แจกพิกัดเวียนเทียนวันมาฆบูชา 2569 พร้อมกิจกรรมและหลักธรรมที่ควรรู้

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
วันมาฆบูชา รวมสถานที่เวียนเทียน ทำบุญ

วันมาฆบูชา ปี 2569 ตรงกับวันที่ 3 มีนาคม (วันอังคาร) ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ชาวไทยนิยมเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม และร่วมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถกันทั่วประเทศ Trip.com จึงรวบรวมวัดดังทั่วไทยที่จัดกิจกรรมเวียนเทียน พร้อมบอกวิธีเดินทาง เวลาเปิด–ปิด รวมถึงแนะนำประวัติความเป็นมา ความสำคัญ และหลักธรรมในวันมาฆบูชาแบบเข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง

ประวัติวันมาฆบูชา

วันมาฆบูชา ย่อมาจากคำว่า "มาฆปูรณมีบูชา" หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ดังนั้นวันมาฆบูชาจึงตรงกับวันที่ 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี หากปีไหนมีเดือนอธิกมาส หรือมีเดือน 8 สองครั้ง วันมาฆบูชาจะถูกเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 แทน ซึ่งในปี 2568 วันมาฆบูชาจะตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ (วันพุธ) และในปี 2569 วันมาฆบูชาจะตรงกับวันที่ 3 มีนาคม (วันอังคาร) 

วันมาฆบูชาได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธตั้งแต่ 2,500 กว่าปีก่อน เนื่องจากเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเผยแผ่หลักธรรม “โอวาทปาฏิโมกข์” หรือ “โอวาท 3” ให้แก่สาวก ซึ่งคำสอนนี้เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา โดยวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์พร้อมกันถึง 4 ประการ คือ วันนั้นตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 พอดี ซึ่งเป็นวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์, มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน แคว้นมคธ หรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน, พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรงหรือเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" และพระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 ทั้งสิ้น

หลักธรรมและการปฏิบัติตนที่ควรรู้

หลักธรรมวันมาฆบูชา

วันมาฆบูชาถือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง โอวาทปาฏิโมกข์ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า โอวาท 3 ให้แก่พระอรหันต์สาวกกว่า 1,250 รูปที่มาประชุมโดยมิได้นัดหมาย หลักธรรมนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “หัวใจของพระพุทธศาสนา” เพราะแม้จะมีถ้อยคำสั้น ๆ แต่ก็ครอบคลุมแนวทางการดำเนินชีวิตทั้งทางกาย วาจา และใจ โดยสอนให้มนุษย์รู้จักการ หยุดทำชั่ว สร้างความดี และฝึกจิตใจให้สะอาดผ่องใส ซึ่งไม่เพียงเป็นข้อธรรมสำหรับชาวพุทธเท่านั้น แต่ยังเป็นหลักสากลที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การอยู่ร่วมกับครอบครัว หรือการใช้ชีวิตในสังคม เมื่อเข้าใจแก่นแท้ของโอวาทนี้แล้ว การเข้าวัดเวียนเทียนหรือทำบุญในวันมาฆบูชาก็จะยิ่งเต็มไปด้วยความหมายและคุณค่ามากยิ่งขึ้น

สรุปโอวาท 3 (หัวใจพระพุทธศาสนา):

  • ละเว้นความชั่ว : ไม่ทำบาป ไม่เบียดเบียนทั้งกายและใจ
  • ทำความดีให้ถึงพร้อม : สั่งสมบุญกุศล ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น
  • ทำจิตใจให้ผ่องใส : ฝึกสมาธิ ภาวนา รักษาใจให้สงบ

การปฏิบัติตนในวันมาฆบูชา

สิ่งที่ควรทำ:

✅ แต่งกายสุภาพหรือชุดขาว

✅ เตรียมดอกไม้ ธูป เทียน (บางวัดมีจำหน่าย)

✅ เดินเวียนรอบพระอุโบสถ 3 รอบตามเข็มนาฬิกา

✅ ตั้งจิตภาวนา สวดมนต์ หรือกำหนด “พุท–โธ”

สิ่งที่ไม่ควรทำ:

❌ ห้ามใช้แฟลชรบกวนผู้อื่น

❌ งดเสียงดัง/หยอกล้อในเขตวัด

กิจกรรมวันมาฆบูชา

เวียนเทียนรอบวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ จ.เชียงใหม่ กิจกรรมวันมาฆบูชา

ขอบคุณรูปภาพจาก: เว็บไซต์ทางการสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

ในวันมาฆบูชา ชาวพุทธทั่วไทยจะนิยมทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้าและหลักธรรมโอวาทปาฏิโมกข์ กิจกรรมสำคัญที่มักปฏิบัติกัน มีดังนี้

1. ทำบุญตักบาตร

เริ่มต้นวันด้วยการใส่บาตรพระสงฆ์ เพื่อสั่งสมบุญและความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต

2. ฟังเทศน์ ฟังธรรม

หลายวัดจะจัดให้พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ทบทวนหลักธรรมและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

3. รักษาศีล

ผู้คนจำนวนมากจะถือศีล 5 หรือศีล 8 ในวันนี้ เพื่อฝึกความสงบกาย วาจา ใจ

4. นั่งสมาธิ ภาวนา

การฝึกสมาธิช่วยให้จิตใจสงบและสอดคล้องกับหัวใจของโอวาท 3 คือทำจิตให้ผ่องใส

5. เวียนเทียนรอบพระอุโบสถ

กิจกรรมไฮไลต์ของวันมาฆบูชา ผู้คนจะร่วมขบวนเดินถือดอกไม้ ธูป และเทียน รอบพระอุโบสถหรือพระธาตุ 3 รอบ เพื่อแสดงความเคารพและรำลึกถึงพระรัตนตรัย

กรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่
กรุงเทพฯ ไปภูเก็ต
กรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่
ดูเที่ยวบินทั้งหมด
กรุงเทพฯ
DMK
เชียงใหม่
CNX
พ. 4 มี.ค.
พ. 4 มี.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 27%
เริ่มต้น 72.05€ 52.72
กรุงเทพฯ
DMK
เชียงใหม่
CNX
พ. 25 ก.พ.
พ. 25 ก.พ.
เที่ยวเดียว
ลด 27%
เริ่มต้น 72.05€ 52.72
กรุงเทพฯ
DMK
เชียงใหม่
CNX
จ. 2 มี.ค.
จ. 2 มี.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 26%
เริ่มต้น 72.05€ 53.20
กรุงเทพฯ
DMK
เชียงใหม่
CNX
พ. 4 มี.ค.
พ. 4 มี.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 26%
เริ่มต้น 72.05€ 53.32
กรุงเทพฯ
DMK
เชียงใหม่
CNX
ส. 7 มี.ค.
ส. 7 มี.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 26%
เริ่มต้น 72.05€ 53.32
กรุงเทพฯ
DMK
เชียงใหม่
CNX
อ. 24 ก.พ.
อ. 24 ก.พ.
เที่ยวเดียว
ลด 26%
เริ่มต้น 72.05€ 53.32
กรุงเทพฯ
DMK
เชียงใหม่
CNX
ส. 7 มี.ค.
ส. 7 มี.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 26%
เริ่มต้น 72.05€ 53.32
กรุงเทพฯ
DMK
เชียงใหม่
CNX
ส. 7 มี.ค.
ส. 7 มี.ค.
เที่ยวเดียว
ลด 26%
เริ่มต้น 72.05€ 53.32

🕯️รวมสถานที่จัดงาน วันมาฆบูชา 2569 ทั่วไทย 🙏

1. วัดยานนาวา เจริญกรุง, กรุงเทพ

วัดยานนาวา เจริญกรุง กรุงเทพฯ

วัดยานนาวาเป็นวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาและอยู่บนถนนเจริญกรุง จัดเป็นวันที่มีบรรยากาศดีทีเดียวเลยค่ะ วัดยานนาวา เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเดิมว่า วัดคอกควาย ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือ เรือสำเภาพระเจดีย์ที่สวยงามและหาดูได้ยากมาก ๆ ในสมัยนี้ค่ะ เนื่องจากเป็นพระเจดีย์ที่ในหลวงสมัยรัชกาลที่ 3 สร้างขึ้นมา เพื่อเป็นที่ระลึกให้คนรุ่นหลังได้เห็นเรือสำเภาที่กำลังจะหมดไปและกำลังจะหาดูได้ยากขึ้นในอนาคตนั่นเองค่ะ 

วัดยานนาวายังมีสถาปัตยกรรม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอื่น ๆ ที่ควรค่าแก่การมาเยือนอย่าง รูปหล่อของพระเวสสันดรกับพระกัญหาชาลี หรือพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาว 3 ปางอีกด้วยค่ะ ขอกระซิบบอกว่า หลังจากที่เพื่อน ๆ กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ยังสามารถมาให้อาหารปลาริมแม่น้ำเจ้าพระยาต่อกันได้อีกด้วยนะคะ เรียกได้ว่ามาวัดนี้ได้ทั้งมู ได้ทั้งบรรยากาศเลยค่ะ

วัดยานนาวา เจริญกรุง กรุงเทพฯ

🚗การเดินทาง: BTS สะพานตากสิน (ออกทางออก 4) เดินต่อเพียง 270 ม. หรือจะนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงท่าสาทรก็ใกล้สุด ๆ

เวลาเปิดให้เข้าชม: วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 -17.00 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 08.00 - 18.00 น.

💰ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย

2. วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ, กรุงเทพ

วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

อีกหนึ่งวัดที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ก็คือ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญนั่นเองค่ะ เป็นอีกวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา วัดนี้ตั้งอยู่ริมคลองหลวง หรือ คลองบางกอกใหญ่ ในเขตภาษีเจริญ ฝั่งธนบุรี หนึ่งในไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คือพระพุทธธรรมกายเทพมงคล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิที่มีความสูงถึง 69 เมตร หรือเทียบเท่าได้กับตึกสูง 20 ชั้น สามารถมองเห็นองค์เหลืองทองอร่าม ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าจากระยะไกลได้เลยค่ะ 

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ต้องเข้าไปเมื่อมาถึงวัดปากน้ำ ก็คือการเข้าไปเยี่ยมชม พระมหาเจดีย์มหารัชมงคลซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์และล้านนา (ข้อมูลเพิ่มเติม: เว็บไซต์ทางการวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ) มีความสูงประมาณ 80 เมตร ด้านในจะแบ่งออกเป็น 5 ชั้น แต่ที่พลาดไม่ได้ก็จะเป็นชั้น 5 ที่มีเจดีย์แก้วจำลองแกะสลักด้วยมือบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ และมีภาพจิตรกรรมอันสวยสดงดงามบนเพดาน สวยตรึงตาตรึงใจ จนใคร ๆ ก็ต้องร้องว้าวแน่นอนค่ะ ส่วนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าไปเวียนเทียนที่วัดนี้ได้ เพราะทางวัดจะมีจัดกิจกรรมเวียนเทียนเป็นประจำในทุกวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาค่ะ 

วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

🚗การเดินทาง:

  • BTS ลงสถานีวุฒากาศ หรือตลาดพลู จากนั้นต่อวินมอเตอร์ไซค์/สองแถวเข้าวัด
  • MRT ลงสถานีบางไผ่ (ออกทางออก 1) เดินประมาณ 800 เมตร หรือเรียกวิน

เวลาเปิดให้เข้าชม: 08.00 - 18.00 น.

💰ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย

3. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, กรุงเทพ

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ

Source: https://th.wikipedia.org/

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ เรียกสั้น ๆ ว่าวัดระฆัง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดั่งมาอย่างยาวนาน วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา วัดระฆังเป็นวัดสวยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี ตามประวัติแล้ววัดนี้ได้ถูกขุดพบลูกระฆังที่มีเสียงไพเราะกังวานลูกหนึ่งขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 1 จึงได้ชื่อว่า วัดระฆัง นั่นเอง ผู้คนมักจะมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องชื่อเสียงที่วัดระฆัง ตามความเชื่อที่ว่าจะได้มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนกับเสียงระฆังนั่นเอง นอกจากนี้แล้วหลาย ๆ คนยังจะนิยมมาขอพรกับหลวงพ่อโตในวัดระฆัง ไม่ว่าจะด้านการศึกษา การงาน ความรัก หรือสุขภาพ โดยเชื่อว่าคำขอพรจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เป็นหนึ่งในวัดจุดเช็คอินของสายมูเลยค่ะ สายมูต้องมาเช็คอินกันหน่อยแล้ว!

🚗การเดินทาง:

  • MRT สนามไชย → ต่อเรือที่ท่าช้าง
  • นั่งเรือไปลงท่าเรือพรานนก (วังหลัง) เดินประมาณ 500 เมตร
  • รถเมล์ สาย 19, 25, 32, 44, 47, 53, 57, 82, 91, 123, 512
  • รถยนต์: มีลานจอด (ค่าบริการชั่วโมงละ ~20 บาท)

เวลาเปิดให้เข้าชม: 08.00 - 18.00 น.

💰ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย

4. วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง), กรุงเทพ

วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) กรุงเทพฯ

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่คนทั่วไปเรียกกันติดปากว่า “วัดแจ้ง” เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของกรุงเทพฯ และถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่งดงามที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา วัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับการบูรณะจนกลายเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกในสมัยรัตนโกสินทร์ ไฮไลต์ที่ทำให้วัดอรุณมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกคือพระปรางค์วัดอรุณ ที่สูงตระหง่านและประดับด้วยเครื่องถ้วยชามกระเบื้องลายครามอย่างวิจิตรตระการตา จนกลายเป็นภาพจำของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนกรุงเทพฯ ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องความรุ่งเรืองและความก้าวหน้าในชีวิต เพราะเชื่อว่าพระอาทิตย์อุทัยที่ส่องกระทบองค์พระปรางค์ยามเช้าเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นที่ดี นอกจากนี้ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา ที่นี่ก็จะมีการจัดพิธีเวียนเทียนที่อลังการ ผู้คนเดินถือดอกไม้–เทียน–ธูปรอบองค์พระปรางค์ที่สว่างไสวท่ามกลางความเงียบสงบของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้บรรยากาศงดงาม ศักดิ์สิทธิ์ และตราตรึงใจ

🚗การเดินทาง:

  • MRT สนามไชย → ต่อเรือที่ท่าเตียน
  • เรือ ลงท่าวัดอรุณได้เลย

เวลาเปิดให้เข้าชม: 08:00 – 18:00 น.
💰ค่าเข้าชม: คนไทยฟรี ชาวต่างชาติมีค่าเข้า 100 บาท

5. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์), กรุงเทพ

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) กรุงเทพฯ

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือที่คนไทยและนักท่องเที่ยวรู้จักกันดีในชื่อ “วัดโพธิ์” เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับการบูรณะจนรุ่งเรืองในสมัยรัชกาลที่ 1 วัดโพธิ์ถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนวัดโพธิ์ ขนาดใหญ่ที่งดงามตระการตา ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายสำคัญทั้งของพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากนี้ วัดโพธิ์ยังได้ชื่อว่าเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย” เนื่องจากมีจารึกตำราการแพทย์แผนไทยและนวดแผนโบราณที่องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกอีกด้วย (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ทางการวัดโพธิ์) ผู้คนมักนิยมมาขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว และประสบความสำเร็จในชีวิต ในวันมาฆบูชาหรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วัดโพธิ์จะเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งศรัทธา ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ท่ามกลางแสงเทียนสว่างไสวที่สะท้อนกับพระนอนอันสง่างาม ทำให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ทั้งขลังและน่าตราตรึงใจไปในคราวเดียวกัน

🚗การเดินทาง:

  • MRT สนามไชย เดินต่อประมาณ 500 เมตร
  • รถเมล์หลายสายผ่าน ถ.สนามไชย–ท่าเตียน
  • นั่งเรือด้วนเจ้าพระยาไปลงท่าเตียน และเดินต่อไปประมาณ 150 เมตร

เวลาเปิดให้เข้าชม: 08:00 – 19:30 น.

💰ค่าเข้าชม: คนไทยฟรี ชาวต่างชาติมีค่าเข้า 300 บาท

6. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร, เชียงใหม่

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เชียงใหม่

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร หรือที่คนไทยมักเรียกสั้น ๆ ว่า “ดอยสุเทพ” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและเต็มไปด้วยความศรัทธาของชาวล้านนา ตามตำนานเล่าว่า พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าได้ถูกอัญเชิญขึ้นมาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุที่ประดิษฐานอยู่บนยอดดอยสุเทพ ทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวต้องขึ้นไปสักการะสักครั้ง ไฮไลต์คือองค์เจดีย์ทองคำที่ส่องแสงงดงามตระการตา และบันไดนาคยาวกว่า 300 ขั้นที่นำทางสู่พระธาตุ ซึ่งเป็นเสมือนบททดสอบศรัทธาของผู้มาเยือน ทุกปีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา จะมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากขึ้นไปเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุ บรรยากาศยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงเทียนตัดกับวิวเมืองเชียงใหม่เบื้องล่างนั้น สวยงามจนยากจะลืม

🚗การเดินทาง: รถสองแถวดอยสุเทพ หรือเช่ารถ/แท็กซี่ขึ้นไป

เวลาเปิดให้เข้าชม: 05:00 – 20:00 น.

💰ค่าเข้าชม: เข้าฟรี แต่มีค่าบริการรถรางไฟฟ้าสำหรับขึ้น - ลง 20 บาทสำหรับคนไทย และ 50 บาทสำหรับคนต่างชาติ

7. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร, เชียงใหม่

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เชียงใหม่

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร หรือที่ชาวเชียงใหม่เรียกสั้น ๆ ว่า “วัดพระสิงห์” เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพญาผายู กษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายในยุคล้านนา และได้รับการยกย่องให้เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกประจำจังหวัดเชียงใหม่ จุดเด่นที่ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังคือพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารลายคำ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาแท้ อันวิจิตรงดงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดฝีมือศิลป์ของภาคเหนือ ผู้คนมักนิยมมาขอพรเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ และความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยเฉพาะในช่วงงานประเพณีปีใหม่เมืองหรือสงกรานต์ ที่จะมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ออกมาให้ประชาชนสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ ในวันมาฆบูชาและวันพระใหญ่ต่าง ๆ วัดพระสิงห์ยังเป็นจุดรวมของพุทธศาสนิกชนทั้งในเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว ที่มาร่วมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถท่ามกลางบรรยากาศอันสงบและงดงาม ถือเป็นวัดที่ใครมาเชียงใหม่แล้วไม่ควรพลาดสักการะและสัมผัสบรรยากาศศรัทธาอย่างแท้จริงค่ะ

🚗การเดินทาง: อยู่ใจกลางเมือง เดิน/ขี่จักรยานเที่ยววัดรอบคูเมืองได้

เวลาเปิดให้เข้าชม: 09:00 – 18:00 น.

💰ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

8. วัดใหญ่ชัยมงคล, อยุธยา

วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา

วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะในการทำศึกสงคราม วัดแห่งนี้จึงถือเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองและชัยชนะตามชื่อ ไฮไลต์สำคัญคือพระเจดีย์ชัยมงคล เจดีย์ขนาดใหญ่ที่สูงสง่างาม มองเห็นได้แต่ไกล และยังเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างต้องมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ภายในวัดยังมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่สีขาวสะอาดตา ที่ชาวพุทธนิยมมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ผู้คนมักมาขอพรที่นี่ในเรื่องความสำเร็จ การเอาชนะอุปสรรค และความเจริญก้าวหน้าในชีวิต นอกจากนี้ บรรยากาศของการเวียนเทียนในวันมาฆบูชา ณ วัดใหญ่ชัยมงคลก็สวยงามและศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะแสงเทียนจะส่องประกายล้อมรอบองค์เจดีย์ใหญ่ท่ามกลางโบราณสถานอันขลัง ทำให้ผู้ที่มาร่วมพิธีต่างรู้สึกถึงพลังศรัทธาและความสงบใจไปพร้อมกัน วัดแห่งนี้จึงไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นจุดเช็คอินสายบุญที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนอยุธยาค่ะ

🚗การเดินทาง: ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ หรือขึ้นรถไฟสายเหนือ–อีสาน ลงสถานีอยุธยา

เวลาเปิดให้เข้าชม: 08:00 – 17:00 น.

💰ค่าเข้าชม: คนไทยฟรี ชาวต่างชาติมีค่าเข้า 20 บาท

9. วัดพระธาตุพนม, นครพนม

วัดพระธาตุพนม นครพนม

วัดพระธาตุพนม เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวนครพนม และยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งภาคอีสานอีกด้วย วัดแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปี โดยเชื่อกันว่าองค์พระธาตุประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมเดินทางมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีวอก เพราะพระธาตุพนมถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดที่ให้พรเรื่องความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จในชีวิต ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือองค์พระธาตุสีขาว–ทองสูงตระหง่านที่งดงามอลังการจนมองเห็นได้แต่ไกล ในวันมาฆบูชาหรือวันพระใหญ่ ผู้คนจากทั้งใกล้และไกลจะหลั่งไหลมาร่วมเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุ บรรยากาศเต็มไปด้วยแสงเทียนและเสียงสวดมนต์ที่สงบขลัง ทำให้ผู้มาเยือนสัมผัสได้ถึงพลังศรัทธาอย่างแท้จริง

🚗การเดินทาง: สนามบินนครพนม ต่อรถโดยสาร/แท็กซี่

เวลาเปิดให้เข้าชม: 05:00 – 21:00 น.

💰ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม

10. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร, นครศรีธรรมราช

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกสั้น ๆ ว่า “วัดพระธาตุ” เป็นวัดคู่เมืองคอนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์และศรัทธาของชาวใต้ ภายในวัดประดิษฐาน พระบรมธาตุเจดีย์ องค์เจดีย์ทรงลังกาสูงตระหง่านที่เชื่อว่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธจากทั่วสารทิศ ไฮไลต์ของวัดนี้คือองค์เจดีย์สีขาวปลายทองที่มองเห็นได้แต่ไกล และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีเถาะ ผู้คนจึงนิยมมาขอพรเกี่ยวกับความก้าวหน้าในชีวิตและความเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว บรรยากาศการเวียนเทียนในวันมาฆบูชาที่นี่งดงามและศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะผู้ศรัทธาจะเดินเวียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ท่ามกลางแสงเทียนนับพันดวงที่ส่องสว่างยามค่ำคืน ทำให้ทั้งพื้นที่อบอวลไปด้วยความสงบและความศรัทธาอันแรงกล้า วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการทำบุญเสริมสิริมงคล และสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสรากเหง้าทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของภาคใต้ค่ะ

🚗การเดินทาง: บินลงนครศรีฯ แล้วต่อรถสองแถว/แท็กซี่

เวลาเปิดให้เข้าชม: 08:00 – 18:00 น.

💰ค่าเข้าชม: คนไทยฟรี ชาวต่างชาติมีค่าเข้า 50 บาท

วันมาฆบูชา 2569 นี้ ใครอยากทำบุญ รับแต้มบุญจุก ๆ บอกเลยว่ามีวัดสวย ๆ ทั่วไทยให้เลือกไปเวียนเทียนกันทั้งกรุงเทพฯ ภาคเหนือ อีสาน และใต้ นอกจากจะได้สวดมนต์ภาวนาแล้ว ยังได้บรรยากาศงดงามของคืนวันเพ็ญเดือน 3 อีกด้วย เตรียมตัวเลือกวัดที่อยากไป แล้วอย่าลืมหาโรงแรมดี ๆ ใกล้ ๆ ใน Trip.com เพื่อทริปบุญที่สมบูรณ์แบบกันนะคะ

บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ
ไหว้พระ 10 วัดในชลบุรี : ใกล้กรุงเทพฯ ที่ต้องแวะไปทำบุญ เสริมสิริมงคลให้ชีวิต
สำรวจวัดในชลบุรีที่มีความงดงามและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศิลปะที่น่าสนใจในจังหวัดนี้
3 ธันวาคม 2024
อัปเดตสดๆ! 10 วัดดังทั่วไทย 2568 ไหว้พระครบทั้งภาคเหนือ-ใต้ พร้อมเคล็ดลับขอพรตรงเป๊ะ
แนะนำ 10 วัดดังทั่วไทยในปี 2568 ไหว้พระเสริมสิริมงคล ครบทุกภาค พร้อมเคล็ดลับการขอพรให้สมหวังตรงตามที่ใจปรารถนา
28 กรกฎาคม 2025
15 วัดในระยองที่คุณต้องไปเยือน: สัมผัสความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนแห่งธรรม
สำรวจ 15 วัดสวยในระยองที่ต้องไปเยือน สัมผัสความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น
2 ธันวาคม 2024

คำถามที่พบบ่อย

  • ต้องใส่ชุดขาวหรือไม่?

    ไม่บังคับ แต่แนะนำแต่งสุภาพ โทนขาว เหมาะกับบรรยากาศพิธี
  • เวียนเทียนเริ่มกี่โมง?

    ส่วนใหญ่เริ่มหลังพระอาทิตย์ตก (หัวค่ำ) เวลาแตกต่างกันไปตามแต่ละวัด
  • เวียนเทียนต้องเดินกี่รอบ ทิศไหน?

    3 รอบ ตามเข็มนาฬิกา รอบพระอุโบสถ/พระวิหาร
  • ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง?

    ดอกไม้–ธูป–เทียน (บางวัดมีขาย), น้ำดื่ม, หน้ากาก/เจลล้างมือ และถุงเก็บขยะส่วนตัว
  • ถ่ายรูปได้ไหม?

    ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้แฟลชหรือเสียงรบกวน
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที