ขนมสไตล์ฝรั่งเศสอยู่ "ที่นี่"

#dreamdestination ICI – ร้านขนมที่ซุกซ่อนอยู่ในซอยสุขุมวิท 27 นี้เป็นร้านในเครือของ restaurateur ชื่อดังคือคุณ Frederic Meyer โดยได้ฝีมือของ Pastry Chef ดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างเชฟเปเปอร์ - อริสรา จงพาณิชกุล มาดูแล จึงไม่น่าแปลกใจที่ร้านจะได้รับความสนใจทั้งจากคนทั่วไปและสื่อต่างๆอย่างมากมายค่ะ ****-Profile-**** เชฟเปเปอร์นั้นเรียนการทำขนมมาจาก Gastronomicom ที่ประเทศฝรั่งเศส เคยได้ทำงานที่ร้าน Sadaharu Aoki และ Hugo & Victor ในปารีส เป็นเชฟหญิงไทยคนแรกที่เข้าร่วมแข่งขัน Ladies World Pastry Championship ที่เมือง Rimini ประเทศอิตาลีจนได้รับตำแหน่ง “Pastry Queen” อีกทั้งยังได้สร้างสมชื่อเสียงในฐานะเชฟขนมหวานที่ร้าน Issaya la Patisserie และ Saawaan - ร้านอาหารสไตล์ Fine-dining ที่ได้รับ 1-Michelin Star เรื่องฝีมือจึงนับว่าเชื่อถือได้แน่นอน คำว่า ICI นั้นมาจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า “ที่นี่” โดยออกเสียงว่า “อีซี่” พ้องกับคำว่า “Easy” - มี Concept เป็นการสร้างพื้นที่ให้เชฟเปเปอร์แสดงความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระโดยไม่ถูกปิดกั้นด้วยธีมของร้าน ไม่บังคับว่าต้องใส่ “ความเป็นไทย” ลงในทุกเมนูอย่างที่อิษยาหรือ Sawaan ร้านนี้จึงมีความเป็นตัวตนของเชฟเปเปอร์อย่างเต็มที่ เป็นร้านขนมฝรั่งเศสที่เติมความสนุก ความน่ารัก และความครีเอทลงไป เป็นบ้านหลังเล็กๆอบอุ่นน่าสบายที่ทำขนมอบใหม่ๆเสิร์ฟให้ลูกค้าจานต่อจาน ในบรรยากาศกึ่งแกลอรี่ที่แสดงภาพล้อเลียนงานศิลปะชิ้นเอกของโลกได้อย่างมีอารมณ์ขัน ดูมีเสน่ห์น่าแวะไปมากๆ ****-เมนูที่ลอง-**** [Meringues] ทางร้านจะมีโหลใส่เมอแรงค์สารพัดรูปร่างและสีสันวางไว้ให้มาหยิบไปแต่งจานหรือทานเล่นๆกันได้ฟรีๆเลย เนื้อเมอแรงค์เบากรอบแต่ไม่กระด้าง เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็คต์ทีเดียวนะ [Macarons] Macarons ที่นี่ดูเผินๆจะคล้ายคลึงกับที่ Issaya La Patisserie แต่เพิ่มลูกเล่นโดยการทำไส้แบบ Double Fillings เพื่อให้ได้ texture 2 แบบในชิ้นเดียวกัน มี 9 รสชาติให้เลือก ราคาชิ้นละ 85 บาทเท่ากันทั้งหมด เราเลือกลอง 2 ชิ้นนี้ค่ะ • Salted Egg– เป็น Macaron ที่เนื้อดีมาก ผิวบางกรอบ ด้านในฟูละมุนละลายในปาก ไส้เป็นครีมไข่เค็มเนื้อเบา ตรงกลางมีชิ้นไข่เค็มคัดเฉพาะส่วนแกนกลางกรอบๆมันๆ ชิ้นนี้เสียดายนิดเดียวว่าความเค็มมากไปหน่อย รสชาติความเป็นไข่เค็มเข้มข้นจนไม่มีรสอื่น เลยเหมือนยังไม่สมดุลเท่าไหร่นะ • Peanut Butter - ชิ้นนี้ชิมแล้วเลิฟมากจนแอบกรีดร้องในใจว่าขอแบบนี้อีกซักโหลนึงได้มั๊ย แต่เพราะมื้อนี้ยังอีกยาวไกล ยังมีขนมน่าอร่อยที่รอให้ชิมอีกหลายอย่าง ก็เลยต้องเก็บอาการ (และพื้นที่ในกระเพาะ) กันไว้ซักนิด พูดถึง texture ของ Macaron นั้นดีงามไม่แพ้ชิ้นที่แล้ว เพิ่มเติมคือการจับคู่ความหอม-มัน ของ Peanut Butter Cream นุ่มๆ เข้ากับความหนุบหนับของเนยถั่วสูตร House made ของทางร้าน ตัดกับความกรอบกริ๊บเค็มมันของขนมปัง Crispy Pretzel ที่วางประดับด้านบนได้ลงตัวเป๊ะเลยล่ะ [Plated Desserts] • Starfish (ราคา 450 บาท) – จะเรียกว่าเป็น Signature Menu ของที่นี่ก็ได้สำหรับขนมหวานจานนี้ที่เชฟเปเปอร์บรรจงสรรค์สร้างขึ้นภายใต้ธีม “From Sea to Stars” เพื่อนำขึ้นเสิร์ฟในงาน Gala Dinner ของ Michelin 2019 และนำมาบรรจุไว้ในเมนูของร้านให้สั่งมาลองกันได้ง่ายๆ องค์ประกอบของเมนูนี้โดดเด่นด้วยขนมรูปปลาดาวสีเหลืองสดใสที่ขึ้นรูปด้วย Coffee-Vanilla Mascarpone Mousse สอดไส้ Pineapple Compote ที่ทำจากสับปะรดภูเก็ตไว้ตรงกลาง เบสเป็น Cashew Nut Praline กรุบกรอบ ตกแต่งรอบๆจานด้วย Crumble จากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และฟองโฟมนมที่ใส่รสขิงเบาๆ แต้ม Ginger Drops ไว้ทั่วๆ แล้วตัดรสด้วยความหอมหวานของ Coconut Rum Gel - เป็นการนำวัตถุดิบเด่นของทั้งภูเก็ต พังงา และ Nespresso สปอนเซอร์ของงานมาผสมผสานเข้าด้วยกันได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับธีมของงานมากเลยจริงๆ • Monsieur Religieux – ตั้งชื่อแบบนี้เพราะเมนูนี้มาจากขนม Religieuse ของฝรั่งเศสนั่นเอง แป้ง Choux Pastry 2 ชิ้นวางซ้อนกัน (ดูคล้าย Snowman) ไส้เป็น Vanilla Pastry Cream และ Caramel Cream เคลือบผิวนอกด้วย Butterscotch หอมๆเคี่ยวจนข้นกึ่งแข็งหนุบหนับ เพิ่มความน่ารักด้วยส่วนที่ดูคล้าย “หมวก” ซึ่งชิมแล้วคล้ายท็อฟฟี่รสช็อกโกแลต เข้ากันดีทีเดียว • Chocolate-Praline Tart - สำหรับคนชอบช็อกโกแลตแล้ว ขนมชิ้นนี้เป็นอะไรที่ต้องมาโดนจริงๆ เพราะมันช่างอัดแน่นไปด้วยความเป็นช็อกโกแลตทุกรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ Chocolate Tart กรอบๆที่มีไส้ข้างในเป็นหลายๆเลเยอร์ ทั้ง Chocolate Mousse, Chocolate Ganache, Hazelnut Praline, Flourless Chocolate Cake แถมด้านบนยังประดับด้วย Chocolate Macaron อีก 1 อัน ชิมแล้วได้กลิ่นรสช็อกโกแลตชั้นดีหอมกรุ่นเต็มคำ มีความซับซ้อนของ Texture ที่ทำให้ทานสนุกเพลินลิ้น ฟินไปยาวๆค่ะ • Exotic – หลายคนคงเคยเห็นเมนูข้าวเหนียวมะม่วงสุดครีเอทของ Issaya Siamese Club ที่สร้างความฮือฮากันมาแล้ว กับคราวนี้เชฟนำมาตีความในรูปแบบของ French Pastry บ้าง งานนี้จึงไม่มีข้าวเหนียว มีแต่แป้งพาย Coconut Sable ที่ผสมมะพร้าวลงไปจริงๆเป็นเบสของขนม ไส้ตรงกลางเป็น Mango Compote เปรี้ยวๆหวานๆ ห่อหุ้มด้วย Coconut Mousse ที่ได้รสกะทิมาชัดมาก แล้วหยอด Passion Fruit Gel เพิ่มความเปรี้ยวสดชื่นไว้ด้านบน เก๋ไก๋ดีทีเดียว แต่ต้องขอบอกตามตรงว่าเราชอบข้าวเหนียวมะม่วงของจริงมากกว่านะ • Thai Tea Opera - ชิ้นนี้เป็นการนำ Opera Cake มาดัดแปลง โดยเปลี่ยนจากรสช็อกโกแลตผสมกาแฟเป็นรสชาไทย ประกอบไปด้วย Biscuit Jacond, Thai Tea Buttercream, Thai Tea Ganache, Thai Tea Syrup และ Sable Viennoise สลับชั้นกันอยู่ เคลือบด้านบนด้วย Chocolate Glaze แล้ววางรูปตัวโน๊ตที่ทำจากเวเฟอร์ไส้ครีมรสชาไทยไว้ด้านบน ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่ากลิ่นหอมของชาไทยอัดแน่นจัดเต็ม มีความแตกต่างใน Texture ของแต่ละชั้นที่ทำให้ความอร่อยเพิ่มขึ้นอีก ปลื้มปริ่มมากมาย