อัปเดตล่าสุด! 15 ที่เที่ยวหางโจว 2568 สวยเหมือนสวรรค์บนดิน

หางโจว คือ เมืองที่จีนมักโปรโมตว่าเป็น “สวรรค์บนดิน” ฟังดูเว่อร์แต่ถ้าได้ไปจริง ๆ จะเข้าใจทันทีว่าทำไมถึงพูดกันแบบนั้น เมืองนี้ไม่ต้องพยายามมากแต่กลับมี ที่เที่ยวหางโจว 2568ทุกอย่างครบในที่เดียว ทั้งทะเลสาบที่สวยจริงแบบไม่ต้องแต่งฟิลเตอร์ คาเฟ่ดีไซน์สวยที่ซ่อนอยู่ตามซอย ไปจนถึงหมู่บ้านชาที่มีกลิ่นชาอ่อน ๆ ลอยมาตามลม แถมเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่เทคโนโลยีสุดล้ำของ Alibaba อยู่ร่วมกับตำนานพันปีได้อย่างลงตัว แค่ไม่กี่ก้าวจากตึกกระจกก็ถึงวัดเก่าในหุบเขา หรือจากรถไฟใต้ดินก็ก้าวสู่ไร่ชาหลงจิ่ง ทุกอย่างเกิดขึ้นในเมืองเดียว

ล่าสุดนี้ หางโจวได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเยอะขึ้นมาก เพราะคนเริ่มอยากเที่ยวเมืองจีนที่เดินง่าย ไม่วุ่นวายเหมือนปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ แต่ยังมี vibe เมืองใหญ่ให้เดินเล่นทั้งวันได้ไม่เบื่อ ถ้าอยากได้ทริปที่มีทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และ ความชิลล์ในแบบที่ยังจัดได้ว่ามีเทสสุด ๆ เมืองนี้คือคำตอบที่คุณต้องจัดกระเป๋ามาแบบด่วน ๆ และสิ่งที่จะทำให้ทริปนี้สมบูรณ์แบบกว่าที่เคย คือการจองทุกอย่างผ่าน Trip.com ที่รวมทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และ ตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ของเมืองนี้เอาไว้ครบในที่เดียว บอกลยว่าการเที่ยวจีนของคุณจะง่ายขึ้นเยอะ

ทำไมต้องไปเที่ยวหางโจว? เมืองสวรรค์บนดินที่ใครๆ ก็หลงรัก

หางโจว คือ เมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง อยู่ทางตะวันออกของจีน เดินทางด้วยโดยรถไฟความเร็วสูงจากเซี่ยงไฮ้เพียง 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น เมืองนี้จึงเป็นปลายทางที่ได้รับความนิยมทั้งจากคนจีน และ นักเดินทางทั่วโลก ด้วยความผสมระหว่างธรรมชาติ และ เทคโนโลยี เมืองนี้เลยถูกยกให้เป็น “เมืองอนาคตที่ยังคงเสน่ห์ของอดีต” ที่มีทั้งวัดเก่าแก่หลายร้อยปี ทะเลสาบกว้างสุดสายตา และ ศูนย์กลางของ Alibaba ที่ทำให้เมืองนี้ดูเหมือนไม่เคยหลับไหล นอกจากนี้ยังมีทั้งคอนเสิร์ตกลางแจ้ง และ งานศิลปะในสวนพฤกษศาสตร์ ใครอยากสัมผัสบรรยากาศจีนแบบคลาสสิกแต่ไม่โบราณ ที่เที่ยวหางโจว 2568 คือ จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด

แนะนำ 15 ที่เที่ยวหางโจวที่ไม่ควรพลาด (อัปเดต 2568)

1. ทะเลสาบซีหู (West Lake) | มรดกโลกใจกลางเมือง

ทะเลสาบซีหูคือหัวใจของเมืองนี้จริง ๆ เป็นภาพจำของหางโจวที่สวยแบบไม่ต้องปรุงแต่ง และยังเป็นมรดกโลกที่คนจีนภูมิใจมาก (ดูรายละเอียดมรดกโลกที่นี่) ความดีงามคือมันอยู่ใจกลางเมืองแต่กลับมีความสงบแบบสวนธรรมชาติ รอบทะเลสาบเต็มไปด้วยสะพานเก่า ต้นหลิว และเจดีย์ที่เห็นเงาสะท้อนในน้ำ สิ่งที่ควรทำคือการล่องเรือช่วงเย็นตอนพระอาทิตย์ตก หรือจะปั่นจักรยานรอบทะเลสาบก็ได้ บรรยากาศดีสุดโดยเฉพาะฝั่งเจดีย์เหลยเฟิงที่มองย้อนกลับมาเห็นตัวเมืองทั้งแนว ข้างทางมีร้านกาแฟเล็ก ๆ กับศิลปินมาวาดภาพขายให้ดูเพลินมาก

• ไฮไลต์: ล่องเรือยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกเหนือเจดีย์เหลยเฟิง
• ค่าเข้าชม: ฟรี (ค่าเรือประมาณ 70 หยวน / 350 บาท)
• เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน
• การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานี Longxiangqiao แล้วเดินต่อ 10 นาที

เคล็ดลับ: ตอนเย็นคือช่วงที่ทะเลสาบซีหูสวยที่สุด และถ้าอยากได้ภาพสะท้อนแสงสุดโรแมนติก ให้มุมสะพาน Broken Bridge คือจุดที่ห้ามพลาด

2. วัดหลิงอิ่น (Lingyin Temple) | วัดโบราณอันเงียบสงบในหุบเขา

หนึ่งในวัดที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของหางโจว อยู่ท่ามกลางป่าในเขต Xihu ที่มีต้นไม้สูงเรียงรายสองข้างทางและเสียงน้ำไหลจากลำธาร วัดนี้มีอายุกว่า 1,600 ปี และ เป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวหางโจว 2568 ที่ไม่ควรข้ามถ้าชอบความสงบแบบมีพลัง ด้านในมีพระพุทธรูปหินแกะสลักเรียงรายตลอดหน้าผา และกลิ่นธูปที่โชยเบา ๆ ตั้งแต่ก้าวเข้าประตู มันให้ความรู้สึกทั้งเก่าและสงบในแบบที่เมืองใหญ่หายาก

• ไฮไลต์: จุดธูปขอพรใต้ต้นสนอายุพันปี
• ค่าเข้าชม: 45 หยวน (ประมาณ 230 บาท)
• เวลาเปิด-ปิด: 07.30 – 18.00 น.
• การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานี Fengqi Road แล้วต่อแท็กซี่ 15 นาที

3. ถนนโบราณเหอฝั่งเจีย (Hefang Street) | ช้อปปิ้งและชิมของอร่อย

หมู่บ้านนี้คือที่มาของชาเขียวหลงจิ่งที่คนทั่วโลกรู้จัก และมันไม่ได้เป็นแค่แหล่งผลิตชา แถมยังเป็นที่เที่ยวที่รวมมีทั้งวิวสวย ๆ ภูเขา และ วัฒนธรรมชาวบ้านเข้าด้วยกันแบบลงตัวสุด ๆ ถ้าอยากรู้ว่าชาหอมขนาดไหนต้องไปดูตอนชาวบ้านคั่วชาในกระทะทองแดงด้วยมือ กลิ่นชาลอยมาตามลมทั้งหมู่บ้าน มีคาเฟ่โลคัลให้ลองดื่ม “หลงจิ่งฤดูใบไม้ผลิ” ที่เก็บใหม่ ๆ พร้อมวิวหุบเขาเต็มตา

• ไฮไลต์: ขนมโบราณ “ถั่วเคลือบน้ำผึ้ง” และเครื่องประดับเงิน
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เวลาเปิด-ปิด: 09.00 – 22.00 น.
• การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 1 สถานี Ding’an Road

4. หมู่บ้านชาหลงจิ่ง (Longjing Tea Village) | จิบชาชั้นเลิศท่ามกลางไร่ชา

• ไฮไลต์: ชิมชาแท้จากไร่ พร้อมชมวิวหุบเขา
• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เวลาเปิด-ปิด: 08.00 – 17.00 น.
• การเดินทาง: จาก West Lake นั่งแท็กซี่เพียง 20 นาที

5. เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) | ชมวิวทะเลสาบซีหูแบบพาโนรามา

เจดีย์เหลยเฟิงคือแลนด์มาร์กที่ต้องขึ้น เพราะจากด้านบนสามารถมองเห็นทะเลสาบซีหูและเมืองทั้งเมืองได้แบบพาโนรามา ตัวเจดีย์สูงห้าชั้นสร้างใหม่ทับซากของเจดีย์เก่าที่มีตำนาน “นางพญางูขาว” อันโด่งดัง ตอนขึ้นไปบนชั้นบนสุด ลมพัดแรงและวิวสวยจนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้น เป็นจุดที่เหมาะกับการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่สุดแห่งหนึ่งในหางโจว

• ไฮไลต์: ขึ้นลิฟต์กระจกไปยังชั้นบนสุด
• ค่าเข้าชม: 40 หยวน (200 บาท)
• เวลาเปิด-ปิด: 08.00 – 20.00 น.
• การเดินทาง: เดินจากท่าเรือ West Lake เพียง 5 นาที

6. การแสดง Impression West Lake | โชว์สุดอลังการบนผืนน้ำ

นี่คือโชว์ที่ใช้ทะเลสาบซีหูเป็นเวทีจริง ๆ กำกับโดย “จางอี้โหมว” ผู้กำกับโอลิมปิกปักกิ่ง ชุดการแสดงผสมแสง สี เสียง และการเต้นบนผืนน้ำ ถ่ายทอดตำนานรักของหางโจวได้สวยจนคนดูขนลุก เป็น ที่เที่ยวหางโจว 2568 ที่ไม่ควรพลาดและลสิต์เอาไว้ในแพลนเที่ยว เพราะประสบการณ์นี้หาไม่ได้จากที่อื่น จองตั๋วผ่าน Trip.com ได้เลย ราคามักถูกกว่าและไม่ต้องต่อคิวยาว ๆ เพราะตั๋วมักเต็มเร็วช่วงสุดสัปดาห์

• ไฮไลต์: การแสดงกลางน้ำพร้อมเอฟเฟกต์ไฟ
• ค่าเข้าชม: เริ่มต้น 260 หยวน (ประมาณ 1,300 บาท)
• เวลา: 19.30 – 21.00 น.
• การเดินทาง: ใกล้จุดตะวันตกของทะเลสาบซีหู

7. สวนพฤกษศาสตร์หางโจว (Hangzhou Botanical Garden) | สูดอากาศบริสุทธิ์

สวนนี้เหมือนปอดของหางโจว เต็มไปด้วยดอกไม้ตามฤดูกาล ต้นไม้ใหญ่ และบ่อบัว เหมาะกับคนที่อยากพักจากความวุ่นวายและหามุมสงบในเมืองใหญ่ มาที่นี่แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเมืองนี้ถึงขึ้นชื่อเรื่อง “เมืองสีเขียวที่สุดในจีน” ช่วงเดือนมีนาคม–เมษายน ดอกซากุระจะบานเต็มทางเดิน ส่วนฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนเป็นสีทองสวยมาก ถ้าอยากได้ฟีล picnic ก็ซื้อชา Longjing มานั่งจิบใต้ต้นไม้ได้เลย

• ไฮไลต์: ถ่ายรูปกับทิวซากุระช่วงเดือนมีนาคม
• ค่าเข้าชม: 10 หยวน (50 บาท)
• เวลาเปิด-ปิด: 07.00 – 18.00 น.
• การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 2 สถานี Xihu Tiandi

8. พื้นที่ชุ่มน้ำซีซี (Xixi National Wetland Park) | ธรรมชาติใจกลางเมืองใหญ่

ถ้าเบื่อเมืองที่มีแต่ตึก หางโจวยังมี “พื้นที่ชุ่มน้ำซีซี” ให้หนีไปชาร์จแบตได้แบบไม่ต้องออกนอกเมือง ที่นี่คือระบบนิเวศธรรมชาติที่ยังคงอยู่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน พื้นที่กว่า 10 ตารางกิโลเมตรเต็มไปด้วยคลองเล็ก ๆ บ้านไม้เก่า และต้นไผ่เรียงราย เหมือนหลุดเข้าไปในฉากหนังพีเรียดจีนแต่ยังรู้สึกได้ว่ามันคือของจริง สิ่งที่ควรทำคือการล่องเรือไม้ชมวิวรอบบึง ดูฝูงนกน้ำบินข้ามหัว และนั่งพักตามศาลาไม้กลางน้ำ บรรยากาศเงียบแต่มีเสียงธรรมชาติแทนทุกอย่าง เป็นอีกมุมของ ที่เที่ยวหางโจว 2568 ที่แตกต่างจากความวุ่นวายของซีหูโดยสิ้นเชิง

• ไฮไลต์: ล่องเรือชมบึง
• ค่าเข้าชม: 80 หยวน (400 บาท)
• เวลาเปิด-ปิด: 08.00 – 17.30 น.
• การเดินทาง: สถานี Xixi Wetland ทางออก C

9. วัดจิ้งฉือ (Jingci Temple) | ชมระฆังยามเย็นแห่งหนานผิง

ถ้าซีหูคือความสวย วัดจิ้งฉือคือความสงบ วัดเก่าแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบซีหูและเป็นที่รู้จักในบทกวี “ระฆังยามเย็นแห่งหนานผิง” ที่เลื่องชื่อมานับพันปี แค่เดินเข้าวัดก็ได้กลิ่นธูปจาง ๆ และเสียงระฆังโลหะก้องกังวานเบา ๆ มันคือพลังที่ทำให้ใจเย็นลงได้จริง ที่นี่เป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวหางโจว 2568 ที่คนโลคัลยังมาไหว้ขอพร และเป็นมุมที่เหมาะจะพักระหว่างเดินรอบซีหู ถ่ายรูปได้วิวเจดีย์เหลยเฟิงอยู่ไกล ๆ ยิ่งช่วงเย็น พระอาทิตย์ตกตรงทะเลสาบมาพอดี

• ไฮไลต์: พิธีตีระฆัง 108 ครั้งในวันสิ้นปี
• ค่าเข้าชม: 10 หยวน (50 บาท)
• เวลาเปิด-ปิด: 07.30 – 17.30 น.
• การเดินทาง: เดินจากท่าเรือ West Lake 10 นาที

10. เมืองโบราณถังซี (Tangqi Ancient Town) | สัมผัสวิถีชีวิตริมคลอง

TTangqi คือเมืองเก่าริมน้ำที่ยังมีคนอาศัยอยู่จริง บ้านไม้เรียงติดกันตามคลองเก่า และมีสะพานหินโค้งที่คนท้องถิ่นใช้ข้ามทุกวัน ไม่ใช่แค่จุดถ่ายรูป แต่คือชีวิตจริงของผู้คน คุณจะได้ยินเสียงคนตากผ้า กลิ่นอาหารพื้นบ้าน และเสียงเรือไม้พายผ่านอย่างช้า ๆ การมา Tangqi จึงไม่ใช่แค่ “ดูเมืองโบราณ” แต่คือการดูว่า “วิถีแบบจีนเก่า” ยังหายใจอยู่ได้ยังไงในยุคใหม่ เป็นอีกมุมของ ที่เที่ยวหางโจว 2568 ที่คนจีนยังภูมิใจและอยากให้คนนอกเห็น

• ไฮไลต์: ล่องเรือคลองเล็ก / ตลาดเช้า / ร้านขนมจีนดั้งเดิม
  ค่าเข้า: ฟรี (นั่งเรือมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย)
  เวลาเปิด: ตลอดวัน (ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 09.00–18.00)
  การเดินทาง: รถบัสK350 จากตัวเมือง หรือ แท็กซี่จากตัวเมืองประมาณ 40 นาที

11. พิพิธภัณฑ์ชาแห่งชาติจีน | (China National Tea Museum)

หางโจวคือเมืองหลวงแห่งชา การมา พิพิธภัณฑ์ชาแห่งชาติจีน คือวิธีเข้าใจวัฒนธรรมนี้อย่างแท้จริง เพราะมันไม่ใช่แค่จัดแสดง แต่มีไร่ชาอยู่ในพื้นที่จริงด้วย คุณจะเห็นตั้งแต่เครื่องมือโบราณ วิธีคั่วชา ไปจนถึงพิธีชงชาแบบจีนแท้ลองจอง workshop ชงชาในอาคารไม้ไผ่ที่หอมชาอบอวล — ประสบการณ์แบบนี้หาไม่ได้ในเมืองอื่น และจะทำให้ทริป ที่เที่ยวหางโจว 2568 ของคุณสมบูรณ์ขึ้นแบบไม่รู้ตัว

• ไฮไลต์: เวิร์กช็อปชงชา / สวนชา / ร้านขายของฝากชาคุณภาพสูง
  ค่าเข้า: ฟรี (workshop มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
  เวลาเปิด: 09.00–17.00 น.
  การเดินทาง: จากหมู่บ้านชาหลงจิ่งแท็กซี่ 10 นาที

12. คลองใหญ่ปักกิ่ง–หางโจว | (Grand Canal)

Grand Canal คือคลองที่เชื่อมกรุงปักกิ่งถึงหางโจวมานานกว่าสองพันปี และยังใช้งานได้จริงมาจนวันนี้ มันคือตัวแทนของ “เมืองที่ไม่ทิ้งราก” และเป็นอีกด้านของหางโจวที่คนไม่ค่อยรู้จักล่องเรือบนคลองตอนเย็น คุณจะเห็นเรือบรรทุกสินค้า ร้านอาหารเล็ก ๆ ริมน้ำ และบ้านไม้ที่ติดไฟโทนอบอุ่นทั้งแนว เป็นบรรยากาศที่ทั้งโรแมนติกและจริงจังไปพร้อมกัน เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวหางโจว 2568 ที่ให้ฟีลต่างจากทะเลสาบแต่ยังมีเสน่ห์เหมือนกัน

• ไฮไลต์: ล่องเรือชมวิถีชีวิตคนริมคลอง
• ค่าเข้าชม: 80 หยวน (400 บาท)
• เวลา: 09.00–20.00 น. (ขึ้นอยู่กับรอบเรือ)
• การเดินทาง: Metro สาย 5 ลงสถานี Gongshu

13. เมืองโบราณเหลียงจู่ (Liangzhu Ancient City) | มรดกโลกแห่งใหม่ล่าสุด

ที่นี่คือแหล่งโบราณคดีที่ UNESCO เพิ่งขึ้นทะเบียนใหม่ เป็นเมืองโบราณที่บอกเล่ารากของอารยธรรมจีนตอนใต้กว่า 5,000 ปี ดีไซน์พิพิธภัณฑ์เรียบเท่และทันสมัยจนแทบลืมว่ากำลังดูโบราณวัตถุด้านในมีวัตถุหินหยกขัดเงา ภาพจำลองการตั้งถิ่นฐาน และเทคโนโลยี AR ให้คุณสแกนดูเมืองในอดีตแบบ 3D ใครที่เบื่อแค่ถ่ายรูปวิว นี่คือหนึ่งใน ที่เที่ยวหางโจว 2568 ที่เพิ่มมิติใหม่ให้ทริป

• ไฮไลต์: พิพิธภัณฑ์สุดล้ำ / โบราณสถานจริง / นิทรรศการ AR
  ค่าเข้า: 80 หยวน (~400 บาท)
  เวลาเปิด: 09.00–17.00 น.
  การเดินทาง: รถบัสหรือแท็กซี่จากตัวเมือง ~40 นาที

14. ถนนหนานซาน (Nanshan Road) | แหล่งรวมคาเฟ่และอาร์ตแกลเลอรี่

Nanshan Road คือมุมที่บอกว่าหางโจวไม่ใช่เมืองเก่าแต่เดียว แต่มีคาแรกเตอร์เมืองใหม่แบบเจนใหม่ด้วย ที่นี่รวมคาเฟ่คอนเซ็ปต์ แกลเลอรี่ศิลปะ และร้านแฮนด์เมดเท่ ๆ เดินช่วงบ่ายอากาศดีจะเห็นคนจีนมาถ่ายรูป จิบกาแฟ และนั่งทำงานกลางแจ้ง ที่นี่คือ ที่เที่ยวหางโจว 2568 สำหรับสายครีเอทีฟโดยเฉพาะ มันไม่ใช่ย่านขายของ แต่คือพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจจริง ๆ และแต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกันเลยวา

• ไฮไลต์: คาเฟ่แนวญี่ปุ่น / แกลเลอรี่ศิลปะ / ร้านหนังสืออิสระ
  เวลาเปิด: 10.00–22.00 น.
  ค่าเข้า: ฟรี

15. ป่าสนธาราเก้าสาย (Nine Creeks in Misty Forest) | เดินป่าชมธรรมชาติงดงาม

Nine Creeks คือเส้นทางเดินป่าระยะสั้นที่สวยเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดจีน ทางเดินเลียบธารน้ำใสไหลผ่านสะพานไม้และต้นสนสูง ถ้าโชคดีช่วงเช้าจะมีหมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนือธารน้ำ เหมาะมากสำหรับคนอยากพักสมองก่อนกลับเดินเสร็จมีคาเฟ่เล็ก ๆ ซ่อนอยู่ท้ายเส้นทาง บรรยากาศโล่ง เงียบ และมีกลิ่นชา Longjing ลอยมาตามลม ปิดทริป ที่เที่ยวหางโจว 2568 ได้อย่างพอดีแบบไม่ต้องแต่ง

ไฮไลต์: เดินป่าเลียบธาร / น้ำตกเล็ก / จุดถ่ายรูปยอดนิยม
ค่าเข้า: ฟรี
เวลา: เปิดทั้งวัน (ดีที่สุดคือเช้า 07.00–10.00 น.)
การเดินทาง: แท็กซี่จาก West Lake ประมาณ 25 นาที

แผนการเดินทางตัวอย่างในหางโจว (3 วัน 2 คืน)

เคล็ดลับการเดินทางในหางโจวให้ง่ายและสนุกขึ้น

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวหางโจว

การเดินทางในเมือง (รถไฟใต้ดิน, รถบัส, จักรยาน, แท็กซี่)

ที่พักแนะนำในหางโจว

เวลาวางแผน ที่เที่ยวหางโจว 2568 สิ่งที่ช่วยยกระดับทริปให้ memorable จริง ๆ ไม่ใช่แค่สถานที่ที่ไป แต่คือ “ที่พักที่ได้ vibe ของเมืองนั้นจริง ๆ” — เมืองนี้มีโรงแรมเท่ ๆ ที่ผสมความสงบของทะเลสาบกับดีไซน์ร่วมสมัยไว้ครบ ไม่ว่าจะชอบความหรู ความมินิมอล หรือบรรยากาศชาเขียวแบบ local ทั้งหมดนี้คือ 3 ที่พักที่เลือกมาเพราะตอบโจทย์ทั้งสไตล์และโลเคชัน

Midtown Shangri-La Hangzhou

Midtown Shangri-La Hangzhou เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่กลางเมือง เดินแค่ไม่กี่นาทีถึงทะเลสาบซีหู ที่นี่คือจุดลงตัวของความหรูแต่ไม่อวด ห้องพักวิวทะเลสาบพาโนรามาเต็มตา ชุดอาหารเช้าอลังการแบบ Shangri-La ที่คนโลคัลยังมาจอง และ สระน้ำอุ่นบนชั้นบนสุดที่เห็นวิวเมืองทั้งเส้น เหมาะกับสายชอบความสะดวกแต่ไม่อยากละทิ้งบรรยากาศสบาย ๆ ของหางโจว ถ้าอยากใช้เวลาตอนเช้าเดินเล่นรอบซีหู แล้วกลับมาแช่ตัวในอ่างอาบน้ำวิวภูเขา นี่คือที่ที่ควรพัก

Kempinski Hotel Hangzhou

สไตล์ยุโรปในใจกลางจีน — โรงแรมนี้มีความโมเดิร์นแบบมีระดับ ห้องพักโทนอบอุ่น วัสดุไม้และผ้าลินินที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป ไฮไลต์คือสระว่ายน้ำในร่มที่แสงลอดลงมาจากกระจกใสด้านบน กับอาหารเช้าที่รีวิวดีจนติดอันดับใน Trip.com หลายปีซ้อน
เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนจริงจังและให้ความสำคัญกับดีเทลของที่พัก

West Lake Teavilla

ที่พักบูติกเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของเมืองชา ตั้งอยู่ในโซนเงียบไม่ไกลจากทะเลสาบซีหู ตัวโรงแรมใช้โทนไม้และกลิ่นชาเขียวแท้จากไร่ Longjing ทำให้บรรยากาศทั้งผ่อนคลายและอบอุ่น เหมาะกับคนที่อยากอยู่ใกล้ธรรมชาติแต่ยังสะดวกเดินเที่ยวในเมือง จุดเด่นคือการบริการแบบอบอุ่นมาก เหมือนมาพักบ้านเพื่อนที่เข้าใจดีเทลของหางโจว ตอนเช้ามีกลิ่นชาอ่อน ๆ ลอยมาจากห้องครัว ผสมกับเสียงนกรอบทะเลสาบ ฟีลแบบ slow life ที่คนกรุงจะหลงรัก