เจดีย์เยกราริส เป็นประภาคารอายุนับร้อยปีในอุสไวยา และเขายังเป็นประภาคารที่อยู่ทางใต้สุดของโลกอีกด้วย เรียกว่า ประภาคารปลายโลก แม้จะเป็นเพียงความหมายสัญลักษณ์แต่ต้องไปดูจุดสิ้นสุดของโลกด้วย
เจดีย์เยกราริสยังเป็นที่รู้จักกันในนามประภาคารแห่งโลก ที่เป็นประภาคารที่อยู่ทางใต้สุดของโลก ตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะที่โดดเดี่ยวมานานกว่า 100 ปี มีลักษณะบริสุทธิ์และเงียบสงบมาก สัญลักษณ์สําคัญมาก มาที่นี่เหมือนมาที่จุดสิ้นสุดของโลก
ประภาคารที่จุดสิ้นสุดของโลกเป็นสัญลักษณ์ของความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ซึ่งอาจจะหมายถึงความหมายของแลนด์มาร์ค ภายใต้เทคโนโลยีการแล่นเรือที่ทันสมัยประภาคารเป็นสัญญาณไฟได้สูญเสียความหมายของการทํางานแต่ค่อยๆกลายเป็นภาพวาดของอารมณ์ อ่าวใกล้ประภาคารเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่ไม่สามารถสัมผัสได้
วางอุสไวยาไว้ที่จุดสุดท้ายของอเมริกาใต้ เพราะแสงฤดูใบไม้ผลิสั่นสะเทือนและเดินที่นี่แล้วกลับไปไต้หวัน มีคนมาที่อุสไวยามีประภาคารบ้าง อุสไวยาเงียบสงบและสวยงามเหมือนสถานที่ที่หนาวเย็นทั้งหมด ทุกอย่างที่นี่สามารถนําไปสู่จุดสิ้นสุดของโลก ชื่อของร้านปูราชาแห่งปลายโลก ร้าน hard rock cafe ที่ปลายโลก ยังมีป้ายประภาคารลิมิเต็ดรุ่น ไม่แน่ใจว่าทิ้งความเสียใจและความเศร้าโศกไว้ที่ประภาคารไว้หรือเปล่า แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ตรงนั้น ทันใดนั้น ก็อยากกลับบ้าน
เมษายน 2016 ในที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุดของโลก ที่นี่เป็นประภาคารสุดท้ายทางใต้ของอเมริกาใต้ และอดีตคือ ทวีปแอนตาร์กติกา แตกต่างไปจากเดิม ณ ตอนนี้ฉันไม่อยากกลับบ้าน เช่นเดียวกับประภาคารแห่งนี้เป็นอิสระอย่างแท้จริง
ลักษณะของเจดีย์เยกราริสไม่ได้มีอะไรพิเศษทําให้มันโด่งดังเพราะเป็นประภาคารทางใต้สุดของโลกและสัญลักษณ์ที่สําคัญมาก ประภาคารบนเกาะที่โดดเดี่ยวสีแดงและสีขาวของหอคอยทําให้มันดูโดดเด่นเป็นพิเศษและภูเขาหิมะที่อยู่เบื้องหลังทําให้มันเป็นพื้นหลังที่ดีสําหรับการถ่ายภาพและดูรกร้าง
เรืออยู่ใกล้กับเรือและข้ามประภาคารที่ปลายเวลา ไกด์บนเรือเปิดแผนที่และแนะนําเป็นภาษาอังกฤษเป็นเวลานาน ไม่เป็นไรถ้าคุณไม่เข้าใจเลย เปิด Google Map กับท่าทางของไกด์นําเที่ยว บางทีเราอาจจะใกล้กับอาร์กติกใต้อย่างไม่จํากัด!