เที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน 2 คืน : แผนเที่ยวฉบับสมบูรณ์ อัปเดต 2568

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน
เที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน 2 คืน แผนเที่ยวฉบับสมบูรณ์

จางเจียเจี้ย เมืองธรรมชาติสุดอลังการแห่งมณฑลหูหนาน ขึ้นชื่อเรื่องภูเขาหินทรายรูปทรงประหลาดจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ภาพยนตร์ Avatar ถ้ามีเวลามาเที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน 2 คืน ก็เที่ยวได้ตรงทุกไฮไลต์ บทความนี้จะช่วยวางแผนทริปให้คุณแบบละเอียด เดินทางง่าย เที่ยวคุ้ม พร้อมเคล็ดลับจองตั๋วและที่พักในปี 2568

ทำไมต้องไปจางเจียเจี้ย? สวรรค์บนดินแดนอวตารที่ต้องไปกับตาตัวเอง

จางเจียเจี้ยคือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามและแปลกตาที่สุดในโลกด้วยภูเขาหินทรายรูปแท่งสูงชะลูดนับพันยอด ลอยเด่นท่ามกลางสายหมอกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี ความยิ่งใหญ่ของที่นี่ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ฉาก ฮัลเลลูยาห์เมานืเทน ในภาพยนตร์ Avatar จนทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ต้องมาเห็นความสวยงามของธรรมชาติที่นี่สักครั้งในชีวิต

ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ - จางเจียเจี้ย
  • เที่ยวเดียว
  • ไป-กลับ

ราคาที่แสดงคำนวณจากราคาตั๋วในเส้นทางเดียวกันโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์บน Trip.com

ตั๋วเครื่องบินไปจางเจียเจี้ย

เตรียมตัวก่อนเดินทางไปจางเจียเจี้ย

ก่อนจะออกเดินทางสู่จางเจียเจี้ย นักท่องเที่ยวควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งเรื่องเอกสาร การเดินทาง และเทคโนโลยีที่จำเป็น เพราะจีนมีระบบการท่องเที่ยวที่แตกต่างจากประเทศอื่นเล็กน้อย

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

วีซ่าจีนและเอกสารที่จำเป็น

สำหรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2024 เป็นต้นมา ได้มีการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยว โดยสามารถเดินทางมาอยู่ที่จีนได้ไม่เกิน 30 วันต่อครั้ง และรวมแล้วไม่เกิน 90 วัน ในช่วง 180 วัน และเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียม ได้แก่

  • หนังสือเดินทางไทย อายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนก่อนเดินทาง
  • ตั๋วบินขาออกจากจีน
  • หลักฐานที่พักหรือแผนการเดินทาง
  • ประกันการเดินทาง

หากพำนักนานกว่า 30 วัน หรือมีการเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ เช่น ทำงาน, เรียนหนังสือ เป็นต้น จำเป็นต้องขอวีซ่าจีนประเภทเฉพาะจากสถานทูตจีนในไทยตามเงื่อนไข และจำเป็นต้องกรอกใบตม. เพื่อเข้าประเทศอยู่

เรื่องสำคัญ! ซิมการ์ด, VPN และแอปพลิเคชันที่ต้องมี

เมื่อเตรียมตัวเดินทางไปจางเจียเจี้ย การเตรียมเรื่องซิมการ์ด อินเทอร์เน็ต และการจ่ายเงินเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจีนกลายเป็นโลกไร้เงินสดไปแล้ว และระบบเน็ตก็ไม่เหมือนบ้านเรา

ซิมการ์ด & อินเทอร์เน็ต

แนะนำให้ซื้อซิมการ์ดจีน หรือ eSIM ล่วงหน้า หรือรับที่สนามบินจีนทันทีที่ลงจากเครื่อง เพราะบางพื้นที่ในยอดเขา อย่างอุทยาน สัญญานจะอ่อน หรือโรมมิ่งจากไทยอาจแพง 

VPN 

แอปอื่นๆ เช่น Google Maps, Facebook, Instagram, Gmail มักถูกจำกัดการเข้าถึงในจีน แนะนำให้ติดตั้ง VPN ก่อนเดินทางเข้าจีน เพราะบางบริการอาจถูกบล็อกเมื่อไปที่จีน นอกจากนี้แอปอื่นๆ เช่น Google Maps, Facebook, Instagram, Gmail มักถูกจำกัดการเข้าถึงในจีน 

แอปพลิเคชันจ่ายเงิน: Alipay & WeChat Pay

การใช้ชีวิตในจีน เนื่องจากเป็นสังคมไร้เงินสด ไม่ว่าจะซื้อข้าว ขึ้นแท็กซี่หรือซื้อตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว จะจ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก โดยเฉพาะ 2 แอปที่รู้จักกันดีคือ Alipay และ WeChat Pay ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้งานได้แล้วอย่างสะดวกกว่าที่เคย

Alipay

เป็นแอปจ่ายเงินที่ชาวจีนนิยม มีระบบ Tour Pass สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อนุญาตให้ผูกบัตรเครดิตหรือเดบิตจากต่างประเทศได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารจีน เมื่อเชื่อมบัตรเรียบร้อย คุณสามารถใช้ Alipay ได้เกือบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม แท็กซี่ หรือซุ้มขายของในอุทยานแห่งชาติ ง่ายๆ แค่เปิดแอป สแกน QR Code ของร้าน แล้วกดชำระเงินได้เลย

WeChat Pay

เป็นแอปที่อยู่ในแอป WeChat อีกที รองรับการผูกบัตรเครดิตต่างประเทศได้แล้วเช่นกัน โดยเฉพาะบัตรจากเครือข่าย Visa และ Mastercard การใช้งานคล้าย Alipay คือเปิดแอป สแกน QR Code กดยืนยัน แต่ความแตกต่างคือ WeChat Pay จะผูกอยู่ในบัญชีแชตเดียวกันกับเพื่อนหรือร้านค้า ทำให้บางครั้งใช้โอนเงินหรือแชตร้านค้าพร้อมกันได้สะดวกกว่า

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวจางเจียเจี้ย

Tianmen Mountain National Forest Park

ฤดู

ช่วงเวลา

อุณหภูมิ

ลักษณะอากาศ

กิจกรรมที่แนะนำ

ฤดูใบไม้ผลิ

มี.ค. - พ.ค.

เริ่มอุ่นขึ้น

หมอกเช้าค่อนข้างเยอะ

ถ่ายภาพภูเขา

ฤดูร้อน

มิ.ย. - ส.ค.

27-32°C

ฝนตกชุก โดยเฉพาะในมิ.ย.-ก.ค.

ชมวิวในตัวเมืองและยอดเขา

ฤดูใบไม้ร่วง

ก.ย. - ต.ค.

อุณหภูมิอ่อนลง

ท้องฟ้าค่อนข้างใส ฝนลดลง

เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว

ฤดูหนาว

พ.ย. - ก.พ.

ต่ำถึง 4°C

ยอดเขาอาจมีน้ำค้างแข็งหรือหิมะเล็กน้อย

ชมวิวหิมะและน้ำค้างแข็งบนยอดเขา

แนะนำให้หลบช่วงวันหยุดยาวจีน เพราะคนเยอะและราคาสูง เตรียมเสื้อผ้าแบบเลเยอร์ เพราะอุณหภูมิแตกต่างจากตัวเมืองถึงยอดเขา หรือเช็กพยากรณ์อาการล่วงหน้าก่อน เพื่อเตรียมเสื้อผ้าไปให้ถูกกับสภาพอากาศ

การเดินทางไปจางเจียเจี้ย

การเดินทางไปจางเจียเจี้ย อาจจะฟังดูไกลแต่จริงๆ แล้วไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เพราะปัจจุบันมีหลายเส้นทางให้เลือก โดยเส้นทางที่นิยมของนักท่องเที่ยวไทยคือการบินไปลงที่สนามบินฉางซาหวงฮวา (Changsha Huanghua International Airport: CSX) โดยใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งถึง 4 ชั่วโมง แล้วจากสนามบินเดินทางต่อ ให้ต่อรถไฟความเร็วสูงจากสถานี Changsha South Railway Station ไปยัง Zhangjiajie West Railway Station รถไฟขบวน G-หรือ D-train จะวิ่งทุกวัน และมีรอบถี่มาก โดยใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยราว 2 ชั่วโมงครึ่ง ถือเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในปัจจุบัน

การเดินทางภายในเมืองจางเจียเจี้ย

🚌รถบัสระหว่างเมือง

  • รถบัสวิ่งระหว่างตัวเมืองจางเจียเจี้ย สู่ อู่หลิงหยวนตลอดทั้งวัน 
  • มีรถออกทุก 15-20 นาทีจากสถานีขนส่งหลักของแต่ละฝั่ง 
  • ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-50 นาที 
  • ค่าโดยสารประมาณ 20-40 หยวน (ประมาณ 90-200 บาท )
  • ข้อดีคือสะอาด ปลอดภัย ประหยัดและได้ชมวิวภูเขาสวยระหว่างทาง

🚕แท็กซี่ในเมือง

  • เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น
  • ค่าโดยสารเริ่มต้น 6 หยวน (ประมาณ 25 บาท) แล้วคิดเพิ่มตามระยะทาง
  • คนขับส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง แนะนำให้เขียนชื่อโรงแรมเป็นภาษาจีนหรือเปิดแผนที่จากมือถือให้คนขับดู
  • จ่ายด้วยเงินสดหรือสแกน QR ผ่าน Alipay / WeChat Pay ได้ในบางคัน

🚗Didi Chuxing แอปเรียกรถยอดนิยมในจีน

  • แอปที่เหมือนกับ Grab ในไทย เป็นการเรียกรถในจีน ใช้งานง่าย มีภาษาอังกฤษให้เลือก
  • สามารถป้อนปลายทางเป็นภาษาจีนได้เลยในแอป ไม่ต้องสื่อสารหรือแจ้งกับคนขับ
  • ราคามักใกล้เคียงแท็กซี่ปกติ แต่สะดวกกว่า ไม่ต้องต่อรองราคา
  • ช่วงกลางคืนหรือในเขตภูเขาอาจมีรถน้อย ควรเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้า

🚐Shuttle Bus ภายในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

  • Shuttle Bus ให้บริการฟรี ซึ่งค่าโดยสารรวมอยู่กับค่าบัตรเข้าชมแล้ว
  • รถจะวิ่งวนระหว่างจุดท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเขาอวตาร, สะพานธรรมชาติ และลิฟต์ไป่หลง
  • สามารถขึ้น-ลงได้ตลอดทั้งวัน สะดวกมากสำหรับผู้ที่ไม่อยากเดินไกลๆ

แจกแผนเที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน 2 คืน

ถ้ามีเวลา 3 วัน 2 คืน แต่อยากเก็บครบทุกจุดสำคัญของจางเจียเจี้ย นี่คือแผนเที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน 2 คืนแบบละเอียด อ่านจบ เที่ยวได้เองโดยไม่ต้องพึ่งทัวร์เลย

วัน 

สถานที่หลัก

กิจกรรมไฮไลท์

หมายเหตุ

Day 1

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park) – โซนหยวนเจียเจี้ย & เขาเทียนจื่อซาน

นั่งลิฟต์ไป่หลง (Bailong Elevator) ชมวิว “ภูเขาอวตาร”, ขึ้นกระเช้า เทียนจื่อซาน, เดินชม Natural Bridge & Yuanjiajie Scenic Area

แนะนำพักโซนอู่หลิงหยวน (Wulingyuan) เพื่อสะดวกเข้าพาร์กวันถัดไป

Day 2

ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain)

นั่งเคเบิลคาร์ที่ยาวที่สุดในโลก – ชม “ประตูสวรรค์”, ทางเดินกระจกริมผา (Sky Walk), นั่งรถผ่านถนน 99 โค้ง Heaven-Linking Road

แนะนำพักในตัวเมืองจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie City) เพื่อเดินทางง่าย

Day 3

สะพานแก้วแกรนด์แคนยอน (Zhangjiajie Grand Canyon Glass Bridge) และย่านตัวเมือง

เดินบนสะพานแก้วที่ยาวและสูงที่สุดในโลก, ล่องเรือในแกรนด์แคนยอน, เดินเล่นช้อปปิ้งในเมืองหรือซื้อของฝาก

เหมาะปิดทริปก่อนเดินทางกลับสนามบินหรือสถานีรถไฟ

วันที่ 1 : ตะลุยอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (โซนหยวนเจียเจี้ย & เขาเทียนจื่อซาน)

ตะลุยอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

เริ่มต้นทริปวันแรกด้วยการเข้าอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์อันดับ 1 ของเมืองนี้ และเป็นสถานที่ต้นแบบของฉากในภาพยนตร์ Avatar ที่มีชื่อเสียงระดับโลก 

ช่วงเช้า

  • เดินทางจากที่พักในเขตอู่หลิงหยวนไปยังประตูทางเข้าอุทยาน
  • นั่งลิฟต์ไป่หลงลิฟต์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก สูง 326 เมตร ขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนของภูเขาหินทราย
  • เดินชมวิว “ภูเขาอวตาร” และทางเดินลอยฟ้าบนสันเขาในโซน หยวนเจียเจี้ย

ช่วงบ่าย

  • นั่งรถชัทเทิลของอุทยานต่อไปยัง เขาเทียนจื่อซาน จุดชมวิวสูงที่สุดของพื้นที่นี้ มองเห็นยอดเขานับร้อยเรียงรายในทะเลหมอก
  • ชม Natural Bridge of Zhangjiajie สะพานหินธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

วันที่ 2: พิชิตเขาเทียนเหมิน (ประตูสวรรค์) และทางเดินกระจกริมผา

พิชิตเขาเทียนเหมิน

วันที่สองย้ายมาเที่ยวฝั่งตัวเมืองจางเจียเจี้ย เพื่อขึ้น ภูเขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain) สัญลักษณ์ของเมือง และเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับฉายาว่าประตูสวรรค์

ช่วงเช้า

  • เริ่มจากสถานี Tianmen Mountain Cable Car Station ในตัวเมือง ซึ่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟและสนามบิน
  • นั่ง เคเบิลคาร์ยาว 7.5 กม. ที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขึ้นสู่ยอดเขา
  • เดินทางบน Sky Walk ทางเดินกระจกริมหน้าผาที่ความสูงกว่า 1,400 เมตร — จุดถ่ายรูปยอดฮิตของทุกคน

ช่วงบ่าย

  • นั่งรถบัสของอุทยานลงเส้นทาง 99 โค้ง Heaven-Linking Road ถนนสุดระทึกที่คดเคี้ยวสู่ช่องหินประตูสวรรค์
  • เดินขึ้นบันได 999 ขั้นเพื่อสัมผัสช่องเขาอันยิ่งใหญ่ด้วยตาตัวเอง
  • หากมีเวลาเหลือ สามารถแวะจุดชมวิว Glass Plank Road หรือจุดร่มรื่นบริเวณวัดบนยอดเขา

วันที่ 3: เดินวัดใจบนสะพานแก้วแกรนด์แคนยอน และเก็บตกในเมือง

เดินวัดใจบนสะพานแก้วแกรนด์แคนยอน

วันสุดท้ายของทริปปิดท้ายด้วยความระทึกและวิวสุดอลังการที่ Zhangjiajie Grand Canyon Glass Bridge สะพานแก้วยาวกว่า 430 เมตร สูง 300 เมตร พาดผ่านหุบเขายักษ์

ช่วงเช้า

  • เดินทางจากตัวเมืองไปแกรนด์แคนยอน ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีโดยรถบัสหรือ Didi
  • เดินข้ามสะพานแก้วแกรนด์แคนยอน ซึ่งได้รับการบันทึกว่าเป็นหนึ่งในสะพานแก้วที่ยาวและสูงที่สุดในโลก
  • ใต้สะพานมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติและน้ำตก สามารถล่องเรือในหุบเขาได้ (ใช้เวลา 1-2 ชม.)

ช่วงบ่าย

  • เดินทางกลับเข้าตัวเมืองจางเจียเจี้ย
  • แวะ ช้อปปิ้งของฝากท้องถิ่น เช่น ชาเขาหูหนาน ขนมอบ หรือเครื่องประดับหิน
  • หากเหลือเวลา สามารถเดินเล่นบริเวณ Zhangjiajie Downtown Pedestrian Street ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่

พักที่ไหนดีในจางเจียเจี้ย? แนะนำที่พักตามโซนและงบประมาณ

โซนอุทยาน (Wulingyuan): สะดวกต่อการเที่ยวอุทยาน

โซนอุทยาน (Wulingyuan) คือโซนที่พักยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพัก เนื่องจากใกล้ทางเข้าอุทยานและจุดชมวิวหลัก สามารถเดินเที่ยวได้ มีให้เลือกตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงหรูหรา มีบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติมากกว่าในเมือง

Hilton Garden Inn Zhangjiajie Wulingyuan

Hilton Garden Inn Zhangjiajie Wulingyuan

โรงแรมระดับ 4 ดาวในเครือ Hilton แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางย่าน Wulingyuan เป็นโซนใกล้อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยที่สุด เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องพักผ่อนในบรรยากาศสงบ แต่เดินทางสะดวก ห้องพักสไตล์โมเดิร์นอบอุ่น ขนาดกว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ภายในโรงแรมมีห้องอาหาร บาร์ และฟิตเนสให้บริการครบ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ต้องห่วง

Pullman Zhangjiajie

Pullman Zhangjiajie

โรงแรม Pullman Zhangjiajie เป็นแหล่งธรรมชาติระดับมรดกโลก และใกล้กับประตูทางเข้าจางเจียเจี้ย ทำให้เป็นทะเลทองสำหรับผู้ที่มาเที่ยวแบบดฟกัสธรรมชาติและภูเขาทรัสต์ ด้วยทำเลที่เดินได้จากแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ห้องพักถูกออกแบบอย่างหรูหราและทันสมัย มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งให้ลงคลายเหนื่อยหลังเดินเที่ยวมาทั้งวัน

โซนในเมืองจางเจียเจี้ย: ใกล้สนามบิน/สถานีรถไฟ หาของกินง่าย

ถ้าอยากได้ความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางเข้า-ออก เช่น ตอนเช้าขึ้นเขา หรือวันสุดท้ายก่อนกลับไทย โซนนี้จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

The Mansion Inn Dream Mansion Zhangjiajie

The Mansion Inn Dream Mansion Zhangjiajie

The Mansion Inn Dream Mansion ใกล้สถานีเคเบิลคาร์ขึ้นยอดเขาเทียนเหมินซานและสนามบิน ทำเลเดินทางสะดวก มองเห็นภูเขาและวิวธรรมชาติโดยรอบ ห้องพักสะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และบริการเป็นมิตร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักในเมือง เที่ยวง่าย หรือใช้คืนสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ

Homeinn Hotel (Zhangjiajie Tianmen Mountain Scenic Area Cableway Station)

Homeinn Hotel (Zhangjiajie Tianmen Mountain Scenic Area Cableway Station)

Homeinn Hotel (Zhangjiajie Tianmen Mountain Scenic Area Cableway Station) ห่างจาสถานีเคเบิคาร์ของเทียนเหมินซานเพียงประมาณ 7 นาทีที่เดินทางถึง ห้องพักมีหลายประเภท โรงแรมอาจไม่มีบิรการหรูหราระดับรีสอร์ต แต่เหมาะกับการพักผ่อนแบบง่ายๆ หลังการเที่ยวหนักมาทั้งวัน

กินอะไรดี? 10 เมนูเด็ดห้ามพลาดเมื่อมาเยือนจางเจียเจี้ย

จางเจียเจี้ย ไม่มีมีแค่ภูเขาหินทรายสุดอลังการ แต่ของกินท้องถิ่นก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้นักเดินทางหลายคนหลงรัก ขึ้นชื่อเรื่องอาหารรสจัดจ้าน เผ็ดร้อน และกลิ่นหอมเครื่องเทส ใครที่ชอบอาหารจีนสไตล์เข้มข้นรับรองถูกใจแน่นอน และนี่คือ 10 เมนูเด็ดที่ต้องลองเมื่อมาที่จางเจียเจี้ย

เมนูเด็ดห้ามพลาดเมื่อมาเยือนจางเจียเจี้ย

1. ปลาเผ็ดหูหนาน (Hunan Spicy Fish)

เมนูประจำถิ่นรสจัดจ้าน เนื้อปลานุ่มปรุงกับพริกหูหนานสดและกระเทียม รสเผ็ดแต่กลมกล่อม กินกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยจนต้องเบิ้ล

2. หมูสามชั้นผัดพริก (Mao Shi Hong Shao Rou)

เมนูโปรดของคนจีนทั้งประเทศ โดยเฉพาะในหูหนาน หมูสามชั้นเคี่ยวจนนุ่มเด้ง เคลือบด้วยซอสรสหวานเค็มเข้มข้น หอมกลิ่นซีอิ๊วและเครื่องเทศ

3. ผัดพริกหูหนานรวมมิตร (Duo Jiao Chao Rou)

จานนี้คนหูหนานแท้ ๆ ต้องกินทุกบ้าน ใช้หมูผัดกับพริกตำสด รสเผ็ดร้อนแบบดั้งเดิม ออกเค็มเล็กน้อยและกลิ่นหอมพริกสด

4. ซุปเห็ดภูเขา (Wild Mushroom Soup)

ของดีจากธรรมชาติแถบจางเจียเจี้ย เห็ดป่าหลากชนิดต้มกับน้ำซุปกระดูกหมู หอมหวานธรรมชาติ เหมาะกับอากาศเย็นบนภูเขา

5. ไก่ตุ๋นสมุนไพร (Herbal Chicken Soup)

เมนูสุขภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน ใช้ไก่บ้านตุ๋นกับสมุนไพรจีนอย่างเก๋ากี้ โสม และพุทราแดง กลิ่นหอมอ่อน ๆ รสละมุน

6. หม้อไฟหูหนาน (Hunan Hot Pot)

หม้อไฟสไตล์หูหนานจะต่างจากเสฉวนตรงที่ “เน้นรสพริกสดและน้ำซุปเผ็ดเปรี้ยว” ใส่เนื้อ ผัก เห็ด และเต้าหู้ คล้ายสุกี้แต่รสเข้มข้นกว่า

7. แตงกวาดองพริก (Pickled Cucumbe)

ของกินเล่นที่ทุกโต๊ะอาหารต้องมี รสเปรี้ยวเผ็ดสดชื่น กินแก้เลี่ยนได้ดีมาก เหมาะกับคนไม่ชอบรสจัดเกินไป

8. ปลาทอดแม่น้ำลี่ (Fried River Fish)

ปลาน้ำจืดตัวเล็ก ๆ จากแม่น้ำใกล้อุทยาน นำไปทอดจนกรอบแล้วโรยเกลือพริก เสิร์ฟร้อน ๆ เป็นของกินเล่นยอดฮิตตามตลาดกลางคืน

 9. เต้าหู้เหม็น (Stinky Tofu)

สตรีทฟู้ดที่ต้องลองอย่างน้อยครั้งหนึ่ง กลิ่นอาจแรงแต่รสอร่อยมาก! กรอบนอกนุ่มใน ราดน้ำซอสพริกหูหนานสูตรเฉพาะ

10. มันหวานย่าง & ขนมพื้นเมือง (Sweet Potato & Local Snacks)

ของกินเล่นตามตลาดเย็นรอบ ๆ เมืองจางเจียเจี้ย มันหวานย่างหอม ๆ หรือขนมแป้งข้าวเหนียวไส้ถั่วแดงก็เป็นที่นิยม

สรุปงบประมาณเที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน(ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

รายการ (Item)

งบประหยัด (บาท)

งบสบายๆ (บาท)

ที่พัก (2 คืน)

≈ 2,000 – 3,000 บาท

≈ 5,000 – 7,000 บาท

อาหาร (3 วัน)

≈ 1,500 – 2,000 บาท

≈ 3,000 – 4,500 บาท

ค่าขนส่งภายในเมือง

≈ 400 – 800 บาท

≈ 1,000 – 1,500 บาท

ค่าตั๋ว/เข้าสถานที่ท่องเที่ยว

≈ 1,200 – 1,800 บาท

≈ 2,500 – 4,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ของฝาก/เครื่องดื่ม/บ้าง)

≈ 500 – 1,000 บาท

≈ 1,500 – 2,000 บาท

รวมทั้งสิ้น (ประมาณ)

≈ 5,600 – 7,600 บาท

≈ 12,000 – 16,000 บาท

แบ่งปันประสบการณ์เที่ยวจางเจียเจี้ยของคุณ หรือทิ้งคำถามไว้ในคอมเมนต์ได้เลย!

เคล็ดลับเล็กๆ จากคนเคยไป

72 wonder tower

เที่ยวจางเจียเจี้ยครั้งแรกอาจรู้สึกเหมือนเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง แต่ถ้าเตรียมตัวดี การเที่ยวจะสนุกและสบายขึ้นมาก นี่คือทิปส์เล็กๆ จากคนที่เคยไปแล้วอยากบอกต่อ

1. เตรียมรองเท้าที่ใส่สบายที่สุด

เส้นทางในอุทยานเต็มไปด้วยบันไดและพื้นหินชื้น การใส่รองเท้ากันลื่นหรือรองเท้าผ้าใบที่กระชับเท้าจะช่วยได้เยอะ อย่าใช้รองเท้าแฟชั่นหรือรองเท้าแตะเด็ดขาด

2. อากาศเปลี่ยนไว พกร่มและเสื้อกันฝนเสมอ

บนยอดเขาอาจมีหมอกและฝนโปรยแม้วันที่ฟ้าใส เตรียมเสื้อกันฝนแบบบางและถุงพลาสติกกันน้ำไว้ใส่มือถือหรือกล้อง

3. เริ่มเที่ยวตั้งแต่เช้า

โดยเฉพาะจุดดังอย่างลิฟต์ไป่หลงหรือสะพานแก้ว ถ้าไปสายจะเจอคิวยาวมาก ควรออกจากที่พักประมาณ 7 โมงเช้าเพื่อขึ้นรอบแรก ๆ

4. เตรียมแอปจ่ายเงินไว้ล่วงหน้า

จีนแทบไม่รับเงินสดแล้ว ติดตั้ง Alipay หรือ WeChat Pay ก่อนเดินทาง และลองเทสต์การชำระเงินเล็ก ๆ เช่น ซื้อกาแฟหรือขนม เพื่อมั่นใจว่าใช้งานได้

5. อินเทอร์เน็ตและ VPN

หากต้องใช้ Google Maps หรือโซเชียลมีเดีย ให้ติดตั้ง VPN ล่วงหน้า แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังตามกฎหมายจีน ส่วนการสื่อสารทั่วไปใช้แอป WeChat แทนได้ดี

6. ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์

สัญญาณในอุทยานบางจุดขาดหาย การโหลดแผนที่ออฟไลน์ (เช่น Maps.me หรือ Apple Maps) จะช่วยมากเวลาเดินในเส้นทางชมวิว

7. ชิมอาหารท้องถิ่น แต่บอกไม่เผ็ดได้ ถ้าไม่ชอบรสจัด

อาหารหูหนานขึ้นชื่อเรื่องเผ็ดร้อน ก่อนสั่งบอกพนักงานว่า “不要辣” (ปู๋ เย่า ล่า) เพื่อให้ทำแบบไม่ใส่พริก

8. เตรียมบัตรประชาชนไทย + พาสปอร์ตไว้ใกล้ตัว

หลายจุดในจีนต้องสแกนรหัสพาสปอร์ตตอนซื้อตั๋วหรือเข้าสถานที่ การพกสำเนาไว้ในมือถือเผื่อไว้จะช่วยประหยัดเวลา

9. พก Power Bank และเมมโมรีสำรอง

วิวที่นี่ถ่ายรูปได้แทบทุกมุม แบตหมดเร็วแน่นอน โดยเฉพาะบนเขาที่หาปลั๊กยาก

10. อย่าพยายามเที่ยวทุกจุดในวันเดียว

จางเจียเจี้ยมีพื้นที่ใหญ่มาก การเร่งเที่ยวเกินไปจะทำให้เหนื่อยและพลาดบรรยากาศ ควรเลือกเส้นทางหลักแล้วใช้เวลาเต็มที่กับวิวสวย ๆ ดีกว่า

ถ้าอยากไปสัมผัสกับดินแดนมหัศจรรย์ ควรไปให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะที่นี่จะทำให้เราได้สัมผัสกับพลังของธรรมชาติอย่างแท้จริง ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่จะเต็มไปด้วยความประทับใจและความอลังการที่ภาพถ่ายไม่อาจถ่ายทอดได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางสายไหน จางเจียเจี้ยคือคำตอบที่ครบจบในที่เดียว และอย่าลืมวางแผนเที่ยวล่วงหน้าไปกับ Trip.com แล้วคุณจะไม่พลาดทุกเสต็ปการเดินทางที่จางเจียเจี้ยอย่างแน่นอน

บทความแนะนำ
ชี้เป้าของฝากจางเจียเจี้ยน่าซื้อ 2568|คู่มือและทริคซื้อของฝากฉบับสมบูรณ์
ค้นพบของฝากที่น่าซื้อในจางเจียเจี้ย พร้อมคู่มือและเคล็ดลับการเลือกซื้อของฝากที่สมบูรณ์แบบสำหรับปี 2568 ให้คุณได้ของฝากที่ถูกใจและคุ้มค่าที่สุด
17 เมษายน 2025
20 ที่เที่ยวจางเจียเจี้ย 2568 เมืองต้นแบบอวตาร ตะลุยแดนภูเขาลอยฟ้า สวยตะลึงเกินจินตนาการ
สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในจางเจียเจี้ย ทั้งภูมิทัศน์ที่งดงาม สะพานกระจก และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าหลงใหลในทุกมุมมอง
2 เมษายน 2025
10 อาหารจางเจียเจี้ยที่ต้องลอง 2568 ร้านเด็ดและเมนูห้ามพลาด
รีวิว 10 เมนูเด็ดและแนะนำ 3 ร้านอาหารดังในจางเจียเจี้ย พร้อมข้อมูลที่นักท่องเที่ยวต้องรู้ก่อนไปชิม
16 พฤศจิกายน 2025

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับจางเจียเจี้ย

  • เที่ยวจางเจียเจี้ยเดือนไหนดีที่สุด?

    ช่วงที่แนะนำที่สุดคือ เดือนเมษายน–มิถุนายน และ กันยายน–ตุลาคม เพราะอากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่ง เหมาะกับการชมวิวและถ่ายรูป
  • ไปจางเจียเจี้ยต้องใช้วีซ่าจีนไหม?

    นักท่องเที่ยวไทย ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าจีน สามารถเดินทางมาอยู่ที่จีนได้ไม่เกิน 30 วันต่อครั้ง และรวมแล้วไม่เกิน 90 วัน ในช่วง 180 วัน
  • ค่าเข้าอุทยานจางเจียเจี้ยและเขาเทียนเหมินราคาเท่าไหร่?

    • Zhangjiajie National Forest Park (อุทยานแห่งชาติ): ประมาณ ฿1,000–1,300 บาท (รวมรถชัทเทิลในอุทยาน ใช้ได้ 4 วัน)
    • Tianmen Mountain (เขาเทียนเหมิน): ประมาณ ฿1,200–1,500 บาท รวมค่าเคเบิลคาร์ขึ้น–ลง
    • Grand Canyon & Glass Bridge: ประมาณ ฿900–1,200 บาท
  • การเดินทางในจางเจียเจี้ยยากไหมถ้าพูดจีนไม่ได้?

    ไม่ยากเท่าที่คิด แต่ควรเตรียมตัวไว้ ดาวน์โหลดแอป Google Translate หรือ Pleco สำหรับแปลข้อความและรูปภาพภาษาจีน และใช้แอป Didi (คล้าย Grab) เพื่อเรียกแท็กซี่ สะดวกกว่าเจรจาภาษา
  • เที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วันพอไหม?

    ถ้าแพลนดีๆ 3 วันนี้ก็สามารถเที่ยวได้ครบทั้งหมดแล้ว
คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที
>
เที่ยวจางเจียเจี้ย 3 วัน