ประเภทรถไฟจีนที่ควรรู้ 2568 เลือกแบบไหนให้คุ้มและเหมาะกับทริปที่สุด

จีนมีเครือข่ายรถไฟที่กว้างขวางที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ครอบคลุมทั้งรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Rail) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความรวดเร็วและทันสมัยและรถไฟธรรมดา (Conventional Rail) ที่ให้อารมณ์การเดินทางแบบสบายๆ และราคาประหยัด การเลือกประเภทรถไฟจีน ให้เหมาะสมกับทริปจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และยังได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลาย

Trip.com จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักข้อดีของการเดินทางด้วยรถไฟในจีน ประเภทของรถไฟที่มีให้เลือก ความแตกต่างของแต่ละแบบ วิธีจองตั๋วง่ายๆ ผ่าน Trip.com ไปจนถึงเคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนขึ้นรถไฟ เพื่อให้ทริปสนุกและราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ

ทำไมการเดินทางด้วยรถไฟในจีนถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว?

การเดินทางภายในประเทศที่กว้างใหญ่เช่นนี้อาจทำให้ใครหลายคนลังเลว่าจะเลือกบินภายในประเทศหรือนั่งรถไฟ แต่เมื่อเปรียบเทียบอย่างจริงจังแล้ว รถไฟในจีน โดยเฉพาะเมื่อเข้าใจประเภทรถไฟจีนที่มีให้เลือกหลากหลาย กลับกลายเป็นคำตอบที่เวิร์คที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว

✅ ความสะดวกที่มากกว่าการบิน

สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวมักสัมผัสได้เมื่อเลือกนั่งรถไฟคือความสะดวกสบายในการเข้าถึง สนามบินหลายแห่งของจีนตั้งอยู่นอกตัวเมือง ต้องเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมง ในขณะที่สถานีรถไฟมักตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีรถไฟใต้ดิน รถบัส และแท็กซี่เชื่อมต่อโดยตรง การเดินทางไปถึงสถานีจึงไม่ยุ่งยากและประหยัดเวลามากกว่า

ขั้นตอนก่อนขึ้นรถไฟก็รวดเร็วกว่าเครื่องบิน ไม่จำเป็นต้องไปถึงก่อนหลายชั่วโมง เพียงมาถึงก่อนเวลาขึ้นรถไฟประมาณ 45 นาที ก็เพียงพอสำหรับการตรวจความปลอดภัยและการหาชานชาลาที่ถูกต้อง ทำให้การเดินทางไม่ตึงเครียดจนเกินไป

✅ คุ้มค่าในทุกงบประมาณ

อีกเหตุผลที่ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟในจีนได้รับความนิยมคือความคุ้มค่าในด้านราคา ตั๋วรถไฟถูกออกแบบให้หลากหลายตามประเภทรถไฟจีน นักท่องเที่ยวที่ต้องการความเร็วก็สามารถเลือก G-Trains ที่วิ่งด้วยความเร็ว 300-350 กม./ชม. แต่หากใครอยากประหยัดงบก็มีตัวเลือกเป็น K-Trains หรือ T-Trains ที่ราคาถูกลงแต่ยังคงครอบคลุมเส้นทางทั่วประเทศ

นอกจากนี้รถไฟบางประเภทเช่น Z-Trains ยังมีบริการขบวนกลางคืนพร้อมเตียงนอน ทำให้ไม่เพียงประหยัดค่าตั๋ว แต่ยังลดค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักโรงแรมไปในตัว ถือเป็นการเดินทางที่ทั้งคุ้มค่าและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสายงบจำกัด

✅ ประสบการณ์การเดินทางที่ต่างออกไป

การนั่งรถไฟในจีนไม่ได้เป็นเพียงการเคลื่อนย้ายจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งแต่คือประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าจดจำ

• ผู้โดยสารจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของจีนทั้งภูเขา แม่น้ำ และเมืองเล็กๆ ที่เครื่องบินไม่อาจมอบให้
• ตู้โดยสารกว้างขวาง สามารถลุกขึ้นเดินเล่นหรือไปที่ Dining Car เพื่อซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อ
• การนั่งรถไฟยังเปิดโอกาสให้ได้พบปะผู้คน ทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนท้องถิ่น ซึ่งอาจกลายเป็นบทสนทนาน่าสนใจหรือได้คำแนะนำท่องเที่ยวใหม่ๆ

ทำความรู้จักประเภทรถไฟจีนและเลือกยังไงให้เหมาะกับทริป

การเดินทางด้วยรถไฟในจีนถือเป็นประสบการณ์ที่หลายคนประทับใจ เพราะนอกจากจะครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวเกือบทุกแห่งแล้ว ยังมีประเภทรถไฟให้เลือกมากมาย แต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์และความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป การเข้าใจว่ารถไฟแต่ละประเภทคืออะไร และเลือกอย่างไรให้เหมาะกับการเดินทาง จะช่วยให้ทริปของเพื่อนๆ ราบรื่นและคุ้มค่าที่สุด

📌 รถไฟความเร็วสูง (High-Speed Rail) : ตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของจีนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยระยะทางยาวที่สุดและความทันสมัยที่สุด การเดินทางข้ามเมืองใหญ่ๆ จึงใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

✅ G-Trains (高铁 - Gāotiě)

• ความเร็ว 300-350 กม./ชม. เร็วที่สุดในบรรดารถไฟจีน
• ความสะดวกสบาย ตู้นั่งกว้างขวาง เบาะปรับเอนได้ มีปลั๊กไฟ และห้องน้ำสะอาด
• เหมาะสำหรับ นักท่องเที่ยวที่ต้องการความรวดเร็วและไม่อยากเสียเวลาในการเดินทาง
• ตัวอย่างเส้นทางยอดนิยมได้แก่ ปักกิ่ง - เซี่ยงไฮ้ ใช้เวลาเพียง 4.5 ชั่วโมง แทนที่จะบินและเสียเวลาไปสนามบิน

✅ D-Trains (动车 - Dòngchē)

• ความเร็วประมาณ 200-250 กม./ชม.
• ความคุ้มค่าคือราคาตั๋วถูกกว่า G-Trains แต่ยังคงเดินทางได้เร็ว
• เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดงบประมาณ แต่ยังอยากได้ความเร็วที่เหนือกว่ารถไฟธรรมดา
• บรรยากาศและที่นั่งค่อนข้างสบาย บางเส้นทางมีขบวนกลางคืนพร้อมเตียงนอน

📌 รถไฟธรรมดา (Conventional Rail) : สำหรับคนที่อยากเดินทางแบบดั้งเดิม

แม้ว่ารถไฟความเร็วสูงจะเป็นตัวเลือกหลักของนักเดินทางในยุคใหม่ แต่รถไฟธรรมดายังคงมีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งในแง่ของบรรยากาศและราคา

✅ Z-Trains (直达 - Zhídá)

• จุดเด่นเป็นรถไฟนอนด่วนพิเศษที่มักออกเดินทางตอนกลางคืนและไปถึงในเช้าวันถัดมา
• สิ่งอำนวยความสะดวกมีเตียงนอนทั้งแบบแข็ง (Hard Sleeper) และแบบนุ่ม (Soft Sleeper) เหมาะกับการเดินทางไกล
• ประสบการณ์เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตบนรถไฟจีนแบบดั้งเดิมและได้พักผ่อนไปในตัว
• ช่วยประหยัดค่าที่พักหนึ่งคืน

✅ T-Trains (特快 - Tèkuài) และ K-Trains (快速 - Kuàisù)

• จะช้ากว่า Z-Trains แต่ราคาถูกลงอีกมาก
• เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่รีบร้อนและอยากประหยัดงบประมาณที่สุด
• บรรยากาศเต็มไปด้วยผู้โดยสารท้องถิ่น เหมาะกับผู้ที่อยากสัมผัสจีนในมุมที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวอย่างเดียว
• ข้อควรระวังคือบางครั้งความสะดวกสบายอาจไม่มากนัก โดยเฉพาะการเดินทางไกล

📌 เลือกประเภทรถไฟจีนยังไงให้เหมาะกับทริป

• นักท่องเที่ยวหลายคนอาจสับสนเมื่อต้องเลือกว่าจะใช้รถไฟแบบไหน ดังนั้นการเลือกจึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และสไตล์การเดินทางของแต่ละคน
• สำหรับคนที่เวลาเป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้เลือก G-Trains เพราะช่วยย่นเวลาเดินทางได้มาก เหมาะกับทริปที่มีเวลาเที่ยวจำกัด
• สำหรับคนที่อยากคุ้มค่าแต่ยังเร็ว แนะนำให้เลือก D-Trains ที่ราคาย่อมเยากว่า แต่ยังคงประหยัดเวลา
• สำหรับคนที่อยากประหยัดค่าโรงแรม แนะนำให้เลือก Z-Trains ที่มีเตียงนอนและให้บรรยากาศคลาสสิก
• สำหรับคนที่งบประมาณจำกัดสุดๆ แนะนำให้เลือก T-Trains หรือ K-Trains แม้จะใช้เวลานาน แต่ราคาประหยัดและได้สัมผัสวิถีท้องถิ่นแท้จริง

เปรียบเทียบความต่างของรถไฟความเร็วสูง vs. รถไฟธรรมดา

แม้ว่าปัจจุบันรถไฟความเร็วสูงจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าด้านการขนส่งของจีน แต่รถไฟธรรมดาก็ยังคงมีบทบาทสำคัญสำหรับผู้โดยสารหลายกลุ่ม เพราะแต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสีย และเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป การเข้าใจความแตกต่างของ ประเภทรถไฟจีน ทั้งสองกลุ่มนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยววางแผนการเดินทางได้เหมาะสมที่สุด

วิธีจองตั๋วรถไฟจีนง่ายๆ ใน 5 ขั้นตอนผ่าน Trip.com

การเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงในจีนถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่สะดวก รวดเร็ว และทันสมัยมากที่สุด และที่สำคัญเพื่อนๆ สามารถจองตั๋วได้ง่ายๆ ผ่าน Trip.com โดยไม่จำเป็นต้องมีความยุ่งยากในการสื่อสารภาษาจีนเลย เพียงทำตาม 5 ขั้นตอนต่อไปนี้ คุณก็พร้อมเดินทางทันที

✅ขั้นตอนที่ 1 : ค้นหาเส้นทางและวันเดินทาง

เริ่มจากเข้าเว็บไซต์หรือแอป Trip.com จากนั้นเลือกเมืองต้นทางและปลายทาง พร้อมกำหนดวันเดินทางที่ต้องการ ระบบจะค้นหาตารางรถไฟที่ตรงกับข้อมูลของตนเอง

✅ขั้นตอนที่ 2 : เลือกขบวนรถไฟและประเภทที่นั่ง

เมื่อระบบแสดงผลการค้นหา สามารถเลือกขบวนรถไฟที่ตรงกับเวลาและความสะดวกได้ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Train) หรือรถไฟปกติ จากนั้นเลือกประเภทที่นั่ง เช่น ที่นั่งชั้นหนึ่ง (First Class), ชั้นสอง (Second Class) หรือที่นอน (Sleeper) ตามความต้องการและงบประมาณ

✅ขั้นตอนที่ 3 : กรอกข้อมูลผู้โดยสาร (ใช้ชื่อตามพาสปอร์ต)

ใส่ข้อมูลผู้โดยสารให้ตรงตามหนังสือเดินทาง ทั้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขพาสปอร์ต และวันเกิด เนื่องจากข้อมูลนี้จะถูกใช้ในการยืนยันตัวตนเมื่อคุณรับตั๋วจริงที่สถานี

✅ขั้นตอนที่ 4 : ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือช่องทางอื่นๆ

เลือกวิธีการชำระเงินที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ Trip.com มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย รองรับผู้ใช้จากหลายประเทศ

✅ขั้นตอนที่ 5 : รับอีเมลยืนยันและวิธีรับตั๋วจริง

เมื่อชำระเงินเรียบร้อย คุณจะได้รับอีเมลยืนยันการจองทันที พร้อมรายละเอียดวิธีรับตั๋วจริงที่สถานีรถไฟในจีน เพียงนำพาสปอร์ตไปแสดงที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ก็จะได้รับตั๋วโดยสารพร้อมเดินทาง

เคล็ดลับเที่ยวให้สนุกไม่มีสะดุด ข้อควรรู้ก่อนไปสถานีรถไฟจีน

การเดินทางด้วยรถไฟจีนไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูงหรือรถไฟธรรมดา ล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว แต่เพื่อให้ทริปของเพื่อนๆ ไหลลื่นและไม่มีปัญหากวนใจ การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถึงสถานีถือว่าสำคัญมาก เพราะสถานีรถไฟในจีนมีขนาดใหญ่และระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวดกว่าหลายประเทศ เรามาดูกันว่าต้องรู้เรื่องอะไรบ้างก่อนออกเดินทาง

📌ไปถึงสถานีก่อนเวลา

• สถานีรถไฟจีนมีขั้นตอนตรวจความปลอดภัยใกล้เคียงสนามบิน เช่น การสแกนกระเป๋าและตรวจเอกสาร
• หากขึ้นรถไฟความเร็วสูง ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 60 - 90 นาที โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลที่มีผู้โดยสารหนาแน่น
• การเผื่อเวลาจะช่วยให้มีเวลาหาที่นั่ง รู้ตำแหน่งชานชาลา และลดความกังวลระหว่างเดินทาง

📌วิธีอ่านตั๋วรถไฟ

• บนตั๋วจะมีข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขขบวน (Train Number), หมายเลขตู้ (Carriage) และหมายเลขที่นั่ง (Seat Number)
• ตั๋วมักมีข้อมูลทั้งภาษาจีนและอังกฤษ แต่การจดรหัสขบวนและเวลาล่วงหน้าจะช่วยให้ไม่สับสน
• ป้ายบอกทางภายในสถานีจะมีรหัสตรงกับข้อมูลบนตั๋ว เพียงเดินตามป้ายก็ไปถึงชานชาลาได้ง่ายๆ

📌สิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟ

• บนรถไฟจีนส่วนใหญ่มีปลั๊กไฟให้ใช้งาน โดยเฉพาะบนรถไฟความเร็วสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชาร์จมือถือหรือโน้ตบุ๊ก
• ห้องน้ำสะอาดและมีให้บริการในทุกตู้โดยสาร
• มีน้ำร้อนฟรีสำหรับชงชา กาแฟ หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งถือเป็นวิถีการเดินทางที่นักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบ
• บางขบวนมีตู้เสบียงหรือรถเข็นจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องหิวระหว่างทาง

📌การจัดการสัมภาระและที่เก็บกระเป๋า

• บนรถไฟความเร็วสูงจะมีชั้นวางกระเป๋าเหนือศีรษะคล้ายเครื่องบิน และพื้นที่วางสัมภาระขนาดใหญ่ที่หัวตู้
• หากมีสัมภาระขนาดใหญ่ ควรไปถึงก่อนเวลาเพื่อหาที่วางให้เรียบร้อย เพราะพื้นที่เหล่านี้มีจำนวนจำกัด
• อย่าลืมติดแท็กชื่อหรือสัญลักษณ์เล็กๆ บนกระเป๋าเพื่อป้องกันการหยิบผิด