สำหรับใครที่กำลังมีแพลนที่จะเดินทางไปสิงคโปร์ แต่ยังกังวลเรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ฟังทางนี้! Trip.com มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับ eSIM สิงคโปร์ มาบอก เพราะทั้งใช้งานง่ายและสะดวก แค่ไม่กี่ขั้นตอน ก็ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศสิงคโปร์ได้แล้ว แถมยังเพลิดเพลินกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย
- จุดหมายปลายทางสิงคโปร์
- เน็ตวันละ2GB
- กำหนดเวลา3วัน
- ราคา141.79บาท
- จุดหมายปลายทางสิงคโปร์
- เน็ตวันละ2GB
- กำหนดเวลา7วัน
- ราคา262.61บาท
- จุดหมายปลายทางสิงคโปร์
- เน็ตวันละ2GB
- กำหนดเวลา15วัน
- ราคา529.32บาท
ผู้ให้บริการ eSIM สิงคโปร์มีเจ้าไหนบ้าง?
มีผู้ให้บริการ eSIM สิงคโปร์ มากมาย เมื่อคุณเดินทางไปที่สิงคโปร์ โดยจะมีราคาตั้งแต่ 4 USD ไปจนถึง 99 USD แล้วแต่แพ็กเกจที่เลือกใช้บริการ โดยเจ้าที่ให้บริการ eSIM สิงคโปร์ มีดังนี้
Airalo
Airalo ให้บริการ eSIM สิงคโปร์ แตกต่างกัน 3 ประเภท ดังนี้
- Airalo eSIM มีด้วยกันทั้งหมด 6 eSIM สิงคโปร์ โดยจะมีแพ็กเกจแตกต่างไปตามจำนวนของอินเทอร์เน็ต โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 1 GB ( 7 วันในราคา 4.5 USD) ไปจนถึง 20 GB (30 วันในราคา 26 USD)
- Airalo Asialink eSIM มีด้วยกันทั้งหมด 6 eSIM สิงคโปร์ แบ่งตามแพ็กเกจที่แตกต่างกันเช่นกัน เริ่มต้นตั้งแต่ 1 GB (7 วัน ในราคา 5 USD) และ 100 GB (180 วัน ในราคา 185 USD) สำหรับสิงคโปร์และอีก 13 ประเทศในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- Airalo Discover(+) eSIM มีด้วยกันทั้งหมด 12 eSIM แบ่งไปตามแพ็กเกจ ตั้งแต่ 1 GB (7 วันราคา 9 UUSD/15 USD (+10 นาที/10 SMS)) ไปจนถึง 20 GB (1 ปี ราคา 69 USD/89 USD (+200 นาที/200 SMS))
Alosim
Alosim เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ eSIM สิงคโปร์ โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 แพ็กเกจ ระหว่าง 1 GB (7 วัน ราคา 6.5 USD) และ 20 GB (30 วัน ราคา 45 USD) โดยคุณจะสามารถใช้รหัส PTW เพื่อรับส่วนลด 5% สำหรับการซื้อ Alosim กี่ครั้งก็ได้
Holafly
Holafly เป็นหนึ่งผู้ให้บริการที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แบบไม่จำกัด และสามารถใช้โค้ด PHONETTRAVELWIZ เพื่อรับส่วนลด 5% สำหรับการสั่งซื้อ (โดยสามารถใช้กี่ครั้งก็ได้)
Nomad
Nomad ผู้ให้บริการ eSIM มีด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้
- Nomad Singapore eSIM มีให้เลือกถึง 9 แพ็กเกจ โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 1 GB (7 วันในราคา 4 USD) และ 50 GB (30 วัน ในราคา 49 USD)
- Nomad APAC eSIM ให้บริการ eSIM ทั้งหมด 11 แพ็กเกจ ระหว่าง 1 GB (7 วัน ในราคา 8 USD/10 USD) และ 20 GB (30 วัน ในราคา 29 USD/62 USD) สำหรับสิงคโปร์และ 14-19 ประเทศอื่นในเอเชียและโอเชียเนีย
- Nomad Global eSIM ให้บริการ eSIM สิงคโปร์ 6 แพ็กเกจ ระหว่าง 1 GB (7 วัน 19/25 USD) และ 5 GB (30 วัน 45 USD/57 USD) สำหรับสิงคโปร์และ 108-138 ประเทศอื่นๆ
โดยสามารถใช้รหัส ADU123 ได้ในราคา 3 USD/2.70 EUR/2.40 GBP/4.05 CAD สำหรับการซื้อ Nomad ครั้งแรกได้อีกด้วย
SimOption
SimOption หนึ่งในแผนให้บริการ สำหรับ eSIM สิงคโปร์ ให้บริการ 6 GB ระยะเวลา 8 วัน (19.9 USD)
eSIM คืออะไร อธิบายสั้นๆ ให้เข้าใจ
eSIM ย่อมาจาก Embedded SIM หมายถึงซิมการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ ที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของเรา ที่จะแตกต่างจากซิมการ์ดทั้งๆ ไป เพราะ eSIM จะสามารถติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์มือถือของเราได้เลย โดยที่ไม่ต้องสับเปลี่ยน SIM สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่
ซึ่ง eSIM เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อปี 2018 ในตอนที่เปิดตัวหลายๆ คนทึ่งกับ eSIM เป็นอย่างมาก เพราะมันสะดวกสบาย สามารถติดตั้งบนอุปกรณ์มือถือได้เพียงไม่กี่ขั้นตอน ไม่ซับซ้อนและยุ่งยาก ไม่ต้องกังวลอีกด้วยว่าซิมการ์ดจะหาย
eSIM สิงคโปร์ ราคาเท่าไหร่?
ก่อนที่จะเลือก eSIM สิงคโปร์ ว่าจะเริ่มต้นใช้แพ็กเกจไหน ขนาดเท่าไหร่ ต้องตรวจสอบง่ายๆ ก่อนดังนี้
- ตรวจสอบว่าสมาร์ทโฟน สามารถใช้งาน eSIM ได้หรือไม่
- ตรวจสอบว่า มี eSIM ที่ตรงตามความต้องการหรือเปล่า
- ตรวจสอบขั้นตอนการใช้งานและการตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งาน eSIM
- ตรวจสอบว่า มี Support เพื่อให้บริการ หากมีปัญหาด้านการสื่อสารหรือไม่
โดย eSIM ที่ทาง Trip.com นำเสนอ จะมีแพ็กเกจที่หลากหลาย สามารถให้คำแนะนำ ก่อนเลือกแพ็กเกจ eSIM สิงคโปร์ได้ เพื่อให้คุณใช้งานแพ็กเกจ eSIM สิงคโปร์ได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และเหมาะกับการเดินทางในทริปนั้นๆ ของคุณ
ระหว่าง eSIM สิงคโปร์ / ซิมการ์ด และเร้าเตอร์ Wi-Fi แบบไหนสะดวกกว่ากัน?
สำหรับการเดินทางไปสิงคโปร์ในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างมาก ทั้ง eSIM, ซิมการ์ด และเร้าเตอร์ Wi-Fi ต่างมีจุดประสงค์เดียวกัน คือการให้บริการสัญญานอินเทอร์เน็ต แต่จะแตกต่างที่การเลือกแผนที่เหมาะสมสำหรับสมาร์ทโฟนและการเดินทางในทริปนั้น เพื่อให้การสื่อสารราบรื่น ลองศึกษาดูก่อนว่า แบบไหน จะเข้ากับการเดินทางในทริปนั้นมากกว่ากัน
- การใช้งาน ถ้าเป็น eSIM จะไม่ต้องใช้การ์ด ไม่ต้องชาร์ต ในขณะที่ซิมการ์ด จำำเป็นต้องใช้ซิมการ์ดเสียบและเร้าเตอร์ Wi-Fi จำเป็นต้องเสียบสายชาร์ตไว้เสมอ
- เร้าเตอร์ Wi-Fi จำเป็นต้องพกพาไปทุกที่ ในขณะที่ eSIM และ ซิมการ์ด อยู่ติดสมาร์ทโฟนของคุณอยู่เสมอ
3 ข้อดีในการใช้ eSIM สิงคโปร์
- ลดความยุ่งยากในการเดินทาง
เมื่อคุณใช้งาน eSIM สิงคโปร์ ไม่จำเป็นต้องซื้อซิมการ์ดหรือเร้าเตอร์ Wi-Fi ใหม่ทุกครั้งที่เดินทาง เพราะคุณสามารถเริ่มใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันที หลังจากที่เปิดใช้งาน eSIM จากบ้านมาแล้ว - ไม่ต้องกลัวเรื่องซิมหาย
เนื่องจากว่า eSIM มาในรูปแบบดิจิทัล ไม่ต้องกังวลเรื่องซิมการ์ดจะสูญหายหรือแตกหักระหว่างการเดินทางเลย - ช่วยสิ่งแวดล้อม
การใช้ eSIM จะช่วยลดการใช้บัตรพลาสติก หรือการใช้ซิมการ์ดพลาสติก ลดผลกระทบที่จะเกิดต่อสิ่งแวดล้อมได้
3 ข้อเสีย ในการใช้ eSIM สิงคโปร์
- ข้อจำกัดในการใช้งานอุปกรณ์
ถึง eSIM จะสะดวกและใช้งานง่าย แต่ก็สามารถใชัได้แค่สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์บางรุ่นเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ดังนั้นก่อนจะเปิดใช้งาน eSIM ต้องลองดูก่อนว่าสมาร์โฟนของคุณ สามารถใช้งาน eSIM ได้หรือไม่ - การตั้งค่าสมาร์ทโฟน
หากต้องการใช้งาน eSIM คุณจำเป็นต้องตั้งค่าบนสมาร์ทโฟนก่อน ดังนั้น ผู้ที่ใช้งานครั้งแรก อาจมองว่ามันยุ่งยากและซับซ้อน - หมายเลขโทรศัพท์ไม่สามารถใช้งานได้
โดยทั่วไป eSIM มักจะไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ หรือถ้ามี ก็จะมีค่าบริการเพิ่มขึ้นมาอีก และด้วยความที่ไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ ก็อาจจะทำให้การสื่อสารนั้นลำบากเพิ่มขึ้นไป
เคล็ดลับในการเลือก eSIM สิงคโปร์
- ตรวจสอบค่าธรรมเนียม
ตรวจสอบก่อนว่ามีความโปร่งใสในเรื่องของค่าธรรมเนียมแพ็กเกจ, ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอื่นๆ - ประมาณปริมาณในการใช้อินเทอร์เน็ต
ก่อนอื่นต้องประมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณก่อน ต้องดูทั้งระยะเวลา ดูการใช้งาน และเลือกแพ็กเกจให้ตรงกับความต้องการ - ดูรีวิวก่อนใช้งานจริง
การเช็กรีวิวก่อนการใช้งานจริง จะทำให้คุณสบายใจและได้ใช้งาน eSIM สิงคโปร์ ในเจ้าที่มีคุณภาพและมีความสะดวกสบายในการใช้บริการ และทำให้เลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมได้ง่ายมากขึ้นด้วย
วิธีการตั้งค่า eSIM สิงคโปร์ให้ใช้งานได้
ตรวจสอบก่อนว่าสมาร์ทโฟนของคุณ รุ่นไหนที่สามารถใช้งาน eSim สิงคโปร์ ได้บ้าง
วิธีการใช้งาน
อย่าสแกน QR Code จากกล้องหรืออุปกรณ์เครื่องอื่นที่ไม่ต้องการใช้งาน เพราะ 1 QR Code สามารถใช้ได้บนอุปกรณ์เพียงเครื่องเดียว
วิธีการติดตั้ง
1. เปิดอีเมล และเปิดใช้งาน eSim สิงคโปร์ โดยตรวจสอบ QR Code ที่แสดงก่อน
2. เปิดการตั้งค่าบนสมาร์ทโฟน
3. แตะเพิ่มการสื่อสารเครื่องที่ (iOSX หรือ การจัดการซิมการ์ด (Android) และทำการติดตั้งโดยการสแกน QR Code ที่ได้ในอีเมล
4. เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยให้ปิดการใช้งานซิมการ์ดที่มีอยู่
5. หลังจากนั้น จะสามารถเปิดใช้งานโรมมิ่งข้อมูล เพื่อใช้งาน eSim ได้
6. หากดำเนินการแล้วเชื่อมต่อไม่ได้ ให้ลองปิดและเปิดมือถือใหม่อีกครั้ง
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการใช้งาน eSIM สิงคโปร์
- การใช้งาน eSIM เป็นอย่างไรบ้าง?
หลังจากซื้อ eSIM ไปแล้วนั้น URL ที่แสดง QR Code สำหรับการใช้งาน จะถูกส่งไปยังอีเมลของผู้ใช้งาน เพื่อให้สามารถดาวน์โหลดและเปิดใช้งาน eSIM บนสมาร์ทโฟนของคุณได้ - สามารถใช้ eSIM สิงคโปร์ เดียวกันบนอุปกรณ์เครื่องอื่นได้ไหม
ไม่สามารถใช้งาน eSIM สิงคโปร์ เดียวกันบนอุปกรณ์เครื่องอื่นได้ เพราะ eSIM ถูกกำหนดให้สามารถใช้งานได้ 1 eSIM ต่อ 1 เครื่องเท่านั้น - คาดหวังเรื่องความเร็วได้ไหม?
สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีโครงสร้างสำหรับการสื่อสารขั้นสูง และมีความเร็วอินเทอร์เน็ตเพียงพอ แถมยังเสถียรมากๆ ด้วย - อะไรที่ควรระวังในการใช้ eSIM สิงคโปร์
ตรวจสอบความครอบคลุมของผู้ให้บริการ และอัตราค่าบริการของโรมมิ่ง ความจุของข้อมูล ที่สำคัญ อย่าลืมยืนยันการเชื่อมต่อ Wi-Fi เมื่อสแกน QR Code ด้วย
หากคุณกำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์ eSIM สิงคโปร์ เป็นอีกหนึ่งไอเทมอที่แนะนำว่าควรต้องมีและควรต้องใช้เลยค่ะ เพราะจะทำให้การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณราบรื่น รับข้อมูลจากเพื่อนๆ ได้ตลอดเวลา ใช้งานเพลิดเพลินทั้งในแหล่งช้อปปิง, สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหาร สร้างประสบการณ์ยอดเยี่ยมในการเที่ยวสิงคโปร์ทริปนี้ของคุณได้เป็นอย่างดีแน่นอน