JR Pass: ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเดินทางในญี่ปุ่น

หากคุณเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น การเดินทางข้ามเมืองถือเป็นเรื่องปกติและตัวช่วยที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ คือ JR Pass (ย่อมาจาก Japan Rail Pass) ซึ่งเป็นบัตรเดินทางที่ใช้ได้หลายครั้ง ด้วยบัตรนี้ผู้โดยสารสามารถเดินทางด้วยรถไฟญี่ปุ่นได้ไม่จำกัดเที่ยวภายในระยะเวลาที่กำหนด

สำหรับมือใหม่ส่วนใหญ่ การเดินทางในญี่ปุ่นอาจดูยุ่งยากสับสนไม่น้อย เราจึงได้เตรียมคู่มือการเดินทางด้วย JR Pass ที่สรุปข้อมูลและเคล็ดลับที่คุณควรรู้ก่อนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมาไว้ให้แล้ว

ในญี่ปุ่น มีบริษัทรถไฟ JR หลักๆ อยู่ 6 บริษัท คือ JR-Hokkaido, JR-East, JR-Central, JR-West, JR-Shikoku และ JR-Kyushu นอกจาก JR Pass ที่ใช้ได้ทั่วประเทศแล้ว บริษัทรถไฟ 6 แห่งนี้ยังให้บริการ JR Pass เฉพาะภูมิภาคด้วย นักท่องเที่ยวสามารถใช้ JR Pass เพื่อโดยสารรถไฟ ชินคันเซ็น โมโนเรล รถบัส และเรือเฟอร์รี่ในพื้นที่ที่กำหนดได้ไม่จำกัดเที่ยวภายในระยะเวลาที่กำหนด

หลังจากวางแผนการเดินทางแล้วคุณสามารถซื้อ JR Pass ที่เหมาะสมกับเส้นทางการเดินทางเมืองและวันที่คุณจะไปเที่ยวเมื่อมาถึงญี่ปุ่นคุณสามารถเปิดใช้บัตร JR Pass และเดินทางด้วยพาหนะหลากหลายตามที่กล่าวไว้ข้างต้นได้ไม่จำกัดภายในช่วงเวลาที่บัตรกำหนดไว้

JR Pass เป็นวิธีที่ประหยัดและสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางระหว่าง JR สายต่างๆ รวมถึงรถไฟ รถบัสท้องถิ่น และเรือเฟอร์รี่ได้แบบไม่จำกัดเที่ยว JR Pass มี 2 ประเภทคือ Green Pass (ชั้นหนึ่ง) และ Standard Pass พาสแต่ละประเภทสามารถเลือกอายุการใช้งานได้ 3 แบบคือ 7, 14 และ 21 วัน

วิธีซื้อ JR Pass มีอยู่ 3 วิธีหลักๆ คือ

นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ JR Pass สำหรับภูมิภาคต่างๆ ผ่านบริษัทรถไฟ JR ทั้ง 6 แห่งในญี่ปุ่น

เมื่อมาถึงญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ JR Pass ได้ที่สถานีรถไฟ JR หรือจุดบริการนักท่องเที่ยว

ตัวแทนท่องเที่ยวท้องถิ่นหลายแห่งได้รับอนุญาตให้จำหน่าย JR Pass ด้วย นอกจากจะซื้อตั๋วผ่านตัวแทนท่องเที่ยวทั่วๆ ไปได้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ผ่าน Trip.com ได้ด้วย

ขอแนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนเดินทาง เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเวลารอคิวเมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่นแล้ว การซื้อตั๋ว JR Pass ผ่าน Trip.com ยังช่วยให้ได้ราคาที่ดีกว่าด้วย

แพลตฟอร์มของเรามีการแจกส่วนลดอยู่เป็นประจำ เผลอๆ คุณอาจได้ตั๋วราคาถูกที่สุดก็เป็นได้

JR Pass ให้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาญี่ปุ่น จึงใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีหนังสือเดินทางต่างประเทศและมาพักในญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยวระยะสั้นเท่านั้น JR Pass ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีถิ่นพำนักหรือทำงานอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

บัตร JR Pass ทุกใบต้องทำการเปิดใช้ที่ญี่ปุ่น ซึ่งทำได้โดยการนำเวาเชอร์ Japan Rail Pass ไปแลกเป็น JR Pass ตัวจริง คุณสามารถแลก JR Pass ได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วของสถานี JR ทุกแห่ง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือเคาน์เตอร์ JR ที่สนามบิน โดยต้องแสดงหนังสือเดินทาง เวาเชอร์ และกรอกแบบฟอร์มคำขอ

ควรใช้ JR Pass ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่แลก

JR Pass เริ่มนับอายุการใช้งานตั้งแต่วันแรกที่คุณเปิดใช้บัตร ดังนั้นคุณควรใช้ JR Pass อย่างต่อเนื่องเพื่อให้คุ้มค่าที่สุดก่อนที่บัตรจะหมดอายุ