
การท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นประสบการณ์ที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่บางครั้งกระบวนการขอวีซ่าก็อาจทำให้ทริปยุ่งยากและเสียเวลา แต่สำหรับคนไทยมีข่าวดีในปี 2025 คือมีหลายประเทศที่สามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยววางแผนทริปได้ง่ายขึ้น ทั้งการเที่ยวเมืองใหญ่ ชมธรรมชาติ หรือสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น Trip.com รวบรวมข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับประเทศฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย เพื่อให้การเดินทางของเพื่อนๆ สะดวก สนุก และคุ้มค่าที่สุด
อัปเดตรายชื่อ 36 ประเทศที่คนไทยสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า

การวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2025 ถือว่าง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก เพราะหนังสือเดินทางไทย ได้รับการยอมรับมากขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก ปัจจุบันมี 36 ประเทศและดินแดน ที่เปิดให้คนไทยสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งช่วยให้นักเดินทางประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย อย่างไรก็ตามฟรีวีซ่าแต่ละประเทศมีเงื่อนไขแตกต่างกัน บางประเทศกำหนดจำนวนวันที่เข้าพัก บางประเทศเป็นการยกเว้นชั่วคราวหรือฝ่ายเดียว และบางแห่งก็มีข้อบังคับพิเศษ เช่น ต้องลงทะเบียนออนไลน์ก่อนเดินทาง ดังนั้นการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากสถานทูตหรือกรมการกงสุลก่อนออกเดินทางจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
ลำดับ | ประเทศ/ดินแดน | ระยะพำนักสูงสุด | หมายเหตุ |
1 | ญี่ปุ่น | 15 วัน | ต้องมีตั๋วขากลับและหลักฐานการเงินที่เพียงพอ |
2 | เกาหลีใต้ | 90 วัน | ควรตรวจสอบเรื่อง K-ETA ก่อนเดินทาง |
3 | สิงคโปร์ | 30 วัน | ไม่ต้องกรอกใบ ตม. แล้วในปัจจุบัน |
4 | ฮ่องกง | 30 วัน | ใช้พาสปอร์ตไทยเดินทางเข้าได้โดยตรง |
5 | ไต้หวัน | 30 วัน | ฟรีวีซ่าขยายต่อเนื่องถึง 31 ก.ค. 2025 |
6 | มาเก๊า | 30 วัน | ต้องมีตั๋วออกนอกมาเก๊าก่อนครบกำหนด |
7 | มาเลเซีย | 30 วัน | เข้าประเทศได้ง่าย ไม่ต้องใช้ eVisa |
8 | อินโดนีเซีย | 30 วัน | ฟรีวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวทั่วไป |
9 | บรูไน | 14 วัน | อยู่ได้ไม่เกินสองสัปดาห์ |
10 | กัมพูชา | 14 วัน | หากอยู่เกินต้องขอวีซ่าเพิ่มเติม |
11 | ลาว | 30 วัน | เข้าได้ทั้งด่านบกและสนามบิน |
12 | เวียดนาม | 30 วัน | มีนโยบายขยายฟรีวีซ่าเพิ่มในปี 2025 |
13 | ฟิลิปปินส์ | 30 วัน | ไม่ต้องขอวีซ่าเมื่อเป็นนักท่องเที่ยว |
14 | มองโกเลีย | 30 วัน | เป็นข้อตกลงทวิภาคีไทย-มองโกเลีย |
15 | จีน | 30 วัน | เริ่มมีนโยบายฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยแล้ว |
16 | จอร์เจีย | 365 วัน | หนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ให้อยู่ได้ยาวนาน |
17 | คาซัคสถาน | 30 วัน | ฟรีวีซ่าฝ่ายเดียว ตรวจสอบก่อนเดินทาง |
18 | คีร์กีซสถาน | 60 วัน | ฟรีวีซ่าชั่วคราว ถึง 31 ธ.ค. 2025 |
19 | อาร์เจนตินา | 90 วัน | เหมาะกับคนไทยที่อยากสัมผัสอเมริกาใต้ |
20 | บราซิล | 90 วัน | ฟรีวีซ่าต่อเนื่องหลายปีแล้ว |
21 | ชิลี | 90 วัน | ประเทศท่องเที่ยวดังในอเมริกาใต้ |
22 | เอกวาดอร์ | 90 วัน | ฟรีวีซ่าฝ่ายเดียวสำหรับคนไทย |
23 | เปรู | 90 วัน | มีข้อตกลงยกเว้นวีซ่ากับไทย |
24 | ตุรกี | 30 วัน | ฟรีวีซ่าเมื่อเดินทางด้วยพาสปอร์ตไทย |
25 | รัสเซีย | 30 วัน | นโยบายใหม่เริ่มใช้ปี 2025 |
26 | มอริเชียส | 60 วัน | จุดหมายพักผ่อนยอดฮิตในมหาสมุทรอินเดีย |
27 | เซเชลส์ | 30 วัน | ออกเอกสาร Visitor’s Permit แทนวีซ่า |
28 | มัลดีฟส์ | 30 วัน | ได้รับฟรีวีซ่าทันทีที่ถึงสนามบิน |
29 | ฟิจิ | 120 วัน | หนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ให้อยู่ได้นานมาก |
30 | วานูอาตู | 30 วัน | ประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิก |
31 | ซามัว | 60 วัน | มีข้อตกลงยกเว้นวีซ่ากับไทย |
32 | แอนติกาและบาร์บูดา | 30 วัน | ประเทศเล็กในแคริบเบียน |
33 | บาร์เบโดส | 90 วัน | เดินทางท่องเที่ยวได้สะดวก |
34 | เฮติ | 90 วัน | ต้องมีหลักฐานการเงินประกอบการเข้าเมือง |
35 | โดมินิกา | 21 วัน | ให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวไทย |
36 | ตรินิแดดและโตเบโก | 90 วัน | อีกหนึ่งประเทศแคริบเบียนที่ยกเว้นวีซ่า |
🗒️ 10 ประเทศยอดฮิตและน่าเที่ยวประจำปี 2025
ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นยังคงครองใจนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างต่อเนื่องและในปี 2568 ความนิยมก็ไม่ลดน้อยลง ด้วยเสน่ห์ของประเทศที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว นักเดินทางสามารถเลือกได้ว่าจะไปสัมผัสความครึกครื้นของเมืองใหญ่ หรือดื่มด่ำกับความสงบของชนบทและธรรมชาติสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ญี่ปุ่นก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้คนไทยอยากกลับไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สิ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ในปี 2568 ไม่ใช่แค่ความสะดวกในการเดินทางจากไทยที่มีเที่ยวบินตรงไปยังหลายเมือง แต่ยังรวมถึงนโยบายฟรีวีซ่า 15 วัน ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถจัดทริปได้ง่ายขึ้น การบริการขนส่งสาธารณะที่ตรงเวลาและครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้การเดินทางภายในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป
นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังมีความพิเศษในแง่ของอาหารการกินที่หลากหลาย ตั้งแต่ซูชิและราเมงที่ขึ้นชื่อ ไปจนถึงของหวานพื้นเมืองตามแต่ละภูมิภาค ทำให้การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่เรื่องของสถานที่ แต่ยังเป็นประสบการณ์รสชาติที่หลายคนประทับใจ
✨จุดเด่นของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
- ฟรีวีซ่า 15 วัน คนไทยสามารถเข้าญี่ปุ่นได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมเอกสารวีซ่า
- ขนส่งสาธารณะมีประสิทธิภาพ เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงและรถไฟท้องถิ่นครอบคลุมแทบทุกเมือง
- วัฒนธรรมหลากหลาย จากศาลเจ้าเก่าแก่ไปจนถึงย่านช้อปปิ้งสุดทันสมัย
- อาหารอร่อยหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารระดับโลกหรืออาหารท้องถิ่น ล้วนเป็นจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยว
- เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ฤดูซากุระ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ไปจนถึงฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะ
📷สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด
แม้ว่าญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยเมืองและจังหวัดที่น่าสนใจ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีเวลาไม่มาก สองสถานที่นี้ถือว่าเป็นตัวแทนความเป็นญี่ปุ่น ที่จะทำให้การเดินทางครั้งเดียวได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิมและความงดงามของธรรมชาติ
โตเกียว
- โตเกียวทาวเวอร์ - หอคอยสื่อสารสีแดงขาวที่เป็นสัญลักษณ์ ให้ทัศนียภาพทั่วเมือง
- วัดเซ็นโซจิ - วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว เต็มไปด้วยบรรยากาศทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
- โตเกียวดิสนีย์แลนด์ - สวนสนุกยอดนิยม เหมาะสำหรับการเที่ยวกับครอบครัว
เกียวโต
- วัดคินคะคุจิ - วัดสีทองที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในสวนที่สวยงาม
- วัดคิโยมิซุ - มีชื่อเสียงในเรื่องระเบียงไม้และทัศนียภาพเมืองที่งดงาม
- ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ - ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในเรื่องเสาโทริอิสีแดงนับพัน
โอซาก้า
- ปราสาทโอซาก้า - ปราสาทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แสดงถึงประวัติศาสตร์ยุคสงครามของญี่ปุ่น
- โดทงบุริ - ย่านบันเทิงและช้อปปิ้งที่คึกคัก มีชื่อเสียงในเรื่องไฟนีออนและอาหารอร่อย
- ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน - สวนสนุกยอดนิยม มีเครื่องเล่นธีมภาพยนตร์หลากหลาย
ไต้หวัน

ไต้หวันอาจเป็นประเทศที่มีพื้นที่ไม่กว้างใหญ่ แต่กลับอัดแน่นไปด้วยความหลากหลาย ทั้งธรรมชาติที่งดงาม อาหารอร่อย และวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างจีน ญี่ปุ่น และตะวันตกได้อย่างลงตัว ทำให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวมากที่สุดในปี 2025
สิ่งที่ทำให้ไต้หวันโดดเด่นคือความสะดวกในการเดินทางจากกรุงเทพฯ มีเที่ยวบินตรงไปยังไทเปใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงกว่าๆ และคนไทยยังได้รับสิทธิ์ ฟรีวีซ่า 30 วัน ต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2025 ซึ่งช่วยให้การวางแผนทริปเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ระบบขนส่งสาธารณะยังทันสมัยและครอบคลุม ทั้งรถไฟความเร็วสูง (HSR) รถไฟท้องถิ่น และรถไฟฟ้าใต้ดินที่เชื่อมต่อหลายเมืองใหญ่ ทำให้แม้จะเป็นนักท่องเที่ยวมือใหม่ก็สามารถเดินทางได้ไม่ยุ่งยาก
อาหารคืออีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้ไต้หวันกลายเป็นสวรรค์ของสายกิน ตลาดกลางคืนหลายแห่ง เช่น ซีเหมินติง หรือซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต เต็มไปด้วยสตรีทฟู้ดชื่อดัง ทั้งชาไข่มุก กุ้งย่าง หอยทอด และไก่ทอดไซส์ยักษ์ที่ขึ้นชื่อว่าต้องลอง
📌จุดเด่นของการเที่ยวไต้หวันในปี 2025
- ฟรีวีซ่า 30 วัน เดินทางง่าย ไม่ต้องทำเอกสารให้ยุ่งยาก
- ใกล้ไทย เดินทางสั้น ใช้เวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมงก็ถึงไทเป
- ระบบขนส่งสะดวก รถไฟความเร็วสูงและ MRT ครอบคลุมเมืองใหญ่
- อาหารเลื่องชื่อ ตลาดกลางคืนเต็มไปด้วยเมนูที่ทั้งอร่อยและราคาย่อมเยา
- ธรรมชาติและเมืองผสมผสาน จากภูเขาและทะเลสาบไปจนถึงตึกสูงและย่านช้อปปิ้ง
📷สถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวันที่ไม่ควรพลาด
แม้ไต้หวันจะเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่ แต่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ สองแห่งต่อไปนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ ที่หลายคนยกให้เป็นเหตุผลหลักที่ควรมาเที่ยวไต้หวัน
ไทเป
- ตึกไทเป 101 - ตึกระฟ้าที่เคยสูงที่สุดในโลก จุดชมวิวมุมกว้างของเมือง
- วัดหลงซาน - วัดเก่าแก่ที่งดงาม เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศาสนา
- ซีเหมินติง - ย่านช้อปปิ้งและสตรีทแฟชั่นที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและบรรยากาศวัยรุ่น
ไถจง
- สวนกลางเมืองไถจง - สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับพักผ่อนและถ่ายรูป
- หมู่บ้านสายรุ้ง (Rainbow Village) - หมู่บ้านที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะสีสันสดใส
- National Taichung Theater - โรงละครสถาปัตยกรรมล้ำสมัย ผลงานของสถาปนิกโทโย อิโตะ
เกาสง
- โดมแห่งแสง (Dome of Light) - สถานีรถไฟใต้ดินที่มีผลงานกระจกสีสวยที่สุดในโลก
- ท่าเรือกลอรี (Glory Pier) - จุดชมวิวทะเลและแสงไฟยามค่ำคืน
- ตลาดกลางคืนลิ่วเหอ - ตลาดอาหารชื่อดังที่เต็มไปด้วยของกินพื้นเมือง
เกาหลีใต้

เกาหลีใต้ยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทยในปี 2025 ด้วยความใกล้ไทย เดินทางสะดวก และที่สำคัญคือเกาหลีใต้ได้ประกาศฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2025 ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถจัดทริปได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
เสน่ห์ของเกาหลีใต้คือการผสมผสานความทันสมัยเข้ากับความดั้งเดิมได้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในย่านสุดชิคของโซล เช่น ฮงแดหรือกังนัมที่เต็มไปด้วยแฟชั่นและไลฟ์สไตล์สุดล้ำ ขณะเดียวกันก็สามารถย้อนเวลาไปสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีแท้ๆ ที่พระราชวังเคียงบกกุงหรือหมู่บ้านบุกชอนฮันอกได้ในทริปเดียว
นอกจากนี้กระแส K-pop และ K-drama ยังคงเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดคนไทยให้ไปเยือนเกาหลีใต้ การเดินตามรอยซีรีส์ดัง หรือไปช้อปปิ้งเครื่องสำอางและสกินแคร์ชื่อดัง ถือเป็นกิจกรรมที่หลายคนตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม
อาหารเกาหลีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวติดใจ ไม่ว่าจะเป็นบิบิมบับ ต๊อกบกกี หรือหมูย่างเกาหลีร้อนๆ พร้อมโซจูเย็นๆ บรรยากาศการกินร่วมกับเพื่อนฝูงคือสิ่งที่หลายคนยกให้เป็นไฮไลต์ของทริป
📌จุดเด่นของการเที่ยวเกาหลีใต้ในปี 2025
- ฟรีวีซ่า เดินทางได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมเอกสาร
- ใกล้ไทย เดินทางเร็ว ใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงก็ถึงโซล
- ทันสมัยและดั้งเดิมในที่เดียว มีทั้งพระราชวังเก่าแก่และตึกระฟ้าในเมืองใหญ่
- K-pop & K-drama จุดหมายในฝันของแฟนคลับทั่วโลก
- อาหารรสจัดจ้าน เมนูท้องถิ่นที่ถูกปากคนไทยและหลากหลายให้เลือก
📷สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ที่ไม่ควรพลาด
เกาหลีใต้ไม่ได้มีดีแค่โซลหรือวัฒนธรรมบันเทิง แต่ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนทั้งความงดงามทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ไม่ธรรมดา สองแห่งต่อไปนี้ถือว่าเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวควรไปสัมผัสด้วยตนเอง
โซล
- พระราชวังเคียงบกกุง - พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้
- ตลาดเมียงดง - แหล่งช้อปปิ้งเครื่องสำอางและแฟชั่น
- โซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower) - จุดชมวิวเมืองยอดนิยมบนภูเขานัมซาน
ปูซาน
- หาดแฮอุนแด - หาดชื่อดัง เหมาะกับการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน
- วัดแฮดง ยงกุงซา - วัดริมทะเลที่งดงามและเงียบสงบ
- ตลาดปลาจากัลชิ - ตลาดอาหารทะเลสดที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้
อินชอน
- ไชน่าทาวน์อินชอน - ศูนย์รวมวัฒนธรรมจีนในเกาหลี
- สวนสาธารณะซองโด - สวนที่สวยงามเหมาะสำหรับเดินเล่น
- สะพานอินชอน - สะพานแขวนขนาดใหญ่ เชื่อมสนามบินกับตัวเมือง
สิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ถึงแม้มีพื้นที่ไม่ใหญ่นัก แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศในทุกปี สำหรับปี 2025 สิงคโปร์ยังคงติดอันดับหนึ่งในประเทศยอดฮิตของคนไทย ด้วยเหตุผลที่ทั้งใกล้บ้านเดินทางง่าย และใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงนิดๆ จากกรุงเทพฯ
สิ่งที่ทำให้สิงคโปร์น่าสนใจคือการเป็นเมืองที่สะอาด ปลอดภัย และเต็มไปด้วยความทันสมัย เมืองเล็กๆ แห่งนี้สามารถรวบรวมทุกอย่างไว้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นตึกสูงระฟ้า สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงย่านช้อปปิ้งระดับโลกบนถนนออร์ชาร์ด
นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งจีน มาเลย์ อินเดีย และตะวันตกที่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว ทำให้คุณได้สัมผัสทั้งอาหาร สถาปัตยกรรม และบรรยากาศที่ไม่ซ้ำใคร
อีกจุดแข็งคือความสะดวกในการท่องเที่ยว สิงคโปร์มีระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัยและครอบคลุม นักท่องเที่ยวสามารถใช้ MRT หรือรถบัสท่องเที่ยวได้ทั่วทั้งเกาะ อีกทั้งยังมีสภาพอากาศใกล้เคียงกับไทย ทำให้การปรับตัวไม่ใช่เรื่องยาก
📌จุดเด่นของการเที่ยวสิงคโปร์ในปี 2025
- เดินทางง่ายและรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
- ประเทศเล็กแต่ครบเครื่อง มีทั้งแหล่งช้อปปิ้ง สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์
- เมืองสะอาด ปลอดภัย ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีระเบียบที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
- ผสมผสานหลายวัฒนธรรม: ทำให้มีทั้งเทศกาล อาหาร และสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย
- ระบบขนส่งสะดวก MRT ครอบคลุม เดินทางท่องเที่ยวเองได้ง่าย
📷สถานที่ท่องเที่ยวในสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาด
สิงคโปร์เป็นประเทศที่ถึงจะเล็ก แต่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งธรรมชาติ สถาปัตยกรรมสุดล้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัวหรือคู่รัก การไปเยือนสองแห่งนี้ถือเป็นไฮไลต์ที่ช่วยให้คุณสัมผัสความครบเครื่องของสิงคโปร์ได้อย่างแท้จริง
มารีน่าเบย์
- Marina Bay Sands - โรงแรมหรูพร้อมสกายพาร์คและสระว่ายน้ำลอยฟ้า
- Gardens by the Bay - สวนพฤกษศาสตร์ล้ำสมัยที่มีซูเปอร์ทรีโดม
- Merlion Park - จุดแลนด์มาร์กที่มีสัญลักษณ์รูปปั้นเมอร์ไลออน
ไชน่าทาวน์
- Buddha Tooth Relic Temple - วัดจีนสถาปัตยกรรมอลังการ
- Maxwell Food Centre - ศูนย์อาหารชื่อดัง รวมเมนูท้องถิ่นสิงคโปร์
- Chinatown Heritage Centre - พิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องประวัติชุมชนจีนในสิงคโปร์
เกาะเซนโตซ่า
- Universal Studios Singapore - สวนสนุกธีมภาพยนตร์
- Adventure Cove Waterpark - สวนน้ำขนาดใหญ่ เหมาะกับครอบครัว
- S.E.A. Aquarium - อควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ฮ่องกง

ฮ่องกงยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายที่คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวมากที่สุดในปี 2025 ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งความสะดวกในการเดินทาง ระบบขนส่งสาธารณะทันสมัย และความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกวัย
ฮ่องกงเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างตึกสูงทันสมัยกับวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้ง ตลาดกลางคืนและย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ไปจนถึงวัดและศาลเจ้าที่มีอายุกว่าร้อยปี ทำให้ทุกทริปมีความหลากหลายไม่ซ้ำกัน
นอกจากทิวทัศน์และวัฒนธรรม ฮ่องกงยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่หลากหลาย ทั้งติ่มซำรสเลิศ อาหารทะเลสด และสตรีทฟู้ดที่ราคาไม่แพง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชิมได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ
สิ่งที่ทำให้ฮ่องกงสะดวกสำหรับคนไทยคือฟรีวีซ่า 14 วัน (เฉพาะผู้ถือพาสปอร์ตไทย) ทำให้วางแผนทริปสั้นๆ แบบไม่ยุ่งยาก อีกทั้งระบบ MTR และรถราง (Tram) ครอบคลุมเมืองเกือบทั้งหมด ทำให้การเดินทางภายในฮ่องกงง่ายและรวดเร็ว
📌จุดเด่นของการเที่ยวฮ่องกงในปี 2025
- ฟรีวีซ่า 14 วัน เดินทางสะดวก ไม่ต้องขอเอกสารยุ่งยาก
- ระบบขนส่งสะดวก MTR รถราง และรถเมล์ ครอบคลุมทุกย่าน
- ผสมผสานวัฒนธรรม ตึกสูงทันสมัยและวัดจีนดั้งเดิมอยู่ใกล้กัน
- อาหารหลากหลาย ติ่มซำ อาหารทะเล และสตรีทฟู้ดอร่อยทุกมื้อ
- เที่ยวได้ทั้งวัน จากตลาดกลางคืนไปจนถึงแหล่งช้อปปิ้งและสวนสนุก
🎉สถานที่ท่องเที่ยวในฮ่องกงที่ไม่ควรพลาด
ฮ่องกงเป็นเมืองที่รวมเอาความทันสมัย วัฒนธรรม และธรรมชาติไว้ในที่เดียว ทำให้แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่กลับเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย สองแห่งต่อไปนี้ถือเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด
เกาะฮ่องกง
- วิคตอเรียพีค - จุดชมวิวสูงสุดของเกาะ มองเห็นทิวทัศน์เมืองและอ่าว
- หาดรีพัลส์เบย์ - ชายหาดยอดนิยมสำหรับพักผ่อนและถ่ายรูป
- ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ - สวนสนุกธีมดิสนีย์ที่มีเครื่องเล่นสำหรับทุกวัย
เกาลูน
- Avenue of Stars - ถนนริมน้ำที่มีวิวตึกระฟ้าและไฟ Symphony of Lights
- วัดหวังไทซิน - วัดชื่อดังที่คนมาขอพรเรื่องสุขภาพและความรัก
- ตลาดเลดี้ส์มาร์เก็ต - ตลาดกลางคืนยอดนิยมของนักช้อป
นิวเทอร์ริทอรีส์
- ป้อมเก่า Fanling Walled Village - หมู่บ้านเก่าแก่สะท้อนวัฒนธรรมจีนโบราณ
- วัดชีหลิน (Chi Lin Nunnery) - วัดพุทธสง่างามท่ามกลางสวนแบบจีน
- สวนฮ่องกงเว็ตแลนด์ - แหล่งเรียนรู้และพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
จีน

จีนยังคงเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยในปี 2025 ด้วยเหตุผลที่หลากหลาย ทั้งความใหญ่ของประเทศ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก สำหรับคนไทย การเดินทางไปจีนยังสะดวก เนื่องจากมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองหลักหลายแห่ง และการขอวีซ่าจีน สามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้นในปัจจุบัน
เสน่ห์ของจีนอยู่ที่ความหลากหลายของภูมิประเทศและวัฒนธรรม ตั้งแต่เมืองใหญ่ที่ทันสมัยอย่างเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกว่างโจว ไปจนถึงธรรมชาติอันงดงามของแถบตะวันตก เช่น กุ้ยหลิน และเสฉวน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้ทั้ง ประวัติศาสตร์เก่าแก่ วัฒนธรรมดั้งเดิม และความทันสมัยที่ผสานกันอย่างลงตัว
อาหารจีนก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้หลายคนประทับใจ แต่ละภูมิภาคมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น เป็ดปักกิ่งจากปักกิ่ง เสี่ยวหลงเปาในเซี่ยงไฮ้ และหม้อไฟสไตล์เสฉวน ทำให้ทุกมื้อมีรสชาติและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้จีนยังเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวสายช้อปปิ้งไม่ควรพลาด ทั้งสินค้าพื้นเมือง งานฝีมือ และสินค้าทันสมัยหลากหลายประเภท
📌จุดเด่นของการเที่ยวจีนในปี 2025
- ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมหลากหลาย จากกำแพงเมืองจีนถึงวัดโบราณ
- ธรรมชาติที่งดงาม ภูเขา แม่น้ำ และทิวทัศน์ที่แตกต่างกันตามภูมิภาค
- เมืองใหญ่ทันสมัย เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กว่างโจว ครบเครื่องทั้งธุรกิจและท่องเที่ยว
- อาหารหลากหลาย รสชาติแตกต่างกันตามภูมิภาค
- ช้อปปิ้งไม่จำกัด สินค้าพื้นเมือง งานฝีมือ และสินค้านำเข้า
📷สถานที่ท่องเที่ยวในจีนที่ไม่ควรพลาด
จีนเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ทำให้แม้จะเดินทางเพียงครั้งเดียวก็สามารถสัมผัสความหลากหลายของประเทศได้ สองสถานที่ต่อไปนี้ถือเป็นไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
ปักกิ่ง
- กำแพงเมืองจีน (ด่านปาต้าหลิง) - หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์โลก
- พระราชวังกู้กง (Forbidden City) - พระราชวังโบราณที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด
- จัตุรัสเทียนอันเหมิน - แลนด์มาร์กทางการเมืองและประวัติศาสตร์สำคัญ
เซี่ยงไฮ้
- หอไข่มุกตะวันออก (Oriental Pearl Tower) - หอคอยสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้
- The Bund - ถนนเลียบแม่น้ำที่มีทิวทัศน์อาคารเก่าและตึกสูงตระการตา
- Disney Resort Shanghai - สวนสนุกดิสนีย์ที่ใหญ่และทันสมัย
ซีอาน
- กองทัพทหารดินเผา - มรดกโลกที่เป็นสุสานจักรพรรดิฉินซี
- กำแพงเมืองโบราณซีอาน - กำแพงเมืองที่อนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์
- มัสยิดใหญ่ซีอาน - สถาปัตยกรรมอิสลามผสมจีนที่สวยงาม
เวียดนาม

เวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยในปี 2025 ด้วยความใกล้ไทย เดินทางสะดวก และบรรยากาศที่ผสมผสานทั้งความเก่าแก่และความทันสมัย ทำให้เวียดนามเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทั้งทริปสั้นและทริปยาว
เวียดนามมีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรมและภูมิประเทศ ตั้งแต่เมืองใหญ่ที่มีชีวิตชีวาอย่างโฮจิมินห์และฮานอย ไปจนถึงธรรมชาติอันงดงามอย่างอ่าวฮาลอง และซาปา นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสทั้ง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมท้องถิ่น และธรรมชาติที่งดงามในทริปเดียว
อาหารเวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในจุดขายที่ทำให้หลายคนติดใจ ทั้ง เฝอ ข้าวเกรียบปากหม้อ และปอเปี๊ยะเวียดนาม ที่รสชาติสดชื่นและเหมาะกับคนไทย อีกทั้งตลาดพื้นเมืองและถนนคนเดินยังเต็มไปด้วยของที่ระลึก งานฝีมือ และสินค้าพื้นเมืองที่หาได้ง่าย
ระบบขนส่งในเมืองใหญ่ของเวียดนาม เช่น รถบัส และบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้เวียดนามยังเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและผจญภัยสามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น ปั่นจักรยาน ล่องเรือ หรือเดินป่า
📌จุดเด่นของการเที่ยวเวียดนามในปี 2025
- ใกล้ไทย เดินทางสะดวก มีเที่ยวบินตรงหลายเมืองหลัก
- วัฒนธรรมหลากหลาย เมืองเก่า ตลาดพื้นเมือง และหมู่บ้านชนเผ่า
- อาหารรสชาติอร่อย เฝอ ข้าวเกรียบปากหม้อ และอาหารพื้นเมือง
- ธรรมชาติสวยงาม อ่าวฮาลอง ซาปา และแม่น้ำโขง
- กิจกรรมหลากหลาย ปั่นจักรยาน ล่องเรือ และเดินป่า
🎉สถานที่ท่องเที่ยวในเวียดนามที่ไม่ควรพลาด
เวียดนามถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค สองแห่งต่อไปนี้ถือเป็นจุดหมายสำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
ฮานอย
- ทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake) - แลนด์มาร์กกลางเมืองที่โรแมนติก
- สุสานโฮจิมินห์ - อนุสรณ์สถานสำคัญของเวียดนาม
- Old Quarter - เขตเมืองเก่าเต็มไปด้วยร้านค้าและวัฒนธรรมดั้งเดิม
โฮจิมินห์ซิตี้
- โบสถ์นอร์ทเธอดาม - โบสถ์คาทอลิกสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส
- Ben Thanh Market - ตลาดเก่าแก่ที่รวมของกินและของฝาก
- พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) - พิพิธภัณฑ์เล่าประวัติศาสตร์สงครามเวียดนาม
ดานัง
- สะพานมังกร (Dragon Bridge) - สะพานรูปมังกรที่พ่นไฟได้ในวันหยุด
- หาดหมีเคว (My Khe Beach) - หาดทรายขาวน้ำใส
- บานาฮิลส์ (Ba Na Hills) - สถานที่ท่องเที่ยวบนภูเขาที่มี Golden Bridge อันโด่งดัง
ลาว

ลาวถือเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยในปี 2025 ด้วยความสงบ เรียบง่าย และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนหรือหาประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ประเทศลาวเต็มไปด้วยแม่น้ำใหญ่ ภูเขา และน้ำตกที่งดงาม นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือแม่น้ำโขง ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน และสำรวจเมืองเก่าเช่น หลวงพระบางหรือเวียงจันทน์ ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลและวัดวาอารามแบบลาวดั้งเดิม
อาหารลาวเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เช่น ลาบ ส้มตำไท และข้าวเหนียว ที่เสิร์ฟคู่กับสมุนไพรสด ทำให้ทุกมื้อมีรสชาติที่เข้มข้นและแตกต่างจากอาหารไทยเล็กน้อย
นอกจากธรรมชาติและอาหารแล้ว ลาวยังมีวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่น่าสนใจ เช่น การบูชาพระธาตุ งานเทศกาลบุญบั้งไฟ และการเยือนหมู่บ้านชนเผ่า ทำให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม
ระบบการเดินทางในลาวก็สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวไทย โดยสามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน รถบัส หรือเรือข้ามฝั่ง ทำให้สามารถวางแผนทริปสั้นๆ หรือทริปยาวตามความต้องการ
📌จุดเด่นของการเที่ยวลาวในปี 2025
- ธรรมชาติสวยงาม แม่น้ำโขง ภูเขา และน้ำตก
- วัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิม งานบุญบั้งไฟ และวัดวาอารามเก่า
- อาหารพื้นเมืองอร่อย ลาบ ส้มตำไท ข้าวเหนียว
- เมืองเก่าและหมู่บ้านชนเผ่า เรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น
- เดินทางสะดวกจากไทย ทั้งเครื่องบิน รถบัส และเรือ
📷สถานที่ท่องเที่ยวในลาวที่ไม่ควรพลาด
ลาวเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตดั้งเดิม ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สงบและน่าประทับใจ สองแห่งต่อไปนี้ถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาด
เวียงจันทน์
- ประตูชัย - อนุสรณ์สถานที่มีสถาปัตยกรรมคล้าย Arc de Triomphe
- พระธาตุหลวง - เจดีย์สีทองคู่บ้านคู่เมืองของลาว
- ตลาดเช้าเวียงจันทน์ - แหล่งซื้อของพื้นเมืองและผ้าไหมลาว
หลวงพระบาง
- วัดเชียงทอง - วัดที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของลาว
- น้ำตกกวางสี - น้ำตกสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ท่ามกลางธรรมชาติ
- ถนนคนเดินหลวงพระบาง - ตลาดกลางคืนที่เต็มไปด้วยของกินและงานหัตถกรรม
ปากเซ
- ที่ราบสูงโบลาเวน (Bolaven Plateau) - พื้นที่ปลูกกาแฟและน้ำตกสวยงาม
- วัดพู - มรดกโลกที่มีซากปรักหักพังศิลปะขอมโบราณ
- แม่น้ำโขงสีพันดอน - จุดท่องเที่ยวธรรมชาติพร้อมเกาะแก่งมากมาย
มาเลเซีย

มาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยในปี 2025 ด้วยเหตุผลที่หลากหลาย ทั้งความสะดวกในการเดินทาง เมืองทันสมัย และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้เหมาะทั้งทริปสั้นและทริปยาว
มาเลเซียมีความหลากหลายทางภูมิประเทศ ตั้งแต่เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึกสูงอย่าง กัวลาลัมเปอร์ ไปจนถึงเกาะสวยๆ เช่น ปีนังและลังกาวี ซึ่งเหมาะกับการพักผ่อนและกิจกรรมทางน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสทั้งความทันสมัยของเมืองและธรรมชาติที่งดงามในเวลาเดียวกัน
อาหารมาเลเซียถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์สำคัญ ด้วยการผสมผสานอาหารมาเลย์ จีน และอินเดีย ทำให้ได้รสชาติหลากหลาย เช่น นาซีเลอมัก, ร็อตติ และซุปข้าวโพด เครื่องเทศและรสชาติเข้มข้นของอาหารทำให้ผู้มาเยือนประทับใจไม่รู้ลืม
นอกจากนี้ มาเลเซียยังมี วัฒนธรรมและประเพณีหลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวัดฮินดู สุเหร่า และโบสถ์คริสต์ เพื่อเรียนรู้ความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมของประเทศ
ระบบขนส่งในเมืองใหญ่ของมาเลเซีย เช่น MRT, Monorail และรถเมล์ ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายช้อปปิ้งและผู้ที่ต้องการเที่ยวหลายเมือง
📌จุดเด่นของการเที่ยวมาเลเซียในปี 2025
- เมืองใหญ่ทันสมัย กัวลาลัมเปอร์และย่านช้อปปิ้งครบครัน
- เกาะและธรรมชาติสวยงาม ปีนัง ลังกาวี และอุทยานแห่งชาติ
- อาหารหลากหลายรสชาติ อาหารมาเลย์ จีน อินเดีย
- วัฒนธรรมและศาสนาหลากหลาย วัด ฮินดู สุเหร่า โบสถ์
- ระบบขนส่งสะดวก MRT Monorail และรถเมล์
📷สถานที่ท่องเที่ยวในมาเลเซียที่ไม่ควรพลาด
มาเลเซียเป็นประเทศที่รวมความทันสมัย วัฒนธรรม และธรรมชาติไว้ในที่เดียว ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์หลากหลาย สองสถานที่ต่อไปนี้ถือเป็นไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
กัวลาลัมเปอร์
- ตึกแฝดเปโตรนาส - สัญลักษณ์ของมาเลเซีย
- ถ้ำบาตู - ถ้ำหินปูนพร้อมรูปปั้นพระขันทกุมารขนาดใหญ่
- ตลาดกลาง (Central Market) - ตลาดศิลปะและของที่ระลึก
ปีนัง
- George Town - เมืองมรดกโลกยูเนสโก เต็มไปด้วยสตรีทอาร์ต
- Kek Lok Si Temple - วัดพุทธขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- Penang Hill - จุดชมวิวเมืองและทะเลสุดงดงาม
เกาะลังกาวี
- Langkawi Sky Bridge - สะพานโค้งบนยอดเขาที่มีวิวทะเล
- Eagle Square - จุดแลนด์มาร์กที่มีรูปปั้นนกอินทรีย์ขนาดใหญ่
- Pantai Cenang - หาดยอดนิยมสำหรับพักผ่อนและกิจกรรมทางน้ำ
จอร์เจีย

จอร์เจียเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวไทยเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นในปี 2025 ด้วยความที่อยู่ใกล้ยุโรปและเอเชีย ทำให้มีวัฒนธรรมผสมผสานทั้งตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว อีกทั้งธรรมชาติของประเทศนี้ยังงดงามและหลากหลาย ทั้งภูเขาสูง ทุ่งหญ้าเขียวขจี และชายฝั่งทะเลดำ
เมืองหลวงทบิลิซี (Tbilisi) เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของจอร์เจีย นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเมืองเก่า สะพานกระจก และโบสถ์เก่าแก่หลายแห่ง ในขณะเดียวกันก็มีคาเฟ่ ร้านอาหาร และแกลเลอรีทันสมัยให้เลือกเยี่ยมชม
อาหารจอร์เจียเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ เช่น ขนมปังชนิดพิเศษ khachapuri, เนื้อย่าง shashlik และไวน์ท้องถิ่น ที่มีชื่อเสียงระดับโลก การลิ้มรสอาหารพร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นช่วยให้การเดินทางน่าจดจำมากขึ้น
ธรรมชาติของจอร์เจียยังเหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย นักท่องเที่ยวสามารถปีนเขา เดินป่า หรือสำรวจหมู่บ้านชนบทที่เงียบสงบ การเดินทางในประเทศสะดวกด้วยรถบัส รถไฟ หรือรถเช่า ทำให้สามารถวางแผนทริปได้หลากหลาย
📌จุดเด่นของการเที่ยวจอร์เจียในปี 2025
- ภูมิประเทศหลากหลาย ภูเขา ทุ่งหญ้า และชายฝั่งทะเลดำ
- เมืองเก่าและวัฒนธรรม ทบิลิซี เมืองเก่า โบสถ์ และสะพานสวย ๆ
- อาหารและไวน์ท้องถิ่น Khachapuri, Shashlik และไวน์คุณภาพสูง
- กิจกรรมผจญภัย ปีนเขา เดินป่า และสำรวจหมู่บ้านชนบท
- เดินทางสะดวก รถบัส รถไฟ และรถเช่า
📷สถานที่ท่องเที่ยวในจอร์เจียที่ไม่ควรพลาด
จอร์เจียเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยภูมิประเทศหลากหลาย วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างในแต่ละภูมิภาค สองแห่งต่อไปนี้ถือเป็นไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด
ทบิลิซี
- โบสถ์ Sameba Cathedral - มหาวิหารใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย
- ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress) - ป้อมเก่าแก่ที่มองเห็นวิวเมือง
- สะพานแห่งสันติภาพ (Bridge of Peace) - สะพานกระจกสมัยใหม่สุดโดดเด่น
บาตูมี
- Batumi Boulevard - ทางเดินริมทะเลที่เต็มไปด้วยสวนสวย
- หอนาฬิกา Alphabetic Tower - หอสูงที่มีอักษรจอร์เจียรอบเสา
- Batumi Dolphinarium - สถานที่แสดงโชว์โลมาเหมาะกับครอบครัว
คูไทซี
- อารามเกลาติ (Gelati Monastery) - มรดกโลกที่มีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่
- ถ้ำ Prometheus Cave - ถ้ำหินปูนใหญ่พร้อมหินงอกหินย้อย
- โบสถ์ Bagrati Cathedral - พื้นที่สีเขียวสงบ เหมาะกับการพักผ่อน
เคล็ดลับท่องเที่ยวในประเทศฟรีวีซ่า

การเที่ยวประเทศที่คนไทยสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าในปี 2025 เป็นโอกาสดีที่ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ก็มีเทคนิคและเคล็ดลับหลายอย่างที่จะช่วยให้ทริปของคุณราบรื่น สนุก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
✅ วางแผนการเดินทางล่วงหน้า
- แม้จะไม่ต้องขอวีซ่า แต่การวางแผนล่วงหน้าช่วยให้ทริปไม่วุ่นวาย
- จองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้า
- วางแผนเส้นทางเที่ยว และเช็กเวลาทำการของสถานที่ท่องเที่ยว
- ตรวจสอบสภาพอากาศและฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศ
✅ เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
- แม้ไม่ต้องใช้วีซ่า แต่เอกสารพื้นฐานยังจำเป็น
- พาสปอร์ตที่มีอายุอย่างน้อย 6 เดือน
- ตั๋วเครื่องบินขาออกจากประเทศปลายทาง
- หลักฐานการเงินบางประเทศอาจขอตรวจสอบ
✅ ใช้เทคโนโลยีช่วยวางแผน
- ปัจจุบันหลายประเทศมี แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ข้อมูลนักท่องเที่ยว
- ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ เช่น Google Maps, Maps.me
- ใช้แอปจองรถ รับส่ง และร้านอาหาร
- ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวและคำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัย
✅ ทำความรู้จักวัฒนธรรมท้องถิ่น
- การเคารพวัฒนธรรมช่วยให้การท่องเที่ยวราบรื่น
- เรียนรู้มารยาทพื้นฐาน เช่น การแต่งกาย การไหว้ หรือการสื่อสาร
- เข้าใจประเพณีท้องถิ่น เช่น วันหยุด ศาสนา หรือพิธีกรรมสำคัญ
✅ จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด
- แม้บางประเทศจะค่าครองชีพต่ำ แต่ควรเตรียมตัวให้ดี
- แลกเงินหรือใช้บัตรเครดิต/เดบิตที่ยอมรับในประเทศนั้น
- วางงบประมาณรายวันสำหรับอาหาร การเดินทาง และกิจกรรม
- หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น เช่น ของที่ระลึกราคาแพง
✅ รักษาความปลอดภัยและสุขภาพ
- การท่องเที่ยวปลอดภัยช่วยให้สนุกยาวนาน
- เก็บเอกสารสำคัญและเงินสดให้ปลอดภัย
- พกยาประจำตัวและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- ตรวจสอบประกันเดินทางและข้อมูลการรักษาพยาบาลในต่างประเทศ
✅ ใช้เวลาสำรวจนอกเส้นทาง
- ประเทศฟรีวีซ่ามักมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแบบ
- ลองเดินชมเมืองเก่า ตลาดท้องถิ่น และหมู่บ้านชนบท
- ลองชิมอาหารพื้นเมืองและเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม
- ถ่ายภาพและจดบันทึกเพื่อเก็บความทรงจำ
เริ่มต้นการเดินทางของคุณได้เลย
การเที่ยวประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าในปี 2025 เป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลา ทำให้ผู้เดินทางสามารถมุ่งเน้นไปที่การวางแผนทริปและสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทั้งการชม ธรรมชาติสวยงาม วัฒนธรรมท้องถิ่น อาหารพื้นเมือง และกิจกรรมผจญภัย จากบทความทuj Trip.com เพื่อนๆ สามารถเลือกประเทศและสถานที่ท่องเที่ยวที่ตรงกับความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวเมืองใหญ่ เที่ยวเกาะ หรือสัมผัสชีวิตชนบท นอกจากนี้การวางแผนล่วงหน้า การเตรียมเอกสารและสุขภาพ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีช่วย จะทำให้ทริปของเพื่อนๆ ปลอดภัย สนุก และน่าจดจำ ที่สำคัญการเดินทางไปประเทศฟรีวีซ่าไม่เพียงแค่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นโอกาสให้เพื่ออนๆ ได้เปิดโลกใหม่ สร้างความทรงจำ และสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า
ไปเที่ยวจีนต้องขอวีซ่าไหม
คนไทยไปจีนไม่ต้องขอวีซ่าPassport ประเทศไหนดีสุด
สิงคโปร์หนังสือเดินทางประเทศไทยมีกี่แบบ
4 ประเภทหลักๆ ได้แก่ หนังสือเดินทางทูต, หนังสือเดินทางราชการ, หนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป, และหนังสือเดินทางชั่วคราว


