น้ำตกใกล้กรุงเทพ ชุ่มฉ่ำหัวใจ วันเดียวก็เที่ยวได้

วันหยุดนี้ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้ Trip.com เอาใจคนรักธรรมชาติ ชวนไปเที่ยววันหยุดสุดชิลกับน้ำตกใกล้กรุงเทพ ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับสายน้ำเย็นฉ่ำ ดื่มด่ำกับธรรมชาติสีเขียวขจี และสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอด เพียงแค่เดินแช่น้ำเย็นๆ นั่งฟังเสียงน้ำตกกระทบหินก็ผ่อนคลายสุดๆ หรือจะทำกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ เดินลุยป่า เล่นล่องแก่ง ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะชอบเที่ยวแบบไหน Trip.com ได้รวบรวมน้ำตกสวยและบรรยากาศดีไว้ให้ที่นี่แล้ว และที่สำคัญก็คือเดินทางสะดวกสบายแบบไปเช้าเย็นกลับ ให้คุณได้พักผ่อนเติมพลังกันอย่างเต็มที่กับครอบครัวและคนที่คุณรัก มาดูกันว่า “น้ำตกใกล้ฉัน” สำหรับชาวกรุงเทพจะมีที่ไหนบ้าง ตามไปชมกันเลย

น้ำตกนางรอง นครนายก

น้ำตกนางรอง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่ในตำบลหินตั้ง จังหวัดนครนายก ความโดดเด่นของน้ำตกนางรองคือสายน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมาผ่านชั้นหินจนเกิดเป็นแอ่งน้อยใหญ่ ในแต่ละชั้นมีแอ่งที่รองรับน้ำที่ไหลเป็นทางยาว และสามารถลงเล่นได้ในหลายจุด เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไม่สูงมากนัก แต่มีปริมาณน้ำมากจนสามารถเล่นได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูฝนจะมีน้ำมากและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ ช่วงต้นฤดูหนาวสามารถเห็นสายหมอกจางๆ อยู่เบื้องหน้าป่าเขาเขียวขจีท่ามกลางน้ำตกที่สวยงาม บริเวณโดยรอบน้ำตกแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของผืนป่าเขาใหญ่ สามารถเดินชมทิวทัศน์จากทางเข้าไปยังน้ำตกชั้นบนสุดในระยะทาง 300 เมตร สองข้างทางร่มรื่นด้วยไม้ป่าและดอกไม้นานาชนิด อากาศเย็นสบายเหมาะสำหรับเดินศึกษาธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์ บริเวณชั้นบนสุดของน้ำตกมีสะพานข้ามธารน้ำตกให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมน้ำตกอย่างใกล้ชิด เป็นจุดที่มองเห็นวิวได้รอบทิศทาง และเหมาะสำหรับถ่ายรูปเก็บบรรยากาศสวยๆ ซึ่งบริเวณชั้นบนสุดนี้ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ เนื่องจากกระแสน้ำไหลค่อนข้างแรง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเล่นตามซุ้มม้านั่งหรือปูเสื่อนอนเล่นได้ตามอัธยาศัย บริเวณด้านหน้ามีร้านค้าอยู่เรียงรายและมีร้านอาหารให้แวะทานข้าว นอกจากนี้ยังมีบ้านพักให้สามารถนอนค้างคืนได้และยังมีลานกางเต็นท์อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

น้ำตกนางรองเป็นน้ำตกแห่งหนึ่งที่เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด เป็นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ ที่สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ น้ำตกอยู่ห่างจากตัวเมืองนครนายก 20 กิโลเมตร หากมาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 305 สายรังสิต-องครักษ์-นครนายก มุ่งหน้าไปสู่นครนายก จากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข 3049 เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร จากนั้นเบี่ยงซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3050 ประมาณ 5 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมาย

ที่อยู่ :

น้ำตกนางรอง, ตำบลหินตั้ง, อำเภอเมืองนครนายก, จังหวัดนครนายก

เปิดให้เข้าชม :

เวลา 6:00 - 18:00 น.

ค่าเข้าชม :

รถยนต์พร้อมคนขับ 50 บาท รถตู้พร้อมคนขับ 100 บาท รถจักรยานยนต์ 10 บาท ผู้ใหญ่ 5 บาท เด็กที่ส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าฟรี

น้ำตกเกริงกระเวีย กาญจนบุรี

น้ำตกเกริงกระเวีย ตั้งอยู่ในเขตพื้นอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสวยงาม เกิดจากลำห้วยเกริงกระเวียที่ไหลลดหลั่นกันลงมาผ่านชั้นหินปูนจนเกิดเป็นน้ำตก น้ำตกแห่งนี้มีชั้นเดียวสูงประมาณ 5 เมตร ลักษณะเป็นสายน้ำที่แผ่กระจายตามแนวกว้างและไหลลงมาเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำใสบริสุทธิ์ไหลตลอดทั้งปี พื้นที่ไม่ลาดชันและไม่ลึกมาก จึงสามารถลงเล่นน้ำได้ทุกฤดูกาลและปลอดภัยสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะไหลแรงและมีปริมาณน้ำมาก จึงควรลงเล่นน้ำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ บริเวณโดยรอบน้ำตกปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่อย่างหนาแน่น ช่วยให้ความชุ่มชื้นและสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่น บริเวณด้านหน้าน้ำตกมีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกของชาวบ้านอีกหลายร้าน น้ำตกแห่งนี้นอกจากจะเหมาะสำหรับแวะเล่นน้ำแล้ว ยังเหมาะสำหรับเป็นจุดพักรถ แวะเข้าห้องน้ำ และเป็นจุดพักรับประทานอาหารระหว่างทาง สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกสบาย เพียงจอดรถก็เดินเข้ามาที่น้ำตกได้เลย

น้ำตกเกริงกระเวียอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

น้ำตกเกริงกระเวียอยู่ติดริมทางหลวงหมายเลข 323 บนถนนเส้นสังขละบุรี-ทองผาภูมิที่เข้าสู่อำเภอสังขละบุรี ตรงหลักกิโลเมตรที่ 32-33 นอกจากนี้ ระหว่างการเดินทางบนทางหลวงหมายเลข 323 ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกไดช่องถ่องและสวนป่าเกริงกระเวีย เป็นต้น

ที่อยู่ :

อุทยานแห่งชาติเขาแหลม หมู่ 4, ตำบลปรังเผล, อำเภอสังขละบุรี, จังหวัดกาญจนบุรี

เปิดให้เข้าชม :

เวลา 8:00 - 16:30 น.

ค่าเข้าชม :

ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย จนเรียกกันว่าเป็นน้ำตกสวรรค์ 7 แห่งกาญจนบุรี แต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่าน้ำตกสะด่องม่องลาย ซึ่งมาจากชื่อของลำห้วยม่องล่ายที่เป็นต้นน้ำในเทือกเขาสลอบ น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีสายน้ำไหลตามชั้นหินเป็นระยะทางกว่า 1,500 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ชั้น ในแต่ละชั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีทิวทัศน์อันงดงาม และแวดล้อมด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีชื่ออันไพเราะที่บ่งบอกถึงลักษณะและจุดเด่นของแต่ละชั้นอีกด้วย ได้แก่ ไหลคืนรัง, วังมัจฉา, ผาน้ำตก, อกผีเสื้อ, เบื่อไม่ลง, ดงพฤกษา และภูผาเอราวัณ ในบริเวณหน้าผาเหนือน้ำตกชั้น 7 เมื่อน้ำไหลบ่าลงมาจะดูคล้ายกับช้าง 3 เศียร หรือช้างเอราวัณ จึงกลายเป็นชื่อน้ำตกและเป็นที่มาของชื่ออุทยานแห่งชาติเอราวัณ

น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกที่มีน้ำใสบริสุทธิ์ สามารถมองเห็นฝูงปลาแหวกว่ายได้อย่างชัดเจนใต้ผืนน้ำสีฟ้าอมเขียวมรกต เนื่องจากน้ำตกแห่งนี้มีสารละลายแคลเซียมคาร์บอเนตและแร่ธาตุก่อตัวอยู่ด้านล่างแอ่งน้ำ และมีตะไคร่สีเขียวขนาดเล็กเจริญเติบโตในลำธาร เมื่อแสงแดดสาดส่องลงมาจึงเกิดการสะท้อนเป็นสีฟ้าอมเขียวมรกต สายน้ำท่ามกลางธรรมชาติและหมู่แมกไม้เหล่านี้เกิดเป็นภาพที่งดงามราวกับสวรรค์

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือการเดินเท้าศึกษาเส้นทางธรรมชาติ โดยแบ่งออกเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางป่าดิบแล้งม่องไล่ ระยะทาง 1,010 เมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เริ่มจากสะพานค่ายพักไปบรรจบกับเส้นทางในน้ำตกชั้นที่ 3 ส่วนอีกเส้นทางหนึ่ง ได้แก่ เส้นทางเอราวัณ (ป่าไผ่) เป็นเส้นทางเดินสำรวจป่าที่มีระยะทางประมาณ 1,000 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนเส้นทางสุดท้าย ได้แก่ เส้นทางเขาหินล้านปี เริ่มต้นที่ลานจอดรถไปบรรจบกับเส้นทางในน้ำตกบริเวณสะพานน้ำตกชั้นที่ 4 ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ต้องใช้แรงพอสมควร ตลอดเส้นทางจะได้ชื่นชมความหลากหลายของพันธุ์พืชและลักษณะของป่าไม้ อีกทั้งยังผ่านจุดชมวิวที่สวยงามหลายแห่ง นอกจากนี้ภายในยังมีร้านค้า ร้านอาหาร บ้านพัก และลานกางเต็นท์อีกด้วย

น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 2 “วังมัจฉา”

น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก”

น้ำตกเอราวัณชั้นที่ 5 “เบื่อไม่ลง”

น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 500 เมตร ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี วิธีการเดินทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี ให้ไปตามทางหลวงหมายเลข 3199 ข้ามสะพานไปตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ จากนั้นก็ไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร

ที่อยู่ :

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ, ตำบลท่ากระดาน, อำเภอศรีสวัสดิ์, จังหวัดกาญจนบุรี

เปิดให้เข้าชม :

น้ำตกชั้นที่ 1-2 เวลา 8:10 - 16:30 น. น้ำตกชั้นที่ 3-7 เวลา 8:10 - 16:00 น.

ค่าเข้าชม :

ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท รถยนต์ 30 บาท รถบัส 200 บาท

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น กาญจนบุรี

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก ร่มรื่นด้วยป่าไม้นานาพันธุ์และสัตว์ป่า

น้ำตกแห่งนี้โดดเด่นด้วยลักษณะของน้ำตกที่เป็นแอ่งกว้างและมีสายน้ำไหลผ่านเขาหินปูนลดลั่นหลงมาเป็นชั้นๆ สายน้ำแผ่กระจายเป็นเส้นสายอย่างงดงาม น้ำตกแห่งนี้มีต้นกำเนิดจากลำห้วยแม่ขมิ้นที่ไหลผ่านเทือกเขาหินปูนและเกิดเป็นน้ำตกอันสวยงามที่มี 7 ชั้น ในแต่ละชั้นมีเอกลักษณ์และชื่อเรียกเฉพาะตัว ได้แก่ ดงว่าน, ม่านขมิ้น, วังหน้าผา, ฉัตรแก้ว, ไหลจนหลง, ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า เป็นระยะทางรวม 2,270 เมตร จากชั้นที่ 1 ไปจนถึงชั้น 4 มีระยะห่างแต่ละจุดประมาณ 300 - 600 เมตร บริเวณชั้นที่ 4 เป็นจุดไฮไลต์ที่อลังการที่สุด ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่และมีน้ำใสไหลกระเซ็นเป็นสายสีขาว ให้ความรู้สึกที่ชุ่มฉ่ำและนุ่มนวล เมื่อมองจากฝั่งตรงข้ามจะเห็นแอ่งขนาดใหญ่เรียงซ้อนสลับกันเป็นชั้นๆ ดูยิ่งใหญ่ละลานตา และเป็นจุดที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์เพียง 100 เมตรเท่านั้น จากชั้น 5 ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดของน้ำตกมีระยะทางมากกว่า 2 กิโลเมตร หากต้องการเดินให้ครบทุกชั้นจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง นอกจากนี้น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกด้วย ได้แก่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง โดยจะผ่านจุดชมวิวอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร และควรติดต่อเจ้าหน้าที่ให้นำทางเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ บ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร ร้านค้า และลานจอดรถ เป็นต้น น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเป็นน้ำตกที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ คือเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน เพราะเป็นช่วงปลายฝนที่มีฝนตกน้อย จึงทำให้น้ำไม่ขุ่นและมีน้ำปริมาณมาก ช่วงนี้ธรรมชาติมีสีเขียวขจีและยังมีผีเสื้อให้ได้ชมอีกด้วย

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นตั้งอยู่บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี วิธีการเดินทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี จากสี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทางอำเภอศรีสวัสดิ์ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3199 ประมาณ 30 กิโลเมตร จากนั้นให้แยกไปทางเขื่อนท่าทุ่งนา ผ่านถ้ำพระธาตุไปตามทางอีกประมาณ 70 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมาย

ที่อยู่ :

อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์, ตำบลท่ากระดาน, อำเภอศรีสวัสดิ์, จังหวัดกาญจนบุรี

เปิดให้เข้าชม :

ทุกวัน เวลา 8:30 - 16:30 น.

ค่าเข้าชม :

ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสระบุรี ตั้งในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ชื่อของน้ำตกมาจากหมู่บ้านทางทิศเหนือของน้ำตกที่มีชื่อว่า “บ้านสาวน้อย” น้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น จึงได้ชื่อว่า “น้ำตกเจ็ดสาวน้อย” เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนเป็นช่วงที่สวยงามที่สุด

น้ำตกเจ็ดสาวน้อยมีลักษณะเป็นน้ำตกที่ไม่สูงมากนัก มีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงประมาณ 1-4 เมตร ความงดงามของน้ำตกแห่งนี้คือสายน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมาสู่ธารน้ำขนาดใหญ่ มีแอ่งน้ำตื้นที่มีน้ำใสสะอาดรองรับ พื้นที่กว้างขวาง น้ำสีเขียวใสบริสุทธิ์ บริเวณสันน้ำตกเป็นแนวยาวที่สามารถเดินข้ามฝั่งได้ เป็นจุดที่สามารถลงไปนั่งห้อยขาหรือนั่งแช่น้ำอยู่กลางน้ำตก

นักท่องเที่ยวนิยมลงเล่นในชั้นที่ 1 ถึง 4 ซึ่งในชั้นที่ 4 เป็นจุดยอดนิยมเนื่องจากเป็นแอ่งขนาดใหญ่และมีสายน้ำไหลเป็นสายตลอดแนวหินลงสู่ชั้นล่าง ส่วนบริเวณชั้น 6 และ 7 เป็นจุดที่น้ำไหลแรงจึงไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ บรรยากาศในจุดเหล่านี้จึงค่อนข้างเงียบสงบ เส้นทางเดินหลักในอุทยานเป็นพื้นถนนที่จัดทำเป็นพิเศษเพื่อความสะดวกสบาย เหมาะกับทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ และยังรองรับผู้ที่ใช้วีลแชร์อีกด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้ บริเวณรอบน้ำตกโอบล้อมด้วยป่าโปร่ง บรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์ และมีพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่น ได้แก่ ต้นจำปีสิรินธร รวมถึงสัตว์ป่าคุ้มครองหลากหลายชนิด สำหรับผู้ที่อยากเดินชมป่าดื่มด่ำกับธรรมชาติ ที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็มีเส้นทางให้เดินชมวิวทิวทัศน์ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สามารถเดินชมบรรยากาศของน้ำตกทั้ง 7 ชั้น เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เหมาะสำหรับเป็นแหล่งพักผ่อนในวันสบายๆ สามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน หรือหากอยากนอนรับลมชมดาวริมน้ำตกก็สามารถมากางเต็นท์ที่ “ลานนับดาว” ที่เป็นจุดกางเต็นท์ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยได้

นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายอยู่ที่บริเวณลานจอดรถ ได้แก่ ร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เป็นต้น

น้ำตกเจ็ดสาวน้อยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ วิธีการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดสระบุรี ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 107 กิโลเมตร เมื่อถึงสระบุรีให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ผ่านอำเภอแก่งคอย ไปที่อำเภอมวกเหล็ก ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร จากนั้นจึงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 2224 ไปตามทางอีกประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย

ที่อยู่ :

อุทยานแห่งชาตินํ้าตกเจ็ดสาวน้อย, หมู่ 9, ตำบลมวกเหล็ก, อำเภอมวกเหล็ก ,จังหวัดสระบุรี

เปิดให้เข้าชม :

ทุกวัน เวลา 8:00 - 17:00 น.

ค่าเข้าชม :

ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

น้ำตกวังตะไคร้ นครนายก

น้ำตกวังตะไคร้ เป็นน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่งที่มีทิวทัศน์สวยงามและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ น้ำตกวังตะไคร้มีลักษณะเป็นธารน้ำไหลที่มีโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายไปตามลำธาร ระดับน้ำไม่สูงมาก เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำและทำกิจกรรมทางน้ำ วังตะไคร้เป็นจุดบรรจบของลำธาร 2 สาย ได้แก่ คลองมะเดื่อที่ไหลมาจากน้ำตกเหวกระถิน กับคลองตะเคียนที่ไหลมาจากน้ำตกแม่ปล้อง จนเกิดเป็นธารน้ำขนาดใหญ่ที่วังตะไคร้ วังตะไคร้เป็นอุทยานที่มีเนื้อที่กว่า 1,400 ไร่ อยู่ในความดูแลของมูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ บริพัตร บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่และพรรณไม้นานาชนิด และยังมีสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ปลูกเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนและแหล่งให้ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์

ภายในอุทยานวังตะไคร้มีลักษณะคล้ายกับเมืองกลางป่า มีที่พัก ถนนหนทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ธรรมชาติที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศร่มรื่น และยังล้อมด้วยภูเขา ทำให้อากาศบริสุทธิ์และสดชื่นไม่ว่าในฤดูกาลใด เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกชุกจะมีน้ำไหลเชี่ยวเต็มลำธาร เหมาะกับกิจกรรมล่องแก่งที่เป็นกิจกรรมขึ้นชื่อของที่นี่ มีทั้ง “ล่องแก่งแพยาง” และ “ล่องแก่งห่วงยาง” สนุกสนานได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมผจญภัยต่างๆ อีกมากมาย อาทิ “เหินฟ้าท้าสายน้ำ” เป็นกิจกรรมที่ให้ลอยตัวข้ามฝั่งลำน้ำจากหอคอยสูงจากระดับพื้นดิน 12 เมตร ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นและสร้างสีสันได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ชื่นชอบดอกไม้และอยากถ่ายรูปท่ามกลางสวนสวยๆ ต้องไปที่ “น้ำตกจำลอง สวนไม้ดอกคุณท่าน” และ “สระปทุม” หรือจะทำกิจกรรมสบายๆ อย่างนั่งปิกนิกริมลำธาร หรือปั่นจักรยานชมธรรมชาติในอุทยานก็ผ่อนคลายได้ดี สามารถนำจักรยานมาด้วยตนเองได้เลย

น้ำตกวังตะไคร้เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่เดินทางได้สะดวก ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อไปถึงแล้วสามารถอยู่ทำกิจกรรมได้ทั้งวันหรือจะพักค้างคืนก็ได้ น้ำตกวังตะไคร้อยู่บนถนนสายนครนายก-นางรอง ตำบลสาลิกา อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 120 กิโลเมตร และห่างจากตัวจังหวัดนครนายกประมาณ 16 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 305 สายรังสิต-องครักษ์-นครนายก มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครนายก เป็นระยะทางประมาณ 76 กิโลเมตร จากนั้นให้ไปตามป้ายน้ำตกสาริกาและน้ำตกนางรอง โดยใช้ถนนหมายเลข 3049 ประมาณ 11 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาแล้วตรงไปอีก 5 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมาย

ที่อยู่ ：

วังตะไคร้ 222, หมู่ 1, ตำบลสาริกา, อำเภอเมือง, จังหวัดนครนายก

เปิดให้เข้าชม :

ทุกวัน เวลา 8:00 - 17:00 น.

ค่าเข้าชม :

รถทุกประเภทคันละ 150 บาท (ผู้โดยสารไม่เกิน 8 คน) ผู้โดยสารเกิน 8 คน เพิ่มคนละ 10 บาท รถจักรยาน 30 บาท

น้ำตกไทรโยคน้อย กาญจนบุรี

น้ำตกไทรโยคน้อย อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี น้ำตกแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำตกเขาพัง เนื่องจากมีต้นกำเนิดมาจากเขาหินปูนที่พังทลายลงมา กลายเป็นกองโขดหินหลายขนาดลดหลั่นกันอยู่บริเวณเชิงเขา เมื่อน้ำผุดจากบนเขาไหลบ่าลงสู่โขดหินแล้วแผ่กระจายไปตามพื้นที่ลาดเอียง ทำให้เกิดแอ่งน้ำบริเวณด้านล่าง

น้ำตกไทรโยคเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีชั้นเดียว น้ำตกสูงประมาณ 15 เมตร น้ำไม่ลึกจนเกินไป ทำให้เล่นน้ำได้อย่างสนุกโดยไม่ต้องกังวล บริเวณใกล้กับน้ำตกก็มีทั้งสะพานเดินข้ามและบันไดสำหรับเดินขึ้นไปยังน้ำตกเพื่อความสะดวกสบาย เป็นน้ำตกที่เหมาะกับทุกช่วงวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บรรยากาศรอบน้ำตกเต็มไปด้วยป่าไม้สีเขียวขจี อากาศสดชื่นและเย็นสบาย ในฤดูฝนช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมจะมีปริมาณน้ำมาก และมีธรรมชาติสวยงามมากที่สุด ระหว่างทางเดินไปที่ตัวน้ำตกจะสังเกตเห็นหัวรถจักรไอน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับรำลึกถึงการสร้างทางรถไฟสายมรณะเพื่อเป็นเส้นทางเข้าไปสู่ประเทศพม่า และในอดีตเมื่อปี พ.ศ. 2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก็ได้เสด็จประพาสต้นบริเวณที่แห่งนี้อีกด้วย บริเวณถนนด้านหน้าน้ำตกมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านส้มตำ ร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก และร้านค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่าห่วงยางสำหรับเล่นน้ำ และให้เช่าเสื่อสำหรับนั่งเล่นภายในบริเวณน้ำตกอีกด้วย

น้ำตกไทรโยคน้อยอยู่ติดกับถนนสายหลักเส้นทองผาภูมิ-สังขละบุรี ห่างจากลานจอดรถเพียง 100 เมตร เป็นจุดที่ควรแวะมาเที่ยวและใช้เป็นจุดจอดพักระหว่างการเดินทาง สำหรับการเดินทางด้วยรถส่วนตัว เริ่มจากสี่แยกแก่งเสี้ยน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ให้เลี้ยวตามป้ายบอกทางไปอำเภอไทรโยค-ทองผาภูมิ เป็นระยะทางประมาณ 56 กม. เมื่อถึงป้ายกิโลเมตรที่ 120 ก็จะถึงน้ำตกไทรโยคน้อย นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางด้วยรถไฟเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้เช่นเดียวกัน โดยเริ่มต้นจากสถานีธนบุรี (บางกอกน้อย) ขึ้นรถไฟสายธนบุรี-น้ำตกไปลงสุดสายที่สถานีน้ำตก อยู่ห่างจากน้ำตกไทรโยคน้อยเพียง 500 เมตรเท่านั้น สามารถขึ้นรถสองแถวมายังน้ำตกได้ การเดินทางโดยรถไฟนี้ถือเป็นไฮไลต์อย่างหนึ่งของการมาเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ ถนนเส้นทองผาภูมิ-สังขละบุรี (ถนนสาย 323) ยังเป็นเส้นทางหลักผ่านไปเที่ยวน้ำตกแห่งอื่นและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นได้อีกมากมาย เช่น น้ำตกไทรโยคใหญ่ ด่านพระเจดีย์สามองค์ และสะพานมอญ เป็นต้น ทำให้น้ำตกไทรโยคน้อยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาจำนวนมาก

ที่อยู่ :

ริมถนนเส้นทองผาภูมิ-สังขละบุรี, ตำบลท่าเสา, อำเภอไทรโยค, จังหวัดกาญจนบุรี

เปิดให้เข้าชม :

ทุกวัน เวลา 8:00 - 17:00 น.

ค่าเข้าชม :

เข้าชมฟรี

น้ำตกกระทิง จันทบุรี

น้ำตกกระทิง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงในจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ โดยมีต้นน้ำเกิดมาจากเทือกเขาคิชฌกูฏ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 13 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนบนของน้ำตกอยู่สูงและเปิดโล่ง สามารถมองเห็นสายน้ำสีขาวที่โดดเด่นออกมาจากป่าสีเขียวได้จากระยะไกล พื้นที่บริเวณน้ำตกค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แวดล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ทางเดินเต็มไปด้วยพืชเล็กๆ ปกคลุมตามสองข้างทาง บริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานเพียง 100 เมตร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชั้นที่ 2 กับ 3 มากนัก ส่วนจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมลงเล่นน้ำมากที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 3 ลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีระดับความลึกต่างกัน สายน้ำไม่แรงมากจึงสามารถลงเล่นน้ำได้หลายจุด

น้ำตกใสบริสุทธิ์จนมองเห็นปลาพลวงแหวกว่ายอยู่ใต้ผืนน้ำ บริเวณชั้น 3 มีสะพานไม้ที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับขึ้นไปยังน้ำตกชั้นที่ 4 มุมนี้เหมาะสำหรับแวะถ่ายรูปและชมบรรยากาศสองข้างทาง จากนั้นต้องเดินเลาะริมลำธารขึ้นเขาเพื่อต่อไปยังชั้นที่ 4 หลังจากนั้นทางเดินค่อนข้างชัน อาจต้องปีนป่ายบ้างและต้องระมัดระวังยิ่งขึ้น จุดไฮไลต์ที่สวยงามที่สุดของน้ำตกกระทิงอยู่ที่ชั้น 8 และ 9 ลักษณะเป็นสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูง ละอองน้ำฟุ้งกระจาย ทางเดินแวดล้อมด้วยป่าไผ่และพันธุ์ไม้นานาชนิด สำหรับชั้นที่ 10 เป็นชั้นที่ไม่มีแอ่งน้ำและน้ำไหลแรงมาก สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำทุ่งเพลและผืนป่าในมุมกว้างได้ แต่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปยังชั้นที่ 10-13 เนื่องจากมีลักษณะเป็นหน้าผาชันที่น้ำไหลแรงและเคยมีดินถล่ม ภายในอุทยานมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บ้านพัก และยังมีลานกางเต็นท์อีกด้วย

น้ำตกกระทิงเมื่อมองจากระยะไกล

การเดินทางไปยังน้ำตกกระทิง ใช้ถนนสุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 มุ่งหน้าไปยังจังหวัดจันทบุรี เมื่อถึงสี่แยกเขาไร่ยาให้เบี่ยงซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3249 เป็นระยะทาง 21 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาแล้วไปตามป้ายอีก 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงลานจอดรถของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ

ที่อยู่ :

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ, ตำบลพลวง, อำเภอเขาคิชฌกูฏ, จังหวัดจันทบุรี

เปิดให้เข้าชม :

ทุกวัน เวลา 8:00 - 16:30 น.

ค่าเข้าชม :

ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท รถยนต์ 30 บาท

FAQเกี่ยวกับน้ำตก