ภูฎาน..ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า...ถามว่าประเทศนี้ขายอะไร ทำไมใครๆถึงอยากไปเยือนกันนัก ถ้าถามเจ้ เจ้ว่า วิวทิวทัศน์.....สวยกว่าเมืองเอื่นๆไหม๊ เจ้ตอบเลยว่าไม่..... Highlight ของประเทศนี้คือ Tiger Nest ส่วนวัดว้งอื่นไม่ต่างกับประเทศอื่น (ไม่ใช่ว่าไม่สวย แต่สวยไม่ต่างกับที่อื่น) ....ถ้าให้เจ้บอกว่าประเทศนี้ ขายอะไร ตอบเลยว่า เค้าขายความสุข..บ้านเมืองเค้า เต็มไปด้วยความสุข เป็นประเทศยากจนแต่ดัชนีความสุขมากที่สุดในโลก..เมืองหลวงทิมพู เป็นเมืองหลวงที่ไม่มีไฟแดงเลยสักแห่ง (เจ้ไปตอนปี 2557) แต่เสียงแตรรถแทบไม่ได้ยิน...ผู้คนพูดคุยกันเบาๆ ไม่มีเอะอะโวยวาย การใช้รถใช้ถนนถ้อยทีถ้อยอาศัย ร้านรวงขายของก็หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ซื้อไม่หาไม่ว่าอะไร...การเดินถ่ายภาพผู้คนและวิถีชีวิต ก็สามารถถ่ายได้ ขออนุญาตสักนิดยิ้มให้สักหน่อย ถ่ายเสร็จเอาภาพให้ดู...ก็มีความสุขยิ้มได้...สถานที่สำคัญเกือบทุกที่ ข้างในห้ามถ่ายภาพ...ส่วนรอบนอกถ่ายได้....ภูฎาน จึงอาจไม่ใช่สวรรค์ของนักถ่ายภาพสาย Land(Scape) แต่จะเป็นสวรรค์สำหรับนักถ่ายภาพสาย Life ผู้ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตมากกว่าวิวทิวท้ศน์......จากใจ เจ้นกคนงามสามตำบล

วัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในพุดดัน ไม่มีใครเลย เป็นหนึ่งใน 10 Super Temples ของโลก วัดถ้ําเสือตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 3,000 ฟุต ท่ามกลางหุบเขาปาโร วัดถ้ําเสือสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1692 หลังเกิดไฟไหม้ วัดเสียหายอย่างรุนแรงและสร้างใหม่ในปี 1998 ปัจจุบันวัดถ้ําเสือได้ห้ามนักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าได้โดยที่ห้ามเข้าแม้แต่ผู้นับถือศาสนาก็ถูกจํากัดอย่างเคร่งครัด

มาเที่ยววัดถ้ําเสือ ต้องปีนยอดเขาสูงจากเซี่ยงไฮ้ 3100 เมตร เริ่มขึ้นจาก 2400 เมตร ไปมา 7 ชั่วโมง ทางขึ้นลงเขา สุดท้ายเห็นรูปปั้นนั่งของอาจารย์ถั่วลิสง ไม่ยากเกินไป น่าจดจําตลอดชีวิต

Paro Taktsang ตั้งอยู่บนหน้าผาในเทือกเขาหิมาลัย หรือที่เรียกว่ารังเสือ เป็นอารามทางพุทธศาสนาศักดิ์สิทธิ์ในภูฏาน อารามตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน มองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างอันตระการตาของหุบเขาปาโร เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของ Guru Rinpoche ซึ่งแนะนําพระพุทธศาสนาให้กับภูฏานในศตวรรษที่ 8 การเดินทางสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินป่าที่ท้าทายช่วยเพิ่มประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ คอมเพล็กซ์ประกอบด้วยวัดหลักสี่แห่งที่ประดับประดาด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีชีวิตชีวา ล้อสวดมนต์ และพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ รวบรวมความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมและศาสนาของภูฏานท่ามกลางความงามตามธรรมชาติที่น่าเกรงขาม

วัดถ้ําเสือ มีความสูงจากระดับน้ําทะเล 3120 เมตร ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงกว่า 900 เมตร อยู่ในหุบเขาพระพร้าว เป็นวัดพุทธที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในแดนฏาน วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522 ตํานานเล่าขานของชาวอินเดีย อาจารย์บัวหลวง ได้ปฏิบัติธรรมที่นี่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่บรรดาผู้ศรัทธาชาวพุทธทั้งปวงมาสักการะ เมื่อปี พ.ศ. 2512 วัดได้ประสบกับ ได้รับการบูรณะหลังจากไฟไหม้ครั้งที่สอง การขึ้นวัดถ้ําเสือ เป็นความฝันของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเที่ยวภูฏาน แต่แตกต่างจากวัดส่วนใหญ่ของโลกอย่างสิ้นเชิง นอกจากการเดินเท้าต่อไปจากภูเขา ไปสักการะวัดถ้ําเสือที่สง่างามแล้ว ยังไม่มีวิธีที่สอง แม้ว่านักท่องเที่ยวที่ร่างกายอ่อนแอเล็กน้อยก็สามารถขี่ได้ มาเด้งขึ้นจุดชมวิวที่สองแล้วเดินขึ้นเขา แต่ถนนดินขึ้นเขาสูงชันและคดเคี้ยว แม้แต่ม้าก็นั่งบนนั้นสั่นสะเทือน ความปลอดภัยเป็นกังวล หรือพฤติกรรมช้า น้ําพุบนภูเขาที่สูงตระหง่าน ข้างทางเดินป่าสูง ดอกไม้ หญ้า และสุนัขที่ไล่ตามเราขึ้นเขาทําให้เราลืม แต่ความยากลําบากในการปีนเขา เมื่อแสงแดดสูง เหงื่อออกเหมือนฝน หันไปรอบๆ ต้นไม้เขียวขจี ลมพัดผ่านหน้าทันที รู้สึกสดชื่น ทุกครั้งที่เห็นวัดถ้ําเสือใกล้กว่าเล็กน้อย ฉันตื่นเต้นมาก มาเลย! มาเลย! หน้าประตูเขาวัดถ้ําเสือ มีน้ําตกแขวนอยู่ น้ําใสราวกับหยาบ ไหลผ่านหินดํา แทรกตัวลงไปในบ่อน้ําลึก ตํานาน นี่คือลูกปัดที่อาจารย์ถั่วลิสงหล่น ความหมายของหัวใจ ตกจากใจ เทพเจ้ามีไม่กี่จุด เหมือนได้เข้าไปเยี่ยมชมวัดถ้ําเสือ มีกฎระเบียบที่เข้มงวด ไม่อนุญาตให้นํากล้องใดๆ มาด้วย โทรศัพท์มือถือ โดยไม่เว้นทั้ง อาคารวัดถ้ําเสือ สร้างขึ้นตามแนวเขา ประกอบด้วยพระอุโบสถหลักสี่หลัง และพื้นที่ใช้สอยของพระลามะ นอกจากจะได้ไหว้พระ ไกด์นําพาเราปีนเข้าไปในปากถ้ํามืด ทางบันไดไม้แคบลงถ้ําเสือ ที่นี่ประดิษฐานพระอาจารย์ถั่วลิสงและพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ว่ากันว่าอาจารย์ถั่วลิสงขี่เสือบิน หลังจากผ่านที่นี่แล้ว ไม่ได้นั่งสมาธิที่นี่ มีแต่ "ความสําเร็จในมอง" เดินขึ้นเขา ระยะทาง 7 ชั่วโมง เป็นการสอบทางกายภาพและความอดทน ขึ้นวัดถ้ําเสือ นักท่องเที่ยวแสดงความยินดีกันและกัน ยากมาก แต่สามารถปีนขึ้นไปที่หมู่บ้านใกล้ท้องฟ้าได้ วัด Yanfo ยังได้พึ่งพาชะตากรรมอันลึกซึ้งของพระพุทธเจ้า ครบสิบหลัก ความรู้สึกของความทรงจํา ภายใน 5 ภายใน ～

วัดถ้ําเสือ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สําคัญของภูฏาน ดูแลโดยทหาร ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในวัด ทางเข้าต้องวางสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีฟังก์ชั่นถ่ายรูป เช่น กล้อง กล้อง โทรศัพท์มือถือ ไว้ที่รักษาความปลอดภัย ภายในวัดมีพระสงฆ์คอยดูแลตามลําดับ ทางพระสงฆ์ออกไปจะปิดประตูวัด ถ้ามีผู้ศรัทธาและนักท่องเที่ยวมาต้องรอพระเปิด การเข้าวัดต่างๆ จะต้องถอดรองเท้าและเข้าไป ความเชื่อในประเทศของชาวภูฏานทั้งหมดทําพิธีบูชาห้าองค์ ไม่เพียงแต่บูชาพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ที่นั่งของพระพุทธเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกองค์ในวัดยังเป็นวัตถุในการสักการะ ประชาชนชาวภูฏานมีความเคารพต่อศาสนา

ตากสัง ซึ่งนิยมเรียกกันในชื่อรังเสือในภูฏาน อารามตากสังปาโรตั้งอยู่กลางหน้าหินสูงชันล้อมรอบด้วยพืชพรรณหนาทึบ ดอกโรโดเดนดรอนหลากสีบานสะพรั่งในป่ารอบอาราม