ไปทิเบต ใช้เงินเท่าไหร่? เปิดคู่มือวางแผนงบฉบับสมบูรณ์ 2568

ทิเบต หนึ่งในจุดหมายที่สวยและทรงพลังที่สุดในเอเชีย นักท่องเที่ยวไทยหลายคนฝันไว้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปเยือนให้ได้ แต่ก็มีหลายคนแอบกังวลใจเรื่องค่าใช้จ่าย ที่อาจจะสูงกว่าการเที่ยวในเมืองอื่น Trip.com จะมาคลายทุกความสับสนและพาคุณวางแผนงบไปทิเบตแบบชัดเจนทีละขั้น ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน ไปจนถึงงบเฉลี่ยของแต่ละทริป อ่านรู้ได้ทันทีว่า ไปทิเบต ใช้เงินเท่าไหร่ วางแผนการเงินและวางแผนทริปทิเบตนี้ให้มั่นใจตั้งแต่เริ่มต้น

สรุปค่าใช้จ่ายไปทิเบตโดยประมาณ

ทริปสั้นๆ 5-7 วัน

สำหรับคนที่อยากสัมผัสเสน่ห์ทิเบตแบบกระชับ ฉบับคนมีเวลาน้อย แต่ได้เที่ยวครบทั้งหมดในสถานที่หลัก โดยไม่ต้องใช้วันลายาวเกินไป งบประมาณทริปสั้นๆ 5-7 วัน ถือว่าเพียงพอแล้ว และนี่คือแพลนงบประมาณคร่าวๆ ของทริปสั้นนี้

ทริประยะสั้นไปทิเบต จะมีค่าใช้จ่ายหลักอยู่ 2 ส่วนคือ ค่าเดินทางเข้า-ออกลาซา และค่าเพอร์มิต + ค่าไกด์ + ค่ารถภายใน ซึ่งเป็นกฏบังคับสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอาจสูงกว่าเที่ยวเมืองอื่นของจีน งบประมาณโดยรวมของทริป 5-7 วัน อยู่ที่ประมาณ 35,000 - 55,000 บาท/คน 

ตารางสรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวทิเบตโดยประมาณต่อคน สำหรับ 5-7 วัน ในปี 2568

ทริปยาว 8-10 วันขึ้นไป

ถ้ามีเวลามากขึ้น แนะนำทริป 8-10 วันขึ้นไป เป็นช่วงเวลาที่สามารถเที่ยวทิเบตได้ครบจริง ทั้งเมืองลาซา วัดสำคัญระดับโลก ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ และเส้นทางสูงที่หลายคนอยากสัมผัส และแน่นอนว่าระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น ก็ตามมาด้วยงบประมาณที่เยอะขึ้น ซึ่งสำหรับทริประยะเวลาเท่านี้ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 55,000 - 95,000 บาท/คน 

ตารางสรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวทิเบตโดยประมาณต่อคน สำหรับ 8-10 วันขึ้นไป ในปี 2568

ปล.ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับค่าเงิน แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลของค่าเงินในแต่ละวันทั้งหมดอีกครั้งก่อนออกเดินทางเพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้องและเป็นข้อมูลล่าสุด

เจาะลึกค่าใช้จ่ายหลักในการเที่ยวทิเบต มีอะไรบ้าง?

การวางแผนไปทิเบต ต่างจากการเที่ยวจีนในเมืองอื่น เพราะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะหลายอย่างที่ต้องเตรียมล่วงหน้า ทั้งค่าเพอร์มิต ค่าไกด์ และการเดินทางข้ามเมืองบนพื้นที่สูง และนี่คือรายการค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องเสียเมื่อไปเที่ยวทิเบต

1. ค่าทัวร์และใบอนุญาตเข้าทิเบต (Permit)

ทิเบต พื้นที่พิเศษของจีน นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้าไปเองได้แบบอิสระ จำเป็นต้องมี

• Tibet Travel Permit (ใบอนุญาตเข้าทิเบต)
• ไกด์ท้องถิ่น (จำเป็นต้องมี)
• รถพร้อมคนขับ สำหรับการเดินทาง

โดยส่วนใหญ่ทั้งหมดนี้จะรวมอยู่ในแพ็กเกจทัวร์ทิเบต ของแต่ละเอเจนซี่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งช่วงราคาก็ขึ้นอยู่กับจำนวนวัน จำนวนคนเดินทาง เมืองที่ไป และช่วงฤดูกาลนั้นๆ แนะนำก่อนเดินทางให้เช็กก่อนล่วงหน้าในเรื่องของราคา จะทำให้ไม่พลาดและงบไม่บานปลาย และแนะนำให้จองทัวร์ล่วงหน้าไปก่อนเดินทาง

2. ค่าตั๋วเครื่องบิน/รถไฟ ไป-กลับ

การเดินทางจากไทยสู่ทิเบตต้องต่อเครื่องในเมืองจีนก่อน เช่น เฉิงตู, ซีอาน, คุนหมิง เป็นต้น จากนั้นต่อไฟลท์ภายในประเทศไปลาซา ค่าใช้จ่ายตั๋วไป-กลับ ประมาณ 18,000 - 32,000 บาท ขึ้นอยู่กับสายการบิน วันเดินทางและช่วงเทศกาล  

และหากเดินทางด้วยรถไฟ ให้ขึ้นรถไฟที่ปักกิ่ง/ซีอาน/เฉิงตู ไปลงที่ลาซา ราคาประมาณ 2,500 - 4,500 บาทต่อเที่ยว เหมาะกับสายชิลที่อยากชมวิวที่ราบสูง แต่การเดินทางวิธีนี้ใช้เวลานาน 20 - 44 ชั่วโมง

3. ค่าที่พัก

ค่าที่พักในทิเบต มีให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่โฮสเทลราคามิตรภาพในลาซาไปจนถึงโรงแรมวิวภูเขาใน Shigatse หรือ Gyantse โดยทั่วไป ราคาจะสูงกว่าจีนเมืองอื่นเล็กน้อยเพราะขนส่งขึ้นพื้นที่สูงมีต้นทุนเพิ่ม 

ราคาเฉลี่ยต่อคืน/ห้อง

• เกสต์เฮาส์ / โรงแรมธรรมดา → 600 – 1,200 บาท
• โรงแรมระดับดี / ใกล้ Barkhor Street → 1,500 – 2,500 บาท
  โรงแรมระดับพรีเมียม / วิวดี / ห้องใหม่ → 3,000 – 6,000+ บาท

ปล.ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับค่าเงิน แนะนำให้คุณตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งก่อนออกเดินทางเพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้องและเป็นข้อมูลล่าสุด

4. ค่าเดินทางภายในทิเบต

ภายในทิเบตไม่สามารถขับรถเองหรือเรียกรถสุ่มๆ เองได้ เพราะต้องใช้รถที่จดทะเบียนการท่องเที่ยวทิเบตและอยู่ภายใต้การดูแลของเอเจนซี่ท้องถิ่น รถที่ใช้ในการเดินทางมักจะรวมอยู่ในแพ็กเกตทัวร์แล้ว ราคาประมาณ 8,000 - 20,000 บาท/คน แล้วแต่จำนวนคนในกรุ๊ป จำนวนวัน และประเภทของรถ หากออกทริปส่วนตัว ราคาจะสูงกว่าเดินทางแบบจอบกรุ๊ปตามปกติ

5. ค่าอาหารและเครื่องดื่ม

ค่าอาหารในทิเบตถือว่าเรทกลางๆ ไม่แพงมาก แต่ราคาอาจสูงกว่าจีนเมืองอื่นเล็กน้อย เพราะวัตถุดิบบางอย่างต้องขนส่งขึ้นพื้นที่สูง อาหารหลักจะเป็นเส้น เนื้อวัว ยาค และอาหารสไตล์ทิเบตผสมนิดๆ กับจีนและเนปาล ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นต่อมื้อจะอยู่ที่ประมาณ 200-500 บาท

6. ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ

ทิเบตมีค่าเข้าชมที่ไม่สูงมาก แต่บางจุดสำคัญอย่างพระราชวังโปตาลาจะต้องจองล่วงหน้า และมีระบบจัดคิวเข้าชมที่ควบคุมอย่างเข้มงวด ค่าเข้าชมโดยประมาณ

• พระราชวังโปตาลา : 100–200 RMB (500–1,000 บาท) ขึ้นกับฤดูกาล
• วัดโจคัง : 50–85 RMB (250–420 บาท)
• ทะเลสาบยัมดรอก : 120 RMB (600 บาท)
• อาราม Drepung / Sera : 50–70 RMB (250–350 บาท)

ส่วนใหญ่แพ็กเกจทัวร์ จะรวมค่าเข้าชมเหล่านี้ไว้แล้ว ทำให้จัดงบการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น

7. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและของฝาก

ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ ในทิเบต เช่น น้ำดื่ม, ซิมการ์ดม แพ็กเกจเน็ต, ของฝาก เป็นต้น โดยค่าใช้จ่ายส่วนตัวอยู่ที่ประมาณ 500 - 2,000 บาท แล้วแต่สินค้าที่ช้อป

เลือกเที่ยวทิเบตแบบไหนดี? เปรียบเทียบงบประมาณ ทัวร์ vs จัดทริปส่วนตัว

เนื่องจากทิเบต ไม่ใช่ที่ที่สามารถเดินทางไปได้เองแบบอิสระ 100% นักท่องเที่ยวต่างชาติจำเป็นต้องมีทั้งไกด์ รถ และใบอนุญาตเข้า แต่จะเลือกเดินทางแบบเป็นกรุ๊ปทัวร์หรือไพรเวททัวร์ดี? มาลองดูข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 อย่างกัน

ข้อดี-ข้อเสีย และค่าใช้จ่ายของกรุ๊ปทัวร์

ข้อดี

• ราคาประหยัดที่สุด เพราะค่าใช้จ่ายอย่างค่ารถ ค่าไกด์ และเพอร์มิตจะถูกหารเฉลี่ยกับสมาชิกคนอื่น
• เดินทางง่าย ไม่ต้องแพลนเยอะ เพราะแพลนทุกอย่างจัดไว้ให้หมดแล้ว
• ได้เจอเพื่อนร่วมทริปใหม่ๆ ที่สามารถแลกประสบการณ์ระหว่างทาง
• เหมาะกับคนที่ไป 5-7 วัน เพราะแพลนของกรุ๊ปทัวร์มักเป็นเส้นทางมาตรฐาน

ข้อเสีย

• ยืดหยุ่นน้อย เปลี่ยนเวลาและสถานที่ไม่ได้ ต้องไปเที่ยวตามตารางทัวร์ทั้งหมด
• ระยะเวลาต่างๆ ขึ้นอยู่กับทัวร์ จะช้าหรือเร็ว ก็ส่งผลต่อการเดินทางทั้วหมด
• เลือกโรงแรมได้จำกัด ส่วนใหญ่มักเป็นโรงแรมมาตรฐานทั่วไป

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 

• ทริป 5–7 วัน → 10,000 – 20,000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
• ทริป 8–10 วัน → 18,000 – 35,000+ บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

สำหรับนักเดินทางมือใหม่ ที่ชอบความสบาย มีงบไม่มากนัก และไม่อยากแพลนอะไรเยอะ แนะนำให้ไปแบบจอยกรุ๊ปทัวร์ จะเที่ยวได้สนุกและเอนจอยกว่า แถมประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะด้วย

ข้อดี-ข้อเสีย และค่าใช้จ่ายของไพรเวททัวร์

ข้อดี

• ยืดหยุ่นสูงมาก อยากอยู่แต่ละสถานที่นานขึ้น ปรับเวลาออกเดินทางหรือเพิ่มจุดแวะกระทันหัน ก็สามารถทำได้หมด
• เลือกที่พักได้เอง ตั้งแต่เกสต์เฮาส์จนถึงโรงแรมระดับพรีเมียม
• มีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น ไม่ต้องแชร์รถหรือไกด์จากใคร เหมาะกับสายถ่ายรูปและสายเน้นคุณภาพทริป
• เหมาะกับเส้นทางไกล เช่น Shigatse, Gyantse หรือทริป 8-10 วันแบบเน้นเจาะลึกสถานที่ท่องเที่ยว

ข้อเสีย

• ราคาสูงกว่ากรุีปทัวร์ทั่วไป และยิ่งถ้ามีผู้ร่วมเดินทางน้อย ค่าเฉลี่ยต่อคนก็สูงขึ้นเช่นกัน
• ต้องแพลนทริปนี้เองมากขึ้น แทนที่ทัวร์จะเป็นคนคิดให้
• อาจต้องจองล่วงหน้า ไกด์และรถดีๆ คิวแน่นมากในช่วงไฮซีซัน

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 

• ทริป 5–7 วัน → 15,000 – 30,000+ บาท/คน (ขึ้นกับจำนวนคน)
• ทริป 8–10 วัน → 25,000 – 60,000+ บาท/คน
• ถ้าเป็นกรุ๊ปใหญ่ 6–10 คน ราคาเฉลี่ยต่อคนจะถูกลงชัดเจน

เหมาะมากสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวที่เน้นอิสระสูง และมีงบค่อนข้างยืดหยุ่น หรือเดินทางเป็นกลุ่มเพื่อนและครอบครัว

ตัวอย่างแผนเที่ยวทิเบตพร้อมงบประมาณ อัปเดต 2568

แผน A: สายประหยัด 7 วัน (ลาซา - ทะเลสาบยัมดรก)

วันที่ 1: เดินทางถึงลาซา – ปรับตัวกับระดับความสูง

วันที่ 2: พระราชวังโปตาลา (Potala Palace) – Barkhor Street

วันที่ 3: วัดโจคัง – อาราม Sera

วันที่ 4: ทะเลสาบยัมดรอก (Yamdrok Lake) – จุดชมวิวภูเขาหิมะ

วันที่ 5: อาราม Drepung – คาเฟ่วิวเมืองลาซา

วันที่ 6: เดินเล่นเมืองเก่า – ซื้อของฝาก – อิสระ

วันที่ 7: เดินทางกลับไทย

งบโดยประมาณสำหรับ 7 วัน/ 1 คน

• ค่าทัวร์ 5 วัน: 10,000 – 14,000 บาท
• ตั๋วเครื่องบิน: 18,000 – 22,000 บาท
• ที่พัก: 3,500 – 6,000 บาท
• อาหาร: 1,500 – 2,500 บาท
• ค่าจิปาถะ: 500 – 1,000 บาท

รวมทั้งหมดประมาณ 33,500 – 45,500 บาท/คน ได้ครบทุกจุดไฮไลท์ เหมาะกับมือใหม่ที่งบน้อย เน้นเที่ยวเมืองลาซาและไฮไลท์หลักแบบสบายๆ 

แผน B: สายคุณภาพ 8 วัน (ลาซา - กยันเซ - ชิกัตเซ)

วันที่ 1: ถึงลาซา – พักผ่อน

วันที่ 2: พระราชวังโปตาลา – Barkhor

วันที่ 3: วัดโจคัง – อาราม Drepung

วันที่ 4: ลาซา → Yamdrok Lake → Gyantse

วันที่ 5: Gyantse → Shigatse – อาราม Tashilhunpo

วันที่ 6: Shigatse → ลาซา

วันที่ 7: คาเฟ่/เส้นทางเดินชมวิว – ช้อปปิง

วันที่ 8 : เดินทางกลับไทย

งบโดยประมาณสำหรับ 8 วัน/ 1 คน

• ค่าทัวร์ 8 วัน: 26,000 – 38,000 บาท
• ตั๋วเครื่องบิน: 22,000 – 30,000 บาท
• ที่พักดี–ระดับกลาง: 5,000 – 8,000 บาท
• อาหาร: 2,500 – 4,000 บาท
• ค่าจิปาถะ: 1,000 – 2,000 บาท

งบประมาณสำหรับ 8 วัน รวมทั้งหมดประมาณ 56,500 – 82,000 บาท ได้เห็นทิเบตทั่วทุกมุม ทั้งทะเลสาบ ศิลปะ วัฒนธรรม และเมืองบนที่ราบสูงแบบเต็มอิ่ม

แผน C: สายลุย 10 วัน (เส้นทางสู่ Everest Base Camp)

วันที่ 1: ถึงลาซา – ปรับร่างกาย

วันที่ 2: โปตาลา – Jokhang

วันที่ 3: Drepung – Sera

วันที่ 4: ลาซา → Yamdrok → Gyantse

วันที่ 5: Gyantse → Shigatse

วันที่ 6: Shigatse → New Tingri

วันที่ 7: New Tingri → Everest Base Camp (EBC) – พักโซน Rongbuk

วันที่ 8: EBC → Shigatse

วันที่ 9: Shigatse → ลาซา

วันที่ 10: เดินทางกลับไทย

งบโดยประมาณสำหรับ 10 วัน/ 1 คน

• ค่าทัวร์ EBC 10 วัน: 40,000 – 60,000 บาท
• ตั๋วเครื่องบิน: 22,000 – 32,000 บาท
• ที่พัก (ลาซา + เมืองต่างๆ): 7,000 – 14,000 บาท
• อาหาร: 3,500 – 5,000 บาท
• ค่าจิปาถะ: 1,000 – 2,000 บาทฃ

งบสำหรับ 10 วัน ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 73,500 – 113,000 บาท ได้สัมผัสเส้นทาง Everest Highway แบบใกล้สุด ไม่มีอะไรเหมือน พร้อม 10 สถานที่ห้ามพลาดในทิเบต และเป็นทริปที่เล่าต่อได้ตลอดทั้งชีวิต

ปัจจัยที่ส่งผลต่องบประมาณ: เที่ยวช่วงไหนคุ้มที่สุด?

การไปทิเบต ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายตายตัว เพราะค่าใช้จ่ายมักผันไปตามฤดูกาล ลองดูช่วงฤดูต่อไปนี้ เพื่อเลือกช่วงการเดินทางให้เหมาะสมกับงบที่สุด

High Season (เม.ย. - ต.ค.)

ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด ถนนเปิดเกือบทุกเส้นทาง เดินทางง่าย เห็นวิวของธรรมชาติอย่างชัดเจน ดอกไม้บาน ทุ่งหญ้าสีเขียว และอากาศไม่หนาวเกินไป แต่ข้อเสียคือ ด้วยความที่ที่นี่เป็นช่วงไฮซีซัน ราคาทัวร์และที่พักจะสูงกว่า 20-35% นักท่องเที่ยวจะเยอะ โดยเฉพาะในเมืองลาซา คิวเข้าชมสถานที่ดังๆ อาจต้องจองล่วงหน้า 

ช่วงราคาโดยประมาณ

• ค่าทัวร์ 7–10 วัน: 20,000 – 45,000+ บาท
• โรงแรม: 1,800 – 4,000 บาท/คืน
• ตั๋วเครื่องบิน: 22,000 – 35,000 บาท

Low Season (พ.ย. - มี.ค.)

สำหรับช่วงนี้ ราคาทุกอย่างถูกลงอย่างชัดเจน ทั้งค่าทัวร์ โรงแรม และตั๋วเครื่องบิน หลายเมืองมีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับคนที่อยากเห็นทิเบตแบบ Local แสงหน้าหนาวจะคมมาก ถ่ายรูปเมืองลาซาและวัดต่างๆ สวยเป็นพิเศษ ข้อเสียคือจะเป็นช่วงที่อากาศหนาวจัด โดยเฉพาะในช่วงธันวาคม - มกราคม บางจุดก็ปิดไม่ให้เข้าชม เพราะสภาพอากาศและหิมะปิดถนน

ช่วงราคาโดยประมาณ

• ค่าทัวร์ 7–10 วัน: 12,000 – 28,000 บาท
• โรงแรม: 1,000 – 2,500 บาท/คืน
• ตั๋วเครื่องบิน: 18,000 – 26,000 บาท

เคล็ดลับประหยัดเงินในการเที่ยวทิเบต จากประสบการณ์ตรง

การไปทิเบต ไม่จำเป็นต้องใช้งบแพงเสมอไป ถ้าวางแผนดีและรู้ช่วงในการจอง ลดงบในการใช้จ่ายของทริปนี้ไปได้หลายพันถึงหลักหมื่น รวมถึงสิ่งที่ต้องเตรียมไปทิเบตและนี่คือเคล็ดลับการประหยัดเงินในการเที่ยวทิเบตที่อยากแนะนำ

1. เลือกไปช่วง Low Season ถ้าไม่กลัวหนาว
   ช่วง พ.ย. - มี.ค. ราคาทัวร์ ที่พัก และตั๋วเครื่องบินลดลงแบบเห็นได้ชัด บางครั้งถูกลง 20-40% จากราคาช่วงไฮซีซันเลย แม้จะหนาว แต่ข้อดีคือคนไม่เยอะและภาพเมืองลาซาฤดูหนาวสวยมาก
2. เดินทางแบบจอยกรุ๊ปถูกกว่าทริปส่วนตัวหลายเท่า
   ค่ารถ-ไกด์-เพอร์มิตเป็นต้นทุนหลัก และราคาจะลดลงทันทีเมื่อเฉลี่ยกับคนอื่น ถ้าไปทริปส่วนตัว 2-3 คน งบจะสูงขึ้น แต่ถ้าไป 6-12 คน ราคาจะประหยัดลงเป็นเท่าตัว
3. จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 เดือน
   เส้นทางไทย-ลาซา ไม่มีไฟลท์ตรง ต้องต่อเครื่องในจีน ทำให้ราคาสวิงได้ง่าย ถ้าจองใกล้วันเดินทาง ราคาจะยิ่งสูง แนะนำให้จองล่วงหน้าจะดีกว่า
4. เลือกที่พักดีและสะอาด แต่ไม่ต้องหรู
   ในลาซามีเกสต์เฮาส์และโรงแรมระดับกลางที่สะอาด ปลอดภัย ที่พักระดับหรูหรามักแพงขึ้นหลายเท่า ถ้าไม่จำเป็นต้องพักที่พักหรูมาก ที่พักทั่วไปก็โอเคแล้ว
5. กินร้านท้องถิ่น อร่อยและถูกกว่าในโซนนักท่องเที่ยว
   ร้านอาหารพื้นเมืองหรือร้านในย่านทิเบต มื้อหนึ่งราคาไม่แพงมาก ประหยัดกว่าการไปกินร้านคาเฟ่หรือร้านจีนในเมือง ที่ราคาแรงกว่าเป็นเท่าตัว
6. ใช้ซิมจีน/eSIM ราคาคุ้มกว่าซื้ออินเทอร์เน็ตแบบท่องเที่ยว
   แพ็กเกจ 7-10 วัน ราคาจะคุ้มกว่าแพ็กเกจโรมมิ่งจากไทยหลายเท่า แถมสัญญาณเสถียรกว่าในพื้นที่สูง
7. ไม่ต้องช้อปเยอะ ของฝากทิเบตส่วนใหญ่ราคาไม่สูง
   สิ่งที่คนชอบซื้อคือ ธูป, ผ้าคาด, ไม้สวดมนต์ หรือเซ็ตของที่ระลึกพื้นเมือง ราคาย่อมเยา งบของฝาก 300-500 บาทก็ได้ครบชุดแล้ว
8. ลดค่าใช้จ่ายด้วยการแชร์ห้องพัก
   ถ้าเดินทางกับเพื่อ 2 คนขึ้นไป การแชร์ห้องช่วยลดค่าที่พักได้เกินครึ่ง โดยเฉพาะทริปยาว 8-10 วัน

สรุปและเตรียมตัวเดินทางสู่หลังคาโลก

การไปทิเบต ไม่ใช่แค่ทริปท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นการเดินทางสู่หลังคาโลกที่ผสานทั้งวัฒนธรรม ความสงบ ศรัทธา และวิวภูเขาที่ขนาดตาต่อตาแทบไม่เชื่อว่าเป็นของจริง แต่ต้องเตรียมตัวมากกว่าสถานที่อื่นๆ ทั้งเรื่องงบ เพอร์มิต ไกด์ และการรับมือกับระดับความสูง เมื่อไปถึงที่นี่บอกเลยว่าคุ้มทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน ได้สัมผัสกับประสบการณ์การเที่ยวในแบบที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน

หากใครอยากแพลนท่องเที่ยวให้อยู่ในที่เดียว แนะนำจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ซิมอินเทอร์เน็ต และทัวร์ผ่าน Trip.com เพราะแพลตฟอร์มนี้ มีบริการทั้งหมดครบ ไม่ต้องไปที่แพลตฟอร์มอื่น แถมแพลนการเดินทางได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงได้ก่อนตัดสินใจ รับรองว่าทริปนี้สนุกและคุ้มค่าอย่างแน่นอน