หอระฆังปางเป๊ะตั้งอยู่ติดกับโบสถ์กุหลาบ เดินจากสถานีรถไฟมาไม่ไกล หอระฆังสูง 80 เมตร เป็นตึกที่สูงที่สุดของเมืองปางเป๊ะจึงเรียกได้ว่าเป็นอาคารสัญลักษณ์ของเมืองโบราณปางเป๊ะ จากสถานีรถไฟอิตาลีของปางเป่ย ยืนอยู่ที่ประตูสถานีรถไฟ จะเห็นหอระฆังของโบสถ์กุหลาบที่อยู่ด้านข้างของถนนในแวบเดียว ด้านหน้าโบสถ์และหอนาฬิกาเป็นจตุรัสเล็กๆ มีน้ําพุและที่นั่ง เหมาะแก่การพักผ่อนของชาวปางเป๊ะ
ลงจากรถไฟที่สถานีปางเป่ย มาที่นี่จากเนเปิลส์ไปยังเมืองโบราณปางเป่ย ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะใส่ไม้เลื้อย ฉันวางแผนที่จะเข้าประตูอื่น แต่ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะนั่งรถ แต่ฉันก็ไปเยี่ยมชมโบสถ์กุหลาบปางเป๊ะ หอระฆังข้างๆ ก็มีความโดดเด่นมากเช่นกัน มีประติมากรรมกลางแจ้ง มีทางแยกด้านบน
เมืองปางเป่ย เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในภูมิภาคแคนเปญเนีย มุมตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรยาปิงหนิง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ โดย UNESCO นักท่องเที่ยวเรียกกันว่าที่นี่เป็น “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ” ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกนับหมื่นคนทุกวัน มาเยี่ยมชมที่นี่ การเดินทางไปยังถนนและตรอกของซากปรักหักพังของเมืองโบราณ เข้าและออกจากบ้านเรือนครึ่งพัง วิลล่า ตลาดการค้า ร้านค้า เบเกอรี่ โรงอาบน้ําพุร้อน โกดัง และโรงละคร Colosseum และสนามกีฬา ไม่เคยรู้สึกกระตือรือร้นและสับสน ปางเป่ยตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี มีแสงแดดเพียงพอตลอดทั้งปี อากาศอบอุ่น ไม่มีความหนาวเย็นในฤดูหนาว และไม่มีความร้อนในฤดูร้อน อากาศสดชื่นในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเยี่ยมชมปางเป่ย เมืองโบราณปางเป่ยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นภูเขาไฟถนนและบ้านเรือนที่เก็บไว้อย่างสมบูรณ์ของเวลาภูเขาไฟระเบิด เดินเข้าไปในเมืองโบราณปางเป่ยอดีตบ้านตลาดอาบน้ําและสถานที่ที่เป็นตัวแทนมากที่สุดของปางเป่ยเมืองที่เคยรวยมาแสดงต่อหน้าคุณ
หอนาฬิกาปางเบย์และโบสถ์แม่มารีปางเบย์รวมกันคิดว่าคล้ายกับโบสถ์อื่นๆ ในอิตาลี แต่พอเดินเข้าไปโบสถ์ก็ตกใจกับการตกแต่งด้านในและต้องขึ้นหอนาฬิกาเพราะจะเห็นวิวเมืองปางเป๊ะและภูเขาไฟวิสุเวียร์แบบพาโนรามา
แขกที่มาเที่ยวปางเป๊ะจะต้องมาเที่ยวชม ถ่ายรูป ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองโบราณและกลายเป็นแลนด์มาร์ค