
ก่อนเก็บกระเป๋าไปเที่ยวสิงคโปร์ อย่าลืมเช็กเรื่อง “ปลั๊กไฟ” ให้พร้อม! หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า สิงคโปร์ใช้ ปลั๊กไฟแบบ Type G หรือปลั๊กสามขาเหลี่ยม ซึ่งต่างจากปลั๊กไทยที่ใช้แบบขากลม Type A, C หรือ O ถ้าไม่พกหัวแปลงไปด้วย มีสิทธิ์ชาร์จมือถือไม่ติดตั้งแต่วันแรกแน่นอน บทความนี้ Trip.com จะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกเรื่องเกี่ยวกับ “ปลั๊กไฟสิงคโปร์” ตั้งแต่ชนิดปลั๊ก แรงดันไฟฟ้า หัวแปลงที่ควรพก ไปจนถึงจุดชาร์จไฟยอดนิยมในเมือง เตรียมพร้อมก่อนเดินทางไว้ รับรองเที่ยวได้สบาย ไม่ต้องกลัวแบตหมดกลางทาง
ตารางเปรียบเทียบปลั๊กไฟในสิงคโปร์และไทย
ก่อนเดินทางไปสิงคโปร์ อย่าลืมเช็กความแตกต่างของ “ปลั๊กไฟ” กันก่อนนะคะ เพราะถึงแรงดันไฟจะใกล้เคียงกัน แต่ รูปแบบขาปลั๊กไม่เหมือนกันเลย หากไม่ได้พกหัวแปลงไปด้วย อาจชาร์จมือถือหรือกล้องไม่ได้ตั้งแต่วันแรกก็เป็นได้ ตารางด้านล่างสรุปข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนพกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปเที่ยวสิงคโปร์
รายการ | สิงคโปร์ | ไทย |
|---|---|---|
ประเภทปลั๊กไฟ | Type G (ปลั๊กขาเหลี่ยมสามขา) | Type A / C / O (ปลั๊กขากลมสองขา) |
แรงดันไฟฟ้า | 230 โวลต์ | 220 โวลต์ |
ความถี่ไฟฟ้า | 50 เฮิรตซ์ | 50 เฮิรตซ์ |
ต้องใช้อะแดปเตอร์ไหม | ✅ ต้องใช้ (ขาไม่เข้ากัน) | - |
💡 เคล็ดลับ
- ถ้าไปสิงคโปร์ไม่กี่วัน แนะนำให้พก หัวแปลงปลั๊ก Type G ติดไปอย่างน้อยหนึ่งอัน
- แต่ถ้าเดินทางต่างประเทศบ่อย แนะนำให้ซื้อ หัวแปลงแบบ Universal Adapter ไว้เลย คุ้มกว่า ใช้ได้หลายประเทศ
- ตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งาน หากมีคำว่า “Input: 100–240V” แปลว่าใช้ได้ทันที ไม่ต้องพกหม้อแปลงไฟฟ้า
ปลั๊กไฟสิงคโปร์ใช้แบบไหน?

สิงคโปร์ใช้ ปลั๊กไฟแบบ Type G หรือที่หลายคนเรียกว่า “ปลั๊กขาเหลี่ยมสามขา” เป็นปลั๊กมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในอังกฤษ มาเลเซีย และฮ่องกง ซึ่งต่างจากปลั๊กของไทยที่เป็นขากลมหรือขาแบน (Type A / C / O) ดังนั้นนักเดินทางจากไทย จำเป็นต้องพกหัวแปลงปลั๊ก (Adapter) ไปด้วยทุกครั้ง เพื่อให้สามารถชาร์จมือถือ กล้อง หรือแล็ปท็อปได้อย่างสะดวก
โรงแรมในสิงคโปร์หลายแห่งมักมีอะแดปเตอร์ให้ยืมฟรี แต่ไม่ใช่ทุกที่มีบริการนี้ หากไม่แน่ใจ แนะนำให้พกของตัวเองไปจะดีที่สุด โดยเฉพาะถ้าคุณต้องใช้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน เช่น มือถือและโน้ตบุ๊ก
👉อ้างอิงข้อมูลมาตรฐานปลั๊กไฟประเทศสิงคโปร์จาก IEC World Plugs (เว็บไซต์ทางการ IEC) ซึ่งรวบรวมรายละเอียดปลั๊กไฟของแต่ละประเทศทั่วโลก
ปลั๊กไฟสิงคโปร์ต้องใช้หัวแปลงไหม?
คำตอบคือ ต้องใช้แน่นอนค่ะ เพราะสิงคโปร์ใช้ปลั๊ก Type G (ขาเหลี่ยมสามขา) ซึ่งต่างจากปลั๊กไทยโดยสิ้นเชิง หากนำมือถือหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าจากไทยไปโดยไม่เตรียมหัวแปลงไว้ มีสิทธิ์ “เสียบไม่เข้า” ตั้งแต่วันแรก โดยหัวแปลงปลั๊ก (Adapter) มีหลายแบบให้เลือก ขึ้นอยู่กับลักษณะการเดินทางของคุณ
ประเภทหัวแปลง | ราคาโดยประมาณ | เหมาะสำหรับ | รายละเอียด |
|---|---|---|---|
แบบธรรมดา (Single Type G Adapter) | ฿50 – ฿100 | ผู้ที่เดินทางไปสิงคโปร์ครั้งเดียวหรือระยะสั้น | ใช้ได้เฉพาะกับเต้ารับ Type G เท่านั้น ขนาดเล็ก พกง่าย |
แบบมัลติฟังก์ชัน (Universal Adapter) | ฿150 – ฿400 | นักเดินทางที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย | ใช้ได้หลายประเทศ รวมถึงอังกฤษ, มาเลเซีย, ดูไบ และฮ่องกง มีช่อง USB ในตัว บางรุ่นมีระบบกันไฟกระชาก |
💡 เคล็ดลับ: หากคุณใช้มือถือ กล้อง และโน้ตบุ๊กพร้อมกัน แนะนำให้เลือกหัวแปลงแบบมีช่อง USB ในตัว จะได้ไม่ต้องพกปลั๊กหลายอันให้เกะกะ
ต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้าที่สิงคโปร์ไหม? เครื่องใช้ไฟฟ้าไทยใช้ได้หรือไม่
คำตอบคือ ส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้า ค่ะ เพราะแรงดันไฟในสิงคโปร์อยู่ที่ 230 โวลต์ (50 เฮิรตซ์) ซึ่งใกล้เคียงกับของไทยที่ 220 โวลต์ (50 เฮิรตซ์) ดังนั้นเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่จากไทยสามารถใช้งานได้ตามปกติ เพียงแค่พก หัวแปลงปลั๊ก (Type G Adapter) ไปด้วยก็พอ อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์บางชนิดที่รองรับไฟฟ้าเพียง 100V หรือต่ำกว่า (เช่น ของที่ซื้อจากญี่ปุ่น) อาจต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการช็อตหรือเครื่องเสียหาย
วิธีตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณใช้ได้หรือไม่
พลิกดูที่ฉลากด้านหลังของเครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าเห็นข้อความว่า “Input: AC 100–240V” แปลว่าอุปกรณ์นั้นรองรับแรงดันไฟฟ้าทั่วโลก ใช้ได้เลยในสิงคโปร์โดย ไม่ต้องมีหม้อแปลง
ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้ได้ในสิงคโปร์
ประเภทอุปกรณ์ | ต้องใช้หม้อแปลงไหม | หมายเหตุ |
|---|---|---|
คอมพิวเตอร์ / โน้ตบุ๊ก | ❌ ไม่ต้องใช้ | เครื่องส่วนใหญ่รองรับ 100–240V |
โทรศัพท์มือถือ / แท็บเล็ต | ❌ ไม่ต้องใช้ | ที่ชาร์จสมัยใหม่รองรับไฟได้ทั่วโลก |
กล้องถ่ายรูป / กล้อง GoPro | ❌ ไม่ต้องใช้ | รองรับไฟ 100–240V เช่นกัน |
เครื่องเล่นเกม (PlayStation, Switch ฯลฯ) | ❌ ไม่ต้องใช้ | ส่วนใหญ่ใช้ได้ทั่วโลก แต่ควรเช็กคู่มือก่อน |
ไดร์เป่าผม / เครื่องหนีบผม | ⚠️ ควรตรวจสอบ | ใช้ไฟสูง ควรเลือกแบบ “Dual Voltage” หรือขอยืมจากโรงแรม |
เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ | ⚠️ ไม่แนะนำให้พก | ใช้ไฟเยอะเกินไป เสี่ยงเครื่องไหม้ |
💡 เคล็ดลับ
- ถ้าเป็นไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบผม ควรเลือกแบบ Dual Voltage (100–240V) จะได้ใช้ได้ทุกประเทศ
- หากไม่แน่ใจเรื่องแรงดันไฟของเครื่อง วิธีที่ง่ายที่สุดคือ เช่าอุปกรณ์จากโรงแรม เพราะปลอดภัยและสะดวกกว่า
- และอย่าลืมพกหัวแปลง Type G ติดกระเป๋าไว้เสมอ เพราะถึงแรงดันจะตรง แต่ขาปลั๊กไม่เข้ากันแน่นอนค่ะ
ซื้อปลั๊กแปลงสำหรับสิงคโปร์ได้ที่ไหน

ที่จริงแล้ว การหาซื้อหัวแปลงปลั๊กสำหรับสิงคโปร์นั้นไม่ยากเลยค่ะ เพราะตอนนี้มีขายแทบทุกที่ตั้งแต่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้บ้านไปจนถึงร้านค้าออนไลน์ เพียงเลือกให้ตรงรุ่น Type G ก็พร้อมใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากซื้อที่สนามบินอาจมีราคาสูงกว่าปกติถึงเท่าตัว ดังนั้นควรเตรียมซื้อไว้ล่วงหน้าก่อนออกเดินทางจะคุ้มค่ากว่า แต่ถ้าลืมจริง ๆ ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะในสิงคโปร์เองก็มีขายทั่วไปทั้งในห้างและร้านสะดวกซื้อค่ะ
แนะนำแหล่งซื้อปลั๊กแปลงที่สะดวกและคุ้มค่า
- ร้านค้าออนไลน์ในไทย – Shopee, Lazada หรือ Amazon มีให้เลือกหลายรุ่นพร้อมรีวิวจากผู้ใช้จริง
- ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้าง – เช่น Power Buy, HomePro, B2S, Big C หรือ Lotus’s
- สนามบินสุวรรณภูมิ / ดอนเมือง – มีขายในร้าน Duty Free และร้านแกดเจ็ต
- ห้างสรรพสินค้าในสิงคโปร์ – เช่น Mustafa Centre, Don Don Donki หรือ Challenger
- ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต – FairPrice, 7-Eleven, Guardian ก็มีหัวแปลงจำหน่ายในโซนแกดเจ็ตเดินทาง
💡 เคล็ดลับ: เลือกหัวแปลงที่มี พอร์ต USB ในตัว จะสะดวกกว่า เพราะสามารถชาร์จมือถือและแท็บเล็ตพร้อมกันได้ ไม่ต้องพกปลั๊กหลายอันให้เกะกะกระเป๋าเลยค่ะ
สถานที่ชาร์จแบตในสิงคโปร์ ที่ทั้งสะดวกและฟรี!

หมดกังวลเรื่องแบตหมดกลางทางได้เลย เพราะสิงคโปร์เป็นเมืองที่เอื้อต่อนักท่องเที่ยวมาก มีจุดให้ชาร์จอุปกรณ์อยู่ทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต หรือกล้องถ่ายรูป แค่พกหัวแปลงปลั๊ก Type G ไปด้วย ก็สามารถเสียบชาร์จได้สบาย ๆ ที่สถานที่เหล่านี้
1. คาเฟ่และร้านกาแฟ
คาเฟ่ในสิงคโปร์แทบทุกแห่งจะมีปลั๊กให้บริการใกล้ที่นั่ง บางร้านมีช่องชาร์จ USB ด้วย เช่น Starbucks, Coffee Bean, %Arabica หรือ Flash Coffee ส่วนใหญ่ยังมี Wi-Fi ฟรีให้ใช้อีกด้วย เหมาะกับการพักชาร์จทั้งแบตและพลังระหว่างวันเลยค่ะ
2. ห้างสรรพสินค้าใหญ่
ห้างดังอย่าง ION Orchard, VivoCity, Jewel Changi หรือ Funan Mall จะมี “Charging Station” ให้บริการฟรีในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นโซนพักผ่อนหรือศูนย์อาหาร นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi สาธารณะและห้องน้ำสะอาด จึงเป็นจุดพักที่ทั้งสะดวกและปลอดภัย
3. สนามบินชางงี (Changi Airport)
สนามบินชางงีขึ้นชื่อเรื่องความสะดวกสบาย มีจุดชาร์จไฟครอบคลุมทุกเทอร์มินัล ทั้งในโซนรอขึ้นเครื่องและพื้นที่พักผ่อน มีปลั๊กมาตรฐานสากลและพอร์ต USB ให้เลือกใช้มากมาย รวมถึงมี “Power Bank Rental Kiosk” สำหรับเช่าแบตสำรองด้วยนะคะ
4. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ตามแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง Marina Bay Sands, Orchard Road, Chinatown หรือ Sentosa Island จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Tourist Information Centre) ที่ให้คุณทั้งชาร์จมือถือ รับแผนที่ และขอข้อมูลท่องเที่ยวได้ในที่เดียว
💡 เคล็ดลับ: อย่าลืมพก หัวแปลงปลั๊ก Type G ติดตัวไว้เสมอ เพราะถึงแม้บางจุดจะมีช่องชาร์จ USB แต่ช่องไฟหลักส่วนใหญ่ยังเป็นมาตรฐานสิงคโปร์ (Type G) หากเตรียมไว้ล่วงหน้า รับรองไม่ต้องวิ่งหาปลั๊กทั่วเมืองแน่นอนค่ะ
รายชื่อรูปแบบปลั๊กไฟและแรงดันไฟฟ้าในประเทศต่าง ๆ นอกสิงคโปร์

สำหรับใครที่วางแผนเดินทางต่อจากสิงคโปร์ไปประเทศอื่น ๆ Trip.com ได้รวบรวมข้อมูล รูปแบบปลั๊กไฟและมาตรฐานแรงดันไฟฟ้าของแต่ละประเทศ ไว้ให้แล้ว เพื่อให้คุณเตรียมอุปกรณ์ได้ถูกต้องก่อนออกเดินทาง
เอเชีย
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
ไทย | 50 | 220 | A,B,B3,BF,C |
เกาหลีใต้ | 60 | 110/220 | A, C, SE |
จีน | 50 | 110/220 | A, B, B3, BF, C, O, SE |
ไต้หวัน | 50 | 110 | A,O, C |
ฮ่องกง | 50 | 220 | BF |
อินเดีย | 50 | 115/230/240 | B, B3, BF, C, SE |
เวียดนาม | 50 | 220 | A,C,SE,BF |
อินโดนีเซีย | 50 | 127/220/230 | A, B, B3, BF, C |
สิงคโปร์ | 50 | 220/240 | BF |
ฟิลิปปินส์ | 60 | 230/240 | A, B, B3, C, O |
มาเลเซีย | 50 | 240 | B, B3, BF, C |
โอเชียเนีย
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
ออสเตรเลีย | 50 | 240/250 | O |
นิวซีแลนด์ | 50 | 230/240 | O |
ฟิจิ | 50 | 120/240 | A, B, C, O |
อเมริกาเหนือ/อเมริกาใต้
ประเทศในโซนอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ส่วนใหญ่ใช้แรงดันไฟ 120 โวลต์ ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานของไทยมาก (220 โวลต์) และมีรูปแบบปลั๊กที่แตกต่างออกไป เช่น Type A หรือ Type B ดังนั้น หากนำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากไทยไปใช้ ควร เตรียมหม้อแปลงไฟฟ้าและหัวแปลงปลั๊ก ไปด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ค่ะ
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
อเมริกา | 60 | 120 | A |
แคนาดา | 60 | 120/240 | A, BF |
อาร์เจนตินา | 50 | 220 | BF, C, O, SE |
โคลัมเบีย | 60 | 120/150 | A |
ชิลี | 50 | 220 | B3, BF, C, SE |
บราซิล | 60 | 127/220 | A, C |
เวเนซุเอลา | 60 | 120 | A |
เปรู | 60 | 220 | A, C, SE |
เม็กซิโก | 60 | 120/127/230 | A, C, SE |
ยุโรป
ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปใช้แรงดันไฟฟ้าที่ สูงกว่าไทย (ประมาณ 230 โวลต์) และมีรูปแบบเต้ารับที่แตกต่างกัน เช่น Type C และ Type F ซึ่งไม่สามารถใช้ร่วมกับปลั๊กไทยได้โดยตรง ดังนั้น หากต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจากไทย ควร เตรียมหม้อแปลงไฟฟ้าและหัวแปลงปลั๊ก ติดตัวไปด้วย เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสะดวกตลอดทริปค่ะ
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
สหราชอาณาจักร | 50 | 230/240 | B, B3, BF, C |
ไอซ์แลนด์ | 50 | 230 | B, C, SE |
อิตาลี | 50 | 125/220 | A, C, SE |
ออสเตรีย | 50 | 230 | B3, BF, C, O, SE |
เนเธอร์แลนด์ | 50 | 230 | B, C, SE |
กรีซ | 50 | 230 | B, B3, C, SE |
สวิตเซอร์แลนด์ | 50 | 230 | A, B, C, SE |
สวีเดน | 50 | 230 | B, C, SE |
สเปน | 50 | 127/220 | A, C, SE |
เดนมาร์ก | 50 | 230 | C |
เยอรมนี | 50 | 127/230 | A, C, SE |
นอร์เวย์ | 50 | 230 | C, SE |
ฮังการี | 50 | 220 | C |
ฟินแลนด์ | 50 | 120/230 | A, B, C, SE |
ฝรั่งเศส | 50 | 127/230 | A, C, O, SE |
บัลแกเรีย | 50 | 110/220 | A, C, SE |
เบลเยียม | 50 | 127/230 | A, B, C, SE |
โปรตุเกส | 50 | 230 | B, B3, BF, C, SE |
รัสเซีย | 50 | 127/220 | A, B, C, SE |
แอฟริกา
ประเทศ | อัตราความถี่ | แรงดันไฟฟ้า | ประเภทปลั๊กไฟ |
แอลจีเรีย | 50 | 127/220 | A, BF, C |
อียิปต์ | 50 | 220 | B3, BF, C |
เอธิโอเปีย | 50 | 220 | C |
เคนยา | 50 | 240 | B, B3, BF, C |
ซาอีร์ | 50 | 220 | C |
แทนซาเนีย | 50 | 230 | B3, BF |
ไนจีเรีย | 50 | 230 | B, BF, C |
แอฟริกาใต้ | 50 | 220/230/250 | B, B3, BF, C |
อ้างอิง: https://www.apple.com/
เตรียมตัวเรื่อง “ปลั๊กไฟสิงคโปร์” ให้พร้อมก่อนเดินทาง ก็หมดห่วงเรื่องชาร์จแบตหรือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้แล้วค่ะ เพียงพก หัวแปลงปลั๊ก Type G ติดกระเป๋าไว้ และตรวจสอบแรงดันไฟของอุปกรณ์ก่อนใช้งาน เท่านี้ก็พร้อมเที่ยวสิงคโปร์ได้แบบไม่สะดุดทุกทริป
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปลั๊กไฟสิงคโปร์
สิงคโปร์ใช้ปลั๊กแบบไหน?
สิงคโปร์ใช้ปลั๊กไฟแบบ Type G หรือปลั๊กสามขาเหลี่ยม มาตรฐานเดียวกับประเทศอังกฤษ มาเลเซีย และฮ่องกง ซึ่งไม่เหมือนปลั๊กของไทยที่เป็นขากลมหรือขาแบนต้องใช้หัวแปลงปลั๊กเมื่อไปเที่ยวสิงคโปร์ไหม?
ต้องใช้ค่ะ เพราะปลั๊กไทยเสียบเข้ากับเต้ารับในสิงคโปร์ไม่ได้โดยตรง ควรพกหัวแปลงปลั๊ก Type G ไปด้วยอย่างน้อยหนึ่งอันถ้านำเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยไปสิงคโปร์ ต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้าไหม?
โดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้หม้อแปลงไฟฟ้า เพราะแรงดันไฟในสิงคโปร์ (230 โวลต์) ใกล้เคียงกับไทย (220 โวลต์) แต่ควรตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยดูจากข้อความ “Input: 100–240V” ที่ฉลากซื้อหัวแปลงปลั๊กสำหรับสิงคโปร์ได้ที่ไหน?
สามารถซื้อได้ง่ายทั้งในไทยและสิงคโปร์ เช่น ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า, สนามบิน, ห้างสรรพสินค้าอย่าง Mustafa Centre หรือร้านค้าออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada และ Amazonมีจุดชาร์จไฟให้บริการในสิงคโปร์ไหม?
มีค่ะ คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า สนามบินชางงี และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในสิงคโปร์มีจุดชาร์จไฟให้ใช้ฟรี เพียงพกหัวแปลงปลั๊ก Type G ไปด้วยก็สามารถชาร์จได้ทุกที่




