ม้าที่เหยียบหงส์บิน - พิพิธภัณฑ์จังหวัดกานซู

จักรพรรดิหลิวเจอร์ที่อายุใกล้ 30 ปี ได้ส่งจางเชียนที่อายุใกล้ 40 ปีไปเป็นทูตที่ภูมิภาคตะวันตก การเดินทางครั้งนี้ที่เจาะทะลุความว่างเปล่าได้เปิดเส้นทางสายไหม ผ่านความยากลำบากมากมาย ถูกชนเผ่าฮุนนูจับกุมไว้เป็นเวลานาน แต่สุดท้ายจางเชียนก็กลับมาถึงฉางอัน ในเวลานั้นข้างเคียงของเขาก็เริ่มหงอกแล้ว ตั้งแต่นั้นมา สายไหมได้มีอิทธิพลจนถึงทุกวันนี้ ทำให้มีการสื่อสารระหว่างกลางเอเชีย ตะวันตกเอเชีย โรมโบราณ อินเดีย พ่อค้าสุกตะที่ไม่กลัวความยากลำบากเดินทางกลางคืนและกลางวันเพื่อการค้า แค่เพื่อผ้าไหมที่ในสมัยนั้นถือเป็นสินค้าหรูหราในจักรวรรดิโรมัน ม้าทองสำริดที่ขุดพบจากหลุมฝังศพฮั่นที่เล่ยไท่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมการท่องเที่ยวของจีนที่แสดงต่อโลกมาเป็นเวลานาน ฝีมือการหล่อทองสำริดที่ประณีต ทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องชื่นชม ความยิ่งใหญ่ของกองทัพรถม้าทองสำริด ทำให้คนนึกถึงทหารและม้าทรงของจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้ พุทธศาสนาได้แพร่กระจายเข้ามาทางเส้นทางสายไหมและเข้าสู่แคว้นเฮซี มีการขุดสร้างถ้ำและสร้างวัดอย่างมากมาย มรดกทางวัฒนธรรมมนุษยชาติอย่างดุนหวง ที่มีอายุหลายพันปี ยังคงงดงามอย่างไม่มีใครเทียบได้ในทะเลทราย รอยยิ้มแห่งตะวันออก ถ้ำหินเมี่ยจีซานยังคงส่งผ่านความอบอุ่นและชีวิตชีวาที่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของผู้คน ผู้แปลพระไตรปิฎกที่ทำงานหนักตลอดคืนเพื่อการแปลและเผยแพร่พุทธศาสนา อิฐแกะสลักภาพ กระจกทองสำริด ม้วนโบราณ ผ้าไหม แผ่นทอง โอ่งสี ประติมากรรม รูปปั้น ผู้รับใช้ ศิลปะและวัฒนธรรมบนเส้นทางสายไหม บานสะพรั่ง ทำให้คนในยุคปัจจุบันรู้สึกชื่นชม 🇨🇳สัมผัสวัฒนธรรมห้าพันปีของจีน สืบทอดอารยธรรมจีน