
ถ้าพูดถึงสถานที่เที่ยวในจีนที่ทำให้คนไทยตกหลุมรักได้ตั้งแต่แรกเห็น ต้องยกให้แม่น้ำหลีเจียงเลยแหละ ที่นี่ไม่ใช่แค่แม่น้ำธรรมดา แต่เป็นแม่น้ำที่โอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนทรงแปลกตา ทุ่งนาสีเขียว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด การมาเที่ยวแม่น้ำหลีเจียงไม่ได้มีแค่ล่องเรือชมวิวเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสชีวิตคนท้องถิ่นแบบเรียบง่าย พายเรือไม้ไผ่ นั่งพักชมวิถีชีวิตที่ไม่รีบเร่ง และถ่ายรูปวิวสว ๆ แบบที่ไม่ต้องแต่งเติมเพิ่ม ถ้าใครกำลังวางแผนไปจีนปีนี้ แนะนำว่าควรใส่แม่น้ำหลีเจียงไว้ในลิสต์ทริปเลย Trip.com จะพาไปรู้จักทุกแง่มุม ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เหมาะสม วิธีเดินทาง ไฮไลท์ล่องเรือ กิจกรรมรอบๆ อาหารอร่อย ที่พัก และแผนเที่ยวแบบจัดเต็ม จะมีอะไรกันบ้างไปดูกัน!
ทำไมแม่น้ำหลีเจียงถึงเป็นสวรรค์บนดินที่คนไทยต้องไปสักครั้ง?

ความงดงามของภูเขาหินปูนและสายน้ำที่เหมือนภาพวาด
สิ่งแรกที่ทำให้ใครๆ ต้องหลงรักแม่น้ำหลีเจียง คือวิวภูเขาหินปูนทรงแปลกตาที่เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำ สีเขียวของต้นไม้สะท้อนลงน้ำใส ทำให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในภาพวาดจริงๆ แนะนำให้ไปช่วงเช้าหรือบ่ายแก่ๆ เพราะแสงธรรมชาติจะส่องลงน้ำ ทำให้เงาสะท้อนภูเขาสวยมาก ถ้าใครชอบถ่ายรูป รับรองได้ภาพสวยๆ อย่างแน่นอน
สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เรียบง่าย
นอกจากวิวสวยแล้ว สิ่งที่ทำให้ทริปแม่น้ำหลีเจียงพิเศษคือการได้สัมผัสชีวิตท้องถิ่น คุณจะเห็นชาวบ้านพายแพไม้ไผ่จับปลา ปลูกข้าว และใช้ชีวิตเรียบง่ายตามแนวแม่น้ำ มีตลาดเล็กๆ ขายของสดหรือผลไม้ตามฤดูกาล ทำให้เราเห็นวิถีชีวิตแบบช้าๆ ที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวแม่น้ำหลีเจียง

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม)
ช่วงนี้ถือว่าเป็นเวลาที่หลายคนแนะนำ เพราะอากาศกำลังดี ไม่ร้อนเกินไป และต้นไม้เริ่มเขียวสดใส ทำให้ภูเขาหินปูนและทุ่งนาสีเขียวสะท้อนในน้ำชัดเจน บรรยากาศโดยรอบสวยและสดชื่น เหมาะกับการนั่งเรือชมวิว หรือเดินเล่นในหมู่บ้านริมฝั่งแม่น้ำ พร้อมถ่ายรูปเก็บภาพวิวสวยๆ
ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม)
หน้าร้อนที่แม่น้ำหลีเจียง ใบไม้และทุ่งนาจะเขียวชอุ่มสุดๆ แต่ก็ต้องระวังเรื่องฝน เพราะอาจมีฝนตกบ้างเป็นช่วงๆ ข้อดีคือถ้าฟ้าเปิด วิวสวยสดใส แสงสีของภูเขาสะท้อนน้ำดูสวยมาก นักท่องเที่ยวบางส่วนอาจเยอะ แต่ถ้าเลือกเรือดีๆ ก็ยังนั่งชมวิวสบาย
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน)
ถือเป็นช่วงทองของแม่น้ำหลีเจียงเลยก็ว่าได้ อากาศเย็นกำลังดี ฟ้าแจ่มใส น้ำใสสะท้อนภูเขาได้อย่างคมชัด และนักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลง ทำให้คุณสามารถนั่งเรือหรือเดินเล่นแบบชิลล์ๆ ถ่ายรูปได้เต็มที่ บรรยากาศเหมาะกับคนที่อยากได้วิวแบบเต็มอิ่ม
ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)
หน้าหนาวที่นี่ค่อนข้างสงบ นักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อย เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวแบบเงียบๆ ฟีลผ่อนคลาย แม้อากาศจะเย็น แต่หมอกบางๆ ยามเช้าสร้างบรรยากาศแบบเทพนิยาย เหมาะกับการมาถ่ายรูปวิวแบบมีหมอกลอยเหนือแม่น้ำ
- เที่ยวเดียว
- ไป-กลับ
- direct cheapest
BKK15:452 ชม. 40 น.บินตรงLJG19:25กรุงเทพ - ลี่เจียง|พฤ. 11 ธ.ค.|หยุยลี่แอร์ไลน์(Ruili Airlines)INR 10,145INR 14,511ลด 30%ลด 30%INR 14,511INR 10,145
BKK15:452 ชม. 40 น.บินตรงLJG19:25กรุงเทพ - ลี่เจียง|อ. 9 ธ.ค.|หยุยลี่แอร์ไลน์(Ruili Airlines)INR 10,157INR 14,511ลด 30%ลด 30%INR 14,511INR 10,157
BKK13:5519 ชม. 15 น.แวะพัก 1 จุดLJG10:10กรุงเทพ - ลี่เจียง|พ. 7 ม.ค.|ไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์INR 9,431INR 14,511ลด 35%ลด 35%INR 14,511INR 9,431
BKK1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงLJG2:00 PMกรุงเทพ - ลี่เจียง|Tue, Dec 16|หยุยลี่แอร์ไลน์(Ruili Airlines)ค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติมค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติม
ราคาที่แสดงคำนวณจากราคาตั๋วในเส้นทางเดียวกันโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์บน Trip.com
การเดินทางไปแม่น้ำหลีเจียง

จากสนามบินสู่ตัวเมืองกุ้ยหลิน
การมาเที่ยวแม่น้ำหลีเจียงส่วนใหญ่เริ่มจากสนามบินกุ้ยหลิน (Guilin Liangjiang International Airport) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของเมือง มีเที่ยวบินตรงจากหลายเมืองใหญ่ในจีน รวมถึงเมืองท่องเที่ยวต่างประเทศด้วย เมื่อออกจากสนามบิน คุณสามารถนั่ง รถบัสสนามบิน เข้าเมืองได้ประมาณ 40 - 50 นาที หรือจะเลือกแท็กซี่สะดวกกว่า แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่ารถบัสเล็กน้อย การมาเช้าๆ หรือบ่ายๆ จะช่วยเลี่ยงช่วงคนเยอะ ทำให้เดินทางสบาย
จากกุ้ยหลินไปท่าเรือเพื่อล่องแม่น้ำหลี
เมื่อถึงตัวเมืองกุ้ยหลิน จุดต่อไปคือท่าเรือสำหรับล่องแม่น้ำหลีเจียง ซึ่งมีหลายท่าให้เลือก ขึ้นอยู่กับประเภทเรือและเส้นทางที่คุณอยากไป เช่น Mopanshan Pier หรือ Zhujiang Dock สำหรับล่องเรือแบบ Cruise ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ส่วนใครชอบใกล้ชิดธรรมชาติ ลองเลือกแพไม้ไผ่ในเส้นทางสั้นๆ เช่น Yangdi - Xingping ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
ไฮไลท์สำคัญ! ล่องเรือแม่น้ำหลีเจียง

เรือใหญ่ vs แพไม้ไผ่
การล่องแม่น้ำหลีเจียง มีให้เลือกหลักๆ สองแบบ เริ่มจากเรือใหญ่ เหมาะกับคนที่อยากนั่งสบาย มีห้องน้ำและคาเฟ่บนเรือ วิวสองข้างทางก็สวยไม่แพ้กัน ใช้เวลาล่องประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง แต่ถ้าชอบความใกล้ชิดธรรมชาติและอยากสัมผัสน้ำแบบเบาๆ แนะนำแพไม้ไผ่ ล่องแบบนี้อารมณ์จะชิลมาก ใช้เวลาประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง เหมาะกับสายถ่ายรูปหรืออยากสัมผัสสายลมและน้ำแบบเต็มๆ
ราคาเท่าไหร่? เลือกล่องเรือแบบไหนดี
- เรือใหญ่ (Cruise) ประมาณ 400 - 600 หยวน/คน (~2,400 - 3,600 บาท)
- แพไม้ไผ่ (Bamboo Raft) ประมาณ 150 - 200 หยวน/คน (~900 - 1,200 บาท)
ถ้าเน้นสะดวกสบายและวิวรอบตัวแนะนำ Cruise แต่ถ้าอยากใกล้ชิดธรรมชาติและถ่ายรูปเก๋ๆ Bamboo Raft ตอบโจทย์มาก
จุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดระหว่างทาง
มีหลายจุดไฮไลท์ตลอดแม่น้ำ เช่น Nine-Horse Fresco Hill, Yellow Cloth Shoal, และ เส้นทาง Yangdi - Xingping ที่วิวภูเขาสะท้อนน้ำสวยจนเหมือนอยู่ในโปสการ์ด นอกจากนี้เรือใหญ่จะมีชั้นดาดฟ้าให้ขึ้นไปถ่ายรูปแบบพาโนรามา ส่วนแพไม้ไผ่ก็ได้ฟีลใกล้ชิดน้ำ ลมพัดเย็นๆ พร้อมวิวแบบเต็มตา
คุณสมบัติ | เรือใหญ่ (Cruise) | แพไม้ไผ่ (Bamboo Raft) |
ระยะเวลา | 4 - 5 ชั่วโมง | 1.5 - 2 ชั่วโมง |
ราคาโดยประมาณ (บาท) | 2,400 - 3,600 บาท/คน | 900 - 1,200 บาท/คน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | ห้องน้ำ, คาเฟ่, พื้นที่นั่งสบาย, ชั้นดาดฟ้าถ่ายรูป | ใกล้ชิดน้ำ, พื้นที่จำกัด, ไม่มีห้องน้ำ, ไม่มีร้านอาหาร |
ข้อดี | นั่งสบาย ชมวิวรอบตัวได้ชิลๆ เหมาะกับคนทุกวัย, วิวพาโนรามา | ใกล้ชิดธรรมชาติสุด ๆ สัมผัสสายลมและน้ำ, ถ่ายรูปมุมเก๋ๆ |
ข้อควรระวัง | ราคาสูงกว่า, ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาอาจคนเยอะ | พื้นที่จำกัด, อากาศและน้ำขึ้น-ลงมีผลต่อความสบาย, ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก |
กิจกรรมห้ามพลาดและที่เที่ยวรอบ ๆ แม่น้ำหลีเจียง

เมืองโบราณซิงผิง (Xingping Ancient Town)
ถ้ามาแม่น้ำหลีเจียง แล้วไม่แวะซิงผิงถือว่าพลาด เพราะเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบจีนโบราณ ตึกไม้เล็กๆ ถนนหิน และร้านค้าท้องถิ่นทำให้เดินเล่นได้เพลินๆ แนะนำให้มาช่วงเช้า จะได้วิวภูเขาสะท้อนน้ำแบบสวยสุดๆ และถ่ายรูปเก็บบรรยากาศย้อนยุค
เดินเล่นถนนฝรั่ง (West Street) ที่หยางซั่ว (Yangshuo)
West Street เป็นถนนคนเดินเก่าแก่ที่นักท่องเที่ยวต้องมา เดินชิลล์ๆ ชมร้านค้า ร้านกาแฟ และของที่ระลึก บรรยากาศคึกคักแต่ยังคงความคลาสสิก ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นให้ชิมอาหารพื้นเมือง เช่น บะหมี่เสฉวน หรือของว่างจีนเล็กๆ
ชมโชว์ Impression Sanjie Liu กำกับโดยจางอี้โหมว
สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมสุดพิเศษ โชว์ Impression Sanjie Liu คือไฮไลท์ไม่ใช่แค่การแสดงแสงสี แต่เป็นโชว์กลางแม่น้ำจริงๆ มีภูเขาและน้ำเป็นฉากหลัง กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง จางอี้โหมว รับรองว่าไม่เคยเห็นที่ไหนแบบนี้มาก่อน
ปั่นจักรยานชมทิวทัศน์ชนบทหยางซั่ว
อีกกิจกรรมที่แนะนำคือปั่นจักรยานรอบหยางซั่ว เส้นทางชนบทเต็มไปด้วยทุ่งนา แม่น้ำเล็กๆ และหมู่บ้านท้องถิ่น เป็นวิธีสนุกๆ ในการชมธรรมชาติแบบชิลล์ๆ พร้อมกับได้ออกกำลังกายเบาๆ แถมยังมีมุมถ่ายรูปธรรมชาติสวยๆ ตลอดเส้นทาง
แนะนำ 5 เมนูเด็ดเมืองกุ้ยหลินที่ต้องลอง!

กุ้ยหลินหมี่เส้นข้าว (Guilin Rice Noodles)
เมนูนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของกุ้ยหลิน เส้นข้าวนุ่มๆ น้ำซุปกลมกล่อม โรยด้วยเครื่องเคียงอย่างเนื้อหมูหรือผักดอง ใครชอบรสเผ็ดสามารถเติมพริกตามชอบ ตอนเช้าๆ มานั่งกินที่ร้านท้องถิ่น รับรองอิ่มและฟีลจีนแท้ๆ
ไก่หยวนหยาง (Yangshuo Beer Chicken)
ไก่เนื้อนุ่ม หมักกับเครื่องเทศท้องถิ่น แล้วอบด้วยเบียร์ท้องถิ่น รสชาติหอมเครื่องเทศ มีความหวานนิดๆ และน้ำซอสเข้มข้น เหมาะกับมื้อเย็นหลังจากเที่ยวล่องแม่น้ำหลีเจียง
หม้อไฟเสฉวน (Sichuan Hotpot)
กุ้ยหลินอยู่ใกล้เสฉวน เลยไม่พลาดหม้อไฟเสฉวน เผ็ดจัดจ้านแบบต้นตำรับ สามารถเลือกเนื้อสัตว์ ผัก และเต้าหู้ใส่หม้อ น้ำซุปหอมเครื่องเทศ ทานคู่กับข้าวสวยหรือเส้นข้าวก็เข้ากัน
เกี๊ยวน้ำหลีเจียง (Li River Dumplings)
เกี๊ยวสดๆ แป้งบาง ไส้แน่น มีทั้งหมูและผัก ช่วงเที่ยงๆ เหมาะกับแวะกินร้านริมถนน กินคู่ซอสพริกหรือซอสถั่ว จะได้รสชาติแบบท้องถิ่นแท้ๆ
ปลานึ่งแม่น้ำหลีเจียง
อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดคือปลานึ่งแม่น้ำหลีเจียง ใช้ปลาสดจากแม่น้ำ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศจีนและสมุนไพร หอม สด รสชาติกลมกล่อม กินคู่ข้าวสวยร้อนๆ ฟีลเหมือนได้ชิลริมน้ำ
แนะนำที่พักวิวแม่น้ำหลีเจียง

Yunxuan Lijiang Resort
ที่นี่เหมาะกับคนที่อยากตื่นมาพร้อมวิวแม่น้ำหลีเจียงแบบเต็มตา ห้องพักตกแต่งสไตล์จีนร่วมสมัย มีระเบียงส่วนตัวให้ชมวิวภูเขาหินปูนและสายน้ำได้สบายๆ รีสอร์ทมีสระว่ายน้ำและร้านอาหารในตัว สะดวกสำหรับคนที่อยากพักแบบผ่อนคลายทั้งวัน
Lijiang Chaoran Garden Villa
ใครชอบบรรยากาศเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ แนะนำ Chaoran Garden Villa บ้านพักแบบวิลล่า มีสวนสวยและระเบียงให้นั่งชมวิวแม่น้ำ น้ำใสสะท้อนภูเขา เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบชิลล์ๆ แถมใกล้จุดขึ้นเรือสำหรับล่องแม่น้ำด้วย
Huamushe Inn
สายประหยัดแต่ยังอยากได้วิวแม่น้ำ แนะนำ Huamushe Inn ที่พักแบบเกสต์เฮาส์แต่มีวิวแม่น้ำสวย ห้องพักสะอาด กว้างพอสมควร และมีระเบียงให้นั่งชมพระอาทิตย์ตก บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านคนท้องถิ่น แต่ยังสะดวกสบายและราคาเข้าถึงง่าย
แผนการเดินทางตัวอย่าง 4 วัน 3 คืน สำหรับทริปแม่น้ำหลีเจียง

วันแรก : เดินทางถึงกุ้ยหลิน - พักผ่อนชมเมือง
หลังจากลงสนามบินกุ้ยหลิน แนะนำให้เข้าที่พักและพักผ่อนเล็กน้อย ช่วงเย็นสามารถเดินเล่น ถนนเมืองเก่ากุ้ยหลิน ชิมอาหารท้องถิ่น เช่น กุ้ยหลินหมี่เส้นข้าว และชมวิวแม่น้ำลี่เจียงยามเย็น
วันที่สอง : ล่องเรือแม่น้ำหลีเจียง - เมืองโบราณซิงผิง
ตื่นเช้าเพื่อขึ้น เรือ Cruise หรือ Bamboo Raft ล่องแม่น้ำหลีเจียง ชมภูเขาหินปูนสะท้อนน้ำ จุดไฮไลท์ เช่น Nine-Horse Fresco Hill และ Yellow Cloth Shoal หลังจากนั้นแวะ เมืองโบราณซิงผิง เดินเล่นชมบ้านไม้ ถนนหิน และถ่ายรูปบรรยากาศย้อนยุค
วันที่สาม : หยางซั่ว - West Street - โชว์ Impression Sanjie Liu
วันนี้เน้นกิจกรรมในหยางซั่ว เริ่มจากปั่นจักรยานรอบชนบท ชมทุ่งนาและแม่น้ำเล็กๆ ต่อด้วยเดินเล่น West Street กินอาหารท้องถิ่นบ่ายแก่ๆ ปิดท้ายด้วยชม โชว์ Impression Sanjie Liu กลางแม่น้ำ รับรองว่าบรรยากาศอลังการและประทับใจ
วันที่สี่ : ช้อปปิ้งของฝาก - เดินทางกลับ
วันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ สามารถแวะตลาดท้องถิ่นซื้อของฝาก เช่น ผลไม้แห้ง สมุนไพรจีน หรือของที่ระลึก หลังจากนั้นเดินทางกลับ สนามบินกุ้ยหลิน จบทริปแบบสบายๆ
รายการ | ค่าใช้จ่าย (บาท) |
ตั๋วเครื่องบิน | 6,000 - 8,000 |
ที่พัก (3 คืน) | 4,500 - 6,000 |
ค่าเดินทาง (รถบัส, แท็กซี่, เรือ) | 1,200 - 1,800 |
ค่าอาหาร | 1,500 - 2,000 |
ค่าเข้าชม/ทัวร์ (ล่องเรือ, โชว์, สถานที่ท่องเที่ยว) | 2,000 - 3,000 |
อื่นๆ (ของฝาก, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว) | 1,000 - 1,500 |
รวม | 16,200 - 22,300 |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแม่น้ำหลีเจียง
ไปเที่ยวกุ้ยหลิน-แม่น้ำหลี ต้องขอวีซ่าจีนหรือไม่?
ไม่ต้องขอวีซ่าจีน หากพำนักไม่เกิน 30 วันไปเที่ยวจีน ควรแลกเงินหยวนไปเท่าไหร่?
แลกเงินสดหยวนอย่างน้อย 1,000-2,000 หยวน (5,000-10,000 บาท)พูดภาษาจีนไม่ได้ เที่ยวเองลำบากไหม?
อาจจะลำบากบ้าง แต่ทำได้ หากเตรียมตัวและใช้เครื่องมือที่เหมาะสม


