไลน์ คุยกับครอบครัว หรือแค่ต้องการความบันเทิงเพื่อฆ่าเวลา ก็จะสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด
และการให้บริการนี้ แต่ละสายการบินก็จะมีรูปแบบแพ็กเกจและสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันไป ทั้งแบบฟรีสำหรับบางที่นั่ง แบบเหมาจ่ายไม่จำกัด ไปจนถึงการคิดค่าใช้จ่ายตามปริมาณการใช้งาน การทำความเข้าใจตัวเลือกเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้เพื่อน ๆ ทุกคนวางแผนการใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด แล้วคุณล่ะ พร้อมออกเดินทางแล้วหรือยัง? มาค้นหาและจองเที่ยวบินที่มี Wi-Fi บนเครื่องบินง่าย ๆ พร้อมกับโปรดส่วนลดจุก ๆ ที่ Trip.com กันเลย!
บทความที่คุณอาจสนใจ
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการใช้ Wi-Fi บนเครื่องบิน
Wi-Fi บนเครื่องบินเร็วแค่ไหน
ความเร็วนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละสายการบิน โดยทั่วไปมักขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี Wi-Fi ที่ใช้และจำนวนการใช้งานของผู้โดยสาร ทั้งนี้ Wi-Fi จากดาวเทียมจะให้ความเร็วที่เร็วกว่า โดยจะมีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 30-100 Mbps ในขณะที่ Wi-Fi ระบบ ATG มักจะมีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 10-15 Mbpsสามารถใช้โทรศัพท์ผ่าน Wi-Fi Calling บนเครื่องบินได้หรือไม่
ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ผ่าน Wi-Fi Calling บนเครื่องบินได้ เนื่องจากการโดยสารด้วยเครื่องบินต้องเปิดโหมดเครื่องบินเพื่อปิดสัญญาณเซลลูลาร์ ซึ่งทำให้โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ได้ตามปกติ แม้ว่า Wi-Fi Calling จะออกแบบมาเพื่อให้โทรศัพท์ผ่าน Wi-Fi ได้ แต่บนเครื่องบินจะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันนี้ได้เพราะจะรบกวนการสื่อสารการบินต้องชำระเงินสำหรับการใช้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบินทุกครั้งหรือไม่
ไม่จำเป็นเสมอไป บางสายการบินมีบริการ Wi-Fi ฟรีให้ หรือมีข้อกำหนดให้เฉพาะผู้โดยสารชั้นธุรกิจหรือสมาชิกสายการบินใช้ได้ฟรีสามารถใช้ VPN บนเครื่องบินได้หรือไม่
ได้ คุณสามารถใช้ VPN บนเครื่องบินได้ โดยต้องเปิดโหมดเครื่องบินก่อน แล้วจึงเชื่อมต่อกับ Wi-Fi จากนั้นจึงเปิดแอป VPN เพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการต้องใช้ขนาดข้อมูลเท่าใดจึงจะสามารถสตรีมภาพยนตร์บนเครื่องบินได้
สำหรับภาพยนตร์ความละเอียดมาตรฐาน ใช้ข้อมูลประมาณ 1GB ถึง 2GB สำหรับการสตรีมที่มีความละเอียดสูง อาจใช้ข้อมูลอยู่ที่ 3GB หรือมากกว่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพิจารณาข้อกำหนดข้อมูลเหล่านี้เมื่อซื้อแพ็กเกจ Wi-Fi เนื่องจากสายการบินบางแห่งเรียกเก็บเงินตามการใช้งานข้อมูล





