วีซ่าเกาหลี 2568 เตรียมตัวเที่ยวแบบมือโปร เลือกแบบไหนให้เหมาะกับทริป

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
ภาพปก

เกาหลีใต้ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยทั้ง วัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ ธรรมชาติสวยงาม และสถานที่ท่องเที่ยวทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงโซล เมืองชายฝั่งปูซาน หรือสวนสนุกชื่อดัง แต่ก่อนจะเริ่มทริป การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ วีซ่า การยื่น K-ETA เอกสารสำคัญ และข้อควรรู้ก่อนเดินทาง ถือเป็นสิ่งจำเป็น Trip.com ขอรวบรวมข้อมูลอัปเดตปี 2025 ที่ครอบคลุมทั้งหมด เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถวางแผนทริปเกาหลีได้อย่างมั่นใจและราบรื่น

🔍 คนไทยต้องขอวีซ่าเกาหลีไหม?

เกาหลี

สำหรับผู้ถือพาสปอร์ตไทยที่วางแผนไปเที่ยวเกาหลีในปี 2025 เรื่องวีซ่าคือหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อให้การเดินทางราบรื่นไม่ติดปัญหาที่สนามบิน โดยพื้นฐานแล้วคนไทยสามารถเข้าเกาหลีเพื่อท่องเที่ยวระยะสั้นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าแบบดั้งเดิม แต่จะต้องดำเนินการ ลงทะเบียน K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

📃สรุปแบบหัวข้อสำคัญ

  • คนไทยไปเที่ยวระยะสั้นเข้าประเทศเกาหลีได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าสติ๊กเกอร์ แต่ต้องยื่น K-ETA ออนไลน์ และได้รับอนุมัติก่อนขึ้นเครื่อง
  • ระยะพำนักสูงสุด 90 วันต่อครั้ง (ยกเว้นมีข้อกำหนดพิเศษจาก ตม. ณ วันเข้าเมือง)
  • หาก K-ETA ไม่ผ่าน หรือจุดประสงค์ไม่ใช่ท่องเที่ยว ต้องยื่น วีซ่า C-3-9 กับสถานทูตเกาหลี
  • ควรเตรียมเอกสารเช่น ตั๋วเครื่องบิน, การจองที่พัก, แผนทริป, หลักฐานการเงิน, ประกันเดินทาง
  • K-ETA และวีซ่าเป็นกระบวนการต่างกัน ไม่สามารถใช้แทนกันได้

📋 ประเภทวีซ่าเกาหลีที่คนไทยควรรู้

เกาหลี

แม้ว่าคนไทยสามารถเข้าประเทศเกาหลีได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับท่องเที่ยวระยะสั้นผ่าน K-ETA แต่ในชีวิตจริงมีหลายกรณีที่ต้องยื่นวีซ่าแบบปกติ ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียน ทำงาน ดูงาน หรือเยี่ยมครอบครัว การเข้าใจประเภทวีซ่าที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ของเรา จะช่วยให้เตรียมเอกสารถูกต้องและลดความเสี่ยงถูกปฏิเสธ

ประเภท/โค้ด

ใช้เมื่อ

ตัวอย่างเอกสารสำคัญ

หมายเหตุ

C-3-9 (Tourist)

เที่ยว, เยี่ยมเพื่อนแบบเที่ยว

ไฟลต์เครื่องบินไป - กลับ, ใบจองโรงแรม, แผนทริป, หลักฐานเงิน

ระยะพำนักพื้นฐานที่สถานทูตไทยกำหนด 15 วัน แต่สามารถขยายได้ตามพิจารณา

C-3-1 (Business General)

ดูงาน, ประชุม, สัมมนา

หนังสือเชิญจากบริษัทในเกาหลี, ใบรับรองการทำงาน

ห้ามรับค่าจ้างในเกาหลี

C-3-4 (Medical Tourism)

ไปตรวจสุขภาพหรือรักษาพยาบาล

ใบยืนยันนัดจากโรงพยาบาล, หลักฐานการเงิน

อาจต้องแนบเอกสารแสดงค่าใช้จ่ายหรือประกันสุขภาพ

D-2 (Student)

เรียนระดับปริญญา

ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัย, หลักฐานเงิน, หนังสือรับรองการศึกษา

ระยะยาว ต้องสมัครผ่านพอร์ทัลวีซ่าออนไลน์

D-4 (Language/General Training)

เรียนภาษา, อบรม

ใบตอบรับสถาบัน, หลักฐานการเงิน, แผนการเรียน

บางหลักสูตรต้องแนบแผนการเรียนละเอียด

E-7 (Specialty Occupation)

ทำงานทักษะเฉพาะ

สัญญาจ้าง, ใบอนุญาตทำงาน

ใช้สำหรับผู้มีทักษะเฉพาะ ไม่ใช่ทำงานพาร์ทไทม์

F-6 (Spouse of Korean)

คู่สมรสชาวเกาหลี

ทะเบียนสมรส, หลักฐานความสัมพันธ์

อาจมีขั้นตอนสัมภาษณ์/ตรวจเอกสารเข้มข้น

🗒️เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นวีซ่าเกาหลี

เกาหลี

สำหรับคนไทยที่วางแผนเดินทางไปเกาหลีและ K-ETA ไม่ผ่านหรือไม่ได้เข้าข่ายยกเว้นวีซ่า จะต้องยื่น วีซ่า C-3-9 (Tourist Visa) กับสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตั้งแต่แรกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การพิจารณารวดเร็ว ลดโอกาสถูกปฏิเสธ

เอกสาร

รายละเอียด

แบบฟอร์มคำร้องวีซ่า

ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์สถานทูตเกาหลี กรอกให้ครบถ้วน เซ็นชื่อเรียบร้อย

หนังสือเดินทาง (Passport)

อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน, มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า พร้อมสำเนาหน้าเลขที่

รูปถ่าย

ขนาดพาสปอร์ต, พื้นหลังอ่อน, ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน, หน้าตรงไม่สวมแว่นดำ

แผนการเดินทาง (Itinerary)

รายละเอียดวันที่เดินทาง เมืองที่ไป กิจกรรมหลักที่วางแผนไว้

ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ

ใช้หลักฐานการจองตั๋วจริงหรือเอกสารยืนยันการซื้อตั๋วแล้ว

หลักฐานที่พัก

ใบจองโรงแรมหรือที่พักทุกคืนที่เดินทางไป

หลักฐานการทำงาน/การเรียน

สำหรับผู้ทำงาน: หนังสือรับรองการทำงาน, สลิปเงินเดือน ล่าสุด 3 เดือนสำหรับนักเรียน: ใบรับรองสถานศึกษา

หลักฐานการเงิน

สเตทเมนต์บัญชีธนาคารย้อนหลัง 3–6 เดือน แสดงยอดคงเหลือเพียงพอสำหรับทริป

ประกันเดินทาง

ครอบคลุมช่วงเดินทาง, รวมโรค/อุบัติเหตุ แนะนำให้ซื้อประกันที่ยอมรับสากล

เอกสารเสริมอื่น ๆ

เช่น หลักฐาน K-ETA ไม่ผ่าน (ถ้ามี), จดหมายเชิญจากเกาหลี (ถ้าไปเยี่ยมเพื่อนหรือญาติ)

🗒️ ยื่นวีซ่าเกาหลีที่ไหน?

เกาหลี

สำหรับคนไทยที่ต้องยื่นวีซ่าเกาหลีแบบดั้งเดิม (C-3-9 หรือประเภทอื่นๆ) สถานที่ยื่นหลักอยู่ที่ สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ การรู้ตำแหน่ง วันเวลา และขั้นตอนอย่างชัดเจน จะช่วยให้การยื่นเอกสารสะดวก รวดเร็ว และลดความสับสน

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานที่ยื่น

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานที่ยื่น

ข้อมูลเพิ่มเติม

📥 ที่ตั้ง

สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย 23 ถนนเทียมร่วมมิตร รัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 อยู่ใกล้ MRT สถานีห้วยขวาง เดินทางสะดวกด้วยแท็กซี่หรือรถสาธารณะ

📥 วันและเวลายื่นเอกสาร

รับยื่นช่วง 08.30 - 11.00 น. (จันทร์ - ศุกร์ เว้นวันหยุดราชการไทยและเกาหลี)

📥 ขั้นตอนการยื่น

1. เตรียมเอกสารครบถ้วน

2. ตรวจสอบเอกสารโดยเจ้าหน้าที่

3. ชำระค่าธรรมเนียม

4. รับใบเสร็จและกำหนดวันรับเล่ม

📥 รับเล่มและตรวจผล

ตรวจสอบสถานะผ่านเว็บไซต์ visa.go.kr

รับหนังสือเดินทางช่วง 13.30 - 15.00 น. (วันทำการเดียวกัน)

📥 ข้อควรระวัง

- วัตถุประสงค์ไม่ใช่ท่องเที่ยว: แจ้งเจ้าหน้าที่และเตรียมเอกสารเพิ่มเติม

- อย่าสับสนกับศูนย์รับยื่นวีซ่าของเกาหลีในต่างประเทศ (KVAC)

📥 คำแนะนำเพิ่มเติม

ตรวจสอบประกาศล่าสุดจาก

 เว็บไซต์สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย 

ก่อนเดินทาง


💵 ค่าธรรมเนียมหลักในการยื่นวีซ่าเกาหลี

เกาหลี

เมื่อยื่นวีซ่าเกาหลีประเภทต่างๆ สิ่งที่ผู้สมัครต้องเตรียมคือค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันตามประเภทวีซ่าและระยะเวลาการพำนัก การรู้ค่าธรรมเนียมล่วงหน้าจะช่วยให้วางแผนค่าใช้จ่ายได้ถูกต้อง และลดความสับสนขณะยื่นเอกสาร ค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่จะชำระเป็นเงินบาทที่สถานทูต โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนตามประกาศล่าสุดของสถานทูตเกาหลีในประเทศไทย

ประเภทวีซ่า

ระยะพำนัก

ค่าธรรมเนียม (บาท)

หมายเหตุ

C-3-9 (Tourist)

สั้น ≤ 15 วัน

1,000 - 1,200

ราคาประมาณ ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน

C-3-1 (Business General)

≤ 90 วัน

1,500

สำหรับประชุม/ดูงาน ไม่รับค่าจ้าง

C-3-4 (Medical Tourism)

≤ 90 วัน

1,200

ต้องแนบเอกสารจากโรงพยาบาล

D-2 (Student)

> 90 วัน

2,500 - 3,000

ใช้สำหรับเรียนระดับปริญญา

D-4 (Language/General Training)

> 90 วัน

2,000 - 2,500

สำหรับเรียนภาษา/ฝึกอบรม

E-7 (Specialty Occupation)

ตามสัญญาจ้าง

3,000 - 3,500

ใช้สำหรับทำงานทักษะเฉพาะ

F-6 (Spouse of Korean)

ระยะยาว

3,000

ต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์และเอกสารเพิ่มเติม

💻 ขั้นตอนการขอวีซ่าเกาหลี

Travel Korea Official Website

Source: Travel Korea Official Website

การขอวีซ่าเกาหลีสำหรับคนไทยแม้จะมีหลายประเภท แต่สำหรับ C-3-9 (ท่องเที่ยว) หรือประเภทอื่นๆ หลักการและขั้นตอนทั่วไปค่อนข้างคล้ายกัน การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องจะช่วยให้การยื่นวีซ่าเรียบร้อย ลดโอกาสถูกปฏิเสธ

1.ตรวจสอบประเภทวีซ่าที่เหมาะสม

  • กำหนดวัตถุประสงค์การเดินทางให้ชัดเจน เช่น ท่องเที่ยว, ดูงาน, เรียน, เยี่ยมครอบครัว
  • เลือกประเภทวีซ่าที่ตรงกับจุดประสงค์ เช่น C-3-9 สำหรับท่องเที่ยว, C-3-1 สำหรับดูงาน, D-2 สำหรับเรียนปริญญา

2.เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน

  • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำร้องจากเว็บไซต์สถานทูต
  • เตรียมหนังสือเดินทาง, รูปถ่าย, แผนการเดินทาง, ตั๋วเครื่องบิน, หลักฐานที่พัก, หลักฐานการเงิน และเอกสารเสริมตามประเภทวีซ่า

3.ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า

  • เตรียมเงินสดตามอัตราที่สถานทูตกำหนด
  • ค่าธรรมเนียมไม่สามารถคืนได้ในทุกกรณี

4.ยื่นเอกสารที่สถานทูต

  • สถานที่ยื่นหลักคือสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย
  • วันและเวลาจันทร์ - ศุกร์, เวลา 08.30 - 11.00 น.
  • เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ตรวจสอบความครบถ้วน และรับใบเสร็จค่าธรรมเนียม

5.ตรวจสอบสถานะวีซ่า

  • สามารถติดตามผลผ่านเว็บไซต์ visa.go.kr
  • ใช้เลขใบเสร็จหรือรหัสคำร้องที่ได้รับหลังยื่นเอกสาร

6.รับหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่า

  • หลังจากอนุมัติ เจ้าหน้าที่จะนัดรับหนังสือเดินทาง
  • เวลารับเล่มมักช่วง 13.30 - 15.00 น. ของวันทำการเดียวกัน
  • ตรวจสอบข้อมูลวีซ่า เช่น วันที่เริ่มต้น - หมดอายุ, ประเภทวีซ่า และเงื่อนไขพำนัก

7.ข้อควรระวังเพิ่มเติม

  • อย่ายื่นเอกสารขาดหรือไม่ตรงตามประเภทวีซ่า
  • เอกสารใดไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่อาจเรียกเอกสารเพิ่มเติม
  • หากเดินทางมากกว่า 90 วัน หรือทำงาน/เรียน ต้องยื่นวีซ่าประเภทที่เหมาะสม

📂 ระยะเวลาดำเนินการขอวีซ่าเกาหลี

เกาหลี

เมื่อเตรียมเอกสารครบและยื่นขอวีซ่าเกาหลีแล้ว เรื่องระยะเวลาในการดำเนินการ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องรู้ เพื่อวางแผนการเดินทางได้ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงความล่าช้าก่อนวันเดินทาง

ระยะเวลาโดยประมาณ

📌 วีซ่าท่องเที่ยว (C-3-9)

  • ปกติ 3 - 7 วันทำการ หลังจากยื่นเอกสารครบถ้วน
  • หากมีเอกสารไม่ครบหรือข้อมูลต้องตรวจสอบเพิ่มเติม อาจใช้เวลา สูงสุด 10 วันทำการ
  • แนะนำยื่นก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 2 - 3 สัปดาห์ เพื่อเผื่อกรณีฉุกเฉิน

📌 วีซ่าธุรกิจ/ดูงาน (C-3-1, C-3-4)

  • ระยะเวลาโดยทั่วไป 5 - 10 วันทำการ ขึ้นอยู่กับเอกสารจากบริษัทหรือโรงพยาบาลในเกาหลี
  • การตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติมจากองค์กรเกาหลีอาจทำให้ล่าช้า

📌 วีซ่านักเรียน (D-2, D-4):

  • สำหรับผู้เรียนปริญญาหรือหลักสูตรระยะยาว ใช้เวลาประมาณ 10 - 15 วันทำการ
  • บางกรณีอาจต้องตรวจสอบคุณสมบัติทางการเงินและเอกสารของสถาบันที่เรียน

📌 วีซ่าทำงาน (E-7, F-6)

  • ระยะเวลาเฉลี่ย 2 - 4 สัปดาห์
  • จำเป็นต้องตรวจสอบเอกสารสัญญาจ้างและใบอนุญาตทำงาน
  • การดำเนินการบางกรณีอาจยาวกว่า 1 เดือน

เคล็ดลับสำคัญเกี่ยวกับระยะเวลา

📌 เผื่อเวลาล่วงหน้า

  • ยื่นวีซ่าก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 2 - 4 สัปดาห์
  • สำหรับกรณีเร่งด่วน สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่สถานทูต แต่ไม่มีการรับประกัน

📌 ติดตามผลออนไลน์

  • ใช้ระบบติดตามผ่าน visa.go.kr
  • จะเห็นสถานะคำร้องว่าอยู่ในขั้นตอนใด เช่น อยู่ระหว่างตรวจเอกสาร หรืออนุมัติแล้ว

📌 ปัจจัยที่อาจทำให้ล่าช้า

  • เอกสารไม่ครบหรือไม่ชัดเจน
  • ข้อมูลทางการเงินหรือแผนการเดินทางไม่ตรงตามหลักเกณฑ์
  • วันหยุดราชการทั้งของไทยและเกาหลี

📌 คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว

  • วางแผนยื่นวีซ่าล่วงหน้าเสมอ
  • เก็บสำเนาเอกสารและใบเสร็จค่าธรรมเนียมเผื่อเจ้าหน้าที่ขอดู
  • ตรวจสอบวันและเวลาเปิดรับยื่นของสถานทูตก่อนเดินทาง

🛬 K-ETA คืออะไร

K-ETA

สำหรับคนไทยที่วางแผนไปเที่ยวเกาหลีในปี 2025 หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) เพราะเป็นระบบอนุญาตเข้าประเทศแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่แทนการขอวีซ่าแบบดั้งเดิมในกรณีท่องเที่ยวระยะสั้น

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ K-ETA

✈️ K-ETA คือ

  • ระบบอนุญาตการเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ที่เข้าประเทศเกาหลีโดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับท่องเที่ยวระยะสั้น หรือทำธุรกิจสั้นๆ
  • อนุมัติการเข้าประเทศล่วงหน้า โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทันทีเมื่อขึ้นเครื่อง

✈️ ระยะเวลาพำนัก

  • สำหรับคนไทยที่ถือ K-ETA สามารถพำนักในเกาหลีไม่เกิน 90 วันต่อครั้ง
  • ไม่สามารถใช้ K-ETA สำหรับการทำงาน เรียน หรือพำนักระยะยาว

✈️ ความสำคัญของ K-ETA

  • ผู้เดินทางต้องได้รับอนุมัติก่อนขึ้นเครื่อง หากไม่มี K-ETA หรือไม่ได้รับอนุมัติ จะไม่สามารถขึ้นเครื่องบินไปเกาหลีได้
  • K-ETA เป็นเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ต้องติดสติ๊กเกอร์ในหนังสือเดินทาง

✈️ คุณสมบัติของผู้สมัคร

  • ต้องถือพาสปอร์ตไทยที่ยังไม่หมดอายุ
  • จุดประสงค์การเดินทางต้องเป็น ท่องเที่ยว หรือธุรกิจสั้น
  • ไม่มีประวัติถูกปฏิเสธการเข้าเกาหลีหรือปัญหาทางกฎหมาย

✈️ ระยะเวลาอนุมัติ

  • ปกติ K-ETA จะได้รับผล ภายใน 24 - 72 ชั่วโมง หลังยื่นออนไลน์
  • แนะนำให้ยื่นอย่างน้อย 3 วันล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง

✈️ ค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมประมาณ 10,000 - 12,000 วอน ต่อการสมัคร 1 ครั้ง
  • ชำระออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตหรือวิธีที่เว็บไซต์ K-ETA กำหนด

✈️ ข้อควรระวัง

  • ข้อมูลที่กรอกต้องถูกต้องตรงกับพาสปอร์ต
  • K-ETA มีอายุ 2 ปี หรือจนกว่าพาสปอร์ตหมดอายุ แล้วแต่กรณี
  • หากเดินทางหลายครั้งภายในระยะเวลาอนุมัติ ไม่ต้องยื่นซ้ำ หากข้อมูลไม่เปลี่ยน

📝 เอกสารที่ต้องใช้ในการขอ K-ETA

K-ETA

แม้ว่า K-ETA จะเป็นระบบออนไลน์และสะดวกกว่าแบบวีซ่าดั้งเดิม แต่ผู้สมัครก็ต้องเตรียมเอกสารและข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน เพื่อให้การอนุมัติราบรื่นและไม่มีปัญหาในการเดินทาง

เอกสาร/ข้อมูล

รายละเอียด

หมายเหตุ

พาสปอร์ต

ข้อมูลในพาสปอร์ตต้องถูกต้องและยังไม่หมดอายุ

ใช้เลขพาสปอร์ต วันหมดอายุ และประเทศออกพาสปอร์ต

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, เพศ, สัญชาติ, ที่อยู่

ต้องตรงกับพาสปอร์ตทุกประการ

ข้อมูลการติดต่อ

อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์

ระบบจะส่งผลอนุมัติ K-ETA ไปยังอีเมล

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่เดินทาง, จุดเข้าเมืองแรกในเกาหลี

หากยังไม่แน่นอน สามารถแก้ไขได้ก่อนการเดินทาง

ข้อมูลอาชีพ

อาชีพปัจจุบัน, ชื่อบริษัท/สถานศึกษา

สำหรับตรวจสอบคุณสมบัติผู้เดินทาง

ประวัติเดินทางและประวัติอาชญากรรม

ตอบคำถามเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธวีซ่าหรือคดีความ

ต้องตอบตรงตามความจริง

รูปถ่ายดิจิทัล (กรณีจำเป็น)

ขนาดตามที่เว็บไซต์ K-ETA กำหนด

บางกรณีระบบอาจขออัปโหลดรูปหน้าตรง

ชำระค่าธรรมเนียมออนไลน์

บัตรเครดิตหรือวิธีชำระที่ K-ETA กำหนด

ค่าธรรมเนียมประมาณ 10,000 - 12,000 วอน

📋 ขั้นตอนการขอ K-ETA

K-ETA

การขอ K-ETA สำหรับคนไทยเป็นกระบวนการออนไลน์ทั้งหมด ทำให้สะดวก รวดเร็ว และไม่ยุ่งยากเหมือนการยื่นวีซ่าแบบดั้งเดิม แต่การกรอกข้อมูลและปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องก็ยังสำคัญ เพื่อให้ได้รับอนุมัติทันก่อนวันเดินทาง

1.เข้าเว็บไซต์ K-ETA

  • ไปที่เว็บไซต์ทางการของ Korea Electronic Travel Authorization https://www.k-eta.go.kr/portal/newapply/index.do
  • เลือกเมนูสมัครสำหรับผู้เดินทางต่างชาติ

2.กรอกข้อมูลส่วนตัว

  • กรอกชื่อ - นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, เพศ, สัญชาติ, ที่อยู่
  • ข้อมูลต้องตรงกับพาสปอร์ตทุกประการ

3.กรอกข้อมูลพาสปอร์ต

  • หมายเลขพาสปอร์ต, วันที่ออก, วันหมดอายุ
  • ระบุประเทศที่ออกพาสปอร์ต

4.กรอกรายละเอียดการเดินทาง

  • วันที่เดินทาง, จุดเข้าประเทศแรกในเกาหลี
  • หากยังไม่แน่นอน สามารถแก้ไขได้ก่อนวันเดินทาง

5.กรอกข้อมูลอาชีพและประวัติส่วนตัว

  • อาชีพปัจจุบัน, ชื่อบริษัท/สถานศึกษา
  • ตอบคำถามเกี่ยวกับประวัติการเดินทางและประวัติอาชญากรรม

6.อัปโหลดรูปถ่ายดิจิทัล (ถ้ามี)

  • ตามขนาดและข้อกำหนดของระบบ
  • หน้าตรง พื้นหลังอ่อน และชัดเจน

7.ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทุกอย่างถูกต้องและตรงกับเอกสาร
  • ข้อมูลผิดพลาดอาจทำให้ K-ETA ถูกปฏิเสธ

8.ชำระค่าธรรมเนียมออนไลน์

  • ใช้บัตรเครดิตหรือวิธีชำระที่ระบบกำหนด
  • ค่าธรรมเนียมประมาณ 10,000 - 12,000 วอน

9.ส่งคำขอและรอผลอนุมัติ

  • ปกติจะได้รับผลภายใน 24 - 72 ชั่วโมง
  • แนะนำยื่นอย่างน้อย 3 วันก่อนวันเดินทาง

10.ตรวจสอบผลออนไลน์

  • สามารถตรวจสอบสถานะคำขอและดาวน์โหลดใบอนุมัติ
  • พิมพ์หรือเก็บอีเมลยืนยันการอนุมัติไว้ขณะเดินทาง

11.เดินทางเข้าสู่เกาหลี

  • แสดง K-ETA ในมือถือหรือพิมพ์เป็นหลักฐานที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
  • เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และอนุญาตเข้าประเทศ

📂 ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปเกาหลี

เกาหลี

การวางแผนและเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเดินทางไปเกาหลี จะช่วยให้ทริปราบรื่น ปลอดภัย และสนุกสนานมากยิ่งขึ้น สำหรับคนไทยที่เดินทางในปี 2025 มีข้อมูลสำคัญที่ควรทราบดังนี้

📌 เอกสารการเดินทาง

  • ตรวจสอบพาสปอร์ตต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
  • หากเดินทางด้วย K-ETA ต้องยื่นและได้รับอนุมัติก่อนขึ้นเครื่อง
  • สำหรับผู้ที่ต้องยื่นวีซ่าแบบดั้งเดิม ต้องเตรียมเอกสารครบถ้วนและตรวจสอบวันนัดหมาย

📌 สกุลเงินและการเงิน

  • เงินวอนเกาหลี (KRW) เป็นสกุลเงินหลัก
  • แนะนำแลกเงินบางส่วนเป็นวอนก่อนเดินทาง และใช้บัตรเครดิต/เดบิตที่ยอมรับในเกาหลี
  • บัตร ATM ส่วนใหญ่รับบัตรต่างชาติ แต่ควรแจ้งธนาคารไทยก่อนเดินทาง

📌 สภาพอากาศและเสื้อผ้า

  • เกาหลีมี 4 ฤดูชัดเจน
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) อากาศร้อนชื้น
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) อากาศหนาวจัด ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาว
  • เสื้อผ้าตามฤดูกาลช่วยให้เที่ยวสบายและถ่ายรูปสวย

📌 การเดินทางภายในเกาหลี

  • ระบบขนส่งสาธารณะสะดวก เช่น รถไฟใต้ดิน (Subway), รถบัส, Taxi
  • ควรซื้อ T-money card สำหรับสะดวกจ่ายค่ารถไฟ/รถบัส
  • Google Maps และ Naver Map ช่วยวางแผนเส้นทางได้แม่นยำ

📌 ภาษาและการสื่อสาร

  • ภาษาเกาหลีเป็นหลัก การสื่อสารภาษาอังกฤษยังใช้ได้ในพื้นที่ท่องเที่ยว
  • ดาวน์โหลดแอปแปลภาษา เช่น Papago หรือ Google Translate เพื่อช่วยสื่อสาร

📌 วัฒนธรรมและมารยาท

  • การคำนับเล็กน้อยและกล่าวขอบคุณ (감사합니다) เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ
  • ห้ามทิ้งขยะในที่สาธารณะโดยไม่แยกประเภท
  • การต่อคิวและให้ความเคารพผู้อื่นเป็นเรื่องสำคัญ

📌 สุขภาพและความปลอดภัย

  • แนะนำทำประกันการเดินทางครอบคลุมโรค/อุบัติเหตุ
  • เก็บยาและเวชภัณฑ์พื้นฐาน เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้หวัด
  • หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงในเวลากลางคืน

📌 ข้อจำกัดและกฎหมายท้องถิ่น:

  • ห้ามนำสิ่งของต้องห้าม เช่น ยาเสพติดเข้าประเทศ
  • การดื่มสุรากลางแจ้งบางพื้นที่ผิดกฎหมาย
  • ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

🏬 ที่เที่ยวเกาหลีแนะนำ

🛩️1. Haeundae Blueline Park (แฮอุนแด บลูไลน์ พาร์ค)

เกาหลี

Haeundae Blueline Park ตั้งอยู่ในเขตแฮอุนแด เมืองปูซาน เป็นจุดชมวิวทะเลที่มีเสน่ห์ด้วยเส้นทางรถไฟเลียบชายฝั่งที่ทอดยาวตลอดแนวทะเล คุณสามารถนั่ง Sky Capsule ชมวิวมหาสมุทรแปซิฟิกแบบ 360 องศา หรือเดินเล่นบนสะพานไม้ริมทะเลพร้อมถ่ายรูปสวยๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารทะเลสดให้ชิม ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานธรรมชาติและความสนุกได้อย่างลงตัว

🛩️ หอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower)

เกาหลี

หอคอยเอ็นโซลตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน ใจกลางกรุงโซล เป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวเมืองแบบ 360 องศา ทั้งกลางวันและยามค่ำคืน ภายในหอคอยมีร้านอาหาร คาเฟ่ และจุดถ่ายรูป Love Locks สัญลักษณ์คู่รักที่แขวนแม่กุญแจเพื่อแสดงความรัก การขึ้นหอคอยเอ็นโซลไม่เพียงแต่ชมวิวสวยๆ แต่ยังสัมผัสวัฒนธรรมและบรรยากาศโรแมนติกของเมืองโซลได้อย่างเต็มที่

🛩️ เอเวอร์แลนด์ (Everland)

เกาหลี

เอเวอร์แลนด์ ตั้งอยู่ที่เมืองยงอิน ห่างจากโซลประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่เหมาะกับทุกวัย มีโซนธีมหลากหลาย เช่น Global Fair, American Adventure และ Zootopia พร้อมเครื่องเล่นสุดตื่นเต้นและโชว์พิเศษตามฤดูกาล เช่น งานดอกไม้ไฟหรืองานฮาโลวีน ไฮไลท์สำคัญคือรถไฟเหาะไม้ T-Express และการถ่ายรูปกับสัตว์ต่าง ๆ ภายในสวนสนุก ทำให้เอเวอร์แลนด์เป็นสถานที่ที่สร้างความสนุกสนานและความทรงจำที่ไม่ลืมสำหรับทุกคน

🧳เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวเกาหลี

เกาหลี

การเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเดินทางไปเกาหลี จะช่วยให้ทริปราบรื่น สนุก และปลอดภัย โดยเฉพาะสำหรับคนไทยในปี 2025 ที่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องเอกสารเดินทางและกฎระเบียบบางอย่าง

ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง

  • พาสปอร์ตต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
  • สำหรับท่องเที่ยวไม่เกิน 90 วัน สามารถใช้ K-ETA แทนวีซ่า
  • หากวางแผนเรียนหรือทำงาน ต้องยื่นวีซ่าประเภทที่เหมาะสมล่วงหน้า

วางแผนการเดินทางล่วงหน้า

  • จัดทำแผนที่เที่ยวและเส้นทาง
  • จองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้า
  • เตรียมสำรองแผนสำรองในกรณีฝนตกหรือการปิดสถานที่

เตรียมเงินและวิธีชำระเงิน

  • แลกเงินวอนบางส่วนล่วงหน้า
  • ใช้บัตรเครดิต/เดบิตที่รองรับต่างประเทศ
  • พก T-money card สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟและรถบัส

ตรวจสอบสภาพอากาศและเสื้อผ้า

  • เสื้อผ้าต้องเหมาะกับฤดูกาลและกิจกรรม
  • พกร่มหรือเสื้อกันฝน หากเดินทางช่วงฝนตก
  • รองเท้าและอุปกรณ์สบายต่อการเดินทางไกล

สุขภาพและยาส่วนตัว

  • ทำประกันการเดินทางครอบคลุมโรคและอุบัติเหตุ
  • เตรียมยาแก้ปวด, ยาแก้หวัด และเวชภัณฑ์พื้นฐาน
  • หากมีโรคประจำตัว ควรพกใบรับรองแพทย์และยาเพียงพอ

เตรียมการสื่อสารและแอปที่จำเป็น:

  • ดาวน์โหลดแอปแปลภาษา เช่น Papago หรือ Google Translate
  • ใช้แอปนำทาง เช่น Naver Map สำหรับเส้นทางรถสาธารณะ
  • จดเบอร์โทรฉุกเฉินและสถานทูตไทยประจำเกาหลี

ศึกษาเรื่องวัฒนธรรมและมารยาท

  • ควรเคารพการต่อคิวและวัฒนธรรมท้องถิ่น
  • การกล่าวขอบคุณจะช่วยสร้างความประทับใจ
  • หลีกเลี่ยงการทิ้งขยะไม่ถูกที่ และปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น

จัดกระเป๋าอย่างเหมาะสม

  • แบ่งสิ่งของจำเป็น เช่น เสื้อผ้า, ของใช้ส่วนตัว, อุปกรณ์ถ่ายรูป
  • ไม่ควรนำสิ่งของต้องห้าม เช่น ยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย
  • พกถุงหรือกระเป๋าเล็กสำหรับเดินเที่ยวในเมือง

เช็คความพร้อมก่อนวันเดินทาง

  • ตรวจสอบ K-ETA หรือวีซ่าล่วงหน้า
  • ตรวจสอบวันเวลาไฟลท์และเอกสารขึ้นเครื่อง
  • วางแผนเวลาไปสนามบินเผื่อการตรวจสอบเอกสาร

การเดินทางไปเกาหลีในปี 2025 ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากเพื่อนๆ เตรียมตัวอย่างครบถ้วนและเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ทั้งเรื่องวีซ่า, K-ETA, เอกสารที่ต้องใช้ และข้อควรรู้เกี่ยวกับการเดินทาง รวมถึงการวางแผนล่วงหน้า การตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง การวางแผนเส้นทางเที่ยว และการเตรียมตัวด้านการเงิน สุขภาพ และวัฒนธรรม จะช่วยให้ทริปของเพื่อนๆ สนุก ปลอดภัย และไม่มีสะดุด

บทความที่คุณอาจสนใจ
eSIM เกาหลี 2568: แนะนำ 5 แพ็กที่ดีที่สุด Unlimited & ติดตั้งง่าย
เดินทางสบายไม่สะดุดด้วย eSIM เกาหลี ปี 2568 รวม 5 แพ็กเกจยอดนิยม ทั้งแบบรายวันและ Unlimited ติดตั้งง่ายผ่าน QR Code ใช้งานได้ทันทีที่ถึงสนามบิน!
23 พฤศจิกายน 2025
30 ที่เที่ยวเกาหลีใต้ ยอดฮิต อัพเดทล่าสุด 2568
ค้นพบ 30 ที่เที่ยวในเกาหลีใต้ที่ไม่ควรพลาด ตั้งแต่โซลที่คึกคัก ไปจนถึงเชจูที่สวยงาม ซึ่งแต่ละแห่งจัดแสดงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และความงามตามธรรมชาติของเกาหลีใต้
21 สิงหาคม 2024
ปี 2568นี้ อยากไปเที่ยวเกาหลี ต้องใช้เงินเท่าไหร่
ปี 2568นี้ ถ้าเราอยากไปเที่ยวเกาหลีไต้ ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ก่อนไปเที่ยวเราต้องวางแผนให้ดี
29 มีนาคม 2024

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวีซ่าเกาหลี

  • ไปเกาหลียังต้องขอ K-eta ไหม

    ผู้ที่จะเดินทางที่มีอายุต่ำกว่า17ปีและมากก ว่า65ปี ต้องกรอก arrival card ก่อนเข้าประเทศเกาหลี3 วันก่อนเดินทางหรือ72ชม
  • วีซ่าท่องเที่ยวเกาหลี C-3-9 คืออะไร

    หนึ่งในประเภทของวีซ่าสำหรับคนที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวเกาหลี สำหรับคนไทยหากยื่นขอวีซ่าเกาหลีประเภทนี้จะสามารถท่องเที่ยวและพำนักอาศัยได้ไม่เกิน 90 วัน
  • วีซ่า E9 ของเกาหลีคืออะไร

    วีซ่าสำหรับแรงงานต่างชาติที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่งานวิชาชีพ
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที
>
วีซ่าเกาหลี