วัดสุเซิงมีชื่อว่า วัดบัวใสดินสุริยเซิง และเนื่องจากเป็นวัดหลวงที่สร้างโดยพระเจ้าไทจิในตอนต้นหรือที่เรียกว่าวัดหลวง เป็นวัดกรุปายพุทธศาสนาในทิเบตที่มีชื่อเสียงที่สุดในภาคอีสาน ลึกลับที่สุดของวัดคืออาคารฮูฟา รูปปั้นมหากาฬที่เดิมประดิษฐานทองคําบริสุทธิ์ เป็นสมบัติของวัดในเมือง หายไปลึกลับในภายหลังของสาธารณรัฐจีน และกลายเป็นปริศนาที่ยังไม่แก้
วัดซื่อเซิงเพราะชาวแมนเชื่อในศาสนาลามะ ในปีนั้นเป็นวัดหลวงในราชวงศ์ชิงและเป็นวัดพุทธทิเบตที่หายากนอกทิเบต นอกจากนี้ยังมีวัดของชาวซีเบิร์กที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม แต่น่าเสียดายที่เนื่องจากการแพร่ระบาด ตลาดเหนือทั้งหมดยังหายากและการแสดงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็หยุด
ตั้งอยู่ในตลาดเหนือ ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีดอกไม้ไฟที่รุ่งเรืองในเมืองเสิ่นหยาง เมื่อมีงานเลี้ยงวัดทุกปี คนเยอะมาก แล้วมีขนมข้างถนนด้านนอกซึ่งควรค่าแก่การเยี่ยมชม
วัดซื่อเซิงเป็นวัดหลวงของเสิ่นหยางเว่ยยี่ ทุกปี ผู้คนจํานวนมากมาที่วัดซื่อเซิงเพื่อขอพร และเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเสิ่นหยาง ศาลเจ้าพ่อมีขนมจากทั่วประเทศให้นักท่องเที่ยว พร้อมการแสดงและสินค้าพิเศษต่างๆ ปีใหม่ไม่ต้องออกไปไหนไกล มาเที่ยวชมวัดหลวงเป็นทางเลือกที่ดี
[วิว] วัดเล็กๆ! ไม่เลว
วัดหลวงมีชื่อเต็มว่า วัดบัว สุทธิ สุทธิ เป็นที่ประดิษฐานของราชวงศ์ชิง ของราชวงศ์ชิง พระเจ้าไทจง สร้างขึ้น จึงเรียกอีกอย่างว่า วัดหลวง พระราชวังเป็นวัดพุทธศาสนาในทิเบตในแง่ของครอบครัว และรูปแบบสถาปัตยกรรมและระเบียบของศาสนาจีนได้ชัดเจน จารึกหินด้านหลังศาลเจ้าเต่ามีอักษรทั้งสี่ภาษา ภาษาจีน มองโกเลีย และพระโพธิสัตว์เวูที่ประดิษฐานอยู่ในวัดประตูภูเขาเป็นภาพพุทธศาสนาแบบฉบับของฮั่น พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์ที่ประดิษฐานในวัดอื่นๆ เป็นภาพพุทธศาสนาทิเบต วิหารตะวันตกและตะวันตก ศาสนาฮั่นโดยทั่วไปเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กัลลามและบรรพบุรุษ และในวัดหลวงเป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์สีขาวและสีเขียว เหล่านี้ค่อนข้างหายาก ปัจจุบันวัดหลวงได้รับการบูรณะใหม่ ภายในวัดมีกลิ่นหอม มีผู้ศรัทธาเคาะหน้าพระอุโบสถอย่างต่อเนื่อง ทั้งพระสงฆ์ พนักงาน และอาสาสมัคร (คน) ในวัดใจดีและสงบ