รถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้ 2568 เส้นทาง ตารางเวลา วิธีขึ้น ราคาอัปเดตล่าสุด

ถ้าเพื่อนๆ กำลังหาวิธีเข้าเมืองจากสนามบินผู่ตงแบบเร็วที่สุด รถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้คือคำตอบที่หลายคนแนะนำกันเลย เพราะใช้เวลาแค่ประมาณ 8 นาทีจากสนามบินถึงสถานี Longyang Road แบบไม่ต้องทนรถติด แถมยังได้ลองเทคโนโลยีล้ำๆ ของจีนที่ใช้พลังแม่เหล็กยกตัวรถไฟไม่มีล้อ ไม่เสียดสีกับราง ทำให้วิ่งได้เร็วและนุ่มมาก Trip.com จะมาแชร์ข้อมูลแบบเข้าใจง่าย พร้อมตารางเวลา-ราคา และเคล็ดลับเฉพาะที่ใช้ได้จริงในปี 2568

รถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้คืออะไร?

รถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Maglev Train) เป็นรถไฟที่ใช้เทคโนโลยีแม่เหล็กลอยตัว ทำให้ตัวรถไม่แตะราง เวลาวิ่งจึงแทบไม่มีแรงเสียดทาน ผลลัพธ์คือเร็วมาก แบบแตะ 300 - 430 กม./ชม. ได้สบายๆ ในช่วงทดสอบ และวิ่งจริงราว 300 กม./ชม. ตามรอบเวลาปกติ เหมาะสำหรับคนต้องการเข้าเมืองเร็วแบบไม่อยากเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว

เทคโนโลยีที่ทำให้แม็กเลฟพิเศษ

แม็กเลฟใช้สนามแม่เหล็กทั้งยกตัวรถไฟขึ้นและขับเคลื่อนไปข้างหน้า ทำให้การเดินทางนุ่มมาก ไม่มีเสียงล้อบดราง และออกตัวเร็วแบบแทบไม่รู้สึกกระตุกเลย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากลองอะไรล้ำๆ แบบที่หาไม่ได้จากรถไฟทั่วไป

เส้นทางที่ให้บริการ

แม็กเลฟในเซี่ยงไฮ้เป็นเส้นทางสั้นๆ แต่เน้นการเชื่อมสนามบินผู่ตงกับในเมือง ระยะทางประมาณ 30 กม. เท่านั้น และมีแค่ 2 สถานี

• Longyang Road
• Pudong International Airport

แม้สถานีจะน้อย แต่ข้อดีคือไม่แวะ ไม่จอด ทำให้ใช้เวลาแค่ประมาณ 8 นาทีจากปลายทางถึงปลายทาง

ความเร็วและประสบการณ์โดยรวม

ตอนนั่งครั้งแรกหลายคนจะตกใจนิดๆ เพราะออกตัวเร็วมาก ตัวรถนิ่งแบบไม่สั่นสะเทือน และมีจอแสดงความเร็วให้ลุ้นตลอด สายถ่ายรูป-ถ่ายสตอรี่จะสนุกมากค่ะ เพราะตัวเลขวิ่งขึ้นแบบรวดเร็วสุดๆ

ความเหมาะกับนักท่องเที่ยว

เหมาะกับคนที่

• ลงเครื่องแล้วอยากเข้าเมืองไว
• ไม่อยากรถติด
• ต่อเครื่องและมีเวลาน้อย
• อยากลองรถไฟแม่เหล็กความเร็วสูงของจริงสักครั้ง

แผนที่เส้นทางและสถานีของรถไฟ Maglev เซี่ยงไฮ้

ขอบคุณภาพจาก China Maps

รถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้มีจุดเด่นคือวิ่งตรง ไม่แวะ ไม่อ้อม เพราะให้บริการเพียงสองสถานีเท่านั้น เหมือนเป็นรถด่วนพิเศษเชื่อมจากสนามบินผู่ตงเข้าสู่เขตเมืองฝั่งตะวันออกอย่างรวดเร็ว โดยปลายทางต่อเมโทรได้หลายสาย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเข้าเมืองแบบไม่ต้องลุ้นรถติดหรือไม่อยากลากกระเป๋านานๆ

เส้นทางหลักของแม็กเลฟ

เส้นทางของ Maglev มีความยาวประมาณ 30 กิโลเมตร เชื่อม

• Pudong International Airport (PVG) → Longyang Road Station
• โดยไม่มีจุดจอดอื่นระหว่างทาง ทำให้สามารถรักษาความเร็วได้ตลอดสาย

สถานีสำคัญที่ต้องรู้

แม้ว่าจะมีแค่สองสถานี แต่แต่ละแห่งก็เชื่อมโยงระบบขนส่งอื่นได้ดีมาก

• Longyang Road : สถานีนี้ถือเป็นประตูเข้าสู่ตัวเมือง สามารถต่อรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2, 7 และ 16 ได้ง่ายมาก หรือจะเรียกรถแท็กซี่และ Didi ก็สะดวก
• Pudong Airport : ตั้งอยู่ภายในอาคารผู้โดยสาร ใช้เวลาเดินจากโถงขาเข้าประมาณ 3–5 นาที เหมาะสำหรับคนมีสัมภาระเยอะ

จุดเด่นของเส้นทางนี้

• ใช้เวลาเดินทางเพียง 7 - 8 นาที
• รถไฟจะเร่งความเร็วได้เต็มที่เพราะไม่มีจุดหยุดระหว่างทาง
• เหมาะสำหรับคนต่อรถไฟใต้ดินเข้าสู่เขตเมืองอื่นๆ เช่น ลู่เจียจุ่ย, ถนนหนานจิง หรือไปสถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้
• ถ้ามีเที่ยวบินตอนเช้า รถไฟรอบแรกช่วยประหยัดเวลาได้มาก

ตารางเวลารถไฟ Maglev เซี่ยงไฮ้

เวลาทำการของรถไฟ Maglev เซี่ยงไฮ้

เวลาทำการของรถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้ถือว่าสะดวกสำหรับทั้งคนลงเครื่องเช้าและคนที่มีไฟลท์ช่วงค่ำ เพราะวิ่งตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึงดึกพอสมควร แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรรู้คือ แม็กเลฟไม่ได้วิ่ง 24 ชั่วโมง แถมรอบสุดท้ายมักจบค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับเมโทร เพราะฉะนั้นถ้าไฟลท์ดีเลย์ ให้เช็กเวลาให้ดีไม่งั้นอาจต้องเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าสาย 2 หรือแท็กซี่แทน

เวลาทำการรอบเช้า

• Longyang Road → สนามบินผู่ตง เริ่มให้บริการตั้งแต่ประมาณ 06:45 น.
• สนามบินผู่ตง → Longyang Road เริ่มประมาณ 07:02 น.

เวลาทำการรอบค่ำ

• รถไฟขบวนสุดท้ายจาก Longyang Road ไปสนามบินคือประมาณ 21:40 น.
• ส่วนขาเข้าจากสนามบินไป Longyang Road จะอยู่ที่ประมาณ 21:42 น.

ความถี่ในการเดินรถ

• ช่วงเวลาปกติจะออกทุก 15–20 นาที
• ผู้โดยสารเยอะ เช่น ช่วงเช้า ช่วงเย็นหรือวันทำงาน จะเวลารอไม่เกิน 15 นาที

เคล็ดลับสำหรับปี 2025

• ถ้ามีไฟลท์ถึงสนามบินหลัง 21:20 น. มีโอกาสสูงมากว่าจะไม่ทันแม็กเลฟ
• ช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือวันหยุดยาว ควรเผื่อเวลาเดินต่อจากโถงขาเข้า 5 - 15 นาที
• ถ้าอยากได้ความเร็วสูงสุด (รอบที่แตะ 300+ กม./ชม.) มักจะอยู่ช่วงกลางวันถึงช่วงเย็น เพราะรอบเช้าตรู่และค่ำจะใช้ความเร็วต่ำลง

ราคาค่าโดยสารรถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Maglev Train)

มีตัวเลือกตั๋วหลายแบบที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเลือกจ่ายได้ตามความต้องการ ทั้งแบบเที่ยวเดียว แบบไป-กลับ ตั๋วแบบรวมรถไฟใต้ดิน รวมถึงราคาสำหรับเด็ก ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และควบคุมงบประมาณได้ง่าย

ประเภทตั๋วหลัก

ตั๋วมาตรฐาน Economy เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะให้ราคาที่คุ้มค่าและเดินทางได้รวดเร็วเท่ากันทุกคลาส

ตั๋วส่วนลดและแพ็กเกจพิเศษ

สำหรับนักเดินทางที่ต้องการประหยัดมากขึ้นยังสามารถเลือกตั๋ว Discounted Economy ซึ่งมักมีให้เมื่อผู้โดยสารแสดง Boarding Pass ของสายการบินที่ร่วมรายการ นอกจากนี้ยังมี Maglev + Metro Pass ซึ่งรวมการเดินทางด้วยแม็กเลฟและรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้แบบเที่ยวเดียว เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องเข้าเมืองต่อโดยรถไฟใต้ดิน

ราคาสำหรับเด็ก

เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 130 เซนติเมตรจะได้รับสิทธิ์ซื้อตั๋วในราคาครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ ช่วยให้ครอบครัวสามารถประหยัดค่าเดินทางได้มากขึ้น ทั้งแบบเที่ยวเดียวและแบบไป-กลับ

ตารางราคาค่าโดยสารรถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้

วิธีซื้อตั๋วรถไฟ Maglev เซี่ยงไฮ้

การซื้อตั๋วรถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Maglev Train) ไม่ยุ่งยากเลย ต่อให้เป็นมือใหม่เพิ่งมาครั้งแรกก็ซื้อได้ง่ายมาก เพราะมีหลายช่องทางให้เลือกทั้งออนไลน์และหน้าสถานี จะสะดวกแบบไหนก็เลือกได้ตามสไตล์การเดินทางของตัวเอง 

ซื้อที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว

วิธีที่ง่ายที่สุดคือซื้อที่เคาน์เตอร์ในสถานี Longyang Road หรือที่สถานีสนามบินผู่ตง (Pudong Airport Maglev Station) พนักงานพูดภาษาอังกฤษพื้นฐานได้ โดยตั๋วจะมีแบบต๋วเที่ยวเดียว (One-way ticket) หรือ ตั๋วไป-กลับ (Round-Trip) ข้อดีคือมีคนช่วยตอบคำถาม แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนอาจมีคิวยาวนิดนึง

ซื้อที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ

ถ้าอยากรวดเร็วและไม่อยากต่อคิว แนะนำเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งใช้งานง่ายมาก มีภาษาอังกฤษให้เลือก หน้าจอจะให้เลือกประเภทรถไฟ เช่น Economy / VIP / Round trip จากนั้นจ่ายด้วยเงินสดหรือบางเครื่องรองรับบัตรธนาคารจีนและบัตรบางประเภท วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากจัดการเองแบบไวๆ

ซื้อผ่านออนไลน์

อีกทางเลือกที่สะดวกมากคือซื้อล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวหรือแอปที่รองรับตั๋ว Maglev อย่าง Trip.com หรือแพลตฟอร์มท้องถิ่นบางเจ้า วิธีนี้ช่วยประหยัดเวลาและเหมาะสำหรับคนที่อยากมีตั๋วไว้ก่อนเดินทาง แต่ส่วนใหญ่จะได้เป็น QR Code หรือ Voucher ต้องนำไปแลกเป็นตั๋วจริงที่สถานีก่อนขึ้น ไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มที่สแกนเข้าได้เลย

ใช้บัตรโดยสารหรือบัตรนักท่องเที่ยว

ถ้ามีบัตร Shanghai Public Transportation Card (คล้ายบัตรเติมเงิน) ก็สามารถใช้แตะเพื่อขึ้น Maglev ได้เลย หรือถ้าเลือกซื้อแพ็กเกจ Maglev + Metro Pass ก็ใช้เดินทางต่อด้วยรถไฟใต้ดินได้ทันทีหลังลงจากแม็กเลฟ สะดวกมากสำหรับคนที่ต้องเข้าเมืองต่อ

เดินทางด้วยรถไฟ Maglev เซี่ยงไฮ้อย่างไร?

การขึ้นรถไฟแม็กเลฟเซี่ยงไฮ้จริงๆ ง่ายกว่าที่หลายคนคิดมาก เพราะทั้งสถานี ป้ายบอกทาง และขั้นตอนต่างๆ ถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายสุดๆ

เริ่มต้นที่สถานีไหน?

รถไฟ Maglev มีสองสถานีหลักคือ

• Longyang Road Station อยู่โซนผู่ตง สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินสาย 2, 7 และ 16 ได้ง่ายมาก
• Pudong International Airport Station อยู่ภายในสนามบินเทอร์มินัล 1 และเดินถึงเทอร์มินัล 2 ได้ง่ายๆ

ถ้าเพิ่งลงเครื่องที่สนามบินผู่ตง เดินตามป้าย Maglev Train ก็เจอเลย ส่วนถ้าอยู่ในเมือง แนะนำให้นั่ง Metro มาลง Longyang Road เพื่อเปลี่ยนต่อแม็กเลฟ

ขั้นตอนการขึ้นรถไฟ

หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ ให้เดินไปยังจุดตรวจตั๋ว (คล้ายขึ้นรถไฟใต้ดินทั่วไป) จากนั้นจะเข้าสู่โซนรอรถ ซึ่งค่อนข้างกว้างและสะอาดมาก ประตูรถไฟจะเปิดก่อนเวลาออกรถประมาณ 2 - 3 นาที สามารถเลือกที่นั่งเองได้ ไม่มีการระบุที่นั่งบนตั๋ว

ใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่?

ถ้าวิ่งรอบที่ทำความเร็วสูงสุด ความเร็วจะพุ่งไปถึง 430 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 7 - 8 นาทีระหว่างสองสถานี แต่ถ้าเป็นรอบความเร็วปกติ จะวิ่งที่ประมาณ 300 กม./ชม. ใช้เวลาราว 8 - 10 นาที ไม่ว่าจะแบบไหนก็เร็วกว่าแท็กซี่หรือรถเมล์หลายเท่าตัว

ต่อรถเข้าตัวเมืองอย่างไร?

เมื่อมาถึงสถานี Longyang Road คุณสามารถต่อรถไฟใต้ดิน (Metro) ได้ทันที

• สาย 2 → เข้าเมืองไป People’s Square, Nanjing Road
• สาย 7 → ไปโซน Jing’an / สถานีหลัก
• สาย 16 → เชื่อมไปทางดิสนีย์หรือโซนชานเมืองบางจุด

ประสบการณ์จริงที่ควรรู้

รถไฟแม็กเลฟค่อนข้างเงียบและนั่งสบาย ถึงจะวิ่งเร็วมากแต่ไม่รู้สึกโคลงเลย ที่นั่งกว้างและแอร์เย็นกำลังดี จะหยิบกล้องหรือมือถือมาถ่ายความเร็วบนหน้าจอก็ได้ ไวรัลมากๆ ในหมู่นักท่องเที่ยว

ความคุ้มค่าระหว่าง รถไฟแม็กเลฟ vs. รถไฟฟ้าใต้ดิน vs. แท็กซี่

เวลาจะเดินทางระหว่างสนามบินผู่ตงกับใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ หลายคนอาจลังเลว่าควรขึ้นแม็กเลฟดีไหม หรือขึ้นเมโทรก็พอ หรือเรียกแท็กซี่เลยจะดีที่สุด? เพื่อให้ตัดสินใจง่ายขึ้น เรามาเปรียบเทียบกันว่าแต่ละแบบเหมาะกับใคร คุ้มแค่ไหน และต่างกันอย่างไร 

รถไฟแม็กเลฟ : เร็วที่สุด เหมาะกับคนมีเวลาจำกัด

จุดเด่นที่ทำให้ Maglev ชนะขาดคือเวลาเดินทาง เพราะใช้แค่ 7 - 8 นาทีจากสนามบินถึง Longyang Road เร็วกว่าทุกตัวเลือกอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่ต้องรีบเข้าเมือง นัดสำคัญ หรืออยากลองความเร็ว 430 กม./ชม. สักครั้ง ส่วนราคาถือว่าไม่ถูกแต่ก็ไม่แพงจนจ่ายไม่ไหว โดยเฉพาะหากซื้อเป็นตั๋วไป - กลับหรือแพ็กเกจรวมเมโทร

รถไฟฟ้าใต้ดิน : ประหยัดที่สุด เหมาะสำหรับคนเน้นคุมงบ

ถ้าไม่รีบและอยากเดินทางคุ้มๆ เมโทรสาย 2 คือคำตอบ ใช้เวลาประมาณ 50 - 60 นาทีแต่ราคาเพียงสิบกว่าบาท นั่งยาวไปถึงใจกลางเมืองได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายลุย หรือคนที่เดินทางบ่อยๆ ในเมืองอยู่แล้ว

แท็กซี่ : สะดวกที่สุด เหมาะกับคนมีสัมภาระเยอะ

แท็กซี่เหมาะมากสำหรับครอบครัวหรือคนที่มีกระเป๋าใบใหญ่หลายใบ เพราะนั่งยาวจากสนามบินถึงโรงแรมได้ทันทีไม่ต้องเปลี่ยนสถานี ราคาประมาณ 350 - 450 หยวน ขึ้นอยู่กับเวลาและระยะทาง จุดเสียคืออาจต้องเผชิญรถติด โดยเฉพาะช่วงเย็นและวันหยุด

ตารางเปรียบเทียบความคุ้มค่า