โคลอสเซียม

มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก มีร่องรอยการซ่อมแซม และอยู่ระหว่างการซ่อมแซมหลายจุด สามารถซื้อตั๋วเข้าไปดูด้านในได้ด้วย นักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วโลก สามารถเดินไปบริเวณอื่น ๆ ของ Old Rome ได้เลย ไม่ไกลจากกัน มีมุมถ่ายรูปมากมาย แต่ต้องรอจังหวะเพราะคนเยอะ #Rome #Gladiator

โคลอสเซียมตั้งอยู่ในประเทศอิตาลิเป็นสนามกีฬาที่มีชื่อเสียงในกรุงโรม ในอดีตเคยเป็นสนามประลองของกลาดิเอเตอร์ คือการเอานักโทษมาประลองกับสัตว์ดุร้ายเสือ,สิงโตหรือวัวกะทิงและมีคุกอยู่ชั้นใต้ดินของโคลอสเซียมด้วยค่ะเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงโรมที่เราต้องไปเยี่ยมชมค่ะถ้ามีโอกาสไปอิตาลินะคะ

โคลอสเซียม (Colosseum) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นสนามกีฬากลางแจ้งโบราณขนาดใหญ่โตแอนด์มโหฬารที่สุดในสมัยโบราณ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโรม ที่นอกจากจะเคยเป็นสนามประลองอันทรงเกียรติที่โหดเหี้ยมแล้ว ยังได้รับการคัดเลือกจากองค์กร New 7 Wonders ให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย ที่นี่ก่อด้วยอิฐและหินขนาดใหญ่เป็นรูปทรงโค้งเป็นวงกลม สามารถจุคนได้ถึงประมาณ 80,000 คนเลยทีเดียว #รอวันออกเดินทาง

เมื่อคุณมาถึงสังเวียนสัตว์ป่าโรมันโบราณ มีสองสิ่งที่ไม่ควรคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา อย่างแรกคืออย่าคิดว่าเดินดูรอบๆ และชมกำแพงภายนอกของสังเวียนเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว ความจริงที่น่าสนใจอยู่ด้านใน อย่างที่สองคืออย่าคิดว่ามาที่สังเวียนสัตว์ป่าก็เพื่อดูสถานที่ท่องเที่ยวแห่งเดียว ในขณะที่จริงๆ แล้วนี่คือกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสังเวียนสัตว์ป่าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งยังรวมถึงจัตุรัสโรมันโบราณ ประตูชัยคอนสแตนติน และเนินเขาพาลาทีน นอกจากนี้ ห่างออกไปเพียงร้อยเมตรยังมีจัตุรัสเวนิสอีกด้วย. สังเวียนสัตว์ป่าโรมันโบราณไม่เพียงแต่สะท้อนถึงสาระสำคัญของศิลปะการสร้างสรรค์อาคารโบราณเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการแสดงออกของความโหดร้ายในยุคโบราณของอิตาลีที่มีเพียงขนมปังและการแข่งขันเป็นสิ่งบันเทิงหลัก ความเข้มแข็งทางศาสนาในยุคกลาง และความบ้าคลั่งในยุคใหม่ หากไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำความเข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงจากอดีตถึงปัจจุบัน คุณจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับมันที่ยังคงหยุดอยู่ที่ระดับความรู้สึกที่เลือนลางเท่านั้น

เดินทางไปอิตาลีในเดือนพฤศจิกายน, ผมได้รับความสุขที่โรมาอย่างไม่คาดคิด, นั่นคือการเดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ฟรี, เพราะวันอาทิตย์แรกของทุกเดือนคือวันที่พิพิธภัณฑ์ที่โรมาไม่คิดค่าเข้าชม, แม้ว่าจะต้องต่อคิวนานหนึ่งถึงสองชั่วโมงโดยไม่มีข้อยกเว้น, แต่หลังจากทั้งวันผมได้เยี่ยมชมสนามสู้สัตว์และวัดนักบุญเปโตรใหญ่ตามที่วางแผนไว้, และยังเพิ่มพิพิธภัณฑ์ Capitolio อีกหนึ่งแห่ง, ฉันคิดว่านี่คือการระเบิดของความโชคดี

เมื่อฉันย้อนกลับไปดูการเดินทางของฉันไปโรม ทุกอย่างในความทรงจำของฉันมันดี✨ โรมเป็นเมืองที่คุ้มค่าสำหรับการเดินเที่ยวในเมืองจริงๆ การเดินเที่ยวบนถนนโบราณที่ปูด้วยแผ่นหิน ซอกซอยขนาดเล็กในพื้นที่ Trastevere มีความเป็นศิลปะ การแสดงของศิลปินถนน หน้าต่างร้านขายของเก่าและร้านขายสินค้าชั้นนำ ทุกก้าวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ! ที่นี่ไม่ใช่เพียงเมืองที่มีประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นเมืองของศิลปะ ความวุ่นวายของโรมันส์ในอดีตในสนามสัตว์นำมาเป็นที่เงียบเงียบที่บอกเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของความยิ่งใหญ่ในอดีต ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Borghese ฉันได้ชมผลงานชิ้นเยี่ยมจากยุคศิลปะที่ฟื้นฟูมากมาย ทุกภาพวาด ทุกประติมากรรม ทั้งหมดเป็นการแปลความสวยงามที่ไม่ซ้ำกัน อาหารอิตาลีแบบโรมันยังเป็นจุดเด่นอีกหนึ่งในการเดินทางครั้งนี้✨เดินเข้าไปในร้านอาหารอิตาลีแบบดั้งเดิมในซอกซอยขนาดเล็ก คุณสามารถชิมพาสต้าและพิซซ่าอิตาลีแท้🍕ทุกคำที่เป็นการยกย่องรสชาติดั้งเดิม🫡กาแฟเอสเพรสโซและขนมหวาน ทำให้การเดินทางของฉันเพิ่มความสง่าและละเอียดอ่อน! โรมในเวลากลางคืนยังมีความดึงดูดที่แตกต่าง🌃นั่งที่ฟองน้ำ Trevi ฟังเสียงน้ำ มองดูประติมากรรมในความมืด และรู้สึกถึงความโรแมนติกและลึกลับของเมืองนี้

เมื่อเดินเข้าไปในโรมาโบราณ คุณจะเข้าใจได้ดีว่า 'โรมาไม่ได้สร้างขึ้นในหนึ่งวัน' อย่างเดียว การเดินเข้าไปในโรมาโบราณ คุณจะรู้สึกว่า 'โรมาก็ไม่ได้ถูกทำลายในหนึ่งวัน' โรมาในปัจจุบัน อาคารในเมืองยังคงความเป็นเอกลักษณ์เดิม ทางเดินทางส่วนใหญ่เป็นอาคารหินที่มี 5-6 ชั้น มุมบ้านที่ใหญ่ ถนนหินเล็กๆ ทั้งสองฝั่งยังมีรถยนต์ขนาดเล็กจอดอยู่อย่างต่อเนื่อง ที่เหมาะสมกับ Fiat ที่เล็กและเลี่ยงไปทั่วถนนเล็กๆ ในทางมีหน้าผากเอเชียนที่น้อยมาก ร้านค้าที่ไม่ใหญ่มีความรุนแรง ราคาที่ขายดูเหมือนจะเป็นมิตรกับประชาชน เมื่อวานนี้เดินทางผ่านเมืองเล็กๆ หลายส่วน มากกว่า 20,000 ก้าว วันนี้ต้องพักผ่อน เพราะพลังงานไม่สามารถติดตามได้

โคลเซียมโรมตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำทิเบอร์ในเมืองหลวงอิตาลี โรม และเป็นสัญลักษณ์ของโรมโบราณ โคลเซียมถูกสร้างในปีคริสต์ศักราช 72-79 โดยบังคับให้ 80,000 นักโทษยิวทำงาน ใช้เวลา 8 ปีในการสร้าง อาคารทั้งหมดมีพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร รอบวง 527 เมตร สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 90,000 คน มันถูกสร้างขึ้นหลังจากที่จักรวรรดิโรมประชาธิปไตยยึดเอราเซเลม ในการระลึกถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิเวสปาเซียน และมีอิทธิพลต่อการสร้างสนามกีฬาขนาดใหญ่ในปัจจุบัน