เที่ยวจีน 2568: เตรียมอะไรบ้าง? ใช้เงินเท่าไหร่? เที่ยวด้วยตัวเองง่ายๆ

ปี 2568 นี้ “จีน” ยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวไทย เพราะทั้งใกล้ เดินทางสะดวก อาหารอร่อย และเต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวสุดอลังการที่รอให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง 🌏✨แต่ก่อนจะเก็บกระเป๋าออกเดินทาง หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า ต้องเตรียมอะไรบ้าง? ใช้เงินเท่าไหร่? แล้วตอนนี้เข้าจีนต้องทำยังไงบ้าง?

บทความนี้ Trip.com รวบรวมทุกคำตอบไว้ให้ครบ—ตั้งแต่วางแผนงบประมาณ จัดกระเป๋า ไปจนถึงวิธีจ่ายเงินในจีนปี 2568 แบบที่นักเดินทางใช้กันจริง ๆ พร้อมเคล็ดลับเด็ดและข้อมูลล่าสุดที่อ่านจบแล้วแพลนทริปได้ทันที! 🚄💸

ภาพรวมประเทศจีน: เตรียมตัวเที่ยวจีนปี 2568

ก่อนจะเริ่มแพ็กกระเป๋าไปสัมผัสแดนมังกร มาทำความเข้าใจภาพรวมกันก่อนค่ะว่าการเที่ยวจีนปี 2568 ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ทั้งเรื่องวีซ่า งบประมาณ วิธีจ่ายเงิน แอปที่ควรมี ไปจนถึงช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางที่สุด ตารางด้านล่างนี้ สรุปสิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนวางแผนเที่ยวจีน — ช่วยให้เห็นภาพรวมทั้งหมดในครั้งเดียว และเตรียมตัวได้ครบแบบไม่ตกหล่น ✈️✨

การเดินทางเข้าประเทศจีน ล่าสุด 2568

หลังจากจีนกลับมาเปิดประเทศเต็มรูปแบบ การเดินทางเข้า–ออกในปี 2568 ก็ง่ายและสะดวกกว่าที่เคย โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวไทย ที่ตอนนี้สามารถเข้าประเทศจีนได้แบบ ไม่ต้องขอวีซ่า แถมขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองก็รวดเร็วขึ้นมาก Trip.com จะพาคุณอัปเดตกฎล่าสุดของ การเดินทางเข้าประเทศจีน 2568 ทั้งเรื่องวีซ่า เอกสารที่ต้องเตรียม ข้อกำหนดสุขภาพ และสิ่งของที่ห้ามนำเข้า — อ่านจบเตรียมตัวได้ครบก่อนบินแน่นอน

1. ไทย–จีนยกเว้นวีซ่าแล้ว

ในปี 2568 คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้โดย ไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้น ตามข้อตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย–จีน ซึ่งอนุญาตให้พำนักในจีนได้ไม่เกิน 30 วันต่อครั้ง และรวมระยะเวลาพำนักทั้งหมด ไม่เกิน 90 วันภายใน 180 วัน อย่างไรก็ตาม หากต้องการอยู่เกินระยะที่กำหนด หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อทำงาน ศึกษา หรือทำธุรกิจ จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าตามปกติผ่านศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าจีนประจำกรุงเทพฯ

2. เอกสารที่ควรเตรียมก่อนเข้าประเทศ

แม้ไม่ต้องขอวีซ่า แต่ผู้เดินทางควรเตรียมเอกสารสำคัญไว้ให้พร้อม เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจีนอาจขอดูเพิ่มเติม เช่น พาสปอร์ตที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน, ตั๋วเครื่องบินขาออกจากจีนภายในระยะเวลาพำนัก, ใบจองโรงแรมหรือหลักฐานที่พัก, ประกันเดินทางต่างประเทศ และ หลักฐานการเงิน ที่แสดงว่ามีงบเพียงพอต่อการใช้จ่ายระหว่างอยู่ในประเทศ หากเคยยื่นวีซ่าจีนมาก่อน ยังได้รับสิทธิ์ ยกเว้นการพิมพ์ลายนิ้วมือชั่วคราวถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 สำหรับการยื่นวีซ่าระยะสั้นด้วย

3. ข้อกำหนดด้านสุขภาพ

ปัจจุบันจีน ยกเลิกข้อกำหนดการแสดงผลตรวจโควิด-19 และใบรับรองวัคซีนแล้ว นักท่องเที่ยวจากไทยไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม Health Declaration Form เหมือนในอดีต เว้นแต่มีอาการไข้หรือเจ็บป่วยในระหว่างเดินทางเท่านั้น สนามบินหลักอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว เปิดให้บริการผู้โดยสารต่างชาติเต็มรูปแบบโดยไม่มีการจำกัดเที่ยวบินหรือช่องทางเข้า–ออกอีกต่อไป ถือเป็นการกลับสู่ภาวะปกติเต็มรูปแบบของการเดินทางระหว่างสองประเทศ

4. ข้อควรรู้ด้านศุลกากรจีน

นักท่องเที่ยวควรหลีกเลี่ยงการนำ ของสด ผลไม้ เนื้อสัตว์ เมล็ดพืช และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เข้าประเทศ เนื่องจากถือเป็นของต้องห้ามตามกฎหมายศุลกากรจีน หากพกเงินสดต่างประเทศเกิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะต้องสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าประเทศ ส่วนของฝากหรือสินค้าที่นำกลับไทยสามารถนำออกได้โดยไม่เสียภาษี หากมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท

5. ขั้นตอนเข้าเมืองจีน

เมื่อถึงสนามบินในจีน ผู้โดยสารเพียงกรอกแบบฟอร์มเข้าเมือง (Arrival Card) หรือใช้ช่องทางอัตโนมัติ e-Gate จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนตรวจหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่อาจสอบถามเล็กน้อย เช่น จุดประสงค์การมาเยือน หรือที่พักที่จองไว้ เมื่อผ่านด่านตรวจเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถรับกระเป๋าและออกจากสนามบินได้เลย ปัจจุบันขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่นานและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะที่สนามบินหลักของปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้

สรุป: เดินทางเข้า “จีน” ปี 2568 ง่ายกว่าที่คิด

ตอนนี้ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการเดินทางไปจีน เพราะ ไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องตรวจโควิด และขั้นตอนเข้าเมืองง่ายขึ้นมาก เพียงเตรียมพาสปอร์ต ตั๋วขาออก ใบจองที่พัก และประกันเดินทางให้พร้อม ก็สามารถเที่ยวจีนได้แบบไร้กังวล อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากแหล่งทางการ เช่น NIA China ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อให้ทริปของคุณราบรื่นตั้งแต่สนามบินจนถึงจุดหมายปลายทาง

ไปจีนใช้เงินเท่าไหร่ 2568

💴 รู้จักสกุลเงินจีนก่อนเดินทาง

สกุลเงินที่ใช้ในประเทศจีนคือ หยวน (Yuan) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เหรินหมินปี้ (Renminbi) มีสัญลักษณ์ว่า ¥ และใช้รหัสสกุลเงินว่า CNY

ณ เดือนตุลาคม 2568 อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 CNY ≈ 4.56 บาทไทย (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา) ก่อนแลกเงิน แนะนำให้ตรวจสอบเรทจริงได้ที่👉 ธนาคารแห่งประเทศไทย – อัตราแลกเปลี่ยนรายวัน เพื่อให้ได้เรทที่คุ้มค่าที่สุด

💡 เคล็ดลับ: ร้านค้าหรือธนาคารในจีนส่วนใหญ่มักไม่รับเงินต่างประเทศโดยตรง ควรแลกเงินหรือใช้ e-wallet เช่น Alipay / WeChat Pay (สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถผูกบัตรเครดิต/เดบิตได้แล้ว)

💸 งบประมาณเที่ยวจีนต่อวันและต่อทริป

งบที่ต้องเตรียมขึ้นอยู่กับสไตล์การเที่ยวของแต่ละคน — จะเที่ยวแบบประหยัด เดินทางเองชิล ๆ หรือจัดเต็มสไตล์พรีเมียมก็ต่างกันไป ตารางด้านล่างคือภาพรวมค่าใช้จ่าย โดยประมาณในปี 2568

💡 ตัวอย่างงบรวมตามระยะเวลาเดินทาง:

• 4 วัน 3 คืน 👉 ประหยัด 6,000–8,000 บาท | กลาง 9,000–14,000 บาท | พรีเมียม 20,000+ บาท
• 5 วัน 4 คืน 👉 ประหยัด 8,000–10,000 บาท | กลาง 12,000–18,000 บาท | พรีเมียม 25,000+ บาท
• 6 วัน 5 คืน 👉 ประหยัด 10,000–12,000 บาท | กลาง 15,000–22,000 บาท | พรีเมียม 30,000+ บาท

🧭 สรุปสั้น ๆ สำหรับมือใหม่ไปจีน

• หากวางแผนดี เที่ยวจีนด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องใช้งบสูง — ทริป 5 วัน 4 คืน ประมาณหมื่นต้น ๆ ก็เที่ยวได้ครบทั้งกิน–เดินทาง–เข้าที่เที่ยว
• สำหรับใครที่อยากสบาย ๆ หรือพาครอบครัวไปเที่ยวหลายเมือง แนะนำเตรียมงบเผื่อไว้ประมาณ 15,000–20,000 บาทต่อคน

ไปเที่ยวจีน จ่ายเงินยังไง 2568 (Alipay / WeChat Pay สำหรับนักท่องเที่ยว)

ยุคนี้ไปเที่ยวจีนไม่ต้องพกเงินสดให้วุ่นเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถใช้ Alipay และ WeChat Pay ได้เหมือนคนจีนเลย เพียงดาวน์โหลดแอปและผูกบัตรเครดิตหรือเดบิตต่างประเทศ เช่น Visa, Mastercard หรือ AmEx ก็สามารถสแกน QR จ่ายได้ทุกที่ ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ รถไฟใต้ดิน ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ

ข้อดีคือใช้ง่าย ปลอดภัย และไม่ต้องคอยแลกเงินบ่อย ๆ ทุกการใช้จ่ายจะถูกแปลงเป็นเงินบาทอัตโนมัติ และสามารถเช็กยอดย้อนหลังในแอปได้ทันที แต่ในบางพื้นที่ เช่น เมืองเล็กหรือร้านท้องถิ่น อาจยังรับเฉพาะเงินสด แนะนำให้พกหยวนติดกระเป๋าไว้เล็กน้อย เผื่อจ่ายค่ารถหรือของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ

สำหรับใครที่อยากดูขั้นตอนสมัครและใช้งานอย่างละเอียด พร้อมภาพประกอบและเคล็ดลับการใช้งานจริง สามารถอ่านต่อได้ที่ 👉 ไปเที่ยวจีน จ่ายเงินยังไง 2568: วิธีสมัครและใช้งาน Alipay / WeChat Pay สำหรับนักท่องเที่ยว

ไปจีนต้องเตรียมอะไรบ้าง? (อัปเดตล่าสุด 2568)

ก่อนออกเดินทางไปจีน มาดูเช็กลิสต์ของที่ต้องเตรียมให้ครบกันก่อน จะได้เที่ยวสบายไม่สะดุด 🧳

✅เอกสารสำคัญ

• พาสปอร์ตที่มีอายุเหลือ อย่างน้อย 6 เดือน
• ตั๋วเครื่องบินไป–กลับ / ใบจองโรงแรม
• ประกันเดินทางที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ
• บัตรเครดิต / เดบิต สำหรับผูกกับ Alipay หรือ WeChat Pay

✅เงินและการชำระเงิน

• เตรียมเงินสดเล็กน้อย (300–500 หยวน) สำหรับร้านเล็กหรือแท็กซี่
• ดาวน์โหลด Alipay / WeChat Pay และผูกบัตรเครดิตก่อนเดินทาง
• เช็กเรทแลกเงินล่าสุดจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย

✅อินเทอร์เน็ตและการสื่อสาร

• ซื้อ eSIM จีน / ซิมโรมมิ่ง ล่วงหน้า
• ดาวน์โหลดแอปที่จำเป็น เช่น Google Translate, Trip.com, DiDi (เรียกรถ), AMaps
• บันทึกที่อยู่โรงแรมและสถานที่สำคัญเป็นภาษาจีนไว้ในมือถือ

✅เสื้อผ้าและอุปกรณ์เดินทาง

• เสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาล (ฤดูหนาวอากาศอาจติดลบในภาคเหนือ)
• พกเสื้อกันหนาว / หมวก / ถุงมือ หากไปฤดูหนาว
• รองเท้าสำหรับเดินเยอะ ๆ และร่มพับติดกระเป๋า

✅ปลั๊กไฟและแกดเจ็ต

• จีนใช้ปลั๊ก Type A, C และ I
• พกหัวแปลงปลั๊กสากล + สายชาร์จสำรอง
• พาวเวอร์แบงก์ (ตามขนาดที่สายการบินอนุญาต)

✅มารยาทและภาษา

• ศึกษาคำศัพท์พื้นฐาน เช่น “謝謝 (xièxiè)” = ขอบคุณ
• แต่งกายสุภาพเวลาไปวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
• หลีกเลี่ยงการพูดถึงหัวข้อการเมืองหรือเรื่องอ่อนไหว

ฤดูกาลและภูมิอากาศในจีน

สภาพภูมิอากาศของจีนมีความหลากหลายเนื่องจากมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่ และช่วงอุณหภูมิในภูมิภาคต่างๆ ก็แตกต่างกันไปเช่นกัน

อุณหภูมิสี่ฤดูกาลในประเทศจีน ภาพจาก Nature

สภาพอากาศแต่ละภูมิภาคของจีน และเสื้อผ้าที่ควรเตรียม

สภาพอากาศในแต่ละภูมิภาคของจีนมีความแตกต่างกันมาก ทั้งด้านอุณหภูมิและฤดูกาล จึงควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับช่วงเวลาและพื้นที่ที่เดินทางไป เพื่อให้เที่ยวได้สบายไม่หนาวหรือร้อนเกินไป โดยสรุปคำแนะนำทั่วไปมีดังนี้ค่ะ 👇

30 ที่เที่ยวสุดฮิตสําหรับทัวร์จีน

ภูมิภาคทางการของจีน ภาพจาก wikipedia

โดยปกติ เขตการปกครองของประเทศจีนจะแบ่งเป็น 6 ภูมิภาค ได้แก่ จีนภาคเหนือ จีนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จีนภาคตะวันออก จีนภาคกลางและใต้ จีนภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และ จีนภาคตะวันตกเฉียงใต้ แต่ละภูมิภาคก็มีเมืองท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มาดูรายละเอียดกันเลย

คำแนะนำสำหรับการเที่ยวจีน

ประเพณีและข้อห้ามของจีน

ประเทศจีนมีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรมและกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้แต่ละภูมิภาคมีประเพณีและข้อห้ามที่แตกต่างกันออกไป ก่อนเดินทาง ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจไม่เหมาะสม และแสดงความเคารพต่อเจ้าบ้าน ต่อไปนี้คือข้อควรรู้พื้นฐานที่นักท่องเที่ยวควรระวังไว้ก่อนเดินทางค่ะ 👇

1. เคารพผู้อาวุโส
   การให้ความเคารพต่อผู้ใหญ่ถือเป็นเรื่องสำคัญในวัฒนธรรมจีน ควรใช้คำเรียกที่สุภาพ เช่น ปู่ ย่า ลุง ป้า และมักมีธรรมเนียมโค้งคำนับหรือยิ้มทักทายเมื่อพบกัน
2. มารยาทในการให้ของขวัญ
   คนจีนมักมอบของขวัญในโอกาสสำคัญ เช่น ชา ผลไม้ หรือซองแดง แต่ควรหลีกเลี่ยงของบางอย่าง เช่น นาฬิกา เครื่องลายคราม หรือของมีคม เพราะถือว่าไม่เป็นมงคล
3. มารยาทบนโต๊ะอาหาร
   ระหว่างรับประทานอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก เรอ หรือเคี้ยวเสียงดัง ห้ามปักตะเกียบลงในชามข้าว และอย่าชี้ตะเกียบไปทางผู้อื่น เพราะถือว่าไม่สุภาพ
4. หลีกเลี่ยงหัวข้อการเมือง
   การพูดคุยเรื่องการเมืองหรือประเด็นอ่อนไหวเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในจีน เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ได้
5. ให้ความสำคัญกับเทศกาลประเพณี
   จีนมีเทศกาลสำคัญหลายช่วง เช่น เทศกาลตรุษจีน เทศกาลเชงเม้ง และเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งชาวจีนจะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองและรวมญาติกัน หากได้ร่วมกิจกรรมควรแต่งกายสุภาพและปฏิบัติตามธรรมเนียมท้องถิ่น
6. การแต่งกายให้เหมาะสม
   สไตล์การแต่งตัวของคนจีนต่างกันไปตามพื้นที่ เมืองใหญ่จะนิยมเสื้อผ้าสมัยใหม่ ส่วนกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ยังคงแต่งชุดประจำเผ่า หากไปวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรแต่งกายสุภาพและหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่เปิดเผยเกินไป
7. ความเชื่อทางศาสนา
   จีนมีศาสนาและความเชื่อที่หลากหลาย เช่น พุทธ เต๋า และอิสลาม ซึ่งแต่ละศาสนามีกฎและข้อห้ามเฉพาะตัว ควรให้ความเคารพและปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่นั้น ๆ

เกร็ดความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวในจีน

ระหว่างเดินทาง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อหมายเลขต่อไปนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

• 📞 เหตุด่วนเหตุร้าย: 110
• 🚑 เรียกรถพยาบาล: 120
• 🔥 แจ้งเหตุไฟไหม้: 119
• 📱 สอบถามหมายเลขโทรศัพท์: 114
• 🚗 แจ้งอุบัติเหตุจราจร: 122

💡 เคล็ดลับ: แนะนำให้บันทึกหมายเลขเหล่านี้ไว้ในโทรศัพท์ หรือพิมพ์เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทาง เผื่อใช้งานในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะหากคุณเดินทางไปเมืองรองที่ไม่ค่อยมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต

การให้ทิปในจีน

การให้ทิปไม่ใช่เรื่องปกติในวัฒนธรรมจีน โดยทั่วไปคนจีนมักจะ ไม่ให้ทิปพนักงานเสิร์ฟหรือพนักงานบริการ ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ด้วยการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่ขยายตัวมากขึ้น ร้านอาหาร โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์บางแห่งเริ่มมีการยอมรับธรรมเนียมการให้ทิปมากขึ้น

ต่อไปนี้คือสถานการณ์ที่อาจเหมาะกับการให้ทิปในจีน 👇

1. ร้านอาหารระดับไฮเอนด์
   ในร้านอาหารหรูหรือร้านอาหารนานาชาติบางแห่ง อาจมีธรรมเนียมการให้ทิป โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 10% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด แต่ไม่ถือว่าบังคับ คุณสามารถเลือกให้หรือไม่ให้ได้ตามระดับความพึงพอใจของบริการ
2. โรงแรม
   สำหรับโรงแรมระดับ 4–5 ดาว พนักงานบางตำแหน่ง เช่น พนักงานยกกระเป๋าหรือแม่บ้าน อาจคาดหวังทิปเล็กน้อยเพื่อเป็นน้ำใจ สามารถให้ประมาณ 10–30 หยวน ต่อครั้ง หรือขึ้นอยู่กับคุณภาพการบริการ
3. มัคคุเทศก์และพนักงานขับรถ
   หากใช้บริการทัวร์ส่วนตัวหรือกรุ๊ปทัวร์ การให้ทิปมัคคุเทศก์และคนขับถือเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับการดูแล สามารถให้ในอัตรา ประมาณ 50–100 หยวนต่อวัน (ขึ้นอยู่กับขนาดกรุ๊ปและความประทับใจของคุณ)

เที่ยวจีนปี 2568 ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดค่ะ แค่เตรียมเอกสารให้ครบ วางแผนงบประมาณล่วงหน้า และโหลดแอปจ่ายเงินอย่าง Alipay หรือ WeChat Pay ก็เที่ยวได้สบายเหมือนคนท้องถิ่น อย่าลืมแต่งกายให้เหมาะกับฤดูกาล และเรียนรู้มารยาทพื้นฐานเล็กน้อย เท่านี้ก็พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในแดนมังกรได้อย่างมั่นใจแล้ว