
ลาซา เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองทิเบต ประเทศจีน เป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักเดินทางอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต เพราะเป็นเมืองที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาหิมาลัยและวัฒนธรรมพุทธศาสนาอันลึกซึ้ง แต่ก่อนจะไปสัมผัสเสน่ห์ของพระราชวังโปตาลาและวัดโจคังอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมตัวให้เหมาะกับสภาพอากาศของลาซาที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนในแต่ละฤดู Trip.com จะพาไปรู้จักกับอุณหภูมิลาซาแบบละเอียดตลอดทั้งปี คำแนะนำเรื่องการแต่งกาย กิจกรรมที่ควรทำ และเคล็ดลับเล็กๆ จากนักเดินทางจริง เพื่อให้ทริปนี้น่าประทับใจและปลอดภัยทุกย่างก้าว
ภาพรวมสภาพอากาศและอุณหภูมิลาซา: สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป

การเดินทางไปลาซา ไม่เหมือนการไปเที่ยวเมืองอื่นในจีน เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูงทิเบต ได้รับสมญานามว่า หลังคาโลก ด้วยระดับความสูงกว่า 3,650 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศของลาซามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งแห้ง เย็น และเปลี่ยนแปลงเร็ว นักท่องเที่ยวไทยไม่ค่อยชินกับสภาพอากาศแบบนี้ ดังนั้น ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุณหภูมิลาซาไว้ก่อนเดินทาง ลาซาจะมี 4 ฤดูชัดเจน คือ ฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว
ระดับความสูง ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออากาศ
ระดับความสูงของลาซามีผลต่อทั้งอุณหภูมิและความเข้มของแสงแดด ยิ่งอยู่สูง อากาศจะยิ่งบางเบา ทำให้ออกซิเจนน้อยลงและอุณหภูมิต่ำกว่าที่ราบอย่างชัดเจน แม้ในวันที่แดดแรง อุณหภูมิก็จะอยู่ที่ 10–15°C เท่านั้น และในยามค่ำคืน ก็สามารถลดลงจนติดลบได้ นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะรู้สึกถึง อาการแพ้ความสูง ในวันแรกที่เดินทางมาถึง เช่น เวียนหัว, หายใจลำบาก และอ่อนแรง ร่างกายต้องปรับตัว 1-2 วันแรกก่อนเริ่มเดินทางท่องเที่ยว และดื่มน้ำมากๆ รวมถึงเตรียมยาเฉพาะทางไว้หากจำเป็น
ความแตกต่างสุดขั้วของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน
ลาซามีความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างมาก บางวันอาจต่างกันถึง 15–20°C กลางวันอาจอยู่ที่ 18°C แต่พอตกกลางคืนกลับลดลงเหลือเพียง 0°C หรือติดลบโดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง สาเหตุเกิดจากอากาศแห้งและความกดอากาศต่ำในพื้นที่สูง ทำให้ความร้อนจากแสดงอาทิตย์ระเหยไปอย่างรวดเร็วเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ลาซาจึงเป็นเหมือนที่กลางวันเหมือนฤด๔ร้อน กลางคืนเหมือนฤดูหนาว อย่างแท้จริง
เที่ยวลาซาเดือนไหนดีที่สุด? เจาะลึกสภาพอากาศรายเดือน

แม้ลาซาจะเป็นเมืองที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงตลอด แต่ก็ยังสามารถเที่ยวได้เกือบตลอดทั้งปี เพราะที่นี่มีเหสน่ของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงาม แตกต่างกันในแต่ละฤดู สำหรับนักเดินทางจากไทย การเลือกช่วงเวลาที่ไปเที่ยวลาซ่าขึ้นอยู่กับว่าอยากไปสัมผัสอากาศแบบไหน
ช่วงไฮซีซั่น (High Season) ที่นักท่องเที่ยวนิยมที่สุด
ช่วงไฮซีซั่นของลาซา จะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่น ท้องฟ้าแจ่มใส ถนนหนทางเปิดให้เดินทางได้สะดวก เหมาะกับการไปเที่ยวที่สำคัญต่างๆ ของเมือง เช่น พระราชวังโปตาลา วัดโจคั งและทะเลสาบยัมดร็อกที่มีฟ้าสวย
ช่วงโลว์ซีซั่น (Low Season) เที่ยวสงบ ราคาดีงาม
หากคุณชอบความสงบและอยากสัมผัสกับลาซาในช่วงโลว์ซีซั่น แนะนำให้มาช่วง พฤศจิกายนถึงเมาายนเลย เพราะเป็นช่วงที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน แม้จะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็น แต่แสงแดดยังสดใสในเวลากลางวัน เมืองทั้งเมืองจะเงียบสงบ เหมาะกับนักเดินทางที่อยากใช้เวลาซึมซับธรรมชาติและบรรยากาศของวัดวาอารามอย่างสงบ
ตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ-ลาซา
- เที่ยวเดียว
- ไป-กลับ
BKK1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงLXA2:00 PMกรุงเทพ - ลาซา|Sat, Dec 13|Normal Airlineเช็คราคาเช็คราคา
BKK1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงLXA2:00 PMกรุงเทพ - ลาซา|Sat, Dec 13|Normal Airlineเช็คราคาเช็คราคา
BKK1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงLXA2:00 PMกรุงเทพ - ลาซา|Sat, Dec 13|Normal Airlineเช็คราคาเช็คราคา
ราคาที่แสดงคำนวณจากราคาตั๋วในเส้นทางเดียวกันโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์บน Trip.com
สำรวจอุณหภูมิลาซาใน 4 ฤดูกาล
ลาซาเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นฟ้าสีครามสดใสในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทุ่งเขียวชอุ่มในฤดูร้อน หรือหิมะขาวโพลนในฤดูหนาว แต่ละฤดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การได้รู้จักกับอากาศของแต่ละช่วง จะช่วยให้วางแผนแต่งการและทำกิจกรรมได้เหมาะสม
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม): อากาศสดใส เริ่มต้นการเดินทาง

ฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงเวลาที่สุดช่วงหนึ่งของปี เพราะอากาศเริ่มอุ่นขึ้นหลังฤดูหนาว ฟ้าสีครามสดใส และมีแสงแดดแรงแบบอบอุ่นกำลังดี ธรรมชาติกลับมามีชีวิตชีวา ทำให้ลาซาเต็มไปด้วยสีสันและบรรยากาศสดชื่น เหมาะกับการมาเที่ยวลาซามากๆ
อุณหภูมิเฉลี่ย
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของลาซาอยู่ที่ประมาณ 3°C - 16°C มีแสงแดดตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังมีลมเย็นพาดผ่าน อุณภูมิอาจลดลงจนเกือบถึง 0°C
การแต่งกายและของที่ต้องเตรียม
เนื่องจากฤดูนี้ มีทั้งแสงแดดแรงและลมเย็น ดังนั้น การแต่งกายแบบเลเยอร์เหมาะมากสำหรับฤดูนี้ เช่น
- เสื้อยืดหรือเสื้อแขนยาวบาง ๆ ด้านใน
- เสื้อสเวตเตอร์หรือแจ็กเก็ตกันลมด้านนอก
- กางเกงขายาวที่เคลื่อนไหวสะดวก
- หมวก แว่นกันแดด และครีมกันแดด SPF สูง (แดดแรงแม้อากาศเย็น)
- ผ้าพันคอหรือเสื้อฮีทเทคบาง ๆ สำหรับตอนเช้าและเย็น
- รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าเดินทางที่เกาะพื้นดี เพราะบางพื้นที่ยังมีน้ำแข็งละลาย
แนะนำเมื่อมาถึงลาซา ให้พักผ่อนและเตรียมร่างกายให้พร้อม และปรับตัวกับระดูบความสูงสัก 1-2 วันก่อนเที่ยวอย่างเต็มที่
กิจกรรมแนะนำและเทศกาลน่าสนใจ
- เที่ยวชมพระราชวังโปตาลา
สัญลักษณ์แห่งลาซาที่โดดเด่นที่สุด มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อฟ้าใสในฤดูนี้ - วัดโจคัง
จุดศูนย์กลางแห่งศรัทธา ช่วงฤดูนี้ ผู้แสวงบุญจะเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ เพื่อสวดมนต์เป็นจำนวนมาก - เดินเล่นรอบทะเลสาบยัมดร็อก
น้ำในทะเลสาบเริ่มละลายกลับมามีสีฟ้าสดสวยสะท้อนภูเขาหิมะ - ชมทุ่งดอกมัสตาร์ดและดอกป่าทิเบต
ดอกไม้บานสะพรั่งรอบเมืองลาซาและเขตชานเมือง ภูเขาเต็มไปด้วยสีเหลืองทองและม่วงอ่อน - เทศกาลโลซาร์
ปีใหม่ของชาวทิเบต มักจัดขึ้นช่วงปลายกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยการสวดมนต์ การเต้นรำ และการเฉลิมฉลองแบบพื้นเมือง
เรียกได้ว่า ฤดูนี้ เป็นเหมือนการตื่นจากการหลับใหลของเทือกเขาหิมาลัย ทุกสิ่งดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ใครที่อยากสัมผัสทิเบตในบรรยากาศสงบ สดชื่น และเต็มไปด้วยพลังแห่งธรรมชาติ แนะนำให้มาที่ลาซาช่วงเวลานี้เลย
ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม): ช่วงเวลาที่อบอุ่นและเขียวขจีที่สุด

ฤดูทองของการท่องเที่ยวลาซาก็คือฤดูร้อน เพราะนี่คือช่วงอากาศอบอุ่นที่สุดในรอบปี ทุ่งหญ้าบนที่ราบสูงทิเบตเปลี่ยนเป็นสีเขียวชอุ่ม น้ำในทะเลสาบใสราวกระจกและแสงแดดส่องกระทบยอดหิมะบนเทือกเขาอย่างงดงาม เป็นฤดูที่ธรรมชาติสมบูรณ์ที่สุด
อุณหภูมิเฉลี่ยและฤดูมรสุม
ฤดูร้อนของลาซา อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10°C - 22°C กลางวันอากาศสบาย แค่อย่าลืมว่าความร้อนจากแดดบนที่สูงรุนแรงกว่าที่ราบมาก แม้จะมีลมเย็นแต่รังสี UV ยังแรงจัด แม้จะมีฝนตกบางช่วง โดยเฉพาะตอนเย็นหรือกบางคืน แต่ก็จะมีฝนมาสั้นๆ และฟ้าก็กลับมาเปิดอีกครั้ง เป็นฤดูที่เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท
การแต่งกายและของที่ต้องเตรียม
แม้จะเป็นฤดูร้อน แต่ลาซายังคงมีความต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนมาก ดังนั้นควรเตรียมเสื้อผ้าง่ายๆ เช่น
- เสื้อแขนยาวหรือแขนสั้นระบายอากาศดี
- เสื้อแจ็กเก็ตกันลมบาง ๆ หรือเสื้อคลุมสำหรับตอนเย็น
- กางเกงขายาวหรือเลกกิ้งสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- หมวก แว่นกันแดด และครีมกันแดด SPF สูง (จำเป็นมาก)
- รองเท้ากันน้ำหรือกันลื่นในกรณีที่เดินเขาหรือฝนตก
- ร่มพับหรือเสื้อกันฝนเบา ๆ สำหรับช่วงบ่าย
แนะนำในช่วงนี้ ให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะอากาศแห้ง แม้จะมีฝนตกแต่ความชื้นก็ยังต่ำอยู่ดี
กิจกรรมแนะนำและเทศกาลน่าสนใจ
- ทะเลสาบนัมโฉ
จุดชมวิวที่สวยที่สุดในฤดูร้อน น้ำสีฟ้าสดใสราวกระจก สะท้อนภูเขาหิมะและท้องฟ้าได้สวยงาม - ปีนเขาหรือเดินป่ารอบเมืองลาซา
เช่น เส้นทางไปยังวัดดรีปุงหรือวัดเซราที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ - ชมทุ่งหน้าและฝูงจามรี
ภาพคลาสสิกของทิเบตในฤดูนี้คือทุ่งหญ้าเขียวขจีและสัตว์ท้องถิ่นเดินเล็มหญ้าอย่างสงบ - เทศกาลโยเกิร์ต
จัดขึ้นราวเดือนสิงหาคมที่วัดดรีปุง เป็นเทศกาลสำคัญที่มีการแห่ผ้าแทงกะขนาดใหญ่ การแสดงโอเปร่าทิเบต และการเฉลิมฉลองด้วยโยเกิร์ตท้องถิ่น - การสวดมนต์กลางแจ้งและพิธีกรรมท้องถิ่น
ช่วงฤดูนี้มีงานบุญและกิจกรรมทางศาสนาหลากหลายที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้
ฤดูร้อนนี้ เปรียบเสมือนบทเพลงของธรรมชาติที่ผสมความอบอุ่นของแดดเขียวชอุ่มของทุ่งหญ้าและความศรัทธาของผู้คนไว้ด้วยกัน
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน): ท้องฟ้าสีครามและวิวที่ดีที่สุด

ถ้าให้เลือกฤดูที่สวยที่สุดของปี หนีไม่พ้น ฤดูใบไม้ร่วง สำหรับนักเดินทางที่หลงใหลในท้องฟ้าใสและวิวภูเขาหิมะ เพราะอากาศช่วงนี้เย็นสบาย แห้ง และโปร่งมาก แสงแดดอ่อนลงจนเหมาะกับการถ่ายภาพอย่างที่สุด นี่จึงเป็นฤดูที่ทั้งนักท่องเที่ยวและช่างภาพทั่วโลกต่างมุ่งหน้าสู่ทิเบต เพื่อเก็บภาพวิวทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาด
อุณหภูมิเฉลี่ย
ในฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิลาซาจะอยู่ระหว่าง 5°C – 18°C กลางวันอากาศอุ่นกำลังดี แต่กลางคืนเริ่มเย็นลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนที่อุณหภูมิอาจลดลงใกล้ศูนย์องศา ฤดูนี้แทบไม่มีฝน ท้องฟ้าสีเข้มจนแทบมองเห็นยอดเขาหิมะได้ทุกทิศทาง
การแต่งกายและของที่ต้องเตรียม
ฤดูใบไม้ร่วงมีอากาศแห้งและอุณหภูมิต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน การแต่งกายหลายชั้นก็ยังจำเป็น
- เสื้อแขนยาวหรือเสื้อยืดหนานิด ๆ ด้านใน
- เสื้อแจ็กเก็ตหรือสเวตเตอร์บางในช่วงกลางวัน
- เสื้อกันหนาวหรือเสื้อขนเป็ดเบาสำหรับกลางคืน
- ผ้าพันคอ หมวก และแว่นกันแดดเพื่อกันลมและแดด
- มอยส์เจอร์ไรเซอร์และลิปบาล์ม เพราะอากาศเริ่มแห้งมากขึ้น
ช่วงนี้แดดจะแรง แต่ไม่ร้อน เหมาะกับการถ่ายภาพวิว ฟ้าจะใสสุดในตอนเช้าและบ่ายแก่ๆ แนะนำให้เตรียมกล้องให้พร้อม ไปเก็บรูปสวยๆ กลับบ้านได้หลายรูปเลย
กิจกรรมแนะนำและเทศกาลน่าสนใจ
- ชมวิวภูเขาหิมะและทะเลสาบนัมโฉ
น้ำในทะเลสาบยังใส ฟ้าเข้ม และภูเขาหิมะขาวเด่นตัดกันอย่างงดงาม - ถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสีในเขตชานเมืองลาซา
บริเวณเส้นทางไปวัดดรีปุงและวัดเซราเต็มไปด้วยต้นไม้สีเหลืองทองและน้ำตาลแดง - เดินเล่นตลาดบาร์คอร์
เป็นช่วงอากาศเย็นกำลังดี เหมาะกับการเดินชมวัฒนธรรมและซื้อของพื้นเมือง - เข้าร่วมเทศกาล Harvest Festival
งานเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวพืชผลของชาวทิเบตในเดือนกันยายน เต็มไปด้วยเสียงดนตรี การเต้นรำ และได้สัมผัสกับอาหารท้องถิ่น
ฤดูใบไม้ร่วง คือช่วงเวลาที่ท้องฟ้าอยู่ใกล้คุณมากที่สุด ทั้งในแง่ของความสดใส ความรู้สึกสงบ และรอบๆ เมือง ห่อหุ้มไปด้วยแสงสีทองที่อบอุ่น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการไปดื่มด่ำกับความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง
ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์): สัมผัสความสงบและหิมะแรก

ฤดูหนาวในลาซาคือช่วงเวลาที่เงียบที่สุดของปี และเหมาะกับนักเดินทางที่อยากสัมผัสกับทิเบตในแบบเรียบง่ายและสงบงาม อากาศหนาวแต่ท้องฟ้ายังแจ่มใส มีแสงแดดอบอุ่นเกือบทุกวัน ทิวทัศน์ของเมืองและภูเขาโดยรอบถูกแต่งแต้มด้วยหิมะขาวโพลนตัดกับสีน้ำเงินเข้มของฟ้า เป็นภาพที่ทั้งงดงามและสงบในเวลาเดียวกัน
อุณหภูมิเฉลี่ย
อุณหภูมิลาซาในช่วงฤดูหนาวอยู่ที่ -5°C ถึง 10°C กลางวันอากาศหนาวแต่มีแดด ส่วนกลางคืนอาจลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ซึ่งเดือนมหราคมเป็นเดือนที่อากาศหนาวที่สุดของปี แม้อากาศจะหนาว แต่แสงแดดยังแรงและอบอุ่น ทำให้รู้สึกสบายกว่าเมืองอื่นๆ ของจีน
การแต่งกายและของที่ต้องเตรียม
การแต่งกายในฤดูหนาวของลาซาเน้นการแต่งที่กันหนาว แต่ยังเคลื่อนไหวได้สะดวก เพราะการเดินเที่ยวตามวัดหรือพื้นที่สูง ต้องอาศัยความคล่องตัว
- เสื้อขนเป็ดหรือเสื้อกันหนาวหนา
- เสื้อฮีทเทคและเสื้อกันลมชั้นนอก
- ถุงมือ หมวกไหมพรม และผ้าพันคอ
- รองเท้าเดินทางที่กันลื่นหรือบู๊ทหุ้มข้อ
- ครีมกันแดด SPF สูง (เพราะรังสี UV ยังแรงมาก)
- ลิปบาล์มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับอากาศแห้ง
กิจกรรมแนะนำและเทศกาลน่าสนใจ
- ชมวิวทะเลรอบพระราชวังโปตาลา
ช่วงเช้าแสงแดดสะท้อนหิมะขาว สร้างภาพเมืองลาซาที่สวยงามและสงบที่สุดของปี - เยี่ยมชมวัดโจคังและวัดดรีปุง
คนไม่พลุกพล่านมาก ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์และสวดมนต์กับพระทิเบตอย่างใกล้ชิด - แช่น้ำพุร้อนธรรมชาติ
บริเวณรอบลาซามีบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่ง เหมาะสำหรับคลายหนาวและพักผ่อน - เทศกาล Butter Lamp Festival
เทศกาลนี้จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเทศกาลแสงเทียนศักดิ์สิทธิ์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เมืองทั้งเมืองจะสว่างไสลด้วยแสงเทียนและโคมไฟนับพันดวง
ฤดูหนาวในลาซา เปรียบเสมือนบทกวีแห่งความสงบ ที่ธรรมชาติและจิตวิญญาณค่อยๆ คลี่คลายออกมาท่ามกลางความหนาวเย็น หากต้องการสัมผัสทิเบตที่แท้จริงในแบบเงียบสงบและไม่ซ้ำใคร ฤดูหนาวคือคำตอบของทุกสิ่ง
ตารางสรุปอุณหภูมิลาซาและปริมาณน้ำฝนรายเดือน
เดือน (Month) | อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย (°C) | อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย (°C) | ปริมาณน้ำฝน (มม.) | หมายเหตุ / กิจกรรมแนะนำ |
มกราคม | 8 | -5 | 1 | หนาวที่สุดของปี เหมาะกับการชมวิวหิมะรอบพระราชวังโปตาลา |
กุมภาพันธ์ | 10 | -3 | 2 | ท้องฟ้าแจ่มใส เริ่มมีเทศกาล Butter Lamp Festival |
มีนาคม | 12 | 0 | 3 | เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ เที่ยววัดโจคังและเดินตลาดบาร์คอร์ |
เมษายน | 15 | 4 | 6 | อากาศอุ่นขึ้น ดอกไม้เริ่มบานทั่วที่ราบสูง |
พฤษภาคม | 18 | 7 | 30 | ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ฤดูร้อน เหมาะกับการเที่ยวทะเลสาบยัมดร็อก |
มิถุนายน | 20 | 10 | 70 | เริ่มฤดูมรสุม แต่ฝนตกเบา ๆ กลางคืน |
กรกฎาคม | 21 | 11 | 120 | ฝนมากที่สุดของปี แต่ทิวทัศน์เขียวชอุ่มและสดใส |
สิงหาคม | 22 | 10 | 110 | อากาศอบอุ่น เหมาะกับการชมเทศกาลโยเกิร์ต (Shoton Festival) |
กันยายน | 18 | 8 | 60 | ฟ้าใส อากาศสบาย เหมาะกับการถ่ายภาพวิวภูเขา |
ตุลาคม | 15 | 3 | 10 | ใบไม้เปลี่ยนสีทั่วเมือง วิวสวยที่สุดของปี |
พฤศจิกายน | 12 | 0 | 2 | อากาศเริ่มเย็น เมืองสงบ ผู้คนน้อย |
ธันวาคม | 9 | -4 | 1 | หนาวจัดแต่ฟ้าใส เหมาะกับการชมวัดและถ่ายภาพแสงเช้า |
สรุป การเลือกช่วงเวลาเที่ยวลาซา ขึ้นอยู่กับสไตล์ของคุณ
- เดือนที่เหมาะที่สุดในการเที่ยวลาซา : พฤษภาคม - ตุลาคม
- เดือนที่เหมาะกับการชมความสงบและหิมะ : ธันวาคม - กุมภาพันธ์
- เดือนแห่งดอกไม้และวิวธรรมชาติ : เมษายน - มิถุนายน
- ช่วงที่ฝนตกมากที่สุด : กรกฏาคม - สิงหาคม
สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อไปเยือนลาซา

หากจะเดินทางไปเที่ยวลาซา ไม่ได้มีแค่การจัดกระเป๋าเสื้อกันหนาวเท่านั้น แต่ต้องเตรียมของใช้ที่สามารถรับมือกับสภาพอากาศแปรปรวนได้ด้วย การเตรียมตัวให้ครบ เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณเที่ยวได้อย่างสบายและปลอดภัย
การรับมือกับโรคแพ้ความสูง (AMS)
หนึ่งในสิ่งที่นักท่องเที่ยวร้องระวังมากที่สุดก็คือ โรคแพ้ความสูง เกิดจากการที่ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงเมื่ออยู่บนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก เช่น ลาซา เป็นต้น อาการที่พบบ่อยก็คือ เวียนหัว หายใจเร็ว เหนื่อยง่าย ปวดหัว คลื่อนไส้ หรือรู้สึกอ่อนแรง
แนวทางป้องกันและรับมือ
- พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทางขึ้นลาซา
- ดื่มน้ำมาก ๆ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันแรก ๆ
เดินช้า ๆ และให้ร่างกายได้ปรับตัวอย่างน้อย 1–2 วันก่อนทำกิจกรรมหนัก - หากมีอาการมาก ควรพกยา Diamox (Acetazolamide) ซึ่งช่วยลดอาการแพ้ความสูง แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- ที่พักส่วนใหญ่ในลาซามีเครื่องให้ออกซิเจนไว้บริการ หากรู้สึกไม่สบายสามารถขอใช้ได้
การเตรียมร่างกายให้พร้อม จะช่วยให้รับมือกับสภาพอากาศได้ดีขึ้นและเพลิดเพลินกับการเที่ยวมากกว่าเดิม
ยาและของใช้ส่วนตัว
อากาศของลาซาค่อนข้างแห้ง เย็น และบางครั้งร่างกายปรับตัวไม่ทัน การพกยาจำเป็นติดตัวไว้จะช่วยให้ทริปปลอดภัยและสบายใจมากขึ้น
จองตั๋วเครื่องบินและที่พักในลาซา สะดวก ครบ จบที่ Trip.com

วางแผนการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักในลาซาแบบง่ายๆ ผ่านแพลตฟอร์ม Trip.com ที่ช่วยจองทั้งเครื่องบินและที่พักได้ในที่เดียว
เคล็ดลับการหาตั๋วเครื่องบินราคาดี
- ตรวจสอบเส้นทางยอดนิยม จุดพักเปลี่ยนเครื่อง
เช่นจากเส้นทางในจีนสู่ลาซา เช่น เฉิงตูไปลาซา เป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมในระบบ - ใช้ฟีเจอร์ Price Alert
เปิดใช้ฟีเจอร์ Price Alert เพื่อตั้งแจ้งเตือนตอนราคาตก แล้วจะขึ้นเตือนได้ข้อมูลนี้จากการวิเคราะห์ ปุ่มตั้งเตือนราคา - เลือกวันเดินทางที่ไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่นหรือวันหยุดยาว
เพราะราคาจะสูงกว่าช่วงเวลาปกติ หากต้องการไปช่วงไฮซีซั่นหรือหยุดยาวจริงๆ แนะนำให้จองล่วงหน้า 2-3 เดือน - เช็กโปรโมชันในแอป
ตรวจเช็กโปรโมชันในแอป เพราะมักจะมีโค้ดส่วนลดเฉพาะแอปหรือช่วง Flash Sale
แนะนำย่านที่พักยอดนิยมในลาซา
การเลือกที่พักในลาซา ไม่ใช่แค่เรื่องราคาอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงความสะดวก การปกป้องจากสภาพอากาศ และการปรับตัว ย่านเหล่านี้คือย่านที่แนะนำยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวไทยไปพัก
Around Barkhor Street / Old Town (เมืองเก่า)

เป็นย่านที่อยู่ใกล้กับวัดโจคังและย่านเมืองเก่า เดินได้ถึงหลายสถานที่ท่องเที่ยวหลักมากมายที่สุด แต่ในช่วงค่ำคืน อาจมีผู้คนเดินทางมาก เนื่องจากเป็นย่านท่องเที่ยว หากใครต้องการความสงบ ที่นี่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไหร่
ใกล้ Potala Palace / เขตสุสานพระราชวัง

ย่านนี้ เหมาะกับผู้ที่อยากตื่นขึ้นมาแล้วเห็นพระราชวงัเลย และมีความสงบมากกว่าย่านเมืองเก่า ติดอยู่แค่ค่าที่พักในย่านนี้จะสูงกว่า แต่คุณภาพบริการดี อาหารและร้านค้าท้องถิ่นอาจจะหายาก แต่ถ้าพักย่านนี้เท่ากับได้พักผ่อนจริงๆ
การเดินทางสู่ลาซา ไม่ใช่แค่การไปเยือนหลังคาโลก แต่เป็นการเปิดประตูสู่โลกแห่งวัฒนธรรม ศรัทธา และธรรมชาติอันน่าทึ่งของทิเบต ไม่ว่าจะเลือกไปฤดูไหน ก็จะได้สัมผัสเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของลาซาจริงๆ การเตรียมตัวล่วงหน้าและเข้าใจสภาพอากาศคือหัวใจสำคัญของการเดินทางที่ราบรื่น และเพื่อความสะดวกสูงสุด Trip.com จะช่วยให้ทุกขั้นตอนง่ายขึ้น ทั้งการจองตั๋วเครื่องบินราคาดี การเลือกที่พักในย่านที่เหมาะสม และการใช้บริการภาษาไทยที่เข้าใจนักท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางสู่ลาซาในฝันได้แล้ววันนี้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอุณหภูมิและการเที่ยวลาซา (FAQ)
ลาซาหนาวที่สุดเดือนไหน?
ลาซาจะหนาวที่สุดในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะเดือนมกราคม ที่อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ราว -5°C และกลางคืนอาจติดลบได้ แต่ยังคงมีแสงแดดตลอดวัน ทำให้กลางวันอุ่นสบายแม้อุณหภูมิต่ำไปเที่ยวลาซาต้องขอวีซ่าทิเบต (Tibet Permit) หรือไม่?
ใช่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงชาวไทยต้องมีใบอนุญาตเข้าทิเบตอากาศที่ลาซาส่งผลต่อโรคแพ้ความสูง (AMS) อย่างไร?
ลาซาตั้งอยู่สูงกว่า 3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศเบาบางและมีออกซิเจนน้อย อุณหภูมิเย็นและแห้งทำให้ร่างกายปรับตัวช้ากว่าปกติ จึงมีโอกาสเกิดอาการ AMS เช่น เวียนหัว หายใจไม่อิ่ม หรือ นอนไม่หลับช่วงไหนของปีที่มีโอกาสเห็นหิมะในลาซามากที่สุด?
หิมะจะเริ่มตกบางพื้นที่รอบเมืองตั้งแต่ปลายพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะในเดือน ธันวาคม และ มกราคม ที่ยอดเขาและพื้นที่สูงรอบนอกเมืองปกคลุมด้วยหิมะขาวเต็มที่แต่งตัวไปเที่ยวลาซาหน้าร้อนต้องเอาเสื้อกันหนาวไปไหม?
ควรเอาไป แม้ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) จะเป็นช่วงที่อบอุ่นที่สุดของปี แต่กลางคืนในลาซาอุณหภูมิยังคงลดลงถึง 10°C หรือบางวันต่ำกว่านั้น และอากาศแห้ง ลมแรง จึงควรมีเสื้อกันลม หรือแจ็กเก็ตบางติดไว้เสมอ


