
การนั่งรถไฟความเร็วสูงในจีนถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนอยากลองสักครั้ง ทั้งสะดวก รวดเร็ว และพาเดินทางข้ามเมืองใหญ่ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนสับสนคือ “ตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีนมีหลายประเภท” ทั้งชั้นธุรกิจ ชั้นหนึ่ง และชั้นสอง — แล้วแบบไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด?
บทความนี้ Trip.com จะพาไปไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ ตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีน พร้อมแนะนำ ผังที่นั่ง การเปรียบเทียบแต่ละชั้น และวิธีจองออนไลน์ง่าย ๆ เพื่อให้คุณเลือกตั๋วได้ถูกใจและเดินทางได้อย่างสบายตลอดเส้นทางเที่ยวจีน!
ประเภทตั๋วรถไฟจีน

ตั๋วรถไฟในประเทศจีนแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก โดยแต่ละแบบเหมาะกับรูปแบบการเดินทางที่แตกต่างกัน ทั้งด้านความเร็ว ความสะดวก และงบประมาณ
ประเภทตั๋ว | รายละเอียด | เหมาะสำหรับ |
|---|---|---|
ตั๋วนอน (Sleeper Train) | สำหรับการเดินทางระยะไกลตอนกลางคืน มีให้เลือกทั้งแบบ ที่นอนแข็ง และ ที่นอนนุ่ม เพื่อให้ผู้โดยสารพักผ่อนได้ระหว่างทาง | ผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามเมืองยาว ๆ และอยากนอนพักบนรถไฟ |
ตั๋วด่วน (Express Train) | รถไฟความเร็วสูงระดับปานกลาง แบ่งเป็น ตั๋วด่วนธรรมดา และ ตั๋วด่วนพิเศษ ใช้เวลาน้อยกว่ารถไฟปกติ | ผู้ที่ต้องการเดินทางรวดเร็วในราคาสมเหตุสมผล |
ตั๋วโดยสารหรือรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Train Ticket) | เป็นรถไฟที่เร็วและทันสมัยที่สุดในจีน วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 350 กม./ชม. มีที่นั่งหลายระดับ เช่น ชั้นธุรกิจ ชั้นหนึ่ง และชั้นสอง | นักท่องเที่ยวและผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย รวดเร็ว และตรงเวลา |
💡 เคล็ดลับ:
- หากคุณต้องการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ หรือ กวางโจว–เสิ่นเจิ้น แนะนำเลือก ตั๋วรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Train) เพราะทั้งเร็วและตรงเวลา
- แต่ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศแบบคลาสสิกของการเดินทางในจีน “ตั๋วนอน” ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าลองค่ะ
ที่นั่งตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีน

รถไฟความเร็วสูงของจีนแบ่งที่นั่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- ที่นั่งชั้นธุรกิจ (Business Class): หรูหราที่สุด เบาะหนังปรับเอนได้ 180° มีพื้นที่ส่วนตัวและบริการอาหารในบางขบวน
- ที่นั่งชั้นหนึ่ง (First Class): สบายและเงียบ ที่นั่งแบบ 2+2 มีที่พักเท้า หมอน และปลั๊กไฟ
- ที่นั่งชั้นสอง (Second Class): ราคาคุ้มค่าที่สุด จัดที่นั่งแบบ 2+3 เหมาะกับการเดินทางทั่วไปในระยะสั้น
ผังที่นั่งรถไฟความเร็วสูงจีน
ผังที่นั่งของรถไฟความเร็วสูงจีนจะแตกต่างกันไปตามชั้นโดยสารและรุ่นของรถไฟ (G, D, หรือ C Train) แต่หลัก ๆ จะมีรูปแบบดังนี้:
ประเภทที่นั่ง | ผังที่นั่ง | ลักษณะโดยรวม |
|---|---|---|
ชั้นธุรกิจ (Business Class) | 1 + 2 | เบาะเดี่ยวและคู่ พื้นที่กว้างขวาง ปรับเอนได้เต็มที่ |
ชั้นหนึ่ง (First Class) | 2 + 2 | พื้นที่พอเหมาะ เงียบสงบ มีที่พักเท้าและโต๊ะส่วนตัว |
ชั้นสอง (Second Class) | 2 + 3 | ความจุมากที่สุด ราคาประหยัด เหมาะกับการเดินทางระยะสั้น |
💡 หากต้องการดูผังที่นั่งจริงของรถไฟแต่ละรุ่น สามารถตรวจสอบได้จาก เว็บไซต์ทางการของ China Railway ซึ่งมีรายละเอียดผังที่นั่ง ตารางเวลา และข้อมูลขบวนรถอัปเดตล่าสุด
ตัวอย่างที่นั่งรถไฟความเร็วสูงจีน
1. ที่นั่งชั้นธุรกิจบนรถไฟความเร็วสูงของจีน
ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ (Business Class) ถือเป็นระดับที่หรูหราและสะดวกสบายที่สุดบนรถไฟความเร็วสูงของจีน มีให้บริการในขบวน G, D และ C Train ซึ่งเป็นรถไฟรุ่นใหม่ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดและให้ประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียม

ภายในตู้โดยสารมีที่นั่งเพียงประมาณ 24–28 ที่นั่งเท่านั้น จัดเรียงแบบ 1 + 2 เพื่อให้ผู้โดยสารมีพื้นที่ส่วนตัวอย่างเต็มที่ เบาะหนังปรับเอนได้ถึง 180 องศา พร้อมฟังก์ชันหมุนได้ตามทิศทางการเดินทาง เสมือนนั่งบนเก้าอี้ในห้องรับรองสุดหรู

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ทีวีจอแบนส่วนตัว โต๊ะอาหาร พอร์ตชาร์จไฟ และไฟอ่านหนังสือ ให้คุณได้พักผ่อนหรือทำงานได้อย่างสบายตลอดการเดินทาง

2. ที่นั่งชั้นหนึ่งบนรถไฟความเร็วสูงของจีน
ที่นั่งชั้นหนึ่ง (First Class) เป็นระดับยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะให้ความสบายในราคาที่คุ้มค่า มีให้บริการบนรถไฟหัวกระสุนรุ่น G, C และ D ซึ่งเป็นขบวนที่วิ่งเร็วและทันสมัยที่สุดในประเทศจีน
ภายในตู้โดยสารจะจัดที่นั่งแบบ 2 + 2 ต่อแถว รวมทั้งหมด 4 ที่นั่งในหนึ่งแถว ที่นั่ง A และ F อยู่ริมหน้าต่าง ส่วน C และ D อยู่ริมทางเดิน ความกว้างของเบาะประมาณ 47 เซนติเมตร ให้พื้นที่วางขากว้างและเอนได้พอดีสำหรับการเดินทางระยะกลางถึงไกล

แต่ละที่นั่งมาพร้อม หมอนขนาดเล็กและที่พักเท้า ช่วยให้นั่งสบายขึ้นตลอดเส้นทาง พนักพิงสามารถปรับเอนได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับการพักผ่อนระหว่างการเดินทาง

นอกจากนี้ ยังมี ปลั๊กไฟสำหรับชาร์จอุปกรณ์ ใช้ร่วมกันในแต่ละแถว โดยจะอยู่ใต้เบาะหน้าของคุณ สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานหรือชาร์จโทรศัพท์ระหว่างทาง

3. ที่นั่งชั้นสองบนรถไฟความเร็วสูงของจีน
ที่นั่งชั้นสอง (Second Class) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะราคาประหยัดและมีให้บริการในแทบทุกขบวนของรถไฟความเร็วสูงจีน เหมาะกับนักเดินทางทั่วไปที่ต้องการความคุ้มค่าและสะดวกสบายในเวลาเดียวกัน

ภายในตู้โดยสารจะจัดที่นั่งแบบ 2 + 3 ต่อแถว โดยที่นั่ง A และ F อยู่ริมหน้าต่าง, B อยู่ตรงกลาง และ C กับ D อยู่ริมทางเดิน เบาะกว้างประมาณ 43 เซนติเมตร พนักพิงสามารถปรับเอนได้เล็กน้อยเพื่อความสบายในการเดินทางระยะสั้นถึงกลาง

แม้จะเป็นชั้นมาตรฐาน แต่ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน เช่น ปลั๊กไฟที่ใช้ร่วมกันในแต่ละแถว ซึ่งมักอยู่ใต้เบาะหน้าของคุณ เหมาะสำหรับการชาร์จโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตระหว่างทาง
ด้วยราคาที่เป็นมิตรและมีขบวนให้เลือกจำนวนมาก ที่นั่งชั้นสองจึงเป็นทางเลือกยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสรถไฟความเร็วสูงจีนแบบคุ้มค่าที่สุด

เปรียบเทียบที่นั่งชั้นหนึ่ง vs ชั้นสองในรถไฟความเร็วสูงจีน

หลายคนอาจลังเลว่าจะเลือกที่นั่งแบบไหนดีระหว่าง “ชั้นหนึ่ง” กับ “ชั้นสอง” เพราะราคาต่างกันไม่มาก แต่ความสบายและบรรยากาศระหว่างทางนั้นต่างกันพอสมควร ตารางนี้ Trip.com สรุปให้เห็นภาพชัด ๆ ว่าแต่ละแบบมีข้อดีอย่างไร เหมาะกับใครมากที่สุด
รายการเปรียบเทียบ | ชั้นหนึ่ง (First Class) | ชั้นสอง (Second Class) |
|---|---|---|
ผังที่นั่ง | 2 + 2 ที่นั่งต่อแถว | 2 + 3 ที่นั่งต่อแถว |
พื้นที่วางขา | กว้างขวาง เหยียดขาได้สบาย | ค่อนข้างจำกัด เหมาะกับการเดินทางระยะสั้น |
การเอนเบาะ | ปรับเอนได้มาก มีหมอนและที่พักเท้า | เอนได้เล็กน้อย ไม่มีที่พักเท้า |
ความเงียบและความเป็นส่วนตัว | เงียบกว่า มีผู้โดยสารน้อย | คึกคักกว่า เหมาะกับเดินทางเป็นกลุ่ม |
ปลั๊กไฟ | มีทุกแถว ใช้งานสะดวก | มีบางแถว ขึ้นอยู่กับขบวนรถไฟ |
บริการเสริม | มีโต๊ะส่วนตัว หมอน ผ้าห่ม ของว่างบางขบวน | มีโต๊ะพับติดพนักพิง ไม่มีของว่าง |
ช่วงราคา | แพงกว่าชั้นสองประมาณ 30–50% | ราคาประหยัดที่สุด คุ้มค่าสำหรับคนเดินทางบ่อย |
เหมาะสำหรับใคร | ผู้ที่ต้องการความสบายและความเงียบ | นักท่องเที่ยวทั่วไปหรือผู้ที่ต้องการประหยัดงบ |
💡 เคล็ดลับ:
- ถ้าเดินทางระยะไกล เช่น ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้ แนะนำเลือก ชั้นหนึ่ง จะรู้สึกคุ้มกับความสบายตลอดทาง
- แต่ถ้าเป็นเส้นทางสั้น ๆ เช่น เฉิงตู–ฉงชิ่ง หรือ กวางโจว–เซินเจิ้น ชั้นสองก็นั่งสบายและประหยัดกว่าเยอะเลยค่ะ!
เส้นทางรถไฟความเร็วสูงยอดนิยมในจีน
นอกจากจะเลือกที่นั่งให้เหมาะแล้ว การเลือกเส้นทางรถไฟก็เป็นอีกจุดสำคัญของการวางแผนเที่ยวจีน รถไฟความเร็วสูงของจีนครอบคลุมเมืองใหญ่เกือบทั่วประเทศ โดยมีเส้นทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบใช้มากที่สุด ได้แก่
- ปักกิ่ง – เซี่ยงไฮ้ (Beijing–Shanghai): เส้นทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ใช้เวลาเดินทางเพียง 4.5–6 ชั่วโมง เท่านั้น ระหว่างทางชมวิวเมืองและชนบทได้อย่างเพลิดเพลิน 👉 ดูรายละเอียดเส้นทางปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้
- กวางโจว – เซินเจิ้น (Guangzhou–Shenzhen): ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเดินทางระหว่างเมืองธุรกิจหลักทางตอนใต้
- เฉิงตู – ฉงชิ่ง (Chengdu–Chongqing): ระยะทางสั้นแต่เป็นเส้นทางวิวสวย ใช้เวลาเพียง 1.5 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่อยากลองนั่งรถไฟความเร็วสูงครั้งแรก
💡 เคล็ดลับ:
ถ้าวางแผนเที่ยวหลายเมืองในทริปเดียว เช่น ปักกิ่ง–เซี่ยงไฮ้–หางโจว ลองจองตั๋วล่วงหน้าผ่าน Trip.com ได้เลย ระบบจะคำนวณเส้นทางและเวลาเชื่อมต่อที่สะดวกที่สุดให้โดยอัตโนมัติ
คำถามที่พบบ่อย
รถไฟความเร็วสูงจีนมีกี่ประเภท และแตกต่างกันอย่างไร?
รถไฟความเร็วสูงจีนมี 3 ประเภทหลัก คือ G Train D Train และ C Train — โดย G Train เร็วที่สุด (สูงสุดถึง 350 กม./ชม.), D Train ใช้สำหรับเส้นทางยาวแต่ราคาย่อมเยา และ C Train วิ่งระยะสั้นระหว่างเมืองใกล้เคียงความแตกต่างระหว่างที่นั่งชั้นหนึ่งกับชั้นสองคืออะไร?
ชั้นหนึ่ง มีที่นั่งกว้างกว่า จัดแบบ 2+2 เงียบและเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วน ชั้นสอง จัดแบบ 2+3 ราคาถูกกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าและเดินทางระยะสั้นสามารถเลือกที่นั่งบนรถไฟความเร็วสูงจีนได้ไหม?
ได้ค่ะ! เมื่อจองผ่าน Trip.com สามารถเลือกที่นั่งได้ เช่น ริมหน้าต่างหรือริมทางเดิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของที่นั่งในขณะจองรถไฟความเร็วสูงจากเซี่ยงไฮ้ไปปักกิ่งใช้เวลากี่ชั่วโมง?
รถไฟความเร็วสูงเส้นทาง เซี่ยงไฮ้–ปักกิ่ง (Beijing–Shanghai) ใช้เวลาประมาณ 4.5–6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขบวนรถและประเภทตั๋ว โดยเป็นหนึ่งในเส้นทางยอดนิยมที่สุดของนักท่องเที่ยวในจีนควรซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงจีนล่วงหน้ากี่วัน?
แนะนำให้จองล่วงหน้า 7–15 วันก่อนเดินทาง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว เพราะตั๋วขายหมดเร็วมาก และราคามักจะดีกว่าการซื้อตอนใกล้วันเดินทาง



