อากาศญี่ปุ่น พฤษภาคม 2569: อุณหภูมิโอซาก้าและเมืองยอดฮิต

ถ้าใครมีแพลนบินลัดฟ้าไปญี่ปุ่นในช่วงเดือนพฤษภาคม แล้วกำลังสงสัยว่าอากาศจะเป็นยังไง มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง ควรเลือกชุดแบบไหน หรือมีเรื่องอะไรที่ควรระวังไว้ก่อนเที่ยว คุณมาถูกทางแล้ว เพราะเราได้รวบรวมทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการเที่ยวญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมมาให้อย่างครบถ้วนแล้ว จัดกระเป๋าให้พร้อมแล้วไปดูกันเลย!

สภาพอากาศในญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม

เดือนพฤษภาคมเป็นฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น อากาศอบอุ่น และเป็นเวลาที่ดีในการเดินทางไปญี่ปุ่น ในเดือนพฤษภาคม อากาศในญี่ปุ่นมักจะอบอุ่น มีแดดจัด และชื้น แต่ก็มีโอกาสเกิดฝนตกได้ ช่วงนี้อากาศที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงต้องติดตามพยากรณ์อากาศตลอดเวลาเพื่อวางแผนการเดินทาง

ในเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิในญี่ปุ่นปกติจะอยู่ระหว่าง 10-25 องศาเซลเซียส แต่ที่ฮอกไกโดและทาคายามะอุณหภูมิอาจต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ เนื่องจากลักษณะทางภูมิประเทศและภูมิอากาศของญี่ปุ่น สภาพอากาศอาจแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละภูมิภาค

อาจเป็นจุดสิ้นสุดของฤดูดอกซากุระบานในญี่ปุ่น แต่ในฮอกไกโดและทาคายามะ ดอกซากุระอาจบานในเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ เดือนพฤษภาคมยังเป็นฤดูที่ดอกไม้อื่นๆ ในญี่ปุ่น เช่น ดอกไวโอเล็ต ดอกโบตั๋น และลาเวนเดอร์บานสะพรั่ง สวนสาธารณะและสวนหลายแห่งจัดงานแสดงดอกไม้และเทศกาลในเวลานี้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

สรุปแล้ว เดือนพฤษภาคมเป็นฤดูที่เหมาะแก่การไปเที่ยวญี่ปุ่นมาก ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ที่สวยงามและเทศกาลดั้งเดิมของญี่ปุ่นและในขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับอากาศที่อบอุ่นและแดดจ้าได้

สภาพอากาศเดือนพฤษภาคมใน 10 เมืองใหญ่ในญี่ปุ่น

เดือนพฤษภาคมเป็นฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น อากาศอบอุ่น และเป็นเวลาที่ดีในการเดินทางไปญี่ปุ่น ในเดือนพฤษภาคม อากาศในญี่ปุ่นมักจะอบอุ่น มีแดดจัด และชื้น แต่ก็มีโอกาสเกิดฝนตกได้ ช่วงนี้อากาศที่ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงต้องติดตามพยากรณ์อากาศตลอดเวลาเพื่อวางแผนการเดินทาง

เราได้รวมสภาพอากาศในเดือนพฤษภาคมของ 10 เมืองใหญ่ในญี่ปุ่นมาให้แล้ว ใครแพลนไปเมืองไหนก็มาดูกันได้เลย

ไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤษภาคมต้องเตรียมเสื้อผ้าอะไรบ้าง

เดือนพฤษภาคมคือช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจัดแต่ก็ไม่หนาวเกินไป เหมาะสำหรับการเดินเที่ยวชมเมืองและธรรมชาติ แต่เพราะสภาพอากาศแต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่นจะมีความแตกต่างกันไป การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับแต่ละเมืองจึงสำคัญมาก เราจึงได้เตรียมวิธีการแมทช์ชุดสำหรับการไปเที่ยว 5 เมืองใหญ่ในญี่ปุ่นมาให้ที่นี่แล้ว

1. โตเกียว

เมืองหลวงสุดคึกคักของญี่ปุ่น อุณหภูมิในเดือนพฤษภาคมจะอยู่ที่ราว 15–25 องศา กลางวันอากาศอบอุ่น แต่กลางคืนอาจจะเย็นลงนิดหน่อย ใส่เสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ตบาง ๆ คู่กับกางเกงขาสั้นหรือกางเกงสบาย ๆ กำลังพอดี เพิ่มแจ็กเก็ตบาง ๆ หรือคาร์ดิแกนไว้คลุมตอนค่ำก็เอาอยู่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศในเมืองโตเกียวค่อนข้างแห้ง อย่าลืมพกลิปมันหรือครีมบำรุงผิวติดตัวกันด้วยนะ

2. เกียวโต

เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมและศาลเจ้าโบราณ อากาศใกล้เคียงกับโตเกียว (15–25 องศา) แต่มักมีฝนโปรยเบา ๆ บางวัน ใส่ชุดเบา ๆ สบาย ๆ ก็ได้แล้ว แต่ถ้าอยากอินกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ลองเช่ากิโมโนหรือยูกาตะใส่เดินชมวัดและตรอกโบราณดู รับรองถ่ายรูปออกมาสวยเก๋สุด ๆ

3. โอซาก้า

เมืองใหญ่สำหรับสายสตรีทฟู้ดและช้อปปิ้ง อากาศพอ ๆ กับโตเกียวและเกียวโต (15–25 องศา) เลือกเสื้อยืด กางเกงขาสั้น กางเกงยีนส์หรือสแลคเท่ ๆ คู่กับรองเท้าผ้าใบ เดินกินทาโกะยากิได้ทั้งวันแบบไม่เมื่อย เนื่องจากโอซาก้าเป็นเมืองที่ทันสมัย ลองเพิ่มความชิคด้วยการสวมเสื้อแจ็กเก็ตเก๋ ๆ หรือแอคเซสซอรี่เล็ก ๆ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศได้เลย ถ่ายรูปออกมาปังแน่นอน

4. ฮอกไกโด

ภาคเหนือของญี่ปุ่นยังคงหนาวอยู่ อุณหภูมิแค่ 5–15 องศาเท่านั้น ควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและกันลม เช่น ดาวน์แจ็กเก็ต เสื้อกันหนาว กางเกงขายาว และรองเท้าที่กันลมได้ดี เนื่องจากอากาศในฮอกไกโดเปลี่ยนแปลงไวมาก แนะนำให้พกร่มหรือเสื้อกันฝนด้วย เผื่อมีฝนโปรย

5. โอกินาว่า

แดนใต้ทะเลสวยน้ำใส อากาศต่างจากเมืองอื่นเลย เพราะร้อนชื้นแบบโซนเขตร้อน อุณหภูมิประมาณ 25–30 องศา แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าบางเบาที่ระบายอากาศดี เช่น เสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะคือเหมาะสุด ๆ และอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์สู้แดด ทั้งครีมกันแดด หมวก แว่นกันแดด และร่มไปด้วย

กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤษภาคม

1. เทศกาลดอกวิสทีเรีย (Wisteria Festival)

เดือนพฤษภาคมถือเป็นช่วงพีคของการชมดอกวิสทีเรีย ที่บานพร่างพราวทั้งสีม่วง ชมพู และขาว ห้อยระย้าเป็นอุโมงค์ดอกไม้สุดอลังการ ไฮไลต์อยู่ที่ สวน Ashikaga Flower Park จังหวัดโทชิกิ และ สวน Kawachi Fuji Garden จังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งมักมีงานเทศกาลต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปท่ามกลางดอกไม้แสนโรแมนติก

2. ชมซากุระสายพันธุ์บานช้า

แม้ซากุระส่วนใหญ่จะบานในช่วงมีนาคม–เมษายน แต่ก็ยังมีโอกาสเห็นซากุระสายพันธุ์พิเศษที่บานช้ากว่าที่อื่น โดยเฉพาะใน ฮอกไกโด หรือพื้นที่ภูเขาสูง บางแห่งจะบานยาวไปถึงต้น–กลางพฤษภาคม ใครที่พลาดฤดูซากุระต้นปี ก็ยังมีลุ้นเก็บภาพดอกไม้สวยๆ ได้ในเดือนนี้

3. เทศกาล Aoi Matsuri ที่เกียวโต

หนึ่งในสามเทศกาลเก่าแก่ที่สุดของเกียวโต จัดขึ้นทุกวันที่ 15 พฤษภาคม ไฮไลต์คือขบวนแห่สุดยิ่งใหญ่ ผู้เข้าร่วมแต่งกายในชุดขุนนางสมัยเฮอัน เคลื่อนผ่าน ศาลเจ้า Shimogamo และ Kamigamo ให้บรรยากาศย้อนยุคแบบญี่ปุ่นแท้ เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิม

4. เดินป่าและดื่มด่ำธรรมชาติ

พฤษภาคมคือเดือนที่ป่าไม้และภูเขาในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยสีเขียวสดชื่น เหมาะกับการเดินป่าและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในสถานที่ยอดฮิต อย่าง คามิโคจิ (Kamikochi) จังหวัดนากาโนะ และ นิคโกะ (Nikko) ที่อากาศเย็นสบาย บรรยากาศดี เหมาะทั้งเดินเล่น สูดอากาศสดชื่น หรือถ่ายรูปสวยๆ

5. ชิมเพลิน เดินสนุกในตลาดกลางแจ้งและงานเทศกาลอาหาร

พฤษภาคมถือว่าเป็นเดือนที่อากาศสบาย เหมาะกับการเดินตลาดกลางแจ้งสุดๆ ตลาดเช้าในฮอกไกโดหรือเทศกาลอาหารทะเลตามเมืองชายฝั่งก็มีให้เลือกแวะกันเพียบ คุณจะได้ลิ้มลองทั้งปลาสดใหม่จากทะเล ผักผลไม้ตามฤดูกาล ไปจนถึงขนมพื้นเมืองแสนอร่อย เรียกได้ว่าทั้งอิ่มตา อิ่มท้อง และอิ่มบรรยากาศเลยทีเดียว

สิ่งที่ควรทราบเมื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม

พฤษภาคมเป็นหนึ่งในเดือนที่น่าเที่ยวญี่ปุ่นที่สุด เพราะอากาศกำลังดี สดใส อบอุ่นกำลังสบาย เหมาะกับการเดินเล่นชมดอกไม้หรือเที่ยวงานเทศกาลต่าง ๆ แต่ก่อนจะออกเดินทาง มีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นักท่องเที่ยวควรรู้เอาไว้ เพื่อที่จะได้เที่ยวได้อย่างราบรื่นและสนุกยิ่งขึ้น

1. อากาศเปลี่ยนเร็ว ควรเตรียมตัวให้พร้อม

แม้อากาศเดือนนี้จะสบาย ๆ แต่บางพื้นที่ก็ยังมีฝนโปรยบ้างเป็นครั้งคราว อากาศอาจเปลี่ยนแปลงเร็ว ควรเช็กพยากรณ์อากาศก่อนออกเดินทาง และเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนบาง ๆ ติดตัวไว้ หากเจอฝนตก ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวในร่มได้ เช่น พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ หรือห้างสรรพสินค้า

2. มารยาทวัฒนธรรมญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องมารยาทและวัฒนธรรมที่เคร่งครัด นักท่องเที่ยวที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นควรศึกษาไว้ก่อนบ้าง เช่น เข้าวัดหรือศาลเจ้าต้องถอดรองเท้า หลีกเลี่ยงการส่งเสียงดังในที่สาธารณะ และงดสูบบุหรี่ในร้านอาหาร การเคารพขนบธรรมเนียมเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำให้การเดินทางราบรื่น แต่ยังทำให้คุณได้สัมผัสญี่ปุ่นในมุมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

3. ความปลอดภัยบนท้องถนนและการเดินทาง

การคมนาคมในญี่ปุ่นสะดวกสบายสุด ๆ โดยเฉพาะรถไฟและรถสาธารณะ แต่ก็ควรระวังการเดินถนนในเมืองใหญ่ที่คนพลุกพล่าน ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่เดินตัดถนน ไม่ผ่าไฟแดง และหากใช้ระบบขนส่งมวลชน ควรเตรียมตัวรับมือกับช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารหนาแน่น

4. ใส่ใจกับความปลอดภัยของอาหาร

อาหารญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าอร่อย แต่เรื่องความสดและความสะอาดสำคัญมาก โดยเฉพาะเมนูดิบอย่างซาชิมิ ควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการกินอาหารหมดอายุหรือซื้อจากร้านที่ไม่น่าไว้ใจ อีกทั้งผู้ที่มีอาการแพ้อาหาร เช่น อาหารทะเลหรือถั่ว ก็ควรระมัดระวังและสอบถามก่อนสั่งเสมอ

5. ใส่ใจกับความปลอดภัยส่วนบุคคล

ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ปลอดภัย แต่ก็ไม่ควรประมาท ควรหลีกเลี่ยงการเดินคนเดียวในที่เปลี่ยวตอนกลางคืน อย่าปล่อยของมีค่าไว้ลำพัง และอย่ารับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าที่ไม่น่าไว้ใจ นอกจากนี้ควรพกเอกสารสำคัญติดตัวเสมอ เช่น พาสปอร์ต กระเป๋าสตางค์ หรือโทรศัพท์มือถือ

6. ติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวจากเว็บไซต์ทางการ

สามารถติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวได้จากเว็บไซต์ของ Japan National Tourism Organization (JNTO) หรือ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ กิจกรรมและเทศกาลต่างๆ รวมถึงเรื่องวีซ่าและข้อมูลการท่องเที่ยวอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณวางแผนจัดทริปได้สนุกฟินยิ่งขึ้น

สรุปแล้ว เมื่อเดินทางไปญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม ควรจะติดตามสภาพอากาศอยู่ตลอดเวลา เพราะในเดือนนี้สภาพอากาศจะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย รวมถึงมารยาททางวัฒนธรรม ความปลอดภัยในการจราจร ความปลอดภัยของอาหาร และความปลอดภัยส่วนบุคคล นักท่องเที่ยวควรศึกษาข้อควรระวังเหล่านี้ล่วงหน้าและปฏิบัติตามกฎระเบียบและประเพณีท้องถิ่นเพื่อให้เที่ยวได้อย่างสนุกยิ่งขึ้น