สำหรับคนไทยที่เดินทางไปอินโดนีเซียเพื่อการท่องเที่ยวไม่เกิน 30 วัน สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้การวางแผนการเดินทางสะดวกและรวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมทะเลที่เกาะบาหลี การสัมผัสวัฒนธรรมที่ยอกยาการ์ตา หรือการเยี่ยมญาติในจาการ์ตา การเข้าใจประเภทวีซ่า ขั้นตอนการยื่น และเอกสารที่ต้องเตรียม จะช่วยให้การเดินทางราบรื่น ไม่สะดุด และสบายใจตลอดทริป Trip.com จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับรายละเอียดทั้งหมดที่คนไทยควรรู้เกี่ยวกับวีซ่าของอินโดนีเซียแบบครบถ้วนและไม่มีขาดตกบกพร่อง
คนไทยต้องขอวีซ่าประเทศอินโดนีเซียไหม?
หากเพื่อนๆ กำลังวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซีย คำถามที่หลายคนสงสัยก่อนจองตั๋วเครื่องบินคือ “คนไทยต้องขอวีซ่าอินโดนีเซียหรือไม่?” คำตอบคือ ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าหากมีเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวในระยะสั้นไม่เกิน 30 วัน โดยสามารถเข้าประเทศได้โดยใช้แค่หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันเดินทาง
การยกเว้นวีซ่านี้ครอบคลุมการเดินทางเพื่อ ท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ หรือธุรกิจแบบสั้น ๆ แต่ไม่รวมถึงการไปทำงาน เรียนต่อ หรือพำนักระยะยาว ซึ่งในกรณีเหล่านั้นจะต้องดำเนินการขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนเดินทางผ่านสถานทูตหรือระบบขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์ที่อินโดนีเซียพัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวก
วีซ่าไม่ต้อง แต่เงื่อนไขยังมี!!
แม้ว่าคนไทยจะได้รับสิทธิ์ยกเว้นวีซ่า แต่อินโดนีเซียมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น
- ต้องแสดงตั๋วเครื่องบินขากลับหรือเดินทางต่อประเทศอื่น
- ต้องมีหลักฐานทางการเงินเพียงพอในการอยู่ในประเทศ
- ต้องไม่มีประวัติต้องห้ามเข้าเมือง หรือปัญหาทางกฎหมาย
กรณีที่ผู้เดินทางต้องการอยู่เกิน 30 วัน จะต้องยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) ล่วงหน้า ซึ่งสามารถทำได้ทั้งแบบติดต่อผ่านสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย หรือทำผ่านระบบ e-Visa หรือ Visa on Arrival (VOA) แบบขยายระยะเวลาได้ ซึ่งสามารถต่ออายุอยู่ในประเทศได้อีก 30 วัน รวมเป็น 60 วัน
วางแผนล่วงหน้าเพื่อเที่ยวอินโดนีเซียแบบราบรื่น
การวางแผนเที่ยวอินโดนีเซียด้วยตัวเองจึงควรคำนึงถึงระยะเวลาเดินทางเป็นสำคัญ หากตั้งใจจะไป “เที่ยวบาหลี” หรือเมืองอื่นๆ ในช่วงวันหยุดยาวที่กินเวลานานกว่า 4 สัปดาห์ ควรเตรียมเรื่องวีซ่าล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะหากวางแผนจะเข้าประเทศมากกว่า 1 ครั้งในช่วงเวลาใกล้กัน ควรเลือกแบบวีซ่าที่เหมาะสมกับแผนการเดินทาง
ประเภทวีซ่าของประเทศอินโดนีเซียที่คนไทยควรรู้
แม้ว่าคนไทยจะได้รับการยกเว้นวีซ่าหากเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวไม่เกิน 30 วัน แต่หากต้องการพำนักในอินโดนีเซียระยะยาวหรือเดินทางด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การทำงาน การศึกษา หรือธุรกิจ การขอวีซ่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเที่ยวอินโดนีเซียด้วยตัวเองในระยะเวลานาน ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของวีซ่าอินโดนีเซีย ที่มีหลากหลาย เพื่อเลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของตนเองมากที่สุด
| ประเภทวีซ่า | วัตถุประสงค์ | ระยะเวลาพำนัก | ต่ออายุได้ | หมายเหตุ |
| Free Visa (ไม่ต้องขอวีซ่า) | ท่องเที่ยว / เยี่ยมญาติ / ธุรกิจระยะสั้น | ไม่เกิน 30 วัน | ไม่ได้ | สำหรับคนไทย ใช้ Passport เดินทางได้ทันที |
| Visa on Arrival (VOA) | ท่องเที่ยว / ธุรกิจ | เริ่มต้น 30 วัน | ได้ (เพิ่มอีก 30 วัน) | ยื่นขอที่สนามบินหรือออนไลน์ |
| e-Visa B211A | ธุรกิจ / ท่องเที่ยวระยะยาว / ทำงานระยะสั้น | สูงสุด 60 วัน | ได้ (ต่อได้หลายครั้งรวมไม่เกิน 180 วัน) | ต้องสมัครผ่านระบบออนไลน์ |
| Social Visa (B211B) | เยี่ยมครอบครัว / ศึกษาวัฒนธรรม / ทำกิจกรรมไม่หวังผลกำไร | สูงสุด 60 วัน | ได้ | ต้องมีผู้สนับสนุนในอินโดนีเซีย |
| Work Visa (KITAS) | ทำงานในบริษัทท้องถิ่น | สูงสุด 1 ปี | ได้ | ต้องมีนายจ้างเป็นผู้ขอ |
| Student Visa | เรียนในมหาวิทยาลัย/โรงเรียนอินโดนีเซีย | ตามระยะเวลาหลักสูตร | ได้ | ต้องมีเอกสารจากสถาบันการศึกษา |
เลือกวีซ่าให้ตรงจุดประสงค์
หากคุณตั้งใจจะเที่ยวในประเทศอินโดนีเซียนานกว่า 30 วัน ควรเลือก VOA หรือ e-Visa B211A ที่ยื่นได้ผ่านช่องทางขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์ โดยควรดำเนินการล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันทำการก่อนเดินทาง ในขณะที่ผู้ที่ต้องการไปเยี่ยมญาติหรือพำนักกับครอบครัวจะเหมาะกับ Social Visa มากกว่า
ส่วนผู้ที่ต้องการเดินทางไปเพื่อทำงานหรือฝึกงานกับบริษัทอินโดนีเซีย จะต้องมีการดำเนินการผ่านนายจ้างท้องถิ่น เพื่อยื่นขอวีซ่าประเภท KITAS ซึ่งเป็นวีซ่าพำนักชั่วคราว (Temporary Stay Visa)
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นวีซ่าอินโดนีเซีย
แม้คนไทยจะสามารถเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซีย ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับการพำนักไม่เกิน 30 วัน แต่หากวางแผนจะอยู่นานขึ้นหรือมีจุดประสงค์เฉพาะ เช่น การทำงาน ศึกษา หรือพำนักระยะยาว การขอวีซ่าอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับผู้ที่เลือกใช้บริการขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์หรือยื่นผ่านสถานทูต จำเป็นต้องเตรียมเอกสารอย่างครบถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปฏิเสธคำร้อง
ตารางเอกสารที่ต้องเตรียมตามประเภทวีซ่า
| ประเภทวีซ่า | เอกสารที่ต้องใช้ |
| Visa on Arrival (VOA) | - พาสปอร์ตที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน - ตั๋วเครื่องบินขากลับหรือเดินทางต่อ - หลักฐานที่พัก เช่น ใบจองโรงแรม - ค่าธรรมเนียม (เตรียมเงินสดหรือบัตรเครดิต) |
| e-Visa B211A / B211B | - แบบฟอร์มคำร้องวีซ่า - สำเนาหน้าพาสปอร์ต - รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต (พื้นหลังขาว) - ตั๋วเครื่องบินเข้า - ออก - จดหมายเชิญจากสปอนเซอร์ (ถ้ามี) - หลักฐานการเงิน เช่น สเตทเมนต์ธนาคาร - ที่อยู่ที่พักในอินโดนีเซีย |
| Social / Family Visit Visa | - จดหมายเชิญจากผู้พำนักในอินโดนีเซีย - สำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางของเจ้าภาพ - เอกสารแสดงความสัมพันธ์ (เช่น ทะเบียนสมรสหรือสูติบัตร) - พาสปอร์ต - หลักฐานการเงิน |
| Work Visa (KITAS) | - หนังสือรับรองการจ้างงานจากบริษัท - หนังสือเดินทางที่มีอายุอย่างน้อย 18 เดือน - ประวัติย่อ (CV) - รูปถ่ายตามที่กำหนด - เอกสารจากบริษัทในอินโดนีเซีย (เช่น ใบอนุญาตจ้างแรงงานต่างชาติ) |
| Student Visa | - หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษาในอินโดนีเซีย - จดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย - หลักฐานชำระค่าเรียน (ถ้ามี) - พาสปอร์ต - รูปถ่าย - หลักฐานการเงิน |
ข้อแนะนำในการเตรียมเอกสาร
การเตรียมเอกสารสำหรับขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์ ควรใช้ไฟล์ที่มีความคมชัดและมีขนาดไม่เกินตามที่เว็บไซต์กำหนด เช่น PDF หรือ JPG และควรตั้งชื่อไฟล์ให้ตรงกับเนื้อหา เช่น passport_name.pdf เพื่อป้องกันความสับสน ในกรณีของนักท่องเที่ยวที่วางแผนเที่ยวและใช้วีซ่า VOA ควรเตรียมเงินสดพอประมาณสำหรับค่าธรรมเนียม และสำเนาเอกสารสำรองไว้ในโทรศัพท์มือถือหรือคลาวด์เผื่อกรณีฉุกเฉิน
ยื่นวีซ่าของประเทศอินโดนีเซียที่ไหน?
สำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มีแผนจะเดินทางไปอินโดนีเซียในระยะยาว ไม่ว่าจะเพื่อพักผ่อน เรียน ทำงาน หรือเยี่ยมญาติ การยื่นวีซ่าอินโดนีเซียอย่างถูกต้องคือขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การเดินทางราบรื่น โดยเฉพาะผู้ที่เที่ยวอินโดนีเซียด้วยตัวเอง ควรทราบว่าการยื่นขอวีซ่าสามารถทำได้หลายช่องทาง ซึ่งแต่ละช่องทางเหมาะสมกับวัตถุประสงค์และประเภทวีซ่าที่แตกต่างกัน
ช่องทางการยื่นวีซ่าอินโดนีเซีย
1.ยื่นผ่านสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยื่นวีซ่าประเภทนักเรียน ทำงาน หรือพำนักระยะยาว โดยสามารถยื่นด้วยตนเองที่สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย
ที่อยู่ : 600–602 ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร : 02-252-3135
เว็บไซต์ : https://kemlu.go.id/bangkok
ข้อดีของการยื่นผ่านสถานทูตคือสามารถสอบถามข้อมูลโดยตรงกับเจ้าหน้าที่และยื่นเอกสารด้วยตัวเอง แต่ต้องทำการนัดหมายล่วงหน้า
2.ยื่นผ่านระบบขอวีซ่า อินโดนีเซีย ออนไลน์ (Indonesia e-Visa)
ช่องทางยอดนิยมในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ต้องการวีซ่าแบบ B211A/B หรือ VOA ซึ่งสามารถขอได้ผ่านเว็บไซต์ของกรมตรวจคนเข้าเมืองอินโดนีเซีย https://visa-online.imigrasi.go.id ซึ่งรองรับการอัปโหลดเอกสาร จ่ายค่าธรรมเนียม และรับวีซ่าผ่านอีเมล
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก ไม่ต้องเดินทางไปสถานทูต และวางแผนการเดินทางได้ล่วงหน้า โดยเฉพาะถ้าวางแผนจะไปเที่ยวบาหลี หรือเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ของอินโดนีเซีย
3.ยื่นขอ Visa on Arrival (VOA) ณ สนามบิน
หากคุณถือพาสปอร์ตไทยและต้องการอยู่ไม่เกิน 30 วัน (หรือขอต่อได้อีก 30 วัน) สามารถขอ VOA ที่สนามบินหลักของอินโดนีเซีย เช่น สนามบินนานาชาติงูระห์ไร (เกาะบาหลี) สนามบินซูการ์โน–ฮัตตา (จาการ์ตา) สนามบินในสุราบายา เมดาน และเมืองหลักอื่น ๆ
ขั้นตอนง่าย ไม่ต้องขอล่วงหน้า แต่ควรเตรียมเอกสารให้ครบ และตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการก่อนเดินทาง
ทางเลือกสำหรับนักเดินทางบ่อย
หากเพื่อนๆ เป็นผู้ที่เดินทางเข้าออกอินโดนีเซียบ่อยครั้ง หรือวางแผนจะเที่ยวอินโดนีเซียหลายเมือง อาจพิจารณาการยื่นขอวีซ่าประเภท Multiple Entry ซึ่งสามารถยื่นผ่านระบบออนไลน์ หรือผ่านสถานทูตแล้วแต่กรณี
ค่าธรรมเนียมหลักในการยื่นวีซ่าของประเทศอินโดนีเซีย
เมื่อเพื่อนๆ วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซีย โดยเฉพาะหากมีแผนจะอยู่เกิน 30 วัน หรือมีจุดประสงค์นอกเหนือจากการท่องเที่ยว การยื่นวีซ่าอินโดนีเซียอย่างถูกประเภทและชำระค่าธรรมเนียมให้ครบถ้วนจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ขั้นตอนนี้จะสรุปค่าธรรมเนียมหลักของวีซ่าอินโดนีเซีย ตามประเภทวีซ่าที่คนไทยนิยมใช้ พร้อมแนะนำการชำระเงินในระบบขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์
| ประเภทวีซ่า | ค่าธรรมเนียม (โดยประมาณ) | หมายเหตุ |
| Visa on Arrival (VOA) | 500,000 รูเปียห์ (ประมาณ 1,200 บาท) | ชำระที่สนามบินหรือออนไลน์อยู่ได้ 30 วัน ขอต่อได้อีก 30 วัน |
| e-Visa B211A / B211B | 2,000,000–3,000,000 รูเปียห์ (ประมาณ 5,000–7,500 บาท) | รวมค่าดำเนินการและภาษีอยู่ได้ 60 วัน ต่อได้สูงสุด 180 วัน |
| Social / Family Visit Visa | 3,000,000 รูเปียห์ (ประมาณ 7,500 บาท) | ต้องมีจดหมายเชิญจากผู้พำนักในอินโดนีเซีย |
| Work Visa (KITAS) | เริ่มต้นที่ 10,000,000 รูเปียห์ (ประมาณ 25,000 บาทขึ้นไป) | ราคาขึ้นอยู่กับประเภทงานและระยะเวลาวีซ่า |
| Student Visa | 4,000,000–5,000,000 รูเปียห์ (ประมาณ 10,000–12,500 บาท) | อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากสถานศึกษา |
| Multiple Entry Visa (MEBV) | ประมาณ 3,000,000 รูเปียห์ (7,500 บาท) | เข้าประเทศได้หลายครั้งภายใน 1 ปีแต่ต้องอยู่นานไม่เกิน 60 วันต่อครั้ง |
วิธีชำระค่าธรรมเนียม
สำหรับการยื่นขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์ผ่านระบบ e-Visa ผู้สมัครจะได้รับอีเมลแจ้งยอดชำรรหลังกรอกแบบฟอร์มครบถ้วน โดยสามารถชำระเงินผ่านช่องทางต่อไปนี้
- บัตรเครดิต / เดบิต (Visa, MasterCard)
- บัญชีธนาคารในอินโดนีเซีย (กรณีให้ตัวแทนในประเทศยื่นแทน)
- ช่องทางชำระเงินดิจิทัล เช่น QRIS (เฉพาะคนอินโดนีเซีย)
หากยื่นผ่านสถานทูต ต้องตรวจสอบว่าใช้วิธีโอนเงินหรือจ่ายผ่านช่องทางใดตามคำแนะนำจากเว็บไซต์สถานทูต
วางแผนงบประมาณก่อนเที่ยวอินโดนีเซีย
หากตั้งใจจะไปเที่ยวหรือไปพักผ่อนระยะยาว ค่าธรรมเนียมวีซ่าอาจกลายเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า การรู้ราคาประมาณการและวิธีชำระเงิน จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างไม่มีสะดุด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเที่ยวอินโดนีเซียด้วยตัวเองและวางแผนล่วงหน้าในทุกขั้นตอน
ขั้นตอนการขอวีซ่าของประเทศอินโดนีเซีย
การวางแผนเดินทางไปยังอินโดนีเซีย โดยเฉพาะหากคุณตั้งใจจะพำนักเกิน 30 วัน หรือมีจุดประสงค์นอกเหนือจากการท่องเที่ยวทั่วไป จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าอินโดนีเซียอย่างถูกต้อง สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมเที่ยวอินโดนีเซียด้วยตัวเอง หรือไปยังจุดหมายปลายทางยอดฮิตอย่าง เกาะบาหลี ขั้นตอนนี้จะสรุปขั้นตอนการขอวีซ่าอย่างละเอียดทั้งแบบออนไลน์และผ่านสถานทูต
ขั้นตอนการขอวีซ่าอินโดนีเซีย (แบบทั่วไป)
- ตรวจสอบประเภทวีซ่าให้ชัดเจน
เริ่มต้นด้วยการพิจารณาวัตถุประสงค์ในการเดินทาง เช่น ท่องเที่ยว ศึกษา ทำงาน หรือเยี่ยมครอบครัว จากนั้นเลือกประเภทวีซ่าที่เหมาะสม เช่น VOA, e-Visa B211A, KITAS, หรือ Student Visa
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
หลังจากเลือกประเภทวีซ่าแล้ว ควรเตรียมเอกสารประกอบให้ครบ เช่น พาสปอร์ต รูปถ่าย ใบจองตั๋วเครื่องบิน หลักฐานการเงิน และจดหมายรับรองต่าง ๆ ตามแต่ละประเภทวีซ่ากำหนด
- ยื่นคำขอ
หากยื่นผ่านสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ให้ติดต่อเพื่อนัดหมายและยื่นเอกสารด้วยตัวเอง หรือหากยื่นขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์ ให้เข้าเว็บไซต์ https://visa-online.imigrasi.go.id เพื่อกรอกแบบฟอร์มและอัปโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง
- ชำระค่าธรรมเนียม
เมื่อกรอกแบบฟอร์มและแนบเอกสารครบแล้ว ระบบจะออกใบแจ้งค่าธรรมเนียม (Invoice) ให้ชำระเงินผ่านช่องทางที่กำหนด เช่น บัตรเครดิตหรือ QRIS (สำหรับผู้ที่มีบัญชีในอินโดนีเซีย)
- รอการอนุมัติ
ระยะเวลาการอนุมัติวีซ่าขึ้นอยู่กับประเภทที่สมัคร โดยทั่วไป e-Visa ใช้เวลาประมาณ 3–7 วันทำการ ส่วนการยื่นผ่านสถานทูตอาจใช้เวลานานกว่านั้นประมาณ 1–2 สัปดาห์
- ดาวน์โหลดและพิมพ์เอกสารวีซ่า
เมื่อวีซ่าผ่านการอนุมัติ จะได้รับไฟล์ e-Visa ทางอีเมล ให้นำเอกสารดังกล่าวพิมพ์ออกมาและนำติดตัวไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวประเทศอินโดนีเซีย
การเดินทางไปต่างประเทศให้ปลอดภัยและสนุก จำเป็นต้องอาศัยการวางแผนล่วงหน้าอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อปลายทางของเพื่อนๆ คือ “อินโดนีเซีย” ประเทศหมู่เกาะที่มีทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และความหลากหลายทางศาสนา การเตรียมตัวก่อนเดินทางคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปได้อย่างราบรื่นและน่าประทับใจ
- ตรวจสอบพาสปอร์ตและวีซ่า
ก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบว่าหนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันเดินทางหรือไม่ สำหรับผู้ถือพาสปอร์ตไทยที่ตั้งใจเที่ยวอินโดนีเซีย ไม่เกิน 30 วัน ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าล่วงหน้า แต่หากมีแผนจะอยู่นานกว่านั้น จำเป็นต้องขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์หรือผ่านสถานทูตให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง
- วางแผนเส้นทางและการเดินทางในประเทศ
อินโดนีเซียมีมากกว่า 17,000 เกาะ และระบบขนส่งในแต่ละพื้นที่อาจแตกต่างกันมาก ดังนั้น ควรศึกษาระบบขนส่งภายใน หรือหากมีแผนเดินทางภายในประเทศหลายเมือง ควรวางแผนเส้นทางล่วงหน้า และจองตั๋วโดยสารระยะไกลหรือเครื่องบินภายในประเทศแต่เนิ่นๆ
- จองที่พักล่วงหน้าและตรวจสอบพื้นที่
แม้อินโดนีเซียจะมีที่พักให้เลือกหลากหลาย แต่การจองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือฤดูท่องเที่ยว (เช่น ช่วงเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม) จะช่วยให้คุณได้ที่พักในทำเลที่ดีและราคาคุ้มค่า อย่าลืมตรวจสอบรีวิว สถานที่ตั้ง และความปลอดภัยของบริเวณนั้นๆ ด้วย
- เตรียมเอกสารฉุกเฉินและสุขภาพ
ควรถ่ายสำเนาพาสปอร์ต ใบจองที่พัก ตั๋วเดินทาง และสำเนาวีซ่า (ถ้ามี) ไว้ในอีเมลหรือคลาวด์เผื่อกรณีเอกสารสูญหาย ขณะเดียวกันควรทำประกันการเดินทางที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล อุบัติเหตุ และการล่าช้าของเที่ยวบิน โดยเฉพาะหากคุณมีแผนกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินเขาหรือดำน้ำ
- ศึกษาข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับวัฒนธรรม
อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม บางพื้นที่เคร่งครัดด้านการแต่งกายและพฤติกรรม เช่น หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อแขนกุดหรือกางเกงขาสั้นในมัสยิด และควรถอดรองเท้าก่อนเข้าเขตศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวมือใหม่ที่กำลังมองหาวิธีขอวีซ่าอินโดนีเซียออนไลน์ หรือวางแผนเที่ยวอินโดนีเซียด้วยตัวเองระยะยาว การรู้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับวีซ่าจะช่วยให้เตรียมตัวได้ดียิ่งขึ้น อินโดนีเซียเป็นประเทศที่เปิดกว้างต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากประเทศไทยที่ได้รับสิทธิ์ยกเว้นวีซ่าในกรณีท่องเที่ยวไม่เกิน 30 วัน อย่างไรก็ตามการรู้เท่าทันเรื่องเอกสาร ค่าธรรมเนียม และวัฒนธรรมท้องถิ่น ย่อมทำให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวของเพื่อนๆ เต็มไปด้วยความประทับใจ พร้อมทั้งปลอดภัยและไร้กังวล
ข้อควรรู้! “วีซ่าอินโดนีเซีย” ทุกเรื่องที่คนไทยควรทราบก่อนเดินทาง
อินโดนีเซียมีฤดูกาลอะไรบ้าง
ภูมิอากาศของอินโดนีเซียมีลักษณะเป็นป่าฝนเขตร้อน สภาพอากาศร้อนชื้น มี 2 ฤดู คือ ฤดู แล้ง (มิถุนายน-กันยายน) และฤดูฝน (ธันวาคม-มีนาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 21-33 องศาเซลเซียส ปริมาณน้าฝนเฉลี่ยปีละ 706 มิลลิเมตร ความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 60-100อินโดนีเซีย มีอะไรน่าเที่ยว
1. บาหลี (Bali) ... 2. โบโรบูดูร์ (Borobudur) ... 3. อุทยานวัฒนธรรมการูด้าวิสนูเควนนา (Garuda Wisnu Kencana Cultural Park - GWK) ... 4. ไชน่าทาวน์แห่งบันดุง ... 5. วัดปรัมบานัน (Candi Prambanan) ... 6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาร์ตวัน (Art:1 Museum)เที่ยวจาการ์ตา เดือนไหนดี
ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน จาการ์ตา จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 26 พฤษภาคม และมีระยะเวลานาน 4.5 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 9 ตุลาคม เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน จาการ์ตา คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 35% ของเวลา